Call center ม ว ธ หลอกอย างไรจากรห สไลน

เทคโนโลยีสารสนเทศรองศาสตราจารย์ ดร. สขุ มุ เฉลยทรพั ย์ และคณะ คณะมนษุ ยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภัฏสวนดุสิต 2555

เทคโนโลยสี ารสนเทศ (Information Technology)รองศาสตราจารย์ ดร. สขุ ุม เฉลยทรพั ย์ และคณะ คณะมนษุ ยศาสตรแ์ ละสังคมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยราชภัฏสวนดสุ ติ 2555

คำนำ หนงั สือเทคโนโลยีสารสนเทศเลม่ น้ี เป็นการเขียนในลกั ษณะทีม่ ีข้อมูลประกอบเชิงทฤษฎีและปฏิบัติ ท่ีมุ่งเน้นให้ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจ ในเรื่องข้อมูล สารสนเทศ และเทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือประโยชน์ในการเรียนในสาขาวิชาต่างๆ โดยเน้นถึงการใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิตมีให้บริการ ซ่ึงหนังสือเล่มน้ีผู้เขียนได้จัดทาขึ้นเพ่ือใช้เป็นหนังสือประกอบการเรียนการสอนวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ รหัสวิชา 4000111 ซ่ึงเป็นวิชาหมวดการศึกษาทั่วไปของมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต นอกจากนั้นหนังสือเล่มน้ียังสามารถนาไปใช้เพ่ือการศึกษาคน้ ควา้ ในระดบั อุดมศกึ ษาของสถาบันอื่นๆ ได้อกี ดว้ ย เนื้อหาในหนังสือได้แบ่งออกเป็น 10 หัวเรื่อง ซึ่งประกอบด้วย บทนา เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีการสื่อสารข้อมูล อินเทอร์เน็ต เครือข่ายสังคมออนไลน์ ฐานข้อมูลและการสืบคน้ เทคโนโลยีการจัดการสารสนเทศและองค์ความรู้ กฎหมาย จริยธรรม และความปลอดภัยในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ การประยุกต์เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อชีวิต และแนวโน้มของเทคโนโลยีสารสนเทศในอนาคต ท่านที่นาหนังสือเล่มน้ีไปใช้ควรศึกษาเพ่ิมเติมจากเอกสารอ่ืนๆ ประกอบด้วย และหวังว่าหนังสือเล่มน้ีจะเป็นประโยชน์สาหรับนักศึกษาและผู้ท่ีสนใจ หากมีข้อบกพร่องประการใด ผู้เขียนขอน้อมรับไว้และจะพจิ ารณาแก้ไขปรับปรงุ ต่อไป คณะผจู้ ดั ทา 25 พฤษภาคม 2555

สารบัญ หนา้ (1)คานา (3)สารบัญ 1บทท่ี 1 บทนา 1 4 ความหมายและพัฒนาการทางเทคโนโลยีสารสนเทศ 10 องค์ประกอบของเทคโนโลยีสารสนเทศ 14 บทบาทและทักษะทางเทคโนโลยสี ารสนเทศในยคุ ส่ือใหม่ 15 ประโยชน์และความสาคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศ 18 ผลกระทบของเทคโนโลยีสารสนเทศ 21 แนวโนม้ การใชแ้ ละการบรกิ ารเทคโนโลยีสารสนเทศ 22 สรุป คาถามทบทวน 23 23บทที่ 2 เทคโนโลยคี อมพวิ เตอร์ 25 ความรู้พ้นื ฐานเกี่ยวกบั คอมพิวเตอร์ 32 ฮาร์ดแวร์คอมพวิ เตอร์ 35 ซอฟตแ์ วร์คอมพวิ เตอร์ 39 ประเภทของคอมพวิ เตอร์ 40 การเลือกซ้อื คอมพวิ เตอร์ 42 การบารุงรักษาคอมพิวเตอร์ 43 สรปุ คาถามทบทวน 45 45บทที่ 3 เทคโนโลยีการส่ือสารขอ้ มูล 47 ความรเู้ บอ้ื งต้นเก่ียวกบั ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ 49 รูปแบบการส่ือสารข้อมลู บนระบบเครือขา่ ย 50 ทิศทางของการส่ือสารขอ้ มูลบนระบบเครือขา่ ย 53 ประเภทของระบบเครือขา่ ยคอมพวิ เตอร์ 54 มาตรฐานระบบเครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอร์ 57 ระบบเครือข่ายไร้สาย 58 มาตรฐานของระบบเครอื ขา่ ยไร้สาย 59 เกณฑ์การวดั ประสิทธภิ าพของเครอื ข่าย การประยุกต์ใช้งานของระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์

(2) หนา้ 61 สารบญั (ตอ่ ) 65 66 การประยุกต์ใชง้ านระบบเครือขา่ ยภายในมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดสุ ติ สรุป 67 คาถามทบทวน 67 71บทที่ 4 อนิ เทอร์เน็ต 77 ประวัตคิ วามเปน็ มาและพัฒนาการของอนิ เทอร์เนต็ 80 หลกั การทางานของอินเทอรเ์ นต็ 83 การเชื่อมต่ออนิ เทอร์เน็ต 85 อินเทอรเ์ นต็ ความเรว็ สูง 86 การป้องกันภัยจากอนิ เทอร์เน็ต สรุป 87 คาถามทบทวน 87 91บทท่ี 5 เครอื ขา่ ยสังคมออนไลน์ 93 แนวคดิ เกี่ยวกับเครือข่ายสังคมออนไลน์ 103 ประเภทของเครือขา่ ยสังคมออนไลน์ 107 ผใู้ ห้และผใู้ ช้บริการเครือข่ายสงั คมออนไลน์ 108 เครือข่ายสงั คมออนไลน์กบั การประยุกต์ใชใ้ นชวี ิตประจาวนั 109 ผลกระทบของเครือขา่ ยสังคมออนไลน์ สรุป 111 คาถามทบทวน 111 115บทท่ี 6 ฐานขอ้ มูลและการสืบคน้ 123 ความรเู้ บือ้ งตน้ เก่ียวกับฐานข้อมูลและการสบื คน้ 125 ฐานขอ้ มูลอิเลก็ ทรอนกิ สเ์ พอื่ การสืบคน้ 131 เทคนคิ การสบื คน้ 132 การสบื ค้นสารสนเทศมัลตมิ ีเดีย 133 แนวโนม้ การสืบค้นในอนาคต สรุป คาถามทบทวน

(3) สารบัญ (ตอ่ ) หน้า 135บทท่ี 7 เทคโนโลยีการจดั การสารสนเทศและองคค์ วามรู้ 135 ความรู้เบ้ืองต้นเกย่ี วกบั ทม่ี าขององค์ความรู้ 140 ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งระบบสารสนเทศ 146 สถาปตั ยกรรมระบบการจัดการความรู้ 149 รูปแบบเทคโนโลยสี ารสนเทศกบั กระบวนการจัดการความรู้ 153 ประโยชนข์ องเทคโนโลยีสารสนเทศท่นี ามาใชใ้ นการจดั การความรู้ 157 สรุป 158 คาถามทบทวน 159บทท่ี 8 กฎหมาย จรยิ ธรรม และความปลอดภัยในการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ 159 กฎหมายทีเ่ กย่ี วข้องกบั เทคโนโลยีสารสนเทศ 166 จรยิ ธรรมในการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ 168 รูปแบบการกระทาผดิ ตามพระราชบญั ญัตวิ ่าดว้ ยการกระทาผิด เกย่ี วกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 171 การรกั ษาความปลอดภยั ในการใชง้ านเทคโนโลยีสารสนเทศ 174 แนวโน้มดา้ นความปลอดภยั ในอนาคต 177 สรปุ 178 คาถามทบทวน 179บทท่ี 9 การประยุกตเ์ ทคโนโลยสี ารสนเทศเพอื่ ชีวิต 179 การประยกุ ต์เทคโนโลยสี ารสนเทศกับการศกึ ษา 183 การประยกุ ต์เทคโนโลยสี ารสนเทศกับสังคม 187 การประยุกต์เทคโนโลยสี ารสนเทศกบั ธรุ กิจ 192 การประยุกตเ์ ทคโนโลยีสารสนเทศกับภาครัฐ 194 การประยกุ ตเ์ ทคโนโลยีสารสนเทศกบั งานบรกิ าร 196 เทคโนโลยสี ารสนเทศกับการสร้างนวตั กรรม 199 สรปุ 200 คาถามทบทวน

(4) สารบญั (ต่อ) หน้า 201บทท่ี 10 แนวโนม้ ของเทคโนโลยสี ารสนเทศในอนาคต 201 แนวโนม้ การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศในอนาคต 213 เทคโนโลยสี ารสนเทศกบั ความรบั ผิดชอบต่อสงั คมและส่งิ แวดลอ้ มในอนาคต 215 การปฏิรูปการทางานกบั การใช้ขา่ วสารบนฐานเทคโนโลยใี นอนาคต 218 การปฏบิ ัตติ นใหท้ นั ต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีสารสนเทศ 221 สรุป 222 คาถามทบทวน 223บรรณานุกรม

บทท่ี 1 บทนา รองศาสตราจารย์ ดร. สุขุม เฉลยทรพั ย์ ปัจจุบันความก฾าวหน฾าทางด฾านเทคโนโลยีสารสนเทศได฾พัฒนาอย฽างรวดเร็ว กอปรกับเทคโนโลยีสารสนเทศได฾สร฾างการเปลี่ยนแปลงในทุกระดับ ตั้งแต฽ระบบสังคม องค์การธุรกิจ และปัจเจกชน โดยเทคโนโลยีสารสนเทศกระตุ฾นให฾เกิดการปรับรูปแบบ ความสัมพันธ์ภายในสังคม การแข฽งขัน และความร฽วมมือทางธุรกิจ ตลอดจนกิจกรรมการดํารงชีวิตของบุคคลให฾แตกต฽างจากอดีตดังนั้นบุคคลทุกคนในฐานะสมาชิกของสังคมสารสนเทศ (information society) และเชื่อมโยงปฏิสัมพันธ์ติดต฽อสื่อสารกันด฾วยเครือข฽ายสังคมออนไลน์ (social network) สมาชิกของสังคมจําเป็นต฾องมีความรู฾ ทักษะ และความเข฾าใจถึงศักยภาพของเทคโนโลยีสารสนเทศ เพ่ือให฾สามารถดํารงชวี ิตและดําเนนิ กจิ กรรมตา฽ งๆ ได฾อย฽างมีประสทิ ธภิ าพความหมายและพฒั นาการทางเทคโนโลยีสารสนเทศ กอ฽ นทจี่ ะกลา฽ วถึงความหมายของเทคโนโลยสี ารสนเทศ จาํ เปน็ ต฾องทราบถงึ ความหมายของคาํ สองคาํ คือ สารสนเทศ (information) และข฾อมลู (data) ซึ่งมคี วามสัมพนั ธ์กัน กลา฽ วคอื ข้อมูล (data) หมายถึง เหตกุ ารณข์ อ฾ เท็จจริงต฽างๆ ที่มีอยู฽ในชีวิตประจําวัน ในรูปแบบต฽างๆหรือข฾อเท็จจริงท่ีเกิดข้ึนที่เกี่ยวข฾องกับการปฏิบัติการ เช฽น ตัวเลข ตัวอักษร ภาพ เสียง และภาพเคล่อื นไหว เปน็ ต฾น แต฽ข฾อมูลเหล฽าน้ียังไมส฽ ามารถนาํ ไปใช฾ใหเ฾ กิดประโยชน์ได฾ทันที สารสนเทศ (information) หมายถึง ผลลัพธ์อันเกิดจากการนําเอาข฾อมูลที่เก็บรวบรวมมาผา฽ นการประมวลผล วิเคราะห์ สรุป จนสามารถนําไปใช฾ประโยชนไ์ ด฾ ในความสัมพันธร์ ะหว฽างข฾อมลู และสารสนเทศน้ัน สารสนเทศเกิดจากการนําข฾อมูลมาประมวลผล และจะได฾สารสนเทศท่ีสามารถนําไปใช฾ประโยชน์หรือเผยแพร฽ ดังน้ันความสัมพันธ์ระหว฽างข฾อมลู และสารสนเทศจึงมีความสมั พันธ์ดงั แผนภาพข้อมูล ประมวลผล สารสนเทศ ภาพท่ี 1.1 ความสมั พันธ์ระหว฽างขอ฾ มลู และสารสนเทศ

2 1. ความหมายของเทคโนโลยสี ารสนเทศ เทคโนโลยีสารสนเทศมีกําเนิดจากคําสองคําคือ เทคโนโลยี และคําว฽า สารสนเทศซ่ึงทราบความหมายแล฾วข฾างต฾น ส฽วนคําว฽า “เทคโนโลยี” หมายถึง ประดิษฐกรรม (innovate) ที่มีความสัมพันธ์กับการผลิต การประมวลผล และการจําแนกแจกจ฽ายสารสนเทศไปยังผ฾ูใช฾ ตัวอย฽างเทคโนโลยีสารสนเทศได฾แก฽ โทรคมนาคมและวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ เป็นต฾น เมื่อรวมกันระหว฽างเทคโนโลยี และสารสนเทศ กก็ ลายเปน็ เทคโนโลยสี ารสนเทศ คําว฽าเทคโนโลยีสารสนเทศ เรียกส้ันๆ ว฽า IT มาจากคําว฽า Information Technologyตอ฽ มามคี าํ วา฽ ICT เรม่ิ นาํ มาใช฾โดยคณะกรรมาธิการการศึกษาของรัฐสภาอังกฤษ เน่ืองจากเห็นว฽าการใช฾คําว฽า IT หรือ เทคโนโลยีสารสนเทศ ยังขาดความชัดเจน ควรเพ่ิมคําว฽า Communication เข฾าไปด฾วย ต฽อจากนั้นมาทางองค์การศึกษาวิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห฽งสหประชาชาติ หรือยูเนสโก(United Nations Educational, Scientific and Cultural Organization: UNESCO) จงึ เร่ิมใชต฾ ามและแพร฽หลายไปทวั่ โลก แต฽ความหมายของคาํ วา฽ ICT และ IT ไม฽มีความแตกต฽างกันแต฽ประการใด จึงกล฽าววา฽ “เทคโนโลยสี ารสนเทศ” และ เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสาร” เป็นคาที่ใช้ทดแทนกันได้ ซ่ึงหมายถึง เทคโนโลยีสองสาขาหลักที่ประกอบด฾วยเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสื่อสารโทรคมนาคมท่ผี นวกเขา฾ ดว฾ ยกัน เพือ่ ใช฾ในกระบวนการสรา฾ งสรรค์ จดั หา จดั เกบ็ คน฾ คืน จัดการถ฽ายทอดและเผยแพร฽ข฾อมูลในรูปดิจิทัล (Digital Data) ไม฽ว฽าจะเป็นเสียง ภาพ ภาพเคล่ือนไหวข฾อความหรือตัวอักษร และตัวเลข เพ่ือเพิ่มประสิทธิภาพ ความถูกต฾อง ความแม฽นยํา และความรวดเรว็ ให฾ทันตอ฽ การนาํ ไปใช฾ประโยชน์ (สุขมุ เฉลยทรัพย์ และคณะ, 2551, หน฾า 6) 2. พฒั นาการทางเทคโนโลยีสารสนเทศ พัฒนาการด฾านเทคโนโลยีสารสนเทศในอดีตได฾แบ฽งแยกกันอย฽างชัดเจน ท้ังในด฾านการประมวลผล คือ คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีด฾านการสื่อสารโทรคมนาคม มีการพัฒนามาเป็นเวลานานและมีความก฾าวหน฾าอย฽างรวดเร็วตั้งแต฽ยุคอนาลอกมาสู฽ยุคดิจิทัลในปัจจุบัน จนมาถึงเทคโนโลยีท้ังสองแกนหลักท่ีรวมตัวกันจนแยกไม฽ออก กลายเป็นเทคโนโลยีสารสนเทศที่เป็นทั้งคอมพิวเตอร์และการสื่อสารดังมีรายละเอียดต฽อไปน้ี (Williams, 1999, pp. 4-8 อ฾างถึงใน ฐิติยาเนตรวงษ,์ 2552, หนา฾ 4-15) 2.1 พัฒนาการทางคอมพิวเตอร์ สามารถแบ฽งวิวัฒนาการโดยยึดการประมวลผลเป็นหลักได฾ 7 ชว฽ งดงั นี้ ช฽วงท่ี 1 ปี ค.ศ. 1621 – 1842 ในยุคน้ีได฾มีการประดิษฐ์เคร่ืองคํานวณทางกลโดยปาสคาล (pascal) เครื่องคํานวณท่ีเรียก สไลด์ รูล (Slide rule) โดยเอ็ดมันด์ กันเทอร์ (EdmundGunther) และเคร่ืองคาํ นวณทางกลอตั โนมตั ิ ช฽วงที่ 2 ปี ค.ศ. 1843 – 1962 ในยุคนี้เกิดนักโปรแกรมเมอร์คนแรกของโลกคือAda Lovelace มีการใชเ฾ ครอื่ งมืออิเล็กทรอนิกส์ในการประมวลผลข฾อมูลเรียกว฽า punch card มีการประดิษฐ์คิดค฾นเครื่องมืออัตโนมัติท่ีใช฾งานร฽วมกับ punch card คือ Hollerith’s automaticนักวิทยาศาสตรท์ ้งั หลายต฽างคดิ ค฾นทฤษฎีต฽างๆ เพ่อื ประดษิ ฐ์เคร่ืองคาํ นวณที่เรียกว฽า คอมพิวเตอร์ จน

3สามารถประดิษฐ์เครื่องคอมพิวเตอร์เคร่ืองแรกของโลกได฾คือ Mark I และพัฒนาเป็นเครื่อง ENIACและ UNIVAC ตามลาํ ดับ ช฽วงที่ 3 ปี ค.ศ. 1963-1969 มีการคิดค฾นภาษา BASIC สําหรับการเขียนโปรแกรมเพ่ือใช฾แทนภาษาเคร่ืองที่เข฾าใจยากและต฾องใช฾ผ฾ูเชี่ยวชาญ ต฽อมาบริษัท IBM ประดิษฐ์และพัฒนาเครอ่ื งคอมพิวเตอรใ์ หม฾ ขี นาดเล็กลงเป็นเคร่ืองคอมพิวเตอร์ IBM360 มีการประดิษฐ์เคร่ืองคิดเลขท่ีมีขนาดเล็กแบบมือถือ และในยุคน้ีเกิดเครือข฽าย ARPANet ซึ่งถือว฽าเป็นเครือข฽ายแรกของโลกเป็นตน฾ แบบของเครือข฽ายอนิ เทอร์เนต็ ในปจั จุบนั ช฽วงที่ 4 ปี ค.ศ. 1970 – 1980 ได฾นําไมโครโปรเซสเซอร์ (microprocessor) เป็นหน฽วยควบคมุ และประมวลผล โดยพัฒนาข้ึนมาเพ่ือรองรับการใช฾ฟล็อปป้ีดิสก์ (floppy disk) สําหรับการบันทึกข฾อมูล เกิดเครื่องคํานวณแบบพกพา ได฾พัฒนาเคร่ืองคอมพิวเตอร์แบบไมโครคอมพิวเตอร์คือรุ฽น MITs Altair 8800 และเคร่ืองคอมพิวเตอร์ร฽ุน Apple II ซ่ึงถือว฽าเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ส฽วนบุคคลโดยใชภ฾ าษาแอสแซมบลี (assembly) และยุคน้เี ริม่ ใช฾ฟลอ็ ปปด้ี ิสก์ขนาด 5 1 น้วิ สําหรับบันทึก 4ข฾อมูล ช฽วงที่ 5 ปี ค.ศ. 1981 – 1992 บริษัท IBM ได฾ผลิตเครื่องคอมพิวเตอร์ส฽วนบุคคลและเกิดเคร่ืองคอมพิวเตอร์แบบ Portable computer นอกจากน้ีบริษัท Apple ก็ได฾ผลิตเครื่องMacintosh เป็นเครอื่ งคอมพวิ เตอร์ส฽วนบุคคลในลักษณะ desktop publishing และเร่ิมมีการใช฾งานเครื่องพิมพ์แบบเลเซอร์ ช฽วงท่ี 6 ปี ค.ศ. 1993 – 2000 เกิดเคร่ืองคอมพิวเตอร์ที่แสดงบน desktop ในลักษณะมลั ติมเี ดยี เครอ่ื งคอมพวิ เตอรส์ ว฽ นบุคคลใช฾สัญญาณดิจิทัล และบริษัท Apple ก็ได฾ผลิตเคร่ืองคอมพิวเตอร์ส฽วนบุคคลแบบไร฾สาย การเชื่อมต฽อข฾อมูลได฾ใช฾ portable ขนาดเล็กสามารถเช่ือมต฽ออินเทอร์เน็ตแบบไร฾สายได฾ มีการใช฾งานเครือข฽ายคอมพิวเตอร์มากข้ึนและเกิดโฮมวิดีโอคอมพิวเตอร์(Home Video Computer) ช฽วงที่ 7 ปี ค.ศ. 2001 – อนาคต เริ่มนําระบบการประชุมทางไกล (TeleConference) มาใช฾งานทางด฾านธุรกิจ ในอนาคตคาดว฽าร฾อยละ 20 ของประชากรโลกจะทํางานท่ีบา฾ นและใช฾ระบบเครอื ขา฽ ยคอมพวิ เตอรเ์ ปน็ หลกั ในการดําเนินงาน ระบบการทํางานทุกอย฽างเป็นแบบออนไลน์แม฾แต฽การเลือกผนู฾ ําประเทศก็สามารถเลือกท่ีบ฾านได฾ การปฏิสัมพันธ์กันของผ฾ูใช฾คอมพิวเตอร์เป็นเครือข฽ายสังคมออนไลน์ (Online Social Network) เพื่อการตอบสนองบนโลกออนไลน์ของผู฾ใช฾แต฽ละคนโดยพบปะ แสดงความคิดเห็น แลกเปล่ียนประสบการณ์หรือความสนใจร฽วมกัน รวมถึงสามารถช฽วยกนั สร฾างเนือ้ หาขึ้นไดต฾ ามความสนใจของแต฽ละบคุ คล 2.2 พัฒนาการด฾านเทคโนโลยีส่ือสารโทรคมนาคม สามารถแบ฽งวิวัฒนาการด฾านการสือ่ สารข฾อมลู และเผยแพรส฽ ารสนเทศได฾ 7 ชว฽ งดังนี้ ช฽วงท่ี 1 ปี ค.ศ.1562 – 1834 พัฒนาการด฾านการส่ือสารเร่ิมต฾นที่ประเทศอิตาลีซึ่งเร่ิมมีการทําหนังสือพิมพ์รายเดือน ต฽อมาเกิดแม็กกาซีนฉบับแรกขึ้นท่ีประเทศเยอรมัน ยุคนี้มีเคร่ืองพิมพ์เครื่องแรกเกิดข้ึนที่อเมริกาเหนือ และเร่ิมการพิมพ์ภาพกราฟิกโดยใช฾เครื่องเมทัลเพลท(metal plate)

4 ช฽วงที่ 2 ปี ค.ศ. 1835 – 1875 เริ่มการสื่อสารระยะไกลโดยใช฾ระบบดิจิทัลคือระบบโทรเลข เป็นการสื่อสารด฾วยข฾อความ มีระบบการพิมพ์ความเร็วสูง และมีการพัฒนาสายเคเบิลเพอื่ การสอื่ สารระยะไกลด฾วยระบบโทรเลข ช฽วงท่ี 3 ปี ค.ศ. 1876 – 1911 เกดิ ระบบโทรศัพท์ซ่ึงเปน็ การสือ่ สารด฾วยเสียง มีการพัฒนาระบบคล่ืนวิทยุ และปี ค.ศ. 1894 เอดิสันได฾คิดค฾นภาพยนตร์ ส฽วนปี ค.ศ. 1895 มาร์โคนี(Marconi) ไดพ฾ ัฒนาวทิ ยุ ในสว฽ นของภาพยนตรก์ ็พฒั นาขนึ้ เปน็ ภาพเคล่ือนไหวได฾ ช฽วงที่ 4 ปี ค.ศ. 1912 – 1949 ภาพยนตร์ท่ีเป็นภาพเคล่ือนไหวได฾พัฒนาขึ้นเป็นรูปแบบธุรกิจกลายเป็นโรงภาพยนตร์ขนาดใหญ฽ เกิด Hollywood ในยุค ค.ศ. 1928 เกิดโทรทัศน์ภาพยนตร์ที่มีเสียงพูด เกิดธุรกิจด฾านความบันเทิงสื่อสารมวลชนในจอทีวี และในปี ค.ศ. 1946โทรทัศน์ได฾พัฒนาเป็นโทรทัศน์สี ต฽อมาปี ค.ศ. 1947 เริ่มมีตัวต฾านทาน (Transistor) เพื่อพัฒนาม฾วนเทปท่ีบันทกึ ขอ฾ มลู ได฾ (Reel to reel tape recorder) ช฽วงท่ี 5 ปี ค.ศ. 1950 – 1984 ยุคน้ีได฾พัฒนาเคเบิลทีวี และเกิดดาวเทียมข้ึนประมาณปี ค.ศ. 1957 ระบบโทรศัพท์ได฾มีการพัฒนาเป็นระบบกดปุม เมื่อปี ค.ศ. 1970 ในส฽วนของภาพยนตร์ได฾พัฒนาเป็นภาพยนตร์ 3 มิติ และ โทรทัศน์ 3 มิติ จนกระทั่งปี ค.ศ. 1982 มีการพัฒนาดา฾ นดาวเทียมเพอ่ื การสื่อสารมากย่งิ ข้ึน ช฽วงท่ี 6 ปี ค.ศ. 1985 – 1999 ยุคนี้โทรศัพท์ได฾พัฒนาจากระบบกดปุมตัวเลขเป็นโทรศพั ท์เคลื่อนท่ี มกี ารพัฒนาซีดีเกมส์ มาตรฐาน HDTV ปี ค.ศ. 1996 เกิดเครือข฽าย TV สามารถดูโทรทัศน์ได฾ทางอินเทอร์เน็ต การเก็บวีดิทัศน์เปลี่ยนจากเทปเป็นวิดีโอซีดี ความบันเทิงต฽างๆ อาทิ ดูหนงั ฟงั เพลง ชอ็ ปป้ิง ทําได฾โดยผ฽านเครือข฽ายสื่อสารต฽างๆ เช฽น โทรทัศน์ โทรศัพท์ และคอมพิวเตอร์เป็นตน฾ ช฽วงที่ 7 ปี ค.ศ. 2000 – ปัจจุบัน การบริการต฽างๆ เป็นแบบดิจิทัล โดยใช฾โทรศัพท์การส่ือสารมวลชนผ฽านโทรทัศน์จะหมดไป การส่ือสารมวลชนผ฽านโทรศัพท์จะเข฾ามาแทนที่ โดยการสื่อสารด฾วยเส฾นใยแก฾วนําแสง (fiber optics) แบบเต็มรูปแบบมีการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการส่ือสารแบบสังคมออนไลนผ์ ฽านโทรศพั ทม์ ือถือ กล฽าวได฾ว฽าพัฒนาการทางเทคโนโลยีสารสนเทศได฾พัฒนาให฾ก฾าวหน฾าเพ่ือ ตอบสนองความต฾องการของผ฾ใู ช฾ใหส฾ ามารถเข฾าถึงข฾อมลู ข฽าวสารไดท฾ กุ หน ทกุ แหง฽ และมรี ูปแบบการให฾บริการท่ีรองรับปจั เจกบคุ คลมากยง่ิ ข้นึ และเขา฾ ไปเปน็ ส฽วนหน่งึ ในชวี ติ ประจําวันอยา฽ งไมร฽ ูต฾ วัองคป์ ระกอบของเทคโนโลยสี ารสนเทศ เทคโนโลยีสารสนเทศประกอบด฾วยองค์ประกอบท่ีสําคัญ 2 องค์ประกอบ คือ เทคโนโลยีเพ่ือการประมวลผลคือเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีเพื่อการเผยแพร฽คือเทคโนโลยีสื่อสารและโทรคมนาคม มีรายละเอียดดังน้ี 1. เทคโนโลยีคอมพวิ เตอร์ เน่ืองจากความซับซ฾อนในการปฏิบัติงานและความต฾องการสารสนเทศท่ีหลากหลาย ทําให฾มีการจัดการและการประมวลผลข฾อมูลด฾วยมือไม฽สะดวก ล฽าช฾า และอาจผิดพลาด ปัจจุบันจึงต฾อง

5จัดเก็บและประมวลผลข฾อมูลด฾วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยใช฾คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์สนับสนุนในการจดั การขอ฾ มูล เพอื่ ให฾การทํางานถกู ต฾องและรวดเร็วขึ้น คอมพิวเตอรป์ ระกอบดว฾ ยเทคโนโลยีฮารด์ แวรแ์ ละซอฟต์แวร์ดังน้ี 1.1 ฮาร์ดแวร์ (Hardware) ประกอบด฾วย 5 สว฽ นหลกั คือ 1.1.1 หนว฽ ยรบั ข฾อมูล (Input Unit) ทาํ หน฾าทรี่ บั ข฾อมลู จากภายนอกคอมพวิ เตอร์เขา฾ สหู฽ นว฽ ยความจาํ แลว฾ เปลีย่ นเปน็ สัญญาณในรูปแบบท่ีคอมพิวเตอรส์ ามารถเข฾าใจได฾ เชน฽ คีย์บอรด์เมาส์ เครอ่ื งอา฽ นพิกัด (Digitizer) แผน฽ สัมผัส (Touch pad) จอภาพสมั ผัส (Touch Screen) ปากกาแสง (Light Pen) เครื่องอา฽ นบตั รแถบแม฽เหล็ก (Magnetic Strip Reader) และเครือ่ งอ฽านรหสั แท฽ง(Bar Code Reader) เป็นตน฾ 1.1.2 หน฽วยประมวลผลกลาง (Central Processing Unit: CPU) ทําหน฾าท่ใี นการประมวลผลตามคําสั่งของโปรแกรมท่ีเก็บอย฽ูในหน฽วยความจําหลัก หน฽วยประมวลผลกลางประกอบด฾วยวงจรไฟฟูาท่ีเรียกว฽า ไมโครโปรเซสเซอร์ (Microprocessor) หน฽วยวัดความเร็วในการทาํ งานของหน฽วยประมวลผลกลางมีหน฽วยวัดเป็น MHz แต฽ในปัจจุบันมีการพัฒนาถึงระดับ GHz คือพันล฾านคําสั่งต฽อ 1 วินาที หน฽วยประมวลผลกลางประกอบด฾วย 2 ส฽วนหลัก คือ หน฽วยควบคุม(Control Unit) และหนว฽ ยคํานวณและตรรกะ (Arithmetic & Logical Unit : ALU) 1.1.3 หน฽วยความจํา (Memory Unit) เป็นส฽วนท่ีทําหน฾าท่ีเก็บข฾อมูลหรือคําสั่งที่รับจากหน฽วยรับข฾อมูล เพื่อเตรียมส฽งให฾หน฽วยประมวลผลกลางประมวลผลตามโปรแกรมคําส่ังและเก็บผลลัพธ์ที่ได฾จากการประมวลผล เพ่ือส฽งต฽อให฾กับหน฽วยแสดงผล หรือเรียกใช฾ข฾อมูลภายหลังได฾หนว฽ ยความจํามี 2 ส฽วนหลักคือ หน฽วยความจําหลัก (Main Memory Unit) เป็นหน฽วยความจําที่เก็บข฾อมูล และโปรแกรมคําส่ัง ท่ีอย฽ูระหว฽างการประมวลผลของเครื่องคอมพิวเตอร์เช฽น ROM และหน฽วยความจําสํารอง (Secondary Memory) มีหน฾าท่ีในเก็บข฾อมูลและโปรแกรมคําส่ังอย฽างถาวรเพื่อการใช฾งานในอนาคต เช฽น รีมฟู เอเบ้ิลไดรฟ฼ (removable drive) และฮาร์ดดสิ ก์ เป็นต฾น 1.1.4 หน฽วยติดต฽อส่ือสาร (Communication Unit) เป็นอุปกรณ์ที่ใช฾เช่ือมโยงคอมพิวเตอรใ์ หส฾ ามารถสือ่ สารถึงกนั ได฾ เชน฽ โมเด็ม (modem) และการ์ดแลน (LAN card) เป็นตน฾ 1.1.5 หน฽วยแสดงผล (Output Unit) ทําหน฾าท่ีส฽งออกข฾อมูลท่ีได฾จากการประมวลผลแล฾ว เช฽น จอภาพ (Monitor) เคร่ืองพิมพ์ (Printer) เครื่องฉายภาพ (Projector) และลําโพง (Speaker) เป็นตน฾ 1.2 ซอฟต์แวร์ (Software) เปน็ องคป์ ระกอบทสี่ าํ คัญและจําเป็นมากในการควบคุมการทาํ งานของเคร่ืองคอมพวิ เตอร์ ซอฟต์แวร์สามารถแบ฽งออกได฾เปน็ 2 ประเภท คือ 1.2.1 ซอฟต์แวร์ระบบ (System Software) มีหน฾าที่ควบคุมอุปกรณ์ ภายในระบบคอมพิวเตอร์ และเป็นตัวกลางระหว฽างผ฾ูใช฾กับคอมพิวเตอร์หรือฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ระบบแบ฽งเป็น 3 ชนิดใหญ฽ คือ 1) โปรแกรมระบบปฏิบัติการ (Operation System Program) ใช฾ควบคุมการทํางานของคอมพิวเตอรแ์ ละอปุ กรณพ์ ฽วงต฽อกับเครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ ตัวอย฽างโปรแกรมที่นิยมใช฾กัน

6ในปัจจุบัน เช฽น UNIX, Linux, Microsoft Windows, Windows Mobile, iOS และ Android เป็นตน฾ 2) โปรแกรมอรรถประโยชน์ (Utility Program) ใช฾ช฽วยอํานวยความสะดวกแก฽ผ฾ูใช฾เคร่ืองคอมพิวเตอร์ในระหว฽างการประมวลผลข฾อมูลหรือในระหว฽างท่ีใช฾เคร่ืองคอมพิวเตอร์ ตัวอย฽างโปรแกรมท่ีนิยมใช฾กันในปัจจุบัน เช฽น โปรแกรมเอดิเตอร์ (Editor) Norton’sUtility เปน็ ตน฾ 3) โปรแกรมแปลภาษา (Translation Program) ใช฾ในการแปลความหมายของคําสั่งท่ีเป็นภาษาคอมพิวเตอร์ให฾อย฽ูในรูปแบบที่เคร่ืองคอมพิวเตอร์เข฾าใจและทํางานตามท่ีผ฾ูใช฾ต฾องการ 1.2.2 ซอฟต์แวร์ประยุกต์ (Application Software) เป็นโปรแกรมที่เขียนขึ้นเพอื่ ทาํ งานเฉพาะดา฾ นตามความต฾องการ ซงึ่ ซอฟต์แวรป์ ระยุกต์นส้ี ามารถแบ฽งเป็น 2 ชนิด คอื 1) ซอฟต์แวร์ประยุกต์เพ่ืองานทั่วไป เป็นซอฟต์แวร์ที่สร฾างข้ึนเพ่ือใช฾งานทั่วไป ไม฽เจาะจงประเภทของธุรกิจ ตัวอย฽าง เช฽น Word Processing, Spreadsheet, DatabaseManagement และ Presentation เปน็ ต฾น 2) ซอฟต์แวร์ประยุกต์เฉพาะงาน เป็นซอฟต์แวร์ท่ีสร฾างข้ึนเพ่ือใช฾ในธุรกิจเฉพาะ ตามแตว฽ ัตถุประสงค์ของการนาํ ไปใชซ฾ ่งึ เขียนขนึ้ โดยโปรแกรมเมอร์ แนวโน฾มของคอมพิวเตอร์ที่จะได฾รับความนิยมเป็นอย฽างสูงเพื่อการทํางานคือ อัลตราบุ฿ก(ultrabook) สว฽ นแท็บเล็ต (tablet) ก็เป็นที่นิยมนํามาใช฾เพื่อความบันเทิง สําหรับซูเปอร์สมาร์ทโฟน(super smartphone) เช฽น ไอโฟน 4 เอส (iPhone 4s) จะมีฟีเจอร์ใหม฽คือ สิริ (Siri) เพื่อทําให฾การสัง่ งานทาํ ได฾ดว฾ ยเสยี ง หากเป็นคอมพิวเตอร์เพือ่ นํามาใช฾ในองค์กร แนวโน฾มจะเป็น คลาวด์ คอมพิวติ้ง(Cloud Computing) เพื่อการวิเคราะห์ข฾อมูลทางธุรกิจ สนองโซเชียลบิสซิเนส (Social Business)ช฽วยเพ่ิมประสิทธิผล มูลค฽าเพิ่มของผลิตภัณฑ์และการปูองกันข฾อมูลขนาดใหญ฽ท่ีเรียกว฽า บ๊ิก ดาต฾า(Big Data) รวมถึงระบบรักษาความปลอดภยั เพ่อื รกั ษาความต฽อเน่อื งในการดาํ เนินงานและกู฾คนื ระบบ ส฽วนแนวโนม฾ ซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการที่ได฾รับความนิยมมากท่ีสุดคือ ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ (Android) เน่ืองจากผ฾ูผลิตมือถือและแท็บเล็ตนําไปใช฾เป็นระบบปฏิบัติการในผลิตภัณฑ์แอนดรอยด์จึงครองสว฽ นแบง฽ การตลาดมากกว฽า 50 % ขณะท่ี ไอโอเอส (iOS) ของค฽าย Apple มีส฽วนแบง฽ ทางการตลาด 25 % (นาตยา คชินทร, 2554, หนา฾ 10) 2. ระบบสอ่ื สารโทรคมนาคม การสื่อสารข฾อมูลเป็นเร่ืองสําคัญสําหรับการจัดการและประมวลผล ตลอดจนการใช฾ข฾อมูลหรือสารสนเทศในการตัดสินใจ ระบบสารสนเทศที่ดีต฾องประยุกต์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ ในการส่ือสารข฾อมูลระหว฽างระบบคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และผ฾ูใช฾ท่ีอย฽ูห฽างกันให฾สามารถสื่อสารกันไดอ฾ ยา฽ งรวดเรว็ ถูกตอ฾ ง ครบถว฾ น ทันเหตุการณ์ และมีประสทิ ธิภาพ จากวิวฒั นาการด฾านการสื่อสารข฾อมูลนับต้ังแต฽ปี ค.ศ. 1562 ที่เริ่มต฾นการส่ือสารด฾วยสื่อสิ่งพิมพ์ แล฾วพัฒนามาเป็นการส่ือสารระยะไกลด฾วยระบบดิจิทัล เกิดระบบโทรเลข ระบบโทรศัพท์ระบบคล่ืนวิทยุ ตลอดจนโทรศัพท์ที่ได฾เข฾ามามีบทบาทมากข้ึนในการกระจายข฽าวสารไปยังท฾องถิ่นทุรกันดาน จวบจนระบบโทรศัพท์ก็ได฾ถูกพัฒนาให฾สามารถติดต฽อกันได฾แบบไร฾สาย คอมพิวเตอร์ก็ได฾เข฾า

7มามีบทบาทสําคัญในการดําเนินชีวิตและการทํางานของมนุษย์ในปัจจุบัน คอมพิวเตอร์สามารถเชื่อมต฽อกันได฾ผ฽านระบบเครือข฽ายอินเทอร์เน็ต ที่ผ฾ูคนแต฽ละซีกโลกสามารถติดต฽อส่ือสารกันได฾แบบไรพ฾ รมแดนจงึ เขา฾ สูย฽ คุ โลกาภวิ ตั น์ (Globalization) การเกิดขึ้นของอินเทอร์เน็ตทําให฾เกิด เวิล์ด ไวด์ เว็บ (www) ซึ่งพัฒนาการของเว็บระหว฽าง ค.ศ. 1990 – 2000 กล฽าวได฾ว฽าเป็นช฽วงของเว็บ 1.0 (web 1.0) ซ่ึงเป็นการเช่ือมต฽อข฾อมูลดิจิทัลท่สี ามารถเข฾าถึงได฾อย฽างไม฽มีขีดจํากัด ก฽อเกิดคลังความร฾ูมหาศาลท่ีเผยแพร฽ได฾ทั่วโลก บริการในเว็บ 1.0 เช฽น การรับส฽งอีเมล สนทนากับเพื่อนโดยใช฾แชตรูม (chat room) หรือโปรแกรมไออาร์ซี(Internet Relay Chat: IRC) การแลกเปล่ียนความคิดเห็นที่เว็บบอร์ด การอ฽านข฽าวข฾อมูลต฽างๆ ในเว็บไซต์ เป็นต฾น ต฽อมาก็เข฾าส฽ูยุคท่ีเรียกว฽า เว็บ 2.0 (web 2.0 ปี ค.ศ. 2000-2010) วิถีชีวิตบนอินเทอร์เน็ตจึงเปลี่ยนไป มีการใช฾งานอินเทอร์เน็ตเพ่ือเขียนบล็อก (Blog) การแชร์รูป วีดิทัศน์ ร฽วมเขียนสารานุกรมออนไลน์ในวิกิพีเดีย การโพสต์ความเห็นลงในท฾ายข฽าว การหาแหล฽งข฾อมูลด฾วย อาร์เอสเอส ฟีด (RSS feeds) เพอ่ื ดึงข฾อมูลมาอา฽ นที่หนา฾ จอ และการใช฾ google จากพฤติกรรมการใช฾อินเทอร์เน็ตที่เปล่ียนไปจึงเป็นท่ีมาของเว็บ 2.0 โดยสามารถกําหนดคุณลกั ษณะของเวบ็ 2.0 ได฾ดังน้ี 1) ลักษณะเนื้อหามีการแบ฽งส฽วนบนหน฾าเพจ เปลี่ยนจากข฾อมูลขนาดใหญ฽มาเป็นขนาดเลก็ 2) ผู฾ใช฾สามารถเข฾ามาจดั การเน้อื หาบนหนา฾ เวบ็ ได฾ และสามารถแบง฽ ปันเนอื้ หาท่ีผ฽านการจัดการใหก฾ บั กลม฽ุ คนในโลกออนไลน์ 3) เนือ้ หาจะมกี ารจัดเรยี ง จัดกลุ฽มมากขน้ึ กวา฽ เดมิ 4) เกิดโมเดลทางธรุ กจิ ทหี่ ลากหลายมากย่ิงขน้ึ และทําใหธ฾ รุ กิจเวบ็ ไซต์กลายเป็นธุรกิจที่มีมลู คา฽ มหาศาล 5) การบริการคือ เว็บท่ีมีลักษณะเด฽นในการให฾บริการหลายๆ เว็บไซต์ที่มีแนวทางเดียวกนั จะเห็นว฽าการให฾บริการของเว็บ 1.0 ส฽วนใหญ฽เว็บไซต์จะเป็นไดเร็กทอร่ีรวมลิงค์ การนําเสนอข฽าวสาร และการเปน็ เว็บบอร์ด (webboard) ให฾ผ฾ูคนเข฾ามาตั้งกระท฾ูถามตอบ กล฽าวได฾ว฽าเว็บยุคแรกเวบ็ มาสเตอร์จะเปน็ ใหญ฽ สามารถผลักดันข฾อมูลใดๆ ที่ตนเองต฾องการให฾กับผู฾เข฾าชมเว็บไซต์ได฾สว฽ นในยุคของเว็บ 2.0 เปน็ เวบ็ ท่ตี อบสนองความตอ฾ งการท่แี ท฾จรงิ ของผู฾เยี่ยมชมเว็บ อาทิ อิสรภาพในการแสดงความคิดเหน็ ที่หลากหลาย การเข฾าไปอ฽านเว็บและแก฾ไขข฾อมูลตามความเช่ียวชาญของแต฽ละคน การแบ฽งปันแลกเปล่ียนเรียนรู฾ข฾อมูลไม฽ว฽าจะอยู฽ในรูปของภาพ วิดีโอ ข฾อความ ระหว฽างกันได฾ เป็นต฾น จงึ เปน็ ลักษณะทผ่ี ใ฾ู ช฾มสี ว฽ นรว฽ มมากย่ิงขน้ึ และทําให฾เกิดสังคมการเรียนรู฾ออนไลน์ในที่สุด ตัวอย฽างเวบ็ ไซต์ทม่ี ลี กั ษณะของเว็บ 2.0 เช฽น 1) เว็บไซต์วิกิพีเดีย (www.wikipedia.org) เป็นสารานุกรมออนไลน์ท่ีอนุญาตให฾ทุกคนสามารถอ฽านและแก฾ไข ตลอดจนสง฽ บทความขึ้นเว็บ ถ฾าหากมคี วามร฾คู วามเชีย่ วชาญในเรือ่ งนน้ั จรงิ ๆ 2) เว็บไซต์บล็อกเกอร์ (www.blogger.com) ให฾บริการบล็อกซึ่งเป็นช฽องทางการสื่อสารท่ีพัฒนาขึ้น เพื่อแสดงเน้ือหาแบบใหม฽ท่ีสามารถแสดงให฾อย฽ูในรูปของข฾อความ รูปภาพ

8มัลติมีเดีย จัดทําโพลโหวต เพลงประกอบเว็บ และระบบแสดงความคิดเห็น ดังนั้นอาจกล฽าวได฾ว฽าบล็อกเป็นเครอ่ื งมือสรา฾ งความรู฾ เผยแพรค฽ วามรู฾ และแลกเปลยี่ นความร฾ู 3) เว็บไซต์ฟลิคเกอร์ (www.flickr.com) เป็นอัลบ้ัมภาพออนไลน์เพื่ออํานวยความสะดวกในการใช฾งานการอัปโหลดไฟลป์ ระเภทรูปถ฽าย สามารถจัดการภาพถ฽ายได฾อย฽างมีประสิทธิภาพและสามารถแลกเปลย่ี นแบง฽ ปันภาพระหว฽างกันไดโ฾ ดยงา฽ ย 4) เวบ็ ไซตย์ ทู บู (www.youtube.com) เป็นเว็บไซต์เพื่อแชร์วีดิทัศน์ สามารถอัปโหลดดาวน์โหลดวดี ิทศั น์ และส฽งวดี ิทศั น์ให฾เพอ่ื นไดต฾ ามความต฾องการ 5) เว็บไซต์เทคโนราทติ (www.technorati.com) เป็นสารบัญบล็อกซ่ึงรวบรวมความเคล่ือนไหวของบล็อกไวใ฾ ห฾คน฾ หาเนือ้ หาทผ่ี ฾ใู ช฾ตอ฾ งการจากบล็อกที่มากกว฽า 71 ล฾านบลอ็ ก 6) เว็บไซต์ดิก (www.dig.com) เป็นเสมือนท่ีคั่นหนังสือ (เว็บ) ออนไลน์ หากเนื้อหาเวบ็ เพจใดนา฽ สนใจกส็ ามารถแบง฽ ปัน แลกทคี่ ัน่ หนา฾ เว็บได฾ 7) เว็บไซต์เฟซบ฿ุก (www.facebook.com) เป็นช฽องทางให฾ผ฾ูใช฾เข฾าไปมีส฽วนร฽วมใช฾ประโยชน์เชิงสังคมมากขึ้น ในรูปแบบการบริการเครือข฽ายทางสังคมด฾วยการเชื่อมโยงบริการต฽างๆเช฽น อเี มล แมสเซ็นเจอร์ เว็บไซต์ บอร์ด บล็อก เข฾าดว฾ ยกนั ในการให฾บรกิ าร การกา฾ วสยู฽ ุค เว็บ 3.0 (web 3.0 ปี ค.ศ. 2010-2020) เปน็ ยคุ ที่เน฾นไปท่ีการพัฒนาแก฾ไขปัญหาในระบบเว็บ 2.0 ซ่ึงยุคเว็บ 2.0 เป็นการสื่อสารบนโลกออนไลน์รูปแบบของเครือข฽ายสังคมที่สามารถแลกเปล่ียนข฾อมูลกันเป็นจํานวนมากจนทําให฾เกิดปริมาณข฾อมูลในเว็บ 2.0 มีขนาดใหญ฽ จึงต฾องอาศัยเว็บ 3.0 เพ่ือการจัดการข฾อมูลท่ีมีปริมาณมหาศาลเพื่อให฾ผู฾ใช฾บริการสามารถเข฾าถึงเนื้อหาของเว็บได฾ดีขึ้น ลักษณะของเว็บ 3.0 มีลักษณะดังนี้ (ศูนย์นวัตกรรมและเทคโนโลยีการศึกษา, 2553หนา฾ 36-37) 1) เป็นเว็บที่ชาญฉลาดมาก (Intelligent Web) สามารถประมวลผลภาษาธรรมชาติเรียนร฾ูและหาเหตุผล มีการประยุกต์ใช฾ที่ชาญฉลาดโดยมีเปูาหมายเพื่อการค฾นหาออนไลน์ โดยอาศัยหลักการของปญั ญาประดิษฐเ์ ข฾ามาสนบั สนุน ซง่ึ จะสามารถคาดเดาความต฾องการของผู฾ใช฾งานว฽ากําลังคิดและต฾องการค฾นหาขอ฾ มลู เรือ่ งอะไร 2) เป็นเว็บเปิดกว฾าง (Openness) เพ่ือการประยุกต์ด฾านการเขียนโปรแกรมโปรโตคอลรูปแบบข฾อมูล ตลอดจนเปิดเผยข฾อมูล และเขียนพัฒนาซอฟต์แวร์เพ่ือสร฾างสรรค์พัฒนาเคร่ืองมือใหม฽ๆ ได฾ 3) เป็นซอฟต์แวร์ที่สามารถใช฾งานร฽วมกับอุปกรณ์ต฽างๆ ได฾ (Interoperability) รวมถึงสามารถนําเอาไปประยุกต์ใช฾และทํางานร฽วมกับอุปกรณ์มือถือ คอมพิวเตอร์ หรือโทรศัพท์มือถือ เม่ือนําไปประยุกต์ใช฾จะสามารถปรับแต฽งได฾อย฽างรวดเร็ว ไม฽ว฽าจะเป็นการใช฾งานร฽วมกับซอฟต์แวร์ของเฟซบกุ฿ (Facebook) และมายสเปซ (Myspace) รวมถึงอนุญาตให฾ผ฾ูใช฾สามารถท฽องเว็บได฾อย฽างอิสระจากโปรแกรมหนึ่งไปยังอกี โปรแกรมหน่ึง หรือจากฐานขอ฾ มลู หน่ึงไปยงั อกี ฐานข฾อมูลหนงึ่ 4) เป็นศูนย์ของฐานข฾อมูลท่ัวโลก (A Global Database) แนวคิดของเว็บ 3.0 ทําให฾สามารถเปิดเขา฾ ไปดฐู านขอ฾ มลู ขนาดใหญ฽ทวั่ โลก จึงได฾รับการขนานนามว฽า เว็บแห฽งข฾อมูล (The DataWeb) โดยจะใช฾โครงสร฾างของระเบียนข฾อมูลท่ีถูกเผยแพร฽ไปแล฾วย฾อนกลับนํามาใช฾ใหม฽ด฾วยรูปแบบ

9ควบคุมการสอบถามข฾อมูล ไม฽ว฽าจะเป็นเทคโนโลยี XML, RDF Scheme, OWL และ SPARGL จะสามารถทาํ ใหส฾ ารสนเทศถกู เปดิ อา฽ นไดแ฾ มว฾ า฽ จะอยค฽ู นละโปรแกรมหรือคนละเว็บก็ตาม 5) เว็บ 3 มิติ ส฽ูอนาคต (3D Web & Beyond) แนวคิดเว็บ 3.0 จะใช฾ตัวแบบของภาพ 3มิติ และทําการถ฽ายโอนภาพจริงไปเป็นลักษณะของภาพ 3 มิติ เช฽น การให฾บริการชีวิตท่ีสอง(Second Life) และการใช฾จําลองตัวตนข้ึนมาให฾เป็นลักษณะภาพ 3 มิติ และจะขยายออกไปเป็นลักษณะทางชีวภาพจินตนาการ ในเว็บ 3.0 ท่ีถูกสร฾างข้ึนจะสามารถเช่ือมต฽อไปกับหลายอปกรณ์ไม฽เพียงแต฽โทรศพั ทม์ ือถือเทา฽ น้ัน แต฽ยงั สามารถเช่ือมต฽อไปยังรถยนต์ คล่ืนไมโครเวฟ เพ่ือการบูรณาการประสบการณช์ วี ิต 6) การควบคุมสารสนเทศ (Control of Information) ด฾วยศักยภาพของเว็บ 3.0 จะช฽วยควบคุมสารสนเทศที่อยู฽ในเว็บ 2.0 ที่มีมากจนเกินไปให฾อย฽ูในความพอดี ด฾วยการพยายามหลีกเล่ียงการชนหรือปะทะกันของโปรแกรมและรหัสผ฽านที่อยู฽บนเว็บ โดยเฉพาะเว็บที่เป็นเครือข฽ายสังคมออนไลน์ และเวบ็ 3.0 จะนําคาํ สง่ั และอนญุ าตให฾ผใู฾ ชส฾ ามารถค฾นหาขอ฾ มูลทถ่ี ูกต฾องได฾มากย่งิ ข้นึ 7) เว็บว฽าด฾วยความหมายของคําและประโยค (Semantic Web) หรือเป็นพื้นฐานของเว็บสมยั ใหม฽คลา฾ ยกับขอบขา฽ ยงานคําอธิบายทรัพยากร (Resource Description Framework: RDF)เพื่ออธิบายอภิข฾อมูล (Metadata) ของเว็บไซต์ หรือการอธิบายสารสนเทศบนเว็บไซต์ สามารถวิเคราะห์วัตถุประสงค์ด฾วยเว็บเครือข฽ายแมงมุม (Web Spiders) จึงทําให฾ค฾นหาข฾อมูลมีความถูกต฾องมากยิง่ ขนึ้ กล฽าวโดยสรุปองค์ประกอบของเทคโนโลยีสารสนเทศประกอบด฾วยระบบคอมพิวเตอ ร์และระบบส่ือสารโทรคมนาคม ซึ่งคอมพิวเตอร์ประกอบด฾วยฮาร์ดแวร์ท่ีมีองค์ประกอบหลัก 5 ส฽วนคือหน฽วยรบั ขอ฾ มูล หน฽วยประมวลผล หน฽วยความจํา หน฽วยติดต฽อส่ือสาร และหน฽วยแสดงผล นอกจากน้ีระบบคอมพิวเตอร์ต฾องประกอบด฾วยซอฟต์แวร์ ซึ่งเป็นโปรแกรมหรือชุดคําส่ังในการควบคุมการทํางานของเคร่อื งคอมพวิ เตอร์สามารถแบ฽งได฾ 2 ประเภทคือ ซอฟต์แวร์ระบบและซอฟต์แวร์ประยุกต์ในการประยุกต์ใช฾งาน โดยรายละเอียดของฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์จะกล฽าวต฽อไปในบทท่ี 2 เรื่องเทคโนโลยีคอมพวิ เตอร์ ในส฽วนของระบบสื่อสารโทรคมนาคมจะเห็นว฽าความก฾าวหน฾าของเทคโนโลยีส่ือสาร ทําให฾ผู฾ใชส฾ ามารถติดตอ฽ ส่ือสารกันได฾สะดวกและรวดเร็ว เป็นยุคไร฾พรมแดนท่ีให฾ความสําคัญแก฽ผู฾ใช฾งาน ให฾มสี ฽วนรว฽ มในการกําหนดรูปแบบการทํางานได฾ด฾วยตนเอง โดยอาศัยเคร่ืองมือในเว็บ 2.0 ท่ีพัฒนาจากเว็บ 1.0 ซ่งึ ทําให฾เกิดสงั คมการเรียนรูอ฾ อนไลนห์ รอื เกิดศนู ยค์ วามรู฾ทางออนไลน์ได฾ จวบจนปัจจุบันก฾าวเข฾าส฽ูเว็บ 3.0 ท่ีเน฾นการเข฾าถึงเนื้อหาได฾ดีขึ้นท฽ามกลางปริมาณข฾อมูลที่ท฽วมท฾น ซึ่งจะได฾กล฽าวโดยละเอียดต฽อไปในบทที่ 3 และบทท่ี 4 เรอ่ื ง เทคโนโลยีการสือ่ สารขอ฾ มูล และอินเทอรเ์ น็ต

10บทบาทและทกั ษะทางเทคโนโลยสี ารสนเทศในยคุ ส่ือใหม่ 1. บทบาทของสอื่ ใหมก่ ับสภาวะปจั จบุ นั สื่อใหม฽ (New Media) หรือสอ่ื นฤมติ เปน็ สื่อท่ีเกิดจากการสร฾างสรรค์หรือการใช฾งานกับเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ที่สามารถโต฾ตอบกับผู฾ใช฾งานได฾ และมักจะอย฽ูในรูปแบบดิจิทัล และสามารถติดต฽อสื่อสารทั้งของบุคคลและสื่อที่ถูกแปลง (Transform) โดยการใช฾เทคโนโลยีอย฽างสร฾างสรรค์เพ่ือให฾เกิดระบบการสะท฾อนกลับ ปฏิสัมพันธ์ หรือการดําเนินการ เพ่ือให฾ผ฾ูใช฾สามารถรับข฾อมูลข฽าวสารในรูปมัลติมีเดียแบบ Real Time โดยผ฽านทางคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือได฾ทั่วโลกดงั นั้นส่ือใหม฽จึงเกิดจากการหลอมรวมเทคโนโลยีการส่ือสารภายใต฾พัฒนาการของภาษาระบบตัวเลข(Digital Language) เทคโนโลยีการสื่อสาร 3 กล฽ุมหลักประกอบด฾วย 1) เทคโนโลยีด฾านการพิมพ์2) เทคโนโลยีแพร฽ภาพและกระจายเสียง และ 3) เทคโนโลยีสื่อสารโทรคมนาคมและคอมพิวเตอร์เช฽น หนังสือพิมพ์ออนไลน์ โปรแกรมแชท เครือข฽ายสังคม เช฽น ไฮไฟฟ฼ เฟซบ฿ุก ทวิตเตอร์ แคมฟร็อก บล็อก เป็นต฾น สําหรับปัจจัยเร฽งให฾เกิดส่ือใหม฽ คือ ความแพร฽หลายของอินเทอร์เน็ต การหลอมรวมเทคโนโลยีส่ือ และการค฾าเสรีขององค์การการค฾าโลก (ศูนย์นวัตกรรมและเทคโนโลยีการศึกษา,2553 หนา฾ 42; เดลินิวส์ออนไลน์, 2553) โดยสื่อใหม฽เข฾ามามีบทบาทในวงการสาขาอาชีพต฽างๆ สรุปไดด฾ งั น้ี 1.1 การประยกุ ต์ด฾านการศกึ ษา เชน฽ ระบบบริหารการเรียน (Learning ManagementSystem: LMS) Ning และ Elgg เพื่อใช฾เป็นระบบบริหารจัดการเรียนการสอนบนเครือข฽ายสังคมออนไลน์แบบสร฾างต฽อยอดได฾ด฾วยตนเอง ระบบ Streaming และ Broadcasting วีดิทัศน์การเรียนการสอนโดยการถ฽ายทอดสดและการทําวีดิทัศน์ตามอัธยาศัย (Video on Demand) ให฾ผ฾ูเรียนสามารถเข฾าเรียนได฾ผ฽านเว็บ รวมถึงการใช฾ Twitter, Facebook, Hi5, Myspace และ Blog เพ่ือการแลกเปลย่ี นเรียนรูแ฾ ละการเรียนรู฾เป็นทีมในการสรา฾ งชมุ ชนการเรียนรู฾ออนไลนไ์ ด฾ 1.2 การประยุกต์ด฾านธุรกิจ ซึ่งนอกจากใช฾เว็บไซต์เพื่อการดําเนินธุรกิจแล฾ว ธุรกิจบริการข฾อมูลผา฽ นโทรศัพท์มอื ถือ ก็เปน็ บริการทน่ี าํ ข฾อมูลข฽าวสารจากสอ่ื โทรทัศน์ ส่ือวทิ ยุ หรือสื่ออื่นๆมาพัฒนาให฾มีเน้ือหาและรูปแบบการนําเสนอท่ีสามารถตอบรับกับวิถีการใช฾ชีวิตที่ทันสมัยของคนยุคใหม฽ อาทิ รูปแบบข฾อความสั้นๆ (Short Message Service: SMS) และภาพเคลื่อนไหวพร฾อมเสียง(Multimedia Messaging Service: MMS) 1.3 การประยุกต์ใช฾ด฾านการเมือง จะพบว฽าส่ือมีบทบาทและอิทธิพลกับการเมืองตั้งแต฽อดีตจนถึงปัจจุบัน เนื่องจากเป็นช฽องทางในการนําเสนอข฽าวสารไปยังประชาชนของประเทศโดยเฉพาะอย฽างย่ิงในปัจจุบันจะพบว฽าผู฾นําประเทศในหลายๆ ประเทศได฾นํา Social Media มาใช฾เชน฽ เฟซบุ฿ก (Facebook) และ ทวิตเตอร์ (Twittter) มาใช฾ในการพูดคุย ประชาสัมพันธ์เพ่ือให฾เข฾าถึงคนรุ฽นใหม฽ที่นับว฽าค฽อนข฾างจะมีพลังในการรวบรวมกําลังคนท่ีมีแนวคิดเดียวกัน เป็นพลังขับเคลื่อนให฾เกิดการเปลีย่ นผ฾ูนําประเทศท่ีเห็นได฾เด฽นชัดคือประเทศในซีกโลกอาหรับ เช฽น ตูนิเซีย และอียิปต์ เป็นตน฾ 2. ทักษะทางเทคโนโลยสี ารสนเทศ พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2546 ให฾ความหมายของทักษะ (Skill) ว฽าความชํานาญ หมายถึง ความเชี่ยวชาญ จัดเจน ทักษะท่ีจําเป็นสําหรับการเรียนร฾ูด฾วยตนเองในสังคม

11แห฽งภูมิปัญญาและการเรียนรู฾ คือ ทักษะการค฾นหาสารสนเทศ การใช฾เคร่ืองมือ บริการต฽างๆ ในอินเทอร์เนต็ การเลือกใชแ฾ ละประยกุ ต์ใช฾เทคโนโลยสี ารสนเทศไดอ฾ ย฽างมปี ระสิทธภิ าพ ในยุคฐานความรู฾และภูมิปัญญา (knowledge based age) ผ฾ูปฏิบัติงานควรมีทักษะในการใชเ฾ ทคโนโลยสี ารสนเทศ คือ 1) ทักษะการร฾ูสารสนเทศ (Information Literacy) คือ ความสามารถในการค฾นหาสารสนเทศ การเลอื กใช฾ การใช฾ การวเิ คราะห์ ก฽อนที่จะนําไปประยุกตใ์ ช฾ได฾อย฽างถกู ต฾องและเหมาะสม 2) ทักษะการใช฾ห฾องสมุดอิเล็กทรอนิกส์ คือ การฝึกทักษะการค฾นหาสารสนเทศ ทักษะการอา฽ น และการวิเคราะหส์ ารสนเทศ ก฽อนนาํ ไปใช฾ในการปฏบิ ัติงาน 3) ทักษะการใช฾เทคโนโลยีระบบสารสนเทศ คือ ความสามารถในด฾านการจัดการสารสนเทศ ไมว฽ ฽าจะเปน็ การบันทึกแก฾ไข การจัดทํารายงาน งานบัญชี งานลงทะเบียน ซ่ึงจะส฽งผลให฾องคก์ รไดร฾ ับความสะดวกในการทาํ งาน หรืออาจใช฾เป็นข฾อมูลชว฽ ยในการตดั สนิ ใจด฾วย 4) ทักษะการใช฾เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ คือ ความสามารถในการใช฾เคร่ืองคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข฾องเพื่ออํานวยความสะดวกในการจัดเก็บ วิเคราะห์ สังเคราะห์ ข฾อมูลและสารสนเทศได฾ ซึ่งคอมพิวเตอร์จัดเป็นเทคโนโลยีแกนหลักท่ีสําคัญในการนํามาประยุกต์ร฽วมกับเทคโนโลยีดา฾ นอืน่ ๆ ตอ฽ ไป 5) ทกั ษะการใชเ฾ ทคโนโลยเี ครือข฽าย คือ ความสามารถในการใช฾เทคโนโลยีระบบส่ือสารต฽างๆ เพื่อประโยชน์ทางด฾านการเข฾าถึงข฾อมูล เช฽น เครือข฽ายอินเทอร์เน็ต อินทราเน็ต เครือข฽ายโทรศัพท์ เครือขา฽ ยการเขา฾ ถึงแบบไร฾สาย และเครอื ขา฽ ยวิทยุโทรทศั น์ เปน็ ต฾น 6) ทักษะการใช฾เทคโนโลยีสํานักงานอัตโนมัติ คือ ความสามารถในการประยุกต์ระบบเครือขา฽ ยมาใชเ฾ ช่ือมโยงคอมพวิ เตอรแ์ ละอปุ กรณ์สาํ นกั งาน เพ่ืออํานวยความสะดวกในการดําเนินงานและเพมิ่ ประสทิ ธิภาพการทาํ งานขององค์กร จากทักษะท่ีจําเป็นในยุคฐานความร฾ูและภูมิปัญญาที่ได฾กล฽าวมาแล฾ว ความหมายทักษะทางเทคโนโลยสี ารสนเทศ (Information Technology Literacy) จึงสรปุ ไดว฾ ฽า ความสามารถ ความชํานาญในการใช฾เทคโนโลยีสารสนเทศด฾านต฽างๆ เกี่ยวกับ ระบบคอมพิวเตอร์ ข฾อมูลและสารสนเทศการประมวลผล การส่ือสาร ระบบเครือข฽าย ฐานข฾อมูลสารสนเทศ และการจัดการ เพื่อการบันทึกการใช฾ วเิ คราะห์ สงั เคราะห์ จัดเก็บ การเผยแพร฽ และการนาํ สารสนเทศไปใช฾ประโยชน์ได฾ถูกต฾องและเหมาะสม ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก฽ผ฾ูมีความร฾ูและมีทักษะทางเทคโนโลยีสารสนเทศดังน้ี (ฐิติยาเนตรวงษ์, 2552, หนา฾ 31) 1) สามารถใช฾คอมพิวเตอร์ไดส฾ ะดวกและคมุ฾ ค฽ามากขนึ้ 2) ตามทันกับสภาพสังคมที่มีการใช฾เทคโนโลยีสารสนเทศ และคาดการณ์แนวโน฾มการใช฾ในอนาคตได฾ 3) มีความร฾ูความสามารถในการเลือกซ้ือหรือเลือกใช฾ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ได฾เหมาะสมกบั งานและความต฾องการของตนเอง 4) เป็นผ฾มู คี วามรู฾ทนั ข฽าวสารและเหตุการณ์ปจั จบุ นั อยเ฽ู สมอ 5) เปน็ ผู฾มีความร฾กู วา฾ งขวางในหลากหลายสาขาและได฾รบั ความร฾ูรอบตวั มากข้ึน

12 การอุบตั ขิ นึ้ ของเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอ่ื สารที่ก฾าวหน฾าจึงทําให฾ต฾องมีการพัฒนาทักษะแห฽งศตวรรษที่ 21 เพื่อเป็นทักษะ “อันย่ังยืน” (Perennial) ที่สร฾างคุณค฽า และสร฾างทักษะ“ตามบริบท” (Context) ที่จําเป็นสําหรับการทํางานและการเป็นพลเมืองในสหัสวรรษใหม฽ โดยแนวคิดและทักษะแห฽งศตวรรษที่ 21 มีดังต฽อไปน้ี (เบลลันกา และแบรนด์; แปลโดย วรพจน์ วงศ์กิจร฽ุงเรือง และอธิป จิตตฤกษ์, 2554, หน฾า 35) 1) แนวคิดสําคัญในศตวรรษที่ 21 ประกอบด฾วย จิตสํานึกต฽อโลก ความร฾ูพื้นฐานด฾านการเงิน เศรษฐกิจ ธุรกิจ และการเป็นผ฾ูประกอบการ ความร฾ูพ้ืนฐานด฾านพลเมือง ความร฾ูพ้ืนฐานดา฾ นสขุ ภาพ และความรพ฾ู ื้นฐานดา฾ นส่งิ แวดล฾อม 2) ทักษะการเรียนรู฾และนวัตกรรม ประกอบด฾วย ความคิดสร฾างสรรค์และผลิตนวัตกรรม การคิดเชิงวิพากษ์และการแก฾ไขปัญหา การสื่อสารและการร฽วมมือทํางาน รวมถึงการเรียนรู฾ตามบริบท หมายความว฽า ผ฾ูเรียนนอกจากเรียนรู฾เน้ือหาวิชาการแล฾วจําเป็นต฾องรู฾จักวิธีเรียนรู฾อย฽างตอ฽ เนื่องตลอดชวี ติ รจ฾ู กั ใชส฾ ิ่งท่เี รยี นมาอย฽างอยา฽ งประสทิ ธผิ ลและสร฾างสรรค์ 3) ทักษะด฾านสารสนเทศ ส่ือ และเทคโนโลยี ประกอบด฾วย ความรู฾พ้ืนฐานด฾านสารสนเทศ ความร฾ูพื้นฐานด฾านสื่อ และความรู฾พื้นฐานทางเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร(ไอซที )ี กลา฽ วคอื ผเู฾ รียนมคี วามสามารถในการใช฾ทักษะเหล฽านี้พัฒนาความรู฾และทักษะแห฽งศตวรรษที่21 ในบริบทการเรียนร฾ูเพื่อเข฾าถึงเนื้อหาและทักษะต฽างๆ จะได฾รู฾จักวิธีเรียนรู฾ การคิดเชิงวิพากษ์ การแก฾ไขปญั หา การใชข฾ ฾อมลู ข฽าวสาร การส่อื สาร การผลิตนวตั กรรม และสารมารถรว฽ มมอื กนั ทํางานได฾ 4) ทักษะชีวิตและการทํางาน ประกอบด฾วย ความยืดหยุ฽นและความสามารถในการปรับตัว ความคิดริเริ่มและการช้ีนําตนเอง ทักษะทางสังคมและการเรียนร฾ูข฾ามนวัตกรรม การเพิ่มผลผลิตและความรู฾รับผิดชอบต฽อสังคม ความเป็นผ฾ูนําและความรับผิดชอบ ซ่ึงความท฾าทายในปัจจบุ นั คอื การผสานทกั ษะท่จี ําเป็นเหลา฽ น้ีในสถานศึกษาอย฽างจงใจ แยบคาย และรอบด฾าน ดังน้ันทักษะทางเทคโนโลยีสารสนเทศมีความสําคัญต฽อการสร฾างสังคมสารสนเทศ และการอย฽ูร฽วมกันในเครือข฽ายสังคมเพราะสังคมสารสนเทศเป็นสังคมท่ีเน฾นใช฾เทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือการจดั เก็บ ประมวลผล สบื ค฾น และเผยแพร฽สารสนเทศ มีการใช฾ผลิตภัณฑ์ อุปกรณ์ต฽างๆ ซ่ึงผ฾ูใช฾ต฾องสามารถใช฾เทคโนโลยีสารสนเทศได฾ด฾วยตนเอง ทั้งโดยทางตรงและโดยทางอ฾อม ฉะนั้นการพัฒนาคนให฾มีความรู฾ และทักษะในด฾านเทคโนโลยีสารสนเทศ ซ่ึงภาครัฐต฾องกําหนดนโยบายเพ่ือส฽งเสริมและสร฾างศักยภาพ ความสามารถของคนในสังคม ตลอดจนลงทุนด฾านโครงสร฾างพ้ืนฐาน โดยอาศัยความร฽วมมอื หลายฝุาย ใหท฾ กุ คนสามารถเข฾าถึงสารสนเทศและความร฾ูโดยเท฽าเทียมกัน อันจะส฽งผลให฾คนในสังคมมีความรอบร฾ู ตามทันสภาพสังคมสารสนเทศ และสามารถคาดการณ์แนวโน฾มการใช฾ได฾ในอนาคต 3. แนวโน้มและบทบาทของส่อื ใหม่ในอนาคต ระบบเครือข฽ายอินเทอร์เน็ตทําให฾โลกของการส่ือสารเปลี่ยนไปอย฽างรวดเร็ว การติดต฽อส่ือสารระหว฽างบุคคล หน฽วยงาน หรือการเผยแพร฽ข฽าวสารข฾อมูลส฽ูสาธารณะเป็นสิ่งท่ีง฽ายและรวดเร็ว สื่อใหม฽จึงส฽งผลกระทบต฽อส่ือสิ่งพิมพ์ที่เป็นส่ือเดิม โดยเฉพาะอย฽างยิ่งส่ือโทรศัพท์มือถือที่มีศักยภาพเพียงพอที่จะกลายเป็น “ส่ือใหม฽” ที่ทรงพลังอันประกอบด฾วย 1) ความต฾องการที่จะส่ือสารของมนุษย์ทุกคน 2) โทรศัพท์มือถือถูกออกแบบให฾มีขนาดเล็ก สามารถพกพาไปใช฾งานได฾ทุกท่ี 3)

13โทรศัพทม์ ือถอื เป็นเสมือนจุดหมายปลายทางของการผสมผสานกันของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ท้ังปวงสื่อใหม฽ ผ฽านช฽องทางใหม฽ๆ ย฽อมกระตุ฾นการรับรู฾ของผู฾รับสารได฾เป็นอย฽างดี 4) สามารถทําการซื้อขายสินค฾า หรือกระทําการใดๆ ผ฽านโทรศัพท์มือถือ จึงทําให฾ส่ือใหม฽ผ฽านโทรศัพท์มือถือได฾รับความนิยมเป็นอยา฽ งสูง การเติบโตของสือ่ ใหม฽ จงึ ไมใ฽ ชแ฽ คส฽ อื่ ออนไลน์ แต฽ครอบคลมุ หลายส่ือรวมกัน ไม฽ว฽าจะเป็นส่ือโฆษณารูปแบบต฽างๆ SMS รายงานข฽าวผ฽านโทรศัพท์มือถือ ผ฽านเครือข฽ายสังคมออนไลน์ (SocialNetwork) หรือ เทคโนโลยี 3G ล฾วนเป็นเทคโนโลยีใหม฽ที่เติบโตขึ้นมาท฾าทายส่ือดั้งเดิมอย฽างหนังสือพิมพ์ และนิตยสาร เกิดเป็นคําถามข้ึนบ฽อยครั้งว฽า ทิศทางของส่ือส่ิงพิมพ์จะเป็นอย฽างไร แต฽ส่ิงพมิ พก์ ็ยังไม฽หายไปแต฽มีการนําเสนอควบคู฽ไปกับส่ือออนไลน์ พฤติกรรมการบริโภคสื่อในอนาคตจะเปล่ียนไปตามวิวัฒนาการด฾านการส่ือสาร ซ่ึงการบริโภคข฽าวสารของคนทั่วไปจะเร่ิมหันมาบริโภคข฽าวสารผ฽านระบบออนไลน์มากข้ึน ไม฽ว฽าจะผ฽านคอมพิวเตอร์ หรือโทรศัพท์เคล่ือนที่ ผ฾ูผลิตคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ อุปกรณ์สื่อสาร รวมถึงผ฾ูให฾บริการโครงข฽ายการส่ือสารก็จะปรับแผนและกลยทุ ธเ์ พื่อให฾พร฾อมบริการแกผ฽ ฾ูบริโภคและการแข฽งขัน สื่อส่ิงพิมพ์จะปรับเปลี่ยนรูปแบบให฾บริการข฾อมูลผ฽านทางอินเทอร์เน็ต ท้ังในรูปแบบข฾อความสั้น ข฾อความมัลติมีเดีย รวมถึงการใช฾เครือข฽ายสังคมเพื่อใหผ฾ บู฾ ริโภคสามารถเข฾าถงึ ธุรกิจและติดตามขา฽ วสารไดต฾ ลอดเวลา จากท่ีกล฽าวมาจึงพบว฽าบทบาทของสถาบันการศึกษามีส฽วนที่จะส฽งเสริมความรู฾ และทักษะด฾านเทคโนโลยีสารสนเทศแก฽ผ฾ูเรียน และบุคลากรภายในสถาบันการศึกษา คือ การพัฒนาแหล฽งบริการสารสนเทศที่สําคัญ ซึ่งต฾องมีการปรับรูปแบบใหม฽ในการให฾บริการในสถานศึกษาท่ีต฾องเน฾นให฾ผใ฾ู ช฾บรกิ ารไดม฾ สี ว฽ นร฽วมในการกาํ หนดรปู แบบสารสนเทศที่ต฾องการได฾ โดยการพัฒนาระบบฐานข฾อมูลให฾เอื้อต฽อการเข฾าถึงได฾ตลอดเวลา และเสริมสร฾างการเรียนรู฾แบบทุกที่ ทุกเวลา ส่ืออิเล็กทรอนิกส์ทุกรูปแบบ น่ีจึงเป็นตัวอย฽างความท฾าทายทางเทคโนโลยีที่กําลังเกิดขึ้น ผ฾ูเรียนและผู฾สอนจึงต฾องเกาะสังคมข฾อมูลข฽าวสารให฾ทัน เพราะหนังสือพิมพ์ วรรณกรรม และพจนานุกรมแบบเก฽าจะอย฽ูในรูปแบบไฟล์อิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมด สารานุกรมแบบโต฾ตอบและอุปกรณ์ระบุพิกัดบนโลก ( GlobalPositioning Device) จะกลายเป็นของปกติ โลกได฾กลายเป็นโลกแห฽งการเชื่อมต฽อความเร็วสูง การสื่อสารทางออนไลน์ บลอ็ ก วิกิ (Wiki) พ็อดคาสท์ (Podcast) การดึงข฾อมูลแบบอาร์เอสเอส (RSSfeed) ดว฾ ยระบบสํารองขอ฾ มูล ไทม์แมชชีน (Time Machine) และ โมซ่ี (Mozy) เครื่องมือสืบค฾น เช฽นGoogle, Yahoo และ Bing ช฽วยหาสิ่งที่ต฾องการในเวลาเสี้ยววินาที และยังมีสื่อสําหรับรับชมห฾องสมุดภาพยนตร์ คลังวิดีโอ เว็บไซต์อย฽าง Youtube, TeacherTube และ Hulu รายการโทรทัศน์และเกมออนไลน์ ที่พร฾อมเข฾าถึงได฾ตลอดเวลา ส฽วนการเรียนการสอนในโลกดิจิทัล คือยุคที่การเรียนรู฾เกดิ ขึ้นไดท฾ ุกทท่ี ุกเวลาด฾วยระบบอย฽างเช฽น Blackboard, Moodle, Ning และ Elgg การสัมมนาผ฽านเว็บ (Webinar) การประชุมทางไกลผ฽านวิดีโอคอนเฟอร์เร็นซ์ เคร่ืองอ฽านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์Kindle และสารานุกรม Wikipedia รวมทั้งเคร่ืองมือเครือข฽ายสังคม เช฽น MySpace, Facebook,Linkedin และ Skype ที่เปน็ พืน้ ท่สี าํ หรับเช่อื มต฽อระหว฽างบุคคลได฾ทันทีไม฽ว฽าใกล฾หรือไกล (เบลลันกาและแบรนด์; แปลโดย วรพจน์ วงศก์ ิจร฽งุ เรือง และอธิป จติ ตฤกษ,์ 2554, หน฾า 177)

14ประโยชนแ์ ละความสาคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศ เทคโนโลยีสารสนเทศจัดว฽าเป็นเทคโนโลยียุทธศาสตร์สําคัญแห฽งยุคปัจจุบันและอนาคตเนื่องจากมคี วามสามารถในการเพมิ่ ประสทิ ธภิ าพและสมรรถภาพในเกอื บทกุ ๆ กจิ กรรม โดยก฽อให฾เกิดการลดต฾นทุนหรือค฽าใช฾จ฽าย ช฽วยเพ่ิมคุณภาพงาน การสร฾างกระบวนการหรือกรรมวิธีใหม฽ๆ แก฽ผ฾ูใช฾ได฾รบั สารสนเทศตามต฾องการ เทคโนโลยสี ารสนเทศมีประโยชน์ต฽อผู฾ใชส฾ รปุ ไดด฾ ังนี้ 1) เทคโนโลยสี ารสนเทศช฽วยเพ่ิมผลผลิต ลดต฾นทุน และเพ่ิมประสิทธิภาพในการทํางาน ในการประกอบธรุ กจิ และการอุตสาหกรรม จึงได฾มกี ารนําคอมพวิ เตอร์และระบบส่ือสารโทรคมนาเข฾ามาช฽วยในการทํางาน เช฽น ระบบสํานักงานอัตโนมัติ การบริการในระบบออนไลน์ท่ีสามารถดําเนินกจิ กรรมทางการเงนิ ได฾สะดวก รวดเร็วโดยไมจ฽ ํากัดสถานทแ่ี ละเวลา เป็นตน฾ 2) เทคโนโลยีสารสนเทศเปล่ียนรูปแบบการบริการเป็นแบบกระจาย โดยการพัฒนาระบบขอ฾ มูลและรูปแบบการบริการให฾ผ฾ูใช฾บริการสามารถเลือกรูปแบบการบริการได฾ตามความต฾องการและสามารถเลือกเวลาและสถานที่บริการได฾ตามสะดวก เช฽น สามารถสั่งซื้อสินค฾าได฾ทุกท่ี ทุกเวลาสามารถสอบถามขอ฾ มูลผ฽านทางโทรศัพท์ นักศึกษาทําการลงทะเบียน และตรวจผลการเรียนได฾โดยไม฽จาํ กัดสถานที่ เปน็ ตน฾ 3) เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นส่ิงท่ีจําเป็นสําหรับการดําเนินการจัดเก็บรวบรวมข฾อมูลในหน฽วยงานต฽างๆ ในปัจจุบันทุกหน฽วยงานไม฽ว฽าจะเป็นองค์กรของรัฐหรือเอกชนต฽างก็พัฒนาระบบรวบรวมจดั เกบ็ ขอ฾ มูลเพือ่ ใช฾ในองคก์ รเนอ่ื งจากสามารถเก็บข฾อมูลได฾จํานวนมาก ใช฾พ้ืนที่ในการจัดเก็บน฾อย อํานวยความสะดวกในการค฾นหา และปรับปรุงข฾อมูลให฾ทันสมัยได฾โดยง฽าย ตัวอย฽างของงานเช฽นระบบทะเบยี นราษฎร์ ระบบเวชระเบียนในโรงพยาบาล ระบบการจัดเก็บภาษี เป็นตน฾ 4) เทคโนโลยีสารสนเทศช฽วยการเสริมสร฾างคุณภาพชีวิตให฾ดีข้ึน สภาพความเป็นอยู฽ของสังคมเมือง มีการพัฒนาระบบประมวลผลด฾วยคอมพิวเตอร์ มีการพัฒนาระบบสื่อสารโทรคมนาคมเพื่อติดต฽อส่ือสารให฾สะดวกข้ึน ดังน้ันในการดําเนินชีวิตประจําวันจึงสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นจากการประยกุ ต์ใช฾เทคโนโลยีสารสนเทศกับเครื่องอํานวยความสะดวกภายในบ฾าน เช฽น บ฾านอัจฉริยะท่ีมีการควบคุมการทํางานด฾วยระบบคอมพิวเตอร์ ตู฾เย็นอัจฉริยะท่ีสามารถยืดอายุอาหารที่แช฽ในต฾ูเย็นและมีระบบเตือนเม่ืออาหารใกล฾หมดอายุ เป็นตน฾ 5) เทคโนโลยีสารสนเทศเพอ่ื การพฒั นาการเรยี นการสอน ปัจจุบันระบบการเรียนการสอนมีความยืดหยุ฽นมากยิ่งขึ้นเม่ือมีการนําเทคโนโลยีสารสนเทศมาประยุกต์ใช฾ในการเรียนการสอนท่ีเอื้อให฾ผ฾ูเรียนเรียนได฾ตามอัธยาศัยโดยไม฽จํากัดเวลา และสถานที่ เช฽น บทเรียนออนไลน์ที่สามารถเรียนผ฽านเว็บ ยบู คิ วติ ัสเลิร์นน่งิ (ubiquitous learning) ที่ผเ฾ู รยี นสามารถเลอื กเรยี นไดท฾ กุ ท่ี ทุกเวลา ตามความต฾องการของตน วีดีทัศน์ตามอัธยาศัยท่ีผู฾เรียนสามารถควบคุมบทเรียนได฾เหมือนเปิดวีดิทัศน์นอกจากนี้เทคโนโลยีสารสนเทศยังนํามาช฽วยในด฾านการจัดการเช฽น การจัดตารางสอน การคํานวณระดบั คะแนน การเก็บขอ฾ มูลต฽างๆ ของผ฾ูเรียน เป็นต฾น 6) เทคโนโลยสี ารสนเทศเพอ่ื การจัดการสภาพแวดล฾อม ในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติได฾มีการประยุกต์ใช฾เทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือช฽วยในการจัดการ อาทิ การใช฾ภาพถ฽ายดาวเทียม การใช฾ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ (Geographic Information System: GIS) การจําลองรูปแบบสภาวะ

15แวดล฾อม การติดตามข฾อมูลสภาพอากาศ การตรวจวัดมลภาวะ การจัดการนํ้าและการเฝูาระวังอุทกภยั ดว฾ ยระบบสารสนเทศภูมศิ าสตร์ เปน็ ตน฾ 7) การปูองกันประเทศและความมั่นคงโดยเทคโนโลยีสารสนเทศ ในด฾านกิจการทหาร และตํารวจเพื่อการรักษาความม่ันคงปลอดภัย และการปูองกันประเทศ มีการใช฾เทคโนโลยีสารสนเทศมาช฽วยในการดําเนินการ อาทิ การใช฾คอมพิวเตอร์ทําประวัติผู฾ก฽อการร฾าย ผู฾ก฽ออาชญากรรม ระบบเฝูาระวังโดยใช฾คอมพิวเตอร์เป็นตัวควบคุมการทํางาน อาวุธยุทธโธปกรณ์ และขีปนาวุธสมัยใหม฽ เป็นตน฾ 8) การผลิตในอุตสาหกรรม และการพาณิชยกรรม ในการแข฽งขันทางด฾านการผลิตสินค฾าอุตสาหกรรม จําเป็นต฾องหาวิธีในการเพ่ิมผลผลิต ควบคุมการผลิตให฾ได฾มาตรฐาน ดําเนินการได฾รวดเรว็ และลดตน฾ ทุนการผลิต เช฽น การใช฾ระบบคอมพิวเตอร์ควบคมุ การผลิต และการบริการ การใช฾ห฽ุนยนต์มาชว฽ ยในดา฾ นแรงงาน และการทดสอบคุณภาพแทนแรงงานของมนุษย์ เปน็ ต฾น 9) เทคโนโลยีสารสนเทศในด฾านการแพทย์ จะนํามาใช฾ในระบบแพทย์ทางไกล(Telemedicine) สามารถปรึกษาแพทย์ผ฾ูเชี่ยวชาญทางไกลได฾ อุปกรณ์ทางการแพทย์ท่ีนําระบบคอมพิวเตอร์มาช฽วยในการควบคุมคุณภาพและการตรวจรักษาโรค การใช฾ระบบแพทย์ผ฾ูเช่ียวชาญ(Expert System) เพ่ือการวินิจฉัยโรค 10) ความบันเทิงโดยอาศัยระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ปัจจุบันความบันเทิงรูปแบบต฽างๆได฾นําระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาใชเ฾ พ่ือเพิ่มขีดความบันเทิง ให฾ผ฾ูใช฾บริการได฾รับความสะดวกสบายมากยิ่งข้ึน เชน฽ การจองตัว๋ หนังทางออนไลน์ การใช฾คาราโอเกะออนดมี านด์ และระบบโฮมเธียร์เตอร์ที่ควบคุมด฾วยระบบคอมพวิ เตอร์ เป็นต฾น จะเห็นว฽าเทคโนโลยีสารสนเทศมีความสําคัญและมีประโยชน์ต฽อชีวิตประจําวันเป็นอย฽างมากสามารถประยุกต์ใช฾เทคโนโลยีสารสนเทศได฾หลากหลายสาขา อาทิ ด฾านการศึกษา การแพทย์ ด฾านอุตสาหกรรม ด฾านสิ่งแวดล฾อม ด฾านความบันเทิง ด฾านการทหารและตํารวจ ตลอดจนอํานายความสะดวกสบายในการดําเนินชีวิตประจําวนั มากยงิ่ ขึน้ผลกระทบของเทคโนโลยสี ารสนเทศ 1. ผลกระทบในเชงิ บวก การกําเนิดของคอมพิวเตอร์เมื่อประมาณหกสิบกว฽าปีที่แล฾ว เป็นก฾าวสําคัญท่ีนําไปส฽ูยุคสารสนเทศ ในช฽วงแรกมีการนําเอาคอมพิวเตอร์มาใช฾เป็นเครื่องคํานวณ แต฽ต฽อมาได฾มีความพยายามพัฒนาให฾คอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์สําคัญสําหรับการจัดการข฾อมูล เมื่อเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ได฾กา฾ วหน฾ามากข้ึน ทาํ ใหส฾ ามารถสร฾างคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดเล็กลง แต฽ประสิทธิภาพสูงขึ้น สภาพการใช฾งานจึงใช฾งานกันอย฽างแพร฽หลาย ผลของเทคโนโลยีสารสนเทศที่มีต฽อชีวิตความเป็นอยู฽และสังคมจึงมีมาก มีการเรียนร฾ูและใช฾สารสนเทศกันอย฽างกว฾างขวาง ผลของเทคโนโลยีสารสนเทศโดยรวมกล฽าวได฾ดงั น้ี 1.1 การสร฾างเสริมคุณภาพชีวิตท่ีดีขึ้น สภาพความเป็นอยู฽ของสังคมเมือง มีการพัฒนาใช฾ระบบสื่อสารโทรคมนาคมเพือ่ ตดิ ตอ฽ ส่ือสารให฾สะดวกขนึ้ มีการประยุกต์มาใช฾กับเคร่ืองอํานวยความสะดวกภายในบา฾ น เช฽น ใช฾ควบคุมเครือ่ งปรับอากาศและใช฾ควบคมุ ระบบไฟฟาู ภายในบ฾าน เป็นตน฾

16 1.2 เสรมิ สร฾างความเท฽าเทยี มในสังคมและการกระจายโอกาส เทคโนโลยีสารสนเทศทําให฾เกิดการกระจายไปท่ัวทุกหนทุกแห฽ง แม฾แต฽ถ่ินทุรกันดาร ทําให฾มีการกระจายโอกาสการเรียนร฾ู มีการใชร฾ ะบบการเรียนการสอนทางไกล การกระจายการเรียนร฾ูไปยังถิ่นห฽างไกล นอกจากน้ีในปัจจุบันมคี วามพยายามทีใ่ ช฾ระบบการรักษาพยาบาลผ฽านเครอื ข฽ายสื่อสาร 1.3 สารสนเทศกับการเรียนการสอนในสถาบันการศึกษา การเรียนการสอนในโรงเรียนมีการนําคอมพิวเตอร์และเคร่ืองมือประกอบช฽วยในการเรียนร฾ู เช฽น วีดิ ทัศน์ เครื่องฉายภาพคอมพิวเตอร์ช฽วยสอน คอมพิวเตอร์ช฽วยจัดการศึกษา จัดตารางสอน คํานวณระดับคะแนน จัดชั้นเรียน ทํารายงานเพื่อให฾ผู฾บริหารได฾ทราบถึงปัญหาและการแก฾ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในสถานศึกษาปัจจุบันมีการเรยี นการสอนทางด฾านเทคโนโลยสี ารสนเทศในสถานศกึ ษาทุกระดับมากย่ิงขน้ึ 1.4 เทคโนโลยีสารสนเทศกับสิ่งแวดล฾อม การจัดการทรัพยากรธรรมชาติหลายอย฽างจาํ เป็น ต฾องใชส฾ ารสนเทศ เชน฽ การดแู ลรักษาปุา จําเป็นต฾องใช฾ข฾อมูล มีการใช฾ภาพถ฽ายดาวเทียม การติดตามข฾อมูลสภาพอากาศ การพยากรณ์อากาศ การจําลองรูปแบบสภาวะส่ิงแวดล฾อมเพ่ือปรับปรุงแก฾ไข การเก็บรวมรวมข฾อมูลคุณภาพน้ําในแม฽น้ําต฽างๆ การตรวจวัดมลภาวะ ตลอดจนการใช฾ระบบการตรวจวัดระยะไกลมาช฽วย ที่เรียกว฽าโทรมาตร เป็นต฾น 1.5 เทคโนโลยีสารสนเทศกับการปูองกันประเทศ กิจการทางด฾านการทหารมีการใช฾เทคโนโลยี อาวุธยุทโธปกรณ์สมัยใหม฽ล฾วนแต฽เก่ียวข฾องกับคอมพิวเตอร์และระบบควบคุม มีการใช฾ระบบปูองกันภัย ระบบเฝาู ระวังทีม่ คี อมพิวเตอรค์ วบคุมการทํางาน 1.6 การผลติ ในอุตสาหกรรม และการพาณิชยกรรม การแข฽งขันทางด฾านการผลิตสินค฾าอุตสาหกรรมจําเป็นต฾องหาวิธีการในการผลิตให฾ได฾มาก ราคาถูกลงเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เข฾ามามีบทบาทมาก มีการใช฾ข฾อมูลข฽าวสารเพ่ือการบริหารและการจัดการ การดําเนินการและยังรวมไปถึงการใหบ฾ รกิ ารกบั ลกู คา฾ เพอ่ื ใหซ฾ อ้ื สินค฾าไดส฾ ะดวกข้ึน เทคโนโลยีสารสนเทศมีผลเกย่ี วขอ฾ งกบั ทุกเรอื่ งในชวี ติ ประจําวัน บทบาทเหล฽านี้มีแนวโน฾มทสี่ ําคญั มากยิง่ ข้ึน ดว฾ ยเหตุนเ้ี ยาวชนคนรนุ฽ ใหมจ฽ ึงควรเรยี นรู฾ และเขา฾ ใจเกย่ี วกับเทคโนโลยีสารสนเทศเพอื่ จะไดเ฾ ป็นกาํ ลังสําคญั ในการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศให฾ก฾าวหน฾าและเกิดประโยชน์ต฽อประเทศต฽อไป 2. ผลกระทบในเชงิ ลบ 2.1 ผลกระทบของเทคโนโลยีสารสนเทศตอ฽ การศกึ ษา การใชเ฾ ทคโนโลยสี ารสนเทศ มาผลติ สือ่ การเรยี นการสอนอาทิ บทเรียนคอมพิวเตอร์ช฽วยสอน บทเรยี นผา฽ นเวบ็ หรอื บทเรียนออนไลน์ (e-Learning) อาจทําใหเ฾ กดิ ปญั หาทีเ่ ห็นไดช฾ ัดเช฽น 2.1.1 ผู฾สอนกับผ฾ูเรียนจะขาดความสัมพันธ์และความใกล฾ชิดกันเพราะผ฾ูเรียน สามารถ ที่จะเรียนได฾ในโปรแกรมสําเร็จรูปทําให฾ความสําคัญของสถานศึกษาและผ฾ูสอนลดน฾อยลง 2.1.2 ผู฾เรียนท่ีมีฐานะยากจนไม฽สามารถที่จะใช฾ส่ือประเภทน้ีได฾ ทําให฾เกิดข฾อไดเ฾ ปรยี บเสียเปรยี บกนั ระหว฽างนักเรยี นที่มฐี านะดีและยากจน ทําให฾เห็นว฽าผู฾ที่มีฐานะทางเศรษฐกิจก็ย฽อมทีจ่ ะมีโอกาสทางการศกึ ษาและทางสงั คมดกี ว฽าด฾วย

17 ผลกระทบในการนาํ เทคโนโลยีสารสนเทศมาใชใ฾ นด฾านการเรียนการสอนควรนํามาใช฾เป็นส่ือเสริมอย฽างเหมาะสมต฾องยึดผ฾ูเรียนเป็นสําคัญให฾ผู฾เรียนเกิดกระบวนการคิด ส฽วนบทบาทของสถาบันการศึกษาควรจัดสรรสื่อให฾เพียงพอและเหมาะสมกับผู฾เรียนและสภาวะแวดล฾อม จะให฾ให฾เกิดการใชเ฾ ทคโนโลยีไดอ฾ ยา฽ งคุ฾มค฽า 2.2 ผลกระทบของเทคโนโลยีสารสนเทศต฽อส่ิงแวดล฾อม อาจเกิดปัญหามลพิษต฽อสง่ิ แวดล฾อม ทงั้ นีก้ ็เพราะมนุษย์นําเทคโนโลยีทางด฾านเทคโนโลยีสารสนเทศ ไปพัฒนาอย฽างผิดวิธีและนําไปใช฾ในทางที่ผิด เพราะมุ฽งเพียงแต฽จะก฽อประโยชน์ให฾แก฽ตนเองเท฽านั้น ดังนั้นผ฾ูนํามาใช฾จึงควรพิจารณาให฾รอบคอบ ความเหมาะสม มีการประเมินความจําเป็น วิเคราะห์ผลกระทบต฽อส่ิงแวดล฾อมก฽อนที่จะนํามาใช฾ 2.3 ผลกระทบของเทคโนโลยีสารสนเทศตอ฽ สังคม 2.3.1 การนําเทคโนโลยีมาใช฾อาจทําให฾เกิดปัญหาการว฽างงานจากการใช฾แรงงานมนุษย์ เพราะภาคอุตสาหกรรมหรือภาคการเกษตรมีความต฾องการใช฾แรงงานมนุษย์ลดลงในการเพ่ิมผลผลิต 2.3.2 การปรับตัวเพ่ือให฾ทันกับเทคโนโลยีสมัยใหม฽ของพนักงานท่ีมีอายุมากหรือมีความรู฾น฾อย ก็จะทําให฾ไม฽สามารถปรับตัวเข฾ากับเทคโนโลยีเหล฽านี้ได฾ และรู฾สึกว฽าเทคโนโลยีสมัยใหม฽เปน็ ส่ิงทที่ ําไดย฾ ากตอ฾ งมีความรจู฾ ึงจะเขา฾ ใจได฾ 2.3.3 สมาชิกในสงั คมมีการดําเนินชีวิตท่ีต฽างคนต฽างอยู฽ไม฽มีความสัมพันธ์กันภายในสงั คมเพราะตา฽ งมีชีวิตท่ีตอ฾ งรีบเร฽งและดนิ้ รน ดังน้ันคนในสังคมจึงต฾องปรับตัวให฾เข฾ากับยุคสังคมสารสนเทศ ต฾องพัฒนาตนเองรู฾เท฽าทันเทคโนโลยสี ารสนเทศแล฾วใชใ฾ หเ฾ หมาะสมกับงาน 2.4 ผลกระทบของเทคโนโลยีสารสนเทศตอ฽ เศรษฐกิจ 2.4.1 มนุษย์สามารถจับจ฽ายใช฾สอยได฾ง฽ายมากขึ้นเพราะมีบัตรเครดิตทําให฾ไม฽ต฾องพกเงนิ สด หากต฾องการซอ้ื อะไรที่ไมไ฽ ด฾เตรียมการไว฾ล฽วงหน฾าก็สามารถซ้ือได฾ทันทีเพียงแต฽มีบัตรเครดิตเท฽านั้นทําใหอ฾ ัตราการเปน็ หนสี้ ูงขน้ึ 2.4.2 การแข฽งขันกันทางธุรกิจมีมากข้ึนเพราะต฽างก็มุ฽งหวังผลกําไรซ่ึงก็เกิดผลดีคืออัตราการขยายตัวทางธุรกิจสูงขึ้นแต฽ผลกระทบก็เกิดตามมา ซึ่งบางครั้งก็ม฽ุงแต฽แข฽งขันจนลืมความมมี นุษยธรรมหรอื ความมนี ้ําใจไป หากจะนําเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช฾ในวงการธุรกิจ ควรเป็นลักษณะของหุ฾นส฽วนการค฾า การร฽วมทุน โดยนําเทคโนโลยีมาช฽วยในการส่ือสารและกําหนดมาตรฐานร฽วมกัน เช฽น การใช฾ระบบแลกเปลี่ยนเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ (Electronics Data Interchange: EDI) ในการแลกเปล่ียนเอกสารอิเลก็ ทรอนกิ ส์ในการค฾าอิเล็กทรอนิกส์ 2.5 ผลกระทบของเทคโนโลยีสารสนเทศต฽อสุขภาพจิต 2.5.1 เมอ่ื ดาํ เนินการชวี ติ แบบเดิมทเ่ี ป็นแบบเรียบงา฽ ย ต฾องเปลยี่ นมาปรับตวั ให฾ทันกบั เหตุการณป์ จั จบุ ันตลอดเวลากอ็ าจจะทําใหเ฾ กดิ ความเครียด ความวติ กกงั วลไมว฽ ฽าจะในหนา฾ ท่ีการงานหรอื การดําเนนิ ชีวิตประจําวัน 2.5.2 พฤติกรรมของเยาวชน โดยเฉพาะเกมคอมพิวเตอรท์ ําใหเ฾ ยาวชนมีพฤติกรรม

18ก฾าวร฾าว ชอบการตอ฽ ส฾ู และการใช฾กําลัง เป็นตน฾ 2.5.3 นักธุรกิจต฾องทํางานแข฽งกบั เวลา ไม฽มีเวลาได฾พกั ผ฽อนก็ก฽อให฾เกิดวามเครียดสขุ ภาพจิตกเ็ สียตามมาดว฾ ย ดังนั้นทุกคนในครอบครัวตลอดจนสังคมควรเอาใจใส฽ดูแลซึ่งกันและกัน ให฾ใช฾เทคโนโลยสี ารสนเทศให฾เหมาะสม ถกู ต฾องตามหลกั ศลี ธรรม กล฽าวโดยสรุปในการใช฾เทคโนโลยีสารสนเทศมีท้ังด฾านบวกและด฾านลบ หากนํามาใช฾ให฾เหมาะสมก็จะส฽งผลต฽อคุณภาพชีวิตให฾ดีขึ้น และเพ่ิมศักยภาพการทํางานในหลายสาขาอาชีพ เช฽นการศึกษา ส่ิงแวดล฾อม และด฾านอุตสาหกรรม เป็นต฾น แต฽หากใช฾เทคโนโลยีสารสนเทศโดยไม฽ระมัดระวังและขาดจิตสํานึก คุณธรรมจริยธรรมในการใช฾เทคโนโลยีสารสนเทศ ก็จะส฽งผลกระทบหลายด฾านเช฽นกัน อาทิ ด฾านสังคม สุขภาพจิต รวมถึงการศึกษาด฾วย ดังน้ันผู฾ใช฾เทคโนโลยีสารสนเทศจึงควรมีความรู฾ความเข฾าใจในเร่ืองของกฎหมายเทคโนโลยีสารสนเทศ จริยธรรมในการใช฾เทคโนโลยีสารสนเทศ รวมถึงความปลอดภัยในการใชง฾ านเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งจะได฾กล฽าวโดยละเอียดต฽อไปในบทที่ 8แนวโน้มการใชแ้ ละการบรกิ ารเทคโนโลยสี ารสนเทศ ด฾วยอัตราเร฽งของความก฾าวหน฾าทางเทคโนโลยี และการเปลี่ยนแปลงวิถีความต฾องการของผู฾ใช฾บริการ ทําให฾อนาคตของการใชแ฾ ละการบริการด฾านต฽างๆ เปลี่ยนแปลงไปมาก รูปแบบการใช฾และการบริการเป็นแบบอิเล็กทรอนิกส์มากข้ึน บริการได฾ทั่วถึง รวดเร็ว ต฾นทุนต่ํา และได฾ทุกสถานที่ สังคมโลกกําลังเปล่ียนแปลงเข฾าส฽ู e-Society เป็นการใช฾ชีวิตและดําเนินกิจการต฽างๆ ด฾วยข฾อมลู ข฽าวสารอิเล็กทรอนกิ ส์ กลม฽ุ ประเทศอาเซียนได฾บรรลขุ อ฾ ตกลงรว฽ มกนั ในการรวมกลุ฽ม เพ่ือให฾เป็นการดําเนินการแบบ e-Asian ประเทศไทยได฾ตั้งกลยุทธ์รับด฾วยการเตรียมประเทศเข฾าสู฽ e-Thailandโดยเน฾นให฾มีกิจกรรมการดําเนินการทางด฾านสังคมอิเล็กทรอนิกส์ในประเทศ เพื่อเตรียมการให฾สงั คมไทยเขา฾ ส฽ู e-Society กจิ กรรมท่ีต฾องดําเนนิ การคือ เรง฽ ส฽งเสรมิ ให฾ภาคเอกชนได฾ดําเนินธุรกิจแบบe-Business และภาคราชการเร฽งการให฾บริการแบบเบ็ดเสร็จ (one stop service) ด฾วยe-Government 1. การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศในอนาคต แนวโน฾มของเทคโนโลยีสารสนเทศ องค์กรต฽างๆ จะมีการใช฾ประโยชน์จากเทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ิมมากข้ึน เช฽น องค์กรของรัฐ โรงพยาบาล โรงเรียน อุตสาหกรรม และธุรกิจต฽าง ๆเนื่องจากอุปกรณ์อํานวยความสะดวก มีความหลากหลายทําให฾คอมพิวเตอร์มีการใช฾งานที่ง฽ายขึ้นมีการพัฒนาโปรแกรมท่ีทํางานเฉพาะด฾านต฽างๆ ได฾ตรงกับความต฾องการของผู฾ใช฾ เคร่ืองคอมพิวเตอร์จะสามารถทํางานได฾หลากหลายรูปแบบในเคร่ืองเดียว คือ มีความเป็นมัลติมีเดียมากข้ึน และประสิทธิภาพการทาํ งานกจ็ ะมกี ารประมวลผลเร็วขน้ึ การตดิ ต฽อสื่อสารกันระหว฽างเครื่องคอมพิวเตอร์ก็จะงา฽ ยขนึ้ เป็นเพราะเรามกี ารใช฾เทคโนโลยีด฾านต฽างๆ มาอํานวยความสะดวกมากข้ึนการติดต฽อส่ือสารกนั ทาํ ได฾ในระยะเวลาอันรวดเรว็ หน฽วยงานของรัฐหรอื รฐั วิสาหกิจมกี ารพฒั นาระบบสารสนเทศเพ่ือใช฾ในองค์กรด฾วยการเก็บข฾อมูลประมวลผลและวิเคราะห์ข฾อมูลแล฾วนําผลมาช฽วยในการวางแผนและตัดสินใจ ตวั อยา฽ งการใช฾เทคโนโลยสี ารสนเทศในอนาคตจะมรี ปู แบบดงั นี้

19 1.1 ดา฾ นการติดตอ฽ ส่ือสาร มนุษย์จะสามารถรับร฾ูข฽าวสารกนั ได฾อยา฽ งไม฽มีอุปสรรคดังคําที่\"โลกไร฾พรมแดน\"ไม฽ว฽าจะอยู฽ท่ีใดในโลกน้ีก็สามารถท่ีจะติดต฽อกับผ฾ูอ่ืนได฾โดยเครือข฽ายอินเทอร์เน็ตซ่ึงเป็นการลดเง่ือนไขด฾านเวลาและภูมิศาสตร์ และเชื่อมโยงกันด฾วยบริการเครือข฽ายสังคมออนไลน์จากการใช฾โซเชียลมเี ดียเพอ่ื การตดิ ตอ฽ สอื่ สาร 1.2 ดา฾ นการศึกษานกั เรียนนกั ศกึ ษาในอนาคตมีแนวโน฾มที่จะสามารถเรียนจากที่บ฾านได฾โดยไม฽ต฾องไปเรียนเหมือนปัจจุบันโดยการเรียนการสอนทางไกลผ฽านอินเทอร์เน็ต ไม฽ว฽าจะในประเทศหรือต฽างประเทศ และความร฾ูท่ีอยู฽บนอินเทอร์เน็ตก็มีไม฽จํากัดสาขาวิชาสามารถท่ีจะค฾นคว฾าจากห฾องสมุดต฽าง ๆ ได฾ท่ัวโลก โดยอาศัยแนวคิดยูเลิร์นน่ิง (U-Learning) หรือยูบิควิตัสเลิร์นนิ่ง และบริการเครือข฽ายสังคมออนไลน์มาประยุกต์ใช฾เพื่อการศึกษาให฾มีการปฏิสัมพั นธ์ในลักษณะชุมชนการเรียนรูอ฾ อนไลน์เพอ่ื ส฽งเสรมิ การแลกเปลย่ี นเรียนรรู฾ ฽วมกนั มากขน้ึ 1.3 ด฾านการดําเนินชีวิต มนุษย์จะมีชีวิตที่สุขสบายมากย่ิงขึ้นเพราะคอมพิวเตอร์จะมีการพัฒนาในรูปแบบของหุ฽นยนต์เพื่อทํางานแทนมนุษย์ งานที่ต฾องใช฾แรงงานที่มีความเสี่ยงสูงก็จะใช฾หุ฽นยนต์ทํางานแทน อุปกรณ์ต฽างๆ ภายในบ฾านก็จะควบคุมโดยระบบคอมพิวเตอร์ มนุษย์ไม฽ต฾องคอยดูแลความปลอดภัยหรือความเรียบร฾อยภายในบ฾านเอง แตจ฽ ะมโี ปรแกรมคอยตรวจสอบใหท฾ ง้ั หมดเป็นต฾น 1.4 ด฾านสขุ ภาพ วงการแพทย์จะมีความก฾าวหนา฾ ในการรักษาโรคมากขึ้นเพราะมีการนําเทคโนโลยีสารสนเทศมาประยุกต์ใช฾ทาํ ใหเ฾ กดิ แพทยอ์ อนไลน์ขึ้น ข฾อมูลที่เป็นประโยชน์ก็จะได฾เผยแพร฽ใหท฾ กุ คนไดร฾ บั รผ฾ู ฽านทางอนิ เทอร์เนต็ แพทยท์ ่ัวโลกสามารถท่ีจะรว฽ มมอื กันในการปฏิบตั ิงานได฾ 1.5 ด฾านการทอ฽ งเท่ยี วและความบนั เทิง สามารถทําผ฽านระบบอินเทอร์เน็ตได฾ท้ังหมดไม฽วา฽ จะเป็นการจองตั๋ว การตรวจสอบสถานท่ี การสอบถามข฾อมูล การดูหนังฟงั เพลงต฽างๆ ตลอดจนการซ้ือของโดยทผ่ี ูใ฾ ชบ฾ รกิ ารไมต฽ อ฾ งเดนิ ไปซ้ือของตามห฾างสรรพสินคา฾ เอง กล฽าวได฾วา฽ แนวโน฾มเทคโนโลยีสารสนเทศในอนาคต จะมีการประยุกต์ใช฾ในหลายสาขาอาชีพและในองค์กรหน฽วยงานต฽างๆ มากย่ิงข้ึนอย฽างกว฾างขวาง ซึ่งช฽วยอํานวยความสะดวก เพ่ิมประสิทธิภาพการทํางาน และเพิ่มผลผลิต รวมถึงเพ่ือความผ฽อนคลาย และความบันเทิง โดยใช฾เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์มาช฽วยในการประมวลผลเพื่อความรวดเร็วถูกต฾องแม฽นยํา ประสานกับเทคโนโลยีเครือข฽ายเพื่อการเผยแพร฽และการเข฾าถึงข฾อมูล อันจะส฽งผลต฽อการให฾บริการแก฽ผู฾ใช฾บริการเปล่ียนรปู แบบไปตามความกา฾ วหน฾าของเทคโนโลยสี ารสนเทศดงั จะได฾กลา฽ วในหัวขอ฾ ต฽อไป 2. การบริการในยุคเศรษฐกิจฐานบรกิ าร (Service-based Economy) ปัจจุบันเรากําลังเข฾าสู฽ยุคท่ีผู฾บริโภคถูกเรียกว฽า “สกรีนเนเจอร์” (Screenager) เพราะต฾องใช฾ชีวิตอยู฽กับจอแสดงผลของอุปกรณ์ต฽างๆ ท่ีเพ่ิมขึ้นอย฽างมากมายท้ังแท็บเล็ต พีซี สมาร์ทโฟนรวมถึงจอแอลซดี ตี ามปาู ยโฆษณาตา฽ งๆ ซึ่งสะทอ฾ นใหเ฾ ห็นว฽าเจนเนอร์เรชั่นคนรุ฽นใหม฽จะใช฾เวลาในการรบั ส่อื ผ฽านชอ฽ งทางที่เป็นจอแสดงผลอิเล็กทรอนิกส์ท่ีเชื่อมต฽อกับอินเทอร์เน็ตตลอดเวลา ทําให฾สื่อใหม฽(New Media) เติบโตมากข้ึนโดยเฉพาะกระแสโซเชียลเน็ตเวิร์ก สําหรับประเทศไทย ปี 2554 ผ฾ูใช฾เฟซบุ฿กเติบโตเกือบ 100 % จาก 6.7 ล฾านคน เป็น 13 ล฾านคน ตามด฾วยทวิตเตอร์ท่ีมีสัดส฽วนการใช฾งานเป็น 1 ใน 10 ของเฟซบุ฿ก ขณะที่ยูทูบ (Youtube) มียอดการเข฾าชมเฉล่ีย 1.2 ล฾านวิวต฽อวัน(นาตยา คชินทร, 2554, หน฾า 10) ดังน้ันการบริการสารสนเทศในอนาคต จะเป็นไปตาม

20ความก฾าวหน฾าทางเทคโนโลยีสารสนเทศ พฤติกรรมการใช฾ข฾อมูลข฽าวสารของผ฾ูใช฾ และสภาพทางเศรษฐกิจของแต฽ละชมุ ชน แนวโนม฾ การให฾บริการจงึ ใช฾ช฽องทางผา฽ นอปุ กรณ์ท่ีใชง฾ านงา฽ ย และสะดวกในการพกพา เช฽น โทรศพั ทม์ อื ถอื และแท็บเล็ต ตัวอยา฽ งนวัตกรรมการบริการดงั น้ี 2.1 การดาวน์โหลดโปรแกรมประยุกต์ (Application) อันเน่ืองจากการใช฾งานบริการด฾านข฾อมูลเน้ือหา (Content) ท่ีมีจํานวนมากขึ้น การดาวน์โหลดเกม แผนที่ เพลง ข฽าวสารอื่นๆ จึงมีความต฾องการโปรแกรมประยุกต์มากข้ึน ยอดการดาวน์โหลดโปรแกรมประยุกต์จึงเติบโตสูงข้ึน จากข฾อมูลยอดการดาวน์โหลดโปรแกรมประยุกต์ไปใช฾มากท่ีสุดคือ iPhone คิดเป็นร฾อยละ 65 รองลงมาเป็นระบบปฏิบัติการ Android ร฾อยละ 9 Java ร฾อยละ 8 Symbian ร฾อยละ 7 และโปรแกรมอื่นๆร฾อยละ 11 โดยแบรนด์ที่มีโปรแกรมประยุกต์ให฾เลือกมากท่ีสุดคือ Apple Store บน iPhoneรองลงมาเปน็ Android และ Symbian (อตริ ฒุ ม์ โตทวแี สนสขุ , 2552) 2.2 เทคโนโลยี QR Code (Quick Respond Code) มีวัตถุประสงค์ให฾ทําการถอดรหัสโค฾ดอย฽างรวดเรว็ สามารถเข฾าถงึ แหลง฽ ข฾อมูลน้นั ๆ ไดอ฾ ย฽างรวดเร็ว เทคโนโลยีนี้มี 2 รูปแบบ ได฾แก฽ QRCode และ Bee Tag คือ สัญลักษณ์ของข฾อมูล ท่ีเป็นทั้งข฾อความ รูปภาพ SMS เบอร์โทรศัพท์ พิกัดทางภูมศิ าสตร์ หรือเป็น URL ของเว็บไซต์แหล฽งข฾อมูลนั้นๆ หรือจะออกแบบมาให฾เหมือนกับบาร์โค฾ดของสนิ ค฾า โดยตดิ ตง้ั โปรแกรมประยกุ ตส์ าํ หรับอ฽าน QR Code มาใสไ฽ วใ฾ นโทรศพั ท์มือถือ และสามารถใช฾กล฾องของโทรศัพท์มือถือไปสแกนเพ่ืออ฽านข฾อมูลหรืออ฽านโค฾ดนั้นๆ ประโยชน์ของ QR Code เพื่อการประชาสมั พนั ธ์ การตดิ ต฽อสื่อสาร ตาํ ราหรือหนงั สือต฽างๆ ในอนาคตก็อาจทําในรูป QR Code เพื่อประหยดั พ้ืนทแี่ ละสามารถอา฽ นข฾อมลู ได฾ในทุกอุปกรณ์พกพา 2.3 นวัตกรรม Mobile Payment เป็นการอํานวยความสะดวกในการทําธุรกรรมทางการเงินและชําระเงินผ฽านโทรศัพท์มือถือ โดยเฉพาะอย฽างยิ่งวิธีการแบบ Mobile ContactlessPayment กําลงั ไดร฾ บั ความนยิ มเป็นอย฽างสูงในประเทศญี่ปุน โดยการชําระเงินด฾วยโทรศัพท์เคล่ือนท่ีผา฽ นระบบไรส฾ มั ผัส (Contactless) ผ฾ูใชบ฾ ริการเพียงแคแ฽ ตะโทรศัพท์ทมี่ ีบริการ PayPass หรืออุปกรณ์มือถืออ่ืนบนเครือ่ งอา฽ น PayPass ก็สามารถชําระสนิ ค฾านั้นได฾ 3. การบรกิ ารแบบเว็บบริการและการเชอื่ มโยงสารสนเทศ แนวโน฾มการใช฾และการบริการเทคโนโลยีสารสนเทศในอนาคตจะมีการใช฾เทคโนโลยีเครือข฽ายที่ทําให฾สื่อสารกันได฾ทุกที่ ทุกเวลา และเข฾าถึงสารสนเทศ ตลอดจนใช฾คอมพิวเตอร์ทั้งโดยทางตรงและทางอ฾อม ในการประยุกต์ใช฾งานด฾านต฽างๆ เช฽น ด฾านการแพทย์ การรักษาความปลอดภัยการดํารงชีวิตในชีวิตประจําวันตลอดจนทางการศึกษาที่นํามาใช฾ เรียกว฽า ยูบิควิตัสเลิร์นน่ิงหรือยูเลิร์นน่ิง นอกจากน้ีจะมีการใช฾นาโนเทคโนโลยีเพื่อเพ่ิมประสิทธิภาพการทํางานของอุปกรณ์ต฽างๆนับต้ังแต฽เครื่องคอมพิวเตอร์ท่ีสามารถประมวลผลได฾เร็วข้ึน เช฽น คอมพิวเตอร์แบบควอน ตัม(Quantum Computer) คอมพิวเตอร์ดีเอ็นเอ (DNA Computer) กริดคอมพิวต้ิง (GridComputing) และคลาวน์คอมพิวติ้ง (Cloud Computing) ส฽วนแนวโน฾มการใช฾และการให฾บริการของสถาบันบริการสารสนเทศในอนาคต ระบบห฾องสมุดอัตโนมัติเป็น Integrated Library Systemโดยมีรูปแบบการบริการผ฽านเว็บเมตาดาตา (Metadata) เพื่อเช่ือมโยงไปยังทรัพยากร (ResourceLink) และมีการสืบค฾นข฾ามฐานข฾อมูลได฾ (Cross Database Searching) นอกจากนี้ผ฾ูใช฾ยังมีส฽วนร฽วมในการลงรายการทรพั ยากรและเชอ่ื มโยงข฾อมูลไปยังข฾อมูลที่ต฾องการเองได฾ สามารถแลกเปลี่ยนข฾อมูล

21ระหว฽างกันได฾ ในลักษณะเครือข฽ายสังคมออนไลน์ การบริการสารสนเทศจะให฾บริการทรัพยากรสิ่งพิมพ์ร฽วมกับฐานข฾อมูลออนไลน์ มีการจัดส฽งทรัพยากรให฾ผู฾ใช฾ (Document Delivery) รวมถึงทรัพยากรทางอิเล็กทรอนิกส์อ่ืนๆ (e-Resource) และผู฾ใช฾บริการจะเป็นผู฾เลือกใช฾แหล฽งสารสนเทศท่ีเป็นลักษณะมัลติมีเดีย และใช฾ฐานข฾อมูลมัลติมีเดียด฾วยตนเอง ในส฽วนของการเข฾าถึงสารสนเทศ(Access to Information) สามารถใช฾บริการข฾อมูลออนไลน์ผ฽านระบบเครือข฽ายไร฾สาย รวมถึงผ฽านโทรศพั ท์มอื ถือ ในด฾านเครือข฽ายความร฽วมมือ (Consortium) สถาบันบริการสารสนเทศแต฽ละแห฽งจะเป็นพันธมิตรกันเพ่ือเจรจาต฽อรองฐานข฾อมูลแต฽ละประเภท ซ้ือทรัพยากรสารสนเทศร฽วมกัน และใช฾งานทรพั ยากรตา฽ งๆ รว฽ มกนั รวมถึงการพฒั นาระบบสารสนเทศรว฽ มกันดว฾ ยสรปุ เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นเทคโนโลยีที่มีการดําเนินการเพ่ือให฾มีการจัดทําสารสนเทศไว฾ใช฾งานมีการประยุกต์เคร่ืองมือและอุปกรณ์ต฽างๆ ได฾แก฽ คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์โทรคมนาคมเครื่องประมวลผลคําและเคร่ืองมือท่ีประมวลผลได฾โดยอัตโนมัติอ่ืนๆ เพื่อรวบรวมจัดเก็บข฾อมูลจากแหล฽งขอ฾ มูล การผลติ ส่ือสาร บนั ทกึ เรยี บเรียงใหม฽ และแสวงหาประโยชน์จากสารสนเทศเพื่อให฾ผ฾ูใช฾สามารถเข฾าถึงสารสนเทศและใช฾ง฽านร฽วมกันได฾อย฽างสะดวก พัฒนาการของเทคโนโลยีสารสนเทศมีพฒั นาการมายาวนานกว฽าจะเปน็ เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ท่ีมีขนาดเล็ก ราคาถกู และประสิทธิภาพสูงท่ีใชใ฾ นปัจจบุ ัน ส฽วนเทคโนโลยีด฾านการส่ือสารโทรคมนาคมก็พัฒนาจนเป็นเทคโนโลยีเครือข฽าย ก฽อเกิดเว็บ 2.0 ท่ีผู฾ใชง฾ านมสี ว฽ นร฽วมในการแสดงความคดิ เห็น และมสี ฽วนรว฽ มในการนาํ เสนอเนื้อหาผ฽านบล็อกจนกลายเป็นเว็บ 3.0 ในปัจจุบันท่ีมีลักษณะเป็นปัญญาประดิษฐ์ ส฽วนประโยชน์ของเทคโนโลยีสารสนเทศมีประโยชน์มากมายไม฽ว฽าจะเป็นการเพ่ิมประสิทธิภาพการผลิตสารสนเทศ อํานวยความสะดวกในการเขา฾ ถงึ และลดปญั หาดา฾ นเวลาและภูมิศาสตร์ รวมถึงนํามาประยุกต์ใช฾งานในสาขาอาชีพตา฽ งๆ ไมว฽ ฽าจะเปน็ การศึกษา ธุรกิจ ธนาคาร ด฾านตํารวจและความมั่นคงของประเทศ ด฾านการแพทย์การบันเทิง และการจัดการสิ่งแวดล฾อม รวมถึงการให฾บริการในรูปแบบต฽างๆ ที่อํานวยความสะดวกและการเข฾าถึงผ฽านระบบเครือข฽ายสังคมออนไลน์ ดังน้ันผ฾ูเก่ียวข฾องในการใช฾และพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศจึงต฾องพิจารณาการใช฾ การให฾บริการอย฽างเหมาะสมท้ังน้ีเพราะเทคโนโลยีสารสนเทศมีทั้งผลกระทบในทางบวกและในทางลบ

22 คาถามทบทวน 1. ให฾นกั ศึกษาอธิบายความสัมพนั ธร์ ะหว฽างข฾อมูล สารสนเทศ และเทคโนโลยีสารสนเทศ 2. ในชีวติ ประจําวันของนกั ศึกษามีการใชเ฾ ทคโนโลยสี ารสนเทศในด฾านใดบ฾าง 3. ในชีวิตประจาํ วันของนักศึกษามีการใชฮ฾ าร์ดแวร์อะไรบ฾างและอุปกรณด์ ังกล฽าวอย฽ูในหน฽วยใด 4. นักศึกษามีการใช฾ซอฟตแ์ วรเ์ พือ่ การจดั การเรียนการสอนอะไรบ฾าง 5. ให฾นักศกึ ษาเปรยี บเทียบลักษณะของเวบ็ 1.0 เว็บ 2.0 และเวบ็ 3.0 และการนําไปใช฾งานในดา฾ นการเรยี นการสอนของนักศึกษา 6. ใหน฾ ักศึกษานาํ เสนอความคิดเหน็ การนาํ สื่อใหม฽มาใช฾ในการเรยี นการสอนในสาขาวิชาชีพของนักศึกษา 7. ให฾นกั ศกึ ษาแสดงความคิดเห็นอนาคตของเครือข฽ายสงั คมออนไลน์กบั การทาํ งานในชวี ติ ประจําวัน 8. นักศึกษามีการดาวน์โหลดโปรแกรมประยุกตใ์ ช฾ (Application) ตัวใดบา฾ งแลว฾ นาํ มาประยุกตใ์ ชใ฾ นชวี ติ ประจาํ วันอย฽างไร 9. ตามความคิดเหน็ ของนักศึกษาจะมกี ารประยุกตใ์ ชเ฾ ทคโนโลยี QR Code ในชวี ิตประจําวันอย฽างไรบา฾ ง 10. ให฾นักศกึ ษาอธิบายผลกระทบของเทคโนโลยสี ารสนเทศทง้ั ในเชงิ บวกและเชิงลบจากการใช฾งานในชีวติ ประจาํ วนั ของนักศึกษา

บทท่ี 2 เทคโนโลยีคอมพวิ เตอร์ อาจารยก์ าญจนา เผอื กคง ในปัจจุบันทุกองค์กรมีการประยุกต์ใช฾เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดําเนินงานขององค์กรเพื่อให฾บรรลุเปูาหมายสูงสุดขององค์กร เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เป็นองค์ประกอบสําคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ท้ังนี้เพราะคอมพิวเตอร์เป็นเคร่ืองมือพ้ืนฐานในการจัดการข฾อมูล สารสนเทศ และจัดการความรู฾ในองค์กรรวมถึงการประยุกต์ใช฾คอมพิวเตอร์ยังเป็นพ้ืนฐานท่ีก฽อให฾เกิดการคิดค฾นนวัตกรรมใหม฽ๆ ท่ีสร฾างสรรค์ขึ้นมาเพื่อใหอ฾ งค์กรมีศักยภาพในการแข฽งขันกับค฽ูแข฽งภายนอกได฾มากย่ิงขึ้น นอกจากความสําคัญของคอมพิวเตอร์ที่มีต฽อการเพ่ิมประสิทธิภาพขององค์กรแล฾ว ในส฽วนของการใช฾งานส฽วนบุคคลคอมพิวเตอร์ได฾เข฾ามามีบทบาทอย฽างมากในการทํางาน การติดต฽อส่ือสารของผู฾คนในยุคของการใช฾เครือข฽ายสังคมออนไลน์ความรู้พน้ื ฐานเก่ียวกับคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์ หมายถึง เครอื่ งอเิ ล็กทรอนิกส์แบบอัตโนมัติทําหน฾าที่เสมือนสมองกลใช฾สําหรับแก฾ปัญหาต฽าง ๆ ทั้งท่งี า฽ ยและซบั ซอ฾ น โดยวธิ ที างคณิตศาสตร์ (ราชบัณฑิตยสถาน, 2542) นับจากอดีตมาจนถึงปัจจุบันคอมพิวเตอร์ได฾มีการพัฒนาการทํางานมาอย฽างต฽อเนื่อง ท้ังในด฾านของขนาดที่เลก็ ลง ความเร็วในการประมวลผลข฾อมูลเร็วสูงขึ้น ความสามารถในการจัดเก็บข฾อมูลมมี ากขึ้น ความสามารถในการสอ่ื สารขอ฾ มลู ทาํ ไดเ฾ ร็วขึน้ 1. ลักษณะเด่นของคอมพวิ เตอร์ เนื่องจากคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มนุษย์เป็นผู฾ประดิษฐ์ข้ึนมาความสามารถในการทํางานของเครอื่ งคอมพวิ เตอรม์ ีลักษณะเด฽นท่ีแตกต฽างจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อน่ื ๆ ดงั น้ี 1.1 การปฏบิ ัติงานอัตโนมัติ (self acting) เป็นความสามารถของเคร่ืองคอมพิวเตอร์ ในการประมวลผลข฾อมูลตามลําดับคําสั่ง ได฾ถูกต฾อง ต฽อเนื่อง โดยอัตโนมัติ ตามคําส่ังและข้ันตอนท่ีผใ฾ู ช฾งานคอมพวิ เตอรเ์ ป็นผกู฾ าํ หนดไว฾ 1.2 ความเร็ว (speed) เป็นความสามารถในการประมวลผลข฾อมูล (processingspeed) ภายในเวลาท่ีส้ันท่ีสุด ความเร็วในการประมวลผลจะเป็นตัวบ฽งช้ีประสิทธิภาพของคอมพิวเตอร์ ความเร็วของการประมวลผลของเครื่องคอมพิวเตอร์พิจารณาจากความสามารถในการประมวลผลซ้ําๆ ในช฽วงเวลาหน่ึงๆ ที่เรียกว฽า \"ความถ่ี (frequency)\" โดยนับความถี่เป็น \"จํานวนคําสั่ง\" \"จํานวนครั้ง\" หรือ \"จํานวนรอบ\" ในหนึ่งนาที (cycle/second) โดยเรียกหน฽วยความเร็วน้ีว฽าเฮิร์ซ (Hertz : Hz) ตัวอย฽างเช฽น ประมวลผลได฾ 100 คําสั่ง (100 ครั้ง หรือ 100 รอบ) ใน 1 วินาทีเรียกว฽า มีความถี่ (ความเร็ว) 100 Hz นั่นเอง ความเร็วในการประมวลผลข฾อมูล จะถูกกําหนดโดย

24หน฽วยประมวลผล (processor) ภายในซีพียู ซ่ึงคอมพิวเตอร์ในปัจจุบันสามารถประมวลผลคําส่ังได฾มากกวา฽ ล฾านคาํ สงั่ ต฽อวินาที เช฽น เคร่ืองคอมพิวเตอร์แบบต้ังโต฿ะ ที่มีความเร็วของการประมวลผลเป็น3.0 GHz จะมคี วามเรว็ ในการประมวลผล 3 พนั ลา฾ นคําสง่ั ภายใน 1 วนิ าที เป็นต฾น 1.3 การจัดเก็บข฾อมูล (storage) เป็นความสามารถในการเก็บข฾อมูลในตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ท่ีสามารถจัดเก็บได฾เป็นจํานวนมากและสามารถเก็บได฾เป็นระยะเวลานาน โดยเฉพาะอย฽างย่ิงคอมพิวเตอร์ในยุคปจั จุบนั สามารถจัดเก็บข฾อมูลที่เป็นมัลติมีเดีย ทําให฾เกิดการประยุกต์ใช฾งานคอมพิวเตอร์เพือ่ ความบนั เทิงมากข้ึน 1.4 ความน฽าเชื่อถือ (reliability) เป็นความสามารถท่ีเกี่ยวข฾องกับโปรแกรมคําส่ังและข฾อมูล ท่ีนักคอมพิวเตอร์ได฾กําหนดให฾กับเครื่องคอมพิวเตอร์ เพื่อกําหนดความน฽าเช่ือถือของคอมพิวเตอร์ คือ GIGO หรือ Garbage In Garbage Out น่ันคือ ถ฾าปูอนคําสั่งหรือใช฾ข฾อมูลท่ีไม฽สมบรู ณ์ก็อาจจะไดผ฾ ลลัพธท์ ่ไี ม฽ดเี ท฽าท่คี วร 1.5 ความถูกต฾องแม฽นยํา (accuracy) เป็นความถูกต฾องแม฽นของการคํานวณของเครื่องคอมพิวเตอร์ ดังนั้นการคํานวณตัวเลขจํานวนมาก หรือคํานวณสูตรที่ซับซ฾อนจะนิยมใช฾เคร่ืองคอมพวิ เตอรใ์ นการคํานวณ 1.6 การทํางานซํ้าๆ (repeatability) เป็นความสามารถของเคร่ืองคอมพิวเตอร์ท่ีสามารถวนทาํ งานซาํ้ ๆ ได฾ ขน้ึ กับโปรแกรมท่ีสง่ั ใหค฾ อมพวิ เตอร์ทํางาน ทําใหส฾ ามารถทาํ งานไดเ฾ ร็วขนึ้ 1.7 การติดต฽อส่ือสาร (communication) เป็นความสามารถของเครื่องคอมพิวเตอร์ท่ีทําใหผ฾ ฾ใู ช฾งานสามารถทําการตดิ ต฽อสือ่ สารกนั ไดผ฾ ฽านระบบเครอื ข฽ายคอมพวิ เตอร์ 2. หลกั การทางานของคอมพวิ เตอร์ เพ่ือให฾เกิดการใช฾คอมพิวเตอร์สําหรับการทํางานอย฽างมีประสิทธิภาพ ผ฾ูใช฾คอมพิวเตอร์ต฾องเข฾าใจหลักการทํางานของคอมพิวเตอร์ รวมถึงต฾องรู฾จักส฽วนประกอบสําคัญของคอมพิวเตอร์เนือ่ งจากคอมพิวเตอรเ์ ป็นอุปกรณ์อเิ ลก็ ทรอนิกส์ที่ทํางานตามชุดคําส่ังหรือโปรแกรมตามที่มนุษย์เป็นผกู฾ าํ หนดเข฾าไป หลกั การทํางานของคอมพวิ เตอร์ ดังแสดงในภาพที่ 2.1 ภาพที่ 2.1 หลกั การทาํ งานของคอมพวิ เตอร์ ที่มา (ศูนยเ์ ทคโนโลยอี ิเลก็ ทรอนกิ สแ์ ละคอมพิวเตอร์แห฽งชาติ, 2554)

25 จากภาพที่ 2.1 สามารถอธบิ ายหลกั การทํางานของคอมพิวเตอร์ได฾ ดงั น้ี 2.1 มีการรบั ข฾อมูลคาํ สง่ั เข฾ามายงั เครอ่ื งคอมพิวเตอร์ผา฽ นหน฽วยรับข฾อมลู /คําส่งั 2.2 ข฾อมูลจะถกู ส฽งต฽อไปยังหน฽วยประมวลผลกลางเพื่อทําการประมวลผลตามคําสั่งท่ีต้ังไว฾ 2.3 ในขณะท่ีทําการประมวลผลหน฽วยความจําหลักจะทําหน฾าที่เก็บคําส่ังต฽างๆ ในการประมวลผล 2.4 เม่ือประมวลผลเสรจ็ แล฾ว ผลลัพธจ์ ะถกู เก็บท่ีหนว฽ ยความจาํ สาํ รอง 2.5 หน฽วยแสดงผลทําหนา฾ ที่แสดงผลลพั ธ์จากการประมวลผลฮาร์ดแวรค์ อมพวิ เตอร์ ฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์ (computer hardware) หมายถึง อุปกรณ์ต฽างๆ ท่ีประกอบข้ึนเป็นเคร่ืองคอมพิวเตอร์ โดยมีลักษณะเป็นโครงร฽างสามารถมองเห็นด฾วยตาและสัมผัสได฾ (พงษ์ศักด์ิผกามาศ, 2553, หน฾า 64) ส฽วนประกอบของฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์มีดังน้ี 1. หน่วยรบั ข้อมลู เข้า หน฽วยรับข฾อมูล (input unit) เป็นอุปกรณ์ท่ีทําหน฾าที่รับข฾อมูล/คําส่ัง เข฾าไปยังเคร่ืองคอมพวิ เตอร์ ข฾อมลู ทนี่ ําเขา฾ คอมพิวเตอร์ เป็นได฾ท้ังตัวอักษร ตัวเลข สัญลักษณ์ เสียง ภาพ มัลติมีเดียอุปกรณท์ ที่ ําหน฾าทเ่ี ปน็ หน฽วยรับขอ฾ มลู ประกอบดว฾ ย 1.1 อุปกรณ์รับคําสั่งจากผู฾ใช฾ เพื่อสั่งการให฾คอมพิวเตอร์ทํางาน ได฾แก฽ เมาส์ (mouse)คีย์บอร์ด (keyboard) ที่พบได฾ในเครื่องคอมพิวเตอร์แบบต้ังโต฿ะ แพดสัมผัสของคอมพิวเตอร์โน฾ตบ฿ุก(touch pad) จอภาพแบบสัมผัส (touch screen) ซ่ึงปัจจุบันพบเห็นได฾ทั่วไปในคอมพิวเตอร์แบบแท็บเลต็ ตัวอยา฽ งอปุ กรณ์รับคําส่งั ดงั ภาพที่ 2.2 ภาพท่ี 2.2 อุปกรณ์รับคาํ สงั่ ของเครอ่ื งคอมพิวเตอร์ 1.2 อปุ กรณท์ ่นี าํ เข฾าข฾อมูลจากภายนอกเข฾ามาสู฽เคร่ืองคอมพิวเตอร์ เช฽น ข฾อมูลภาพข฾อมูลเสียงและข฾อมูลวีดิทัศน์ ซึ่งอุปกรณ์นําเข฾าข฾อมูลเหล฽านี้อาจจะต฾องทําการจัดซื้อเพิ่มเติม ได฾แก฽ไมโครโฟน กล฾องถา฽ ยรปู ดิจิทัล สแกนเนอร์และกล฾องบันทึกวิดีโอ เป็นต฾น โดยผู฾ใช฾ต฾องทําการเชื่อมต฽ออุปกรณ์เหล฽านี้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ จากน้ันทําการโอนย฾ายข฾อมูลเข฾ามาเพ่ือนําไปใช฾งานต฽อไปอุปกรณ์นําเขา฾ ข฾อมลู ภายนอกมายังเคร่ืองคอมพิวเตอร์ดังภาพที่ 2.3

26 ภาพท่ี 2.3 อปุ กรณน์ าํ เข฾าข฾อมูลภายนอกมายงั เครื่องคอมพิวเตอร์ 1.3 อุปกรณ์นําเข฾าข฾อมูลที่ทําให฾คอมพิวเตอร์รับรู฾และแยกแยะความแตกต฽างระหว฽างอักขระและรูปแบบ (recognition device) เช฽น เคร่ืองอ฽านรหัสบาร์โค฿ด (barcode reader) และอุปกรณ์พวก optical mark recognition (OMR) ซ่ึงเป็นอุปกรณ์อ฽านจุดที่ทําการมาร์ค เช฽น เครื่องตรวจขอ฾ สอบ เปน็ ต฾น อปุ กรณ์ทีท่ ําใหค฾ อมพิวเตอรร์ บั รู฾และแยกแยะความแตกต฽างระหว฽างอักขระและรปู แบบดังแสดงในภาพที่ 2.4เคร่ืองอ฽านบารโ์ คด฾ เครื่องตรวจกระดาษคําตอบภาพที่ 2.4 อปุ กรณ์ท่ีทําให฾คอมพวิ เตอร์รับร฾ูและแยกแยะความแตกตา฽ งระหว฽างอักขระและรูปแบบ 2. หน่วยประมวลผลกลาง หน฽วยประมวลผลกลาง (central processing unit: CPU) เปรียบเสมือนสมองของคอมพิวเตอร์ ทําหน฾าที่เป็นศูนย์กลางการประมวลผลและควบคุมระบบการทํางานต฽างๆ ของคอมพวิ เตอร์ เพื่อใหอ฾ ุปกรณท์ ี่เกี่ยวข฾องกบั คอมพิวเตอร์ทุกอย฽างทํางานสอดคล฾องสัมพันธ์กันดังภาพท่ี2.5 ภาพที่ 2.5 สว฽ นประกอบของหน฽วยประมวลผลกลางทม่ี า (ศนู ยเ์ ทคโนโลยีอเิ ล็กทรอนกิ สแ์ ละคอมพิวเตอร์แหง฽ ชาติ, 2554)

27 ส฽วนประกอบของหนว฽ ยประมวลผลกลาง มดี ังน้ี 2.1 หน฽วยควบคุม (control unit) ทําหน฾าท่ีควบคุมการทํางานของอุปกรณ์ทุกๆอุปกรณ์ ในหน฽วยประมวลผลกลาง รวมถึงอุปกรณ์อื่นๆ ที่นํามาต฽อพ฽วงเพ่ือควบคุมการทํางานสว฽ นประกอบตา฽ งๆ ของคอมพวิ เตอร์ แปลคําส่ังท่ีปูอนเข฾าส฽ูคอมพิวเตอร์ ควบคุมให฾หน฽วยรับข฾อมูลทําการรับขอ฾ มลู เข฾ามาเพอ่ื ทาํ การประมวลผล ควบคุมให฾หน฽วยคํานวณและตรรกะทําการคํานวณข฾อมูลที่รบั เขา฾ มา ตลอดจนควบคมุ การแสดงผลลพั ธ์ 2.2 หน฽วยคํานวณและตรรกะ (arithmetic and logic unit: ALU) ทําหน฾าที่คํานวณทางคณิตศาสตร์ (arithmetic operations) และการคํานวณทางตรรกศาสตร์ (logicaloperations) โดยปฏิบัติการท่ีเก่ียวกับการคํานวณต฽างๆ เช฽น การบวก ลบ คูณ และหาร สําหรับการคํานวณทางตรรกศาสตร์ ประกอบด฾วย การเปรียบเทียบค฽าจริง หรือเท็จโดยมีเง่ือนไข มากกว฽า น฾อยกว฽า หรอื เท฽ากับ 2.3 หน฽วยความจาํ หลัก (main memory Unit) เป็นส฽วนหนง่ึ ของหน฽วยความจํา มีชื่อเรียกต฽างกันออกไป เช฽น main memory unit, primary storage unit และ internal storageunit หน฽วยความจําหลักทําหน฾าท่ีเก็บข฾อมูลและคําสั่งท่ีใช฾ในการประมวลผลในคร้ังหน่ึงๆ เท฽านั้น ซ่ึงขอ฾ มลู และคําสั่งจะถกู ส฽งมาจากหน฽วยควบคมุ หน฽วยความจําหลักสามารถแบง฽ ไดเ฾ ป็น 2 ประเภท คอื 2.3.1 รอม (read only memory: ROM) เปน็ หนว฽ ยความจําสําหรับเก็บคําส่ัง(program memory) ท่ีใช฾บ฽อยๆ เช฽น คําส่ังเร่ิมต฾นการทํางานของคอมพิวเตอร์ โดยคําส่ังน้ีจะอยู฽ภายในคอมพิวเตอร์ตลอดไปแม฾ว฽าจะทําการปิดเคร่ืองก็ตาม หน฽วยความจําประเภทน้ีจะมีการเปล่ียนแปลงของข฾อมูลน฾อยมาก เช฽น ข฾อมูลท่ีใช฾ในการเร่ิมต฾นระบบ (start up) ข฾อมูลควบคุมการรบั ส฽งคําสัง่ /ขอ฾ มลู ตลอดจนการแสดงผล เปน็ ตน฾ 2.3.2 แรม (random access memory: RAM) เป็นหน฽วยความจําสําหรับเก็บข฾อมูลและคําสั่ง (data & programming memory) จากหน฽วยรับข฾อมูล ข฾อมูลและคําสั่งเหล฽านั้นจะหายไปเมื่อมีการรับข฾อมูล/คําส่ังใหม฽ หรือในกรณีที่กระแสไฟฟูาขัดข฾องหรือปิดเคร่ืองหน฽วยความจําแรมเป็นหน฽วยความจําท่ีสําคัญของคอมพิวเตอร์ ถ฾าคอมพิวเตอร์มีความเร็วในการประมวลผลสูงและหน฽วยความจําแรมมีความจุสูง ก็จะช฽วยเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลให฾เร็วมากย่งิ ข้นึ 3. หน่วยความจา หน฽วยความจาํ ของคอมพวิ เตอร์ (memory unit) คือ ส฽วนท่ีใช฾เก็บข฾อมูล/คําส่ัง สามารถแบ฽งได฾เป็น 2 ประเภท คอื 3.1 หน฽วยความจําหลัก (main memory unit) เป็นส฽วนหน่ึงของหน฽วยประมวลผลกลาง ดังกล฽าวไปแลว฾ ขา฾ งตน฾ 3.2 หน฽วยความจําสํารอง (secondary memory unit) เป็นหน฽วยความจําท่ีใช฾เก็บข฾อมูลต฽างๆ ที่ได฾ผ฽านกระบวนการประมวลผลมาแล฾ว และหลังจากที่ได฾ทําการบันทึกข฾อมูลลงในหน฽วยความจําสํารองถึงแม฾จะปิดเคร่ืองคอมพิวเตอร์ ข฾อมูลก็ยังคงอย฽ู หน฽วยความจําสํารองมีหลายชนิด ประกอบด฾วย ฮาร์ดดิสก์ ซีดี ดีวีดี หน฽วยความจําแบบพกพา (handy drive, thumb drive,memory card ) เปน็ ต฾น ภาพท่ี 2.6 แสดงภาพหน฽วยความจําสํารองชนดิ ต฽างๆ

28 ภาพที่ 2.6 หนว฽ ยความจาํ สํารอง 4. หนว่ ยแสดงผล หน฽วยแสดงผล (output unit) ทําหน฾าท่ีรับข฾อมูลจากหน฽วยความจําซึ่งผ฽านการประมวลผลแล฾วมาแสดงในรูปแบบต฽างๆ โดยอาศัยอุปกรณ์แสดงผล ดงั นี้ 4.1 จอภาพ (monitor) จอภาพเป็นอุปกรณ์แสดงผลที่ใช฾ตลอดเวลาเมื่อมีการใช฾งานคอมพวิ เตอร์ ดังนน้ั การเลือกใชจ฾ อภาพจงึ มคี วามจําเป็นมากทีผ่ ฾ใู ช฾ต฾องเลือกใช฾ให฾เหมาะสมกับลักษณะของงานทท่ี าํ จอภาพสาํ หรบั เครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ในปัจจุบัน มีดงั นี้ 4.1.1 จอแอลซีดี (liquid crystal display: LCD) เป็นจอภาพท่ีมีภาพเกิดจากแสงที่ถูกปล฽อยออกมาจากหลอดไฟฟลูออเรสเซนแบบเย็นด฾านหลังของจอภาพ (black light) ผ฽านชั้นกรองแสงแลว฾ ว่งิ ไปยังครสิ ตลั เหลวทีเ่ รียงตวั ด฾วยกัน 3 เซลล์คือ แสงสีแดง แสงสีเขียวและแสงสีนํ้าเงินกลายเป็นจุดสีหรือพิกเซล (pixel) ท่ีสว฽างสดใสเกิดขึ้น จอแอลซีดีท่ีนิยมนํามาเป็นจอภาพสําหรับคอมพิวเตอร์เป็นแบบ thin film transistors (TFT) เนื่องสามารถแสดงภาพได฾คมชัดและสว฽าง 4.1.2 จอแอลอีดี (light emitting diod : LED) เป็นจอภาพที่ใช฾เทคนิคการเกิดภาพเช฽นเดียวกับจอแอลซีดีแต฽มีการใช฾หลอดแอลอีดีมาแทนหลอดฟลูออเรสเซน ทําให฾ภาพมีความคมชดั มากยิง่ ข้ึน ราคาของจอแอลอีดีจะขึ้นกับความละเอียดของภาพท่ีปรากฏข้ึนท่ีจอภาพ จอภาพที่มีความละเอียดของภาพสูงราคาของจอภาพก็จะสูงตาม ความละเอียดของจอแอลอีดีท่ีพบเห็นในปัจจบุ ัน มดี ังนี้ 1) จอแอลอีดีแบบเอชดี (high definition LED หรือ HD LED) เป็นจอภาพแอลอีดีทีม่ คี วามละเอยี ดของภาพ ท่ี 1366 x 768 พเิ ซล 2) จอแอลอีดีแบบฟลูเอชดี ( full HD LED) เป็นจอภาพที่มีความละเอียดของภาพสงู ถึง 1920x 1080 พกิ เซล 4.2 ลาํ โพง (speaker) เปน็ อปุ กรณ์แสดงข฾อมูลทเ่ี ปน็ เสยี ง 4.3 เครอื่ งพมิ พ์ (printer) เป็นอปุ กรณแ์ สดงผลท่ีจําเป็นทต่ี ฾องหาซ้ือเพิ่มเติม ถ฾าต฾องการพิมพง์ านจากเอกสารต฽างๆ เครอื่ งพิมพ์สามารถแบง฽ ได฾ 3 ชนิด ดังน้ี 4.3.1 เครื่องพิมพ์แบบดอตเมตทริกซ์ (dot matrix printer) เคร่ืองพิมพ์ชนิดน้ี มีการทาํ งานคล฾ายๆ เคร่อื งพิมพ์ดดี หัวพิมพม์ ีลกั ษณะเป็นหัวเข็ม (pin) มีแบบ 9 pin และ 24 pin เม่ือมีการส่ังพิมพ์งานหัวเข฾มจะกระทบผ฽านผ฾าพิมพ์ ทําให฾เกิดตัวอักษรบนกระดาษ เครื่องพิมพ์ชนิดนี้เหมาะสําหรับงานทต่ี อ฾ งทาํ สาํ เนาหลายฉบบั และนยิ มใช฾กบั กระดาษแบบตอ฽ เนื่อง 4.3.2 เคร่ืองพิมพ์แบบพ฽นหมึก (ink jet printer) เป็นเคร่ืองพิมพ์ท่ีมีหัวพ฽นหมึกทาํ หน฾าท่ีพน฽ หมกึ ออกจากตลับหมึก ซึ่งประกอบด฾วยสีดําและแม฽สีทั้ง 3 คือ สีแดง สีเหลือง และ สีนํ้า

29เงิน ในปัจจุบันเครื่องพิมพ์แบบพ฽นหมึกนิยมประยุกต์ใช฾ให฾เป็นเคร่ืองพิมพ์ท่ีทําหน฾าท่ีได฾หลายอย฽าง(multifunction) นน่ั คอื มีความสามารถในการพิมพ์งาน ถา฽ ยเอกสาร สแกนภาพ และรับ-สง฽ แฟ็กซ์ 4.3.3 เครื่องพิมพ์แบบเลเซอร์ (laser printer) เป็นเครื่องพิมพ์ที่ใช฾หลักการทาํ งานเชน฽ เดียวกับเคร่ืองถา฽ ยเอกสารโดยการยิงเลเซอร์เพื่อให฾เกิดตัวอักษรบนกระดาษ งานพิมพ์จากเครื่องเลเซอร์จะมีคุณภาพสูง เครื่องพิมพ์ชนิดนี้เหมาะที่จะใช฾ในสํานักงานท่ีมีเครือข฽ายท฾องถ่ิน(local area network) เพ่ือให฾มีการใช฾เครื่องพิมพ์ร฽วมกัน (share printer) เพ่ือความประหยัดและรวดเร็วในการทํางานเคร่ืองพมิ พ์แบบดอตเมตทริกซ์ เครื่องพมิ พ์แบบพน่ หมกึ เคร่ืองพมิ พ์แบบเลเซอร์ ภาพที่ 2.7 เครือ่ งพมิ พ์ประเภทตา฽ งๆ 5. หน่วยตดิ ตอ่ ส่ือสาร หน฽วยติดต฽อสื่อสาร (communication unit) มีความสําคัญอย฽างมากกับการใช฾งานคอมพิวเตอร์ในยุคปัจจุบัน เน่ืองจากหน฽วยติดต฽อส่ือสารทําให฾คอมพิวเตอร์เช่ือมต฽อเข฾ากับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ รวมถึงการเช่ือมต฽อเข฾ากับระบบอินเทอร์เน็ต หน฽วยติดต฽อส่ือสารในเคร่ืองคอมพวิ เตอร์ แบ฽งได฾ดังนี้ 5.1 หน฽วยติดต฽อสื่อสารท่ีเช่ือมต฽อเครื่องคอมพิวเตอร์ไปยังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆประกอบด฾วย 5.1.1 พอร์ตยูเอสบี (universal serial bus: USB) เป็นพอร์ตการเชื่อมต฽อที่ทําให฾คอมพิวเตอร์สามารถเชื่อมต฽อกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ รวมถึงหน฽วยความจําภายนอกได฾ พอร์ตยูเอสบีเปน็ พอร์ตพื้นฐานทค่ี อมพวิ เตอร์สว฽ นมากจะต฾องมี ในปัจจุบันการรับส฽งข฾อมูลผ฽านพอร์ตยูเอสบีพัฒนามาถึงเวอร์ชั่นท่ี 3.0 โดยความเร็วในการแลกเปลี่ยนข฾อมูลผ฽านพอร์ตยูเอสบีทําได฾สูงสุดถึง 4.8Gbps 5.1.2 พอร์ตวีจีเอ (video graphics array VGA) เป็นพอร์ตการเชื่อมต฽อกับจอภาพหรือเคร่ืองโปรเจคเตอร์ เพอื่ แสดงขอ฾ มลู ภาพและเสยี งใชใ฾ นการนาํ เสนองานภาพท่ี 2.8 พอรต์ วีจเี อและสายการเชอ่ื มต฽อ

30 5.1.3 พอร์ตเอชดีเอ็มไอ (high definition multimedia interface: HDMI) เป็นพอร์ตการเชอ่ื มต฽อจากเคร่ืองคอมพิวเตอร์ไปยังเครื่องเสียงหรือทีวีท่ีมีพอร์ตเอชดีเอ็มไอ โดยสัญญาณทีส่ ฽งผ฽านพอร์ตเอชดีเอ็มไอจะเปน็ ข฾อมูลภาพและเสียงที่มีความละเอยี ดสูง ภาพท่ี 2.9 พอรต์ เอชดเี อ็มไอ 5.1.4 บลูทูธ (bluetooth) เป็นการเช่ือมต฽อเครื่องคอมพิวเตอร์กับอุปกรณ์อเิ ล็กทรอนกิ ส์อื่นๆ ผ฽านคล่ืนวทิ ยุ (radio) ระยะส้นั ในระยะไม฽เกิน 33 ฟุต ซึ่งการส฽งสัญญาณสามารถส฽งผ฽านสิ่งกีดขวางได฾ เช฽น การส฽งผ฽านข฾อมูลจากโทรศัพท์มือถือมายังเคร่ืองคอมพิวเตอร์ โดยอุปกรณ์ทั้งสองตอ฾ งเปดิ สัญญาณบลูทูธพร฾อมกัน จากนั้นทําการค฾นหาอุปกรณ์ เม่ืออุปกรณ์ทั้งสองติดต฽อกันได฾กส็ ามารถรบั ส฽งข฾อมูลระหว฽างอุปกรณไ์ ด฾ ดังแสดงในภาพที่ 2.10 ภาพที่ 2.10 การเช่อื มตอ฽ ด฾วยบลทู ูธ 5.2 หนว฽ ยติดตอ฽ สอื่ สารท่ที ําหน฾าที่เช่อื มตอ฽ เข฾าส฽รู ะบบอินเทอร์เน็ต การสอ่ื สารผา฽ นระบบอินเทอร์เน็ตเปน็ สิง่ จําเปน็ สาํ หรับการดําเนนิ ชวี ิตในปัจจุบัน ท้ังในส฽วนของการเรียนและการทํางาน เครื่องคอมพิวเตอร์ในยุคปัจจุบันแทบทุกเคร่ืองจะมีการติดต้ังอุปกรณ์สําหรับการเชอ่ื มต฽อเข฾าสร฽ู ะบบอินเทอรเ์ น็ต เพ่อื เพ่มิ ความสะดวกสบายให฾กับผู฾ใช฾คอมพิวเตอร์มากยงิ่ ขึ้น อุปกรณ์ท่เี ชื่อมตอ฽ เข฾าสร฽ู ะบบอินเทอรเ์ นต็ แบง฽ ได฾ 2 ประเภท ดังน้ี 5.2.1 อุปกรณเ์ ชื่อมต฽อระบบอนิ เทอร์เนต็ แบบใช฾สายสัญญาณ ประกอบไปดว฾ ย 1) การ์ดเน็ตเวิร์ค (network adapter card) หรือท่ีเรียกกันท่ัวไปว฽าแลนการ์ด เป็นอุปกรณ์ที่ทําหน฾าที่เช่ือมต฽อเครื่องคอมพิวเตอร์เข฾าส฽ูระบบเครือข฽ายท฾องถ่ิน ทําให฾สามารถส่ือสารข฾อมูลกับเคร่ืองคอมพิวเตอร์ในหน฽วยงานหรือในองค์กรเดียวกันได฾ สามารถใช฾งานเคร่ืองพิมพ์ร฽วมกัน สามารถใช฾ไฟล์ข฾อมูลร฽วมกัน รวมถึงสามารถเชื่อมต฽อเข฾าสู฽ระบบอินเทอร์เน็ตได฾ถ฾าหน฽วยงานน้ันๆ ได฾ทําการใช฾บริการอินเทอร์เน็ตแบบวงจรเช฽า (lease line internet) จากผู฾ให฾บริการอินเทอรเ์ นต็ คอมพวิ เตอร์ในยุคปัจจุบันจะมีการติดต้ังการ์ดเน็ตเวิร์คมาเพ่ือพร฾อมใช฾งาน ผ฾ูใช฾เพียงแต฽

31ใช฾สายสญั ญาณเช่อื มต฽อจากเครือ่ งคอมพวิ เตอรไ์ ปยงั จดุ เช่อื มต฽อก็สามารถใช฾งานเครือข฽ายท฾องถ่ินและเขา฾ ส฽ูระบบอินเทอรเ์ นต็ ได฾ 2) โมเด็ม (modem) เป็นอุปกรณ์พ้ืนฐานที่ทําให฾เครื่องคอมพิวเตอร์สามารถส่ือสารข฾อมูลได฾โดยผ฽านสายโทรศัพท์ โมเด็มทําหน฾าที่แปลงสัญญาณดิจิทัลจากเครื่องคอมพิวเตอร์ให฾เป็นสัญญานอนาล็อกผ฽านสายโทรศัพท์ไปยังเคร่ืองบริการข฾อมูลปลายทางท่ีทําหน฾าที่เปรียบเสมือนประตูที่ทําให฾สามารถท฽องไปยังระบบอินเทอร์เน็ตได฾ โมเด็มท่ีใช฾ในการเชื่อมต฽อเข฾ากับระบบอินเทอร์เน็ตในปัจจุบันจะเป็นโมเด็มแบบเอดีเอสแอล (asymmetric digital subscriber line:ADSL) เป็นโมเดม็ สําหรับการเชื่อมตอ฽ อนิ เทอรเ์ น็ตความเร็วสูงผ฽านโครงข฽ายโทรศัพท์ ความเร็วในการรบั -ส฽ง ข฾อมลู มากกว฽า 56 kbps 5.2.2 อุปกรณเ์ ช่ือมต฽อระบบอนิ เทอรเ์ น็ตแบบไรส฾ าย การใชง฾ านคอมพิวเตอรส์ ว฽ นบคุ คลในยคุ ปัจจุบันเน฾นการใช฾งานคอมพิวเตอร์แบบพกพามากข้นึ ดังนัน้ อปุ กรณก์ ารเชอ่ื มต฽อเข฾ากบั ระบบอนิ เทอร์เน็ตแบบไร฾สายจึงจําเป็นอย฽างมากการเชอ่ื มต฽อคอมพวิ เตอรเ์ ข฾าสู฽ระบบอนิ เทอรเ์ น็ตแบบไร฾สาย ประกอบด฾วย 1) การเช่ือมต฽อตามมาตรฐาน 802.11 Wi-Fi เป็นการเช่ือมต฽อเครื่องคอมพิวเตอร์เข฾ากับระบบเครือข฽ายคอมพิวเตอร์แบบไร฾สายผ฽านแอคเซสพ฾อยต์ (access point) หรือจดุ ปลอ฽ ยสัญญาณ การเชื่อมต฽อเขา฾ สรู฽ ะบบอินเทอร์เน็ตแบบวายฟายน้ีเป็นที่นิยมใช฾งานอย฽างมากตามหน฽วยงานสถานศกึ ษา หน฽วยงานหรือองค์กรขนาดใหญ฽ที่ให฾บริการการใช฾งานอินเทอร์เน็ตแบบไร฾สายให฾กับสมาชิกขององค์กร โดยสมาชิกในองค์กรนั้นๆ จะได฾รับ รหัสผ฾ูใช฾ (user name) และรหัสผ฽าน(password) ในการเข฾าใช฾งานอินเทอร์เน็ตแบบไร฾สาย นอกจากนี้ตามห฾างสรรพสินค฾าหรือสถานท่ีที่มีคนไปใช฾บริการจํานวนมากจะมีจุดปล฽อยสัญญาณเพ่ือเข฾าใช฾งานอินเทอร์เน็ตแบบไร฾สาย โดยผู฾ใช฾งานสามารถสมัครเข฾าใช฾บริการ ซ่ึงในปัจจุบันมีผู฾ให฾บริการ เช฽น ทรูวายฟาย และ เอไอเอส เป็นต฾น โดยผู฾ใช฾บริการต฾องเสียค฽าใช฾จ฽ายในการเข฾าใช฾บริการด฾วย นอกจากน้ีรัฐบาลยังได฾ส฽งเสริมให฾ประชาชนเข฾าถึงบริการอินเทอร์เน็ตแบบไร฾สายที่ไม฽เสียค฽าใช฾จ฽ายผ฽านบริการ ฟรีวายฟาย (free wifi) ซ่ึงจะเปิดให฾บริการตามหน฽วยงานของรัฐ เช฽น ท่ีทําการเขต สวนสาธารณะ ที่ประชาชนท่ัวไปสามารถเข฾าใช฾บริการได฾ฟรี โดยต฾องทําการลงทะเบียนเพื่อเข฾าใช฾งานและสามารถเข฾าใช฾งานได฾คร้ังละ 2 ช่ัวโมงเคร่ืองคอมพิวเตอร์แบบพกพาทุกชนิดในปัจจุบัน ไม฽ว฽าจะเป็นคอมพิวเตอร์โน฾ตบุ฿ก คอมพิวเตอร์แบบเนต็ บก฿ุ หรอื คอมพิวเตอรแ์ บบแท็บเลต็ จะมีความสามารถในการรบั สัญญาณวายฟายได฾ 2) การเช่ือมต฽ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (mobile broadband) การเชือ่ มตอ฽ อนิ เทอรเ์ นต็ ความเร็วสงู เป็นการเชอื่ มตอ฽ เครื่องคอมพิวเตอร์เข฾ากับโครงข฽ายโทรศัพท์เคลื่อนท่ีความเร็วสูง เช฽น โครงข฽าย 3G ทําให฾ความเร็วในการเข฾าใช฾งานอินเทอร์เน็ตทั้งการส฽งและการรับข฾อมูลทําได฾เร็วมากขึ้น โดยในการเข฾าใช฾งานระบบอินเทอร์เน็ตผ฾ูใช฾ต฾องมีซิมการ์ดของบริษัทท่ีให฾บริการเครือข฽ายโทรศัพท์เคลื่อนท่ีความเร็วสูง จากนั้นทําการเชื่อมต฽อเข฾าส฽ูระบบอินเทอร์เน็ตผ฽านWWAN (wireless wire area network) ซ่ึงคอมพิวเตอร์แบบพกพาบางรุ฽นและบางยี่ห฾อเท฽านั้นท่ีตดิ ตงั้ ระบบการเชื่อมตอ฽ นเี้ ขา฾ มา เม่อื เชอ่ื มต฽อเข฾ากับระบบได฾ก็สามารถใช฾งานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงได฾ การเช่ือมตอ฽ เขา฾ กบั ระบบอินเทอร์เน็ตความเรว็ สูงผา฽ นวีแวนดังแสดงในภาพท่ี 2.11

32 ภาพที่ 2.11 การเช่อื มตอ฽ เขา฾ ส฽วู ายฟายอินเทอร์เน็ตและอินเทอร์เน็ตความเรว็ สงู ในกรณีทเี่ คร่อื งคอมพวิ เตอร์แบบพกพาน้นั ไม฽มอี ปุ กรณ์เพ่ือเชื่อมต฽อวีแวน สามารถใช฾อุปกรณ์ที่เรียกว฽า แอร์การ์ด (air card) เพื่อการเข฾าถึงระบบอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงได฾ ซ่ึงปัจจุบันราคาของแอร์การ์ดไม฽สูงมากนัก โดยทําการใส฽ซิมการ์ดเข฾าไปในแอร์การ์ด เสียบแอร์การ์ดท่ีพอร์ตยูเอสบี ทําการตดิ ตั้งโปรแกรมซ่ึงส฽วนมากจะติดตั้งอัตโนมัติเมื่อมีการเชื่อมต฽อแอร์การ์ดกับคอมพิวเตอร์ จากนั้นจะสามารถเชอ่ื มต฽อเขา฾ สูร฽ ะบบอินเทอร์เนต็ ได฾ซอฟต์แวรค์ อมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ (software) หมายถึง โปรแกรมต฽างๆ ที่สามารถนําเข฾ามาใช฾เพื่อปฏิบัติงานและจัดการกับคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์รอบข฾าง ให฾สามารถทํางานร฽วมกันได฾อย฽างมีประสิทธิภาพ (โอภาสเอยี่ มสิรวิ งศ,์ 2554, หนา฾ 149) 1. ประเภทของซอฟต์แวร์ ซอฟต์แวร์เป็นชุดคําสั่งท่ีสั่งให฾คอมพิวเตอร์ทํางาน ซ่ึงการทํางานน้ันมีหลากหลายแตกตา฽ งกนั ไป สามารถแบง฽ ประเภทของซอฟต์แวร์ไดด฾ ังนี้ 1.1 ซอฟต์แวร์ระบบ (system software) ทําหน฾าท่ีควบคุมการทํางานของฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์รวมถึงอุปกรณ์ต฽างๆ ท่ีมาพ฽วงต฽อให฾ทํางานได฾อย฽างมีประสิทธิภาพ เพ่ือจัดระบบการเก็บขอ฾ มลู การรบั สง฽ ข฾อมูล การเกบ็ ข฾อมูลลงในหนว฽ ยความจํา ซอฟต์แวร์ระบบ ประกอบดว฾ ย 1.1.1 ระบบปฏิบัติการ (operating system: OS) เป็นกลุ฽มของโปรแกรมทําหน฾าท่ีเชอ่ื มโยงระหวา฽ งเครือ่ งคอมพิวเตอรแ์ ละผ฾ใู ช฾ อํานวยความสะดวกในการใช฾โปรแกรมต฽างๆ รวมถึงการจัดสรรทรัพยากรต฽างๆ ในเครื่องคอมพิวเตอร์ให฾ทํางานอย฽างมีประสิทธิภาพ หน฾าที่ของระบบปฏบิ ัติการมดี ังนี้ 1) ควบคุมการทํางานของโปรแกรมและอุปกรณ์ต฽างๆ โดยเฉพาะอุปกรณ์รับขอ฾ มูลและแสดงผลข฾อมลู (input/output device) ใหผ฾ ใู฾ ชส฾ ามารถใช฾อุปกรณ์ต฽างๆ ได฾อย฽างสะดวก

33 2) จัดสรรทรัพยากรซ่ึงใช฾ร฽วมกัน (shared resource) โดยเฉพาะในเครื่องคอมพิวเตอร์สมรรถนะสูง เช฽น เคร่ืองซุปเปอร์คอมพิวเตอร์และเมนเฟรม ซึ่งมีการใช฾หน฽วยประมวลผลกลางและหนว฽ ยความจําร฽วมกัน ในลกั ษณะมัลติโปรแกรมมิ่ง (multiprogramming) ซอฟต์แวรร์ ะบบปฏิบตั ิการ สามารถจาํ แนกได฾ ดังน้ี 1) ระบบปฏิบัติการสําหรับติดต้ังในเคร่ืองคอมพิวเตอร์ส฽วนบุคคล ได฾แก฽โปรแกรมไมโครซอฟต์วินโดว์ (Microsoft Windows) ร฽ุนต฽างๆ แมคโอเอส (Mac OS) ท่ีติดตั้งในเคร่ืองแมค รวมถึง ลีนุกส์ (Linux) ซ่ึงเป็นระบบปฏิบัติการที่เป็นซอฟต์แวร์โอเพนซอร์ส (opensources) ทม่ี คี นนยิ มใชเ฾ ปน็ จํานวนมาก เปน็ ต฾น 2) ระบบปฏิบัติการสําหรับเคร่ืองให฾บริการข฾อมูล (server) ได฾แก฽ ยูนิกส์(Unix) และวนิ โดวเ์ ซิรฟ์ เวอร์ (Windows Server) รน฽ุ ต฽างๆ เปน็ ตน฾ 3) ระบบปฏิบัติการสําหรับคอมพิวเตอร์พกพาและโทรศัพท์มือถือ เช฽นคอมพิวเตอร์แท็บเล็ต ได฾แก฽ iOS สําหรับไอเพดจาก Apple รวมถึงระบบปฏิบัติการ Android และWindows 8 สําหรบั แท็บเลต็ ย่ีห฾ออ่ืนๆ เช฽น Samsung Galaxy Tab และ Acer Iconia Tab เป็นตน฾ 1.1.2 โปรแกรมแปลภาษา (complier and interpreter) เป็นซอฟต์แวร์ท่ีทําหน฾าที่แปลภาษาโปรแกรมเม่ือมีการเขียนโปรแกรมเพ่ือให฾คอมพิวเตอร์เข฾าใจรหัสคําส่ังท่ีปูอนเข฾าไปโ ด ย ส฽ ว น ม า ก โ ป ร แ ก ร ม แ ป ล ภ า ษ า จ ะ ถู ก บ ร ร จุ ม า พ ร฾ อ ม กั บ ชุ ด โ ป ร แ ก ร ม ท่ี ใ ช฾ ใ น ก า ร เ ขี ย นภาษาคอมพิวเตอรภ์ าษาตา฽ ง ๆ เชน฽ ภาษา C ภาษา JAVA เปน็ ตน฾ 1.1.3 โปรแกรมอรรถประโยชน์ (utilities program) เป็นซอฟต์แวร์ระบบท่ีถูกออกแบบขึ้นมาเพื่อเสริมประสิทธิภาพการทํางานของคอมพิวเตอร์มากย่ิงข้ึน ตัวอย฽างของโปรแกรมอรรถประโยชนใ์ นระบบปฏิบตั ิการ Windows 7 เป็นซอฟต์แวรใ์ นกลุ฽ม system tools ดงั แสดงใน ภาพท่ี 2.12 โปรแกรมอรรถประโยชน์ในระบบปฏบิ ตั ิการ Windows 7

34 1.2 ซอฟต์แวรป์ ระยุกต์ ซอฟต์แวร์ประยุกต์ (application software) คือ ซอฟต์แวร์ที่ถูกพัฒนาข้ึนมาเพ่ือประยุกต์กบั งานท่ผี ฾ใู ชต฾ ฾องการ ซอฟตแ์ วรป์ ระยกุ ต์แบ฽งได฾ 2 ประเภท ดังนี้ 1.2.1 ซอฟต์แวร์สําเร็จรูป (package software) เป็นซอฟต์แวร์ที่สามารถหาซื้อมาใชง฾ านไดส฾ ะดวกตดิ ต้งั และทํางานไดท฾ ันที ประกอบดว฾ ย 1) ซอฟต์แวร์ระบบการจัดการฐานข฾อมูล เช฽น MySQL, MS Access,Oracle, SQL Server เปน็ ตน฾ 2) ซอฟต์แวร์ประมวลผลคํา เช฽น MS Word, Word Pad, Note Pad,Adobe Page Maker เปน็ ตน฾ 3) ซอฟต์แวรค์ าํ นวณ เชน฽ MS Excel 4) ซอฟต์แวร์จัดการขอ฾ มูลดา฾ นงานธรุ กิจ เช฽น ซอฟต์แวร์ทาํ บัญชี 5) ซอฟตแ์ วร์นาํ เสนอ (presentation software) เช฽น MS Power Point 6) ซอฟต์แวร์เพ่อื การติดตอ฽ สอ่ื สาร เชน฽ MS Outlook, โปรแกรมบราวเซอร์เปน็ ต฾น 7) ซอฟต์แวร์เพ่ือพัฒนางานมัลติมีเดีย เช฽น Adobe Photoshop, AdobeIllustrator, Color Draw และ Macromedia Flash เปน็ ตน฾ 8) ซอฟต์แวร์เพื่อความบันเทิง เช฽น Windows Media Player, PowerDVD, Winamp เป็นตน฾ 9) ซอฟต์แวร์พัฒนาเว็บไซต์ เช฽น Macromedia Dreamweaver และ MSFront Page เป็นต฾น 1.2.2 ซอฟต์แวร์เฉพาะด฾าน เป็นซอฟต์แวร์ที่บริษัทซอฟต์แวร์ทําการพัฒนาขึ้นมาเพ่ือให฾ตอบสนองกับความต฾องการของผ฾ใู ช฾เฉพาะดา฾ น เช฽น ซอฟต์แวร์ควบคุมสินค฾าคงคลัง ซอฟต์แวร์ท่ใี ช฾ในโรงพยาบาล เป็นต฾น 2. แนวโน้มของการใชซ้ อฟต์แวรใ์ นอนาคต เน่อื งจากปจั จบุ ันความเจริญก฾าวหน฾าทางด฾านเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีการส่ือสารข฾อมูลได฾มีการพัฒนามาอย฽างต฽อเนื่อง ซอฟต์แวร์ซ่ึงเป็นส฽วนสําคัญในการทํางานของคอมพิวเตอร์ก็มีการพฒั นาตามไปดว฾ ย แนวโน฾มของการใชซ฾ อฟตแ์ วร์ในอนาคต มีดังนี้ 2.1 การแข฽งขันกันทางด฾านซอฟต์แวร์ท่ีใช฾สําหรับสมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์แบบแท็บเล็ตจะมีมากยิ่งข้ึนเพราะในอนาคตจะมีผ฾ูใช฾สมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์แบบแท็บเล็ตเพ่ิมขึ้ นโดยเฉพาะอย฽างยง่ิ ระบบปฏิบัตกิ าร iOS ของบรษิ ัท Apple ท่ใี ช฾เป็นระบบปฏิบัติในสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตของ Apple ระบบปฏิบัติการ Androids ของ Google ที่ปัจจุบันพบได฾ในสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตรวมถึงระบบปฏิบัติการ windows 8 จาก Microsoft 2.2 ผท฾ู ใี่ ช฾งานสมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอรแ์ ท็บเลต็ จะทําการดาวน์โหลดซอฟต์แวร์ต฽างๆผ฽าน แอพพลเิ คชัน่ สโตร์ (application store) มากยิ่งขน้ึ 2.3 การเข฾าใช฾งานซอฟต์แวร์ทําได฾หลายทาง ไม฽ว฽าจะเป็นซอฟต์แวร์ท่ีติดตั้งในเครอ่ื งคอมพิวเตอร์น้นั ๆ โดยตรง การใชซ฾ อฟต์แวรผ์ ฽านเวบ็ แอพพลิเคชั่นและเว็บเซอรว์ ิส

35 2.4 การใช฾งานซอฟต์แวร์ผ฽านการประมวลผลแบบกล฽ุมเมฆ (cloud computing) มากยงิ่ ขน้ึ 2.5 มีการใช฾งานซอฟต์แวร์ในรูปแบบของบริการมากยิ่งข้ึน (Software as a Service:SaaS) ซึ่งเป็นการให฾บริการซอฟต์แวร์ผ฽านเครือข฽ายอินเทอร์เน็ต ผู฾ท่ีต฾องการใช฾งานซอฟต์แวร์ไม฽จาํ เปน็ ต฾องตดิ ต้ังซอฟตแ์ วรไ์ ว฾ที่หน฽วยงานหรอื คอมพวิ เตอร์ของตนเอง 2.6 จะมีการผสมผสานการใช฾งาน (integration) ระหว฽างการประมวลผลแบบกลุ฽มเมฆสมารท์ โฟน และเครือขา฽ ยสังคมออนไลน์ ในการทาํ งานขององคก์ รมากย่งิ ขึน้ประเภทของคอมพวิ เตอร์ การแบง฽ ประเภทของคอมพิวเตอร์ในที่นี้จะแบ฽งคอมพิวเตอร์ตามสมรรถนะและประสิทธิภาพในการประมวลผลของเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นหลัก (ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แหง฽ ชาติ, 2554) แบง฽ ประเภทของคอมพิวเตอร์ ได฾ดงั นี้ 1. ซูเปอรค์ อมพิวเตอร์ ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ (supercomputer) เป็นคอมพิวเตอร์ที่มีสมรรถนะในการทํางานสูงกว฽าคอมพิวเตอร์แบบอ่ืนๆ ดังนั้นจึงเรียกคอมพิวเตอร์ประเภทนี้ว฽า คอมพิวเตอร์สมรรถนะสูง (highperformance computer) ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ สามารถคํานวณตัวเลขท่ีมีจุดทศนิยมด฾วยความเร็วสูงขนาดหลายร฾อยล฾านคําสั่ง/วินาที ดังน้ันคอมพิวเตอร์ประเภทน้ีจึงเหมาะกับงานท่ีมีการคํานวณมากๆ เช฽น งานวิเคราะห์ภาพถ฽ายจากดาวเทียม งานวิเคราะห์พยากรณ์อากาศ งานทําแบบจําลองโมเลกลุ ของสารเคมี งานวิเคราะหโ์ ครงสรา฾ งอาคารทีซ่ ับซอ฾ น เปน็ ต฾น 2. เมนเฟรมคอมพวิ เตอร์ เมนเฟรมคอมพิวเตอร์ (mainframe computer) เป็นคอมพิวเตอร์ท่ีมีสมรรถนะสูงมากถัดจากซูเปอร์คอมพิวเตอร์ โดยสามารถประมวลข฾อมูลได฾อย฽างรวดเร็วหลายสิบล฾านคําสั่ง/วินาทีคอมพิวเตอร์ประเภทน้ีเหมาะกับการใช฾งาน ด฾านวิศวกรรม วิทยาศาสตร์ และธุรกิจ โดยเฉพาะงานท่ีเก่ียวข฾องกับข฾อมูลจํานวนมากๆ เช฽น งานธนาคาร ซ่ึงต฾องตรวจสอบบัญชีลูกค฾าหลายคน งานของสํานักงานทะเบียนราษฎร์ที่เก็บรายละเอียดท่ีจําเป็นของประชากรท่ีมากกว฽า 60 ล฾านคน งานจัดการบนั ทกึ การส฽งเงนิ ของผ฾ปู ระกันตนทง้ั ประเทศของสํานกั งานประกนั สงั คม เป็นตน฾ 3. มนิ คิ อมพวิ เตอร์ มินิคอมพิวเตอร์ (minicomputer) เป็นคอมพิวเตอร์ที่มีสมรรถนะตํ่ากว฽าเคร่ืองเมนเฟรม ทํางานได฾ชา฾ กว฽า ควบคุมอปุ กรณร์ อบข฾างได฾น฾อยกวา฽ และราคาก็ถูกกว฽าเคร่ืองเมนเฟรม การใช฾งานไม฽จําเป็นต฾องใช฾บุคลากรควบคุมมากนัก มินิคอมพิวเตอร์จึงเหมาะกับงานหลายประเภท เช฽นงานวิศวกรรม วิทยาศาสตร์ อุตสาหกรรม และพบไดต฾ ามหนว฽ ยงานราชการระดบั กรม 4. ไมโครคอมพวิ เตอร์ ไมโครคอมพิวเตอร์ (Microcomputer) นิยมเรียกอีกอย฽างว฽า คอมพิวเตอร์ส฽วนบุคคล(personal computer: PC) เป็นคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดเล็ก ในปัจจุบันมีการใช฾คอมพิวเตอร์ส฽วนบคุ คลอย฽างแพรห฽ ลาย เนือ่ งจากราคาของเครื่องคอมพิวเตอร์ไม฽แพงรวมถึงประสิทธิภาพในการทํางานสงู สามารถจําแนกคอมพวิ เตอร์สว฽ นบคุ คลตามขนาดของเครือ่ งและลักษณะของการใช฾งาน ได฾ดงั น้ี

36 4.1 คอมพิวเตอร์แบบต้ังโต฿ะ (desktop computer) เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ท่ีใช฾งานเฉพาะที่ไม฽เหมาะสําหรับพกพา นิยมซ้ือมาใช฾ตามบ฾านและตามสํานักงานทั่วไป คอมพิวเตอร์แบบตั้งโตะ฿ เป็นคอมพวิ เตอรส์ ฽วนบคุ คลทมี่ คี วามสามารถของการประมวลผลสูงท่ีสุดในบรรดาคอมพิวเตอร์ส฽วนบุคคลท้ังหมด ดังนั้นคอมพิวเตอร์แบบต้ังโต฿ะจะเหมาะกับการทํางานที่ต฾องใช฾ความสามารถของคอมพิวเตอร์สูงๆ เช฽น การเขียนโปรแกรม การประมวลผลงานมัลติมีเดีย การเล฽นเกม เป็นต฾นคอมพิวเตอร์แบบตัง้ โต฿ะทใ่ี ชก฾ ันในปจั จบุ นั แบง฽ ได฾เป็น 4.1.1 คอมพิวเตอร์แบบตง้ั โต฿ะทมี่ ีเคส (case) เปน็ คอมพวิ เตอร์แบบตั้งโต฿ะที่พบเห็นได฾ทั่วไป ซึ่งบางครั้งอาจมีการเรียกว฽าเทาเวอร์เคส (tower case) ซึ่งภายในของเคสจะประกอบด฾วยอุปกรณห์ ลักต฽างๆ เช฽น ฮาร์ดดิสก์ แผงวงจรหลัก (main board) ซ่ึงมีสล฿อตสําหรับติดต้ังการ์ดต฽างๆและหน฽วยความจาํ 4.1.2 คอมพิวเตอร์ตั้งโต฿ะแบบทัชพีซี (touch pc) หรือ ออล์อินวัน (all in one)เป็นคอมพิวเตอร์ตั้งโต฿ะท่ีไม฽มีเคส แต฽อุปกรณ์สําคัญต฽างๆ ไม฽ว฽าจะเป็นเป็นแผงวงจรรวม ฮาร์ดดิสก์หนว฽ ยความจาํ หลัก และอุปกรณ์อื่นๆ จะติดต้ังมาพร฾อมกับจอแสดงผลซึ่งบางรุ฽นเป็นจอแสดงผลแบบสมั ผัสคอมพวิ เตอร์ต้ังโต฿ะแบบมีเคส คอมพวิ เตอร์ตั้งโตะ฿ แบบออลอ์ นิ วนัภาพท่ี 2.13 คอมพิวเตอร์ตง้ั โต฿ะ 4.2 คอมพิวเตอร์แบบพกพา (portable computer) เป็นเคร่ืองคอมพิวเตอร์ท่ีสามารถพกพาไปตามท่ีต฽างๆ ได฾อย฽างสะดวกและง฽ายดาย ซ่ึงปัจจุบันคอมพิวเตอร์แบบพกพาเป็นท่ีนิยมอย฽างมากเนื่องราคาถูกลง ประสิทธภิ าพการทํางานสงู สามารถเชอื่ มต฽อเขา฾ สูร฽ ะบบอินเทอร์เน็ตนอกสถานท่ีได฾โดยสะดวก สามารถแบ฽งประเภทเครื่องคอมพิวเตอร์แบบพกพาตามสมรรถนะและลักษณะการใช฾งานได฾ดังน้ี 4.2.1 คอมพิวเตอร์โน฾ตบ฿ุก (notebook) เป็นคอมพิวเตอร์แบบพกพาประเภทแรกในปัจจุบันผ฾ูผลิตคอมพิวเตอร์ส฽วนมากมีการผลิตเคร่ืองคอมพิวเตอร์โน฾ตบุ฿กออกมาวางจําหน฽ายให฾เลือกซ้ือมากมาย แตกต฽างกันไปทั้งในส฽วนของความเร็วของหน฽วยประมวลผล ขนาดของหน฾าจอแสดงผล ความจุของฮาร์ดดิสก์ ขนาดของหน฽วยความจําหลัก ระยะเวลาในการใช฾งานแบตเตอรี่อุปกรณ์เชื่อมต฽ออินเทอร์เน็ต พอร์ตการเช่ือมต฽อกับอุปกรณ์ภายนอก และนํ้าหนักของตัวเครื่องเคร่อื งคอมพิวเตอร์โน฾ตบ฿ุกเป็นเคร่ืองคอมพิวเตอร์แบบพกพาท่ีมีสมรรถนะการทํางานสูง ความเร็วในการประมวลผลเปน็ รองเฉพาะคอมพวิ เตอร์แบบตงั้ โตะ฿ คอมพิวเตอรโ์ น฾ตบุ฿กสามารถประมวลผลหลายอย฽างพรอ฾ มๆ กัน (multitasking) สามารถพกพาไปตามทตี่ า฽ งๆ ได฾จงึ ทําให฾ปัจจุบันเครื่องคอมพิวเตอร์โน฾ตบ฿ุกไดร฾ ับความนิยม

37 4.2.2 คอมพิวเตอร์เน็ตบุ฿ก (netbook) เป็นคอมพิวเตอร์ท่ีมีลักษณะภายนอกคล฾ายกับคอมพิวเตอร์โน฾ตบุ฿ก แต฽มีความแตกต฽างกัน คือ คอมพิวเตอร์เน็ตบุ฿กเน฾นการทํางานเพ่ือใช฾งานอินเทอร์เน็ตเป็นหลัก และทํางานกับโปรแกรมพื้นฐานทั่วไป เช฽น ชุดโปรแกรมออฟฟิศ เล฽นเกมท่ีใช฾ความสามารถของคอมพิวเตอร์ไม฽สูงมากนัก ความสามารถในการประมวลผลตํ่ากว฽าคอมพิวเตอร์โนต฾ บ฿กุ ใช฾ซพี ียูในการประมวลผลคนละกลุม฽ กบั คอมพวิ เตอร์โน฾ตบุ฿ก ราคาถกู กว฽า นํ้าหนักเบากว฽าและขนาดเล็กกว฽าคอมพิวเตอร์โน฾ตบุ฿ก (นํ้าหนักประมาณ 1.0-1.3 Kg. ขนาด 10.1”-11”) ความจุของฮาร์ดดิสก์น฾อยกว฽า ไม฽มีการติดต้ังออพติคอลไดร์ฟสําหรับอ฽านแผ฽นซีดีและดีวีดี คอมพิวเตอร์เน็ตบ฿ุกถูกออกแบบมาเพ่ือเน฾นการประหยัดพลังงานเป็นหลัก ไม฽ว฽าจะเป็นซีพียู และอุปกรณ์อื่นๆ จะใช฾พลังงานน฾อย ทําให฾ระยะเวลาในการใช฾งานคอมพิวเตอร์เน็ตบ฿ุกยาวนานกว฽าคอมพิวเตอร์โน฾ตบุ฿กระยะเวลาในการใช฾งานคอมพิวเตอร์เน็ตบ฿ุกอย฽างตํ่าสุดประมาณ 3-4 ชั่วโมงและสามารถใช฾งานยาวนานถงึ 7-8 ช่ัวโมง ทั้งนี้ขน้ึ กบั ลักษณะของแอพพลเิ คช่ันท่ีใช฾งาน 4.2.3 คอมพวิ เตอรแ์ ท็บเล็ต (tablet) เป็นคอมพวิ เตอรแ์ บบพกพาท่ีได฾รับความนิยมมากท่สี ุดในปัจจบุ นั นับตง้ั แต฽บรษิ ทั Apple ไดเ฾ ปิดตัวคอมพิวเตอร์แท็บเล็ตที่มีชื่อว฽า “iPad” สาเหตุท่ีคอมพิวเตอร์แท็บเล็ตได฾รับความนิยมอย฽างสูงในปัจจุบันเน่ืองจากคอมพิวเตอร์แท็บเล็ตมีลักษณะเด฽นดังน้ี 1) คอมพิวเตอร์แท็บเล็ตเป็นคอมพิวเตอร์พกพาขนาดเล็ก ขนาดของหน฾าจอแตกต฽างกันไปต้งั แต฽ 7” -11” นา้ํ หนักเบาบางร฽นุ หนกั ไม฽ถงึ 1 Kg. 2) คอมพวิ เตอร์แท็บเล็ตใช฾หน฾าจอแบบสัมผัส (touch screen) ในการเข฾าถึงแอพพลเิ คชน่ั ต฽างๆ 3) ใชค฾ ีย์บอร์ดเสมือน (virtual keyboard) เมือ่ ตอ฾ งการพมิ พข์ ฾อความ และในคอมพวิ เตอร์แท็บเล็ตบางรุ฽นมกี ารใช฾ keyboard dock เมื่อตอ฾ งการพมิ พ์เอกสารดา฾ ยคีย์บอรด์ 4) ระยะเวลาในการใชง฾ านยาวนานกว฽าคอมพิวเตอรพ์ กพาชนิดอนื่ 5) เน฾นการใช฾งานอินเทอร์เน็ต ดูหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ ( e-book) และเล฽นเกม 6) ใชร฾ ะยะเวลาในการเปดิ เครอ่ื งเพอ่ื ทาํ งานสน้ั มาก 7) มีระบบรองรับการเช่อื มตอ฽ อินเทอรเ์ น็ต ทั้งแบบวายฟาย และอินเทอร์เน็ตความเร็วสงู ผา฽ นโครงข฽าย 3G 8) รองรับการเล฽นเกมจากการสัมผัสได฾ดีเน่ืองจากมีระบบตรวจวัดการเคลือ่ นไหว (motion sensing) หลายจดุ 9) สามารถดกู ารแสดงผลไดท฾ ั้งแนวต้ังและแนวนอน 10) มแี หลง฽ บริการให฾ดาวนโ์ หลดแอพพลิเคชนั่ มากกมาย 11) คอมพิวเตอร์แท็บเลต็ บางร฽นุ มีคณุ สมบตั ิของโทรศัพท์มือถือร฽วมดว฾ ย

38 คอมพิวเตอร์โนต฾ บุ฿ก คอมพิวเตอร์เนต็ บุก฿ คอมพิวเตอรแ์ ท็บเล็ต ภาพท่ี 2.14 คอมพิวเตอร์แบบพกพารปู แบบตา฽ งๆตารางท่ี 2.1 แสดงรายการเปรียบเทยี บคอมพวิ เตอร์ส฽วนบุคคลประเภทต฽างๆรายการ คอมพวิ เตอร์ตั้งโต๊ะ คอมพวิ เตอร์โน้ตบกุ๊ คอมพวิ เตอรเ์ นต็ บกุ๊ คอมพวิ เตอรแ์ ท็บเล็ต เหมาะสําหรับการใช฾วตั ถปุ ระสงค์ เนน฾ การใชง฾ านทต่ี ฾องการ สามารถใชง฾ านได฾ เหมาะสําหรับการใช฾ งานอนิ เทอร์เนต็ ทัว่ ไป ดาวนโ์ หลดวดิ โี อจากในการใช฾งาน ความสามารถของการ เทียบเท฽ากับ งานอนิ เทอรเ์ น็ต youtube การใช฾งาน social network เกม ประมวลผลสงู เช฽น งาน คอมพวิ เตอร์แบบตัง้ โตะ฿ โปรแกรมออฟฟิศ การดเู อกสารผา฽ น e- book ไม฽เหมาะสาํ หรบั เขียนโปรแกรม งาน พกพาสะดวก งานเขยี น ท่วั ๆ ไป ไมเ฽ หมาะ งานพมิ พเ์ อกสาร จาํ นวนมาก ออกแบบ กราฟิก ใช฾ โปรแกรม งานกราฟิก สําหรับงานท่ตี อ฾ งใช฾ 7” -11” ทุกรุ฽นเป็น touch screen แอพพลิเคชนั่ ทัว่ ไปได฾ เหมาะสาํ หรบั การ การประมวลผลของ Dual-Core ARM เลน฽ เกม การประมวลผล ทํางานนอกสถานท่ี ซีพยี ูที่ค฽อนข฾างสูง Cortex-A9, Apple A4, A5 แอนิเมชัน่ จอสมั ผสั /คียบ์ อรด์ เสมือนขนาดของ 18.5”–23” บางรุน฽ เปน็ 11”-15.6” บางรน฽ุ เป็น 10.1”-11” 16-64 GB/จอภาพ จอแบบ multi touch จอแบบ multi touch Intel Atom 512 MB- screen screen 1 GBหน฽วยประมวลผล Intel core i3, i5, i7, Intel core i3, i5, i7, AMD AMDหน฽วยรับ คยี ์บอรด์ คีย์บอร์ด คยี ์บอร์ดข฾อมูลคาํ ส่งั 500 GB- 1 TB/ 4-8 500 GB- 1 TB/ 300-500 GB/ความจุ GB 4-8 GB 2-4 GBฮารด์ ดสิ ก/์แรม

39ตารางที่ 2.1 แสดงรายการเปรยี บเทยี บคอมพิวเตอรส์ ฽วนบุคคลประเภทตา฽ งๆ (ตอ฽ )รายการ คอมพิวเตอร์ตง้ั โต๊ะ คอมพิวเตอร์โนต้ บ๊กุ คอมพวิ เตอรเ์ น็ตบกุ๊ คอมพิวเตอรแ์ ท็บเล็ตพอร์ต/การ USB, 10/100/1000 USB, 10/100/1000 USB, 10/100/1000 802.11 b/g/n wifi, micro USB, Microเชอื่ มตอ฽ Mbps สําหรับ LAN, Mbps สําหรับ LAN, Mbps สาํ หรบั LAN, HDMI บางร฽นุ รองรบั 3GHDMI, card reader, HDMI, card reader, HDMI, card reader,VGA, Bluetooth, VGA, Bluetooth, VGA, Bluetooth,บางรุ฽นเป็นจอสมั ผสั 802.11 b/g/n wifi, 802.11 b/g/n wifi, บางรน฽ุ มี WWAN บางร฽ุนมี WWAN รองรบั 3G รองรบั 3Gระยะเวลาใน เฉลีย่ 3-5 ช่ัวโมง เฉลีย่ 6-8 ชัว่ โมง เฉลยี่ 10 ชว่ั โมงหรือการใช฾งาน มากกว฽าแบตเตอร่ี ติดตั้งจากออพตคิ อล ไดรฟ์ ตดิ ตง้ั ผา฽ นระบบ ตดิ ตง้ั จากออพติคอล จากแหล฽งโหลดการติดตง้ั ติดตง้ั จากออพตคิ อล อินเทอรเ์ น็ต และจาก ไดรฟ์ ติดต้ังผา฽ น โปรแกรม เชน฽แอพพลิเคชน่ั ไดร์ฟ ตดิ ตัง้ ผา฽ นระบบ พอรต์ ยเู อสบี ระบบอินเทอร์เนต็ Android market 1.5-2.5 Kg และจากพอรต์ ยูเอสบี และ iTunes อนิ เทอรเ์ นต็ และจาก 15,000- 50,000 พอร์ตยเู อสบี 1.3-1.5 Kg 500 g – 1 Kg.น้ําหนัก .- 9000 –18,000 8,000 – 20,000 บาทราคา 15,000- 50,000การเลือกซอ้ื คอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์ท่ีจําเป็นต฾องมีไว฾เพื่อประกอบการเรียนหรือการทํางาน ราคาของเคร่ืองคอมพิวเตอร์ในปัจจุบันไม฽แพงมากนัก ประสิทธิภาพการทํางานสูงขึ้นมาก หลักเกณฑ์ในการเลอื กซ้ือคอมพิวเตอรเ์ พื่อนํามาใชง฾ าน มีดังน้ี 1. คํานึงถึงวัตถุประสงค์การใช฾งานเป็นหลัก ผ฾ูซื้อควรระบุวัตถุประสงค์หลักในการใช฾งานให฾ได฾ก฽อนท่ีจะเลือกซื้อคอมพิวเตอร์ เพราะคอมพิวเตอร์แต฽ละประเภทมีวัตถุประสงค์ในการใช฾งานต฽างกนั ดงั ได฾กลา฽ วแลว฾ ในตารางท่ี 2.1 2. งบประมาณ เมื่อกําหนดวัตถุประสงค์หลักได฾แล฾ว จะทําให฾ทราบว฽าควรซื้อคอมพิวเตอร์ประเภทใด ถัดมาต฾องดูงบประมาณว฽าจะสามารถซ้ือคอมพิวเตอร์ได฾ที่ราคาประมาณเท฽าไหร฽ จะได฾คณุ สมบตั ิต฽างๆ (specification) ของคอมพวิ เตอร์อย฽างไรบา฾ ง 3. ทาํ การพิจารณาคณุ สมบัตติ า฽ งๆ ของคอมพิวเตอร์ เพือ่ ประกอบการซ้ือ ดงั น้ี 3.1 ความเรว็ ของซพี ียูหรอื หนว฽ ยประมวลผล เพราะความสามารถในการประมวลผลของคอมพิวเตอรข์ ึน้ อยก฽ู ับความเร็วของซีพียู ราคาของคอมพิวเตอร์ขึ้นกับความเร็วของซีพียู เป็นหลัก ถ฾าย่งิ ประมวลผลได฾เรว็ ราคากจ็ ะสูงตาม ย่หี อ฾ ของซีพียเู ป็นสิ่งที่ตอ฾ งพจิ ารณาควบคูก฽ นั ไปด฾วย 3.2 ความจุของแรม เนื่องจากแรมเป็นส฽วนที่ช฽วยในการประมวลข฾อมูลร฽วมกับซีพียูดังนั้นต฾องพิจารณาความจุของแรมร฽วมด฾วย ถ฾าความจุของแรมมากจะช฽วยซีพียูในการประมวลผลให฾เรว็ มากข้ึน ท้ังนี้ต฾องพิจารณาถึงความสามารถในการอัพเกรดแรมในอนาคตว฽าสามารถเพ่ิมแรมได฾อีกหรือไมแ฽ ละสามารถเพิ่มได฾สูงสดุ เท฽าไหร฽

40 3.3 ความจุของฮาร์ดดิสก์ เนื่องจากฮาร์ดดิสก์เป็นหน฽วยความจําสํารองท่ีใช฾ในการเก็บข฾อมูลงานต฽างๆ ในคอมพิวเตอร์ ผ฾ูซื้ออาจจะต฾องเลือกซ้ือคอมพิวเตอร์ท่ีมีความจุฮาร์ดดิสก์สูงถ฾ามีขอ฾ มลู ทต่ี ฾องการจัดเกบ็ เปน็ จาํ นวนมาก 3.4 พอร์ตในการเชื่อมต฽ออุปกรณ์ เป็นอีกส่ิงหนึ่งท่ีต฾องพิจารณาทุกคร้ังเม่ือเลือกซื้อคอมพวิ เตอร์ โดยเฉพาะอย฽างยิ่งคอมพิวเตอร์แบบพกพา เน่ืองจากต฾องมีการเชื่อมต฽อคอมพิวเตอร์กับอุปกรณ์อ่ืนๆ เพ่ือความบันเทิง เพ่ือการโอนย฾ายข฾อมูลและการนําเสนองานเป็นต฾น พอร์ตพ้ืนฐานท่ีควรมี ประกอบดว฾ ย 1) พอร์ตยเู อสบี 2) พอรต์ วจี ีเอ 3) พอรต์ เอชดีเอ็มไอ และ 4) พอร์ตออดิโอ เป็นตน฾ 3.5 อุปกรณ์ในการเช่ือมตอ฽ อินเทอรเ์ น็ต อุปกรณ์พื้นฐานในการเช่ือมต฽ออินเทอร์เน็ตของเครื่องคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต฿ะจะเป็นการ์ดเน็ตเวิร์ค และการบิวต์อินโมเด็มมาในตัวเคร่ือง แต฽คอมพิวเตอร์แบบพกพาซึ่งเน฾นการใช฾งานนอกสถานท่ีต฾องมีความสามารถในการรับสัญญาณวายฟายดังน้ันจําเป็นต฾องมีมาตรฐานการเชื่อมต฽อ 802.11 b/g/n wifi เพื่อเช่ือมต฽อกับวายฟายอินเทอร์เน็ตรวมถงึ ควรมกี ารรองรับวแี วน เพอ่ื การเช่ือมตอ฽ อินเทอรเ์ น็ตความเร็วสงู ดว฾ ย 3.6 หน฾าจอแสดงผล เป็นอีกหนึ่งปัจจัยท่ีต฾องพิจารณา หน฾าจอแสดงผลท่ีเป็นแบบ FullHD ทีม่ คี วามละเอยี ดและความคมชัดของภาพสงู จะมีราคาสูงกวา฽ แบบ HD ทั่วๆ ไป 3.7 บริการหลังการขายและการรับประกันตัวเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นส่ิงที่จําเป็นมากเพราะถ฾าคอมพิวเตอร์มีปัญหาต฾องมีการส฽งศูนย์ซ฽อม รวมถึงถ฾ามีการรับประกันเครื่อง เช฽น ประกันอุบัติเหตุ หรือ ประกันการสูญหาย จะทาํ ใหผ฾ ูใ฾ ชง฾ านมน่ั ใจในการใชง฾ านคอมพวิ เตอร์มากข้ึน 3.8 ในส฽วนของการเลือกซื้อคอมพิวเตอร์แบบพกพา ส่ิงท่ีต฾องพิจาณาร฽วมด฾วย คือระยะเวลาในการใช฾งานของแบตเตอร่ี ควรเลือกซื้อร฽ุนคอมพิวเตอร์พกพาท่ีแบตเตอร่ีมีระยะเวลาในการใช฾งานได฾ยาวนานและต฾องคํานึงถึงนํ้าหนักของตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ที่รวมน้ําหนักของแบตเตอรี่เขา฾ ไปแล฾วดว฾ ย ควรเลือกซือ้ คอมพิวเตอร์พกพาทีม่ นี าํ้ หนักเบาเพราะพกพาได฾สะดวกการบารุงรักษาคอมพวิ เตอร์ เนื่องจากคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ใช฾กระแสไฟฟูาเพื่อให฾อุปกรณ์ต฽างๆภายในเคร่ืองสามารถทํางานได฾ ดังน้ันเพ่ือให฾ยืดอายุการใช฾งานของคอมพิวเตอร์ให฾ยาวนานข้ึน ผู฾ใช฾ต฾องหม่นั บํารงุ รักษาคอมพวิ เตอร์ ดังนี้ 1. การบารุงรักษาฮาร์ดแวรค์ อมพวิ เตอร์ การบํารุงรักษาฮารด์ แวร์คอมพิวเตอร์ เป็นการบํารุงรักษาตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ให฾อย฽ูในสภาพท่ีพรอ฾ มใชง฾ านอย฽ูเสมอ ผูใ฾ ช฾งานคอมพวิ เตอร์ควรปฏบิ ตั ิดังนี้ 1.1 ทําความสะอาดเคร่ืองคอมพิวเตอร์ด฾วยผ฾าแห฾งทุกครั้ง เพราะการใช฾ผ฾าท่ีเปียกชื้นจะทําใหค฾ วามชื้นไปเกาะตามช้ินส฽วนตา฽ งๆ ส฽งผลต฽อการทาํ งานของอปุ กรณ์นนั้ ๆ ได฾ 1.2 ตอ฾ งทําความสะอาดเคร่อื งขณะทป่ี ดิ เครื่องเทา฽ น้นั 1.3 ในกรณีท่ีเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์แบบต้ังโต฿ะ ควรจัดวางคอมพิวเตอร์ในท่ีปลอดโปร฽ง ไม฽ควรต้ังในมุมอับ เพราะจะทําให฾การระบายความร฾อนของพัดลมระบายอากาศทํางานได฾ไม฽ดีเท฽าทค่ี วร

41 1.4 ในกรณที ่ใี ชส฾ เปรย์ ไม฽ควรฉดี นา้ํ ยาลงทีเ่ ครอื่ งคอมพิวเตอร์โดยตรง ควรฉีดลงบนผ฾าและไม฽ใหช฾ ้นื จนเกนิ ไป 1.5 หลกี เล่ยี งการดม่ื นํา้ และกินของขบเคย้ี วใกล฾กับคอมพิวเตอร์ เพราะอาจเกิดการหกเลอะของนํ้าท่คี อมพิวเตอร์ และมเี ศษของขบเคี้ยวตกลงไปในคยี บ์ อร์ดได฾ 1.6 ในกรณีท่ีเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์แบบพกพา ควรจัดหาซอฟต์เคสสําหรับเครื่องคอมพวิ เตอรเ์ พื่อปอู งกันการกระแทกจากการตกหลน฽ ของเคร่อื งคอมพวิ เตอร์ 1.7 ยืดระยะเวลาการใช฾งานแบตเตอร่ีสําหรับคอมพิวเตอร์แบบพกพา โดยการปิดโปรแกรมทีไ่ มจ฽ าํ เป็นต฾องใชง฾ านทุกคร้งั ปดิ การเชื่อมตอ฽ อุปกรณ์ เช฽น ปิดการใช฾งานบลูทูธ และปิดการเชื่อมต฽ออินเทอร์เนต็ ทุกคร้ัง เม่อื หยุดใช฾งาน 2. การบารุงรกั ษาข้อมูลในเคร่อื งคอมพิวเตอร์ นอกจากจะบํารุงรักษาตัวเคร่ืองคอมพิวเตอร์แล฾ว ผู฾ใช฾ต฾องให฾ความสําคัญกับข฾อมูลต฽างๆท่ีจัดเก็บในเคร่ืองคอมพิวเตอร์ เพ่ือปูองการสูญหายหรือถูกทําลาย ผ฾ูใช฾งานสามารถดูแลข฾อมูลในเครื่องคอมพิวเตอร์ ดังนี้ 2.1 ตดิ ตงั้ โปรแกรมสแกนและกาํ จัดไวรัสคอมพิวเตอร์และต฾องทําการอัพเดตโปรแกรมสม่าํ เสมอ 2.2 สรา฾ งโฟลเดอรเ์ พื่อเกบ็ ข฾อมูลในไดรฟ์ ทไ่ี ม฽ได฾ติดตั้งโปรแกรมระบบ (โปรแกรมระบบส฽วนมากติดตั้งท่ีไดร์ฟ C:) ทั้งน้ีเพ่ือปูองกันการสูญหายของข฾อมูลเมื่อโปรแกรมระบบรวมถึงระบบปฏบิ ตั ิการเกดิ ปญั หาในการใช฾งาน 2.3 หมั่นใช฾โปรแกรมอรรถประโยชน์ เช฽น disk cleanup เพ่ือกําจัดไฟล์ที่ไม฽จําเป็นในฮารด์ ดิสก์ เชน฽ ไฟล์ขยะใน Internet temporary file 2.4 uninstall โปรแกรมทีไ่ ม฽จาํ เป็นต฾องใชง฾ านออก เพ่อื ประหยัดพนื้ ที่ของฮาร์ดดิสก์ 2.5 ในไดร์ฟ C: ที่ติดตั้งโปรแกรมระบบปฏิบัติการ ต฾องเหลือพ้ืนท่ีของฮาร์ดดิสก์อย฽างน฾อย 500-700 MB เพราะจะเกิดปญั หากบั การสตาร์ทระบบปฏิบตั ิการเมือ่ หน฽วยคําจาํ ไม฽เพยี งพอ 2.6 หม่ันสํารองข฾อมลู จากฮาร์ดดสิ กล์ งในหน฽วยความจําสาํ รองอ่ืนๆ เสมอ 2.7 ใช฾ scandisk และ disk defragment อย฽างน฾อยเดือนละ 1 คร้ัง เพ่ือปูองกันการสญู เสียทอ่ี าจจะเกดิ กับฮารด์ ดสิ ก์ 2.8 ไมค฽ วรถอดสายอุปกรณ์เช่ือมต฽อขณะที่กําลังเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ เพราะอาจทําใหแ฾ ผงวงจรรวมเสยี หายได฾ 2.9 ติดต้ังไฟร์วอลล์ (firewall) เพื่อปูองกันไวรัสหรือการบุกรุกรูปแบบต฽างๆ จากการใช฾งานอนิ เทอร์เน็ต 2.10 ทําการสํารองซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการและไดร์ฟเวอร์ของเคร่ืองคอมพิวเตอร์ไว฾ทุกคร้ัง เพอ่ื ประโยชน์ในการติดตง้ั ซอฟตแ์ วรร์ ะบบในกรณีทีค่ อมพวิ เตอรเ์ กิดปัญหา

42สรุป คอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์ท่ีมีความจําเป็นต฽อการดําเนินกิจการของทุกๆ องค์กร เพราะคอมพิวเตอร์ช฽วยเพ่ิมประสิทธิภาพในการทํางาน องค์ประกอบท่ีสําคัญของฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์ประกอบด฾วย หน฽วยรับข฾อมูล หน฽วยประมวลผล หน฽วยความจํา หน฽วยแสดงผล และหน฽วยติดต฽อส่ือสาร คอมพิวเตอร์มีหลายประเภท มีการแบ฽งประเภทของคอมพิวเตอร์ตามขนาดและสมรรถนะในการใช฾งาน ได฾แก฽ ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ เมนเฟรม มินิคอมพิวเตอร์ และไมโครคอมพิวเตอร์ หรือคอมพิวเตอร์ส฽วนบุคคล ซึ่งแบ฽งได฾เป็น คอมพิวเตอร์แบบต้ังโต฿ะ และคอมพิวเตอร์แบบพกพา คอมพิวเตอร์แบบพกพาเป็นคอมพิวเตอร์ส฽วนบุคคลที่ได฾รับความนิยมมากท่ีสุดในปัจจุบัน ประกอบด฾วย คอมพิวเตอร์โน฾ตบุ฿ก คอมพิวเตอร์เน็ตบุ฿ก และคอมพิวเตอร์แท็บเล็ตซอฟต์แวร์เป็นส่ิงจําเป็นเพราะเป็นชุดคําส่ังที่ส่ังให฾คอมพิวเตอร์ทํางาน ซอฟต์แวร์ แบ฽งได฾เป็นซอฟต์แวรร์ ะบบ และซอฟตแ์ วรป์ ระยุกต์ ในการเลือกซือ้ คอมพิวเตอร์ต฾องคํานึงถึงวัตถุประสงค์ในการใช฾งานเปน็ หลกั รวมถงึ เม่อื มกี ารซ้ือคอมพวิ เตอร์มาใชง฾ านแลว฾ ตอ฾ งหม่นั ดูแลรกั ษาอย฽างสม่ําเสมอ

43 คาถามทบทวน1. คอมพวิ เตอรม์ ีความสําคญั ตอ฽ การเรียนของนักศึกษาอยา฽ งไรบ฾าง2. จงบอกหลักการทํางานของคอมพวิ เตอร์3. สว฽ นประกอบหลกั ของฮารด์ แวร์คอมพวิ เตอรม์ ีอะไรบ฾าง4. หน฽วยประมวลผลกลาง มคี วามสาํ คัญอยา฽ งไรตอ฽ การทาํ งานของคอมพิวเตอร์5. คอมพวิ เตอรม์ ีกี่ประเภท จงอธิบาย6. คอมพิวเตอร์โน฾ตบุก฿ และคอมพวิ เตอรเ์ นต็ บุ฿ก มีความเหมอื นและต฽างกนั อยา฽ งไรบา฾ ง7. เพราะเหตุใดคอมพวิ เตอร์แทบ็ เลต็ จึงเป็นทนี่ ยิ มในปัจจบุ นั8. ซอฟตแ์ วร์ประยกุ ตค์ อื อะไร ใหย฾ กตัวอยา฽ งมา 5 ซอฟต์แวร์9. นักศกึ ษามวี ิธีการเลือกชื้อคอมพิวเตอรโ์ นต฾ บุ฿กอย฽างไรบา฾ ง10. จงบอกวิธกี ารดแู ลรักษาไฟล์ขอ฾ มลู ในเคร่ืองคอมพวิ เตอรม์ า 5 ข฾อ พร฾อมอธบิ าย

บทท่ี 3 เทคโนโลยกี ารส่อื สารขอ้ มลู อาจารย์สุระสทิ ธิ์ ทรงมา้ ปจั จบุ ันเทคโนโลยกี ารสื่อสารได฾มีการพัฒนาอย฽างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพที่สูงข้ึนกว฽าเดิมอาทเิ ช฽น ระบบคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ต โดยเราจะเห็นได฾ว฽าในปัจจุบันตามอาคารบ฾านพักอาศัยรวมไปถึงสํานักงานต฽างๆ มีการใช฾งานระบบคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตกันอย฽างแพร฽หลาย โดยถูกนํามาใช฾ในชีวิตประจําวันจนกลายเป็นส่ิงจําเป็นมากขึ้น เช฽น การเก็บข฾อมูล การติดต฽อส่ือสาร การคน฾ ควา฾ ขอ฾ มลู การซื้อขายสินค฾า รวมถึงความบันเทิง เป็นต฾น ซึ่งสามารถกระทําได฾สะดวกและรวดเร็วโดยระบบอินเทอร์เนต็ น้นั มาจากการพัฒนาทางด฾านเทคโนโลยีการสื่อสารข฾อมูล หรือเรียกว฽า “ระบบเครือข฽ายคอมพิวเตอร์” ซ่ึงในปัจจุบันระบบเครือข฽ายคอมพิวเตอร์เป็นเร่ืองที่ใกล฾ตัวมากกว฽าในอดีตเป็นอย฽างมาก เพราะสามารถพบเห็นและทําความเข฾าใจได฾ง฽ายข้ึน สําหรับเนื้อหาบทน้ีจะกล฽าวถึงภาพรวมในเร่ืองของระบบเครือขา฽ ยคอมพิวเตอร์ความรูเ้ บื้องต้นเกีย่ วกบั ระบบเครือขา่ ยคอมพวิ เตอร์ นิยามของคําว฽าระบบเครือข฽ายคอมพิวเตอร์ (Computer Network) ได฾มีนักวิชาการได฾กลา฽ วถงึ ความหมายของระบบเครือขา฽ ยคอมพวิ เตอร์ ไว฾หลายทา฽ นดงั นี้ พิศาล พิทยาธุรวิวัฒน์ (2551, หน฾า 15) ได฾ให฾ความหมายระบบเครือข฽ายคอมพิวเตอร์ไว฾ว฽าระบบเครือข฽ายคอมพิวเตอร์ หมายถึง การนําเคร่ืองคอมพิวเตอร์รวมถึงอุปกรณ์ต฽าง ๆ เช฽น สวิตช์เร฾าท์เตอร์ เครื่องพิมพ์ มาเชื่อมโยงเป็นระบบเครือข฽าย โดยมีตัวกลางในการนําพาสัญญาณ เพ่ือให฾สามารถติดต฽อส่อื สารกันได฾ ทําใหเ฾ กิดประโยชน์ในการใชง฾ านด฾านตา฽ งๆ ฝุายผลิตหนังสือตําราวิชาการคอมพิวเตอร์ สํานักพิมพ์ซีเอ็ดยูเคช่ัน (2551, หน฾า 21) ได฾ให฾ความหมายไวว฾ ฽า ระบบเครอื ขา฽ ยคอมพิวเตอร์ หมายถึง การนํากล฽ุมคอมพิวเตอร์ต้ังแต฽ 2 เคร่ืองข้ึนไปมาเช่ือมต฽อกันเป็นเครือข฽าย การเชื่อมต฽อกลุ฽มคอมพิวเตอร์เข฾าด฾วยกัน จําเป็นต฾องมีส่ือกลางในการสอื่ สาร ซึง่ อาจเป็นสายเคเบลิ หรอื คลน่ื วทิ ยุ จตุชัย แพงจันทร์ และอนุโชต วุฒิพรพงษ์ (2551, หน฾า 6) ได฾กล฽าวว฽า ระบบเครือข฽ายคอมพิวเตอร์ หมายถึง ระบบท่ีมีคอมพิวเตอร์อย฽างน฾อยสองเคร่ืองเช่ือมต฽อกันโดยใช฾สื่อกลาง และสามารถส่อื สารข฾อมลู กันไดอ฾ ยา฽ งมปี ระสทิ ธิภาพ จากขอ฾ มูลข฾างต฾นสรุปได฾ว฽า ระบบเครือข฽ายคอมพิวเตอร์ หมายถึง การติดต฽อสื่อสารหรือการเชื่อมต฽อกันระหว฽างระบบคอมพิวเตอร์ตั้งแต฽ 2 เครื่องข้ึน ผ฽านสื่อกลางในการติดต฽อส่ือสารหรือการเชื่อมต฽อ ได฾ทั้งสื่อกลางแบบมีสายหรือส่ือกลางแบบไม฽มีสายก็ได฾ อาทิเช฽น สายเคเบิล หรือผ฽านคลน่ื วทิ ยุ โดยมีจุดประสงค์หลกั เพื่อแลกเปลย่ี นขอ฾ มูลข฽าวสารหรือใชใ฾ นการติดตอ฽ ส่ือสารซึ่งกันและกนั

46 1. องค์ประกอบของระบบการส่ือสารขอ้ มลู การส่ือสารข฾อมูลไม฽ว฽าจะเป็นคนหรือเครื่องคอมพิวเตอร์ จะประสบความสําเร็จหรือไม฽ข้ึนอย฽ูกับส฽วนประกอบหลายประการ โดยพื้นฐานแล฾วระบบการสื่อสารข฾อมูลจะประกอบไปด฾วย 5สว฽ นสาํ คัญดงั นี้ 1.1 ข฾อมูล (Data) คือส่ิงท่ีเราต฾องการส฽งไปยังปลายทาง เช฽น ข฽าวสารหรือสารสนเทศอาจเป็นข฾อความ ภาพ วิดีโอ หรือสื่อประสม (Multimedia) ซ่ึงข฾อมูลท่ีส฽งไปจะผ฽านสื่อกลางอาจจะเปน็ แบบมีสายและแบบไมม฽ สี ายกไ็ ด฾ เมอื่ ไปถึงปลายทางผูร฾ ับจะต฾องสามารถเข฾าใจข฽าวสารนนั้ ได฾ 1.2 ฝุายส฽งข฾อมูล (Sender) คือ แหล฽งกําเนิดข฽าวสาร (Source) หรืออุปกรณ์ท่ีนํามาใช฾สําหรบั สง฽ ขา฽ วสาร ตัวอย฽างอปุ กรณส์ ฽งขอ฾ มูล เชน฽ คอมพวิ เตอร์ โทรศัพท์ เร฾าทเ์ ตอร์ เปน็ ต฾น 1.3 ฝุายรับข฾อมูล (Receiver) คือ จุดหมายปลายทางของข฽าวสาร (Destination) หรืออุปกรณ์ที่นํามาใช฾สําหรับรับข฽าวสารท่ีส฽งมาจากฝุายส฽งข฾อมูล เช฽น คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ วิทยุโทรทัศน์ เร฾าท์เตอร์ เปน็ ตน฾ 1.4 สื่อกลางส฽งข฾อมูล (Media) คือ ช฽องทางการติดต฽อสื่อสารที่จะนําเอาข฾อมูลข฽าวสารจากฝาุ ยสง฽ ข฾อมลู ไปยังฝุายรับข฾อมูล ซึ่งเป็นเสมือนเส฾นทางที่ลําเลียงข฾อมูลจากต฾นทางไปยังปลายทางโดยปัจจุบนั ส่ือกลางมอี ยู฽ 2 ลกั ษณะ คอื แบบมสี าย เช฽น สายคู฽บิตเกลียว สายใยแก฾วนําแสง และแบบไมม฽ ีสาย เช฽น คลนื่ วิทยุ คลน่ื ไมโครเวฟ คลื่นอนิ ฟราเรด เป็นตน฾ 1.5 โพรโตคอล (Protocol) คือ มาตรฐานหรือขอ฾ ตกลงที่จะใชใ฾ นการติดต฽อสื่อสารร฽วมกันระหว฽างฝุายผ฾ูส฽งกับฝุายผ฾ูรับ นั้นก็คือการส่ือสารจะประสบความสําเร็จหรือไม฽ข้ึนอยู฽กับว฽าผู฾รับสารได฾เข฾าใจสารตรงตามท่ีผ฾ูส฽งต฾องการหรือไม฽ กรณีที่ผู฾รับสารเข฾าใจข฽าวสารผิดพลาดจะถือได฾ว฽าการสื่อสารนั้นลมเหลว เช฽น คนไทยต฾องการส่ือสารกับคนลาว โดยต฽างคนต฽างพูดภาษาของตนเองรับรองว฽าไม฽สามารถส่ือสารกันได฾อย฽างแน฽นอน จําเป็นต฾องมีภาษากลางที่ท้ังสองฝุายยอมรับ ในท่ีน้ีให฾เป็นภาษาองั กฤษ ทั้งคนไทยและคนลาวก็ใช฾ภาษาองั กฤษตดิ ต฽อสื่อสารกันกจ็ ะส่อื สารกันเข฾าใจ โพรโตคอลในท่ีน้ีคอื ภาษาอังกฤษ เปน็ ตน฾ โดยเมื่อนําองคป์ ระกอบของระบบการสอื่ สารข฾อมูลทั้งหมดมารวมกัน สามารถแสดงได฾ดังภาพที่ 3.1 ภาพท่ี 3.1 องค์ประกอบของระบบการสื่อสารข฾อมูล ท่มี า (นิสติ รนิ รดา โยธาปาน และนิสิตอรสุมน ศานตวิ งศ์สกลุ , 2555)

47 2. องคป์ ระกอบของระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การส่ือสารข฾อมลู ผ฽านระบบเครอื ข฽ายคอมพวิ เตอร์มีองค์ประกอบดงั ต฽อไปนี้ 2.1 คอมพิวเตอร์ คือ ระบบเครือขา฽ ยจะต฾องมีคอมพิวเตอร์อย฽างน฾อย 2 เคร่อื ง ข้นึ ไป โดยคอมพวิ เตอรจ์ ะเปน็ รน฽ุ ไหน ยี่ห฾อไหนก็ใช฾งานได฾ 2.2 การ์ดเชื่อมต฽อเครือข฽าย (Network Interface Card: NIC) เป็นการ์ดที่เสียบเข฾ากับช฽องเมนบอร์ดของคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นจุดเช่ือมต฽อระหว฽างคอมพิวเตอร์และเครือข฽าย ปัจจุบันการ์ดน้ีส฽วนใหญ฽จะติดต้งั ภายในคอมพวิ เตอรม์ าให฾แล฾ว 2.3 สื่อกลางและอุปกรณ์สําหรับการรับส฽งข฾อมูล (Physical Media) คือ ช฽องทางในการสื่อสารข฾อมูลเป็นได฾ทางแบบมีสายและแบบไม฽มีสาย เช฽น สายค฽ูตีเกลียว หรือคลื่นวิทยุ เป็นต฾น และอุปกรณ์เช่ือมตอ฽ ตา฽ งๆ เชน฽ ฮับ สวติ ช์ เราทเ์ ตอร์ เกตเวย์ เป็นต฾น 2.4 โพรโตคอล (Protocol) คือมาตรฐานหรือข฾อตกลงที่ต้ังข้ึนเพื่อทําให฾ผู฾ท่ีจะสื่อสารกันเข฾าใจกัน หรือโปรโตคอลเดียวกัน เช฽น กรณีท่ีจะเช่ือมต฽อเข฾าระบบอินเทอร์เน็ต คอมพิวเตอร์จะเชอื่ มตอ฽ ผ฽านโพรโตคอล TCP/IP เป็นต฾น 2.5 ระบบปฏิบัติเครือข฽าย (Network Operating System: NOS) คือชุดโปรแกรมที่เป็นตัวช฽วยจัดการเกี่ยวกับการใช฾งานเครือข฽ายของผู฾ใช฾แต฽ละคน หรือเป็นตัวกลางในการควบคุมการใช฾ทรพั ยากรตา฽ งๆ ของเครอื ข฽าย เชน฽ Windows server 2008, Unix และ Linux เปน็ ตน฾ 3. ประโยชน์ของระบบเครอื ข่ายคอมพิวเตอร์ ระบบเครือขา฽ ยคอมพวิ เตอรก์ ฽อให฾เกิดประโยชนต์ ฽างๆ มากมายหลายประการดว฾ ยกนั 3.1 ด฾านการใช฾ทรัพยากรร฽วมกันได฾ ซึ่งถือเป็นประโยชน์สูงสุดของการเช่ือมต฽อระบบเครอื ขา฽ ยคอมพิวเตอร์ 3.2 ด฾านการลดค฽าใช฾จ฽าย คือ เม่ือมีระบบเครือข฽ายคอมพิวเตอร์ท่ีสามารถใช฾ทรัพยากรรว฽ มกนั ไดส฾ ฽งผลตอ฽ การลดคา฽ ใช฾จ฽ายลง 3.3 ด฾านความสะดวกในด฾านการส่ือสาร การใช฾คอมพิวเตอร์เพื่อการส่ือสารส฽งผลให฾การตดิ ต฽อเพื่อดาํ เนินธุรกรรมใด ๆ บรรลุผลไดอ฾ ย฽างสะดวกและรวดเรว็ 3.4 ด฾านความน฽าเช่อื ถอื ของระบบงาน เน่อื งจากข฾อมูลข฽าวสารตา฽ งๆ มกี ารจดั เก็บไว฾หลายที่โดยมีระบบปฏิบัติการเครือข฽าย เป็นซอฟต์แวร์ที่ช฽วยจัดการสิทธิการใช฾งานของผู฾ใช฾และมีระบบปอู งกนั ความปลอดภัย ทดี่ แี ละมปี ระสทิ ธภิ าพรปู แบบการสอ่ื สารขอ้ มลู บนระบบเครอื ขา่ ย ในการติดต฽อส่ือสารกันระหว฽างเครื่องคอมพิวเตอร์ภายในระบบเครือข฽าย จะมีรูปแบบของการสอ่ื สารหลักๆ อยู฽ 3 รูปแบบ ดังนี้ 1. การส่ือสารแบบ Unicast ลักษณะการส่ือสารแบบ Unicast เป็นโหมดการรับส฽งข฾อมูลจากคอมพิวเตอร์หน่ึงไปยังอีกเคร่ืองหน่ึงในระบบเครือข฽ายในลักษณะ 1 ต฽อ 1 หรือเรียกว฽า One-to-One การส฽งลักษณะนี้ ตัวเราท์เตอร์ ใช฾โพรโทคอลในการค฾นหาเส฾นทางระหว฽างโหนด เช฽น Routing Internet Protocol

48version 2 (RIP), Open Shortest Path Finding version 2 (OSPF) เป็นต฾น เน่ืองจากการส่ือสารแบบ Unicast เปน็ การส฽งข฾อมูลระหว฽างคอมพิวเตอร์แบบงา฽ ย ๆ แตจ฽ ะมปี ญั หาถ฾าจํานวนคอมพิวเตอร์ในการรับส฽งเพิ่มมากเกินไป จะส฽งผลทําให฾เกิดปัญหาการส฽งข฾อมูลในเครือข฽ายมากเกินไป (NetworkLoad) ลักษณะการส่ือสารแบบ Unicats แสดงไดด฾ ังภาพที่ 3.2 ภาพท่ี 3.2 ลักษณะการสอื่ สารแบบ Unicast ท่ีมา (McQuerry S, 2008) 2. การสอ่ื สารแบบ Broadcast การสื่อสารแบบ Broadcast โหมดน้ันเป็นการส฽งข฾อมูลจากคอมพิวเตอร์ต฾นทางหน่ึงเครื่องไปยังเครื่องปลายทางทุกเคร่ืองท่ีติดต฽ออยู฽ในลักษณะของการแพร฽กระจายข฾อมูล แบบ 1 ต฽อทั้งหมด หรือเรียกว฽า One-to-All การแพร฽ข฾อมูลแบบส฽งไปยังเครื่องทุกเคร่ืองนั้น จะต฾องมีการประมวลผลข฾อมูลที่เคร่ืองปลายทาง ส฽วนเคร่ืองที่ไม฽ต฾องการรับข฾อมูลนั้นก็จะได฾รับข฾อมูลไปด฾วย แต฽ต฾องท้ิงข฾อมูลที่ได฾รับมา เป็นการสูญเสียความสามารถในการประมวลผลไป อีกท้ังยังทําให฾มีปริมาณข฾อมูลส฽งอยู฽ในเครือข฽ายจํานวนมากโดยเปล฽าประโยชน์ และสามารถเกิดเป็นปัญหา พายุข฾อมูล(Broadcast storm) ได฾ การสอื่ สารแบบ Broadcast น้ีปจั จบุ ันมีการใช฾งานอย฽เู ฉพาะใน (Local AreaNetwork: LAN เท฽าน้ัน เนื่องจากเป็นการยากในการหาเส฾นทางเม่ือส฽งออกไปยัง (Wide AreaNetwork: WAN) ดังนั้นจงึ ใช฾เฉพาะใน LAN ซงึ่ จดั การได฾ดงี ฽ายกวา฽ บน WAN แสดงดงั ภาพที่ 3.3 ภาพท่ี 3.3 ลักษณะการสื่อสารแบบ Broadcast ท่ีมา (McQuerry S, 2008) 3. การส่ือสารแบบ Multicast โหมดการส่อื สารข฾อมูลแบบ Multicast เป็นการส฽งข฾อมูลจากเคร่ืองต฾นทางหนึ่งไปยังกล฽ุมของเครอื่ งปลายทางเฉพาะกลุม฽ ทีม่ กี ารกาํ หนดแบบ 1 ต฽อกลุ฽มเฉพาะ หรือ One-to-N ซ่ึง N ในที่น้ีอยู฽ตง้ั แต฽ 0 ถงึ ทง้ั หมด การสง฽ ขอ฾ มูลจะสง฽ ไปยังเฉพาะกลุม฽ ทตี่ อ฾ งการรบั ข฾อมูลเท฽าน้ัน การส฽งข฾อมูลแบบนี้จะแตกต฽างจาก Unicast และ Broadcast มาก คือ ข฾อมูลจะถูกส฽งจากต฾นทางเพียงแพ็กเก็ต(Packet) เดียวและจะถูกส฽งต฽อโดยตัวเราท์เตอร์ จนถึงกลุ฽มเครือข฽ายปลายทาง และจะส฽งแพ็กเก็ต

49ข฾อมูลไปยังเคร่ืองในกล฽ุมเฉพาะ (Multicast Group) ที่กําหนด โดยจะทําการคัดลอกแพ็กเก็ตข฾อมูลแลว฾ ส฽งใหแ฾ กเ฽ ครอ่ื งปลายทางทุกเครอ่ื งทต่ี ฾องการ แสดงได฾ดังภาพที่ 3.4 ภาพท่ี 3.4 ลกั ษณะการสอื่ สารแบบ Multicast ทม่ี า (McQuerry S, 2008)ทิศทางของการสือ่ สารข้อมูลบนระบบเครือข่าย สําหรับการติดต฽อสื่อสารกันระหว฽างผ฾ูส฽ง (คอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ต฾นทาง) และผ฾ูรับ(คอมพวิ เตอร์ปลายทางหรอื อุปกรณ์ปลายทาง) มีลกั ษณะการส่ือสารได฾ 3 รปู แบบดังน้ี 1. การส่ือสารแบบซมิ เพล็กซ์ การสื่อสารแบบซิมเพล็กซ์ (Simplex) หรือการสื่อสารแบบทางเดียวเป็นการสื่อสารท่ีมีลักษณะผู฾ส฽งทําหน฾าที่ส฽งสารอย฽างเดียว และผ฾ูรับก็จะมีหน฾าที่รับสารอย฽างเดียว โดยท่ีผู฾รับไม฽สามารถสง฽ ข฽าวสารกลบั ไปยังผ฾ูส฽งได฾ จะคล฾ายกบั การที่เราน่ังฟังวิทยุ หรือดูโทรทัศน์ เราจะเป็นผ฾ูรับอย฽างเดียวไม฽สามารถเป็นผูส฾ ง฽ ได฾ เชน฽ คียบ์ อรด์ และจอภาพแบบทัชสกรีน แสดงไดด฾ ังภาพที่ 3.5 One way only ภาพที่ 3.5 การสอ่ื สารแบบซิมเพล็กซ์ 2. การสื่อสารแบบฮาลฟ์ ดเู พลก็ ซ์ การสอื่ สารแบบฮาลฟ์ ดูเพลก็ ซ์ (Half-Duplex) หรือการสื่อสารแบบทางใดทางหนึ่งท่ีผ฾ูรับและผ฾ูส฽งสามารถส฽งข฽าวสารระหว฽างกันได฾ แต฽ต฾องเป็นคนละเวลา คือหากผ฾ูส฽งส฽งข฾อมูลไปหาผ฾ูรับระหว฽างน้ันผ฾ูรับจะไม฽สามารถส฽งข฾อมูลไปหาผ฾ูส฽งได฾ต฾องรอจนว฽าผ฾ูส฽งจะส฽งเสร็จจึงสามารถส฽งข฾อมูลข฽าวสารได฾ เช฽น การใช฾วิทยุส่ือสารของตํารวจ การสื่อสารในรูปแบบน้ี ต฾องอาศัยการ สลับสวิตซ์ เพ่ือแสดง การเป็นผู฾ส฽งสัญญาณคือต฾องผลัดกันพูด และจะไม฽สามารถส฽งข฾อมูลพร฾อมกันได฾ แสดงได฾ดังภาพที่ 3.6

50 TWO WAY BUT NOT AT THE SAME TIME ภาพที่ 3.6 การส่อื สารแบบฮาลฟ์ ดูเพล็กซ์ 3. การสอ่ื สารแบบฟลู ดูเพล็กซ์ การส่ือสารแบบฟูลดูเพล็กซ์ (Full-Duplex) หรือการส่ือสารแบบสองทิศทาง เป็นการส่ือสารท่ีทั้งผู฾รับและผู฾ส฽ง สามารถส฽งข฾อมูลข฽าวสารถึงกันได฾ในระยะเวลาหนึ่งได฾พร฾อมกัน หรือการตดิ ต฽อสื่อสารกนั ได฾ตลอดทั้งผส฾ู ฽งและผ฾รู บั ในเวลาเดยี วกัน เชน฽ การใชโ฾ ทรศพั ท์ แสดงไดด฾ งั ภาพท่ี 3.7 BOTH WAY AT THE SAME TIME ภาพท่ี 3.7 การสอ่ื สารแบบฟูลดเู พล็กซ์ประเภทของระบบเครือข่ายคอมพวิ เตอร์ เพื่อความเข฾าใจมากยิ่งขึ้นจําเป็นต฾องทําความเข฾าใจถึงระบบเครือข฽ายคอมพิวเตอร์ โดยเราสามารถจําแนกประเภทของระบบเครือข฽ายคอมพิวเตอร์ออกได฾หลายประเภทตามหลักเกณฑ์ท่ีใช฾สําหรับการจาํ แนกประเภท อาทิเช฽น แบ฽งตามขนาดพ้ืนท่ีการให฾บริการ แบ฽งตามลักษณะการไหลของข฾อมูล และแบ฽งตามลักษณะหน฾าที่การทํางานของคอมพิวเตอร์ในเครือข฽าย โดยขอยกตัวอย฽างเป็นสังเขปดังน้ี 1. แบ่งตามขนาดพืน้ ที่ให้บริการ หรอื เรียกอกี อย฽างวา฽ การแบง฽ ตามขนาดทางกายภาพ โดยสิ่งท่ีต฾องคํานึงถึงสําหรับการแบ฽งตามขนาดพื้นท่ีการให฾บริการคือ ความเร็วในการติดต฽อรับส฽งข฾อมูลข฽าวสารระหว฽างกัน จะมีลักษณะคล฾ายกบั การทาํ งานของมนษุ ยเ์ ราคือ เมอ่ื ยใ฽ู กล฾ก็จะติดต฽อสื่อสารกันได฾อย฽างรวดเร็วและมีข฾อผิดพลาดน฾อย ซ่ึงจะแตกต฽างกับการอย฽ูในพ้ืนที่ที่ห฽างไกลกันทําให฾การติดต฽อสื่อสารกันทําได฾ช฾าลงและโอกาสความผิดพลาดก็มีสูงข้ึนตามไปด฾วย โดยหากเราใช฾ขนาดพื้นที่การให฾บริการ สามารถแบ฽งได฾ 3ประเภท ดังน้ี 1.1 เครือขา่ ยท้องถิ่น (Local Area Network: LAN) หรือเรียกว฽าเครือข฽ายเฉพาะพ้ืนที่ เป็นเครือข฽ายท่ีติดต้ังและใช฾งานและมีพื้นที่ให฾บริการครอบคลุมระยะใกล฾ มักใช฾ภายในห฾องสํานักงาน ภายในตัวอาคาร หรือระหว฽างอาคารที่อยู฽บริเวณใกล฾เคียงกัน เป็นเครือข฽ายท่ีเป็นพ้ืนฐานสําหรับระบบเครือข฽ายคอมพิวเตอร์ท่ัวไป ตัวอย฽าง

51เทคโนโลยีที่ใช฾สําหรับเครือข฽ายเฉพาะที่ ได฾แก฽ อีเธอร์เน็ต (Ethernet) โทเคนริง (Token Ring)สาํ หรับกรณีระบบไรส฾ ายได฾แก฽ WI-Fi (IEEE 802.11) 1.2 เครอื ข่ายระดับเมือง (Metropolitan Area Network: MAN) หรือเรียกว฽าเครือข฽ายในพ้ืนที่เมือง เป็นเครือข฽ายที่มีพ้ืนที่ให฾บริการครอบคลุมอาณาบริเวณกว฾างกวา฽ เครอื ข฽ายท฾องถน่ิ และจะตอ฾ งใชเ฾ ครอื ข฽ายสาธารณะเขา฾ มาตัวกลางในการติดต฽อสื่อสารเช฽น โครงข฽ายขององค์การโทรศัพท์ หรือการส่ือสารแห฽งประเทศไทย ส฽วนใหญ฽ติดตั้งและใช฾บริการสําหรับติดต฽อสื่อสารกันในระดับจังหวัด หรือระหว฽างสาขาของสํานักงานที่อยู฽คนละพ้ืนที่กัน โดยเป็นการเช่ือมโยงระหว฽างเครือข฽ายท฾องถ่ินท่ีอยู฽คนละพื้นที่เข฾าด฾วยกัน ตัวอย฽างเทคโนโลยีที่ใช฾สําหรับเครือข฽ายระดับเมือง ได฾แก฽ FDDI เมโทอีเธอร์เน็ต (Metro-ethernet) สําหรับกรณีระบบไร฾สายได฾แก฽WIMAX (IEEE 802.16) 1.3 เครือข่ายระดับประเทศ (Wide Area Network: WAN) หรือเรียกว฽าเครือข฽ายพื้นที่กว฾าง เป็นเครือข฽ายท่ีมีพ้ืนที่ให฾บริการครอบคลุมอาณาบริเวณท่ีห฽างไกลกันมากกว฾างกว฽าเครือข฽ายระดับเมือง ใช฾เป็นเครือข฽ายสําหรับติดต฽อส่ือสารกันในระดับประเทศ ระดับทวีป และตอ฾ งใช฾เครอื ข฽ายสาธารณะเข฾ามาเป็นตัวกลางในการติดต฽อสื่อสาร ได฾แก฽โครงข฽ายขององค์การโทรศัพท์ หรือการส่ือสารแห฽งประเทศไทย เช฽น ค฽ูสายโทรศัพท์ Dial-Up line/คู฽สายเช฽า Leased line/ISDN/ADSL สามารถส฽งไดท฾ ั้งข฾อมูลเสยี งและภาพในเวลาเดียวกัน เป็นต฾น ซึ่งเป็นการเชื่อมโยงเครือข฽ายระดับท฾องถ่ิน และระดับเมืองเข฾าด฾วยกัน ซึ่งตัวอย฽างท่ีเห็นได฾ชัดคือ ระบบอินเทอร์เน็ต โดยสามารถอธบิ ายถงึ พน้ื ทก่ี ารให฾บริการของ LAN MAN WAN ได฾ดังภาพที่ 3.8 ภาพท่ี 3.8 ประเภทของระบบเครือข฽าย ท่ีมา (พุฒ ก฾อนทอง, 2550)

52 2. แบ่งตามลักษณะการไหลของข้อมูล เครือข฽ายคอมพิวเตอร์ได฾ตามลักษณะการไหลของข฾อมลู ออกเป็น 2 ประเภทคือ 2.1 เครือข่ายแบบรวมศนู ย์ (Centralized Network) เป็นเครือข฽ายที่มีโครงสร฾างง฽ายท่ีสุด โดยคอมพิวเตอร์ทุกเคร่ืองจะติดต฽อส่ือสารกับผ฽านจุดรวมศูนย์เท฽าน้ัน ส฽วนใหญ฽เป็นระบบที่มีการติดต้ังฐานข฾อมูลหลักท่ีสาขาใหญ฽ โดยมีคอมพิวเตอร์ที่สถานีปลายทางกระจายอยู฽ท่ัวประเทศ เช฽น ระบบ Automatic Teller Machine(ATM) ของธนาคาร ระบบควบคุมสนิ คา฾ เป็นต฾น 2.2 เครือข่ายแบบกระจาย (Distributed Network) คอมพิวเตอร์แต฽ละเครื่องในเครือข฽ายแบบกระจายจะสามารถส฽งข฾อมูลไปยังคอมพวิ เตอรใ์ ดๆ กไ็ ดใ฾ นเครอื ขา฽ ย จะชว฽ ยเพิม่ ความนา฽ เช่ือถือของระบบเครือข฽ายได฾ 3. แบ่งตามลักษณะหน้าท่ีการทางานของคอมพิวเตอร์ ใชล฾ ักษณะการแชรข์ ฾อมูลของคอมพิวเตอร์ หรือลักษณะหน฾าท่ขี องคอมพวิ เตอร์แต฽ละเคร่อื งเปน็ เกณฑ์ 3.1 ระบบเครือข่ายแบบเพียร์ทูเพยี ร์ (Peer-to-Peer Network) หรือเรยี กว฽าระบบเครอื ข฽ายแบบเวิร์กกรุ฿ป (Workgroup) เป็นเครือข฽ายคอมพิวเตอร์ท่ีไม฽มีเครื่องเซิร์ฟเวอร์ และไม฽มีการแบ฽งชั้นความสําคัญของคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต฽อเข฾ากับเครือข฽ายคอมพวิ เตอรท์ กุ เครื่องจะมสี ทิ ธเิ ทา฽ เทยี มกนั ในการจัดการใชเ฾ ครือข฽าย ซ่ึงเรียกว฽า เพียร์ (Peer) นั้นเองคอมพิวเตอรแ์ ต฽ละเครือ่ งจะทําหนา฾ ทเ่ี ป็นทัง้ ไคลเอนทแ์ ละเซิร์ฟเวอร์แล฾วแต฽การใช฾งานของผู฾ใช฾ เคร่ืองขา฽ ยประเภทนไ้ี ม฽จาํ เป็นต฾องมผี ฾ดู ูแลและจัดการระบบ แสดงไดด฾ ังภาพท่ี 3.9 ภาพท่ี 3.9 ระบบเครือข฽ายแบบเพยี รท์ ูเพียร์ (Peer to Peer) หรอื (Workgroup) ทมี่ า (Sheehan M, 2009) 3.2 ระบบเครอื ข่ายแบบไคลเอนทเ์ ซริ ฟ์ เวอร์ (Client Server Network) กรณีระบบเครือข฽ายคอมพิวเตอร์มีจํานวนเคร่ืองคอมพิวเตอร์มากข้ึน การดูแลและจัดการกับระบบจะทําได฾ยากขึ้น ซ่ึงจะไม฽เหมาะสมกับระบบเครือข฽ายแบบเพียร์ทูเพียร์ เนื่องจากเครือข฽ายจําเป็นต฾องมีเซิร์ฟเวอร์ทําหน฾าท่ีจัดการเร่ืองต฽างๆ และให฾บริการอ่ืนๆ เครื่องเซิร์ฟเวอร์น้ัน

53ควรเป็นเครอ่ื งทม่ี ีประสิทธิภาพสูงและสามารถให฾บริการกับผ฾ูใช฾ได฾หลายๆ คนในเวลาเดียวกัน และในขณะเดยี วกันกต็ ฾องทําหน฾าท่ีรกั ษาความปลอดภัยในการเข฾าใชบ฾ รกิ ารและทรพั ยากรต฽างๆ ของผู฾ใช฾ด฾วยเครือข฽ายแบบไคลเอนท์เซิร์ฟเวอร์เป็นระบบที่ส฽วนใหญ฽ยอมรับว฽า เป็นมาตรฐานของการสร฾างเครือข฽ายในปัจจุบันแล฾ว ข฾อดี คือ สามารถแชร์ข฾อมูล เครื่องพิมพ์ ของแต฽ละเคร่ืองได฾ มีระบบSecurity ท่ีดี และสามารถจัดสรร แบง฽ ปันการใชท฾ รพั ยากรได฾ดี แสดงไดด฾ งั ภาพที่ 3.10 ภาพที่ 3.10 ระบบเครือข฽ายแบบไคลเอนท์เซิร์ฟเวอร์ (Client Server Network) ทมี่ า (Sheehan M, 2009)มาตรฐานระบบเครือข่ายคอมพวิ เตอร์ จากท่ีได฾กล฽าวมาแล฾วถึงเร่ืองการแบ฽งประเภทของระบบเครือข฽าย ซึ่งสามารถแบ฽งได฾หลายประเภทตามหลักเกณฑ์ที่กําหนด แต฽ที่นิยมใช฾กันคือแบ฽งตามขนาดพื้นท่ีให฾บริการ ในที่นี้ขอกล฽าวถึงมาตรฐานของระบบเครอื ข฽ายท่ีนิยมใชด฾ ังนี้ 1. มาตรฐานเครือข่ายท้องถ่ิน (Local Area Network: LAN) เปน็ มาตรฐานท่เี ป็นท่ีนิยมใชก฾ ันมากในปัจจบุ ัน โดยท่ัวไปมี 3 แบบ คอื 1.1 Ethernet พฒั นาขึ้นโดยบริษัท Xerox ถือเป็นมาตรฐานของระบบเครือข฽ายท฾องถิ่นท่ีได฾รับความนิยมมากท่ีสุดในปัจจุบัน ซึ่งมีการกําหนดมาตรฐานโดยสถาบันวิศวกรไฟฟูาและอิเล็กทรอนิกส์ IEEE (Institute of Electrical and Electronics Engineers) โดยท่ีมาตรฐานEthernet ท่ีนิยมในระบบเครือข฽ายท฾องถิ่น จะใช฾มาตรฐาน IEEE 802.3 เช฽น Ethernet (10 Mbps),Fast Ethernet (100 Mbps), Gigabit Ether (1000 Mbps) โดยท่ี Ethernet จะใช฾เทคนิคการส฽งข฾อมูลแบบ CSMA/CD (Carrier Sense Multiple Access/Collision Detection) กล฽าวคือถ฾าเกิดส฽งขอ฾ มูลพร฾อมกนั และสัญญาณชนกัน จะต฾องส฽งข฾อมลู ใหม฽ 1.2 Token-Ring พัฒนาขึ้นโดยบริษัท IBM จะใช฾ Access Method แบบ TokenPassing ในการเชื่อมต฽อสามารถใช฽ได฾ท้ังสาย Coaxial, UTP, STP หรือสายใยแก฾วนําแสง (Fiberoptic) ระบบเครือข฽ายแบบนี้มีความคงทนต฽อความผิดพลาดสูง (Fault-tolerant) ความเร็วในการรบั ส฽งข฾อมูลจะอยู฽ที่ 4-16 Mbps จะใชม฾ าตรฐาน IEEE 802.5

54 1.3 FDDI (Fiber Distributed Data Interface) เป็นมาตรฐานเครือข฽ายความเร็วสูงท่ีทํางานอยู฽ในช้นั Physical ส฽วนใหญ฽นําไปใช฾เช่ือมต฽อเป็น Backbone (เป็นสายสัญญาณหลักเช่ือมต฽อระหว฽างเครือข฽ายท฾องถ่ินเข฾าด฾วยกัน ใช฾ Access Method แบบ Token-passing และใช฾ Topologyแบบวงแหวนคู฽ (Dual Ring) ซ่ึงช฽วยทําให฾ทนต฽อข฾อบกพร฽อง (Fault tolerance) ของระบบเครือข฽ายได฾ดขี ้นึ ทํางานอย฽ูท่ีความเรว็ 100 Mbps 2. มาตรฐานระบบเครือข่ายระดบั ประเทศ (Wide Area Network: WAN) 2.1 X.25 เป็นโปรโตคอลมาตรฐานของเครือข฽ายแบบเก฽า ได฾รับการออกแบบโดย CCITTประมาณ ค.ศ. 1970 เพื่อใช฾เป็นส฽วนติดต฽อระหว฽างระบบเครือข฽ายสาธารณะแบบแพ็กเกตสวิตช์(Packet Switching) กับผู฾ใช฾ระบบ x.25 เป็นการสื่อสารแบบต฽อเนื่อง (Connection-oriented) ที่สนับสนนุ การเชอื่ มตอ฽ วงจรสอ่ื สารแบบ Switching Virtual Circuit (SVC) และ Permanent VirtualCircuit (PVC) 2.2 Frame Relay เฟรมรีเลย์เป็นเทคโนโลยีที่พัฒนาต฽อจาก X.25 อีกทีหน่ึง ในการส฽งข฾อมูล เฟรมรีเลย์จะมีการตรวจเช็คความถูกต฾องของข฾อมูลที่จุดปลายทาง ทํางานแบบ PacketSwitching 2.3 ATM (Asynchronous Transfer Mode) เป็นระบบเครือข฽ายความเร็วสูง ปัจจุบันระบบองค์กรใหญ฽ๆ นิยมใชง฾ านอย฽างแพร฽หลายในวงการอุตสาหกรรมการสื่อสาร โดยระบบ ATM จะมกี ารสง฽ ขอ฾ มลู จํานวนน฾อยๆ ท่ีมขี นาดคงทีท่ีเรียกวา฽ เซลล์ (Cell)ระบบเครือข่ายไร้สาย ปัจจุบันเทคโนโลยีระบบเครือข฽ายไร฾สาย (Wireless LAN: WLAN) เป็นเทคโนโลยีท่ีมีผ฾ูให฾ความสนใจมาก เน่ืองจากเป็นระบบส่ือสารข฾อมูลท่ีมีความยึดหย฽ุนสูง ส฽วนใหญ฽จะนิยมติดตั้งเพิ่มเติมหรือแทนท่ีท่ีไม฽สามารถติดตั้งระบบเครือข฽ายท฾องถิ่นแบบใช฾สายสัญญาณได฾ เช฽น ห฾องประชุมสํานักงานที่เป็นอาคารโบราณ ร฾านอาหาร เป็นต฾น ระบบเครือข฽ายท฾องถ่ินไร฾สายจะใช฾คลื่นวิทยุเป็นสญั ญาณ และใชอ฾ ากาศเป็นตัวนาํ สัญญาณ ปัจจุบันเครือข฽ายท฾องถ่ินไร฾สายสามารถรับส฽งข฾อมูล ได฾ถึง100 Mbps ซึ่งมคี วามเรว็ มากกวา฽ อเี ธอรเ์ นต็ แบบ 10 Base-T ประโยชน์ท่สี ําคัญของการใช฾ระบบการส่ือสารไร฾สายที่เห็นได฾อย฽างชัดเจนคือการท่ีไม฽มีสายสัญญาณทําให฾เกิดความคล฽องตัวสูง สามารถย฾ายคอมพิวเตอร์ไปที่บริเวณไหนก็ได฾ที่มีสัญญาณ อีกทั้งยังติดตั้งได฾ง฽ายรวมท้ังลดค฽าใช฾จ฽ายในเรื่องของติดตั้งสายสัญญาณลงได฾ และขยายระบบเครือข฽ายได฾ง฽ายเพียงเคร่ืองคอมพิวเตอร์เคร่ืองดังกล฽าวมีการด์ สัญญาณก็สามารใชง฾ านไดท฾ ันที ระบบเครือขา฽ ยไร฾ หมายถึง การส่ือสารข฾อมูลระหว฽างคอมพวิ เตอรผ์ า฽ นระบบเครือข฽าย โดยไม฽ต฾องผ฽านสายสัญญาณ แต฽จะมีการส฽งข฾อมูลผ฽านการใช฾คล่ืนความถี่วิทยุในย฽านวิทยุ (RadioFrequency: RF) และคล่ืนอินฟราเรด (infrared) แทน โดยระบบเครือข฽ายไร฾สายก็ยังมีคุณสมบัติครอบคลุมทุกอย฽างเหมือนกับระบบเครือข฽ายท฾องถิ่น (LAN) แบบใช฾สายทั่วไป ระบบเครือข฽ายไร฾สายพัฒนาขน้ึ ในปี ค.ศ. 1971 บนเกาะฮาวาย โดยเป็นผลงานของนักศึกษาของมหาวิทยาลัยฮาวาย ท่ีช่ือว฽า “ALOHNET” ซ่ึงความสามารถในขณะนั้นสามารถส฽งข฾อมูลเป็นแบบ Bi-directional คือส฽งข฾อมูลไป-ส฽งข฾อมูลกลับได฾ ผ฽านคล่ืนวิทยุ สื่อสารกัน ซึ่งเป็นการส฽งข฾อมูลระหว฽างคอมพิวเตอร์ด฾วยกันเอง

55จํานวน 7 เคร่ือง ที่ตั้งอย฽ูบนเกาะ 4 เกาะโดยรอบ และมีศูนย์กลางการเช่ือมต฽ออย฽ูท่ีเกาะท่ีชื่อว฽าOahu 1. ประเภทของเครอื ขา่ ยไรส้ าย การแบ฽งประเภทของเครือข฽ายไร฾สายก็มีลักษณะเช฽นเดียวกับเครือข฽ายแบบมีสายทั่วไปโดยนยิ มแบง฽ เป็น 4 ประเภท คอื 1.1 ระบบเครือข่ายไร้สายส่วนบคุ คล (Wireless Personal Area Network:WPAN) เปน็ การใช฾งานในลักษณะท่ีครอบคลุมพ้ืนที่จํากัด เช฽น อยู฽ภายในบ฾านพักอาศัย หรือห฾องทํางานเล็กๆ ซึ่งมีอยู฽สองระบบที่รองรับการทํางานส฽วนบุคคล คือ IR (Infra-Red) และBluetooth ประมาณไมเ฽ กนิ 3 เมตร และบลูทธู ระยะห฽าง ไมเ฽ กิน 10 เมตร แสดงไดด฾ ังภาพที่ 3.11 ภาพท่ี 3.11 ระบบเครือขา่ ยไรส้ ายส่วนบุคคล (WPAN) ท่มี า (Innetrex, 2012) 1.2 ระบบเครือข฽ายทอ฾ งถิ่นไร฾สาย (Wireless Local Area Network: WLAN) เป็นการใช฾งานในลักษณะที่ครอบคลุมพ้ืนท่ีกว฾างกว฽าประเภทระบบเครือข฽ายไร฾สายส฽วนบุคคล เช฽น อย฽ูภายในสํานักงานเดียวกัน อาคารเดียวกัน ระยะห฽างระหว฽างอุปกรณ์ประมาณ 0ถึง 100 เมตร แสดงได฾ดงั ภาพท่ี 3.12 ภาพที่ 3.12 ระบบเครือข฽ายทอ฾ งถ่นิ ไรส฾ าย (WLAN) ทีม่ า (Innetrex, 2012)

56 1.3 ระบบเครือขา฽ ยเมอื งไรส฾ าย (Wireless Metropolitan Area Network: WMAN) เป็นการใชง฾ านในลักษณะที่ครอบคลุมพ้ืนที่กว฾าง เช฽น ใช฾งานระหว฽างองค์กร ระหว฽างเมือง และมรี ะบบเครอื ข฽ายทห่ี ลากหลายมากขึน้ แสดงไดด฾ ังภาพท่ี 3.13 ภาพที่ 3.13 ระบบเครือขา฽ ยเมอื งไรส฾ าย (WMAN) ท่มี า (กิติมา เพชรทรัพย์, 2555) 1.4 ระบบเครือขา฽ ยขนาดใหญ฽ไร฾สาย (Wireless Wide Area Network: WWAN) เป็นการใช฾งานในเครือข฽ายขนาดใหญ฽ เช฽น ระหว฽างเมืองขนาดใหญ฽ ระหว฽างประเทศโดยการสื่อสารลักษณะอย฽างนี้จะใช฾การส่ือผ฽านดาวเทียมแทน ในกรณีท่ีข฾ามไปต฽างประเทศ แสดงได฾ดังภาพท่ี 3.14 ภาพที่ 3.14 ระบบเครือขา฽ ยขนาดใหญ฽ (WWAN) ที่มา (Innetrex, 2012)

57มาตรฐานของระบบเครือข่ายไร้สาย ในปี พ.ศ. 25540 คณะกรรมการ Institute of Electrical and Electronics Engineers(IEEE) ไดป฾ ระกาศมาตรฐาน 802.11 ซึ่งเป็นมาตรฐานกลางของการทํางานของระบบเครือข฽ายไร฾สายโดยปกติแล฾วการเชื่อมต฽อระบบเครือข฽ายไร฾สาย จําเป็นต฾องมีอุปกรณ์ 2 ชิ้น คือ ตัวแอคเซสพอยค์และตวั รบั -สง฽ สัญญาณไรส฾ าย ซึ่งหลังจากมีการประกาศมาตรฐาน 802.11 ออกมา ซง่ึ มีความเร็วสูงสุดของมาตรฐานอย฽ูท่ี 2 Mbps ซึ่งช฾าเม่ือเปรียบเทียบกับเครือข฽ายแบบใช฾สาย ดังนั้นคณะกรรมการIEEE จึงได฾ตั้งทีมงานข้ึนมา 2 กล฽ุม เพื่อพัฒนามาตรฐาน WLAN โดยกล฽ุมแรกคือ TGa (TaskGroup a) พัฒนามาตรฐาน IEEE 802.11a โดยใช฾ความถี่ท่ี 5 GHz และสามารถรองรับข฾อมูลได฾ที่ 69 12 18 24 36 48 และ 54 Mbps ส฽วนทีม TGb พัฒนามาตรฐาน IEEE 802.11b โดยใช฾ความถี่ท่ี2.4 GHz และสามารถรองรับข฾อมูลอย฽ู 4 อัตราคือ 1 2 5.5 และ 11 Mbps และต฽อมาก็มีการพัฒนามาตรฐานของเครือขา฽ ยไรส฾ ายอย฽างตอ฽ เนื่อง สรุปได฾ดังน้ี 1. มาตรฐาน IEEE802.11 พัฒนาขึ้นในปี พ.ศ. 2540 อุปกรณ์สามารถรับส฽งข฾อมูลได฾ท่ีอัตราเร็ว 1 และ 2 Mbpsผ฽านการส฽งข฾อมูลแบบอินฟาเรด (Infrared) หรือ คล่ืนความถี่วิทยุ 2.4, 5 GHz มีระบบรักษาความปลอดภยั โดยใชร฾ ะบบ WEP 2. มาตรฐาน IEEE802.11a พัฒนาข้ึนในปี พ.ศ. 2542 อุปกรณ์สามารถรับส฽งข฾อมูลได฾ที่อัตราเร็ว 54 Mbps ผ฽านการส฽งข฾อมูลด฾วยสัญญาณวิทยุย฽านความถี่ 5 GHz ใช฾เทคนิคการส฽งข฾อมูลแบบ OFDM (OrthogonalFrequency Division Multiplexing) แต฽เน่ืองจากย฽านความถี่ 5 GHz น้ันได฾ถูกห฾ามใช฾ในบางประเทศ รวมถึงประเทศไทย และประกอบกับย฽านความถี่ท่ีสูงทําให฾ อุปกรณ์มีราคาแพง และระยะทางท่ีสามารถใช฾งานไดส฾ น้ั กว฽าย฽านความถี่ 2 GHz จึงทําให฾มาตรฐาน IEEE802.11a น้ันไม฽เป็นท่ีนยิ มใชก฾ ันมากนัก 3. มาตรฐาน IEEE802.11b พัฒนาขึ้นพร฾อมกับ IEEE802.11a ในปี พ.ศ. 2542 อุปกรณ์สามารถรับส฽งข฾อมูลได฾ท่ีอตั ราเร็ว 11 Mbps ใชเ฾ ทคนิคการส฽งข฾อมูลแบบ CCK (Complimentary Code Keying) และ DSSS(Direct Sequence Spread Spectrum) ใช฾ย฽านความถี่ 2.4 GHz ซึ่งเป็นย฽านความถี่ ISM(Industrial Scientific and Medical) สําหรับการสื่อสารทางด฾านวิทยาศาสตร์, อุตสาหกรรม, และการแพทย์ จะเห็นว฽าอัตราเร็วการรับส฽งข฾อมูลน้ันตํ่ากว฽ามาตรฐาน IEEE802.11a ค฽อนข฾างมาก แต฽เนือ่ งจากมาตรฐาน IEEE802.11 ใช฾ย฽านความถ่ีท่ีต่ํากว฽าจึงทําให฾สามารถใช฾งานได฾ระยะทางท่ีไกลกว฽ามาตรฐาน IEEE802.11a ประกอบกับความถี่ที่ต่ําทําให฾อุปกรณ์มีราคาถูก จึงทําให฾มาตรฐานIEEE802.11b เป็นท่ีนิยมใช฾กันอย฽างแพร฽หลายมากกว฽า และทําให฾เกิดเคร่ืองหมายการค฾า Wi-Fi ซึ่งกําหนดขึ้นจากหน฽วยงาน WEGA (Wireless Ethernet Compatibility Alliance) เพ่ือบ฽งบอกว฽าอุปกรณ์นั้นได฾ผ฽านการตรวจสอบ และรับรองว฽าเป็นไปตามมาตรฐาน IEEE802.11b และสามารถใช฾งานร฽วมกับอปุ กรณอ์ ่ืน ๆ ทม่ี เี คร่ืองหมายการคา฾ Wi-Fi เหมอื นกันได฾

58 4. มาตรฐาน IEEE802.11g พฒั นาขึ้นข้ึนในปี พ.ศ. 2546 ใช฾เทคนิคการส฽งข฾อมูลแบบ OFDM และใช฾ย฽านความถ่ี 2.4GHz อุปกรณ์สามารถรับส฽งข฾อมูลได฾ท่ีอัตราเร็ว 54 Mbps และสามารถทํางานกับมาตรฐานเก฽าIEEE802.11b ได฾ (Backward-Compatible) จึงทําให฾มาตรฐาน IEEE802.11g นั้นเป็นท่ีนิยม และเขา฾ มาแทนทม่ี าตรฐาน IEEE802.11b ในทสี่ ดุ 5. มาตรฐาน IEEE802.11n พัฒนาข้ึนในปี พ.ศ. 2548 เป็นมาตรฐานท่ีกําลังเข฾ามาแทนท่ีมาตรฐาน IEEE802.11gโดยในมาตรฐาน IEEE802.11n น้ีได฾มีการพัฒนาให฾สามารถรับส฽งข฾อมูลได฾ในระดับ 100-540 Mbpsตามทฤษฎีตารางที่ 3.1 เปรียบเทียบมาตรฐานของเครือขา฽ ยไรส฾ ายปี 2540 2542 2542 2546 2548มาตรฐาน 802.11 802.11a 802.11b 802.11g 802.11nความถี่ 2.4 GHz 5 GHz 2.4 GHz 2.4 GHz 2.4 GHzสอ่ื Infrared, Radio Radio Radio Radio Radioเทคนคิ DSSS, FHSS OFDM CCF, DSS OFDM OFDMเขา้ รหสั DQPSK BPSK DQPSK/CCK OFDM/CCKอัตราการส่ง 2 Mbps 54 Mbps 11 Mbps 54 Mbps 100-540 Mbpsครอบคุลม 35 ม. (ปิด) 38 ม. (ปิด) 38 ม. (ปดิ ) 70 ม. (ปิด) พืน้ ท่ี 120 ม. (โลง฽ ) 140 ม. (โลง฽ ) 140 ม.(โลง฽ ) 250 ม.(โล฽ง)เกณฑ์การวดั ประสทิ ธภิ าพของเครอื ข่าย เมื่อมีการนําเอาระบบเครือข฽ายคอมพิวเตอร์เข฾ามาใช฾งาน ผ฾ูใช฾จะรู฾ได฾อย฽างไรว฽าระบบเครือข฽ายของเราน้ันมีประสิทธภิ าพมากน฾อยเพียงใด ท้ังการวัดประสิทธิภาพของระบบเครือข฽ายขึ้นอย฽ูกับจุดประสงค์หลักของระบบเครือข฽ายนั้น แต฽อย฽างไรก็ดีเรามีเกณฑ์การวัดประสิทธิภาพโดยทั่วไปเอาไว฾ชว฽ ยในการพจิ ารณาดังนี้ 1. สมรรถนะ (Competency) สมรรถนะหรอื ความสามารถของระบบเครอื ข฽ายประเมินได฾จากหลายปัจจัยดังนี้ 1.1 เวลาทใี่ ช฾ในการถา฽ ยโอนข฾อมูล คือเวลาถ฽ายโอนข฾อมูลจากต฾นทางไปยงั ปลายทางหรือจากปลายทางมายงั ต฾นทาง เชน฽ การอัพโหลด การดาวน์ โหลด เป็นต฾น หรืออาจจะเปน็ ช฽วงระยะเวลาการร฾องขอขอ฾ มลู จนไดร฾ ับข฾อมูลกลบั มา 1.2 จํานวนผใ฾ู ช฾งานในระบบเครอื ข฽าย เนอ่ื งจากหากมีผ฾ใู ชง฾ านบนเครือข฽ายมาก ก็จะทําให฾การส่ือสารข฾อมูลในระบบเครือข฽ายก็มากตามไปด฾วย ทําให฾ใช฾เวลาในการส่ือสารมากข้ึน และส฽งต฽อประสิทธิภาพการใช฾งานท่ีด฾อยลงไป ระบบเครือข฽ายที่ดีจึงควรระบุจํานวนสูงสุดท่ีสามารถรองรับให฾ชดั เจน เพราะหากผ฾ูใช฾งานเขา฾ ถึงจาํ นวนมากเกนิ ไปอาจส฽งผลทาํ ใหเ฾ ครือขา฽ ยหล฽มได฾

59 1.3 ชนิดส่ือกลางที่ใช฾ส฽งข฾อมูล เน่ืองจากส่ือกลางแต฽ละประเภทมีความสามารถรองรับความเรว็ ท่แี ตกตา฽ งกนั ดงั น้นั ควรจะเลือกใช฾สอ่ื กลางที่เหมาะสมกับลักษณะการใช฾งานระบบเครือข฽ายของเรา เช฽น ตอ฾ งแสดงมัลติมีเดยี แบบอินเทอร์เอกทีฟ ก็ต฾องใช฾ส่ือที่รองรับการถ฽ายโอนข฾อมูลได฾มากๆและรวดเร็ว ตามไปด฾วย 1.4 อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ ประสิทธิภาพของฮาร์ดแวร์ย฽อมส฽งผลต฽อความเร็วในการส฽งผ฽านข฾อมลู ดงั นั้นเครือข฽ายคอมพวิ เตอรท์ ่ีมซี พี ยี ู ประมวลผลด฾วยความเร็วสูง หรืออุปกรณ์สวิตช์ท่ีส฽งข฾อมูลด฾วยความเร็วสูง ย฽อมส฽งผลให฾เกิดประสิทธิภาพโดยรวมของระบบที่ดี ตัวอย฽างเช฽น เลือกใช฾เครื่องเซิร์ฟเวอรท์ ีม่ สี มรรถนะสูง กย็ ฽อมดีกว฽าเครื่องเซิร์ฟเวอร์ตํ่ากว฽าหรือเลือกใช฾สวิตช์แทนฮับ ก็ย฽อมดีกว฽าเปน็ ตน฾ 1.5 ซอฟต์แวร์ เป็นส฽วนสําคัญที่ส฽งผลต฽อสมรรถนะโดยรวมของเครือข฽าย เช฽นระบบปฏิบัติการเครือข฽ายท่ีมีประสิทธิภาพ ย฽อมมีระบบการทํางานและควบคุมอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ให฾ทาํ งานได฾อย฽างมปี ระสทิ ธิภาพ และรวดเรว็ 2. ความน่าเชือ่ ถือ (Reliability) โดยสามารถประเมนิ ความน฽าเชื่อของระบบเครือขา฽ ยได฾จากสิง่ ต฽อไปนี้ 2.1 ปริมาณความถ่ีของความลม฾ เหลวในการสง฽ ขอ฾ มลู เครือข฽ายทุกเครือข฽ายมีโอกาสเกิดความล฾มเหลวได฾ แต฽อย฽างไรกต็ ามหากเกดิ ข้นึ แล฾วควรส฽งผลกระทบต฽อผู฾ใช฾งานให฾นอ฾ ยที่สุด 2.2 ระยะเวลาที่ใช฾การกคู฾ ืนข฾อมลู หรือก฾ูคืนระบบกรณเี กดิ ความสม฾ เหลวขนึ้ ให฾สามารถใช฾งานไดต฾ ามปกติใหไ฾ ด฾ระยะเวลารวดเรว็ ทีส่ ดุ 2.3 การปูองกันเหตุการณ์ต฽างๆ ที่ทําให฾ระบบเกิดความล฾มเหลว เครือข฽ายที่ดีต฾องมีการปูองกันภัยต฽างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได฾ในทุกสถานการณ์ เช฽น เรื่องของไฟฟูาขัดข฾อง รวมถึงภัยธรรมชาติดังน้ันระบบท่ีดตี อ฾ งมกี ารออกแบบให฾มกี ารสาํ รองข฾อมูลที่ดีด฾วย 3. ความปลอดภัย (Security) ถือเป็นหัวใจสําคัญที่สุดโดยเน฾นไปที่ความสามารถที่จะปูองกันบุคคลท่ีไม฽มีสิทธ์ิในการเข฾าถึงข฾อมูล หรือระบบเครือข฽าย โดยอาจใช฾รหัสการเข฾าถึงข฾อมูล เป็นต฾น และความสามารถในการปูองกันภัยคุกคามต฽างๆ เช฽น การปูองกันไวรัสคอมพิวเตอร์ เป็นเพ่ือให฾ระบบเครือข฽ายมีความปลอดภัยสูงสุดการประยุกต์ใชง้ านของระบบเครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอร์ ปัจจุบันระบบเครือขา฽ ยคอมพิวเตอร์ถอื ว฽าเป็นสว฽ นหนึง่ ในชีวิตประจาํ วนั ไปแลว฾ รวมถงึ มีการประยุกต์ใชง฾ านกบั หลายๆ หนว฽ ยงาน โดยขอยกตัวอย฽างทเี่ ห็นไดช฾ ดั เจนดงั นี้ 1. ด้านการตดิ ตอ่ สอ่ื สาร 1.1 บริการกระดานข฽าวอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Bulletin Boards services) หรือเว็บบอร์ด (Web board) ซ่ึงเป็นการแลกเปลี่ยนข฾อมูลข฽าวสารรวมและแสดงความคิดเห็นผ฽านกระดานข฽าวของกล฽ุมแบบอิเล็กทรอนิกส์ ผู฾สนใจสามารถเข฾ามาชมและฝากข฾อความไว฾ได฾ ทําให฾ขา฽ วสารสามารถแลกเปลี่ยนได฾ท่ัวโลกอย฽างรวดเรว็

60 1.2 จดหมายและจดหมายเสียงทางอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Mail and Voice Mail)การสง฽ จดหมายทางอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ เป็นการสง฽ ข฽าวสารโดยระบุตัวผ฾ูรับเช฽นเดียวกับการส฽งจดหมาย แต฽ผร฾ู ับจะได฾จดหมายอย฽างรวดเร็วเน่ืองจากเป็นการส฽งผ฽านเครือข฽ายคอมพิวเตอร์ท่ีเช่ือมโยงกันอยู฽ ส฽วนระบบจดหมายเสยี งจะเปน็ จดหมายท่ีผู฾รับสามารถรบั ฟังเสยี งทฝ่ี ากมากไดด฾ ฾วย 1.3 การประชุมระยะไกลทางอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Teleconference) ถือเป็นเรอื่ งทไี่ ดค฾ วามสนใจมาก โดยผูใ฾ ช฾จะสามารถประชุมกันได฾ตั้งแต฽ 2 คนข้ึนไปผ฽านระบบเครือข฽าย ไม฽ว฽าผ฾ูใช฾งานแต฽ละคนอยู฽ท่ีใดเพียงเชื่อมต฽อเข฾ากับระบบเครือข฽ายได฾ ก็สามารถร฽วมประชุมได฾แล฾วทําให฾ประหยัดคา฽ ใชจ฾ า฽ ยในการเดินทาง และยังเป็นการประหวัดเวลาของผ฾รู ฽วมประชมุ แต฽ละคนด฾วย 1.4 การสนทนาแบบออนไลน์ การพูดคุยตอบโตก฾ นั ในเครือขา฽ ยได฾ในเวลาเดียวกันโดยการพิมพ์ข฾อความผ฽านทาง Keyboard เรียกบริการแบบนี้ว฽า Talk กรณีที่เป็นการคุยกัน 2 คน และเรียกวา฽ chart กรณีทคี่ ุยกนั เป็นกลม฽ุ (Internet Relay Chat หรอื IRC) เช฽น MSN Google Talk 2. ดา้ นการคน้ หาขอ้ มูล หรือบริการสารสนเทศทางอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Information services) เป็นประโยชน์ท่ีสําคัญท่ีสุดอย฽างหน่ึงของระบบเครือข฽ายคอมพิวเตอร์ โดยผู฾ให฾บริการจะสามารถบริการสารสนเทศที่มีความสําคัญและเป็นที่ต฾องการของผู฾ใช฾ ผ฽านทางเครือข฽าย ซ่ึงผ฾ูใช฾จะสามารถเรียกดูสารสนเทศเหลา฽ นน้ั ได฾ทนั ทีทนั ใดและตลอด 24 ชั่วโมง เช฽น การใช฾เว็บบราวเซอร์สืบค฾นหาข฾อมลู 3. ด้านธรุ กิจและการเงนิ 3.1 การแลกเปลี่ยนข฾อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Data Interchange - EDI)ระบบ EDI จะเป็นกระบวนการที่ช฽วยให฾องค์กรทางธุรกิจต฽าง ๆ สามารถแลกเปล่ียนเอกสารที่เป็นแบบฟอร์มมาตรฐานต฽าง ๆ เช฽น ใบส฽งของ ใบสั่งซ้ือ หรืออื่น ๆ ในรูปของข฾อมูลอิเล็กทรอนิกส์ผ฽านระบบเครือข฽ายคอมพิวเตอร์ ทําให฾สามารถลดการใช฾แบบฟอร์มที่เป็นกระดาษ ลดการปูอนข฾อมูลซํา้ ซอ฾ น รวมทัง้ เพิม่ ความเร็วและลดความผดิ พลาดที่เกดิ จากการทาํ งานของมนุษย์ด฾วยมาตรฐานอีดีไอที่ยอมรับใช฾งานกนั ทั่วโลกได฾เกดิ ขึ้น 3.2 การโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Funds Transfer -EFT) การทําธุรกรรมทางเงินกับธนาคาร พบได฾ในชีวิตประจําวัน ตัวอย฽างท่ีเห็นได฾ชัดเจนในปัจจุบันก็คือการฝาก-ถอนเงินผ฽านเครือ่ ง ATM (Automated teller machine) รวมท้ังระบบการโอนเงินระหว฽างบัญชี ไม฽ว฽าจะทําผ฽านเคาน์เตอรธ์ นาคารหรือผ฽านระบบธนาคารทางโทรศพั ทก์ ็ตาม 3.3 การสั่งซื้อสินค฾าทางอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Shopping) บริการการสั่งซ้ือสินค฾าทางอิเล็กทรอนิคส์ มีแนวโน฾มของการค฾าโลกในยุคต฽อไป ผ฾ูซ้ือสามารถสั่งซื้อสินค฾าจากบ฾านหรือที่ทํางาน โดยดูลักษณะของสินค฾าจากภาพท่ีส฽งมาแสดงท่ีหน฾าจอ และผู฾ค฾าสามารถได฾รับเงินจากผู฾ซ้ือด฾วยบริการโอนเงนิ ทางอิเลคทรอนิกสแ์ บบตา฽ ง ๆ ทันที 4. ด้านการศึกษา ปัจจุบนั สามารถระบบเครือข฽ายมสี ฽วนช฽วยดา฾ นการศกึ ษาอย฽างมากเช฽น การเรยี นการสอนผา฽ นอนิ เทอรเ์ น็ต และการคน฾ หาความรูต฾ า฽ งๆ บนอินเทอรเ์ น็ต เปน็ ต฾น

61 5. ดา้ นการแพทย์ ตามโรงพยาบาลใหญ฽ๆ มกี ารนําเอาระบบเครือข฽ายเข฾าไปใชง฾ านกนั มาก ท่ีเห็นได฾ชดั เจนคือการจดั เก็บข฾อมลู คนไข฾ ปัจจบุ นั สามารถเรียกผา฽ นอินเทอรเ์ นต็ ได฾แล฾ว ทาํ ใหล฾ ดระยะเวลาของหมอและยังชว฽ ยใหก฾ ารวินิจฉัยได฾ถูกตอ฾ งครบถว฾ น และการใช฾ตรวจรักษาโรคทางไกลผา฽ นระบบเครอื ข฽ายการประยกุ ตใ์ ช้งานระบบเครือข่ายภายในมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดสุ ติ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิตมีการนําเอาเทคโนโลยีการส่ือสารข฾อมูลมาช฽วยในด฾านการบริหารจัดการและการเรียนการสอนมา ดังจะเหน็ ไดจ฾ ากมหาวทิ ยาลยั ฯลงทุนด฾านโครงสร฾างของระบบการสื่อสารไว฾ครอบคลมุ ท้งั ภายในมหาวทิ ยาลัยฯและศูนย์การศึกษา โดยระบบเครือข฽ายแบบมีสายจะใช฾สายใยแก฾วนําแสง (Fiber Optic) เชื่อมต฽อระหว฽างอาคาร และใช฾อุปกรณ์เช่ือมโยงเครือข฽ายด฾วยอุปกรณ์เครือข฽ายความเร็วสูง (Gigabit Ethernet) และเครือข฽ายแบบไร฾สายมีการเพิ่มจุดติดต้ังตัวแอคเซสพอยค์ให฾ครอบคลุมพื้นที่ทั่วท้ังมหาวิทยาลัยฯ เพื่อรองรับปริมาณความต฾องการใช฾งานของนักศึกษาที่มีจํานวนและปริมาณข฾อมูลเพ่ิมมากขึ้น โดยมหาวิทยาลัยได฾เตรียมระบบต฽างๆไว฾ค฽อยให฾บริการนักศึกษา เช฽น SDU Hosting, SDU IDM, SDU Kiosk, SDU LIVE, SDU MAIL, SDU WIFI,SDU VPN, SDU WEB เป็นต฾น ซึ่งแม฽ข฽ายท้ังหมดต้ังอยู฽ห฾อง Server บริเวณอาคาร 11 ช้ัน 2 ห฾อง ITControl เน่ืองจากมีการติดต้ังระบบรักษาความปลอดภัย มีระบบสํารองต฽างๆ ไว฾พร฾อม เช฽น ระบบระบายอากาศ และระบบ Monitor ทําสะดวกในการบริหารจัดการ บํารุงรักษา และสามารถตรวจสอบแก฾ไขปัญหาได฾อย฽างรวดเร็ว โดยนักศึกษาเข฾าไปหารายละเอียดเพิ่มเติมได฾ท่ี เว็บไซต์ กลุ฽มงานเทคนิคและระบบเครือข฽าย http://network.dusit.ac.th/main/ ต฽อไปข฾อนําเสนอวิธีการใช฾งานระบบตา฽ งๆที่มหาวิทยาลัยไดเ฾ ตรียมไว฾ใหด฾ ังนี้ 1. บริการโฮสต้ิง บริการเว็บโฮสติ้ง (SDU Hosting) คือ การให฾บริการรับฝากเว็บไซต์ ภายใต฾โดเมนเนมของ dusit.ac.th สําหรับหน฽วยงานภายใต฾มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนดุสิต สําหรับหน฽วยงาน บุคลากรหรือ นักศกึ ษา ท่ีต฾องการสร฾างเว็บไซต์ เพ่ือประชาสัมพันธ์หน฽วยงาน หรือในงานอ่ืน ให฾ผ฾ูดูแลเว็บไซต์ทําการดาวน์โหลดแบบฟอร์ม พร฾อมทั้งกรอกรายละเอียดให฾ครบสมบูรณ์ หลังจากน้ันให฾นํามาส฽งท่ีเจ฾าหน฾าทีก่ ล฽มุ งานเทคนคิ และระบบเครือขา฽ ย เมือ่ ไดข฾ อพ้นื ที่มาแล฾วและนักศึกษาได฾จัดทําเว็บไซต์เป็นของตนเองแล฾วน้ันจะได฾เว็บไซต์ ท่ีชื่อว฽า http://dusithost.dusit.ac.th/~username ซึ่งUsername จะเป็นรหัสนักศึกษาของตนเอง โดยนักศึกษาสามารถเข฾าใช฾งานพ้ืนท่ีเพื่อปรับแก฾ไขเนือ้ หาได฾จากเวบ็ ftp://dusitftp.dusit.ac.th

62 ภาพท่ี 3.15 แบบฟอรม์ การใชพ฾ น้ื ทใี่ ห฾บริการ Web Hosting Server ของนักศึกษา 2. บริการจัดการผู้ใชจ้ ากสว่ นกลาง ระบบการจัดการผ฾ูใช฾จากส฽วนกลาง (IDM: Identity Manager) หรือเรียกว฽า SDU IDMเป็นระบบการจัดการเกี่ยวกับรหัสผู฾ใช฾ ของบริการด฾านออนไลน์ของมหาวิทยาลัย เช฽น การเปล่ียนPassword หรือตรวจสอบสถานะของผู฾ใช฾งาน โดยการจัดการรหัสผ฾ูใช฾โดย IDM น้ันจะมีผลกับรหัสเข฾าใชใ฾ นบรกิ ารท้ังหมดของมหาวทิ ยาลัย แสดงไดด฾ งั ภาพที่ 3.16 ภาพที่ 3.16 หนา฾ เว็บ SDU IDM เพื่อ Log In เข฾าไปจัดการเก่ียวกบั บญั ชผี ู฾ใช฾ 3. เครอ่ื งใหบ้ รกิ ารอัตโนมัติ เครื่องให฾บริการอัตโนมัติ หรือ SDU Kiosk เป็นเครื่องที่ให฾บริการอัตโนมัติ (Multi-function self-service kiosk) โดยมีไว฾ให฾บริการแก฽ อาจารย์ เจ฾าหน฾าที่ และนักศึกษา สําหรับอาจารย์ และเจา฾ หน฾าท่ีจะให฾บริการ ในเรื่องลงเวลาในการทํางาน เป็นหลัก ส฽วนนักศึกษาจะมีบริการได฾แก฽ เช็คเร่ืองเกรด พิมพ์ใบเกรด ตรวจสอบการค฾างหนังสือจากห฾องสมุด ดูรายวิชาท่ีลงเรียนตารางสอน ตารางสอบ และอื่น ๆ โดยมีจุดที่ให฾บริการเครื่องบริการอัตโนมัติ ภายในมหาวิทยาลัยฯบริเวณอาคาร 1 บริเวณทางขึ้นใกล฾กับธนาคารกรุงศรีฯ อาคาร 32 บริเวณหน฾าลิฟท์ อาคาร 4ทางเดินช้ัน 1 อาคาร 3 ช้ัน 1 ใกล฾กัน Contact Center และสํานักวิทยบริการฯ หน฾าอาคารฝ่ังหอ฾ งสมุด และบริเวณศูนยก์ ารศกึ ษาทุกศูนย์ แสดงไดด฾ งั ภาพที่ 3.17

63 ภาพท่ี 3.17 เคร่ืองใหบ฾ รกิ ารอัตโนมตั ิ (SDU Kiosk) 4. บรกิ ารอเี มลนกั ศกึ ษา บริการอีเมลนักศึกษา (SDU Live) เป็นบริการท่ีจะทําให฾นักเรียน นักศึกษา สามารถใช฾งาน Live@edu สําหรับ การทํางานร฽วมกัน และการติดต฽อสื่อสารโดยสามารถใช฾งานทุกบริการท่ีมีโดยใช฾ รหัสผู฾ใช฾เพียงรหัสเดียว ไม฽ว฽าจะเป็น อีเมล Windows Live Messenger หรือ การแชร์ข฾อมูลซง่ึ SDU Live จะประกอบไปดว฾ ยส฽วนต฽างๆให฾นักศึกษาเข฾าใช฾งาน คือ Microsoft Office OutlookLive, Microsof Live Messenger, Microsoft Live Mobile, Microsoft Live Skydrive,Microsoft Live Space, Office Live Workspace การเข้าใช้งานนักศึกษาสามารถเข฾าใช฾งานโดยให฾เข฾ามาท่ี http://www.sdulive.net 5. บรกิ ารอเี มลบคุ ลากร บริการอีเมลบุคลากร (SDU Mail) คือ บริการรับ ส฽งอีเมลล ระบบปฏิทิน ไฟล์เอกสารแนบ รายชื่อติดต฽อ และข฾อมูลอ่ืนๆ สําหรับบุคลากร ซึ่งเป็นระบบ Microsoft Exchange Server ที่สามารถทําให฾ระบบการสื่อสารทํางานได฾อย฽างต฽อเนื่อง การรับส฽งอีเมลไม฽ติดขัด ช฽วยปูองกันผู฾ใช฾และข฾อมลู อนั มีคา฽ ขององค์กร จากอันตรายต฽างๆทม่ี าทางอเี มลขยะและไวรสั 6. บริการอนิ เทอร์เนต็ ไร้สาย บรกิ ารอนิ เทอร์เน็ตไร฾สาย (SDU WIFI) เป็นบริการท่ีให฾นักศึกษาเข฾าใช฾ระบบอินเทอร์เน็ตได฾จากทุกบริเวณภายในมหาวิทยาลัยฯ โดยนักศึกษาสามารถใช฾เคร่ืองคอมพิวเตอร์พกพา หรือโทรศัพท์เช่ือมต฽ออินเทอร์เน็ตได฾ เม่ือนักศึกษาพบสัญญาณ Wireless ของมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ก็ทําการเชื่อมต฽อได฾ทันที เม่ือเชื่อมต฽อแล฾วนักศึกษาจะเข฾าอินเทอร์เน็ต จะต฾องทําการ Log Inเขา฾ สร฽ู ะบบกอ฽ น จึงจะสามารถเข฾าใช฾บริการได฾ แสดงได฾ดังภาพที่ 3.18

64 ภาพที่ 3.18 หน฾า Log In เพ่ือเขา฾ สูร฽ ะบบอนิ เทอร์เน็ตผา฽ น SDU WIFI 7. บรกิ ารเว็บ VPN บริการเวบ็ VPN หรอื SDU VPN เป็นบรกิ าร SDUNET@Home เป็นบริการที่ใช฾หลักการของ SSL VPN สําหรับนักศึกษาและ บุคลากรของมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดสุ ิต ทใี่ ชบ฾ ริการ Internetจากผู฾ให฾บริการท่ัวไปสามารถ ใช฾บริการสืบค฾นข฾อมูลห฾องสมุดอิเล็กทรอนิกส์ และระบบอื่นๆ ท่ีจําเปน็ ตอ฾ งใช฾หมายเลข IP Address ของมหาวทิ ยาลยั โดยใช฾ User name และ Password เดียวกันกับ E-mail ของมหาวิทยาลัยฯ โดยนักศึกษาสามารถเข฾าใช฾งานอินเทอร์เน็ตผ฽าน VPN (VirtualPrivate network) ไดท฾ างเว็บไซต์ http://webvpn.dusit.ac.th แสดงได฾ดังภาพ 3.19 ภาพที่ 3.19 หนา฾ เว็บไซต์การเขา฾ ใชง฾ านอนิ เทอร์เนต็ ผา฽ น VPN

65สรปุ เทคโนโลยีการสื่อสารข฾อมูลมีบทบาทต฽อการดํารงชีวิตอยา฽ งมาก ดงั จะเห็นได฾จากมีการใช฾งานระบบอินเทอร์เน็ตอย฽างแพร฽หลาย ซ่ึงพื้นฐานของระบบอินเทอร์เน็ตน้ันพัฒนามาจากระบบเครือข฽ายคอมพิวเตอร์ ซึ่งหมายถือการติดต฽อสื่อสารหรือการเช่ือมต฽อกันระหว฽างระบบคอมพิวเตอร์ตั้งแต฽ 2เครื่องข้ึนไป ผ฽านสื่อกลางในการติดต฽อส่ือสาร โดยมีจุดประสงค์หลักเพ่ือแลกเปลี่ยนข฾อมูลข฽าวสารหรือใช฾ในการติดต฽อส่ือสารซึ่งกันและกัน องค์ประกอบของระบบการสื่อสารข฾อมูลจะประกอบไปด฾วยข฾อมูล ฝุายผ฾ูส฽งข฾อมูล ฝุายผ฾ูรับข฾อมูล ส่ือกลางส฽งข฾อมูล และโพรโตคอล และหากเป็นการติดต฽อส่ือสารผ฽านระบบเครือข฽ายคอมพิวเตอร์ต฾องมีประกอบไปด฾วย เครื่องคอมพิวเตอร์อย฽างน฾อย 2เครื่อง การ์ดเช่ือมต฽อเครือข฽าย ส่ือกลางและอุปกรณ์สําหรับการรับส฽งข฾อมูล โพรโตคอล และระบบปฏิบัติการเครอื ขา฽ ย โดยรปู แบบการส่ือสารข฾อมูลบนระบบเครือข฽าย มี 3 รูปคือ แบบ Unicastแบบ Broadcast และแบบ Multicast และมีทิศทางการส่ือสารข฾อมูลแบบซิมเพล็กซ์ แบบฮาล์ฟดูเพล็กซ์ และแบบฟูลดเู พล็กซ์ ท้ังนี้เราสามารถจําแนกประเภทของเครือข฽ายออกได฾หลายลักษณะตามหลกั เกณฑท์ ่ใี ช฾ เช฽น แบ฽งตามขนาดพื้นที่การให฾บริการ (LAN, MAN, WAN) แบ฽งตามลักษณะการไหลของข฾อมูล (Centralized, Distributed) และแบ฽งตามลักษณะหน฾าท่ีของคอมพิวเตอร์ (Peer toPeer, Client Server) สาํ หรับการตดิ ต฽อสือ่ สารกนั ระหวา฽ งคอมพวิ เตอร์นน้ั จาํ เป็นตอ฾ งมีมาตรฐานท่ีใช฾กันเพ่ือให฾การติดต฽อสื่อสารกันได฾อย฽างสมบูรณ์ โดยมาตรฐานของเครื่องข฽ายท฾องถิ่นจะใช฾ Ethernet,Token-Ring, FDDI และมาตรฐานของเครือข฽ายระดับประเทศใช฾ X.25, Freame Relay, ATM เมื่อเทคโนโลยีมีการพัฒนาขึ้นอย฽างต฽อเนื่องทําให฾เกิดระบบเครือข฽ายไร฾สายขึ้น ซึ่งในการติดต฽อสื่อสารกันน้ันไม฽จําเป็นต฾องมีสายสัญญาณ แต฽ยังคงความสามารถเหมือนกับระบบเครือข฽ายแบบมีสาย โดยสามารถแบ฽งประเภทของเครือข฽ายไร฾สายได฾ 4 ประเภทคือ ระบบเครือข฽ายไร฾สายส฽วนบุคคล ระบบเครือขา฽ ยทอ฾ งถน่ิ ไร฾สาย ระบบเครอื ขา฽ ยเมืองไร฾สาย และระบบเครอื ข฽ายขนาดใหญ฽ไร฾สาย และมีการใช฾มาตรฐานในการติดต฽อสื่อสารในปัจจุบันเป็น 802.11n หลักเกณฑ์การพิจารณาประสิทธิภาพของระบบเครือข฽ายพิจารณาได฾จาก สมรรถนะ ความน฽าเช่ือถือ และความปลอดภัย โดยสามารถประยุกต์ใช฾งานระบบเครือข฽ายในด฾านการติดต฽อส่ือสาร ด฾านการค฾นหาข฾อมูล ด฾านธุรกิจและการเงินด฾านการศึกษา และดา฾ นการแพทย์ ทัง้ นี้มหาวิทยาลยั ราชภฏั สวนดุสติ มกี ารประยุกต์ใช฾ระบบเครือข฽ายในด฾านการบริหารจัดการและการเรียนการสอน คือ SDU Hosting, SDU IDM, SDU Kiosk, SDULIVE, SDU MAIL, SDU WIFI, SDU VPN, SDU WEB เป็นต฾น อน่ึงเทคโนโลยีมีการส่ือสารมีการพัฒนาขน้ึ อย฽างต฽อเนือ่ ง ฉะนัน้ จําเป็นต฾องเรียนรอู฾ ยู฽ตลอดเวลาเพื่อกา฾ วใหท฾ ันกบั เทคโนโลยี

66 คาถามทบทวน 1. เทคโนโลยกี ารสื่อสารข฾อมลู มีความสําคญั ต฽อการดํารงชวี ิตของนักศึกษาอยา฽ งไรบ฾าง 2. องคป์ ระกอบพ้ืนฐานของระบบส่อื สารขอ฾ มูลแต฽ละชนดิ ทําหน฾าทีอ่ ย฽างไร 3. การสอ่ื สารผ฽านระบบเครอื ข฽ายคอมพิวเตอร์จะต฾องมีองค์ประกอบอะไรบ฾าง พร฾อมอธิบาย 4. รปู แบบการสื่อสารข฾อมูลชนิดใดที่นิยมในเครอื ขา฽ ยท฾องถ่นิ ในปัจจุบนั เพราะอะไรจงอธบิ าย 5. ระบบเครือขา฽ ยแบบเพยี ร์ทเู พียร์และระบบเครือข฽ายแบบไคลเอนท์เซริ ์ฟเวอร์ มคี วามเหมือนและแตกตา฽ งกันอยา฽ งไร จงอธิบาย 6. มาตรฐานของระบบเครอื ขา฽ ยชนดิ ใดที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสติ ใชใ฾ นการเชอ่ื มโยงขอ฾ มลู ระหวา฽ งอาคาร เพราะอะไรจงอธิบาย 7. ระบบเครือขา฽ ยคอมพิวเตอร์แบบมีสายและระบบเครือขา฽ ยคอมพิวเตอร์แบบไร฾สาย มีความเหมือนและแตกตา฽ งกันอยา฽ งไร 8. เพราะเหตุใดระบบเครือขา฽ ยไรส฾ ายจงึ เปน็ ที่นยิ มในปจั จบุ ัน 9. นักศึกษาสามารถประยุกต์ใช฾งานระบบเครือขา฽ ยกบั การเรยี นได฾อยา฽ งไร 10. มหาวิทยาลยั ราชภัฏสวนดุสิตมีการการประยุกตใ์ ชง฾ านระบบเครือข฽ายคอมพวิ เตอรก์ ับการบรหิ ารจัดการและการเรยี นการสอน ให฾นกั ศกึ ษายกตวั อยา฽ งระบบต฽างๆท่มี หาวิทยาลยั ฯ เตรยี มไวใ฾ ห฾บรกิ ารนักศึกษา อย฽างน฾อย 5 ตัวอย฽าง พรอ฾ มอธิบายวิธีการใช฾งาน

บทที่ 4 อนิ เทอรเ์ นต็ ผชู้ ่วยศาสตราจารย์สายสุดา ปนั้ ตระกลู อินเทอร์เนต็ เป็นระบบเครอื ขา฽ ยคอมพิวเตอรท์ เี่ ชื่อมตอ฽ คอมพวิ เตอร์หลายล฾านเคร่ืองทั่วโลกเขา฾ ดว฾ ยกนั จนเรียกไดว฾ า฽ เปน็ “เครือขา฽ ยไรพ฾ รมแดน” ผ฾ูใช฾คอมพิวเตอร์ทั่วโลกสามารถเชื่อมต฽อเครื่องของตนเข฾าส฽ูระบบอินเทอร์เน็ตเพื่อแลกเปล่ียนข฽าวสารข฾อมูลต฽างๆ ทั้งประเภทข฾อความ ภาพ เสียงและอ่ืนๆ ไม฽ว฽าจะเป็นข฾อมูลทางด฾านการศึกษา ธุรกิจ การค฾า การลงทุน รวมถึงข฾อมูลท่ีให฾ความบันเทิง โดยทุกๆ คนสามารถเข฾ามาใช฾บริการเครือข฽ายน้ีได฾จากทั่วทุกมุมโลก เพียงมีเครื่องคอมพวิ เตอร์และอปุ กรณใ์ นการเช่ือมต฽อเท฽านั้น อินเทอร์เน็ตยังเป็นแหล฽งรวมของข฾อมูลมหาศาลและยงั เปน็ ช฽องทางติดต฽อสื่อสารเพื่อแลกเปลี่ยนข฾อมูลที่สะดวกรวดเร็วเหมาะสมกับการเปล่ียนแปลงของสังคมออนไลน์ในยคุ ปัจจุบันประวตั คิ วามเปน็ มาและพฒั นาการของอินเทอรเ์ น็ต อินเทอร์เน็ต (internet) มาจากคําว฽า inter connection network หมายถึง เครือข฽ายของเครือข฽ายคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดใหญ฽ เชื่อมโยงเครื่องคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องท่ัวโลกให฾สามารถติดต฽อส่ือสารถึงกันได฾ โดยใช฾มาตรฐานเดียวกันในการรับส฽งข฾อมูล (สุวิช ถิระโคตร, 2554, หน฾า 9)ซึ่งเครือ่ งคอมพวิ เตอร์แตล฽ ะเคร่อื งสามารถรับสง฽ ข฾อมลู ในรูปแบบตา฽ งๆ เช฽น ตัวอักษร ภาพและเสียงได฾สามารถค฾นหาข฾อมูลจากท่ีต฽างๆ ได฾อย฽างสะดวกรวดเร็ว เพราะอินเทอร์เน็ตมีมาตรฐานในการรับส฽งข฾อมูลท่ีชัดเจนเป็นหนึ่งเดียวจึงทําให฾การเช่ือมต฽อคอมพิวเตอร์ต฽างชนิดกันสามารถทําได฾อย฽างสะดวกซึ่งโดยทั่วไปแล฾วคอมพิวเตอร์ท่ีเช่ือมต฽อกันเข฾าเป็นเครือข฽ายหลักของอินเทอร์เน็ต มักจะเป็นระบบเครือข฽ายของมินิคอมพิวเตอร์หรือระบบเครือข฽ายท฾องถ่ินและเครือข฽ายของเมนเฟรมคอมพิวเตอร์ จึงอาจกล฽าวได฾ว฽าอินเทอร์เน็ตเป็น เครือข฽ายของเครือข฽าย (network of network) ส฽วนคอมพิวเตอร์ส฽วนบุคคลน้ันมักจะไม฽เช่ือมต฽อกับเครือข฽ายอินเทอร์เน็ตตลอดเวลาเพียงแต฽เช่ือมต฽อเข฾าไปตามความตอ฾ งการในการใช฾งานเท฽านนั้ 1. ประวัติความเปน็ มาของอินเทอรเ์ น็ต อินเทอร์เน็ตมีจุดเร่ิมต฾นมาจากโครงการเครือข฽ายคอมพิวเตอร์ทางการทหารของกระทรวงกลาโหม สหรัฐอเมริกาที่มีชื่อโครงการว฽าอาร์พาเน็ต (ARPANET: advanced researchproject agency) เมื่อ พ.ศ. 2512 โดยมีรูปเเบบของการทํางานท่ีเครื่องคอมพิวเตอร์แต฽ละเครื่องสามารถสง฽ ข฾อมูลไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์เคร่ืองอื่นๆ ได฾ในหลายๆ เส฾นทาง ถึงแม฾ว฽าจะมีคอมพิวเตอร์บางเครือ่ งในเครอื ขา฽ ยถกู ทาํ ลายหรือขดั ข฾อง แตค฽ อมพิวเตอร์เครื่องอ่ืนๆ ก็ยังสามารถติดต฽อส่ือสารกันได฾โดยผ฽านเส฾นทางอื่นที่ยังใช฾งานได฾ดี นอกจากนี้ยังใช฾ในการทดลองสําหรับพัฒนาวิธีควบคุมการส฽งผ฽านตามมาตรฐานอินเทอร์เน็ต (tranmission contocol protocol/internet protocol :TCP/IP) เพ่ือให฾คอมพิวเตอร์ทุกเคร่ืองสามารถติอต฽อกันได฾โดยใช฾มาตรฐานเดียวกัน ซ่ึงถือว฽าเป็นส่ิง

68สําคัญท่ีอาร์พาเน็ตได฾วางรากฐานไว฾ให฾กับอินเทอร์เน็ตเพราะจากมาตรฐานการรับส฽งข฾อมูลแบบTCP/IP ทําใหค฾ ร่อื งคอมพิวเตอร์ต฽างชนิดกันสามารถติดต฽อส่ือสารและรับส฽งข฾อมูลไปมาระหว฽างกันได฾(ดารณี พิมพช์ า฽ งทอง, 2552, หนา฾ 23-24) อาร์พาเน็ตได฾รับการพัฒนาโดยการควบคุมของหน฽วยงาน 3 แห฽ง อันได฾แก฽ สํานักงานเทคนิคการประมวลผล (information processing techniques office) ในสังกัดของ ARPA บริษัทบีบีเอ็น (bolt beranek and newman lnc) และนักวิจัยจากมหาวิทยาลัย 4 แห฽ง ได฾แก฽มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ที่ลอสแอนเจลิส สถาบันวิจัยมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียซานตาบารา และมหาวิทยาลัยยูทา ต฽อมาในปี พ.ศ. 2529 มูลนิธิวิทยาศาสตร์แห฽งชาติของสหรัฐอเมริกา (national science foundattion : NSF) ได฾วางระบบเครือข฽ายข้ึนมาอีกระบบหน่ึงเรียกว฽า NSFNET ซ่ึงประกอบด฾วยซูเปอร์คอมพิวเตอร์จํานวน 5 เคร่ืองใน 5 รัฐ เช่ือมต฽อเข฾าดว฾ ยกนั เพ่อื ใช฾ประโยชนท์ างการศกึ ษาและการค฾นคว฾าทางวิทยาศาสตร์ โคยใช฾ TCP/IP เป็นมาตรฐานใ น ก า ร รั บ ส฽ ง ข฾ อ มู ล เ ช฽ น กั น ทํ า ใ ห฾ ก า ร ข ย า ย ตั ว ข อ ง เ ค รื อ ข฽ า ย เ ป็ น ไ ป อ ย฽ า ง ร ว ด เ ร็ ว เ น่ื อ ง จ า กสถาบันการศึกษาต฽างๆ ต฾องการที่จะเช่ือมต฽อเข฾ากับเครือข฽ายด฾วย เพ่ือใช฾งานซูเปอร์คอมพิวเตอร์ให฾ค฾ุมค฽ามากที่สุด และสามารถแลกเปล่ียนข฾อมูลระหว฽างกันได฾ ทําให฾เครื่องคอมพิวเตอร์ในเครือข฽ายมีจํานวนเพมิ่ มากขึ้นเรื่อยๆ และนอกจาก ARPANET และ NSFNET แล฾ว ยังมีเครือข฽ายอ่ืนๆ อีกหลายเครือข฽าย เช฽น UUNET, UUCP, BITNET แเละ CSNET เป็นต฾น ซึ่งต฽อมาเครือข฽ายเหล฽าน้ีได฾เชื่อมต฽อเข฾าด฾วยกันโดยมี NSFNET เป็นเครือข฽ายหลัก ในปี พ. ศ. 2530 เครือข฽าย ARPANET ได฾รวมตัวเข฾ากับ NSFNET จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2533 ได฾มีการยกเลิกการใช฾งานเครือข฽าย ARPANET ในท่ีสุด(สุวิช ถิระโคตร, 2554, หน฾า 9-11) แต฽จํานวนเครื่องคอมพิวเตอร์ในระบบเครือข฽ายก็มีจํานวนเพ่ิมมากข้ึนเร่อื ยๆ จนอนิ เทอรเ์ น็ตกลายเปน็ เครอื ข฽ายท่ีใหญ฽ท่ีสุดในโลกอย฽างเช฽นในปจั จบุ ัน สําหรับอินเทอร์เน็ตในประเทศไทยนั้น เร่ิมมีการเชื่อมโยงกับระบบเครือข฽ายอินเทอร์เน็ตเป็นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2530 โดยมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ฽ และสถาบันเทคโนโลยีแห฽งเอเชีย (AIT) การเชื่อมต฽ออินเทอร์เน็ตของทั้งสองสถาบันเป็นการใช฾บริการจดหมายอิเล็กทรอนิกส์โดยความร฽วมมือกับประเทศออสเตรียตามโครงการ IDP (the internationaldevelopment plan) ซ่ึงเป็นการติดต฽อเช่ือมโยงเครือข฽ายด฾วยสายโทรศัพท์ จนกระท่ัง พ.ศ.2531มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ฽ ได฾ย่ืนขอท่ีอย฽ูอินเทอร์เน็ตในประเทศไทย โดยได฾รับช่อื sritrang.pus.th ซ่ึงนบั ว฽าเป็นท่ีอยอู฽ นิ เทอรเ์ นต็ แหง฽ แรกของประเทศไทย ต฽อมาในปี พ.ศ. 2535 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได฾เชื่อมต฽อกับเครือข฽าย UUNET ของบรษิ ทั เอกชนทร่ี ฐั เวอร์จิเนีย สหรัฐอเมริกา การเชื่อมต฽อในระยะเร่ิมแรกโดยวงจรเช฽า (leased line)มีความเร็ว 9600 bps (bit per second) ซ่ึงต฽อมามีมหาวิทยาลัยอีกหลายแห฽งได฾ขอเช่ือมต฽อเข฾ากับเครือข฽ายผ฽านระบบและเรียกชื่อเครือข฽ายนี้ว฽า ไทยเน็ต (thainet) ซึ่งถือเป็นประตู (gateway) แห฽งแรกทีน่ ําประเทศไทยเขา฾ สเ฽ู ครอื ข฽ายอินเทอร์เนต็ สากล และในปีเดียวกันศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห฽งชาติ (national eIectronic and computer technology center :NECTEC) ได฾จัดต้ังเครือข฽ายแห฽งใหม฽ขึ้นเรียกว฽าเครือข฽ายไทยสาร (thaisarn) เป็นประตู (gateway)แหง฽ ทส่ี องของประเทศไทยและในปัจจุบันมีสถาบันการศึกษาและหน฽วยงานต฽างๆ ของรัฐ ได฾เช่ือมโยงเครือข฽ายคอมพิวเตอร์ของตนเองเข฾าสู฽เครือข฽ายอินเทอร์เน็ตผ฽านทางเครือข฽ายท้ังสองแห฽งเป็นจํานวน

69มาก นอกจากนี้ยังมีเอกชนอีกหลายแห฽งที่จัดตั้งศูนย์จําหน฽ายเพื่อเป็นผ฾ูให฾บริการอินเทอร์เน็ตและเชื่อมตอ฽ เขา฾ สูเ฽ ครอื ข฽ายอนิ เทอร์เนต็ สากล 2. พัฒนาการของอนิ เทอร์เน็ต ในยุคที่เครอื ขา฽ ยสังคมปจั จบุ นั มีการติดต฽อและแลกเปลีย่ นข฽าวสารผ฽านเครือข฽ายออนไลน์หรืออินเทอร์เน็ต ระบบอินเทอร์เน็ตจึงได฾มีการพัฒนาเทคโนโลยีเว็บอย฽างต฽อเนื่องเพื่อตอบสนองต฽อความตอ฾ งการและความสะดวกในการติดต฽อส่ือสาร จากอดีตท่ีเป็นเว็บ 1.0 มาเป็นเว็บ 2.0 และเข฾าส฽ูเว็บ 3.0 โดยเว็บเชิงความหมายเป็นเทคโนโลยีหน่ึงของเว็บ 3.0 ท่ีทําให฾มีการเชื่อมโยงข฾อมูลของเว็บผู฾พัฒนาและเว็บของแหล฽งข฾อมูลอ่ืนที่สัมพันธ์กัน ทําให฾เกิดระบบสืบค฾นท่ีมีประสิทธิภาพ สามารถสืบค฾นข฾อมูลได฾อย฽างรวดเร็วและตรงประเด็นภายใต฾ความสัมพันธ์ของคําที่มีความหมายต฽อกัน และสามารถเชอื่ มโยงไปยังข฾อมูลที่ตอ฾ งการอย฽างแท฾จริงด฾วยรูปแบบการติดต฽อสื่อสารข฾อมูลจากเทคโนโลยีXML (extensive markup language), RDF (resource description framework) และ OWL(web ontology language) ส฽งผลใหเ฾ กดิ นวตั กรรมการสืบค฾นข฾อมูลผ฽านฐานข฾อมูลขนาดใหญ฽ที่มีการเชื่อมโยงความสมั พันธ์ของข฾อมูล ภาพที่ 4.1 วิวฒั นาการของเทคโนโลยเี วบ็ ทีม่ า (Radar & Nova, 2007)

70 Web 1.0 Web 2.0 Web 3.0 Dial-up, 50k  Broadband, 1Mb  Mobile, 10Mb Static web  Dynamic web  Semantic web Read Only  Read-Write  Read-Write-Execute E-mail  Wikis  Artificial Intelligence Instant Messaging  XML  Scalable vector Personal websites  Blogging Commerce  Social Networking graphics  Ontologyภาพที่ 4.2 เปรียบเทียบการใช฾งานเวบ็ 1.0 เว็บ 2.0 และเว็บ 3.0 ท่ีมา (Web 3.0, 2010) จากภาพท่ี 4.1 และภาพที่ 4.2 แสดงให฾เห็นว฽าเทคโนโลยีเว็บและระบบอินเทอร์เน็ตได฾มีการพัฒนาอย฽างต฽อเนื่อง เพ่ือให฾ผ฾ูใช฾สามารถใช฾บริการในการติดต฽อหรือแลกเปล่ียนข฽าวสารผ฽านเครอื ข฽ายที่มคี วามสะดวกและรวดเรว็ โดยมีวิวัฒนาการเทคโนโลยีเว็บจากเว็บ 1.0 ในลักษณะ staticweb ที่ผ฾ูใช฾สามารถอ฽านข฾อมูลได฾เพียงอย฽างเดียวจากเจ฾าของเว็บไซต์ที่เป็นผู฾สร฾างเนื้อหามาส฽ูเว็บ2.0ท่ีผู฾ใช฾สามารถอ฽านและสร฾างเนื้อหาได฾เองในลักษณะ dynamic web และสามารถติดต฽อเช่ือมโยงหรือสร฾างสังคมเครือข฽ายข้ึนมาผ฽านเว็บไซต์ต฽าง ๆ จนถึงปัจจุบันเร่ิมเข฾าสู฽เว็บยุค 3.0 ท่ีผ฾ูใช฾สามารถอ฽าน สร฾าง รวมท้ังให฾เว็บไซต์สามารถจัดการเชื่อมโยงข฾อมูลเว็บท่ีเกี่ยวข฾องกันและสามารถเข฾าถึงเนื้อหาของเว็บได฾ดีขน้ึ (พนิดา ตันศิริ, 2554, หน฾า 49-50) เทคโนโลยที ี่ใช฾ในการสร฾างเว็บ 3.0 ประกอบดว฾ ย 2.1 artificial intelligence (AI) เปน็ การนาํ ปัญญาประดษิ ฐ์มาใช฾วิเคราะห์พฤติกรรมและความต฾องการของผู฾ใช฾ เพอ่ื ใหเ฾ กิดการทาํ งานอย฽างอัตโนมตั ิ 2.2 automated reasoning เป็นการสร฾างระบบให฾มีการประมวลผลอย฽างสมเหตุผลแบบอตั โนมัติ โดยใชห฾ ลักการทางคณติ ศาสตร์มาช฽วยในการวิเคราะห์และประมวลผล 2.3 cognitive architecture เปน็ การนาํ เสนอระบบประมวลผลทีม่ กี ารทํางานเหมือนกันดว฾ ยการสรา฾ งเคร่ืองมอื ในโลกเสมือนมาใชใ฾ นการทาํ งานจรงิ 2.4 composite applications เป็นระบบประยุกต์ท่ีสร฾างจากการรวมหลายระบบเข฾าดว฾ ยกัน เพอ่ื ทาํ ให฾เกดิ ประสิทธิภาพในการใช฾งานมากขึ้น 2.5 distributed computing เป็นการใช฾คอมพิวเตอร์ต้ังแต฽ 2 เคร่ือง ท่ีสามารถส่ือสารถงึ กันไดบ฾ นเครอื ขา฽ ยในการประมวลผล โดยใช฾ส฽วนท่ีแตกต฽างกันของโปรแกรมเข฾ามาช฽วยประมวลผลในการทํางาน 2.6 human-based genetic algorithms เป็นกระบวนการท่ีอนุญาตให฾มนุษย์สามารถสร฾างนวัตกรรมท่ีทําให฾สามารถเปล่ียนแปลง เกี่ยวพันและเชื่อมโยงกันได฾หลายรูปแบบแล฾วแต฽ความตอ฾ งการ

71 2.7 knowledge representation เปน็ วธิ กี ารทรี่ ะบบใชใ฾ นการเข฾ารหสั และเก็บความร฾ูในฐานความรู฾ 2.8 web ontology language (OWL) เป็นภาษาท่ีใช฾อธิบายข฾อมูลในเว็บไซต์จากความสัมพันธ์ โดยพจิ ารณาจากความหมายของส่งิ ต฽างๆ ทาํ ใหเ฾ กดิ ประสทิ ธิภาพในการค฾นหาขอ฾ มลู 2.9 scalable vector graphics (SVG) เป็นรูปแบบของ XML ท่ีนิยามวัตถุในภาพวาดดว฾ ย point path และ shape 2.10 semantic web เป็นเว็บเชิงความหมายท่ีสามารถเชื่อมโยงข฾อมูลท่ีสัมพันธ์กันเข฾าด฾วยกันท้ังจากแหล฽งขอ฾ มลู เดียวกนั และตา฽ งแหลง฽ กนั ทาํ ให฾เกดิ การเชือ่ มโยงฐานข฾อมลู เข฾าด฾วยกัน 2.11 semantic wiki เป็นการอธิบายข฾อมูลซ฾อนข฾อมูล และให฾ข฾อมูลท่ีเกี่ยวข฾องกับคําท่ีตอ฾ งการได฾อย฽างถกู ตอ฾ งและแมน฽ ยาํ ขึน้ 2.12 software agent เป็นโปรแกรมที่สามารถเป็นตัวแทนในการทํางานตามท่ีกําหนดแบบอตั โนมัติ องค์กรเว็บไซต์สากล (world wide web consortium : W3C) ได฾กําหนดคําสําคัญที่เป็นมาตรฐานสําหรับเว็บ 3.0 คือ ต฾องเป็นเว็บที่มีคุณลักษณะเว็บเชิงความหมายท่ีสามารถประมวลผลและวิเคราะห์ข฾อมูลท่ีเช่ือมโยงกันจากความต฾องการของผ฾ูใช฾ อาจกล฽าวได฾ว฽า เว็บเชิงความหมาย เป็นเทคโนโลยีหนึ่งของเว็บ 3.0 ท่ีเน฾นการจัดการกับเน้ือหาที่มีการจัดเก็บใน metadata ที่มีการแบ฽งข฾อมูลออกเป็นส฽วนย฽อยหรือฐานข฾อมูลความร฾ู ontology เพ่ือนิยามความหมายของข฾อมูลและอาศัยหลักการเช่ือมโยงชุดข฾อมูลที่สัมพันธ์กัน โดยใช฾เทคโนโลยีต฽างๆ เช฽น RDF, OWL ทําให฾ระบบสืบค฾นของเวบ็ เชงิ ความหมายนาํ ไปประมวลผลและแสดงผลไดอ฾ ยา฽ งมีประสทิ ธิภาพในประเด็นที่ตรงกับความต฾องการ โดยผ฾ูใช฾สามารถเชื่อมต฽อการใช฾งานแอพพลิเคชันบนอุปกรณ์ใดก็ได฾ ท้ังคอมพิวเตอร์และโทรศัพทเ์ คลอ่ื นท่ี รวมทัง้ สามารถเข฾าถงึ ข฾อมลู ได฾โดยงา฽ ยผา฽ นการเชอื่ มโยงฐานขอ฾ มลู ความร฾ูหลักการทางานของอนิ เทอร์เน็ต การทํางานขององค์ประกอบต฽างๆ ในระบบอินเทอร์เน็ตจะสอดคล฾องกันได฾ต฾องใช฾โพรโทคอล (protocol) หรือข฾อตกลงที่กําหนดไว฾เป็นมาตรฐานในการติดต฽อส่ือสารระหว฽างเครื่องคอมพิวเตอร์ ทกี่ าํ หนดขน้ึ เพื่อให฾เคร่ืองคอมพิวเตอร์ต฽างชนิดกันสามารถติดต฽อสื่อสารเพ่ือแลกเปลี่ยนข฾อมูลระหว฽างกันได฾อย฽างถูกต฾องภายใต฾มาตรฐาน TCP/IP โดย TCP (transmission controlprotocol) ทําหน฾าที่ควบคุมการรับส฽งข฾อมูลจากต฾นทางไปยังปลายทางให฾ถูกต฾องและครบถ฾วนส฽วน IP (internet protocol) ทําหน฾าที่ในการค฾นหาท่ีอย฽ูของเคร่ืองปลายทางและเส฾นทางการส฽งข฾อมูลโดยผ฽านเกตเวย์ (gateway) หรอื เราเตอร์ (router) หลกั การทาํ งานพ้ืนฐานของ TCP/IP ในการรับส฽งข฾อมูล ทําหน฾าที่แบ฽งข฾อมูลออกเป็นหน฽วยย฽อยๆ เรียกว฽าแพ็กเกจ (package) ซึ่งแต฽ละแพ็กเกจจะมีการระบุส฽วนหัว (header) ที่ระบุถึงหมายเลขที่อยู฽ (IP address) ของปลายทางและต฾นทางและข฾อมูลอ่ืนๆ เพื่อทําการส฽งข฾อมูลไปในเครือขา฽ ยซงึ่ มีหลายเสน฾ ทาง โดยเราเตอร์จะเป็นตัวจัดเส฾นทางในการส฽งแพ็กเกจ ไปยังโหนดถัดไป แต฽ละแพก็ เกจอาจไม฽ได฾ไปเส฾นทางเดียวกันท้ังหมดหรืออาจไม฽ไปถึงปลายทางพร฾อมกันท้ังหมด แต฽เมื่อไปถึงจดุ หมายเครอ่ื งปลายทางจะรวบรวมแพ็กเกจท้งั หมดเขา฾ มาแลว฾ คืนสภาพกลับมาเปน็ ข฾อมลู เดิม

72 1. ไอพีแอดเดรส ไอพีแอดเดรส (IP address) คือ หมายเลขประจําตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ท่ีเชื่อมต฽อเข฾ากับเครือข฽ายอินเทอร์เน็ต เพื่อเอาไว฾อ฾างอิงหรือติดต฽อกับเครื่องคอมพิวเตอร์อื่นๆ ในเครือข฽าย IPaddress ถูกจดั เปน็ ตัวเลขชุดหน่งึ ขนาด 32 บติ ใน 1 ชดุ น้จี ะมตี ัวเลขถกู แบง฽ ออกเปน็ 4 ส฽วน ส฽วนละ8 บิต เท฽า ๆ กัน สามารถแทนค฽าได฾ 2564 หรือ 4,294,967,296 ค฽า เพื่อให฾ง฽ายต฽อการจํา เวลาเขียนจงึ แปลงให฾เป็นเลขฐานสิบก฽อน โดยคั่นแต฽ละส฽วนด฾วยเคร่ืองหมายจุด (.) ดังน้ันในตัวเลขแต฽ละส฽วนนี้จึงมีค฽าได฾ไม฽เกิน 256 คือ ต้ังแต฽ 0 จนถึง 255 เท฽าน้ัน เช฽น IP address ของเครื่องคอมพิวเตอร์ของมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต คือ 203.183.233.6 ซ่ึง IP address ชุดนี้จะใช฾เป็นที่อยู฽เพ่ือติดต฽อกับเครอ่ื งคอมพวิ เตอร์อน่ื ๆ ในเครอื ข฽าย ภาพที่ 4.3 การส฽งขอ฾ มลู บนอินเทอร์เนต็ โดยใช฾ IPv4 ทีม่ า (NECTEC's IPv6 Testbed, 2011) หมายเลขไอพีแอดเดรสที่ใช฾กันทุกวันนี้ คือ ไอพีเวอร์ช่ันที่ 4 (Internet protocol version4 : IPv4) ซึ่งจะเป็นระบบ 32 บิต ใช฾เป็นมาตรฐานในการส฽งข฾อมูลในเครือข฽ายอินเทอร์เน็ตตั้งแต฽ปีค.ศ. 1981 เพ่ือรองรับการขยายตัวของเครือข฽ายอินเทอร์เน็ตท่ีเติบโตอย฽างรวดเร็ว นักวิจัยของ IETF(the internet engineering task force) จึงพัฒนาอินเทอร์เน็ตโพรโทคอลร฽ุนที่หก (internetprotocol version 6 : IPv6 ) บางคร้ังเรียกว฽า next generation internet protocol หรือ IPngเพื่อทดแทนอินเทอร์เน็ตโพรโทคอลรุ฽นเดิมโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อปรับปรุงโครงสร฾างของตัวโพรโทคอล ให฾รองรับหมายเลขไอพีแอดเดรสจํานวนมากและปรับปรุงคุณลักษณะอื่นๆ อีกหลายประการ ทั้งในแง฽ของประสิทธิภาพและความปลอดภัย รองรับระบบแอปพลิเคชันใหม฽ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตและเพ่ิมประสิทธิภาพในการประมวลผลแพ็กเกจให฾ดีข้ึน ทําให฾สามารถตอบสนองต฽อการขยายตวั และความตอ฾ งการใชง฾ านเทคโนโลยีบนเครือขา฽ ยอนิ เทอร์เนต็ ไดเ฾ ปน็ อยา฽ งดี

73 ความแตกตา฽ งระหว฽าง IPv6 และ IPv4 มีอย฽ู 5 ส฽วนใหญ฽ๆ คือ การกําหนดหมายเลขและการเลือกเส฾นทาง (addressing & routing) ความปลอดภัย อุปกรณ์แปลแอดเดรส (networkaddress translator : NAT) การลดภาระในการจัดการของผ฾ูดูแลระบบและการรองรับการใช฾งานในอปุ กรณพ์ กพา (mobile devices) การเพิ่มขนาดแอดเดรสจาก 32 บติ เป็น 128 บิต ดงั ภาพท่ี 4.4 IPv4 IPv6 Interface IDaaa.aaa.aaa.aaa network prefix xxxx xxxx xxxx xxxx xxxx xxxx xxxx xxxx a: เลขฐาน 10 ; เลขฐาน 16 128 bits xxxx = 0000 ถงึ FFFF ภาพที่ 4.4 รปู แบบของแอดเดรส IPv4 และ IPv6 ทีม่ า (NECTEC's IPv6 Testbed, 2011) จากภาพจะเห็นการเปล่ียนแปลงที่ชัดเจนท่ีสุด คือ ขนาดของแอดเดรสที่เพ่ิมมากข้ึน ซึ่งIPv4 มีแอดเดรสขนาด 32บิต ขณะที่ IPv6 มีแอดเดรสที่เพิ่มขึ้นเป็น 128 บิต ทําให฾มีจํานวนแอดเดรสถึง 3.4x102 หมายเลข (340,282,366,920,938,463,463,374,607,431,768,211,456)หมายเลข IPv6 ประกอบไปด฾วยกล฽ุมตัวเลข 8 กลุ฽ม และคั่นด฾วยเครื่องหมาย ( : ) โดยแต฽ละกล฽ุมคือเลขฐาน 16 จํานวน 4 ตัว (16 bit) เช฽น 3FEE:085B:1F 1F:0000:0000:0000:00A9:1234 เขียนย฽อได฾ คือ 3FEE:85B:1F 1F::A9:1234 โดยมีเง่ือนไขในการเขียนคือหากมีเลขศูนย์ด฾านหน฾าของกลุ฽มใดสามารถละไว฾ได฾และหากในกล฽ุมใดเป็นเลขศูนย์ท้ังหมด คือ 0000 สามารถละไว฾ได฾ แต฽สามารถทําลกั ษณะน้ไี ด฾ในตาํ แหนง฽ เดยี วเทา฽ นั้นเพอื่ ไม฽ให฾เกิดความสับสน การปรับเปล่ียนระบบจาก IPv4 ไปส฽ู IPv6 ใช฾เทคนิคการสื่อสารระหว฽างเครือข฽าย IPv6ด฾วยกัน โดยมีเครือข฽าย IPv4 เป็นส่ือคั่นกลาง โดยใช฾เทคนิคการปรับเปลี่ยน network addresstranslation protocol translation (NAT-PT) ซึ่งเป็นการแปลงส฽วนหัวของไอพีแพ็กเกจจาก IPv4เป็น IPv6 เม่ือปรับเปลี่ยนเครือข฽ายต฾นทางและปลายทางเป็นการใช฾งาน IPv6 ท้ังหมด ซ่ึงเรียกการเชอื่ มตอ฽ ลกั ษณะนีว้ ฽า IPv6-native network ดังแผนภาพแสดงการปรับเปลี่ยนระบบจาก IPv4 ไปส฽ูIPv6

74ปจั จบุ นั เครอื ขา่ ย อนิ เทอร์เนต็ ปัจจุบัน อนิ เทอร์เน็ตยุคใหม่ อนาคตเครือข่ายสว่ นใหญร่ วมถึง อินเทอร์เน็ตจะเปลี่ยนมาใช้ IPv6สว่ นใหญ่รวมถึง (IPv4 internet) (IPv6 internet),อนิ เทอร์เนต็ ยงั คง เครอื ขา่ ยองคก์ รยคุ ใหม่ใช้ IPv4 6bone (IPv6 network)เทคนิคท่ีนิยมใช้ในการปรับเปล่ียนระบบ ระหวา่ งการปรบั เปลย่ี นท้งั เครือขา่ ย1. dual stack (IPv6/IPv4) เดมิ (IPv4)และเครือขา่ ยท่ปี รบั เปลีย่ น ระบบเกา่2. IPv6-over-IPv4 tunnel แล้ว (IPv6) อาจมีความจาเป็นตอ้ ง ทางานรว่ มกัน ซ่ึงจะอาศัยเทคนคิ ทย่ี ังคงใช้ IPv4 (6to4 automatic tunnel หรอื protocol translation (NAT-PT) manually configured tunnel) หรือ DNS proxy (DNS-ALG) ระบบเกา่ Dual stack เครอื ขา่ ยองค์กรซง่ึ ทย่ี งั คงใช้ IPv4 ส่วนใหญย่ งั คงใช้ เครอื ข่าhยoขstอsงฝ่ายที่ได้ IPv4 ปรบั เปลยี่ นมาใช้ IPv6 ภาพที่ 4.5 แผนภาพแสดงการปรบั เปลีย่ นระบบจาก IPv4 ไปส฽ู IPv6 ท่มี า (NECTEC's IPv6 Testbed, 2011) จากภาพที่ 4.5 แสดงให฾เห็นถึงการปรับเปลี่ยนระบบจาก IPv4 ไปส฽ู IPv6 ท่ีสามารถปรับเปล่ยี นได฾เกือบทัง้ หมด IPv6 รองรับปรมิ าณของไอพีแอดเดรสในอนาคตได฾จํานวนมาก โดยมีการปรับเปล่ียนรูปแบบของข฾อมูลส฽วนหัว (header) ให฾สนับสนุนการหาเส฾นทางของเราเตอร์ เพ่ิม flowlabel เพ่ือช฽วยในการทํางานของข฾อมูลท่ีมีลักษณะต฽อเนื่อง (streaming) เช฽น ข฾อมูลเสียงและวิดีโอแบบ real-time เพ่ิมรูปแบบในรักษาความปลอดภัยของข฾อมูลและรองรับเทคโนโลยีใหม฽ๆ รวมถึงควบคุมอุปกรณ์เครื่องใช฾ไฟฟูาประจําบ฾านท่ีมีหมายเลขไอพีแอดเดรสประจําทําให฾สั่งการได฾ทันที(สุธี พงศาสกุล และณรงค์ ลํ่าดี, 2551, หน฾า 50-51) เช฽น เครื่องเล฽น DVD สามารถรับส฽งหนังมาได฾โดยตรงจากอินเทอร์เน็ตหรือส฽งสัญญาณไปยังโทรทัศน์ที่อยู฽ตามมุมต฽างๆ ของบ฾านได฾ ควบคุมการเปิดปิดไฟ ตรวจสอบสถานะของเครื่องใช฾ไฟฟูาผ฽านสายไฟในบ฾าน ทําให฾การรับส฽งข฾อมูลทําได฾อย฽างรวดเรว็ สามารถติดต฽อกนั ได฾โดยตรง 2. โดเมนเนม โดเมนเนม (domain name หรือ domain name system : DNS) หมายถึง ช่ือท่ีถูกเรียกแทนการเรียกเป็นหมายเลขอินเทอร์เน็ต (IP address) ส฽วนใหญ฽จะเป็นช่ือที่สื่อความหมายถึงหน฽วยงาน หรือเจ฾าของเว็บไซต์น้ันๆ เพ่ือใช฾เป็นตัวอ฾างอิงแทน ซ่ึงชื่อโดเมน ประกอบด฾วย ชื่อเครื่องคอมพวิ เตอร์ ชอื่ โดเมน ชอ่ื สบั โดเมน ท่ีสมั พนั ธ์กบั หมายเลขไอพขี องเคร่ืองน้ันๆ เช฽น IP address คือ203.183.233.6 แทนที่ด฾วยช่ือ dusit.ac.th เพ่ือให฾ผู฾ใช฾งานสามารถจดจําชื่อได฾ง฽ายกว฽าการจําหมายเลขไอพี

75 รปู ที่ 4.6 DNS และ DNS Serverท่ีมา (กองบรรณาธกิ าร, 2553, หนา฾ 24)เน่ืองจากการติดต฽อส่ือสารกันในระบบอินเทอร์เน็ตใช฾โพรโทคอล TCP/IP เพ่ือส่ือสารกันโดยจะต฾องมี IP address ในการอ฾างอิงเสมอ แต฽ IP address นี้ถึงแม฾จะจัดแบ฽งเป็นส฽วนๆ แล฾วก็ยังมีอุปสรรคในการท่ีต฾องจดจํา ถ฾าเครื่องท่ีอยู฽ในเครือข฽ายมีจํานวนมากขึ้น การจดจําหมายเลข IP ดูจะเป็นเร่ืองยาก และอาจสับสนจําผิดได฾ แนวทางแก฾ปัญหาคือการต้ังชื่อหรือตัวอักษรข้ึนมาแทนท่ี IPaddress ซงึ่ สะดวกในการจดจาํ ไดง฾ า฽ ยกว฽าการจําตวั เลขโดเมนที่ไดร฾ บั ความนิยมกนั ทั่วโลกท่ถี ือว฽าเป็นโดเมนสากล มดี งั น้ี คอื.com ยอ฽ มาจาก Commercial ธุรกิจ.edu ย฽อมาจาก Education การศึกษา.int ยอ฽ มาจาก International organization องคก์ รนานาชาติ.org ยอ฽ มาจาก Organization หน฽วยงานที่ไมแ฽ สวงหากําไร.net ย฽อมาจาก Network หน฽วยงานท่ีมธี รุ กิจดา฾ นเครือขา฽ ยการขอจดทะเบียนโดเมนต฾องเข฾าไปจดทะเบียนกับหน฽วยงานที่รับผิดชอบ ช่ือโดเมนท่ีขอจดนน้ั ไมส฽ ามารถซา้ํ กับชอ่ื ทมี่ อี ยูเ฽ ดมิ ซงึ่ สามารถตรวจสอบชอื่ โดเมนได฾จากหน฽วยงานท่รี ับผดิ ชอบการขอจดทะเบยี นโดเมน มี 2 วธิ ี ดว฾ ยกัน คือ1. การขอจดทะเบียนให฾เป็นโดเมนสากล (.com .edu .int .org .net) ต฾องขอจดทะเบยี นกบั www.networksolution.com ซง่ึ เดมิ คอื www.internic.net2. การขอทดทะเบยี นท่ลี งท฾ายด฾วย .th (thailand) ต฾องจดทะเบยี นกับ www.thnic.netโดเมนเนมทลี่ งท฾าย ดว฾ ย .th ประกอบด฾วย.ac.th ย฽อมาจาก academic thailand สาํ หรับสถานศึกษาในประเทศไทย.co.th ย฽อมาจาก company thailand สาํ หรบั บรษิ ทั ที่ทําธรุ กจิ ในประเทศไทย.go.th ยอ฽ มาจาก government thailand สาํ หรบั หนว฽ ยงานตา฽ ง ๆ ของรัฐบาล.net.th ยอ฽ มาจาก network thailand สาํ หรับบริษทั ทที่ ําธรุ กิจดา฾ นเครือขา฽ ย.or.th ยอ฽ มาจาก organization thailand สาํ หรับหนว฽ ยงานท่ไี มแ฽ สวงหากาํ ไร.in.th ยอ฽ มาจาก individual thailand สําหรับบุคคลท่ัวๆ ไป

76 3. โปรแกรมเวบ็ บราวเซอร์ เว็บบราวเซอร์ (web browser) คือ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ ที่ผู฾ใช฾สามารถดูข฾อมูลและโต฾ตอบกบั ข฾อมูลสารสนเทศทจี่ ัดเก็บในหน฾าเว็บเพจที่สร฾างด฾วยภาษาเฉพาะ เช฽น ภาษา HTML, PHP,CGI, javascript ต฽างๆ เพ่ือใช฾ในการค฾นหาข฾อมูลเพื่อความบันเทิงหรือธุรกรรมอ่ืนๆ ที่จัดเก็บไว฾ในระบบบริการเวบ็ หรอื ระบบคลงั ข฾อมูลอืน่ ๆ โปรแกรมเว็บบราวเซอร์ท่ีพบในปัจจุบัน ได฾แก฽ internet explorer, google chrome,firefox, opera, safari, crazy browser, avant browser, maxthon browser, konquerorและ plawan Browser ในบทน้ีจะเปรียบเทียบข฾อดีและขอ฾ จาํ กัดเฉพาะโปรแกรมเว็บบราวเซอร์ท่ีได฾รับความนิยมในปัจจุบันมากท่ีสุด 5 โปรแกรม คือ internet explorer (IE), firfox, google chrome, operaและ safari ดังตารางท่ี 4.1ตารางที่ 4.1 เปรียบเทยี บข฾อดีและข฾อจาํ กัดของโปรแกรมเวบ็ บราวเซอร์โปรแกรมเวบ็ บราวเซอร์ ขอ้ ดี ข้อจากัด1. Internet Explorer - เป็นบราวเซอร์ท่ีมีการใช฾งานมากที่สดุ - ถ฾าเปดิ เว็บเพจหลายๆ หน฾าโปรแกรมจะ2. Firefox - สามารถเขา฾ ถึงขอ฾ มลู ได฾ทกุ เวบ็ ไซต์ ค฾าง3. Google Chrome - เมื่อพบปญั หาในการใชง฾ านสามารถแกไ฾ ข ปัญหาไดง฾ า฽ ย - ใชห฾ น฽วยความจาํ คอมพวิ เตอรจ์ าํ นวนมาก4. Opera - ให฾ความเป็นสว฽ นตวั สูงสุด - ทาํ งานช฾า เม่อื เปรยี บเทยี บกบั - มอี ุปกรณเ์ สรมิ (add-ons) บราวเซอร์อื่นๆ - ปูองกนั การบกุ รุกจากสปายแวร์ ไวรสั - ผ฾ูใช฾ยงั มีจาํ นวนนอ฾ ยเม่อื เทียบกบั - มีระบบการรกั ษาความปลอดภยั และ ระบบการอพั เดตอยู฽ตลอดช฽วยแกป฾ ัญหา โปรแกรม internet explorer ได฾ทนั ที - ไมส฽ ามารถแสดงผลเว็บเพจไดท฾ กุ เวบ็ เพจ - มีลูกเล฽นหลากหลาย หรือถา฾ แสดงได฾ ข฾อมลู อาจไมส฽ มบูรณ์ - ไมส฽ ามารถเข฾าไปยงั เวบ็ ไซตข์ องสถาบนั - ทํางานเรว็ การเงินตา฽ งๆ ได฾ - มแี ถบสาํ หรับการคน฾ หาข฾อมลู ที่รวดเร็ว - ตัวเคอร์เซอรม์ ักจะเลื่อนไปอย฽ูดา฾ นหน฾า - ขนาดไฟล์เลก็ ใชพ฾ ้ืนทฮ่ี าร์ดดสิ ก์ในการ สุด จัดเกบ็ นอ฾ ย - การกําหนดแท็บดาํ คลมุ ข฾อความทาํ ได฾ - หน฾าตา฽ งดาวนโ์ หลดอยู฽แถบดา฾ นล฽าง - ดงึ แอพพเิ คช่ันของกเู กลิ มาใชง฾ านอยา฽ ง ยาก สะดวก - ไตเตล้ิ บารส์ ัน้ - มีโปรแกรมชว฽ ยแปลภาษาเวลาเขา฾ ใชเ฾ ว็บ - ไมส฽ ามารถเขา฾ ไปยังเวบ็ ไซต์ของสถาบัน ต฽างประเทศ การเงนิ ตา฽ งๆ ได฾ - การลบตัวอกั ษร ถ฾าคาํ ท่ีมสี ระอย฽ดู ว฾ ย - ทํางานเรว็ - รูปลักษณส์ วย จะถูกลบไปทัง้ หมด - มี download manager ในตัว - ฟังก์ชนั การทาํ งานน฾อย บางหนา฾ เวบ็ แสดงผลผดิ พลาด - ไมร฽ องรบั เวบ็ เพจของสถาบนั การเงิน ต฽างๆ

77โปรแกรมเวบ็ บราวเซอร์ ขอ้ ดี ข้อจากัด5. Safari - โหลดหน฾าเวบ็ ได฾อยา฽ งรวดเรว็ - ฟังกช์ ันการทาํ งานมีไมม฽ าก - เขา฾ ถงึ java script ได฾อย฽างรวด เรว็ - มปี ญั หาดา฾ นภาษาไทย - รองรับ CSS animations และ CSS web - มีปญั หาเรอ่ื งรปู แบบตัวอักษร font - สแกนข฾อมลู ไดร฾ วดเร็ว - กําจัดไวรสั สปายแวรต์ า฽ ง ๆ ไดด฾ ีการเชอื่ มตอ่ อินเทอรเ์ น็ต การเช่ือมต฽ออินเทอร์เน็ตเป็นการเช่ือมโยงกันของคอมพิวเตอร์บนระบบเครือข฽าย เสมือนเป็นใยแมงมุมท่ีครอบคลุมท่ัวโลกในแต฽ละจุดที่เชื่อมต฽ออินเทอร์เน็ตน้ัน สามารถเช่ือมต฽อกันผ฽านหน฽วยงานท่ีเรียกว฽า “ผู฾ให฾บริการอินเทอร์เน็ต” หรือ ISP (internet service provider) ซ่ึงเป็นเจ฾าของและผู฾ดูแลระบบคอมพิวเตอร์ท่ีเช่ือมกับอินเทอร์เน็ต แต฽ไม฽ใช฽เจ฾าของอินเทอร์เน็ต เหมือนกับการทเ่ี อาคอมพวิ เตอร์ของแต฽ละคนมาต฽อกันเป็นเครือข฽าย ย฽อมไม฽มีใครเป็นเจ฾าของเครือข฽ายท้ังระบบแต฽ทุกคนเป็นเจ฾าของเครื่องเฉพาะส฽วนของตนเอง ผ฾ูให฾บริการอินเทอร์เน็ตอาจเป็นบริษัทหรือหนว฽ ยงานท่เี ปดิ บริการให฾ผ฾ูใช฾ท่ัวไปเช่ือมต฽อเคร่ืองคอมพิวเตอร์เข฾ากับเครือข฽ายของตน เพื่อต฽อเข฾ากับอินเทอร์เน็ตอีกทีหนึ่ง โดยมีการเก็บค฽าบริการเป็นทอดๆ ไป ใครต฽อผ฽านเคร่ืองของใครก็ต฾องเสียค฽าบริการให฾กับคนนั้น เช฽น ISP รายใหญ฽ๆ ในต฽างประเทศเก็บค฽าบริการจาก ISP ในเมืองไทย และISP ในเมืองไทย (กรุงเทพฯ) ก็เก็บค฽าบริการจากลูกค฾าท่ีเป็นผู฾ใช฾รายบุคคล องค์กร บริษัท หรือ จากISP รายย฽อย ภายใต฾เครอื ข฽ายของตนท่ีอยูใ฽ นต฽างจังหวดั อีกทีหนงึ่ (ดวงพร เก๋ยี งคาํ , 2551, หน฾า 14) ตวั อย฽าง ผใ฾ู หบ฾ รกิ ารอินเทอร์เนต็ ในเมืองไทย - บรษิ ทั อินเทอรเ์ นต็ ประเทศไทย จํากัด - บรษิ ทั ทรูอนิ เทอรเ์ น็ต จํากัด - บริษัท สามารถอนิ โฟเนต จํากดั - บริษทั ทีโอที จํากัด (มหาชน) - บริษทั เอ-เน็ต จาํ กดั - และบรษิ ัทอ่ืนๆ อีกหลายราย การเชอ่ื มตอ฽ คอมพวิ เตอรเ์ ข฾ากบั เครือขา฽ ยของผู฾ให฾บริการอินเทอร์เน็ต สามารถแบ฽งออกเป็น2 แบบ คือ การเชอ่ื มตอ฽ อินเทอร์เน็ตแบบใช฾สายและแบบไร฾สาย ดังมรี ายละเอียดดังน้ี 1. การเช่อื มต่ออินเทอร์เน็ตแบบใชส้ าย การเช่ือมต฽ออินเทอร์เน็ตแบบใช฾สาย (wire internet) แบ฽งเป็นการเชื่อมต฽อแบบรายบุคคลและแบบองค์กร 1.1. การเช่อื มต฽ออินเทอร์เน็ตรายบุคคล การเช่ือมต฽ออินเทอร์เน็ตรายบุคคล (individual connection) คือ การเชื่อมต฽ออินเทอร์เนต็ จากท่ีบ฾าน (home user) หรือท่ีเรียกว฽า Dial-Up ที่ต฾องอาศัยค฽ูสายโทรศัพท์ในการเข฾าส฽ูเครือข฽ายอินเทอร์เน็ต ผ฾ูใช฾ต฾องสมัครเป็นสมาชิกกับผู฾ให฾บริการอินเทอร์เน็ตก฽อน จากน้ันจะได฾เบอร์

78โทรศัพทข์ องผ฾ูให฾บริการอินเทอร์เน็ต รหัสผ฾ูใช฾ (user name) และรหัสผ฽าน (password) ผู฾ใช฾จะเข฾าส฽ูระบบอินเทอร์เน็ตได฾โดยใช฾โมเดม็ ท่ีเชื่อมต฽อกับคอมพิวเตอร์ของผ฾ูใช฾หมุนไปยังหมายเลขโทรศัพท์ของผ฾ใู ห฾บริการอินเทอร์เนต็ จากนนั้ จงึ สามารถใชง฾ านอินเทอร์เนต็ ได฾ ภาพที่ 4.7 การเช่อื มต฽ออนิ เทอร์เนต็ ผา฽ นสายโทรศัพท์ ในการเชื่อมต฽ออินเทอร์เน็ตรายบุคคล ผ฾ูใช฾บริการต฾องมีเคร่ืองคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์โมเด็มและผู฾ให฾บริการอินเทอร์เน็ตท่ีมีแพ็กเกจการให฾บริการท้ังแบบรายช่ัวโมงและรายเดือน การเช่ือมต฽อแบบ Dial-Up มีข฾อดีคือใช฾งานง฽าย เสียค฽าใช฾จ฽ายน฾อย จะจ฽ายค฽าบริการเมื่อหมุนโทรศัพท์เช่ือมต฽อในแตล฽ ะคร้งั และค฽าช่ัวโมงอนิ เทอรเ์ นต็ ตามแพ็ตเกจของผูใ฾ ห฾บริการอนิ เทอร์เนต็ ทีเ่ ลือกใช฾ 1.2 การเช่อื มต฽ออินเทอรเ์ น็ตแบบองคก์ ร การเช่ือมต฽ออินเทอร์เน็ตแบบองค์กร (corporate connection) จะพบได฾ท่ัวไปตามหน฽วยงานต฽าง ๆ ท้ังภาครัฐและเอกชน หน฽วยงานต฽างๆ เหล฽าน้ีจะมีเครือข฽ายท฾องถ่ินเป็นของตัวเองซ่ึงเครือข฽ายท฾องถิ่นจะเช่ือมต฽ออินเทอร์เน็ตตลอดเวลา ผ฽านวงจรเช฽าวิธีน้ีจะพบได฾ในหน฽วยงานขนาดใหญ฽ เชน฽ สถาบันการศึกษา รา฾ นอินเทอรเ์ น็ตคาเฟุตลอดจนบา฾ นท่มี ีคอมพิวเตอร์หลายๆ เครื่อง ดังน้ันบคุ ลากรในหน฽วยงานจึงสามารถใชอ฾ นิ เทอรเ์ น็ตไดต฾ ลอดเวลา ภาพท่ี 4.8 การเชื่อมต฽ออินเทอร์เน็ตแบบองค์กร

79 2. การเชอ่ื มต่ออนิ เทอรเ์ น็ตแบบไรส้ าย การเชื่อมต฽ออินเทอร์เน็ตแบบไร฾สาย (wireless internet) แบ฽งเป็นการเชื่อมต฽อผ฽านเครอื ข฽ายผ฾ใู หบ฾ รกิ ารโทรศพั ท์เคล่อื นที่ และระบบเครอื ขา฽ ยวายฟายสาธารณะ 2.1 การเช่ือมต฽ออินเทอร์เน็ตแบบไร฾สายผ฽านเครือข฽ายผู฾ให฾บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ โดยเทคโนโลยีท่ีใช฾เป็นมาตรฐานของการส่ือสารข฾อมูลได฾รับการพัฒนาอย฽างต฽อเน่ือง เช฽น GPRS, CDMAและ EDGE ซ่ึงเทคโนโลยีที่ใช฾นั้นต฾องเหมาะสมกับเครือข฽ายโทรศัพท์เคล่ือนที่ เช฽น ผ฾ูให฾บริการระบบGSM ได฾แก฽ AIS, DTAC และ True ใช฾เทคโนโลยี GPRS ส฽วน Hutch จะเน฾นการให฾บริการในระบบCDMA ระดับความเร็วในการรับส฽งข฾อมูลด฾วยอินเทอร์เน็ตไร฾สาย ในทางทฤษฎีสําหรับ GPRSมีความเร็วสูงสุดประมาณ 83.6 Kbps ส฽วน EDGE มีความเร็วสูงสุดประมาณ 236.8 Kbps และCDMA มีความเรว็ สูงสดุ ประมาณ 2.4 Mbps แต฽ในการตดิ ต้ังใช฾งานจริงจะตา่ํ กว฽าน้ัน เช฽น GPRS อย฽ูท่ีประมาณ 40 kbps ส฽วน CDMA จะขึน้ อยู฽กบั เทคโนโลยีที่ใช฾ ข฾อดีของอินเทอร์เน็ตแบบไร฾สายสามารถเช่ือมต฽อได฾ทุกที่ทุกเวลาและมีแพ็กเกจให฾เลือกหลายแบบ ทั้งแบบเหมาจ฽าย รายเดือน คิดตามช่ัวโมงการใช฾งานหรือปริมาณข฾อมูลท่ีใช฾ ส฽วนคา฽ บริการขนึ้ อยูก฽ ับผ฾ใู ห฾บริการแต฽ละราย 2.2 ระบบเครือข฽ายวายฟายสาธารณะ (Wi-Fi public hotspot) เป็นบริการเชื่อมต฽ออินเทอร์เน็ตด฾วยระบบ LAN ไร฾สาย (wireless LAN หรือ WLAN) ในบริเวณที่มีข฾อจํากัดในการเดินสาย LAN เพ่ือใหบ฾ คุ คลทั่วไปได฾ต฽อใช฾งาน จุดที่ให฾บริการมักจะเป็นพ้ืนที่สาธารณะที่คาดว฽าจะมีผู฾มาใชบ฾ ริการเปน็ จํานวนมาก เชน฽ สนามบนิ โรงแรม โรงพยาบาลหรือมหาวิทยาลัย โดยผ฾ูให฾บริการจะนําอุปกรณ์ระบบ LAN ไร฾สาย เช฽น ตัวกระจายสัญญาณ หรือ จุดเข฾าใช฾ (access point) ท่ีเชื่อมต฽อกบั ระบบเครือข฽ายภายในอาคารและต฽อเข฾ากับอินเทอร์เน็ตไปติดตั้งไว฾ในสถานที่นั้นๆ เมื่อผ฾ูใช฾บริการนําโน฾ตบุ฿คหรือโทรศัพท์เคลื่อนที่ท่ีรองรับเทคโนโลยีวายฟาย (Wi-Fi) เช฽น 802.11b, 802.11g หรือ802.11n เข฾ามาในพ้ืนที่ให฾บริการท่ีเรียกว฽า จุดฮอตสปอต (hotspot) พร฾อมกับชั่วโมงอินเทอร์เน็ตไร฾สาย (wireless internet card) ที่มีรหัสผู฾ใช฾และรหัสผ฽านก็สามารถใช฾บริการในพ้ืนท่ีของจุดฮอตสปอตได฾ทันทตี ามเงือ่ นไขการใชง฾ านของผู฾ให฾บริการ ภาพที่ 4.9 Wi-Fi Public Hotspot ท่ีมา (เทคโนโลยี Wi-Fi, 2553)

80 สําหรับประเทศไทย กระทรวงเทคโนโลยีและการส่ือสาร มีนโยบายจะเปิดให฾บริการอินเทอร์เน็ตไร฾สายในท่ีสาธารณะฟรี (free Wi-Fi) ในสถานที่ราชการ สวนสาธารณะ และสถานท่ีท฽องเท่ียว ในปี 2555 จํานวน 20,000 จุด ใช฾ช่ือล็อกอิน samartwifi.th ให฾บริการด฾วยระดับความเรว็ 2 Mbps โดยบริษทั ทโี อทีเป็นผู฾ดําเนินการ เพื่อให฾ประชาชนสามารถเข฾าถึงอินเทอร์เน็ตโดยไม฽เสียค฽าใช฾จ฽าย และคาดว฽าจะขยายจุดให฾บริการได฾มากกว฽า 250,000 จุด ภายในเวลา 5 ปี ซึ่งโครงการฟรีวายฟายจะให฾ประโยชน์ในด฾านเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ รวมทั้งประชาชนผใ฾ู ชบ฾ ริการท่ีจะได฾รับบริการข฾อมูลข฽าวสารออนไลน์ เพ่ือเป็นส฽วนหนึ่งในการผลักดันประเทศสู฽สมาร์ทไทยแลนด์อินเทอรเ์ น็ตความเรว็ สงู การให฾บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงมักใช฾เทคโนโลยีการรับส฽งข฾อมูลความเร็วสูง หรือที่เรียกว฽า การรับส฽งข฾อมูลแบบบรอดแบรน์ (Broad band) ทําให฾ผู฾ใช฾บริการสามารถรับส฽งข฾อมูลได฾อย฽างรวดเร็ว เช฽น การเช่ือมต฽อด฾วยระบบ ISDN ระบบ ADSL เคเบิลโมเด็ม อินเทอร์เน็ตผ฽านดาวเทยี ม WiMAX และ 3G 1. ระบบ ISDN ISDN (integrated service digital network) เป็นการเช่อื มต฽อสายโทรศัพท์ระบบใหม฽ท่ีรับส฽งสัญญาณเป็นดิจิทัลทั้งหมด อุปกรณ์และชุมสายโทรศัพท์จะเป็นอุปกรณ์ท่ีสนับสนุนระบบของISDN โดยเฉพาะ ไม฽ว฽าจะเป็นเครื่องโทรศัพท์และโมเด็มสําหรบั ISDN 1.1 การให฾บรกิ าร ISDN แบ฽งเป็น 2 แบบคือ 1.1.1 BAI (basic access interface) หรือ BRI (basic rate interface) เป็นบริการคู฽สาย ISDN สําหรับบ฾านหรือองค์กรขนาดเล็ก 1 ค฽ูสายสามารถรองรับได฾ถึง 8 อุปกรณ์แต฽สามารถใช฾พร฾อมกนั ได฾เพียง 2 อปุ กรณ์ มกี ารแบ฽งการรับส฽ง ข฾อมูลออกเป็น 64 Kbps ดังนั้นถ฾าใช฾โทรศัพท์ ISDNต฽ออินเทอร์เน็ตจะได฾ความเร็วถึง 128 Kbps เมื่อใช฾พร฾อมกันทงั้ 2 ช฽องสัญญาณ 1.1.2 PRI (primary rate interface) เป็นการให฾บริการค฽ูสาย ISDN สําหรับองค์กรขนาดใหญ฽ แบ฽งการรับส฽ง ข฾อมูลออกเป็น 30 ช฽องสัญญาณ ความเร็วในช฽องละ 64 Kbps ถ฾าใช฾พร฾อมกนั หมดจะได฾ความเร็วในการรับสง฽ ข฾อมูล 2.048 Mbps 1.2 อปุ กรณ์ท่ีใช฾ในการตอ฽ อินเทอรเ์ น็ตด฾วยระบบโทรศัพท์ ISDN 1.2.1 network terminal (NT) เปน็ อปุ กรณท์ ี่ใช฾ตอ฽ จากชุมสาย ISDN เข฾ากับอุปกรณ์ดจิ ิทลั ของ ISDN โดยเฉพาะ เชน฽ เคร่ืองโทรศัพทด์ ิจทิ ัล เครื่องแฟกซ์ดจิ ทิ ัล 1.2.2 terminal adapter (TA) เป็นอุปกรณ์แปลงสัญญาณเพ่ือใช฾ต฽อ NT เข฾ากับอุปกรณ์ทใี่ ชก฾ ับโทรศัพทบ์ ฾านระบบเดมิ และทําหน฾าท่ีเปน็ ISDN modem ที่ความเรว็ 64-128 Kbps 1.2.3 ISDN card เป็นการ์ดทีต่ อ฾ งเสียบในแผงวงจรหลกั ในคอมพิวเตอร์เพ่ือต฽อกับ NTโดยตรง ในกรณที ีไ่ มใ฽ ช฾ terminal adapter 2. ระบบโทรศพั ท์ ADSL ADSL (asymmetric digital subscriber loop) เป็นการเช่ือมต฽ออินเทอร์เน็ตผ฽านสายโทรศัพท์แบบเดิม แต฽ใช฾การส฽งด฾วยความถี่สูงกว฽าระบบโทรศัพท์แบบเดิม ชุมสายโทรศัพท์ท่ี

81ให฾บริการหมายเลข ADSL จะมีการติดต้ังอุปกรณ์ คือ DSLAM (dsl access module) เพื่อทําการแยกสัญญาณความถ่ีสูงออกจากระบบโทรศัพท์เดิม และลัดเข฾าเชื่อมต฽อกับอินเทอร์เน็ตโดยตรง ส฽วนผใ฾ู ช฾บรกิ ารอนิ เทอรเ์ น็ตจะต฾องมี ADSL modem ท่ีเช่ือมต฽อกับคอมพิวเตอร์ ความเร็วในการเช่ือมต฽ออนิ เทอรเ์ น็ตผ฽าน ADSL จะมีความเรว็ ท่ี 128/128 Kbps 256/256 Kbps และ512/512 Kbps อุปกรณ์ที่ใช฾ในการเช่อื มต฽ออินเทอรเ์ น็ตแบบ ADSL ประกอบด฾วย 2.1 ADSL modem ทําหน฾าท่ีในการแปลงสัญญาณ ซ่ึงมีทั้งแบบท่ีต฽อกับสาย LAN หรือสายท่ีต฽อกับพอรต์ USB สว฽ นคอมพิวเตอร์ตอ฾ งใช฾โพรโทคอล PPPoE (PPP over Ethernet) 2.2 splitter ทําหน฾าที่แยกสัญญาณความถี่สูงของ ADSL จากสัญญาณโทรศัพท์แบบธรรมดา โดยใช฾อุปกรณ์น้ีทําหน฾าที่ย฽านความถ่ีตํ่าให฾กับโทรศัพท์บ฾านและแยกความถี่สูงๆ ให฾กับโมเด็ม ADSL ภาพท่ี 4.10 การใหบ฾ รกิ าร ADSL 3. เคเบิลโมเด็ม อินเทอร์เน็ตผ฽านเคเบิลโมเด็ม (cable modem) เป็นการเชื่อมต฽ออินเทอร์เน็ตด฾วยความเร็วสูงโดยไม฽ใช฾สายโทรศัพท์ แต฽อาศัยเครือข฽ายของผู฾ให฾บริการเคเบิลทีวี ความเร็วของการใช฾เคเบิลโมเด็มในการเช่ือมต฽ออินเทอร์เน็ตจะทําให฾ความเร็วสูงถึง 2/10 Mbps (มีความเร็วในการอปั โหลดท่ี 2 Mbps และความเร็วในการดาวน์โหลดที่ 10 Mbps) องค์ประกอบของการเช่ือมตอ฽ อินเทอรเ์ น็ตด฾วยเคเบิลโมเด็ม ต฾องมีการเดินสายเคเบิลจากผ฾ูให฾บริการเคเบิล มาถึงบ฾าน ซ่ึงเป็นสายโคแอกเชียล (coaxial) ตัวแยกสัญญาณ (splitter) และcable modem ทาํ หน฾าท่ีแปลงสญั ญาณ

82 ภาพท่ี 4.11 การทํางานของเคเบิลโมเดม็ 4. อินเทอร์เน็ตผา่ นดาวเทยี ม อินเทอร์เน็ตผ฽านดาวเทียม (satellite internet) เป็นบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงโดยใชด฾ าวเทยี ม มใี ห฾บริการ 2 แบบ คือ 4.1 one way คอื การสง฽ ข฾อมูลผา฽ นดาวเทียมแบบทางเดียว (downstream) มีความเร็วประมาณ 8 Mbps ซึ่งเรว็ กว฽าการเชื่อมต฽อแบบเดมิ 5-8 เทา฽ แต฽การเรียกดูข฾อมูลจากอินเทอร์เน็ตต฾องอาศยั การหมุนโทรศัพท์ผ฽านโมเด็มเพ่ือเรียกไปยังผ฾ูให฾บริการอินเทอร์เน็ตแบบธรรมดา เพ่ือแจ฾งข฾อมูลที่ต฾องการก฽อนทําการส฽งข฾อมูลมายังจานรับสัญญาณได฾ถูกต฾อง เช฽น iPTV ของ บริษัท cs loxinfo ที่เรียกว฽าระบบ turbo internet โดยผา฽ นการรบั สัญญาณจากดาวเทยี มไทยคม 4.2 two way คือการส฽งข฾อมูลท้ังแบบ downstream และ upstream ผ฽านดาวเทียมท้งั หมด โดยจานรับสัญญาณจะเป็นช฽องทางส฽งข฾อมูลขึ้นและรับสัญญาณได฾ตามปกติ แต฽มีข฾อจํากัดคือราคาอุปกรณแ์ ละค฽าบรกิ ารมีราคาสูง เหมาะสาํ หรบั ผใ฾ู ช฾ทอ่ี ยู฽ในบริเวณพน้ื ที่สายโทรศัพท์เข฾าไม฽ถึงหรือพื้นที่ห฽างไกลเป็นการให฾บริการแบบไม฽จํากัดพื้นที่ เช฽น ระบบ iPSTAR ของ บริษัท cs loxinfo โดยผ฽านการรับสัญญาณจากดาวเทียม iPSTAR 5. WiMAX WiMAX มาจากคําว฽า worldwide interoperability for microwave access คือเทคโนโลยีสาํ หรับบรอดแบนดไ์ ร฾สาย ถ฾าต฾องการใช฾งานต฾องทําการเช่ือมต฽อกับสายเคเบิล โดยใช฾ T1,DSL หรือโมเด็มเคเบิล WiMAX เป็นมาตรฐานที่มีวิวัฒนาการสําหรับการสร฾างเครือข฽ายไร฾สายแบบหน่ึงจุดเช่ือมต฽อไปยังอีกหลายจุด (P2MP) และทํางานได฾ในระยะทางไกล นอกจากการเชื่อมต฽อบรอดแบนด์ได฾ในรัศมีทางไกล WiMAX ยังมีแอปพลิเคชันท่ีหลากหลาย มีช฽องส่ือสารภาคพื้นดินไร฾สาย และสามารถเชื่อมต฽อด฾วยความเร็วสูงอย฽างที่องค์กรธุรกิจต฽างๆ ต฾องการ เม่ือมีการนํา WiMAX

83มาใช฾สถานผี ูใ฾ หบ฾ ริการจะสามารถแผข฽ ยายการเชื่อมต฽ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูงไปยังบ฾านและธุรกิจในรัศมีถึง 50 กิโลเมตร ทําให฾บริเวณดังกล฽าวกลายเป็น WIMAN และเป็นเครือข฽ายการสื่อสารไร฾สายอยา฽ งแท฾จริง 6. ระบบ 3 G 3G (3rd generation) หรือยุคที่ 3 ของเครือข฽ายโทรศัพท์เคล่ือนท่ี เปรียบเสมือนอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงบนโทรศัพท์เคลื่อนท่ี เป็น มาตรฐานการสื่อสารของโทรศัพท์ไร฾สาย ที่กําหนดโดย International Telecommunication Union ได฾ระบุถึงบริการในการรับส฽งข฾อมูลที่หลากหลาย มีความเร็วในการรับส฽งข฾อมูลของระบบ 3G ในการ download อยู฽ท่ีระดับความเร็ว14.0 Mbit/s (1.75 MB/s) และการ upload อยู฽ท่ีระดับความเร็ว 5.8 Mbit/s (0.725 MB/s) (รอฮีมปรามาสม, 2554, หน฾า 47) นอกเหนือไปจากการใช฾งานโทรศัพท์เคลื่อนที่เพ่ือการสนทนา หรือส฽งข฾อความแล฾ว การติดต฽อทางอินเทอร์เน็ต ผ฽านเครือข฽ายสังคม (social network) บริการ VDOconference และใช฾งานบริการต฽างๆ ที่ปกติเคยมีแต฽บนคอมพิวเตอร์ เช฽น อีเมลและการสนทนาออนไลน์ (chat) กลายเปน็ การใช฾งานหลักบนโทรศัพทเ์ คลื่อนทใี่ นปัจจุบันการป้องกันภยั จากอินเทอร์เน็ต การปูองกันภัยจากอินเทอร์เน็ต เป็นการปูองกันการบุกรุก การโจมตีทําลายข฾อมูลโดยอาศัยเทคโนโลยีและกระบวนปกปูองการทํางานในด฾านต฽างๆ ผ฾ูใช฾บริการต฾องร฾ูจักภัยจากอินเทอร์เนต็ และเรียนรูว฾ ธิ กี ารปอู งกนั ภยั ใหเ฾ หมาะสม 1. ภัยจากอินเทอร์เน็ต ภัยจากอินเทอร์เน็ตท่ีพบในปัจจุบัน นอกจากไวรัสคอมพิวเตอร์แล฾ว ยังมีโปรแกรมอันตรายประเภทอ่ืนๆ เช฽น สปายแวร์ (spyware) แอดแวร์ (adware) และสแปมเมล์ (spam mail)ซ่ึงสามารถแบ฽งตามลักษณะการทํางานได฾ดังนี้ (กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร,2551, หน฾า 25 ; กองบรรณาธิการ, 2553, หน฾า 464-465) 1.1 ไวรัสและโปรแกรมอันตราย 1.1.1 boot sector/master boot record ไวรัสประเภทน้ีจะฝังตัวไว฾ท่ีบูตเซกเตอรข์ องฮารด์ ดสิ ก์ หรือ เรียกว฽า master boot record (MBR) ทุกๆครั้งที่บูตเครื่องข้ึนมา เม่ือมีการเรียกระบบปฏิบตั ิการ โปรแกรมไวรสั จะทํางานก฽อนและเข฾าไปฝังตัวอยู฽ในไฟลโ์ ปรแกรม 1.1.2 ไวรัสท่ีติดไฟล์โปรแกรม จะฝังตัวอย฽ูในไฟล์โปรแกรม ซ่ึงปกติจะเป็นไฟล์ที่มีนามสกุลเป็น .com หรือ .exe และไวรัสบางตัวสามารถเข฾าไปอยู฽ในโปรแกรมท่ีมีนามสกุลเป็น .sysไดด฾ ว฾ ย จะทาํ งานเมอ่ื โปรแกรมถกู เรยี กใชพ฾ ร฾อมฝงั ตัวในไฟลโ์ ปรแกรมอ่ืนๆ เพอื่ ระบาดตอ฽ ไป 1.1.3 macro viruses จะติดกับไฟล์เอกสารซึ่งใช฾เป็นต฾นแบบ ทุกๆเอกสารที่เปิดข้นึ ใชด฾ ว฾ ยต฾นแบบอนั นัน้ จะเกดิ ความเสยี หายขึน้ 1.1.4 trojan horse เป็นโปรแกรมท่ีถูกเขียนขึ้นมาให฾ทําตัวเหมือนว฽าเป็นโปรแกรมธรรมดา ทั่วๆไป เพอื่ หลอกล฽อผ฾ูใช฾ให฾ทําการเรียกข้ึนมาทํางาน แต฽เมื่อถูกเรียกขึ้นมาก็จะเร่ิมทําลายไฟล์และโปรแกรมทนั ที

84 1.1.5 worm หรือ ตวั หนอน ต฽างจากไวรัสชนิดอนื่ คอื สามารถแพร฽กระจายตัวเองได฾โดยไม฽ต฾องฝังตัวในโปรแกรมหรอื ไฟล์ใดๆ และมผี ลกระทบตอ฽ ระบบมากท่ีสดุ 1.1.6 exploit เป็นโปรแกรมที่ออกแบบมาให฾สามารถเจาะระบบ โดยอาศัยช฽องโหว฽ของระบบปฏิบัติการเพื่อให฾ไวรัสสามารถครอบครอง ควบคุม หรือกระทําการอย฽างหน่ึงอย฽างใดบนระบบได฾ 1.2 สปายแวรแ์ ละแอดแวร์ 1.2.1 สปายแวร์ (spyware) เป็นโปรแกรมดักข฾อมูลเมื่อผ฾ูใช฾ติดต้ัง โปรแกรมเหล฽าน้ีจะสรา฾ งความราํ คาญหรือขโมยข฾อมูลสําคัญ เช฽น รหัสผ฽าน หมายเลขบัตรเครดิต หรือขึ้นป็อปอัพ เพ่ิมทูลบารค์ ฾นหาบนหน฾าบราวเซอร์ ตลอดจนเปิดหน฾าเว็บที่ไม฽พึงประสงค์ข้ึนมาเอง หรือมีผลข฾างเคียงกับการทาํ งานของ โปรแกรมโดยคาดไม฽ถึง เช฽นไม฽สามารถใช฾คีย์ภาษาไทยในช฽องรับข฾อมูลของแบบฟอร์มบนเวบ็ ได฾ 1.2.2 แอดแวร์ (adware) เป็นโปรแกรมโฆษณาที่ถูกติดต้ังขึ้น เมื่อผ฾ูใช฾เข฾าไปเยี่ยมชมหรอื ดาว์นโหลดโปรแกรมฟรีต฽างๆ เชน฽ เกม วอลล์เปเปอร์ หรือคลิปวิดีโอจากเว็บไซต์ที่มีโฆษณานี้อย฽แู อดแวรจ์ ะกอ฽ กวนโดยแสดงปูายโฆษณาข้นึ มาบ฽อยๆ เพือ่ เชญิ ชวนให฾ซอ้ื สินคา฾ นอกจากไฟล์ท่ีเป็นปัญหาของสปายแวร์และแอดแวร์ยังรวมถึงไฟล์คุกกี้ (cookies)ท่ีเวบ็ ตา฽ งๆ สง่ั ใหโ฾ ปรแกรมบราวเซอร์เก็บไว฾ เป็นชอ฽ งทางให฾ผูอ฾ น่ื ตดิ ตามการท฽องเว็บของผู฾ใช฾บริการได฾ 1.3 สแปมเมล์ (spam mail) หรอื เมล์ขยะ (junk mail) เป็นการส฽งอีเมล์ไปยงั ผรู฾ บั โดยไม฽มีการรอ฾ งขอ โดยส฽งเป็นจาํ นวนมากนับแสนหรือล฾านฉบับมีวัตถปุ ระสงคใ์ นการสง฽ ท่ีหลากหลายต้ังแตก฽ ารโฆษณาสนิ ค฾า ลอ฽ ลวง โจมตรี ะบบ ข฾อมลู ประเภทน้ีจะรบกวนการทาํ งานของอินเทอรเ์ น็ตทาํ ให฾เสยี เวลาในการคัดแยกและลบท้ิง กินเนื้อทีใ่ นเมลบ์ อ็ กซ์ และเพิ่มปรมิ าณข฾อมลู ท่ีไร฾ประโยชน์ 2. วิธกี ารป้องกันภัยจากอนิ เทอรเ์ นต็ วิธีการปอู งกนั ภยั จากอนิ เทอร์เนต็ อาจทาํ ไดโ฾ ดยการตดิ ตั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์รักษาความปลอดภัย การประยกุ ตใ์ ชว฾ ิธกี ารปูองกันให฾เหมาะสมมหี ลายวธิ ีดงั นี้ (พนิดา พานิชกุล,2553, หน฾า 67-69) 2.1 การประเมินความเส่ียง คือ การพิจารณาถึงภัยคุกคามประเภทต฽างๆ ท่ีอาจเกิดขึ้นกับระบบคอมพิวเตอร์และระบบเครือข฽ายขององค์กร เพ่ือหากทางปูองกันได฾อย฽างถูกต฾อง และเหมาะสมกบั เวลาและตน฾ ทนุ ทตี่ อ฾ งนํามาจัดการ 2.2 นโยบายความม่ันคงปลอดภัย กําหนดข฾อบังคับตามความต฾องการด฾านความมั่นคงปลอดภัยและการควบคุมขององค์กร พร฾อมท้ังกําหนดบทลงโทษสําหรับผ฾ูละเมิดนโยบาย เช฽น เพ่ือความปลอดภัยของขอ฾ มูล องคก์ รจาํ เปน็ ต฾องบลอ็ กอีเมลท์ ่ีแนบไฟล์ .exe 2.3 การให฾ความรู฾ด฾านความมั่นคงปลอดภัย เป็นการให฾ความร฾ู เช฽น การฝึกอบรมด฾านความมน่ั คงปลอดภยั เพอ่ื สรา฾ งความตระหนกั แกผ฽ ูใ฾ ช฾บริการ 2.4 การปอู งกัน ทําได฾โดยการติดตั้ง firewall ที่ทําหน฾าท่ีตรวจสอบข฾อมูลที่ผ฽านเข฾าออกระหว฽างระบบเครือข฽าย ติดต้ัง antivirus software เพื่อปูองกันการโจมตีจากสปายแวร์ มีการซ฽อมแซมซอฟต์แวร์และเครอื ข฽ายอยเ฽ู สมอ ตรวจสอบการสํารองข฾อมูลอย฽างสมํ่าเสมอและจัดให฾มีการตรวจสอบความมัน่ คงปลอดภัยเป็นระยะ

85 2.5 ระบบการตรวจจับการบุกรุก (intrusion detection system : IDS) คือระบบซอฟต์แวร์ท่ีติดตามการจราจรและพฤติกรรมท่ีน฽าสงสัยในเครือข฽าย จะทําการแจ฾งเตือนไปยังผ฾ูดูแลระบบทันทีท่ีพบการบุกรุก ในบางกรณีระบบ IDS จะมีการตอบสนองการจราจรท่ีไม฽พึงประสงค์ เช฽นสกัดกัน้ การจลาจรดังกล฽าวไม฽ใหเ฾ ขา฾ ถงึ ผู฾ใช฾หรอื หมายเลข IP ทแ่ี ท฾จริงได฾ 2.6 honey pot คือ ระบบหลุมพรางที่ออกแบบมาให฾เป็นเหย่ือล฽อผู฾โจมตี ให฾หันมาโจมตีเครื่อง honey pot แทนที่จะโจมตรี ะบบสําคัญขององคก์ ร เปน็ ระบบท่ีช฽วยรักษาความปลอดภัยท่ีสามารถตั้งค฽าของระบบ เช฽น อาจใช฾เพ่ือการปูองกันหรือตรวจจับการบุกรุกหรือเพื่อรวบรวมข฾อมูลการบุกรุก 3. การปูองกันสปายแวร์ ด฾วยโปรแกรม windows defender ท่ีช฽วยรักษาความปลอดภัยทางอินเทอรเ์ นต็ ใชต฾ รวจสอบและกาํ จดั สปายแวร์ การทํางานของโปรแกรมมหี น฾าที่ ดังน้ี 3.1 spyware protection ช฽วยปูองกันข฾อมูลและคอมพิวเตอร์โดยมีหลักในการทํางาน คือ ค฾นหาหรือสแกน กําจัดโปรแกรมจําพวกสปายแวร์ และปูองกันกับ real-time โดยเฝูาระวังสิ่งแปลกปลอมทพี่ ยายามบกุ รกุ เข฾ามาในเครื่องคอมพวิ เตอร์ 3.2 scanning and removing spyware ในระหว฽างการสแกนโปรแกรมจะตั้งค฽าอันตรายให฾กับส่ิงที่ตรวจพบโดยอัตโนมัติว฽าควรอย฽ูในระดับใด เช฽น high ต฾องลบท้ิงทันที mediumปานกลาง หรอื low ไมค฽ อ฽ ยมอี นั ตรายสรปุ อินเทอร์เน็ตเป็นเครือข฽ายท่ีเชื่อมโยงเครื่องคอมพิวเตอร์ทุกเคร่ืองท่ัวโลกให฾สามารถติดต฽อสื่อสารถึงกันได฾ โดยใช฾โพรโทคอล TCP/IP ที่เป็นมาตรฐานเดียวกันในการรับส฽งข฾อมูล ไม฽ว฽าจะเป็นการเชื่อมต฽อผ฽านสายโทรศัพท์ หรือการเชื่อมต฽อแบบไร฾สาย คอมพิวเตอร์ทุกเคร่ืองท่ีอย฽ูในเครือข฽ายอินเทอร์เน็ตต฾องมีหมายเลขไอพีแอดเดรสท่ีไม฽ซ้ํากัน สามารถบ฽งบอกถึงรหัสเครือข฽ายของเคร่ืองคอมพิวเตอร์ให฾สามารถเชื่อมโยงถึงกันได฾ในระบบเครือข฽าย ท่ีต฾องการความรวดเร็วมีการใช฾บรกิ ารอินเทอร์เน็ตความเร็วสงู หรือเรยี กวา฽ การรบั ส฽งข฾อมูลแบบบรอดแบรน์ท่ีมีบทบาทสําคัญต฽อการรับส฽งข฾อมูลข฽าวสาร การดําเนินงานในด฾านต฽างๆ โดยเฉพาะกิจกรรมในชีวิตประจําวันที่ต฾องมีส฽วนเก่ยี วขอ฾ งกบั อนิ เทอร์เน็ตมากขึ้นอย฽างหลีกเลย่ี งไมไ฽ ด฾ ในหลายประเทศรวมท้ังประเทศไทยได฾พยายามส฽งเสริมให฾ประชาชนเรียนร฾ูและใช฾งานอินเทอร์เน็ตมากขึ้น เนื่องจากอินเทอร์เน็ตเป็นช฽องทางท่ีช฽วยเพิ่มโอกาสในการเรยี นร฾ู และเป็นการเปิดหน฾าตา฽ งไปส฽คู วามร฾ูรวมทั้งวิทยาการใหม฽ๆ จากทั่วทุกมุมโลกดังน้ันอินเทอร์เน็ตจึงเป็นเรื่องสําคัญที่ควรศึกษาเรียนรู฾ เพื่อให฾สามารถใช฾งานและปูองกันภัยจากอินเทอร์เนต็ ได฾อย฽างถูกต฾องและเปน็ ประโยชน์อย฽างแท฾จรงิ

86 คาถามทบทวน 1. จงอธิบายความหมายและความสําคญั ของอนิ เทอร์เน็ต 2. จงอธบิ ายวิวัฒนาการของอินเทอรเ์ นต็ พร฾อมยกตัวอย฽างการใหบ฾ รกิ ารในแตล฽ ะยคุ 3. จงอธบิ ายหลกั การทาํ งานพ้นื ฐานของโพรโทคอล TCP/IP 4. จงอธบิ ายความแตกตา฽ งระหว฽าง IPv6 และ IPv4 5. จงยกตวั อยา฽ งผู฾ใหบ฾ ริการ ISP (internet service provider) 1 ราย พร฾อมอธบิ ายเหตุผลในการเลอื ก 6. การเช่ือมต฽อคอมพิวเตอร์แบบมีสายมกี ่ีประเภท แต฽ละประเภทมีข฾อแตกต฽างกนั อย฽างไร 7. จงอธิบายองค์ประกอบและขอ฾ ดีของการเชื่อมต฽ออนิ เทอรเ์ น็ตผ฽านระบบโทรศัพท์ ADSL 8. จงยกตวั อยา฽ งบริการอินเทอรเ์ น็ตความเร็วสงู ที่นักศึกษาเลอื กใช฾บรกิ าร พรอ฾ มอธบิ ายเหตุผล 9. จงเปรียบเทยี บข฾อดแี ละขอ฾ จาํ กดั ของโปรแกรมเว็บบราวเซอร์ทน่ี ักศกึ ษาเคยใชง฾ านอยา฽ งน฾อย 3 โปรแกรม 10. ให฾นกั ศกึ ษายกตัวอยา฽ งภัยจากอนิ เทอร์เนต็ ทเ่ี คยพบและมีวธิ ีการปูองกันอยา฽ งไร

บทท่ี 5 เครือขา่ ยสังคมออนไลน์ อาจารยท์ พิ วัลย์ ขันธมะ ในยุคท่ีการใช฾เทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงอย฽างรวดเร็ว วิวัฒนาการการส่ือสารได฾เปลี่ยนแปลงไปตามรูปแบบของการใช฾เทคโนโลยี สมัยก฽อนเริ่มจากการใช฾โทรเลข โทรศัพท์พื้นฐานโทรศัพท์เคล่ือนที่ คอมพิวเตอร์ จนมาถึงช฽องทางการส่ือสารผ฽านอินเทอร์เน็ต การนําส่ือเทคโนโลยีสมัยใหม฽ท่ีเรียกว฽า เครือข฽ายอินเทอร์เน็ต มาประยุกต์ใช฾ให฾ตรงกับความต฾องการของมนุษย์เริ่มมีบทบาทและมีอิทธิพลสัมพันธ์กับชีวิตประจําวันของมนุษย์ในปัจจุบัน ไม฽ว฽าจะเป็นการใช฾ Facebook,Twitter, Wikipedia, YouTube และ Blog เป็นต฾น ล฾วนแต฽เป็นเว็บเครือข฽ายสังคมออนไลน์ท่ีผ฾ูใช฾ให฾ความสนใจและใช฾เพ่ือเป็นจุดศูนย์รวมของการแสดงความเป็นตัวตน หรือความชอบในเรื่องใดเรื่องหน่ึงก็ตาม จะเห็นว฽าการสื่อสารและการเข฾าถึงข฾อมูลนั้นทําได฾รวดเร็วและทันเหตุการณ์สืบเน่ืองจากการใช฾เว็บท่ีเป็นเครือข฽ายสังคมออนไลน์ในบริบทต฽างๆ ท้ังด฾านส่ือสารมวลชน การศึกษา การเมืองการตลาด บนั เทงิ ศาสนาและศลิ ปะวฒั นธรรม เป็นต฾น ลว฾ นแตม฽ ีการส฽งสารและเผยแพร฽ข฾อมูลผ฽านส่ือที่เรียกว฽าเครือข฽ายสังคมออนไลน์ โดยอาศัยอุปกรณ์ที่ช฽วยในการเข฾าถึงอย฽างโทรศัพท์เคลื่อนที่คอมพิวเตอร์แบบต฽างๆ เพ่ือช฽วยอํานวยความสะดวกรวดเร็ว และง฽ายต฽อการใช฾เครือข฽ายสังคมออนไลน์ ดังน้ันเครือข฽ายสังคมออนไลน์จึงเป็นช฽องทางการส่ือสารท่ีเติบโตขึ้นควบคู฽ไปกับความก฾าวหน฾าทางเทคโนโลยีเครือข฽ายและการสื่อสาร เพ่ือให฾บริการผ฽านเว็บไซต์ที่เป็นจุดเช่ือมโยงระหว฽างบุคคลที่มีเครือข฽ายสังคมออนไลน์ของตนเองผ฽านเครือข฽าย รวมทั้งเชื่อมโยงบริการต฽างๆ ให฾ตรงกบั ความต฾องการของผู฾ใช฾แนวคดิ เกย่ี วกับเครอื ข่ายสังคมออนไลน์ 1. ความหมายของเครือขา่ ยสังคมออนไลน์ เครือข฽ายสังคมออนไลน์ (Social Network) ได฾มีนักวิชาการหลายท฽านให฾ความหมายไว฾ดังน้ี ณัฐพร มักอุดมลาภ (2554) ให฾ความหมาย Social Network หรือสังคมออนไลน์คือรูปแบบของสังคมบนโลกอินเทอร์เน็ต ท่ีผู฾เล฽นอินเทอร์เน็ตจะแบ฽งปันความสนใจ หรือเรื่องราวต฽างๆเข฾าด฾วยกัน และเช่ือมโยงไปในทิศทางเดียวกัน โดยส฽วนใหญ฽จะใช฾เว็บไซต์เป็นช฽องทางในการติดต฽อส่ือสาร ซ่งึ มที งั้ การสง฽ อเี มลหรือข฾อความหากัน ราชบัณฑิตยสถาน (2554) ได฾บญั ญัติคําว฽า “Social Network” ใช฾คําไทยว฽า “เครือข฽ายสังคมออนไลน์” หมายถึงกลุ฽มบุคคลผู฾ติดต฽อสื่อสารกันโดยผ฽านสื่อสังคม ซึ่งนอกจากจะส฽งข฽าวสารข฾อมลู แลกเปล่ยี นกันแลว฾ ยงั อาจจะรว฽ มกนั ทํากิจกรรมทสี่ นใจดว฾ ยกนั

88 วิลาส ฉํ่าเลิศวัฒน์ (2554) กล฽าวว฽า “Social Network” คือ สังคมออนไลน์ หรือกลุ฽มของผู฾คนที่แชร์ส่ิงที่สนใจร฽วมกันโดยใช฾เคร่ืองมือท่ีเรียกว฽า Social Network Site หรือ SocialNetwork Service (SNS) เชน฽ Hi5, MySpace, Facebook และ Twitter เปน็ ต฾น วิกิพีเดียสารานุกรมไทย (2555) ให฾ความหมาย บริการเครือข฽ายสังคมออนไลน์ (socialnetwork service) เป็นรูปแบบของเว็บไซต์ในการสร฾างเครือข฽ายสังคมออนไลน์ สําหรับผ฾ูใช฾งานในอินเทอร์เน็ต เขียนและอธบิ ายความสนใจและกิจการทไ่ี ดท฾ าํ และเช่ือมโยงกับความสนใจและกิจกรรมของผ฾ูอื่น ในบริการเครือข฽ายสังคมออนไลน์จะประกอบไปด฾วย การแชต ส฽งข฾อความ ส฽งอีเมลวดิ โี อ เพลง อปั โหลดรูป บลอ็ ก รูปแบบการทํางานคอื คอมพิวเตอรเ์ กบ็ ขอ฾ มูลพวกน้ไี ว฾ในรูปฐานข฾อมูลSQL สว฽ นวิดโี อ หรอื รูปภาพ อาจเก็บเป็นไฟลก์ ไ็ ด฾ กล฽าวได฾ว฽า เครือข่ายสังคมออนไลน์ หมายถึง สังคมออนไลน์ที่มีการเช่ือมโยงกันเพ่ือสร฾างเครือข฽ายในการตอบสนองความต฾องการทางสังคมท่ีม฽ุงเน฾นในการสร฾างและสะท฾อนให฾เห็นถึงเครือข฽าย หรือความสัมพันธ์ทางสังคม ในกลุ฽มคนที่มีความสนใจหรือมีกิจกรรมร฽วมกัน บริการเครือข฽ายสังคมออนไลน์จะให฾บริการผ฽านหน฾าเว็บ และให฾มีการตอบโต฾กันระหว฽างผู฾ใช฾งานผ฽านอนิ เทอร์เนต็ องคป์ ระกอบของเครอื ข฽ายสังคมออนไลน์ (ธนพฤกษ์ ชามะรัตน์, 2551) มีดงั น้ี 1.1 การมีสมาชกิ ของเครอื ข฽าย 1.2 การมีจดุ มุง฽ หมายรว฽ มกัน 1.3 การปฏบิ ัตหิ นา฾ ทข่ี องสมาชกิ ในเครือขา฽ ย 1.4 การสอ่ื สารภายในเครือขา฽ ย 1.5 การมปี ฏสิ ัมพันธ์เชิงแลกเปลีย่ น 1.6 การให฾บริการสมาชิกเครือข฽ายสังคมออนไลน์ในรูปแบบต฽างๆ 2. ความเป็นมาของเครอื ขา่ ยสงั คมออนไลน์ การเกิดขึ้นและเติบโตของเครือข฽ายสังคมออนไลน์นี้มาจากการพัฒนาทางเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตจากเว็บ 1.0 (เว็บเน้ือหา) มาสู฽เว็บ 2.0 (เว็บเชิงสังคม) ซึ่งจุดเด฽นของเว็บ 2.0 คือ การท่ีผใ฾ู ช฾สามารถสรา฾ งเนื้อหาบนอินเทอรเ์ น็ตได฾เอง โดยไม฽จาํ กดั ว฽าจะต฾องเปน็ ทมี งานหรือผดู฾ ูแลเว็บไซต์ ซ่ึงเรียกว฽า User Generate Content ข฾อดีของการที่ผ฾ูใช฾เข฾ามาสร฾างเน้ือหาได฾เอง ทําให฾มีการผลิตเนื้อหาเข฾ามาเป็นจํานวนมาก และมีความหลากหลายของมุมมองความคิด เพราะจากเดิมผ฾ูดูแลจะเป็นคนคิดและหาเนื้อหามาลงแต฽เพียงกล฽ุมเดียว นอกจากนี้ผู฾ใช฾ยังเป็นผ฾ูกําหนดคุณภาพของเนื้อหาโดยการให฾คะแนนว฽าเน้ือหาใดที่ควรอ฽านหรือเข฾าไปเรียนรู฾ได฾เอง โดยเว็บ 2.0 จะเน฾นที่ชุมชนให฾ผ฾ูใช฾ได฾อ฽านและเขียน สามารถแบ฽งปันเน้ือหากันได฾ (วิลาส ฉ่ําเลิศวัฒน์, 2554 และ เศรษฐพงศ์มะลิสุวรรณ, 2553) เว็บ 2.0 ยุคแห฽งการสื่อสารสองทาง จึงเป็นส่ือหลักที่นํามาซึ่งความเปลี่ยนแปลงจนเกิดการปฏิวัติรูปแบบเทคโนโลยีส฽ูเว็บเซอร์วิสหลายอย฽าง จากไอซีคิวและเพิร์ชในยุคเริ่มแรก ตามมาด฾วยเอ็มเอสเอ็น ไฮไฟฟ฼ มายสเปซ มัลติพายจนมาถึงเฟซบ฿ุก ตามการพัฒนาของเว็บ 2.0 การสื่อสารแบบสองทางจึงเป็นที่มาให฾เกิดการพัฒนาเครือข฽ายสังคมออนไลน์ เพ่ือเป็นช฽องทางในการเข฾าถึงตามความต฾องการของผู฾ใช฾ที่มีร฽วมกัน จะเห็นได฾จากปรากฏการณ์ของเครือข฽ายสังคมออนไลน์เกิด

89ขนึ้ มาจากดิจิทัลแพลตฟอร์ม (Digital Platform) ของอินเทอร์เน็ต ซึ่งแสดงให฾เห็นว฽าผู฾ใช฾มีพฤติกรรมการใชง฾ าน ดังนี้ (กองบรรณาธกิ าร, 2554) 2.1 การติดตอ฽ สอ่ื สาร (Connecting) รูปแบบการติดต฽อส่ือสารทีเ่ ปลย่ี นไป 2.2 การแสดงตัวตน (Self Expression) การแสดงตวั ตนในสังคมออนไลน์ 2.3 การหาความรู฾ (Knowledge) การสืบคน฾ หาขอ฾ มลู ความรู฾ต฽างๆ 2.4 ความบันเทิง (Entertainment) การเปดิ รบั ความบันเทิงผ฽านดิจิทัล 2.5 รูปภาพ (Photo) การแบง฽ ปนั รปู ภาพให฾เพ่ือนดู ความสําเร็จของเครือข฽ายสังคมออนไลน์ได฾พัฒนาเรื่อยมาจากต฽างประเทศจนเร่ิมเข฾าส฽ูในประเทศไทยตามยุคสมัยของเว็บผู฾ให฾บริการเครือข฽ายสังคม ตามความนิยม และรูปแบบในการใช฾งานกล฽าวคือ เครือข฽ายสังคมออนไลน์มีพัฒนาการควบคู฽มาพร฾อมกับเทคโนโลยีการส่ือสารต้ังแต฽ช฽วงเว็บ2.0 ท่ีเป็นรูปแบบการสื่อสารแบบสองทางนั่นเอง จะเห็นได฾ว฽ามนุษย์เป็นสัตว์สังคมจึงต฾องการสร฾างปฏิสัมพนั ธ์และมกี ารแลกเปลี่ยนแบง฽ ปันขอ฾ มูลในเรอ่ื งทส่ี นใจซ่ึงกนั และกันตารางที่ 5.1 พฒั นาการสําคัญของเครอื ข฽ายสงั คมออนไลน์ ปี พฒั นาการสาคัญของเครอื ข่ายสังคมออนไลน์พ.ศ. 2514พ.ศ. 2521 อีเมลฉบบั แรกของโลกถูกส฽งจากคอมพิวเตอร์หนึ่งไปอีกเคร่ืองหนึ่งที่อยู฽ถัดไปทางด฾านขวา พร฾อมขอ฾ ความ “QWERTYUIOP”พ.ศ. 2537พ.ศ. 2538 เกิดระบบกระดานข฽าว (Bulletin Board System-BBS) ขึ้นเป็นคร้ังแรก โดยมีพ.ศ. 2539 จุดประสงค์เพื่อแลกเปล่ียนข฽าวสาร และแฟูมขอ฾ มูลระหวา฽ งสมาชกิ ดว฾ ยกนั ในประเทศไทยพ.ศ. 2540 เรียก BBS ว฽า เว็บบอร์ดพ.ศ. 2542 Geocities (Geocities.com) เปน็ เวบ็ เครือข฽ายสังคมออนไลนแ์ รกๆ ของโลกถือกําเนิดข้ึน โดยผใ฾ู ช฾สามารถสร฾างเว็บของตวั เองบนพ้นื ท่ีของ Geocities เกิด theGlobe.com เว็บเครือข฽ายสังคมออนไลน์ท่ีสร฾างโดยนักเรียนจากคอร์เนล ซ่ึงให฾ ผูใ฾ ชส฾ ามารถจดั การขอ฾ มูลส฽วนบคุ คลของตนเองได฾ เกิด ICQ โปรแกรมสนทนา เปดิ ตวั AOL Instant Messenger โปรแกรมสง฽ ข฾อความเหมือน MSN และยงั คงได฾รบั ความนิยมมาถงึ ในปัจจุบัน เปิดตัว Sixdegrees.com พร฾อมท้ังให฾ผ฾ูใชส฾ ามารถสร฾างและปรบั แต฽งโปรไฟลแ์ ละรายช่ือ เพ่อื นได฾ เปดิ ตัว LiveJournal (livejournal.com) บล็อกทมี่ ผี ม฾ู นี ยิ มใช฾ เปิดตวั เครือข฽ายสังคมออนไลน์ทีจ่ ับกล฽มุ เชื้อสายเอเชยี -อเมริกันอยา฽ ง AsianAve หรอื Asian Avenue (asianave.com) เปิดตัว BlackPlanet (blackplanet.com) เปน็ ชมุ ชนทจี่ บั กล฽ุมคนผิวสี เปิดตัว epinions.com เพ่ือให฾ผู฾ใชส฾ ามารถควบคมุ เน้ือหาและติดตอ฽ ถงึ กันได฾ เปิดตัว QQ Instant Messenger จากประเทศจนี เป็นคร้ังแรก

90 ปี พฒั นาการสาคญั ของเครอื ข่ายสังคมออนไลน์พ.ศ. 2543 LunarStorm (lunarstorm.se) จากสวีเดนท่จี ับกลมุ฽ วยั รน฽ุ เป็นเปูาหมายลอนซ์เว็บพ.ศ. 2544 MiGente (migente.com) ของอเมริกาทีจ่ ับกล฽มุ คนสเปนและโปรตุเกสพ.ศ. 2545 ในชว฽ งปลายปี พ.ศ. 2543 คาบเกี่ยวปี พ.ศ. 2544 ตน฾ แบบ Social Network อยา฽ งพ.ศ. 2546 Sixdegrees ปดิ ตวั เอง ได฾ทิง้ แนวคิดเกีย่ วกบั Social Network ให฾ผู฾ตามอยา฽ ง Facebook, Friendster และ Linkedin เติบโตและทํารายได฾มาจนถึงทกุ วนั นี้พ.ศ. 2547พ.ศ. 2548 เปิดตวั Wikipedia เว็บสารานุกรมเนื้อหาเสรี เปิดตัว BitTorrentพ.ศ. 2549พ.ศ. 2551 ลอนซ์ Friendster (Friendster.com) เปน็ ต฾นตํารับเครอื ข฽ายสงั คมออนไลน์พ.ศ. 2553 Fotolog (fotolog.com) หน่งึ ในเว็บแชร์ภาพที่เก฽าแก฽และใหญ฽ท่ีสุดเปิดตวั ข้ึนพ.ศ. 2554 เปิดตัว Myspace (myspace.com) และนบั เปน็ เวบ็ ไซตท์ ่ีนาํ การตลาดมาจับอยา฽ งเต็มตัว ซึง่ ปัจจุบนั กย็ ังเปน็ เว็บที่มีผใ฾ู ชง฾ านอย฽ู เปิดเว็บศนู ยก์ ลางระหว฽างนักทอ฽ งเทย่ี วท่ตี อ฾ งการท่ีพกั กับผ฾ูท่ีพร฾อมใหท฾ ่ีพักอย฽าง CouchSurfing (couchsurfing.com) เปิดตวั tribe.net, Xing (xing.com), Linkedin (linkedin.com), classmates.com, jaiku (jaiku.com), last.fm, Hi5 (hi5.com), Second Life QQ ถกู ขายให฾กับ Tencent ผ฾ูใหบ฾ รกิ ารอนิ เทอรเ์ น็ตอันดบั หน่ึงของจนี เปิดตัว Pantip (pantip.com) เว็บของไทย เปิดตวั Mutiply (multiply.com), Flickr (flickr.com), Mixi (mixi.com), Digg (digg.com), World of Warcraf เปดิ ตวั Facebook เพื่อให฾นักศกึ ษาในมหาวทิ ยาลัยตดิ ต฽อกัน เรม่ิ ทมี่ หาวทิ ยาลยั ฮารว์ าร์ด เปิดตัวเวบ็ วดิ โี อแชริง่ อันดบั หนึ่งอย฽าง YouTube เปดิ ตวั Ning, Skype Facebook เรม่ิ ขยายเครอื ขา฽ ยสู฽เดก็ มธั ยมปลายหลงั ประสบความสําเร็จกบั กลุม฽ นักศกึ ษา มหาวทิ ยาลยั เปิดตัว Twitter Facebook ขยายส฽ูบุคคลทวั่ ไปอยา฽ งเตม็ รปู แบบ Microsoft จับกระแสเครือข฽ายสังคมออนไลน์ดว฾ ยการเปิดตัว Windows Live Spaces Facebook ตดิ อนั ดบั หน่ึงของเครอื ขา฽ ยสังคมออนไลน์ มีการสร฾างภาพยนตร์ The Social Network ท่ีเล฽าเร่ืองของ Facebook และได฾รับผล ตอบรับเป็นอย฽างดีจากผ฾ูชม ส฽งผลให฾เกิดความพยายามในการสร฾างหนังจากเร่ืองของ Google ตามมา Facebook มีผูใ฾ ชเ฾ พม่ิ ขึน้ ระดับ 800 ลา฾ นคนในปลายปี เปดิ ตวั Google+ เป็นครง้ั แรก ทม่ี า (กองบรรณาธิการ, 2544, หน฾า 41-44)

91ประเภทของเครอื ข่ายสังคมออนไลน์ เครือข฽ายสงั คมออนไลนท์ ่ีใหบ฾ รกิ ารตามเว็บไซต์สามารถแบง฽ ขอบเขตตามการใชง฾ านโดยดูท่ีวตั ถุประสงคห์ ลักของการเขา฾ ใช฾งาน และคุณลกั ษณะของเวบ็ ไซต์ที่มรี ว฽ มกัน กลา฽ วคือ วตั ถุประสงค์ของการเขา฾ ใชง฾ านมเี ปูาหมายในการใชง฾ านไปในทางเดยี วกันมีการแบ฽งประเภทของเครอื ข฽ายสงั คมออนไลน์ออกตามวัตถปุ ระสงคข์ องการเข฾าใช฾งาน ได฾ 7 ประเภท (ภเิ ษก ชยั นิรนั ดร์, 2553 และเศรษฐพงศ์ มะลิสวุ รรณ, 2553) ดงั น้ี 1. สร้างและประกาศตัวตน (Identity Network) เครอื ข฽ายสงั คมออนไลน์ประเภทนใ้ี ช฾สาํ หรับให฾ผเ฾ู ขา฾ ใช฾งานได฾มพี ืน้ ที่ในการสร฾างตวั ตนข้นึ มาบนเวบ็ ไซต์ และสามารถท่จี ะเผยแพร฽เรื่องราวของตนผ฽านทางอนิ เทอรเ์ น็ต โดยลักษณะของการเผยแพร฽อาจจะเปน็ รปู ภาพ วดิ ีโอ การเขียนข฾อความลงในบลอ็ ก อีกท้ังยงั เปน็ เว็บทีเ่ นน฾ การหาเพ่อื นใหม฽ หรือการค฾นหาเพอื่ นเก฽าทข่ี าดการติดตอ฽ การสรา฾ งประวัตขิ องตนเอง โดยการใส฽รูปภาพและกราฟิกท่ีแสดงถึงความเป็นตวั ตนของเราใหเ฾ พื่อนท่ีอย฽ใู นเครอื ข฽ายไดร฾ ฾ูจักเรามากย่ิงขึ้น และยงั มีลักษณะของการแลกเปลีย่ นเรื่องราว ถ฽ายทอดประสบการณ์ต฽างๆ ร฽วมกนั ซ่งึ ในสังคมประเภทนี้สามารถทีจ่ ะสร฾างกลมุ฽ เพื่อนข้ึนมาได฾อย฽างไมม฽ ีท่ีสิ้นสดุ ซึ่งผใู฾ ห฾บรกิ ารเครือข฽ายสงั คมออนไลนป์ ระเภทนไี้ ด฾แก฽ Facebook, Google+, Friendster, MySpace และ Hi5 เปน็ ตน฾ สว฽ นการสรา฾ งและประกาศตวั ตนผ฽านการเขยี นบทความ (Weblog) มลี ักษณะเป็นระบบจัดการเน้ือหา (Content Management System: CMS) ให฾ผใู฾ ช฾สามารถสร฾างบทความท่เี รยี กวา฽โพสต์ (Post) และทาํ การเผยแพร฽บทความของตนเองผ฽านเว็บผ฾ูใหบรกิ าร เปน็ การเปดิ โอกาสให฾คนที่มีความสามารถในด฾านตา฽ งๆ สามารถเผยแพรค฽ วามรค฾ู วามสามารถของตนเองดว฾ ยการเขียนบทความได฾อยา฽ งเสรี ซ่ึงอาจจะถกู นาํ มาใชไ฾ ดใ฾ น 2 รูปแบบ ได฾แก฽ 1.1 Blog บล็อก เป็นชอ่ื เรียกสัน้ ๆ ของ Weblog ซง่ึ มาจากคาํ วา฽ “Web” รวมกบั คําวา฽ “Log”ที่เปน็ เสมอื นบนั ทึกหรือรายละเอียดข฾อมลู ทเ่ี ก็บไว฾ ดงั นั้นบล็อกจงึ เปน็ โปรแกรมประยุกต์บนเวบ็ ที่ใช฾เกบ็ บนั ทึกเร่ืองราว หรอื เน้ือหาที่เขยี นไว฾โดยเจ฾าของเขียนแสดงความรู฾สกึ นกึ คดิ ตา฽ งๆ โดยท่ัวไปจะมผี ฾ูทีท่ าํ หนา฾ ทีห่ ลักทีเ่ รียกวา฽ “Blogger” เขียนบันทึกหรือเลา฽ เหตุการณท์ ี่อยากให฾คนอ฽านได฾รบั ร฾ู หรอืเปน็ การเสนอมุมมองและแนวความคดิ ของตนเองใส฽เข฾าไปในบลอ็ กน้ัน ลักษณะเดน฽ ของบล็อกคือ จะมีการอัพเดทเนื้อหาเปน็ ประจาํ ทั้งนจ้ี ะมีกลุ฽มเปาู หมายทสี่ นใจในเน้ือหาเหล฽าน้ันโดยเฉพาะ บทความท่ีเขียนข้นึ ใหม฽มีการจดั เรียงลําดับกอ฽ นหลังตามวนั เวลาที่ผ฾ูเขียนบลอ็ กโพสต์ลงไป สว฽ นบลอ็ กทเ่ี ปน็ ที่นยิ มใชก฾ นั เชน฽ Bloggang, Exteen, Blogspot และ Blogger เป็นต฾น 1.2 ไมโครบล็อก (Micro Blog) เครอื ข฽ายสงั คมออนไลน์ประเภทนีม้ ลี ักษณะเดน฽ โดยการให฾ผู฾ใชโ฾ พสต์ขอ฾ ความจํานวนสนั้ ๆ ผา฽ นเว็บผู฾ใหบ฾ รกิ าร และสามารถกําหนดใหส฾ ง฽ ข฾อความน้ันๆ ไปยงั โทรศัพท์เคลอื่ นท่ีได฾ เชน฽Twitter

92 2. สรา้ งและประกาศผลงาน (Creative Network) เครอื ข฽ายสงั คมออนไลน์ประเภทนี้ เปน็ สงั คมสาํ หรับผูใ฾ ชท฾ ี่ต฾องการแสดงออกและนําเสนอผลงานของตวั เอง สามารถแสดงผลงานไดจ฾ ากท่วั ทุกมุมโลก จึงมีเวบ็ ไซตท์ ่ีให฾บริการพ้ืนท่ีเสมือนเป็นแกลเลอรี่ (Gallery) ท่ีใช฾จดั โชวผ์ ลงานของตัวเองไมว฽ า฽ จะเปน็ วิดโี อ รูปภาพ เพลง อีกทั้งยงัมจี ุดประสงค์หลักเพ่ือแชรเ์ น้ือหาระหว฽างผู฾ใช฾เว็บทใ่ี ช฾ฝากหรือแบ฽งปนั โดยใช฾วิธีเดยี วกันแบบเว็บฝากภาพ แตเ฽ วบ็ น้เี นน฾ เฉพาะไฟล์ทเี่ ปน็ มัลตมิ ีเดีย ซึ่งผใู฾ หบ฾ ริการเครือขา฽ ยสังคมออนไลน์ประเภทนี้ ไดแ฾ ก฽YouTube, Flickr, Multiply, Photobucket และ Slideshare เป็นต฾น 3. ความชอบในส่ิงเดียวกัน (Passion Network) เปน็ เครอื ข฽ายสังคมออนไลน์ท่ีทําหนา฾ ท่ีเก็บในสง่ิ ทชี่ อบไวบ฾ นเครอื ข฽าย เปน็ การสร฾าง ท่ีคัน่ หนงั สอื ออนไลน์ (Online Bookmarking) มแี นวคิดเพื่อใหผ฾ ู฾ใชส฾ ามารถเกบ็ หน฾าเว็บเพจทค่ี ั่นไวใ฾ นเคร่ืองคนเดียวก็นํามาเกบ็ ไวบ฾ นเวบ็ ไซต์ได฾ เพือ่ ที่จะได฾เปน็ การแบ฽งปนั ให฾กับคนท่ีมีความชอบในเรื่องเดยี วกัน สามารถใช฾เปน็ แหล฽งอ฾างองิ ในการเข฾าไปหาข฾อมูลได฾ และนอกจากนยี้ ังสามารถโหวตเพอ่ื ให฾คะแนนกับที่ค่ันหนังสือออนไลนท์ ี่ผูใ฾ ชค฾ ดิ ว฽ามปี ระโยชน์และเป็นท่ีนิยม ซ่ึงผใ฾ู ห฾บรกิ ารเครือขา฽ ยสงั คมออนไลนป์ ระเภทนี้ ได฾แก฽ Digg, Zickr, Ning, del.icio.us, Catchh และ Reddit เปน็ ตน฾ 4. เวทีทางานร่วมกัน (Collaboration Network) เปน็ เครือข฽ายสงั คมออนไลน์ทต่ี อ฾ งการความคดิ ความรู฾ และการต฽อยอดจากผู฾ใชท฾ ี่เป็นผ฾ูมีความร฾ู เพ่ือให฾ความรู฾ท่ไี ด฾ออกมามีการปรับปรุงอย฽างต฽อเน่ืองและเกิดการพฒั นาในท่ีสดุ ซ่ึงหากลองมองจากแรงจงู ใจทีเ่ กิดขน้ึ แล฾ว คนท่ีเขา฾ มาในสังคมนี้มกั จะเป็นคนทม่ี ีความภูมิใจท่ีได฾เผยแพร฽สงิ่ ท่ีตนเองร฾ู และทาํ ใหเ฾ กดิ ประโยชน์ตอ฽ สงั คม เพอ่ื รวบรวมข฾อมูลความรใ฾ู นเร่ืองต฽างๆ ในลักษณะเน้ือหาท้ังวิชาการ ภูมิศาสตร์ประวตั ิศาสตร์ สินค฾า หรอื บริการ โดยสว฽ นใหญ฽มักเปน็ นักวิชาการหรือผเ฾ู ชีย่ วชาญ ผ฾ูให฾บริการเครือข฽ายสังคมออนไลน์ในลักษณะเวทที ํางานรว฽ มกัน เช฽น Wikipedia,Google earth และ Google Maps เปน็ ต฾น 5. ประสบการณเ์ สมือนจริง (Virtual Reality) เครอื ขา฽ ยสังคมออนไลน์ประเภทนมี้ ีลกั ษณะเป็นเกมออนไลน์ (Online games) ซงึ่ เป็นเวบ็ ท่ีนิยมมากเพราะเป็นแหล฽งรวบรวมเกมไวม฾ ากมาย มลี ักษณะเปน็ วดิ โี อเกมท่ผี ูใ฾ ชส฾ ามารถเล฽นบนเครอื ข฽ายอนิ เทอรเ์ นต็ เกมออนไลนน์ ้ีมีลกั ษณะเป็นเกม 3 มิตทิ ่ีผใ฾ู ช฾นาํ เสนอตวั ตนตามบทบาทในเกมผเ฾ู ลน฽ สามารถติดตอ฽ ปฏิสมั พนั ธก์ ับผ฾ูเลน฽ คนอน่ื ๆ ได฾เสมอื นอยใู฽ นโลกแห฽งความเป็นจริง สร฾างความรส฾ู กึสนกุ เหมือนได฾มสี ังคมของผูเ฾ ล฽นทชี่ อบในแบบเดยี วกัน อีกทั้งยังมีกราฟกิ ทสี่ วยงามดงึ ดดู ความสนใจและมกี จิ กรรมตา฽ งๆ ใหผ฾ ฾เู ลน฽ รส฾ู ึกบันเทงิ เชน฽ Second Life, Audition, Ragnarok, Pangya และWorld of Warcraft เปน็ ต฾น 6. เครอื ขา่ ยเพ่ือการประกอบอาชีพ (Professional Network) เป็นเครือขา฽ ยสังคมออนไลน์เพอ่ื การงาน โดยจะเปน็ การนําประโยชน์จากเครือขา฽ ยสังคมออนไลน์มาใช฾ในการเผยแพรป฽ ระวตั ผิ ลงานของตนเอง และสร฾างเครือข฽ายเข฾ากบั ผ฾ูอน่ื นอกจากน้ีบริษทั ทต่ี ฾องการคนมารว฽ มงาน สามารถเข฾ามาหาจากประวัติของผใ฾ู ชท฾ ่ีอยใู฽ นเครอื ขา฽ ยสังคมออนไลนน์ ้ีได฾ ผูใ฾ หบ฾ รกิ ารเครือข฽ายสังคมออนไลน์ประเภทน้ี ได฾แก฽ Linkedin เป็นต฾น

93 7. เครือขา่ ยทเ่ี ชื่อมต่อกนั ระหว่างผูใ้ ช้ (Peer to Peer : P2P) เปน็ เครือขา฽ ยสังคมออนไลนแ์ ห฽งการเช่ือมต฽อกนั ระหว฽างเครื่องผ฾ใู ชด฾ ฾วยกันเองโดยตรง จึงทาํ ใหเ฾ กดิ การสอ่ื สารหรือแบง฽ ปนั ข฾อมูลต฽างๆ ได฾อยา฽ งรวดเร็ว และตรงถึงผใู฾ ชท฾ ันที ซ่ึงผ฾ใู ห฾บรกิ ารเครือข฽ายสงั คมออนไลน์ประเภทนี้ ได฾แก฽ Skype และ BitTorrent เปน็ ต฾นผู้ให้และผู้ใชบ้ ริการเครือข่ายสังคมออนไลน์ 1. กลุม่ ผู้ใหบ้ รกิ ารเครอื ข่ายสังคมออนไลน์ (Social Network Service : SNS) ผู฾ให฾บริการเครือข฽ายสังคมออนไลน์ท้ังในประเทศและต฽างประเทศมีจํานวนมากและมีลักษณะการให฾บริการที่แตกต฽างกัน ในหนังสือเล฽มนี้รวบรวมเฉพาะบางเว็บไซต์เพื่อเป็นตัวอย฽าง โดยแบง฽ ตามประเภทของเครอื ขา฽ ยสังคมออนไลนท์ ี่กล฽าวมาแลว฾ ข฾างตน฾ ดังน้ี 1.1 สร฾างและประกาศตวั ตน (Identity Network) 1.1.1 Facebook เฟซบุ฿ก เป็นบริการเครือข฽ายสังคมออนไลน์ เปิดให฾บริการเม่ือ 4 กุมภาพันธ์พ.ศ. 2547 เจ฾าของคือ Facebook, Inc. ผ฾ูก฽อตั้งคือ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก (Mark Zuckerberg)ปจั จบุ ันเปน็ ทนี่ ิยมและมีจาํ นวนผูใ฾ ช฾เพิ่มขนึ้ อยา฽ งรวดเร็ว เฟซบุ฿กมบี รกิ ารเพ่ือให฾ผ฾ูใช฾สร฾างข฾อมูลส฽วนตัวเพ่ิมเพื่อนจากบัญชีรายชื่อผู฾ใช฾อื่น ส฽งข฾อความ อัปโหลดภาพ และไฟล์วิดีโอต฽างๆ และมีการสร฾างเพจเฟซบ฿ุกของผ฾ูใช฾เพื่อให฾บริการข฾อมูลข฽าวสารท้ังภาครัฐและเอกชน นอกจากนั้นผ฾ูใช฾ยังสามารถเข฾าร฽วมกล฽ุมตามความสนใจส฽วนตัว จัดกลุ฽มตามสถานท่ีทํางาน โรงเรียน มหาวิทยาลัย หรือความสนใจอื่นรว฽ มกบั เพือ่ นในบญั ชผี ใ฾ู ชอ฾ ่ืนๆ ได฾ ภาพที่ 5.1 เฟซบุก฿ ของ ดร.ไพฑูรย์ สีฟาู ท่มี า (ไพฑรู ย์ สฟี ูา, 2555) 1.1.2 Twitter ทวิตเตอร์ เป็นบริการเครือข฽ายสังคมออนไลน์ประเภทไมโครบล็อก จัดเป็นบล็อกขนาดเล็ก มีคุณสมบัติคล฾ายกับบล็อกทั่วไป ทวิตเตอร์ก฽อต้ังเม่ือเดือนมีนาคม พ.ศ. 2549 โดยแจ็ก คอร์ซีย์, บิซ สโตน และ อีวาน วิลเลียมส์ เจ฾าของบริษัท Obvious Corp ท่ีซานฟรานซิสโกสหรัฐอเมริกา ทวิตเตอร์กําหนดให฾ผู฾ใช฾สามารถส฽งข฾อความได฾ต฽อครั้งจํานวนไม฽เกิน 140 ตัวอักษร

94ข฾อความท่ีโพสต์ไปยังทวิตเตอร์จะแสดงอย฽ูบนเว็บเพจของผ฾ูใช฾คนนั้นบนเว็บไซต์ และผู฾ใช฾คนอื่นสามารถเลือกรับข฾อความเหล฽านี้ทางเว็บไซต์ทวิตเตอร์ อีเมล เอสเอ็มเอส เมสเซนเจอร์ อาร์เอสเอสหรอื ผา฽ นโปรแกรมเฉพาะ เช฽น Twitterific, Twhirl และ TweetDesk ภาพที่ 5.2 ทวิตเตอรข์ องพงศส์ ขุ หิรญั พฤกษ์ ทม่ี า (พงศ์สุข หิรัญพฤกษ์, 2555) 1.1.3 Bloggang บล็อกแกง฿ เป็นบริการเครอื ขา฽ ยสังคมออนไลนป์ ระเภทบล็อกของประเทศไทยท่ีเปดิ บลอ็ กเพอ่ื ให฾บริการกับผ฾ูใช฾ เพื่อให฾ผู฾ใช฾นําเสนอเร่ืองราวและเหตุการณ์ต฽างๆ ของผู฾ใช฾ในรูปแบบของบทความ กราฟิก หรือวิดีโอ และอนุญาตให฾ผ฾ูอื่นท่ีเข฾ามาดูบล็อกน้ันๆ สามารถเขียนความคิดเห็นต฽างๆ ลงไปได฾ การสมัครเป็นสมาชิกบล็อกแก฿งจะต฾องสมัครเป็นสมาชิกของเว็บพันทิปก฽อน เมื่อเป็นสมาชิกของพันทปิ แลว฾ จะได฾สทิ ธิ์ในการเปน็ สมาชกิ ของบล็อกแก฿งทันที ภาพที่ 5.3 บลอ็ กสําหรับความงามของ erk-erk ทมี่ า (พีรญา ปอู มอาษา, 2555)

95 1.2 สร฾างและประกาศผลงาน (Creative Network) 1.2.1 YouTube ยทู ูบ เปน็ เวบ็ ไซต์ประเภทแชร์ไฟลว์ ิดีโอ กอ฽ ตั้งเม่อื 15 กมุ ภาพันธ์ พ.ศ. 2548โดย แชด เฮอร์ลีย์ สตีฟ เชง และยาวีด คาริม ยูทูบมีบริการเพ่ือให฾ผู฾ใช฾งานสามารถอัปโหลดและแลกเปลย่ี นคลปิ วิดีโอผ฽านทางเวบ็ ไซต์ รวมถงึ การสร฾างรายการโทรทัศน์ มิวสิกวิดีโอ วิดีโอจากสมาชิกงานโฆษณา ผ฽านเว็บยูทูบ ผ฾ูใช฾สามารถอัปโหลดวิดีโอของตนเอง หรือนําไฟล์วิดีโอที่มี การอปั โหลดไว฾ไปใส฽ไว฾ในบล็อกหรือเว็บไซต์ของตนได฾ผ฽านทางคําสั่งท่ีกําหนดให฾ ยูทูบมีนโนบายไม฽ให฾ผ฾ูใช฾อัปโหลดคลิปที่มลี ิขสทิ ธ์ิ นอกเสียจากเจ฾าของลิขสิทธิ์ได฾อปั โหลดเอง ภาพที่ 5.4 ยทู บู เผยแพรผ฽ ลงานของน฾องนาํ้ มนต์ ท่ีมา (กมลเพชร พุทธวรคุณ, 2555) 1.2.2 Flickr ฟลิคเกอร์ เป็นบริการเครือข฽ายสังคมประเภทแชร์รูปภาพ มีต฾นกําเนิดจากประเทศแคนาดา บริษัทลูดิคอร์ป (Ludicorp) เป็นผู฾พัฒนาโดย Caterina Fake และ StewartButterfield ได฾พัฒนาระบบการจัดเก็บข฾อมูลโดยคํานึงถึงระดับของผ฾ูใช฾งาน เพ่ือให฾มีการเช่ือมโยงข฾อมูลถึงกันทัง้ หมด ต฽อมาบริษัทยาฮู (Yahoo) ได฾ซ้ือฟลิคเกอร์พร฾อมท้ังบริษัทลูดิคอร์ปมาพัฒนาให฾มีขนาดใหญ฽และรองรบั สมาชิกของยาฮูเอง ฟลิคเกอร์มีรูปแบบการให฾บริการเพอื่ ให฾ผู฾ใช฾อัปโหลดรูปภาพเกบ็ และสามารถแบง฽ ปันให฾ผูอ฾ ืน่ ดไู ด฾

96 ภาพที่ 5.5 ฟลคิ เกอร์บรกิ ารแบ฽งปันภาพ ทม่ี า (ฟลิคเกอร,์ 2555) 1.3 ความชอบหรอื คลง่ั ไคล฾ในสง่ิ เดยี วกัน (Passion Network) 1.3.1 Ning หนิงเป็นแพลตฟอร์มออนไลน์สําหรับบุคคลและองค์กรในการสร฾างเครือข฽ายทางสังคมที่กําหนดเอง เปิดตัวเมอื่ เดือนตุลาคม พ.ศ. 2548 หนิงได฾ร฽วมก฽อตั้งโดย Marc Andreessenและ Gina Bianchini หนิงเป็นเว็บสําหรับผู฾ที่ชอบอะไรที่เหมือนกัน และสร฾างชุมชนเพื่อตอบสนองความสนใจและความต฾องการของกล฽ุม ข฾อมูลเนื้อหาที่ดีน฽าสนใจจะทําให฾ผ฾ูใช฾เข฾ามาร฽วมด฾วยตนเองและสรา฾ งสงิ่ ที่ดีเพื่อชมุ ชน หนิงมบี ริการใหผ฾ ฾ใู ช฾สามารถสร฾างเว็บไซต์ชุมชนมีลักษณะท่ีกําหนดเอง เช฽นรูปถ฽าย วิดีโอ เว็บบอร์ด บล็อก และการบริการในส฽วนการสนับสนุน นอกจากนี้ผู฾ใช฾ยังสามารถสร฾างรายได฾โดยใช฾บริการผ฽านทางพันธมิตรท่ีจัดต้ังขึ้นโดยหนิงและการเพ่ิมการแสดงผลโฆษณา เช฽นGoogle AdSense ภาพที่ 5.6 หนงิ บรกิ ารสร฾างชมุ ชนออนไลน์ทช่ี อบเร่ืองเหมือนกนั ทม่ี า (หนงิ , 2555)

97 1.3.2 Digg ดิกก์ เปิดตัวเม่ือเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2547 ผ฾ูก฽อตั้งคือ เควิน โรส เจ฾าของคือ Digg, Inc. ดิกก์เป็นเว็บไซต์ประเภทชุมชนเน้ือหาที่เกี่ยวกับข฽าวเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์เป็นส฽วนใหญ฽ โดยนําเอาการค่ันหน฾าเว็บผสมกับบล็อกเพื่อให฾มีการเช่ือมโยงเน้ือหาเว็บเข฾าด฾วยกัน และมีการกรองเนื้อหาในลักษณะให฾ผ฾ูใช฾ได฾ร฽วมลงคะแนนด฾วยความเท฽าเทียมกัน เน้ือหาข฽าวต฽างๆ และเว็บไซต์จะถูกส฽งเข฾ามาโดยผ฾ูใช฾ จากนั้นจะถูกเล่ือนให฾ไปแสดงท่ีหน฾าแรกโดยผ฽านระบบการจัดอันดับจากผ฾ูใช฾ ภาพที่ 5.7 ดิกก์ชุมชนเนือ้ หาข฽าวทางวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ท่ีมา (ดิกก์, 2555) 1.3.3 Pantip พันทิป เป็นเว็บไซต์ของประเทศไทยท่ีให฾บริการกระดานข฽าวสําหรับผู฾ท่ี ช่ืนชอบในเร่ืองเดียวกัน ก฽อต้ังโดยนายวันฉัตร ผดุงรัตน์ เปิดตัวเม่ือวันที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2546 พันทิปให฾บริการผู฾ใช฾โดยจัดให฾มีห฾องสนทนาเป็นกลุ฽มใหญ฽ครอบคลุมเรื่องต฽างๆ เช฽น คอมพิวเตอร์เทคโนโลยี วทิ ยาศาสตร์ การเมอื ง ความร฾ู กีฬา บนั เทิง ศาสนา ความงาม และกฎหมาย เป็นตน฾ ภาพที่ 5.8 พนั ทิปชมุ ชนออนไลนท์ ่ีชอบในเร่ืองเหมือนกนั ที่มา (พนั ทปิ , 2555)

98 1.4 เวทีทาํ งานรว฽ มกัน (Collaboration Network) 1.4.1 Wikipedia วิกพิ เี ดียเปน็ โครงการสารานุกรมเนือ้ หาเสรีหลายภาษาบนเว็บไซต์ เปิดตัวในปีพ.ศ. 2544 โดย จิมมี เวลส์ และแลร์รี แซงเจอร์ คําว฽า \"วิกิพีเดีย\" มาจากการผสมคําว฽า wiki ซ่ึงเป็นลักษณะของการสร฾างเว็บไซต์แบบมีส฽วนร฽วม เป็นคําในภาษาฮาวายท่ีแปลว฽า \"เร็ว\" และคําว฽าencyclopedia ท่แี ปลวา฽ สารานุกรม วิกิพีเดียเป็นเครือข฽ายสังคมออนไลน์ประเภทเวทีทํางานร฽วมกันมีการต฽อยอดทางความคิด เกิดขึ้นจากการร฽วมเขียนของผ฾ูใช฾ท่ัวโลกทุกคนที่เข฾าถึงวิกิพีเดีย และร฽วมแก฾ไขเน้ือหาในบทความอย฽างเสรี นอกจากเป็นสารานุกรมแล฾ววิกิพีเดียให฾บริการสถานการณ์ข฽าวเหตกุ ารณท์ ีเ่ กิดขน้ึ ในปัจจบุ นั บทความท่ใี ห฾ความรู฾ และเทคโนโลยตี ฽างๆ อกี ด฾วย ภาพท่ี 5.9 วกิ ิพเี ดยี สารานกุ รมตอ฽ ยอดทางความคิด ทม่ี า (วิกิพีเดีย, 2555) 1.4.2 Google Earth กูเกิล เอิร์ธ พัฒนาโดยบริษัทกูเกิล เป็นซอฟต์แวร์สําหรับให฾บริการดูแผนท่ีภาพถ฽ายทางอากาศจากท่ัวโลก และผังเมอื งซ฾อนทบั ลงในแผนทร่ี วมทัง้ ระบบจีไอเอส (GIS) ในรูปแบบ3 มิติ ก฽อนใช฾งานผ฾ูใช฾ต฾องดาวน์โหลดกูเกิล เอิร์ธจาก http://www.earth.google.com กูเกิล เอิร์ธใช฾ข฾อมูลจากภาพถ฽ายทางอากาศของ U.S. public domain และภาพถ฽ายดาวเทียมของคีย์โฮลมาดัดแปลงร฽วมกับระบบแผนที่จากกูเกิลแมพ กูเกิล เอิร์ธ จัดเป็นเครือข฽ายสังคมออนไลน์ประเภทเวทีทํางานร฽วมกัน เพราะการสร฾างแผนท่ีของตัวเองหรือแบ฽งปันข฾อมูลแผนท่ีให฾คนอื่นตามที่ได฾มีการปักหมุดเอาไว฾ ทําให฾คนท่ีเข฾ามาได฾รับประโยชน์ในการสืบค฾นข฾อมูลเหล฽าน้ัน ซึ่งเป็นการต฽อยอดแบบสาธารณะ และยงั ใหค฾ วามรทู฾ างภมู ศิ าสตร์ การท฽องเท่ียวเดินทาง การจราจร และท่ีพัก

99 ภาพที่ 5.10 กูเกิล เอริ ์ธบริการแผนทแ่ี ละเส฾นทาง ทม่ี า (กูเกลิ เอริ ์ธ, 2555) 1.5 ประสบการณ์เสมอื นจริง (Virtual Reality) 1.5.1 Second Life เซคันด์ไลฟ฼ พัฒนาโดยบริษัทลินเดนรีเสิร์ช เซคันด์ไลฟ฼ได฾รับแรงบันดาลใจจากวรรณกรรมที่เรียกว฽า ไซเบอร์พังก์ (cyberpunk) และนวนิยายของนีล สตีเฟนสัน (NealStephenson) เรื่อง Snow Crash ให฾บริการเม่ือ พ.ศ. 2546 เป็นเครือข฽ายสังคมออนไลน์ท่ีช฽วยในการร฽วมสร฾างประสบการณ์เสมือนจริง ผู฾ใช฾สามารถใช฾บริการผ฽านทางโปรแกรมลูกข฽ายที่ชื่อว฽าSecond Life Viewer ซงึ่ เซคันดไ์ ลฟไ฼ ม฽ใช฽เพียงเกม 3 มิติแตเ฽ ป็นโลกเสมอื นจรงิ ภายในโลกเสมือนน้ันมีระบบเศรษฐกิจเป็นของตัวเอง มีหน฽วยเงินที่เรียกว฽า ลินเดนดอลลาร์ (Linden Dollar: L$) ใช฾ในการซื้อ ขาย เช฽า แลกเปลี่ยนสินค฾าและบริการต฽างๆ กับผู฾เล฽นอ่ืน หากต฾องการเข฾าใช฾งานเซคันด์ไลฟ฼สามารถดาวนโ์ หลดโปรแกรมไปติดต้ังและลงทะเบยี นผา฽ นเวบ็ ไซต์ ภาพที่ 5.11 เซคันด์ไลฟ฼เกมประสบการณเ์ สมือนจรงิ ที่มา (เซคันด์ไลฟ฼, 2555)

100 1.5.2 World of Warcraft เกมรูปแบบ Massively multiplayer online game (MMORG) ในจักรวาลของ warcaft พัฒนาโดย Blizzard Entertainment เริ่มวางจําหน฽ายในวันที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ.2547 สรา฾ งโดยนาํ บรรยากาศในซีร่ีย์ Warcraft จําลองไว฾ในเกม และได฾จัดทําเป็นเกม 3 มิติโดยผ฾ูเล฽นนาํ เสนอตวั ตนตามบทบาทในเกม ทําให฾ผู฾เล฽นสามารถติดต฽อปฏิสัมพันธ์กับผ฾ูเล฽นคนอ่ืนๆ ได฾เสมือนอยู฽ในโลกแหง฽ ความเป็นจริง ภาพท่ี 5.12 World of Warcraft เกมประสบการณ์เสมือนจริง ท่ีมา (World of Warcraft, 2555) 1.6 เครือข฽ายเพอ่ื การประกอบอาชพี (Professional Network) ลิงค์อิน (LinkedIn) เป็นเว็บไซต์เครือข฽ายสังคมท่ีให฾บริการเพื่อการประกอบอาชีพเน฾นด฾านเครือข฽ายธุรกิจ โดยจุดประสงค์หลักของลิงด์อินเพื่อให฾บริการแก฽ให฾ผ฾ูใช฾ที่ลงทะเบียนกับทางเว็บไซต์แล฾ว ผ฾ูใช฾จะสามารถสร฾างรายการส฽วนตัวเกี่ยวกับอาชีพสําหรับติดต฽อกับผู฾อ่ืนหรือกับบริษัทต฽างๆ และเปน็ การสร฾างเครือขา฽ ยทางอาชพี ของผใ฾ู ช฾เอง ภาพที่ 5.13 ลงิ ด์อินบรกิ ารสรา฾ งเครอื ข฽ายเพ่ือการประกอบอาชีพ ท่มี า (ลงิ ด์อนิ , 2555)

101 1.7 เครือขา฽ ยทเ่ี ช่อื มตอ฽ กนั ระหวา฽ งผ฾ใู ช฾ (Peer to Peer : P2P) 1.7.1 Skype สไกป฼ เป็นโปรแกรมที่ให฾ผ฾ูบริการผู฾ใช฾สําหรับสนทนาโทรศัพท์ สนทนาแบบวิดโี อ ส฽งข฾อความผ฽านอินเทอรเ์ นต็ สไกปก฼ อ฽ ตั้งโดย Niklas Zennström และ Janus Friis ชาวสวีเดนหน฾าท่ีของสไกป฼ คือให฾บริการผ฽านทางคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งส฽ูคอมพิวเตอร์อีกเคร่ืองหนึ่งเป็นเสียงและภาพขณะสนทนา การส฽งข฾อความ และการส฽งข฾อมูลในรูปแบบไฟล์ โดยไม฽เสียค฽าใช฾จ฽าย รวมถึงการประชุมผ฽านออนไลน์ไม฽เกิน 5 คน สไกป฼ทํางานบนเทคโนโลยีระบบเครือข฽ายแบบ Peer toPeer โดยผ฾ูใชง฾ านสามารถติดตอ฽ โดยตรงระหวา฽ งผ฾ูใช฾งานกับผู฾ใช฾งานอ่ืนท่ีกําลังออนไลน์อย฽ู การใช฾งานง฽าย สะดวกรวดเร็ว การโทรศัพท์ผ฽านสไกป฼มีท้ังแบบท่ีให฾บริการฟรีและแบบท่ีคิดค฽าบริการ หากต฾องการเข฾าใช฾งานสไกป฼สามารถดาวน์โหลดโปรแกรมไปติดตั้งและลงทะเบียนผ฽านเว็บไซต์http:// www.skype.com ภาพที่ 5.14 สไกป฼บรกิ ารสนทนาผ฽านอนิ เทอรเ์ นต็ ท่ีมา (สไกป,฼ 2555) 1.7.2 BitTorrent บิตทอร์เรนต์ เป็นโพรโทคอลรูปแบบ peer-to-peer ในการแลกเปล่ียนข฾อมูลระหว฽างเคร่ืองคอมพิวเตอร์ด฾วยกันโดยตรงผ฽านเครือข฽ายอินเทอร์เน็ต ถูกพัฒนาต้ังแต฽เดือน เมษายนพ.ศ. 2544 จากความคิดของแบรม โคเฮน (Bram Cohen) ท่ีต฾องการให฾การส฽งผ฽านข฾อมูลสามารถอํานวยประโยชน์ได฾ท้ังขาเข฾าและขาออก เครือข฽ายของการใช฾โปรแกรมบิตทอร์เรนต์น้ันเป็นลักษณะโยงใยถึงกันหมดทุกเครื่องคอมพิวเตอร์สามารถรับส฽งไฟล์ถึงกันได฾ตลอดเวลา ซึ่งทุกเคร่ืองจะเป็นทั้งผ฾ูรับและผู฾ให฾ เมื่อไฟล์เร่ิมต฾นเผยแพร฽มาจากคอมพิวเตอร์เครื่องหน่ึง เคร่ืองอ่ืนๆ ท่ีต฾องการไฟล์ ก็จะค฽อยๆ ได฾รับไฟล์แบบส฽ุม ทันทีที่ได฾รับไฟล์มาครบ คอมพิวเตอร์เคร่ืองน้ันก็สามารถส฽งต฽อไฟล์ที่ได฾รับมาแล฾วให฾เครื่องอ่ืนที่ยังไม฽มีได฾ทันที เป็นลักษณะของการเติมเต็มให฾กัน โปรแกรมบิตทอร์เรนต์จึงสามารถทําให฾การส฽งผ฽านข฾อมูลสามารถอํานวยประโยชน์ได฾ทั้งขาเข฾าและขาออก การใช฾งานต฾องมีโปรแกรมท่ีเรียกว฽าทอร์เรนต์ไคลเอนต์ก฽อน หลังจากน้ันจึงจะสามารถไปดาวน์โหลดไฟล์จากเว็บไซต์บติ ทอร์เรนตต์ ฽างๆ ได฾

102 ภาพท่ี 5.15 บิตทอรเ์ รนต์บรกิ ารสาํ หรบั ดาวน์โหลดไฟล์ระหว฽างผใ฾ู ช฾ ที่มา (บิตทอรเ์ รนต์, 2555) 3. กลมุ่ ผ้ใู ช้บรกิ ารเครือข่ายสังคมออนไลน์ ผใู฾ ชเ฾ ครอื ข฽ายสังคมออนไลน์สามารถกาํ หนดขอบเขตได฾เป็นกล฽ุมช฽วงวัย (เศรษฐพงศ์ มะลิสวุ รรณ, 2553) ดังน้ี 2.1 กลม฽ุ Generation Z กลุ฽มผู฾มอี ายุอยูร฽ ะหวา฽ ง 6-10 ปี เป็นกลุ฽มท่ีมีอายุที่นอ฾ ยทีส่ ุด เกิดและเติบโตมาพร฾อมกับยุคเทคโนโลยีดิจิทัลและเว็บ 2.0 เป็นพวกท่ีมีความก฾าวหน฾าทางเทคโนโลยี เด็กกล฽ุมนี้จะมีความต฾องการใช฾เทคโนโลยีสูงมาก เพราะนอกจากจะเป็นผู฾ใช฾แล฾ว ยังเป็นผู฾สร฾าง หรือดัดแปลงเทคโนโลยีเพ่ือตอบสนองความต฾องการของตัวเองได฾ด฾วย ชอบความเป็นอิสระ ความเป็นส฽วนตัว นิยมท่ีจะใช฾เครือข฽ายสังคมออนไลน์เพื่อเรียนรู฾เรื่องราวต฽างๆ ด฾วยตนเองผ฽านเกมออนไลน์ เช฽น SecondLife,Audition, Ragnarok, Pangya และ World of Warcraft 2.2 กลุ฽ม Generation Y และ Generation D (Digital) ผมู฾ อี ายุระหว฽าง 15-30 ปี เป็นกล฽ุมวัยรุ฽น นักเรียน นักศึกษา และกล฽ุมวัยเร่ิมทํางาน(First Jobber) กลุ฽มน้ีเติบโตมาพร฾อมๆ กับการพัฒนาเทคโนโลยีการส่ือสารสมัยใหม฽ท่ีมีการขยายตัวอย฽างรวดเร็วส฽งผลถึงชีวิตของพวกเขา เห็นได฾ชัดจากโทรศัพท์มือถืออะนาล็อก (Analog) กับเว็บ 1.0ซ่ึงเป็นยุคเริ่มต฾นของการส่ือสารแบบไร฾สาย ดังน้ันคนร฽ุนน้ีจึงนิยมการเปลี่ยนแปลงแบบก฾าวกระโดดชอบความทันสมยั ของเทคโนโลยีดจิ ทิ ลั จะใช฾เพอ่ื ความบันเทิงและการติดต฽อสอ่ื สารระหว฽างกลุ฽มเพื่อนเช฽น เล฽นเกม ดาวน์โหลดเพลง ภาพ หรือวิดีโอต฽างๆ เช฽น เฟซบ฿ุก และยูทูบ เป็นต฾นคนกล฽ุมนี้จึงเป็นกาํ ลังสําคญั ในการสรา฾ งรากฐานใหแ฾ กส฽ ังคมในปัจจุบัน ซึ่งต฽อไปในอีก 10-20 ปีข฾างหน฾า คนกล฽ุมนี้ก็จะกา฾ วขน้ึ ไปรบั ผิดชอบดแู ลส่งิ ทีต่ นสรา฾ งขึน้ มาแทน Generation X 2.3 กลม฽ุ Generation X ผ฾ูมีอายุระหว฽าง 30-45 ปี เป็นกล฽ุมคนวัยทํางาน นักวิชาการ ผ฾ูเช่ียวชาญนกั การเมือง นักส่อื สารมวลชน เป็นกล฽ุมท่ีรับเทคโนโลยีแบบผ฾ูใช฾ (User + Consumer) เป็นส฽วนมากจะใช฾ประโยชน์ในการสืบค฾นหาข฾อมูลข฽าวสาร ติดต฽อสื่อสารกับลูกค฾าโดยการใช฾เป็นเครื่องมือทาง

103การสื่อสารการตลาด การค฾นหาความร฾ู การอ฽านข฽าวสารประจําวัน เช฽น วิกิพีเดีย กูเกิล เอิร์ธทวติ เตอร์ เวบ็ บล็อก และเว็บไซต์ของสํานักขา฽ วต฽างๆเครอื ขา่ ยสงั คมออนไลน์กบั การประยุกตใ์ ช้ในชีวติ ประจาวัน ความก฾าวหน฾าอย฽างรวดเร็วของเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร ทําให฾สังคมเกิด การเปลี่ยนแปลงไป เครือข฽ายสังคมออนไลน์ได฾กลายเป็นเครือข฽ายทางสังคมขนาดใหญ฽ท่ีถูกเช่ือมต฽อกันด฾วยรปู แบบท่เี ฉพาะเจาะจง ทงั้ ด฾านมุมมอง ความคิด การแลกเปลี่ยน มติ รภาพ ธุรกิจ ซึ่งเป็นไปตั้งแต฽ในระดบั บคุ คลที่มีความใกล฾ชิดไปจนถึงระดับชาติ เครือข฽ายสังคมออนไลน์จึงเป็นการรวมกันเข฾าไว฾ซึ่งความผูกพันและความสนใจร฽วมกันไว฾ จะเห็นได฾ว฽ามีการประยุกต์ใช฾เครือข฽ายสังคมออนไลน์ให฾เข฾ากับชวี ิตประจาํ วันของมนุษยใ์ นดา฾ นต฽างๆ ดงั นี้ 1. ดา้ นการสอื่ สาร (Communication) เครือข฽ายสังคมออนไลน์ถูกนํามาใช฾เป็นช฽องทางในการนําเสนอข฽าวสารผ฽านเว็บไซต์ของสํานักข฽าว เช฽น ไทยรัฐ ผ฾ูจัดการออนไลน์ หรือท่ีอย฽ูในรูปแบบของเว็บบล็อก เช฽น oknation.net ท่ีมีผ฾ูส่ือข฽าวของสํานักข฽าวเป็นผ฾ูเขียนบทความ หรือกรณีของนักข฽าวพลเมืองท่ีเปิดโอกาสให฾คนทั่วไปสามารถเปน็ นกั ขา฽ วได฾ โดยการอัปโหลดข฾อมลู ข฽าวสารไปยังเว็บบล็อกต฽างๆ ได฾โดยไม฽ปิดก้ัน เครือข฽ายสังคมออนไลน์ประเภทต฽างๆ ยังเป็นเคร่ืองมือท่ีใช฾ในการช฽วยส่ือสารด฾านข฽าวสารและสังคมได฾เป็นอย฽างดี เช฽น จากเหตุการณ์นํ้าท฽วมคร้ังใหญ฽ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2554 เทศบาลนครปากเกร็ดได฾ใช฾เพจเฟซบ฿ุกเพื่อเป็นเคร่ืองมือสื่อสารได฾ฉับไวกับคนในพื้นท่ี การใช฾ทวิตเตอร์ในการให฾ข฾อมูลข฽าวสารจราจรของสถานีวิทยุพทิ ักษ์สันตริ าษฎร์ (สวพ. FM91) (@fm91trafficpro) ภาพท่ี 5.16 เฟซบ฿ุกเทศบาลนครปากเกร็ด ท่ีมา (เทศบาลนครปากเกรด็ , 2555)

104 ภาพท่ี 5.17 ทวติ เตอรส์ วพ. FM91 ทมี่ า (สถานีวิทยุพทิ ักษ์สันติราษฎร์ (สวพ. FM91), 2555) 2. ดา้ นการศกึ ษา (Education) เครือข฽ายสังคมออนไลน์ถูกนํามาใช฾ในการสืบค฾น ความร฾ู ข฾อเท็จจริง ท้ังด฾านภูมิศาสตร์ประวัติศาสตร์ หรือวิทยาศาสตร์ ท่ีเรียกว฽า สารานุกรมออนไลน์ ซ่ึงสามารถนําไปใช฾อ฾างอิงได฾ อย฽างวิกิพีเดีย เป็นต฾น มีการนําเครือข฽ายสังคมออนไลน์มาประยุกต์ใช฾สําหรับจัดการเรียนการสอนในรูปแบบต฽างๆ เช฽น การสื่อสารองค์ความรู฾ เน้ือหาสาระวิชาการ บทความ วิดีโอ รูปภาพ และเสียงไปยังผเ฾ู รยี น ทาํ ใหเ฾ กิดการเรียนรู฾ในโลกออนไลน์ที่ไม฽จํากัดเฉพาะในชั้นเรียน ทั้งครูและนักเรียนสามารถแบ฽งปันเน้ือหา องค์ความร฾ู ข฾อมูล ภาพ และเสียง ผ฽านเครือข฽ายสังคมออนไลน์จนเกิดเป็นสื่อสังคมระหว฽างครูกับนักเรียน ระหว฽างครูกับครู และนักเรียนกับนักเรียน ทําให฾เกิดเป็นความร฽วมมือในการแลกเปลี่ยนเรียนร฾ูร฽วมกัน โดยผ฾ูสอนเลือกใช฾เครือข฽ายสังคมออนไลน์แต฽ละประเภทมาปรับใช฾ให฾เขา฾ กบั การเรยี นการสอน ภาพที่ 5.18 บลอ็ กเผยแพร฽ข฾อมลู ทางการเรยี นการสอนของ ผศ.บญุ ญลกั ษม์ ตํานานจติ ร ที่มา (บญุ ญลักษม์ ตํานานจิตร, 2555)

105 ภาพที่ 5.19 เพจเฟซบกุ฿ เผยแพร฽ข฽าวการศึกษาของมหาวทิ ยาลัยราชภัฏสวนดสุ ิต ทมี่ า (มหาวทิ ยาลัยราชภัฏสวนดสุ ิต, 2555) 3. ด้านการตลาด (Marketing) การนําเครือข฽ายสังคมออนไลน์มาใช฾ประโยชน์ในการสร฾างแบรนด์ได฾อย฽างชัดเจน เพราะเป็นเครื่องมือท่ีมีประสิทธิภาพสูงในการส่ือสารเพ่ือสร฾างการเข฾าถึง สร฾างความสัมพันธ์ การมีส฽วนรว฽ มกับผู฾บริโภคไดด฾ แี ละวัดผลได฾ทันที เช฽น การโฆษณาออนไลน์ การสร฾างความสัมพันธ์กับลูกค฾าผ฽านเว็บไซต์ของบริษัทโออิชิกรุ฿ป จํากัด (มหาชน) ที่สร฾างข้ึนเพื่อให฾ลูกค฾าเข฾ามาแสดงและบอกถึงแนวคิดต฽างๆ ที่ลูกค฾ามีต฽อผลิตภัณฑ์ การประชาสัมพันธ์ข฽าวสารต฽างๆ ของบริษัทท่ีนิยมใช฾เว็บบล็อกในการแจ฾งรายการส฽งเสริมการการขาย การเผยแพร฽คลิปวิดีโอโฆษณาของบริษัทไทยประกันชีวิต ผ฽านยูทูบเป็นตน฾ ภาพที่ 5.20 เพจเฟซบ฿ุกของบริษทั โออชิ กิ ร฿ุป จํากัด (มหาชน) ท่ีมา (บริษัทโออิชิกรุป฿ จาํ กดั (มหาชน), 2555)

106 4. ดา้ นบันเทิง (Entertainment) การนําเครือข฽ายสังคมออนไลน์มาใช฾ในงานโฆษณา ผลิตรายการ เป็นเคร่ืองมือสื่อสารระหว฽างบริษัท และศิลปิน จะเห็นได฾จากบริษัทผ฾ูผลิตผลงานทางด฾านบันเทิงมีความนิยมใช฾ประโยชน์จากเครอื ข฽ายสงั คมออนไลน์ผ฽านยทู ูบ เชน฽ การให฾ดาวนโ์ หลดเพลง มิวสคิ วดิ ีโอ การแชร์ไฟล์วดิ ีโอ ไฟล์เพลง การสร฾างแฟนเพจของศิลปินดารา นักร฾องผ฽านเฟซบ฿ุกหรือทวิตเตอร์ การผลิตรายการทีวีออนไลน์ เปน็ ตน฾ ภาพที่ 5.21 ยทู บู ของโดมออนไลน์ ที่มา (ปกรณ์ ลมั , 2555) 5. ดา้ นสื่อสารการเมอื ง (Communication Political) การนําเครือข฽ายสังคมเป็นเคร่ืองมือในการพูดคุยสื่อสาร ติดต฽อกันระหว฽างกลุ฽มคน หรือบุคคลท่ีต฾องการแลกเปล่ียนความคิดทางการเมือง กลุ฽มน้ีจัดเป็นกล฽ุมที่สร฾างกระแสนิยมให฾กับเครือข฽ายสังคมออนไลน์ระดับโลกเม่ือ บารัค โอบามา ใช฾ยูทูบเป็นเครื่องมือประกอบการหาเสียงจนไดร฾ บั การรับเลือกตัง้ เปน็ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา การเผยแพร฽คลิปวิดีโอการทํางานและการแถลงนโยบายต฽างๆ ของรัฐบาลประเทศสหรัฐอเมริกา การนําทวิตเตอร์มาใช฾ประกอบการส่ือสารทางการเมืองของนายกรัฐมนตรกี บั ประชาชน การเปดิ เพจเฟซบ฿ุกรวมกลุม฽ แสดงความคิดเห็นทางการเมืองเปน็ ต฾น

107 ภาพท่ี 5.22 ยูทูบของรฐั บาลประเทศสหัฐอเมริกา ท่มี า (ไวท์เฮาส์, 2555)ผลกระทบของเครือขา่ ยสังคมออนไลน์ เครือข฽ายสังคมออนไลน์น้ันไม฽ใช฽เร่ืองที่เกิดขึ้นมาใหม฽ แต฽เป็นเรื่องท่ีแทรกซึมเข฾ามาสู฽ชีวิตประจําวันของเราทีละน฾อยแบบไม฽รู฾ตัวมานานแล฾ว เว็บไซต์ที่เราเข฾าไปใช฾งานเกือบทุกเว็บได฾เปลี่ยนตัวเองจากผ฾ูให฾บริการข฾อมูลมาเป็นผ฾ูให฾บริการท่ีเปิดโอกาสให฾สมาชิกได฾มีส฽วนร฽วมในการผลิตข฾อมูลด฾วยตัวเอง จนกระทั่งเป็นเว็บไซต์เครือข฽ายสังคมออนไลน์อย฽างสมบูรณ์แบบในที่สุด เครือข฽ายสังคมออนไลน์จึงเป็นรูปแบบทางเลือกในการใช฾ชีวิตแบบใหม฽ที่ช฽วยผู฾ใช฾ทางด฾านเวลา ระยะทาง และงบประมาณ เป็นต฾น ผ฾ูใช฾เครือข฽ายสังคมออนไลน์จึงควรศึกษาถึงผลกระทบจากเครือข฽ายสังคมออนไลน์ที่ไดเ฾ ขา฾ ไปใข฾งานเพื่อให฾เกดิ ประสิทธผิ ลสูงสุดกบั ตัวผู฾ใชเ฾ อง 1. ผลกระทบเชิงบวก 1.1 เป็นส่ือในการนําเสนอผลงานของตัวเอง เช฽น งานเขียน รูปภาพ วิดีโอต฽างๆ เพื่อให฾ผู฾อ่นื ไดเ฾ ขา฾ มารับชมและแสดงความคิดเหน็ 1.2 เป็นสื่อท่ีใช฾ในการแบ฽งปันข฾อมูล รูปภาพ ความร฾ูให฾กับผ฾ูอ่ืน สามารถแลกเปลี่ยนขอ฾ มลู ความรูใ฾ นสิง่ ทส่ี นใจรว฽ มกนั ได฾ เป็นคลังข฾อมูลความรข฾ู นาดย฽อม 1.3 เป็นเวทีแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเร่ืองต฽างๆ เช฽น การศึกษา การเมือง บันเทิงศิลปะวฒั นธรรม การตลาด สนิ ค฾าและการบรกิ าร 1.4 เป็นเครอื ข฽ายกระชบั มิตร สรา฾ งความสัมพนั ธ์ทด่ี ีจากเพอ่ื นสเ฽ู พอื่ นได฾ 1.5 เปน็ เครือ่ งมือชว฽ ยในการสื่อสารให฾มีประสิทธิภาพ ซึ่งสามารถส่ือสารได฾หลายรูปแบบเชน฽ ขอ฾ ความ รูปภาพ วดิ โี อ สามารถส่อื สารกับคนทีม่ ีความชื่นชอบในเรื่องเดียวกัน แลกเปลี่ยนความคดิ เหน็ หรอื รวมตวั กันทาํ กิจกรรมที่มีประโยชน์ 1.6 เป็นเคร่ืองมือช฽วยในการพัฒนาชุมชน โดยใช฾เครือข฽ายสังคมออนไลน์เป็นเคร่ืองมือในการเชอ่ื มตอ฽ ประชาชนในชุมชนกบั กล฽มุ องค์กรตา฽ งๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ทาํ ใหป฾ ระชาชนในชุมชนสามารถถา฽ ยทอดปญั หาและความตอ฾ งการไดโ฾ ดยตรง

108 1.7 เป็นส่ือในการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ หรือบริการลูกค฾าสําหรับบริษัทและองค์กรต฽างๆ สร฾างความเช่ือมั่น สร฾างความสัมพันธ์ สร฾างกิจกรรม หรือพูดคุยตอบข฾อซักถามถึงสินค฾าและบริการให฾กับลูกค฾า ช฽วยเพ่ิมการรับร฾ูและเสริมสร฾างภาพลักษณ์ที่ดีให฾กับธุรกิจ และเป็นช฽องทางสร฾างยอดขายและผลกําไรให฾เพม่ิ ข้นึ อกี ทั้งสามารนําคําแนะนาํ ของลูกค฾ามาปรับปรุงการบริการได฾ 1.8 ช฽วยประหยัดค฽าใช฾จา฽ ยในการตดิ ต฽อสอื่ สารกบั ผู฾อื่นด฾วยช฽องทางที่สะดวกและรวดเร็ว 2. ผลกระทบเชิงลบ 2.1 เป็นช฽องทางที่ถูกละเมิดลิขสิทธ์ิ ขโมยผลงาน หรือถูกแอบอ฾างได฾ง฽าย หากผ฾ูใช฾รูเ฾ ท฽าไมถ฽ ึงการณห์ รอื ขาดวิจารณญาณในการใชง฾ าน อาจถกู หลอกลวงหรอื ละเมดิ สทิ ธสิ ว฽ นบุคคลได฾ 2.2 หากผ฾ูใช฾หมกหมุ฽นกับการเข฾าร฽วมเครือข฽ายสังคมออนไลน์มากเกินไปอาจส฽งผลเสียต฽อสุขภาพ และอาจทําให฾ประสิทธิภาพในการทํางานหรือการเรียนลดลง อีกทั้งจะทําให฾เสียเวลาถ฾าผใ฾ู ช฾ใช฾อยา฽ งไม฽ร฾ูคุณคา฽ 2.3 เปน็ ช฽องทางที่สามารถวิพากษ์วิจารณ์กระแสสังคมในเร่ืองเชิงลบ และอาจทําให฾เกิดกรณีพิพาทบานปลาย 2.4 ภัยคุกคามจากเครือข฽ายสังคมออนไลน์ในรูปแบบต฽างๆ เช฽น การเผยแพร฽ภาพและข฾อความอันมีลักษณะดูหม่ินและไม฽เหมาะสมต฽อสถาบันพระมหากษัตริย์ การสร฾างเฟซบ฿ุกปลอมแอบอ฾างชื่อและรูปภาพเพ่ือนําไปใช฾กระทําการหลอกลวงผ฾ูอื่น การถูกลักลอบเข฾าถึงข฾อมูลส฽วนตัวที่ไม฽ได฾เปดิ เผยผา฽ นทางเฟซบก฿ุ การถา฽ ยคลปิ วิดีโอลามกอนาจารอัปโหลดผา฽ นยทู ูบ เปน็ ต฾นสรุป เครือข฽ายสังคมออนไลน์นับได฾ว฽าเป็นช฽องทางหนึ่งในการติดต฽อส่ือสาร แสดงความคิดเห็นแลกเปลี่ยนข฾อมูล และทํากิจกรรมต฽างๆ ที่มีการเชื่อมโยงกันเพื่อสร฾างเครือข฽ายในการตอบสนองความต฾องการทางสังคมที่มุ฽งเน฾นในการสร฾างความสัมพันธ์ทางสังคมของมนุษย์ โดยการเข฾าใช฾บริการผ฽านหน฾าเว็บและโต฾ตอบกันระหว฽างผู฾อ่ืนผ฽านโลกออนไลน์ เราในฐานะผู฾ใช฾บริการเครือข฽ายสังคมออนไลน์ควรท่ีจะต฾องทําความเข฾าใจแนวคิดพื้นฐานและความหมายของเครือข฽ายสังคมออนไลน์อีกทั้งร฾ูจักเลือกใช฾และเข฾าถึงเว็บผ฾ูให฾บริการเครือข฽ายสังคมออนไลน์แต฽ละประเภทให฾ตรงกับความต฾องการของตนเอง ควรรู฾จักท่ีจะประยุกต์ใช฾เครือข฽ายสังคมออนไลน์ให฾เข฾าชีวิตประจําวันของตนเอง ควรศกึ ษาผลกระทบของการใช฾เครือขา฽ ยสงั คมออนไลน์ท้ังในเชิงบวกและเชิงลบ เพ่ือให฾ตนเองได฾รับร฾ูและทราบข฾อมูลข฽าวสารต฽างๆ จากการใช฾เครือข฽ายสังคมออนไลน์ และสามารถนํามาปรับใช฾เป็นกรณีศึกษาใหเ฾ พื่อให฾เกดิ ประโยชนส์ ูงสดุ กับตนเองและสังคม เครือข฽ายสังคมออนไลน์ถือได฾ว฽าเป็นสว฽ นประกอบส฽วนหนึ่งของชีวิตมนุษย์ยุคเทคโนโลยี ดังน้ันเราในฐานะผู฾ใช฾จักต฾องรู฾ให฾เท฽าทันเครือข฽ายสังคมออนไลน์ และควรที่จะต฾องร฾ูจักหน฾าท่ีของตนเองในการอยู฽ร฽วมกับผู฾อ่ืนในสังคม หากเรารู฾จักหนา฾ ท่ีและปฏบิ ัติตนได฾ตามหน฾าที่แล฾วน้ันสังคมทเ่ี ราอย฽ยู ฽อมเปน็ สังคมท่สี งบสุข

109 คาถามทบทวน 1. นกั ศกึ ษาจงอธบิ ายความหมายของเครือข฽ายสังคมออนไลนต์ ามความเข฾าใจของนักศึกษา 2. นกั ศึกษาจงบอกองคป์ ระกอบของเครือขา฽ ยสงั คมออนไลน์มีอะไรบา฾ ง 3. นักศกึ ษาจงอธบิ ายเครอื ขา฽ ยสังคมออนไลนก์ บั เว็บ 2.0 มคี วามสมั พันธก์ ันอยา฽ งไร 4. นกั ศึกษาจงบอกประเภทของเครือขา฽ ยสงั คมออนไลน์มกี ่ปี ระเภท อะไรบา฾ ง 5. นักศึกษาจงยกตวั อย฽างผใ฾ู ห฾บรกิ ารเครือขา฽ ยสงั คมออนไลน์แต฽ละประเภทท่ีรจ฾ู ัก 6. นกั ศึกษาตอ฾ งการสร฾างและประกาศตัวตนควรเลอื กใช฾ผูใ฾ ห฾บรกิ ารเครือขา฽ ยสังคมออนไลน์ใดบ฾าง 7. นักศกึ ษาจงระบุชว฽ งอายขุ องนกั ศึกษาและบุคคลในครอบครัวเป็นผใ฾ู ชเ฾ ครือข฽ายสงั คมออนไลนก์ ล฽มุ ใดบ฾าง 8. นักศกึ ษาจงอธบิ ายถึงความสําคญั เครือขา฽ ยสังคมออนไลน์ทมี่ ีตอ฽ ชีวติ ประจาํ วนั ของนักศึกษา 9. นักศกึ ษาประยกุ ตใ์ ชเ฾ ครอื ขา฽ ยสังคมออนไลนใ์ นชีวิตประจาํ วนั อย฽างไรบา฾ ง 10. นกั ศึกษาควรปฏบิ ัตติ นอยา฽ งไรบ฾างในการเปน็ สมาชกิ ท่ีดีของเครือขา฽ ยสังคมออนไลน์

บทที่ 6 ฐานขอ้ มูลและการสืบคน้ ผูช้ ว่ ยศาสตราจารย์ ดร. ปริศนา มชั ฌิมา ข฾อมูลและสารสนเทศมีอยู฽มากมายในอินเทอร์เน็ต ท้ังข฾อความ รูปภาพ เสียง และวิดีโอ จําเป็นต฾องอาศัยการจัดการข฾อมูลอย฽างเป็นระบบ เพื่อความสะดวกในการบันทึกข฾อมูลลดความซ้ําซ฾อนของการจัดเก็บข฾อมูล สามารถเปลี่ยนแปลงและแก฾ไขข฾อมูลให฾ทันสมัยอยู฽เสมอที่สําคญั สามารถสืบค฾นขอ฾ มูลได฾อย฽างสะดวกรวดเรว็ และตรงกับความต฾องการ ซึ่งต฾องอาศัยเทคนิคและเคร่ืองมือในการสืบค฾น จากฐานข฾อมูลอิเล็กทรอนิกส์ และฐานข฾อมูลทั่วไปในอินเทอร์เน็ต เพ่ือให฾ได฾ข฾อมลู และสารสนเทศตามต฾องการจากแหลง฽ ข฾อมูลตา฽ งๆความรู้เบือ้ งตน้ เก่ยี วกับฐานขอ้ มูลและการสืบค้น 1. ความหมายของฐานข้อมูลและการสืบค้น “ฐานข้อมูล” คือ การรวบรวมข฾อมูลท่ีต฾องการจะจัดเก็บ ซึ่งต฾องมีความสัมพันธ์กันหรือเป็นเรื่องเดียวกันไว฾ด฾วยกัน เพื่อสะดวกในการใช฾งาน (ปริศนา มัชฌิมา, 2554, หน฾า 12) โดยอาศัยโปรแกรมท่ีทําหน฾าที่ในการกําหนดลักษณะข฾อมูลท่ีจะเก็บไว฾ในฐานข฾อมูล อํานวยความสะดวกในการบันทกึ ข฾อมูลลงในฐานข฾อมูล แกไ฾ ขปรบั ปรุงข฾อมูล ค฾นหาข฾อมูล กําหนดสิทธ์ิผ฾ูที่ได฾รับอนุญาตให฾ใชฐ฾ านข฾อมลู ได฾ ทําให฾ผ฾ูใช฾สามารถเข฾าถึงข฾อมูลได฾ง฽าย สะดวกและมีประสิทธิภาพ เสมือนเป็นตัวกลางระหวา฽ งผู฾ใช฾กับฐานข฾อมูลให฾สามารถติดต฽อกันได฾ เช฽น ในการเข฾าใช฾ฐานข฾อมูลระบบทะเบียนออนไลน์ของมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต http://webregis.dusit.ac.th ผ฾ูใช฾ต฾องมีบัญชีผู฾ใช฾ (account) คือช่ือล็อกอิน (username) และรหัสผ฽าน (password) เพื่อจะเข฾าไปใช฾บริการได฾ตามสิทธิ์ที่ผ฾ูดูแลระบบไดก฾ าํ หนดไว฾ “การสืบค้น” คือ การค฾นหาข฾อมูลที่ต฾องการจากแหล฽งต฽างๆ ท่ีจัดเก็บไว฾ กลับคืนมาด฾วยวิธีการและเทคนิคอย฽างเป็นขั้นตอน โดยอาศัยเทคโนโลยีสารสนเทศเป็นเคร่ืองมือในการเข฾าถึงข฾อมูลอย฽างสะดวก รวดเร็ว และตรงกับความต฾องการของผ฾ูใช฾ (ปริศนา มัชฌิมา, 2552, หน฾า 26) ในยุคของ ICT เทคโนโลยีมีความเจริญก฾าวหน฾า การค฾นหาข฾อมูลจึงได฾พัฒนาจากการค฾นหาในห฾องสมุดมาเป็นการค฾นหาได฾ในทกุ หนทกุ แห฽งทอี่ ินเทอร์เน็ตไปถึง ด฾วยเครอ่ื งมอื ทีม่ ีใหบ฾ ริการอย฽างมากมาย โดยส่ิงที่ต฾องการค฾นหาอาจจะเป็นเอกสารที่เขียนเป็นข฾อความหรือตัวอักษรท่ีเรียงต฽อกันเป็นคํา วลี หรือประโยคที่มีความหมาย หรืออาจจะเป็นรูปภาพ เสียงคน เสียงดนตรี เสียงเพลง และวิดีโอ โดยระบบการสบื ค฾นสารสนเทศท่ีดีต฾องสามารถดึงเอาสารสนเทศที่เกี่ยวข฾องกับส่ิงที่ผ฾ูใช฾ต฾องการออกมาได฾อย฽างรวดเร็ว ถกู ตอ฾ ง แม฽นยํา และครบถ฾วนสมบรู ณ์

112 2. องคป์ ระกอบของระบบฐานขอ้ มูล ระบบฐานข฾อมูลประกอบด฾วยส฽วนสําคัญหลักๆ 5 ส฽วน คือ ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ ข฾อมูลกระบวนการทาํ งาน และบุคลากร ดังรายละเอียดต฽อไปน้ี 2.1 ฮาร์ดแวร์ (hardware) หมายถึง คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต฽างๆ เพ่ือเก็บข฾อมูลและประมวลผลข฾อมูล ซึ่งอาจประกอบด฾วยเครื่องคอมพิวเตอร์ต้ังแต฽หน่ึงเครื่องข้ึนไป หน฽วยเก็บข฾อมูลสํารอง หน฽วยนําเข฾าข฾อมูล และหน฽วยแสดงผลข฾อมูล นอกจากนี้ยังต฾องมีอุปกรณ์การส่ือสารเพื่อเช่ือมโยงอุปกรณ์ทางคอมพิวเตอร์หลายๆ เครื่องให฾สามารถแลกเปล่ียนข฾อมูลกันได฾ เป็นต฾น โดยระบบฐานข฾อมูลท่ีมีประสิทธิภาพดีต฾องอาศัยเคร่ืองคอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพสูง คือ สามารถเก็บข฾อมูลได฾จํานวนมากและประมวลผลได฾อย฽างรวดเร็ว เพื่อรองรับการทํางานจากผู฾ใช฾หลายคน ท่ีอาจมีการอา฽ นขอ฾ มลู หรอื ปรบั ปรงุ ขอ฾ มลู พร฾อมกนั ในเวลาเดยี วกนั ได฾ 2.2 ซอฟต์แวร์ (software) หมายถึง โปรแกรมที่ใช฾ในระบบการจัดการฐานข฾อมูล ซึ่งทําหน฾าที่ในการจัดเก็บ บันทึก แก฾ไขปรับปรุง และค฾นหาข฾อมูล นอกจากนั้นยังสามารถกําหนดสิทธ์ิของผู฾ใช฾ด฾วย ทําให฾ผู฾ใช฾สามารถเข฾าถึงข฾อมูลได฾ง฽าย สะดวกและมีประสิทธิภาพ ซึ่งซอฟต์แวร์ที่ใช฾ในการจดั การฐานขอ฾ มูล ไดแ฾ ก฽ Microsoft Access, PostgreSQL, Oracle และ MySQL เปน็ ตน฾ 2.3 ข฾อมูล (data) ระบบการจัดการฐานข฾อมูลที่ดีและมีประสิทธิภาพ ควรประกอบด฾วยข฾อมูลที่มีความถูกต฾อง รวดเร็วและเป็นปัจจุบัน มีความสมบูรณ์ ชัดเจนและกะทัดรัด สอดคล฾องกับความต฾องการของผ฾ูใช฾ 2.4 กระบวนการทํางาน (procedures) หมายถึง ขั้นตอนการทํางานเพ่ือให฾ได฾ผลลัพธ์ตามที่ต฾องการ เช฽น ค฽ูมือการใช฾งานระบบทะเบียนออนไลน์สําหรับนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ตั้งแต฽การเข฾าใช฾งานระบบ วิธีการลงทะเบียนเรียน การตรวจสอบผลการเรียนการตรวจสอบการชาํ ระค฽าลงทะเบียน และการคน฾ หาตารางสอนตารางสอบ เป็นต฾น 2.5 บุคลากร (people) คือ บคุ คลท่ีเกย่ี วข฾องกับระบบการจดั การฐานข฾อมูล ซ่งึ ไดแ฾ ก฽ 2.5.1 ผู฾บริหารข฾อมูล (data administrators) ทําหน฾าท่ีในการกําหนดความต฾องการในการใช฾ข฾อมูลข฽าวสารขององค์กร การประมาณขนาดและอัตราการขยายตัวของข฾อมูลในองคก์ ร ตลอดจนทําการจดั การดูแลพจนานกุ รมข฾อมูล เป็นต฾น 2.5.2 ผ฾ูบริหารฐานข฾อมูล (database administrators) ทําหน฾าท่ีในการบริหารจัดการ ควบคุม กําหนดนโยบาย มาตรการ และมาตรฐานของระบบฐานข฾อมูลท้ังหมดภายในองค์กรตัวอย฽างเช฽น กําหนดรายละเอียดและวิธีการจัดเก็บข฾อมูล กําหนดควบคุมการใช฾งานฐานข฾อมูลกําหนดระบบรักษาความปลอดภัยของข฾อมูล กําหนดระบบสํารองข฾อมูล และกําหนดระบบการกู฾คืนข฾อมูล เป็นต฾น ตลอดจนทําหน฾าท่ีประสานงานกับผ฾ูใช฾ นักวิเคราะห์ระบบ และนักเขียนโปรแกรมเพื่อใหก฾ ารบริหารระบบฐานขอ฾ มลู สามารถดําเนนิ ไปได฾อยา฽ งมีประสทิ ธิภาพ 2.5.3 นักวิเคราะห์ระบบ (systems analysts) มีหน฾าที่ศึกษาและทําความเข฾าใจในระบบงานขององค์กร ศึกษาปัญหาที่เกิดข้ึนจากระบบงานเดิม และความต฾องการของระบบใหม฽ที่จะทาํ การพัฒนาขึ้นมา รวมทั้งต฾องเป็นผ฾ูท่ีมีความรู฾ ความเข฾าใจในกระบวนการทํางานโดยรวมของท้ังฮาร์ดแวรแ์ ละซอฟต์แวรอ์ กี ดว฾ ย

113 2.5.4 นักออกแบบฐานข฾อมูล (database designers) ทําหน฾าที่นําผลการวิเคราะห์ ซ่ึงไดแ฾ ก฽ปญั หาท่เี กิดขนึ้ จากการทํางานในปจั จบุ นั และความต฾องการท่ีอยากจะให฾มีในระบบใหม฽ มาออกแบบฐานขอ฾ มลู เพือ่ แก฾ปัญหาทเ่ี กดิ ข้นึ และให฾ตรงกบั ความต฾องการของผู฾ใชง฾ าน 2.5.5 นักเขียนโปรแกรม (programmers) มีหน฾าที่รับผิดชอบในการเขียนโปรแกรมประยุกต์เพ่ือการใช฾งานในลักษณะต฽าง ๆ ตามความต฾องการของผู฾ใช฾ ตัวอย฽างเช฽น การเก็บบนั ทึกขอ฾ มูล และการเรยี กใช฾ขอ฾ มูลจากฐานข฾อมูล เป็นตน฾ 2.5.6 ผู฾ใช฾ (end-users) เป็นบุคคลท่ีใช฾ข฾อมูลจากระบบฐานข฾อมูล เช฽น ในระบบทะเบียนออนไลน์ ของมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ผ฾ูใช฾จะประกอบไปด฾วย นักศึกษา อาจารย์ และเจ฾าหนา฾ ที่ทีเ่ กยี่ วข฾อง ซ่ึงวัตถุประสงค์หลักของระบบฐานข฾อมูล คือ ตอบสนองความต฾องการในการใช฾งานของผ฾ใู ช฾ กระบวนการ กาหนดผ้ใู ช้ฐานข้อมลู ทางาน ผ้บู ริหาร ผ้บู ริหาร ข้อมูล ฐานข้อมูล ฮาร์ ดแวร์ จดั การ ผ้อู อกแบบผู้ใช้ โปรแกรมเมอร์ ฐานข้อมลู ใช้ เขียน ออกแบบ ระบบฐานข้อมลู โปรแกรม ฐานข้อมลู ประยุกต์ เข้าถงึ ข้อมลู ภาพท่ี 6.1 องค์ประกอบของระบบฐานข฾อมลู ทีม่ า (ปรศิ นา มชั ฌิมา, 2552, หน฾า 17) 3. กระบวนการสบื คน้ สารสนเทศ กระบวนการสืบค฾นสารสนเทศเร่ิมจากผู฾ใช฾ใส฽คําสอบถาม (query) เข฾าไปในระบบคําสอบถามเป็นสารสนเทศท่ีผ฾ูใช฾ต฾องการค฾นหา เช฽น การใส฽คําสําคัญในช฽องท่ีให฾ใส฽คําสอบถามหรือใส฽คําค฾น เมื่อระบบรับทราบคําสอบถาม ก็จะทําการสืบค฾นสารสนเทศจากเอกสารหรือสิ่งที่ต฾องการ ในท่ีน้ีเรียกว฽า เอกสาร (documents) โดยอาจจะมีลักษณะเป็นข฾อความ รูปภาพ เสียง และวิดีโอ ซึ่งอาจจะอยูใ฽ นแผน฽ ซีดี/ดวี ดี ี หรืออย฽ใู นระบบเครอื ข฽ายคอมพิวเตอร์ ผลลัพธ์ที่ได฾นําเสนอเป็นสารสนเทศที่ถูกดึงออกมา (information retrieved) ซ่ึงอาจจะเป็นข฾อความ รูปภาพ เสียง หรือวิดีโอ ข้ึนกับความตอ฾ งการของผู฾ใช฾ โดยท่ัวไปจะไม฽ใช฽มีเพียงรายการเดียว แต฽จะมีหลายรายการ ซึ่งควรสอดคล฾องสัมพันธ์ (relevance) กับสงิ่ ทีผ่ ฾ใู ช฾ต฾องการค฾นหา อย฽างไรก็ตามหากผลลัพธ์มีหลายรายการ ควรมีการ

114จัดอันดับ (rank) ตามความสอดคล฾องมากน฾อย โดยให฾รายการที่มีความสอดคล฾องกับสิ่งท่ีต฾องการค฾นหาอยู฽ก฽อน ส฽วนรายการท่ีมีความสอดคล฾องน฾อยอย฽ูหลัง และท่ีสําคัญหากไม฽สอดคล฾องกับสิ่งที่ต฾องการคน฾ หาเลย กไ็ มค฽ วรอยู฽ในรายการทถี่ กู ดงึ ออกมา (ศุภชัย ตั้งวงศ์ศานต์, 2551, หน฾า 5) สุดท฾ายผ฾ใู ชต฾ ฾องพิจารณาว฽ารายการท่ีดึงออกมาสอดคล฾องกับส่ิงท่ีผ฾ูใช฾ต฾องการค฾นหาหรือไม฽ ถ฾าไม฽สอดคล฾องก็สามารถปรับเปล่ียนคําสอบถาม (query reformulation) เป็นคําสอบถามใหม฽ และปูอนเข฾าไปในระบบใหมอ฽ ีกคร้ัง เอกสาร (Documents)คาํ สอบถาม การสบื คน้ สารสนเทศ สารสนเทศทถี่ ูกดงึ ออกมา (Query) (Information Retrieval) (Information Retrieved) ภาพที่ 6.2 กระบวนการสืบค฾นสารสนเทศ ท่ีมา (ศภุ ชัย ตง้ั วงศศ์ านต,์ 2551, หนา฾ 4) 4. ประโยชน์ของฐานข้อมลู เม่ือมีการนําระบบฐานข฾อมูลมาใช฾ เพื่ออํานวยความสะดวกในการบันทึกข฾อมูล แก฾ไขปรับปรุงข฾อมูล ค฾นหาข฾อมูล รวมท้ังกําหนดผู฾ท่ีได฾รับอนุญาตให฾ใช฾ฐานข฾อมูล ทําให฾ฐานข฾อมูลมีข฾อดีมากมาย ไดแ฾ ก฽ 4.1 ลด คว าม ซ้ํา ซ฾อ นใ นก าร จัด เก็ บข฾ อมู ล เน่ื อง จา กก าร จัด ทํา ฐ า นข฾ อมู ลจะมีการรวบรวมข฾อมูลประเภทต฽างๆ เข฾ามาจัดเก็บไว฾ในระบบและเก็บข฾อมูลเพียงชุดเดียวซ่ึงทุกฝาุ ยท่เี กีย่ วข฾องจะสามารถเรียกใช฾ข฾อมลู ทีต่ อ฾ งการได฾ เป็นการประหยัดเนื้อที่ในการจัดเก็บ และทําให฾เกิดความรวดเรว็ ในการค฾นหาและจดั เก็บข฾อมูลดว฾ ย 4.2 ข฾อมูลท่ีจัดเก็บมีความทันสมัย เมื่อข฾อมูลในระบบฐานข฾อมูลได฾รับการดูแลปรับปรุงอย฽ า ง ต฽ อเ น่ื อ ง ทํ า ใ ห฾ ข฾อ มู ล ท่ี จัด เ ก็ บ เป็ น ข฾ อ มูล ท่ี มี ค ว า ม ทั น สมั ย ต รง กั บ เ หตุ ก า ร ณ์ในปจั จุบนั และตรงกบั ความต฾องการอยูเ฽ สมอ 4.3 ใช฾ข฾อมูลร฽วมกันได฾ เน่ืองจากระบบการจัดการฐานข฾อมูลสามารถจัดให฾ผู฾ใช฾แต฽ละคนเข฾าใช฾ข฾อมูลในแฟูมท่ีมีข฾อมูลเดียวกันได฾ในเวลาเดียวกัน เช฽น ฝุายบุคคลและฝุายการเงินสามารถทจ่ี ะใชข฾ อ฾ มลู จากแฟูมประวัตพิ นักงานในระบบฐานข฾อมลู ได฾พร฾อมกัน 4.4 จัดทําระบบการรักษาความปลอดภัยของข฾อมูลได฾ ผู฾บริหารระบบฐานข฾อมูลสามารถกําหนดรหัสผ฽านเข฾าใช฾งานข฾อมูลของผู฾ใช฾แต฽ละราย และให฾ผู฾ใช฾แต฽ละรายมีสิทธิ์ในการทาํ งานกบั ข฾อมลู ไมเ฽ ทา฽ เทียมกันได฾ โดยระบบการจัดการฐานข฾อมูลจะทําการตรวจสอบสิทธ์ิใน

115การทาํ งานกบั ข฾อมลู ทุกครงั้ เช฽น การตรวจสอบสทิ ธใิ์ นการเรยี กดขู ฾อมูล การลบข฾อมูล การปรับปรุงขอ฾ มูล และการเพมิ่ ขอ฾ มลู ในแต฽ละแฟูมข฾อมลูฐานข้อมลู อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์เพอ่ื การสบื ค้น ฐานข฾อมูลอิเล็กทรอนิกส์เพ่ือการสืบค฾นข฾อมูลและสารสนเทศ ท่ีมีให฾บริการในอินเทอร์เน็ตได฾แก฽ ฐานข฾อมูลวารสารอิเล็กทรอนิกส์ ฐานข฾อมูลหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ ฐานข฾อมูลวิทยานิพนธ์อิเล็กทรอนิกส์หรืองานวิจัยอิเล็กทรอนิกส์ ฐานข฾อมูลกฤตภาค และฐานข฾อมูลรายการทรัพยากรสารสนเทศของสถาบันบริการสารสนเทศ ดังรายละเอยี ดตอ฽ ไปน้ี 1. ฐานขอ้ มูลวารสารอิเลก็ ทรอนิกส์ วารสารอิเล็กทรอนิกส์ (e-Journal) คือ สื่อรูปแบบหน่ึงท่ีเผยแพร฽เป็นฉบับต฽อเนื่องมีกําหนดออกทแ่ี น฽นอนและเสนอขอ฾ มูลขา฽ วสารทที่ นั สมยั รายงานความกา฾ วหน฾าทางวชิ าการ กิจกรรมและผลงานในสาขาวิชาต฽างๆ (Hatua, 2006) มีการจัดเก็บ บันทึกและเผยแพร฽ในรูปของข฾อมูลคอมพิวเตอร์และส่ืออิเล็กทรอนิกส์ โดยสามารถค฾นข฾อมูลและส่ังซ้ือหรือบอกรับเป็นสมาชิกได฾จากฐานข฾อมูลซีดีรอม ฐานข฾อมูลออนไลน์และเครือข฽ายคอมพิวเตอร์ โดยสถาบันการศึกษาต฽างๆ มีบรกิ ารฐานข฾อมูลวารสารอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อการศึกษาค฾นคว฾าเชิงวิชาการ ทําให฾เกิดประโยชน์ในการเรียนการสอน งานวิจัย รวมถึงการเพ่ิมพูนความรู฾และประสบการณ์แก฽บุคลากรและนักศึกษา โดยสํานักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ให฾บริการวารสารอิเลก็ ทรอนกิ ส์ ทง้ั ที่เป็นเนือ้ หาสรปุ หรอื บทคัดย฽อหรือสาระสังเขป และเอกสารฉบบั เต็ม ดงั นี้ตารางท่ี 6.1 ฐานข฾อมูลวารสารอิเล็กทรอนิกส์ (e-Journal) ที่มีให฾บริการในสํานักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต (สํานักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศมหาวิทยาลยั ราชภัฏสวนดสุ ติ , 2554)ชอ่ื ฐานข้อมูล รายละเอียดACM Digital Library เป็นฐานขอ฾ มลู ทางดา฾ นคอมพิวเตอรแ์ ละเทคโนโลยสี ารสนเทศ จากวารสาร นิตยสาร เอกสารการประชุมวิชาการ จดหมายข฽าว และ ขา฽ วสารทจี่ ัดทาํ โดย ACM (Association for Computing Machinery) ข฾อมลู เอกสาร บทความฉบับเตม็ บรรณานุกรม และสาระสังเขปACS Journals ครอบคลุมสาขาวชิ าเคมี และสาขาวิชาท่ีเกย่ี วข฾อง จาก The American Chemical Society ให฾ข฾อมูลบทความวารสารฉบับเต็มเฉพาะวารสารท่ี บอกรบั ตวั เลม฽ เทา฽ นนั้EBSCO Academic ครอบคลุมสหสาขาวชิ า ได฾แก฽ สงั คมศาสตร์ มนุษยศาสตร์Search Premier ศิลปศาสตร์ ศึกษาศาสตร์ ประวตั ศิ าสตร์ นติ ิศาสตร์ บริหารธุรกจิ วทิ ยาศาสตร์ท่วั ไป วิทยาศาสตรส์ ขุ ภาพ และวิทยาศาสตรส์ ่ิงแวดลอ฾ ม เป็นตน฾ ให฾ข฾อมูลดรรชนแี ละสาระสงั เขปไมน฽ ฾อยกวา฽ 8,500 ชอื่ เรื่อง และ เอกสารฉบับเต็ม (full text)

116 ชื่อฐานข้อมูล รายละเอียดBSCO Business เปน็ ฐานข฾อมูลที่มเี น้ือหาครอบคลุมสาขาวชิ าด฾านการบริหารธุรกิจ และSource Complete การจดั การ การตลาด การโฆษณาประชาสมั พันธ์ การบญั ชี การเงินและ การธนาคาร เปน็ ตน฾ เปน็ เอกสารฉบบั มีวารสารฉบับใหม฽เพม่ิ ขึน้ ทุกปีEBSCO Computer และมีวิดีโอประกอบการเรียนการสอน จาก Harvard Business& Applied School การใชง฾ านโดยผา฽ นระบบ IP ของม.ราชภัฏสวนดสุ ติ เท฽านั้นSciences ครอบคลุมสาขาวชิ า วทิ ยาการคอมพิวเตอร์ การวิจยั และComplete(CASC) การพฒั นา การประยุกตใ์ ช฾ CASE การแสดงข฾อมลู ดัชนี สาระสังเขปEBSCO Education วารสารวิชาการ ส่งิ พิมพ์ และวารสารฉบับเต็มResearchComplete เปน็ ฐานขอ฾ มูลเฉพาะทางด฾านการศึกษา ซึ่งรวบรวมวารสารหลัก (coreEmerald journals) หนังสือ (books and monographs) และงานวิจัยเฉพาะManagement Xtra, ทางตา฽ งๆEMX PLUS ครอบคลุมสาขาวชิ าด฾านการจัดการ การบญั ชีและการเงินธุรกจิERIC เศรษฐศาสตร์ และทรัพยากรมนุษย์ เป็นต฾น การใช฾งานโดยผ฽านระบบ IP ของม.ราชภฏั สวนดุสติ เท฽าน้ันISI Web of Science เปน็ ฐานข฾อมลู สงิ่ พิมพด์ ฾านการศึกษา และสาขาท่ีเกี่ยวข฾อง จากวารสาร บทความ งานวจิ ัย รายงานการศึกษา คู฽มือต฽างๆH.W.Wilson ให฾ขอ฾ มูลทางบรรณานกุ รมและสาระสงั เขป ครอบคลุมสาขาวชิ า วทิ ยาศาสตร์ มนษุ ยศาสตร์ สังคมศาสตร์ และIEEE/IEE Electronic ศลิ ปะ จากวารสาร รวมทั้งยงั สามารถบอกการอา฾ งองิ ไดด฾ ว฾ ย (citedLibrary (IEL) references) ครอบคลุมสาขาวชิ า วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี มนุษยศาสตร์ProQuest สงั คมศาสตร์ ศลิ ปะ เกษตรศาสตร์ ธุรกจิ และการศึกษา ให฾ข฾อมูลABI/INFORM ดรรชนี สาระสงั เขป และเนื้อหาเตม็ ตามเอกสารตน฾ ฉบบัComplete ครอบคลุมสาขาวิชาคอมพวิ เตอรแ์ ละเทคโนโลยสี ารสนเทศ วิศวกรรมไฟฟูาอิเลก็ ทรอนิกส์ และสาขาวชิ าที่เกี่ยวข฾องProQuest Nursing จากบทความวารสาร นิตยสาร เอกสารการประชุม รวมทงั้ เอกสาร& Allied Health มาตรฐานของ IEEESource รวบรวมขอ฾ มูลทางด฾านธุรกิจ การตลาด การโฆษณา เศรษฐศาสตร์ การ จัดการทรพั ยากรมนุษย์ การเงิน ภาษี และรฐั ประศาสนศาสตร์ รวมถงึ สารสนเทศของบรษิ ัทต฽างๆ และสามารถคน฾ บทความฉบบั เต็มไดจ฾ าก วารสารท่ัวโลก ครอบคลุมสาขาการพยาบาลและสหเวชศาสตร์ ประกอบด฾วย สาธารณสุข สขุ อนามยั รังสีวิทยา ทนั ตกรรม และคลนิ ิก รปู แบบเนือ้ หา เปน็ ฉบบั เตม็ การใช฾งานโดยผ฽านระบบ IP ของม.ราชภฏั สวนดุสติ เท฽านนั้

117 ชือ่ ฐานข้อมูล รายละเอยี ดScience Direct ครอบคลุมสาขาวชิ า การแพทย์ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์สขุ ภาพ สังคมศาสตรแ์ ละมนุษยศาสตร์ มบี รรณานกุ รม พรอ฾ มสาระสงั เขป และบทความฉบบั เตม็ ผูใ฾ ช฾สามารถค฾นหาฐานขอ฾ มูลวารสารอิเล็กทรอนิกส์ได฾โดยเข฾าไปที่เว็บไซต์ของสํานักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต http://arit.dusit.ac.th เลือกเมนู“ฐานข฾อมูลออนไลน์” จะปรากฏรายช่ือและรายละเอียดของฐานข฾อมูลวารสารอิเล็กทรอนิกส์ต฽างๆใหส฾ บื ค฾นไดต฾ ามความต฾องการ (ภาพท่ี 6.3) โดยก฽อนท่ีผ฾ูใช฾จะทําการสืบค฾น ควรอ฽านคู฽มือใช฾งาน ซึ่งจะบอกรายละเอียดเก่ียวกับขั้นตอนในการสืบค฾นวารสารอิเล็กทรอนิกส์ในแต฽ละฐานข฾อมูล เพ่ือจะได฾สืบค฾นอย฽างถกู วิธีและได฾ขอ฾ มูลที่ตรงกับความต฾องการ ภาพท่ี 6.3 เวบ็ ไซตส์ ํานักวทิ ยบรกิ ารและเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลยั ราชภฏั สวนดสุ ติ ที่ให฾บรกิ ารฐานข฾อมูลวารสารอิเล็กทรอนิกส์ (e-Journal) 2. ฐานข้อมูลหนงั สอื อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e-Book) เป็นหนังสือท่ีสร฾างขึ้นด฾วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์มีลักษณะเป็นเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ โดยปกติมักจะเป็นแฟูมข฾อมูลที่สามารถอ฽านเอกสารผ฽านทางหน฾าจอคอมพวิ เตอร์ หรอื อปุ กรณอ์ เิ ลก็ ทรอนิกสแ์ บบพกพาอนื่ ๆ ได฾ ทั้งในระบบออฟไลน์และออนไลน์ทาํ ให฾เกิดความสะดวกรวดเร็วในการใช฾งาน และผู฾อ฽านสามารถอ฽านพร฾อมๆ กันได฾ โดยไม฽ต฾องรอให฾อีกฝุายส฽งคืนหนังสือกับมาท่ีห฾องสมุด ซ่ึงแตกต฽างกับหนังสือในห฾องสมุดทั่วๆ ไป (สํานักเทคโนโลยีเพ่ือการเรียนการสอน สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐาน, 2554) โดยสถาบันการศึกษาต฽างๆจะมีบริการฐานข฾อมูลหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เพ่ืออํานวยความสะดวกแก฽บุคลากรและนักศึกษาของ

118สถาบันนนั้ ๆ โดยสาํ นักวทิ ยบริการและเทคโนโลยสี ารสนเทศ มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏสวนดุสิต ให฾บริการหนงั สืออิเลก็ ทรอนิกส์ ในลักษณะของเอกสารฉบับเต็ม จากสํานักพิมพ์ช้ันนําในหลากหลายสาขาวิชา(ตารางที่ 6.2 และภาพที่ 6.4) รวมท้ังผลงานของมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ได฾แก฽ ผลงานวิจัยหนงั สือ ตาํ รา ผลงานทางวิชาการ ภาคนพิ นธ์และวทิ ยานพิ นธ์ของบณั ฑติ วิทยาลัย (ภาพที่ 6.5)ตารางท่ี 6.2 ฐานข฾อมูลหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e-Book) ที่มีให฾บริการในสํานักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต (สํานักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศมหาวิทยาลัยราชภฏั สวนดสุ ิต, 2554)ชื่อฐานข้อมูล รายละเอียดNetLibrary หนงั สอื อเิ ล็กทรอนิกสข์ อง NetLibrary จํานวน 5,962 รายการ และe-Book หนังสือ Public Accessible eBooks จาํ นวน 3,461 รายการ ครอบคลุมทกุ สาขาวชิ า ใหเ฾ นอื้ หาฉบบั เต็มSpringerLink หนังสืออเิ ลก็ ทรอนิกส์ จากสาขาวิชาชีววิทยา แพทย์ เคมี คอมพิวเตอร์e-Book วศิ วกรรมไฟฟาู และสง่ิ แวดล฾อม เปน็ ต฾น ให฾เนื้อหาฉบบั เต็มEbrary ครอบคลุมสาขาวิชา คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยี สารสนเทศe-Book เศรษฐศาสตร์ธรุ กจิ วทิ ยาศาสตร์ มนษุ ยศาสตร์ พยาบาลศาสตร์ วิทยาศาสตร์สงิ่ แวดล฾อม การเมืองการปกครอง และกฎหมาย เปน็ ต฾น เป็นเอกสารฉบับเตม็ ผูใ฾ ชส฾ ามารถค฾นหาฐานข฾อมูลหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ได฾โดยเข฾าไปท่ีเว็บไซต์ของสํานักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยราชภัฏสว นดุสิต http://arit.dusit.ac.th ซึ่งฐานข฾อมูลหนังสืออิเล็กทรอนิกส์จะสามารถค฾นหาได฾จาก 2 เมนู คือ ฐานข฾อมูลออนไลน์ และหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ ดงั น้ี 1) เลือกเมนู “ฐานข฾อมูลออนไลน์” เช฽นเดียวกับการค฾นหาวารสารอิเล็กทรอนิกส์ โดยจะปรากฏรายช่ือและรายละเอียดของฐานข฾อมูลหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ต฽างๆ (ภาพที่ 6.4)หากผู฾ใช฾จะทําการค฾น ควรอ฽านคู฽มือใช฾งานก฽อนเช฽นกัน เพื่อจะได฾สืบค฾นอย฽างถูกวิธีและได฾ข฾อมูลที่ตรงกบั ความต฾องการ

119 ภาพท่ี 6.4 เว็บไซตส์ าํ นกั วิทยบรกิ ารและเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏสวนดสุ ติ ทใ่ี หบ฾ รกิ ารฐานข฾อมลู หนังสืออเิ ล็กทรอนกิ ส์ (e-Book) 2) เลือกเมนู “หนังสืออิเล็กทรอนิกส์” จากหน฾าเว็บไซต์ของสํานักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ หากต฾องการค฾นหาผลงานวิจัย หนังสือ ตํารา ผลงานทางวิชาการ ภาคนิพนธ์และวิทยานพิ นธข์ องบัณฑติ วิทยาลัย มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏสวนดุสิต (ภาพท่ี 6.5) ภาพที่ 6.5 เว็บไซต์ฐานข฾อมลู หนังสอื อิเล็กทรอนิกส์ทเ่ี ป็นผลงานวจิ ัย หนังสือ ตํารา ผลงานทาง วิชาการ ภาคนพิ นธแ์ ละวิทยานพิ นธ์ของบณั ฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลยั ราชภัฏสวนดุสิต

120 สําหรบั เวบ็ ไซต์ที่ใหบ฾ ริการ e-Book อน่ื ๆ ทนี่ า฽ สนใจ ได฾แก฽ - Google books (books.google.co.th) - หนงั สอื บทความเกย่ี วกบั คอมพิวเตอร์ การใช฾งานโปรแกรมคอมพวิ เตอร์(http://www.siamebook.com) - ศนู ย์รวมตาํ ราเรยี น ม.รามคําแหง (http://e-book.ram.edu/e-book/indexstart.htm) - หนังสืออิเลก็ ทรอนิกส์สํานักหอสมุดแหง฽ ชาติ(http://www.nlt.go.th/data/ebooks/ebooks.html) 3. ฐานขอ้ มูลวทิ ยานิพนธ์อิเลก็ ทรอนิกส์หรอื งานวิจัยอิเล็กทรอนิกส์ ฐานข฾อมูลวิทยานิพนธ์อิเล็กทรอนิกส์ (e-Thesis) หรืองานวิจัยอิเล็กทรอนิกส์(e-Research) เป็นฐานข฾อมลู ดษุ ฎนี ิพนธ์ วิทยานพิ นธ์ ภาคนพิ นธ์ งานวจิ ัย และบทความวารสารโดยสํานักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ให฾บริการค฾นหาวิทยานิพนธอ์ เิ ลก็ ทรอนิกส์หรอื งานวิจยั อเิ ล็กทรอนกิ ส์ ทั้งของไทยและต฽างประเทศ ดังน้ีตารางท่ี 6.3 ฐานข฾อมูลวิทยานิพนธ์อิเล็กทรอนิกส์ (e-Thesis) ท่ีมีให฾บริการในสํานักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต (สํานักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศมหาวิทยาลยั ราชภัฏสวนดสุ ติ , 2554)ช่อื ฐานข้อมูล รายละเอยี ดTDC (ThaiLIS) เปน็ ฐานขอ฾ มลู ภาคนิพนธ์ วิทยานพิ นธ์ งานวิจัย บทความวารสาร และ หนงั สือหายาก (ฉบบั ภาษาไทย) ในรปู แบบของเอกสารเต็มฉบับ เป็น เครอื ข฽ายความร฽วมมือระหวา฽ งหอ฾ งสมดุ มหาวิทยาลยั ของ รฐั /เอกชน/สถาบัน ใชง฾ านได฾เฉพาะเครือข฽ายเท฽าน้นัProQuest เปน็ ฐานขอ฾ มลู วิทยานิพนธ์ระดับปริญญาโทและปริญญาเอก ของDissertations มหาวิทยาลยั ทว่ั โลกทุกสาขาวิชา ให฾ขอ฾ มลู บรรณานุกรม และ&Theses สาระสังเขปProQuest เป็นฐานข฾อมูลวทิ ยานิพนธร์ ะดับปริญญาโทและปริญญาเอกDissertation Full จากสถาบนั ตา฽ งๆ ทม่ี ีช่ือเสยี ง ให฾ขอ฾ มูลบรรณานุกรมและเอกสารฉบบัText เต็ม ของวิทยานิพนธ์ไม฽น฾อยกว฽า 3,850 ชือ่ เรือ่ ง ผ฾ใู ชส฾ ามารถสบื คน฾ ฐานขอ฾ มูลวิทยานิพนธ์อิเล็กทรอนิกส์ได฾โดยเข฾าไปท่ีเว็บไซต์ของสํานักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต http://arit.dusit.ac.th เลือกเมนู “ฐานข฾อมูลออนไลน์” จะปรากฏรายช่ือและรายละเอียดของฐานข฾อมูลวิทยานิพนธ์อิเล็กทรอนิกส์ต฽างๆ ให฾สืบค฾นได฾ตามความต฾องการ (ภาพท่ี 6.6) โดยก฽อนที่ผู฾ใช฾จะทําการสืบค฾น ควรอ฽านค฽ูมือใช฾งาน ซ่ึงจะบอกรายละเอียดเก่ียวกับข้ันตอนในการสืบค฾นวิทยานิพนธ์อิเล็กทรอนิกส์ในแต฽ละฐานข฾อมูล เพอื่ จะไดค฾ ฾นอย฽างถกู วิธแี ละไดข฾ ฾อมูลท่ตี รงกบั ความต฾องการ

121 ภาพที่ 6.6 เว็บไซต์สาํ นักวทิ ยบริการและเทคโนโลยสี ารสนเทศ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสติ ท่ีใหบ฾ รกิ ารฐานข฾อมูลวิทยานิพนธอ์ เิ ล็กทรอนิกส์ (e-Thesis) 4. ฐานข้อมลู กฤตภาค ฐานข฾อมูลกฤตภาค (clipping) เป็นบรกิ ารข฾อมลู ขา฽ วสารท่ผี ฾รู บั บริการสามารถค฾นหาข฽าวที่ตัดจากหนังสือพิมพ์ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ครอบคลุมหัวข฾อข฽าวต฽างๆ เช฽น พระราช -กรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ฾าอย฽ูหัว การศึกษา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ส่ิงแวดล฾อมเศรษฐกิจ และการเมือง เป็นต฾น และเลือกสรรนําเสนอทางออนไลน์ ซึ่งสามารถติดตามอ฽านได฾จากเวบ็ ไซต์ โดยสาํ นกั วิทยบรกิ ารและเทคโนโลยสี ารสนเทศ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ให฾บริการกฤตภาคในลักษณะของบทความจากหนังสือพิมพ์ ซึ่งสามารถสืบค฾นได฾โดยเข฾าไปที่เว็บไซต์ของสํานักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต http://arit.dusit.ac.th เลือกเมนู“กฤตภาคออนไลน์” จะปรากฏรายชื่อของฐานข฾อมูลกฤตภาคจาก 3 ฐานข฾อมูล ให฾สืบค฾นได฾ตามความตอ฾ งการ (ภาพที่ 6.7)

122 ภาพที่ 6.7 เวบ็ ไซตส์ าํ นักวิทยบริการและเทคโนโลยสี ารสนเทศ มหาวิทยาลยั ราชภัฏสวนดสุ ิต ท่ใี หบ฾ รกิ ารฐานข฾อมูลกฤตภาค (clipping) 5. ฐานขอ้ มลู รายการทรพั ยากรสารสนเทศของสถาบันบริการสารสนเทศ ระบบการสืบคน฾ ทรัพยากรสารสนเทศของสถาบนั บรกิ ารสารสนเทศผา฽ นทางอินเทอร์เน็ตคอื ระบบโอแพ็ก (Online Public Access Catalog: OPAC) ด฾วยโปรแกรมห฾องสมุดอัตโนมัติซึ่งเป็นโปรแกรมสําเร็จรูป ได฾แก฽ VTLS, TINLIB, INNOPAC, DYNIX, และ HORIZON เป็นต฾น หรือบางสถาบันอาจพัฒนาข้ึนเอง รายการที่สืบค฾นได฾จะอย฽ูในรูปของข฾อมูลทางบรรณานุกรมท่ีมีอยู฽ในสถาบันบริการสารสนเทศ เช฽น เลขเรียกหนังสือ (call number) เลขมาตรฐานสากลประจําหนังสือ (ISBN)ชื่อผ฾แู ต฽ง (author) ชื่อหนังสอื (title) และสาํ นักพมิ พ์ (publication) เป็นตน฾ สํานักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ให฾บริการสืบค฾นทรัพยากรสารสนเทศของสํานักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ ผ฽านทางอินเทอร์เน็ตดว฾ ยโปรแกรมห฾องสมดุ อัตโนมัติ VTLS ซึ่งสามารถค฾นหาได฾โดยเข฾าไปท่ีเว็บไซต์ของสํานักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต http://arit.dusit.ac.th เลือกเมนู สืบค฾น“หนงั สือและวารสาร” จะปรากฏหนา฾ จอใหใ฾ ส฽คําค฾น ดงั ภาพท่ี 6.8

123 ภาพที่ 6.8 เวบ็ ไซตส์ าํ นกั วิทยบริการและเทคโนโลยสี ารสนเทศ มหาวิทยาลยั ราชภัฏสวนดสุ ติ ทใี่ ห฾บรกิ ารสืบค฾นรายการทรัพยากรสารสนเทศเทคนคิ การสืบคน้ เพือ่ ประหยัดเวลาในการสืบคน฾ ข฾อมลู ทําให฾ได฾ข฾อมูลในปริมาณที่ไม฽มากเกินไป และได฾ผลการคน฾ ทตี่ รงตามประสงค์ของผคู฾ ฾น สามารถใชเ฾ ทคนิคเหลา฽ น้ี ไดแ฾ ก฽ (มารยาท โยทองยศ, 2554) 1. เลือก search engine หรือโปรแกรมท่ีช฽วยในการค฾นหาข฾อมูลบนอินเทอร์เน็ตท่ีเหมาะสม เช฽น http://www.google.co.th 2. เลือกใชค฾ ําสาํ คัญ (keyword) หรอื หวั เรือ่ ง (subject) ทีต่ รงกบั เรื่องท่ีตอ฾ งการ 3. กําหนดขอบเขตของคําค฾น โดยใช฾ตัวเชื่อมบูลีน (boolean operators) เช฽น AND ORNOT เปน็ ต฾น หรอื การคน฾ วลี (phrase searching) การตัดคาํ หรือการใช฾คําเหมอื น ดงั ตารางที่ 6.4

124ตารางที่ 6.4 คําเชอื่ มและเครอื่ งหมายท่ีใชใ฾ นการสืบค฾นสารสนเทศ คาเชอ่ื ม/ คาอธบิ าย ตวั อยา่ งเครอื่ งหมายAND เปน็ การเชือ่ มคําคน฾ ต้ังแต฽สองคาํ ขึ้นไป โดยทผี่ ลการสบื คน฾ ต฾อง คอมพิวเตอร์ ปรากฏคําทั้งสองในระเบียนผลการสืบค฾น AND อินเทอรเ์ น็ตOR เปน็ การเชอื่ มคําคน฾ ตั้งแตส฽ องคําขึ้นไป โดยทผี่ ลการสืบค฾นจะ คอมพิวเตอร์ OR ปรากฏคาํ ใดคาํ หนึง่ หรือคําท้ังสองในระเบียนผลการสืบค฾น อนิ เทอร์เนต็NOT เปน็ การเชื่อมคําคน฾ ตั้งแตส฽ องคําข้นึ ไป โดยท่ผี ลการสืบคน฾ จะ คอมพวิ เตอร์ ปรากฏคาํ แรกเพียงคําเดยี วเท฽านัน้ และไม฽ตอ฾ งการให฾ปรากฏคาํ NOT อนิ เทอร์เน็ต หลังในระเบียนผลการสืบคน฾ (อาจใช฾เครื่องหมาย – แทน NOT ได฾)? เป็นการใช฾สัญลักษณ์ “?” แทนตัวอักษรใดๆ ในการสืบค฾น Int??net ข฾อมูล โดยทผ่ี ลการสบื ค฾นจะปรากฏคําที่ใชใ฾ นการสบื คน฾ ใน ระเบยี นผลการสืบค฾นเชน฽ int??net ผลการสบื คน฾ คอื internet, intranet …* เปน็ การคน฾ กลมุ฽ คาํ หรือคําท่ีไม฽แน฽ใจด฾วยสญั ลักษณ์ “ * ” “Inter*” ซง่ึ จะแทนตวั อกั ษรใดๆ ทต่ี ามหลงั คาํ คน฾ ในการสืบค฾นข฾อมูล โดยท่ีผลการสืบคน฾ จะปรากฏคาํ ทีใ่ ช฾ในการสืบค฾นในระเบยี นผล การสบื คน฾ โดยเขยี นให฾อยู฽ในเครอ่ื งหมายคําพูด เช฽น “int*” ผลการสบื ค฾นคอื inter, internet, international, …….# เปน็ การใช฾สัญลักษณ์ “#” เพอ่ื กาํ หนดใหส฾ บื ค฾นข฾อมลู เฉพาะ Program# คําที่กําหนดไวเ฾ ทา฽ นัน้ โดยทีผ่ ลการสืบคน฾ จะปรากฏเฉพาะคาํ ท่ี ใชใ฾ นการสบื คน฾ ในระเบียนผลการสืบคน฾ คน฾ หาคาํ พ฾องความหมาย (synonyms) ดว฾ ยเคร่ืองหมาย “” food โดยผลลัพธข์ องการสบื ค฾นจะปรากฏคาํ ที่มีความหมายคล฾าย หรอื ใกลเ฾ คียงกับคาํ ค฾น“ ” ค฾นหาให฾ตรงกบั คําน้ันด฾วยเคร่ืองหมายคาํ พูด ใช฾สาํ หรบั ค฾นหา “ปรศิ นา มชั ฌมิ า” สิ่งทที่ ราบแน฽นอน เช฽น ชือ่ บุคคล ช่ือหนงั สอื ช่อื เพลง และช่อื สถานท่ี เป็นตน฾

125การสบื ค้นสารสนเทศมัลติมีเดยี มัลติมีเดีย (multimedia) คือ การนําองค์ประกอบของสื่อชนิดต฽างๆ มาผสมผสานเข฾าด฾วยกัน ซ่ึงประกอบด฾วยตัวอักษร (text) รูปภาพ (image) ภาพเคลื่อนไหว (animation) เสียง(sound) และวีดิทัศน์ (video) โดยผ฽านกระบวนการทางระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อสื่อความหมายกับผ฾ูใช฾อย฽างมีปฏิสัมพันธ์ (interactive) ตามวัตถุประสงค์การใช฾งาน เช฽น เพื่อเป็นสื่อการเรียนการสอนเพื่อนําเสนองาน และเพ่ือความบันเทิง เป็นต฾น (ทวีศักดิ์ กาญจนสุวรรณ, 2552) ซ่ึงในอินเทอร์เน็ตมีสอ่ื มลั ตมิ เี ดยี จํานวนมากใหบ฾ รกิ ารแก฽ผใ฾ู ช฾ โดยสามารถสบื ค฾นได฾ดังน้ี 1. การสืบคน้ รูปภาพในอนิ เทอรเ์ น็ต รูปภาพจะถูกจัดเก็บในรูปแบบของบิตตัวเลขซ่ึงไม฽ใช฽ข฾อความ ทําให฾ไม฽สามารถนํารูปแบบดงั กล฽าวมาเปรยี บเทียบเพ่อื ใช฾สบื ค฾นไดโ฾ ดยตรง ดังนั้นจงึ ใช฾วิธีการใส฽เงื่อนไขการค฾นที่เกี่ยวข฾องกับรูปภาพท่ีต฾องการแทน เช฽น ช่ือไฟล์ และชนิดของไฟล์ ดังนั้นในการค฾นรูปภาพจะอาศัยการวิเคราะหข์ ฾อความแวดล฾อมของรูปภาพ อาจจะเป็นข฾อความบรรยายเหนือภาพหรือใต฾ภาพ ซ่ึงอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับรูปภาพน้ันๆ ดังน้ันการกําหนดคําที่ใช฾ในการค฾นรูปภาพจึงเป็นปัจจัยสําคัญเพ่ือให฾ได฾รูปภาพที่ตรงกับความต฾องการมากท่ีสุด นอกจากน้ันยังมีการพัฒนาการค฾นรูปภาพด฾วยรูปภาพ โดยการอาศัยหลักการประมวลผลภาพ (image processing) และการรู฾จําภาพ (patternrecognition) เป็นสําคญั 1.1 การสืบค฾นรูปภาพจากคําค฾น โดยเว็บไซต์ที่นิยมใช฾ในการสืบค฾นข฾อมูลมากที่สุด คือgoogle ซ่ึงสามารถใช฾ในการค฾นหารูปภาพได฾เช฽นกัน ที่เรียกว฽า google image search โดยเข฾าไปท่ีเวบ็ ไซต์ของ google แลว฾ คลกิ ท่เี มนู “รูปภาพ (image)” หรือเข฾าไปที่ http://images.google.co.thได฾โดยตรง (ภาพที่ 6.9)จากนั้นจึงพิมพ์คําค฾นในช฽องค฾นหาเพื่อค฾นหารูปภาพท่ีเกี่ยวข฾องจากเว็บไซต์ต฽างๆ ผลการคน฾ หาจะปรากฏหน฾าทีม่ ีภาพขนาดยอ฽ ท่ีอาจเก่ยี วขอ฾ งกบั สิ่งที่ผ฾ูใช฾กําลังค฾นหา โดยภาพจะได฾รบั การจดั เรยี งเป็นหน฾าๆ และสามารถใช฾แถบเลื่อนเพื่อเล่ือนดูภาพในหน฾าเว็บไซต์ โดยปกติแล฾วจะแสดงภาพหน่ึงร฾อยภาพแรกก฽อน เม่ือต฾องการดูภาพเพิ่มเติม ให฾เล่ือนลงมาท่ีด฾านล฽างสุดของหน฾าและคลิก แสดงผลการค฾นหาเพ่ิมเติม ภาพจะได฾รับการจัดเรียงตามความเกี่ยวข฾องกับผลการค฾นหาและขนาดของภาพ (ภาพที่ 6.10) ภาพท่ี 6.9 หนา฾ เวบ็ ไซต์สืบค฾นรปู ภาพจากคําค฾นดว฾ ย http://images.google.co.th

126 ภาพที่ 6.10 ผลการสบื ค฾นรูปภาพจากคาํ วา฽ “ดอกไม฾” ด฾วย http://images.google.co.th 1.2 การสบื คน฾ รปู ภาพจากรปู ภาพ ในการสืบค฾นรูปภาพนอกจากจะค฾นจากคําค฾นแล฾วยังสามารถค฾นจากรูปภาพได฾ด฾วย เช฽น ใน google image search สามารถค฾นหาเนื้อหาทุกประเภทที่เก่ียวข฾องกับแต฽ละรูปภาพ เพียงระบุรูปภาพ ซึ่งจะพบรูปภาพท่ีคล฾ายกันหรือเก่ียวข฾องกัน ตลอดจนหน฾าเว็บและผลการค฾นหาอ่ืนๆ ท่ีเก่ียวข฾อง ตัวอย฽างเช฽น ค฾นหาโดยใช฾รูป “รถ” แล฾วจะพบกับผลการค฾นหาท่ีอาจมีรูปภาพที่คล฾ายกัน หน฾าเว็บไซต์ที่เก่ียวกับรถ ตลอดจนเว็บไซต์ที่มีรูปภาพเดียวกัน โดยgoogle จะใช฾เทคนิคการวิเคราะห์ภาพของคอมพิวเตอร์เพื่อจับค฽ูรูปภาพท่ีค฾นกับรูปภาพอื่นๆ ในดรรชนีของ google images และคอลเล็กชัน (collection) รูปภาพเพิ่มเติม จากการจับคู฽เหล฽านั้นgoogle จะพยายามสร฾างข฾อความคําอธิบายที่ \"คาดเดาใกล฾เคียงที่สุด\" สําหรับรูปภาพท่ีค฾น พร฾อมทั้งค฾นหารูปภาพอ่ืนๆ ที่มีเนื้อหาเดียวกันกับรูปภาพที่ใช฾ค฾นหา หน฾าผลการค฾นหาสามารถแสดงผลการค฾นหาสาํ หรบั ขอ฾ ความคาํ อธบิ ายไดเ฾ ช฽นเดียวกับรปู ภาพที่เกย่ี วข฾อง การค฾นหาด฾วยรูปภาพ ผู฾ใช฾สามารถเข฾าไปท่ี images.google.com หรือหน฾าผลการคน฾ หาใดก็ได฾ของ images แลว฾ คลิกท่ีไอคอนกลอ฾ งถา฽ ยรูป ในช฽องค฾นหา (ภาพที่ 6.11) ปูอน URL ของรูปภาพสําหรับรูปภาพที่โฮสต์ (host) อย฽ูบนเว็บ หรืออัปโหลด (upload) รูปภาพจากคอมพิวเตอร์ของผค฾ู ฾น ดงั นี้

127 1.2.1 วิธีปูอน URL ของรูปภาพ 1) ในหน฾าเว็บใดๆ ให฾คลิกขวาท่ีรูปภาพแล฾วเลือกตัวเลือกท่ีจะคัดลอกรูปภาพน้ัน ใน browser (เบราว์เซอร์) ส฽วนใหญ฽ ช่ือของตัวเลือกนี้จะข้ึนต฾นด฾วย \"คัดลอกรูปภาพ\" ยกเว฾นInternet Explorer ซึง่ จะต฾องเลอื ก \"คณุ สมบัต\"ิ จากนน้ั คดั ลอก URL ทป่ี รากฏขน้ึ 2) ไปที่ images.google.com หรอื หน฾าผลการค฾นหาใดก็ได฾ของ Images แล฾วคลิกไอคอนกลอ฾ งถา฽ ยรปู ในชอ฽ งค฾นหา 3) วาง URL ท่คี ดั ลอกมาลงในช฽องค฾นหา 4) คลิก “คน฾ หา” 1.2.2 วธิ ี upload รปู ภาพ 1) ไปท่ี images.google.com หรอื หน฾าผลการค฾นหาใดก็ได฾ของ Images แล฾วคลกิ ไอคอนกลอ฾ งถ฽ายรปู ในช฽องค฾นหา 2) คลกิ เมนูปอัปโหลดภาพ 3) คลกิ ปุม Browse… เพอื่ เลือกไฟล์ 4) เลือกรูปภาพจากคอมพวิ เตอรข์ องผ฾คู ฾น การค฾นจากรูปภาพสามารถทํางานร฽วมกับเบราว์เซอร์ Chrome, Firefox 3.0 ข้ึนไป,Internet Explorer 8 ขึน้ ไป และ Safari 5.0 ขึน้ ไป ภาพที่ 6.11 หนา฾ เว็บไซตส์ ืบค฾นรูปภาพจากรปู ภาพของ images.google.co.th เม่ือคลิกทีไ่ อคอน กลอ฾ งถ฽ายรูป ผลการค้นหา เมอ่ื คน฾ จากภาพ ผลการค฾นหาจะดแู ตกต฽างจากหน฾าผลการค฾นหารูปภาพหรือเวบ็ตามปกติ ความแตกตา฽ งทเี่ ด฽นชัด คือ ผลการค฾นหาอาจมีผลการค฾นหาท่ไี มใ฽ ช฽รปู ภาพ เช฽น หน฾าเว็บท่ีเก่ียวขอ฾ งกบั รปู ภาพทคี่ ฾นหา สว฽ นประกอบของหน฾าผลการคน฾ หาจะเปลี่ยนไปตามการค฾นหาและข฾อมูลท่เี กีย่ วข฾องกบั การคน฾ หานน้ั มากทสี่ ดุ (ภาพท่ี 6.12) นอกจากจะคน฾ รปู ภาพจากเวบ็ ไซต์ของ googleแลว฾ ยงั สามารถค฾นรปู ภาพจากเวบ็ ไซต์อื่นๆ ได฾อีก ดังตารางท่ี 6.5

128ภาพท่ี 6.12 ผลการสบื ค฾นรูปภาพจากรูป “รถ” ด฾วย images.google.co.thตารางท่ี 6.5 เว็บไซต์ศูนย์รวมการสบื คน฾ รูปภาพ URL ชือ่ เวบ็ ไซต์ http://images.search.yahoo.com http://www.picsearch.comhttp://www.thrall.org/lightswitch/images.html http://www.bing.com http://www.icerocket.com http://www.tineye.com 2. การสืบค้นเสยี งในอนิ เทอร์เน็ต การสืบค฾นเสียงในอินเทอร์เน็ตสามารถค฾นได฾ด฾วยคําค฾นและเสียง อาจจะเป็นเสียงคนเสียงดนตรีหรือเสียงเพลง (speech/music retrieval) ซ่ึงต฾องอาศัยหลักการร฾ูจําเสียง (speechrecognition) ซง่ึ สามารถสืบคน฾ ได฾ดงั นี้ 2.1 การสืบคน฾ เสยี งจากคาํ ค฾น หลงั จากยคุ ของไฟล์เสียงเร่ิมเข฾ามาเป็นเน้ือหา (content)หลักอย฽างหนึ่งในอินเทอร์เน็ต ยาฮู (Yahoo) จึงเปิดบริการค฾นหาไฟล์เสียงจากhttp://music.yahoo.com โดยรวมเอาท้ังการค฾นหาเพลง ข฽าว พอดแคสติง (podcasting)

129ตลอดจนไฟล์เสียงทั่วๆ ไป ดังภาพที่ 6.13 ซ่ึงผู฾ใช฾สามารถค฾นไฟล์เสียงโดยการใส฽คําค฾นเข฾าไปในช฽องคน฾ หา เหมอื นกบั การค฾นขอ฾ มูลท่วั ไปในอนิ เทอร์เนต็ ภาพท่ี 6.13 หน฾าเว็บไซตส์ บื คน฾ เสียงจากคําคน฾ ดว฾ ย http://music.yahoo.com 2.2 การสืบค฾นเสียงจากเสียง Google ได฾พัฒนาระบบค฾นข฾อมูลด฾วยเสียง (voicesearch) ซ่ึงช฽วยให฾ผู฾ใช฾สามารถค฾นข฾อมูลได฾อย฽างสะดวกและรวดเร็วขึ้น ซ่ึงเป็นการช฽วยเพิ่มทางเลือกในการค฾นข฾อมูลให฾กับผ฾ูใช฾งาน แต฽ทางเลือก (option) ในการค฾นด฾วยเสียงจะสามารถใช฾งานได฾บนเวบ็ เบราวเ์ ซอร์ (web browser) ทเี่ ปน็ Google Chrome เท฽าน้นั โดยผู฾ใช฾สามารถใช฾บริการน้ีได฾ด฾วยการคลกิ ปุมรูปไมโครโฟนทีอ่ ยถู฽ ดั จากช฽องคน฾ หา ดังภาพท่ี 6.14 (ระบบค฾นหาข฾อมูลดว฾ ยเสยี ง, 2554) ภาพที่ 6.14 หนา฾ เวบ็ ไซต์การสบื คน฾ เสียงด฾วยเสยี งจาก Google

130ตารางท่ี 6.6 เวบ็ ไซตศ์ นู ย์รวมการสบื ค฾นเสยี ง URL ช่อื เว็บไซต์ http://www.google.com http://music.yahoo.com http://www.findsounds.com http://www.midomi.com http://soundjax.com 3. การสืบค้นวิดโี อในอินเทอรเ์ น็ต เว็บไซต์ท่ีนิยมใช฾ในการสืบค฾นวิดีโอมากท่ีสุดในปัจจุบัน คือ YouTube.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์ชุมชนศูนย์รวมไฟล์วิดีโอที่ใหญ฽ท่ีสุดอีกแห฽งหน่ึงในโลก สามารถค฾นหาไฟล์วิดีโอมากมายในอินเทอร์เน็ต โดย YouTube ได฾ทําดรรชนีของไฟล์วิดีโอจากเว็บไซต์ทั่วโลก และมีการจัดกล฽ุมให฾เป็นระเบียบ โดยผ฾ูใช฾สามารถเข฾าไปสืบค฾นวิดีโอได฾จาก http://www.youtube.com (ภาพที่ 6.15) แล฾วใส฽คําค฾นเข฾าไปในช฽องค฾นหา จากน้ันจึงทําการค฾นหา จะปรากฏผลการค฾น หากต฾องการชมวิดีโอท่ีคน฾ หาทันทีสามารถคลกิ เลอื กทีว่ ิดโี อน้ันๆ แตห฽ ากตอ฾ งการดาวน์โหลดวดิ ีโอท่คี ฾นหาได฾มาเก็บไว฾ท่ีเคร่ืองคอมพิวเตอร์ของผ฾ูใช฾ ให฾เข฾าไปที่เว็บไซต์ http://keepvid.com จากนั้นให฾คัดลอก URL ของวิดีโอท่ีต฾องการดาวน์โหลดจากใน YouToube มาใส฽ในช฽องว฽างท่ีเขียนว฽า “Enter video URL or Searchhere…” แลว฾ คลกิ ที่ปุม “download” ก็จะสามารถดาวน์โหลดไฟล์ได฾ตามต฾องการ หรือลงโปรแกรมสําหรับดาวน์โหลดเพ่ิมเติม เช฽น YouTube Downloader, Leawo Free Youtube Download,Hash Youtube Downloader และ YouChoob ซ่ึงเปน็ freeware

131 ภาพที่ 6.15 หน฾าเว็บไซต์ YouTube.comแนวโน้มการสืบค้นในอนาคต การค฾นหาด฾วยวิธีแบบด้ังเดิม หรือการค฾นหาโดยใช฾คําสําคัญ (keyword) อาจทําให฾ผลลัพธ์ที่ผู฾ใช฾งานได฾รับมีข฾อมูลทั้งที่ตรงและไม฽ตรงกับความต฾องการปะปนกัน ผู฾ใช฾งานจึงต฾องเสียเวลาในการอ฽านและคัดแยกข฾อมูลที่ไม฽ต฾องการออกไป เนื่องจากเทคนิคการสืบค฾นแบบดั้งเดิม ต้ังอยู฽บนพ้ืนฐานของการค฾นหาคํา (ที่ผ฾ูใช฾ต฾องการสืบค฾น) ท่ีคล฾ายคลึงหรือเหมือนกันกับคําหลัก (keyword-basedmatching) ท่ีปรากฏอยู฽บนเอกสาร โดยคําสําคัญที่เจ฾าของเว็บไซต์หรือผ฾ูแต฽งใช฾ในเอกสารน้ัน อาจเป็นคําสําคัญที่มีลักษณะเป็นคําพ฾องรูป ซ่ึงเป็นคําที่มีตัวสะกดเหมือนกันทุกประการ แต฽ความหมายอาจแตกตา฽ งกันอย฽างสนิ้ เชงิ ได฾ ดังนัน้ เพอ่ื เพิม่ ประสทิ ธิภาพในการสืบค฾น ในยุคของ web 3.0 ท่ีข฾อมูลมีการเชื่อมโยงกันมากขึ้น ในลักษณะของเครือข฽ายเชิงความหมาย (semantic network) เพื่อนําไปสู฽การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์ที่มีความชาญฉลาดมากยิ่งขึ้น เช฽น โปรแกรมตัวแทนอัจฉริยะ (intelligent agent) และการสืบค฾นข฾อมูลท่ีอิงตามความหมาย (semantic search) เป็นต฾น โดยมีหน฽วยงาน W3C (WorldWide Web Consortium) เป็นผ฾ูกําหนดและให฾นิยามเวิลด์ไวด์เว็บ ซ่ึงต฽อมาได฾พัฒนาต฽อยอดขยายแนวคิดเป็นเว็บเชิงความหมาย (semantic web) โดยสร฾างเครือข฽ายของข฾อมูลขึ้นมาเพื่อให฾สามารถค฾นหาได฾สะดวกและรวดเร็วเช฽นเดียวกับเวิลด์ไวด์เว็บ แต฽ต฽างกัน คือ แทนที่จะทําเคร่ืองหมายกํากับเอกสารไว฾ท่ี “แท็ก (tag)” เช฽นเดิม แต฽เว็บเชิงความหมายจะกําหนดตําแหน฽งของข฾อมูลด฾วยความหมายของข฾อมูล ทําให฾เกิดความแตกต฽างด฾านการค฾นหาอย฽างชัดเจน คือ เดิมผลลัพธ์ของการค฾นหาจะเป็นรายการของเว็บไซต์ท่ีค฾นหาได฾จํานวนมาก แต฽การค฾นหาข฾อมูลท่ีอิงตามความหมายผลลัพธ์ที่ได฾จะเป็นชุดของข฾อมูลท่ีมีความหมายเฉพาะ ตรงกับที่ต฾องการเท฽าน้ัน ซึ่งทําให฾ลดเวลาในการค฾นหาอยา฽ งมาก นอกจากนั้นเว็บเชิงความหมายยังเป็นส฽วนขยายของเว็บปัจจุบันเพ่ือทําให฾การใช฾ข฾อมูลบนเว็บสามารถนํามาใช฾ซํ้า และเอ้ือต฽อการค฾นหาข฾อมูลอย฽างอัตโนมัติ จัดเป็นเทคโนโลยีหนึ่งที่

132ช฽วยในการจัดเก็บ และนําเสนอเน้ือหาแบบมีโครงสร฾างที่ช฽วยในการวิเคราะห์ จําแนกหรือจัดแบ฽งข฾อมูลที่มีความสัมพันธ์กับข฾อมูลอื่นในแต฽ละระดับ โดยมีเปูาหมายเพ่ือเตรียมการให฾คอมพิวเตอร์สามารถอ฽าน และทําความเข฾าใจความหมายของคําและความคิดรวบยอดท่ีผู฾พัฒนากําหนดไว฾ โดยยินยอมใหต฾ วั แทน (software agents) ซ่ึงเป็นโปรแกรมทชี่ ว฽ ยในการคัดเลือกข฾อมูลข฽าวสารตามความต฾องการของผ฾ูใช฾ สามารถเข฾าถึงข฾อมูล วิเคราะห์ และประมวลผลข฾อมูลได฾ ซ่ึงเว็บเชิงความหมายจะมีหน฾าทใี่ นการกําหนดโครงสร฾างและเนอ้ื หาของเว็บ กําหนดสภาพแวดล฾อมท่ีทําให฾ตัวแทนสามารถท่ีจะทํางานแทนผู฾ใช฾ได฾ ทําให฾คอมพิวเตอร์สามารถเข฾าใจและประมวลผลข฾อมูลระหว฽างกันได฾โดยอัตโนมัติ(วิบูลย์ พฤกษ์ยินดี, 2553) ทําให฾ผู฾ใช฾สามารถค฾นหาคําตอบของการค฾นหาได฾เหมือนกับการถามคนจริงๆ แทนท่ีจะได฾คําตอบมาเป็นกล฽ุมคําท่ีเกี่ยวข฾อง โดยเทคโนโลยีใหม฽น้ีถูกออกแบบเพ่ือให฾รองรับการตอบคาํ ถามทร่ี วดเร็วข้นึ ดังนั้นเว็บเชิงความหมายจึงเป็นแนวความคิดเพื่อช฽วยให฾ผู฾ใช฾สามารถค฾นหาข฾อมูลบนอินเทอรเ์ น็ตไดอ฾ ยา฽ งมปี ระสทิ ธิภาพมากย่ิงข้ึน และยังสามารถสร฾างความสัมพันธ์ให฾กับข฾อมูลท่ีมาจากแหล฽งข฾อมูลท่ีต฽างกันได฾อีกด฾วย การที่จะทําให฾แนวความคิดของเว็บเชิงความหมายเกิดขึ้นได฾จริงนั้นโปรแกรม Spider หรือ Crawling ที่จะท฽องไปตามเว็บไซต์ต฽างๆ จําเป็นต฾องมีโครงสร฾างของข฾อมูลและหลักเกณฑ์ที่ดีเพื่อเก็บข฾อมูลบนเว็บไซต์ สามารถเข฾าใจความหมายของข฾อมูลและเช่ือมโยงความสัมพันธ์ของข฾อมูลได฾ โดยมีภาษา XML (Extensible Markup Language) และภาษา RDF(Resource Description Framework) เป็นเทคโนโลยีท่ีสําคัญในการพัฒนาแนวความคิดเว็บเชิงความหมาย โดยภาษา XML จะใช฾ในการอธิบายโครงสร฾างของข฾อมูล และภาษา RDF ใช฾ในการอธิบายรายละเอียดและความหมายของทรัพยากรต฽างๆ บนอินเทอร์เน็ต (ธนกร หวังพิพัฒน์วงศ์,อานนท์ ไกรเสวกวสิ ัย และ สราวุธิ ราษฎร์นยิ ม, 2553)สรปุ ฐานข฾อมูลและการสืบค฾นมีความสําคัญกับทุกคน โดยเฉพาะอย฽างยิ่งนักศึกษาท่ีต฾องศึกษาหาความรู฾เพิ่มเติมอยู฽เสมอ หรือต฾องหาข฾อมูลประกอบการทํารายงาน ทําวิจัย และทําวิทยานิพนธ์เม่ือศึกษาต฽อในระดับที่สูงข้ึน จึงมีความจําเป็นที่จะต฾องร฾ูว฽า ข฾อมูลท่ีต฾องการมีอย฽ูในรูปแบบใดบ฾าง ทั้งท่ีเป็นซีดีรอม และในอนิ เทอร์เน็ต โดยสถาบันการศึกษาจะมีบริการฐานข฾อมูลเพ่ือการศึกษาค฾นคว฾าเชิงวิชาการ ได฾แก฽ ฐานข฾อมูลวารสารอิเล็กทรอนิกส์ (e-Journal) ฐานข฾อมูลหนังสืออิเล็กทรอนิกส์(e-Book) ฐานข฾อมูลกฤตภาค (Clipping) และฐานข฾อมูลรายการทรัพยากรสารสนเทศของสถาบันบริการสารสนเทศ (Online Catalog) เปน็ ต฾น เพอ่ื ใหบ฾ ริการแก฽อาจารย์และนกั ศึกษา ท้ังท่ีเป็นเน้ือหาสรุปหรือบทคัดย฽อหรือสาระสังเขป (abstract) และเอกสารฉบับเต็ม (full text) ขึ้นกับฐานข฾อมูลนัน้ ๆ ซง่ึ จะทําให฾สามารถคน฾ หาสารสนเทศได฾ตามความต฾องการ นอกจากน้ันในอินเทอร์เน็ตยังมีข฾อมูลและสารสนเทศมัลติมีเดีย ท่ีเป็นภาพ เสียง และวิดีโอ ให฾สืบค฾นเพ่ือนํามาใช฾ประโยชน์ได฾อย฽างสะดวกรวดเร็วอีกด฾วย สําหรับแนวโน฾มการสืบค฾นในอนาคต แนวคิดของเว็บเชิงความหมาย (semanticweb) จะช฽วยให฾ผ฾ูใช฾สามารถค฾นหาข฾อมูลบนอินเทอร์เน็ตได฾อย฽างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น สามารถค฾นหาคําตอบของการค฾นหาได฾เหมือนกับการถามคนจริงๆ ได฾ผลลัพธ์ท่ีตรงกับความต฾องการของผ฾ูใช฾และเกดิ ความสะดวกรวดเรว็ ในการสืบคน฾ มากขนึ้

133 คาถามทบทวน 1. ระบบทะเบยี นออนไลน์ของมหาวิทยาลัยราชภฏั สวนดสุ ติ มีบรกิ ารอะไรบ฾างสําหรับนกั ศกึ ษา 2. นกั ศึกษาสบื คน฾ ข฾อมูลจากแหล฽งใด เพอื่ ประโยชนอ์ ะไร 3. บุคลากรท่ีเกยี่ วข฾องกับระบบการจดั การฐานข฾อมูลมีใครบา฾ ง และแตล฽ ะตาํ แหนง฽ มหี น฾าท่ีอะไร 4. นักศกึ ษามีกระบวนการสบื ค฾นขอ฾ มูลจากอินเทอร์เน็ตอยา฽ งไร จงอธบิ ายเป็นขนั้ ตอนให฾ชัดเจน 5. จงบอกประโยชน์ของระบบทะเบียนออนไลน์ของมหาวทิ ยาลัยราชภฏั สวนดสุ ติ ที่นักศกึ ษาได฾เข฾าไปใช฾บริการ 6. ยกตวั อยา฽ งฐานข฾อมูลอิเลก็ ทรอนกิ สท์ ่ีมหาวทิ ยาลัยราชภฏั สวนดสุ ิตมีให฾บริการเพ่ือประโยชน์ตอ฽ การเรียนการสอนในสาขาวชิ าทน่ี กั ศกึ ษาเรยี น 7. ยกตัวอย฽างเวบ็ ไซตท์ ี่ใหบ฾ ริการขอ฾ มลู ท่เี ก่ยี วข฾องกับสาขาวิชาที่นักศึกษาเรียนมาอย฽างน฾อย 10 เวบ็ ไซต์ พรอ฾ มระบดุ ฾วยวา฽ แตล฽ ะเว็บไซต์ให฾บริการข฾อมลู ประเภทใด 8. ยกตวั อยา฽ งเวบ็ ไซตท์ ี่ให฾บริการสืบค฾นสารสนเทศมัลติมีเดยี ที่เป็นภาพ เสียง และวดิ โี ออยา฽ งละ 2 เวบ็ ไซต์ ทนี่ อกเหนือจากท่ยี กตวั อย฽างในหนงั สือ 9. นักศึกษาไดร฾ บั ประโยชนอ์ ะไรจากฐานขอ฾ มลู ทม่ี หาวิทยาลยั ราชภฏั สวนดสุ ติ มีให฾บริการ 10. ในอนาคตนกั ศึกษาอยากใหร฾ ะบบการสบื คน฾ ข฾อมูลมลี กั ษณะอย฽างไร

บทที่ 7 เทคโนโลยกี ารจดั การสารสนเทศและองค์ความรู้ ผูช้ ว่ ยศาสตราจารย์บุญญลกั ษม์ ตานานจิตร ปัจจุบนั เทคโนโลยสี ารสนเทศเข฾ามามีบทบาทต฽อการจัดการความรู฾ของหน฽วยงานต฽างๆ ทั้งในภาครัฐและภาคเอกชน ส฽งผลให฾มีการให฾ความสําคัญต฽อทรัพยากรบุคคลโดยการพัฒนาองค์ความร฾ูของบุคลากรในองค์กรต฽างๆ เพ่ือให฾เป็นองค์กรมีประสิทธิภาพก฾าวทันการเปลี่ยนแปลงของสังคมแห฽งการเรียนรู฾ นอกจากนี้การนําเทคโนโลยีสารสนเทศมาช฽วยจัดการความรู฾ทําให฾การจัดการความร฾ูในองค์กรง฽ายและสะดวกข้ึน รวมทั้งก฽อให฾เกิดความสะดวกรวดเร็วในการปฏิบัติงานและทํากิจกรรมทุกดา฾ นเก่ียวกับการจดั การความรข฾ู องบุคคลในองค์กรความรเู้ บอ้ื งต้นเกย่ี วกับทมี่ าขององคค์ วามรู้ ในการศึกษาเร่ืองเทคโนโลยีสารสนเทศและการจัดการความร฾ูควรทําความเข฾าใจเกี่ยวกับความร฾ูเบื้องต฾นเก่ียวกับที่มาขององค์ความรู฾ และการจัดการสารสนเทศและองค์ความร฾ู เพื่อให฾เกิดความรค฾ู วามเขา฾ ใจย่ิงข้ึน 1. ความหมายและท่มี าของความรู้ คําว฽า ข฾อมูล สารสนเทศ ความรู฾ และปัญญา เป็นคําท่ีมีความหมายคล฾ายคลึงกัน ซึ่งผูเ฾ ชี่ยวชาญได฾ให฾รายละเอียดไว฾ดังนี้ บดินทร์ วจิ ารณ์ (2550, หน฾า 113-115) กลา฽ ววา฽ ความรม฾ู ีตน฾ กาํ เนดิ มาจาก ข้อมูล ซึ่งมีความหมายคือ ส่ิงที่เกิดจากการสังเกต และเป็นข฾อเท็จจริงที่เกิดขึ้น โดยยังไม฽ผ฽านกระบวนการวิเคราะห์ และกลั่นกรอง ขณะท่ี สารสนเทศ คือกล฽ุมข฾อมูลที่มีการจัดการที่สามารถบ฽งบอกถึงสาระแนวโน฾ม และทิศทางทีม่ ีความหมายสามารถทําการวิเคราะห์ได฾ แต฽สารสนเทศจะเป็นองค์ความรู้ได฾ก็ต฽อเมื่อสามารถตีความ และทําความเข฾าใจกับข฾อความได฾ ซึ่งขึ้นอยู฽กับความสามารถของผ฾ูรับว฽าจะสามารถถอดรหัสข฽าวสารดังกล฽าวได฾หรือไม฽ มีความรู฾ในด฾านนี้หรือไม฽ หากตีความหรือถอดรหัสได฾จะเกิดเป็นความเข฾าใจ และเป็น ความรู้ ในที่สุด ซ่ึงเมื่อเข฾าใจหลักการ วัตถุประสงค์ของความร฾ูอย฽างถ฽องแท฾แล฾วสามารถพัฒนาการให฾เห็นถึงท่ีมาของปัญญาได฾ในที่สุด ซ่ึงสามารถสรุปรายละเอียดได฾ดังน้ี 1.1 ข฾อมูล (data) เป็นข฾อเท็จจริงที่ถูกบันทึกลงไป และยังไม฽มีการนํามาแปลความหมาย โดยอาจมีจุดประสงค์เพื่อการตรวจสอบ หรือสอบกลับว฽างานมีปัญหาหรือมีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้นบ฾าง ถือว฽าการบันทึกข฾อมูลเป็นเรื่องพ้ืนฐานที่ต฾องจัดทํา เช฽น การบันทึกข฾อมูลนักศึกษาใหม฽จํานวนนักศกึ ษาแตล฽ ะชนั้ ปี การบนั ทึกเวลาปฏบิ ตั ิงานแต฽ละวัน เปน็ ตน฾ 1.2 สารสนเทศ (information) เป็นข฾อมูลที่ผ฽านการกลั่นกรอง วิเคราะห์ หรือสังเคราะห์ ให฾ข฾อมูลเกิดการตกผลึก มีการแปลงรูปของบันทึกและข฾อมูลให฾ง฽ายต฽อการทําความเข฾าใจ

136มากขน้ึ เชน฽ การรวบรวมเวลาการปฏิบัติงานในแต฽ละวนั เพ่อื ดสู ถิตกิ ารมา สาย ลา ขาดการปฏิบัติงานผลการเรยี นแต฽ละภาคเรยี นแสดงเกรดเฉลย่ี โดยภาพรวมของนกั ศึกษาท้ังหมด เปน็ ตน฾ 1.3 ความรู฾ (knowledge) หมายถึง สิ่งที่ส่ังสมมาจากปฏิบัติ ประสบการณ์ปรากฏการณ์ซึ่งได฾ยิน ได฾ฟัง การคิดจากการดําเนินชีวิตประจําวันหรือเรียกว฽าเป็นความรู฾ท่ีได฾โดยธรรมชาติ นอกจากน้ีความรู฾ยังได฾จากการศึกษาเล฽าเรียน การค฾นคว฾า วิจัย จากการศึกษาองค์วิชาในแตล฽ ะสาขาวิชา 1.4 ปัญญา (wisdom) เป็นความรู฾ท่ีมีอย฽ูนํามาคิดหรือต฽อยอดให฾เกิดคุณค฽า หรือคุณประโยชน์มากขึ้น เช฽น การลดปริมาณของพนักงานท่ีมาสายทําให฾เกิดความพึงพอใจแก฽ผู฾มาใช฾บริการมากข้ึน ลดคําร฾องเรียน หรือการหาวิธีเพิ่มความรู฾ให฾แก฽นักศึกษาทําให฾นักศึกษาสําเร็จการศกึ ษาในปริมาณท่ีมากขนึ้ ถือวา฽ เปน็ การประกนั คณุ ภาพของการศึกษา เปน็ ต฾น สามารถแสดงปริ ามิดลําดบั ขน้ั ของความรู฾ไดด฾ งั นี้ wisdom Use & Utilizeknowledgeinformation Wisdom data KM Knowledge Information ICT Data ภาพท่ี 7.1 ปิรามดิ แสดงลําดับขน้ั ของความรู฾และการนําความร฾มู าใช฾ประโยชน์โดยใช฾ไอซีที จากภาพที่ 7.1 การนําข฾อมูลมาวิเคราะห์ทําให฾เกิดสารสนเทศ และเม่ือมีการนําสารสนเทศไปประยุกต์ใช฾ให฾เกิดประโยชน์จึงกลายเป็นความรู฾ และเม่ือมีการใช฾ความร฾ูในการสังเคราะห์ พัฒนา วิจัย และนํามาประยุกต์ใช฾ หรือทําให฾เป็นประโยชน์และทําให฾เกิดปัญญาในท่ีสุดซ่ึงตอ฾ งมาจากกระบวนการเรยี นรูท฾ ้ังจากการศึกษาและประสบการณอ์ ย฽างครบถ฾วน และถกู ต฾อง มคิ าเอล โปแลนยี และอิกุชิโร โนนาคะ (Michael Polanyi และ Ikujiro Nonaka) ได฾แบ฽งความรู฾เป็น 2 ประเภท คือ ความรู฾โดยนัย (tacit knowledge) และความร฾ูชัดแจ฾ง (explicitknowledge) ซึ่งได฾รับความนิยมและนํามาใช฾อย฽างแพร฽หลาย ได฾ให฾คําจํากัดความของความรู฾ท้ัง 2ประเภท (บุญดี บุญญากจิ และคณะ, 2549, หน฾า 16) ดังนี้ 1) ความรู฾โดยนัย หรือความร฾ูที่มองเห็นไม฽ชัดเจน (tacit knowledge) เป็นความรู฾อย฽างไม฽เป็นทางการ ซ่ึงเป็นทักษะหรือความรู฾เฉพาะตัวของแต฽ละบุคคลที่มาจากประสบการณ์ ความเช่ือ

137หรือความคิดสร฾างสรรค์ในการปฏิบัติงาน เช฽น การถ฽ายทอดความรู฾ ความคิด ผ฽านการสังเกต การสนทนา การฝึกอบรม เป็นตน฾ 2) ความรท฾ู ชี่ ดั แจง฾ หรือความรู฾ท่ีเป็นทางการ (explicit knowledge) เป็นความร฾ูท่ีมีการบันทึกไว฾เป็นลายลักษณ์อักษร และใช฾ร฽วมกันในรูปแบบต฽างๆ เช฽น สิ่งพิมพ์ เอกสารขององค์กรไปรษณยี ์อิเลก็ ทรอนิกส์ เว็บไซต์ อินทราเน็ต เป็นต฾น ความร฾ูประเภทน้ีเป็นความรู฾ที่แสดงออกมาโดยใช฾ระบบสัญลักษณ์ จึงสามารถสื่อสารและเผยแพร฽ได฾โดยง฽าย และอํานวยความสะดวกในการเข฾าถึงความรู฾ สัดสว฽ นความรทู฾ ั้ง 2 ประเภทขา฾ งต฾นส฽วนใหญ฽เป็นความรู฾ประเภทความร฾ูท่ีชัดแจ฾ง ซึ่งเป็นอัตราสว฽ นกบั ความร฾โู ดยนยั เทา฽ กบั 80 ต฽อ 20 2. ความหมายของการจดั การสารสนเทศ การจัดการสารสนเทศเกิดจากการแปลงข฾อมูลเป็นสารสนเทศอย฽างเป็นไปตามลํา ดับและต฽อเนื่อง เพื่อให฾ได฾สารสนเทศตามความต฾องการและมีคุณภาพ มี 3 ข้ันตอน (สุชาดา นิภานันท์,2551, หน฾า 67-73) ดงั นี้ 2.1 การนําเข฾าข฾อมูล (input) เป็นขั้นตอนแรกของการประมวลผลข฾อมูลเป็นสารสนเทศจากการดําเนินงานทางธุรกิจขององค์กร การแลกเปลี่ยนซื้อขาย และการว฽าจ฾างพนักงานประกอบด฾วย 4 ขนั้ ตอน ดงั น้ี 2.1.1 การเกบ็ รวบรวมข฾อมลู เพ่ือนําเข฾าสู฽การประมวลผล โดยการสร฾างและการรวบรวมขอ฾ มลู จากแหล฽งข฾อมูล และมีการบันทึกเป็นหลักฐานไว฾ในส่ือประเภทต฽างๆ ซึ่งข฾อมูลที่นําเข฾าอาจได฾มาจากการเกบ็ รวบรวมมาจากสภาพแวดล฾อมขององค์กร 2.1.2 การจัดระเบียบข฾อมูลเพ่ือให฾ได฾ข฾อมูลที่ใช฾ได฾ตรงตามวัตถุประสงค์ และสะดวกในการใช฾ขอ฾ มลู มีกระบวนการดงั น้ี 1) การประเมนิ คณุ ค฽าของข฾อมูล และคดั ขอ฾ มลู ที่ใชป฾ ระโยชนไ์ ม฽ได฾ออก 2) การตรวจสอบความถูกต฾องของข฾อมูล เพื่อให฾ม่ันใจว฽าข฾อมูลที่จะนําเข฾าสกู฽ ระบวนการประมวลผลเปน็ ขอ฾ มลู ท่เี ช่ือถือได฾ สมบูรณ์ และอย฽ใู นรปู แบบท่ีพร฾อมจะนาํ เข฾า 3) การตรวจแก฾ข฾อมูล มีวัตถุประสงค์เพื่อลดความผิดพลาดจากการเก็บรวบรวมขอ฾ มลู มกั อย฽ใู นขัน้ ตอนการนาํ เขา฾ เข฾ามูล หากพบสง่ิ ผิดพลาดจะไดท฾ ําการแก฾ไขก฽อน 4) การนําเข฾าข฾อมูล เป็นข้ันตอนท่ีข฾อมูลแบบตัวเลข ข฾อความ ภาพนิ่งภาพเคลื่อนไหว และวิดีโอ อาจคัดลอกรายการข฾อมูลจากเอกสารต฾นฉบับเข฾าเคร่ืองประมวลผล หรือนําเข฾าข฾อมูลโดยพิมพ์เข฾าสู฽ระบบคอมพิวเตอร์โดยตรง และบันทึกไว฾ในสื่อจัดเก็บจนกว฽าจะถึงเวลาเรียกข฾อมลู มาประมวลผล 2.2 การประมวลผลข฾อมูล (data processing) เป็นการจัดดําเนินการทางสถิติ หรือการเปลี่ยนข฾อมูลท่นี ําเข฾าสก฽ู ระบวนการให฾ออกมาเป็นผลลัพธ์ท่ีต฾องการ หรือเป็นการสร฾างสารสนเทศใหม฽จากสารสนเทศเกา฽ ท่ีนาํ เขา฾ สูก฽ ระบวนการประมวลผล ซ่ึงทาํ ได฾หลายวธิ ีดงั น้ี 2.2.1 การเรียงลาํ ดบั (arranging) 2.2.2 การจัดหมวดหม฽ูข฾อมลู (classify 2.2.3 การคํานวณ (calculation)

138 2.2.4 การสรุป (summarizing) 2.2.5 การวเิ คราะหข์ อ฾ มลู (data analysis) 2.3 การจัดเก็บสารสนเทศ (storing) สารสนเทศที่ได฾จากการประมวลผลจะถูกจัดเก็บไวใ฾ นแหลง฽ จดั เกบ็ เพ่ือการคน฾ คนื มาใช฾ต฽อไป แบ฽งได฾เป็น 3 ประเภท ดงั น้ี 2.3.1 การจัดเก็บสารสนเทศไวท฾ ่แี หล฽งเดียวกัน โดยการจดั รวบรวมข฾อมูลของเร่ืองต฽างๆ จัดระเบยี บไวต฾ ามลําดับชนั้ ของขอ฾ มลู ไว฾ทแ่ี หลง฽ เดยี วกันซ่ึงเรยี กวา฽ ฐานขอ฾ มูล 2.3.2 การจัดเก็บสารสนเทศท่ีเป็นผลผลิตจากกระบวนการประมวลผลไว฾ในสื่อจัดเก็บประเภทต฽างๆ เพ่ือการเรียกใช฾อีกภายหลัง ได฾แก฽ การบันทึกข฾อมูลลงแถบบันทึกคอมพิวเตอร์การบันทกึ ขอ฾ มูลลงบนจานบนั ทกึ และการปรับขอ฾ มลู ให฾เป็นปัจจุบนั 2.3.3 การสืบค฾นเพ่ือใช฾งาน (retrieval) เป็นกระบวนการในการค฾นหาตําแหน฽งท่ีจัดเกบ็ สารสนเทศทีต่ อ฾ งการใช฾งานมาใช฾งาน หรือหากต฾องการเป็นหลักฐานอาจส่ังให฾พิมพ์สารสนเทศออกมาเป็นเอกสารก็ได฾ 2.4 การส฽งออกหรือการแสดงผล (output) เป็นกระบวนการของการประมวลผลไปสู฽บุคคลที่ต฾องการนําสารสนเทศไปใช฾ในรูปแบบท่ีเหมาะสม เช฽น ในรูปแบบแผนภาพ แผนภูมิรายงาน และการบันทึกตวั เลขลงบนแผ฽นกระดาษ เป็นต฾น 2.5 การส่ือสารสารสนเทศ (information communicating) เป็นการส฽งสารสนเทศไปยังบุคคลอ่ืนหรือสถานท่ีอ่ืนโดยอาศัยเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารโทรคมนาคมในการกระจายสารสนเทศไปสู฽ผู฾ใช฾ตามท่ผี ใ฾ู ชต฾ อ฾ งการ กระบวนการแปลงขอ฾ มลู เป็นสารสนเทศข฾างตน฾ บ฽งชีไ้ ดว฾ ฽าขอ฾ มลู จะกลายเป็นสารสนเทศทเ่ี ป็นประโยชน์ตอ฽ การใช฾งานไดท฾ ันที เม่ือสารสนเทศนัน้ สร฾างจากการข฾อมูลท่ีผ฽านกระบวนการจัดการเพ่ือใหไ฾ ด฾สารสนเทศทเี่ ป็นประโยชนต์ ฽อการใชง฾ านขององคก์ ร 3. ความหมายของการจดั การความรู้ นกั วิชาการหลายท฽านให฾ความหมายของคําว฽า “การจัดการความร฾ู” ไว฾ได฾ดงั น้ี วิจารณ์ พานิช (2555) ให฾ความหมายของความร฾ู ว฽าสําหรับนักปฏิบัติ การจัดการความรู฾ คือ เครื่องมือ เพื่อการบรรลุเปูาหมายอย฽างน฾อย 4 ประการ ไปพร฾อมๆ กัน ได฾แก฽ บรรลุเปูาหมายของงาน บรรลุเปูาหมายของการพัฒนาคน บรรลุเปูาหมายการพัฒนาองค์กรไปเป็นองค์กรเรยี นร฾ู และบรรลุความเปน็ ชมุ ชน เปน็ หมู฽คณะ ความเออื้ อาทรระหวา฽ งกันในที่ทํางาน การจัดการความรู฾เป็นการดาํ เนนิ การอย฽างนอ฾ ย 6 ประการต฽อความรู฾ ไดแ฾ ก฽ 1) การกําหนดความรูห฾ ลกั ทจ่ี าํ เป็น หรอื สําคัญต฽องาน หรือกจิ กรรมของกลุม฽ หรอื องคก์ ร 2) การเสาะหาความรู฾ทต่ี ฾องการ 3) การปรับปรงุ ดัดแปลง หรือสรา฾ งความรูบ฾ างส฽วนให฾เหมาะตอ฽ การใช฾งานของตน 4) การประยกุ ตใ์ ชค฾ วามรูใ฾ นกจิ การงานของตน 5) การนําประสบการณ์จากการทํางาน และการประยุกต์ใช฾ความร฾ูมาแลกเปลี่ยนเรยี นรู฾ และสกัดขมุ ความรู฾ออกมาบันทึกไว฾ 6) การจดบันทึก “ขุมความร฾ู” และ “แก฽นความร฾ู” สําหรับไว฾ใช฾งาน และปรับปรุงเป็นชดุ ความร฾ูที่ครบถว฾ น ล฽ุมลึก และเชอ่ื มโยงมากขึ้น เหมาะตอ฽ การใช฾งานมากย่งิ ขึ้น

139 การดําเนินการ 6 ประการน้ี บูรณาการความร฾ูท่ีเกี่ยวข฾อง ซึ่งเป็นทั้งความร฾ูที่ชัดแจ฾ง(explicit knowledge) อยู฽ในรปู ของตัวหนงั สอื หรอื รหัสอย฽างอ่ืนที่เข฾าใจได฾ทั่วไป ในขณะท่ีความรู฾ฝังลึกท่อี ยู฽ในคน (tacit knowledge) อย฽ูในใจ ได฾แก฽ ความเชื่อ ค฽านิยมท่ีอยู฽ใน และได฾จากทักษะในการปฏบิ ัติ เดฟ สโนว์เดน (Dave Snowden, 2003) กล฽าวว฽า องค์กรต฾องมีการจัดการความรู฾เพ่ือปรับปรุงประสิทธิผลของการตัดสินใจในองค์กร และเพ่ือสร฾างนวัตกรรม ทั้งนี้มีการจัดการความร฾อู ยู฽ 3 ประเภท ดงั นี้ 1) การจัดการความรู฾จากเอกสาร (content management) การจัดการความรู฾ประเภท Explicit โดยเนน฾ การจดั ระเบยี บเอกสาร หรือโครงสร฾างต฽างๆ 2) การจัดการความร฾โู ดยใชเ฾ ทคนิคการเล฽าเร่ือง (narrative management) เป็นการจัดการความรู฾โดยใช฾เทคนิคการเล฽าเรื่องที่ร฾ูมา การใช฾เทคนิคน้ีต฾องเช่ือมต฽อระหว฽างวิธีการส่ือท่ีน฽าสนใจ และเนื้อหาสาระทีต่ อ฾ งการสอื่ 3) การจัดการความร฾ูโดยใช฾กิจกรรม (context management) เป็นการใช฾กิจกรรมกระต฾นุ ให฾เกดิ การเรยี นร฾ู โดยเครอื ข฽ายทางสังคม นํ้าทิพย์ วิภาวิน (2550, หน฾า 23) ให฾ความหมายของ การจัดการความร฾ู ว฽าการจดั การความร฾ู หมายถึง การรวบรวมองคค์ วามรท฾ู ีม่ ีอยใ฽ู นองค์กร ซ่งึ กระจดั กระจายอยู฽ในตัวบุคคลหรือเอกสารมาพัฒนาให฾เป็นระบบ เพื่อให฾ทุกคนในองค์กรสามารถเข฾าถึงความรู฾ และพัฒนาตนเองให฾เป็นผ฾ูรู฾ รวมท้ังปฏบิ ัตงิ านได฾อยา฽ งมีประสิทธิภาพอนั จะสง฽ ผลให฾องค์กรมคี วามสามารถในเชงิ แข฽งขันสงู สดุ จากข฾อมูลข฾างต฾นสามารถสรุปได฾ว฽า การจัดการความร฾ู หมายถึง กระบวนการบริหารจัดการอย฽างเป็นระบบท่ีเน฾นการพัฒนาการปฏิบัติงานควบค฽ูไปกับการเรียนรู฾ร฽วมกันของคนภายในองค์กร เพ่ือยกระดับความรู฾ ก฽อให฾เกิดองค์ความรู฾ใหม฽อย฽างมีคุณค฽า ทําให฾ทุกคนในองค์กรสามารถเข฾าถึงความรู฾ และพัฒนาตนเองให฾เป็นผ฾ูร฾ู รวมทั้งปฏิบัติงานได฾อย฽างมีประสิทธิภาพอันจะส฽งผลให฾องค์กรมีความสามารถในเชิงแข฽งขัน ปัจจุบันมีการนําการจัดการความร฾ูเชิงความหมาย (semantic knowledgeManagement) ซง่ึ เป็นรูปแบบการจัดการความรู฾ในอีกรูปแบบหน่ึง ที่ม฽ุงเน฾นการจัดเก็บองค์ความรู฾ที่สามารถนําไปใช฾งานในโปรแกรมคอมพิวเตอร์ได฾ในรูปแบบของฐานความรู฾สําหรับโปรแกรมคอมพิวเตอร์หรือออนโทโลยี (ontology) โดยการใช฾กระบวนการทางวิศวกรรมความรู฾ (knowledgeengineering) การจัดการความร฾ูเชิงความหมายจําเป็นต฾องอาศัยแหล฽งความร฾ูท่ีมีในรูปแบบเอกสารอ฾างอิง (Reference documents) และแหล฽งความรู฾จากผ฾ูเช่ียวชาญเฉพาะสาขา (domainexperts) เป็นการผสมผสานท้ังการจัดการความท่ีชัดแจ฾ง (explicit knowledge) และการจัดการความร฾ูที่อยู฽ในตัวบุคคล (tacit knowledge) เข฾าด฾วยกัน การแบ฽งประเภทของความร฾ูเป็นประเภทต฽างๆ ทําให฾เราสามารถจัดระบบของการตีความความร฾ูที่เปลี่ยนแปลงได฾ตลอดเวลา ส฽งผลให฾เกิดความรู฾ใหมๆ฽ อยู฽เสมอ (เนคเทค, 2555)

140ความสมั พันธร์ ะหวา่ งระบบสารสนเทศ การดําเนินกิจกรรมทางธุรกิจขององค์กรมักพบว฽าสารสนเทศที่เกิดจากหน฽วยงานหนึ่งอาจเป็นประโยชน์สําหรับหน฽วยงานอื่นได฾ หรือพบว฽าการใช฾สารสนเทศร฽วมกันระหว฽างหน฽วยงานจะให฾สารสนเทศทเี่ ป็นประโยชน์มากข้ึน ดังนั้นความสัมพันธ์ระหว฽างระบบสารสนเทศที่อย฽ูคนละหน฽วยงานจงึ เก่ียวกบั การใช฾ข฾อมลู รว฽ มกันระหวา฽ งระบบเหล฽านั้น (วิเชียร เปรมชัยสวัสดิ์, 2551, หน฾า 21) ทั้งยังชว฽ ยประหยัดการใช฾ทรัพยากรทีม่ อี ย฽ูรว฽ มกนั ระบบสารสนเทศในองค์กรสว฽ นใหญ฽ในปัจจุบันมีการจําแนกระบบตามการให฾การสนับสนุนของระบบสารสนเทศได฾ 5 ประเภท ดังนี้ 1. ระบบประมวลผลรายการ (Transaction Processing Systems: TPS) 1.1 ระบบประมวลผลรายการมีลักษณะดงั นี้ (อรรถกร เก฽งผล, 2548, หนา฾ 76) 1.1.1 ข฾อมูลมักจะมจี าํ นวนมาก เน่อื งจากต฾องรับขอ฾ มลู ทเี่ กิดข้นึ ทุกวนั 1.1.2 ตอ฾ งมกี ารประมวลผลข฾อมลู เพอ่ื สรุปยอดต฽างๆ เป็นประจาํ 1.1.3 ตอ฾ งมคี วามสามารถในการเปน็ หนว฽ ยจัดเก็บข฾อมูลที่ดี 1.1.4 ต฾องมีความง฽ายในการใช฾งาน เนื่องจากผ฾ูใช฾อาจไม฽คุ฾นเคยกับการทํางานท่ียุ฽งยากซบั ซ฾อน และในขณะใช฾งานอาจจะมีลกู ค฾ารอการปฏิบัติงานอย฽ู 1.1.5 ระบบ TPS ถูกออกแบบให฾มีความเทย่ี งตรงสงู (high reliability) 1.2 หน฾าที่ของระบบประมวลผลรายการมี 3 ประการ คือ การทําบัญชี (bookkeeping) การออกเอกสาร (document issuance) และการทํารายการควบคุม (control reporting)เพ่อื ใชต฾ รวจสอบ และควบคมุ การปฏบิ ัตงิ านต฽างๆ ขององคก์ รทไี่ ด฾กระทําไปแลว฾ เป็นประจําทุกวัน ระบบประมวลผลรายการเริ่มต฾นจากการปูอนข฾อมูลเข฾าส฽ูระบบ แล฾วนําไปประมวลผลรายการ จากน้นั จึงทาํ การปรับปรงุ แก฾ไขฐานข฾อมลู สร฾างรายงานเอกสาร และประมวลจากการบริการแบบสอบถาม เพื่อนําผลท่ีได฾มาปรับปรุงแก฾ไขให฾ถูกต฾องอีกคร้ัง สามารถสรุปกระบวนการทํางานได฾ดังภาพต฽อไปน้ี

1411. 2.  3. (data entry) (transaction processing) (file / database updating) 5.  4. (inquiring processing) (document and report generation) ภาพท่ี 7.2 วงจรระบบประมวลผลรายการ 2. ระบบสารสนเทศสานักงาน (Office Information System: OIS) หรือระบบสานกั งานอตั โนมัติ (Office Automation System: OAS) ระบบสารสนเทศสาํ นักงานสามารถแบ฽งหนา฾ ทีไ่ ดเ฾ ป็น 4 ประเภท ดงั นี้ 2.1 ระบบจดั การทางด฾านเอกสาร (document management system) เป็นระบบที่ทําหน฾าท่ีจัดการเอกสาร ไม฽ว฽าจะเป็นการสร฾าง การบันทึก และการส฽งเอกสารไปยังฝุายต฽างๆ ภายในองคก์ ร 2.2 ระบบการส฽งข฽าวสาร (message-handing system) เป็นระบบที่ทําหน฾าท่ีส฽งข฽าวสารขององค์กรจากสถานท่ีหนึ่งไปยังอีกที่หน่ึง ทําให฾ได฾รับความสะดวก รวดเร็ว และประหยัดคา฽ ใช฾จา฽ ยในการจัดส฽ง การส฽งขา฽ วสารในปจั จุบันสามารถทําได฾หลายวิธี 2.3 ระบบการประชุมทางไกล (teleconferencing system) เป็นระบบท่ีใช฾ประชุมโดยผเ฾ู ข฾ารว฽ มประชมุ สามารถพูดคุยประชุมกันได฾ตามปกติแม฾อย฽ูห฽างไกลกัน 2.4 ระบบสนับสนุนในสํานักงาน (office support system) เป็นระบบท่ีช฽วยให฾พนักงานสามารถนําเทคโนโลยีท่ีมีอย฽ูในสํานักงาน เพื่อให฾งานดําเนินไปได฾อย฽างสะดวก รวดเร็ว และมีประสทิ ธิภาพ 3. ระบบสารสนเทศเพ่อื การจดั การ (Management Information System: MIS ระบบสารสนเทศเพ่อื การจัดการมหี นา฾ ท่จี ดั ทาํ รายงานท่ีมีรูปแบบแตกต฽างกัน สามารถจาํ แนกได฾ 4 ประเภท (ศรีไพร ศกั ดร์ิ ง฽ุ พงศากุล, 2551, หน฾า 161) ดงั น้ี 3.1 รายงานท่ีจัดทําตามระยะเวลาท่ีกําหนด (periodic reports) อาจเป็นรายงานที่ทําเป็นประจําทุกวัน ทุกสัปดาห์ ทุกเดือน หรือทุกปี เช฽น รายงานยอดขายของโฮมเบเกอร่ีมหาวิทยาลัยราชภฏั สวนดุสิต รายงานการชําระเงนิ คา฽ ลงทะเบยี นของนักศกึ ษา เปน็ ตน฾

142 3.2 รายงานสรุป (summarized reports) เป็นรายงานท่ีจัดทําเพ่ือสรุปผลการดาํ เนินงานโดยภาพรวม แสดงผลในรูปแบบตารางสรปุ จํานวน และกราฟเปรยี บเทียบ 3.3 รายงานท่ีจัดทําตามเง่ือนไขเฉพาะ (executive reports) เป็นรายงานท่ีไม฽อย฽ูในเกณฑ์การจัดทํารายงานตามปกติ มีวัตถุประสงค์เพื่อให฾ผู฾บริหารใช฾สารสนเทศสําหรับการตัดสินใจอยา฽ งเปน็ ปจั จบุ ัน 3.4 รายงานทจ่ี ดั ทาํ ตามต฾องการ (demand reports) เป็นรายงานที่มีลักษณะตรงกันข฾ามกับรายงานที่จัดทําตามระยะเวลาท่ีกําหนด จะจัดทําเม่ือผ฾ูบริหารมีความต฾องการรายงานน้ันๆเทา฽ น้ัน จากขอ฾ มูลขา฾ งต฾นสามารถสรปุ ได฾ดงั ภาพตอ฽ ไปนี้ TPS MIS ภาพท่ี 7.3 ระบบสารสนเทศเพ่อื การจัดการ 4. ระบบสนับสนุนการตัดสนิ ใจ (Decision Support System: DSS) ลกั ษณะทีส่ ําคัญของ DSS คือ เปน็ ระบบท่ที ําให฾สามารถสืบค฾นได฾รวดเร็วประกอบการตัดสินใจ ใช฾ในการแก฾ปัญหาและกําหนดกลยุทธ์ จึงควรออกแบบให฾มีลักษณะโต฾ตอบ (interactive)กับผู฾ใช฾ได฾ดี ผ฾ูใช฾สามารถสืบค฾นข฾อมูลจากฐานข฾อมูล โดยผ฾ูบริหารมีบทบาทสําคัญยิ่งต฽อการกําหนดรปู แบบการพัฒนา DSS (ณาตยา ฉาบนาค, 2548, หนา฾ 185) ดงั น้ี 4.1 ประมวลผลและเสนอข฾อมูลประกอบการตัดสินใจแก฽ผู฾บริหาร เพ่ือใช฾ทําความเขา฾ ใจและเป็นแนวทางในการตัดสินใจ 4.2 ประเมินทางเลือกที่เหมาะสม ภายใต฾ข฾อจํากัดของแต฽ละสถานการณ์ ช฽วยให฾ผ฾ูบริหารวเิ คราะห์และเปรยี บเทยี บทางเลอื กได฾สอดคลอ฾ งกับปญั หาหรือสถานการณม์ ากที่สุด 4.3 เปน็ ระบบที่สนบั สนนุ การตดั สนิ ใจทั้งแบบกง่ึ โครงสร฾างและไม฽มโี ครงสรา฾ ง 4.4 เป็นระบบท่ีง฽ายต฽อการเรียนรู฾และใช฾งาน เนื่องจากผู฾ใช฾บางคนอาจไม฽ถนัดในการใช฾งานบางระบบ ดังนั้นระบบที่ใช฾งานได฾ดีและมีประสิทธิภาพควรเป็นระบบที่มีความสะดวกต฽อผใ฾ู ช฾งานระบบ 4.5 เป็นระบบที่สามารถโต฾ตอบและสื่อสารกับผู฾ใช฾ได฾รวดเร็ว เพื่อสนองตอบความตอ฾ งการของผ฾ูใช฾ โดยเฉพาะการทาํ งานท่ีต฾องการความรวดเรว็ และมปี ระสิทธิภาพ สามารถแก฾ปัญหาไดท฾ นั ทว฽ งที 4.6 มีข฾อมูลและแบบจําลองสําหรับสนับสนุนการตัดสินใจท่ีเหมาะสม สอดคล฾องกับปญั หาแตล฽ ะลกั ษณะ

143 4.7 ยืดหย฽ุนต฽อการสนองตอบความต฾องการท่ีเปล่ียนแปลงของผ฾ูใช฾ได฾ตลอดเวลา จึงสามารถปรบั ปรุงแก฾ไขข฾อมูลเพ่อื ในการตัดสินใจได฾ 4.8 สนับสนุนการทํางานของผ฾ูบริหารได฾หลายระดับ สนับสนุนการทํางานและประกอบการตัดสินใจที่เก่ียวเนื่องกันตามข฾อมูลที่เพยี งพอตอ฽ การสนบั สนุนการตัดสนิ ใจ 4.9 DSS ช฽วยผู฾บริหารทดสอบทางเลือกในการตัดสินใจ โดยต้ังคําถาม “ถ฾า......แล฾ว...... (What……..if…....)” อย฽างมีประสิทธิภาพ นอกจากนยี้ งั ช฽วยใหผ฾ ฾บู รหิ ารมที างเลอื กที่ตอบสนองต฽อปัญหา ทั้งน้ีสามารถจําลองความสัมพันธ์ระหว฽างผู฾ใช฾กับระบบสารสนเทศส นับสนุนการตัดสนิ ใจได฾ดงั ภาพต฽อไปน้ีภาพที่ 7.4 แบบจําลองความสัมพันธร์ ะหวา฽ งผู฾ใช฾กับระบบสารสนเทศสนับสนุนการตัดสนิ ใจ ทม่ี า (ณัฏฐพันธ์ เขจรนนั ทน์ และไพบลู ย์ เกยี รติโกมล, 2551, หน฾า 135) เพื่ อไม฽ให฾ เกิด ความเข฾าใจสั บ ส นจึ งส ามารถเ ป รีย บ เ ทีย บ ความแต กต฽ างของร ะบ บประมวลผลรายการ ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ และระบบสนับสนุนการตัดสินใจ ดังตารางตอ฽ ไปน้ีตารางท่ี 7.1 เปรียบเทียบระบบประมวลรายการ ระบบสารสนเทศเพ่ือการจดั การและระบบ สนับสนนุ การตดั สนิ ใจ ระบบประมวลผล หัวข้อ รายการ (TPS) และ ระบบสารสนเทศเพ่อื การ ระบบสนับสนุนการ1. วตั ถปุ ระสงค์ ระบบสารสนเทศ จดั การ (MIS) ตัดสนิ ใจ (DSS)หลัก สานกั งาน (OIS)2. จุดเด฽นของระบบ เพอ่ื ใช฾ในงานด฾าน เพือ่ ควบคมุ ตรวจสอบการ เพ่ือสนบั สนนุ การ ปฏบิ ตั ิการ ปฏิบัติการและสรุป ตัดสนิ ใจของผูบ฾ รหิ าร สภาพการณ์ เนน฾ ขอ฾ มูลและ เนน฾ การควบคุม การ เนน฾ ดา฾ นการตดั สนิ ใจ ประสิทธภิ าพสําหรบั การ จัดการผลสรปุ การ และการวางแผน ปฏิบตั ิงาน ปฏบิ ัติการ

144 หัวข้อ ระบบประมวลผล ระบบสารสนเทศเพื่อการ ระบบสนบั สนุนการ รายการ (TPS) และ จดั การ (MIS) ตดั สินใจ (DSS)3. ผใู฾ ชร฾ ะบบ ระบบสารสนเทศ สานักงาน (OIS) ผู฾จดั การและผู฾ควบคุมการ ผ฾บู ริหารทกุ ระดบั โดย4. ชนิดของ ปฏบิ ตั งิ าน ผบู฾ รหิ าร เน฾นทีผ่ บู฾ ริหารปญั หา ผู฾ปฏบิ ตั ิงาน ระดบั กลาง ระดบั กลางและ5. แหล฽งข฾อมลู ผ฾คู วบคมุ การปฏิบัติงาน ผู฾เชยี่ วชาญ ก่งึ โครงสร฾างและไม฽มี6. ความคล฽องตวั มโี ครงสร฾าง มีโครงสรา฾ ง โครงสรา฾ งของระบบ ขอ฾ มลู จากหลายแหล฽ง ข฾อมลู จากการปฏบิ ัติงาน ขอ฾ มลู แตล฽ ะขอบเขตการ ทงั้ ภายใน (ได฾แก฽ แต฽ละขอบเขตธุรกิจใน บรหิ ารในองค์กร ระบบ TPS, MIS) และ องค์กร ขอ฾ มลู จากระบบ TPS ภายนอกองค์กร สามารถปรบั เปลี่ยนได฾ มกี ฎเกณฑก์ ารทาํ งานท่ี มีกฎเกณฑก์ ารทาํ งานที่ ตามสถานการณ์ ชัดเจน ชดั เจน สามารถปรับเปลย่ี นได฾บ฾าง ท่ีมา (ศรีไพร ศักดร์ิ ฽งุ พงศากลุ , 2551) 5. ระบบสารสนเทศเพ่ือผู้บริหาร (Executive Information System: EIS หรือExecutive Support System: ESS) ระบบสารสนเทศเพ่ือผ฾ูบริหารมีลักษณะสําคัญ 5 ประการ (ณัฏฐพันธ์ เขจรนันทน์ และไพบูลย์ เกียรตโิ กมล, 2551, หน฾า 157) ดังน้ี 5.1 สนับสนุนการวางแผนกลยุทธ์ (strategic planning support) ผ฾ูบริหารระดับสูงส฽วนใหญ฽มักจะให฾ความสําคัญต฽อการวางแผนกลยุทธ์ขององค์กร เพื่อให฾สามารถประยุกต์ใช฾เทคโนโลยีสารสนเทศมาช฽วยเพิม่ ประสิทธิภาพในการกาํ หนดแผนทางกลยุทธท์ ีส่ มบรู ณ์ 5.2 เชื่อมโยงกับส่ิงแวดล฾อมภายนอกองค์กร (external environment focus) สามารถสืบค฾นสารสนเทศที่ต฾องการและจําเป็นต฽อการตัดสินใจจากฐานข฾อมูล ขององค์กรได฾อย฽างรวดเร็วโดยเฉพาะข฾อมูลและขา฽ วสารที่เกดิ ขึ้นกบั สง่ิ แวดล฾อมภายนอกองค์กร 5.3 ความสามารถในการคํานวณภาพกว฾าง (broad-based computing capabilities)การตัดสินใจของผู฾บริหารส฽วนใหญ฽เกี่ยวข฾องกับปัญหาที่มีโครงสร฾างไม฽แน฽นอนและขาดความชัดเจนเจาะลึกถึงภาพโดยรวมของระบบแบบกว฾างๆ ไม฽ลงลึกในรายละเอียด ดังนั้นการคํานวณท่ีผ฾ูบริหารตอ฾ งการจงึ เป็นลักษณะงา฽ ยๆ ชดั เจน เปน็ รูปธรรม และไม฽ซับซอ฾ นมาก 5.4 ง฽ายต฽อการเรียนร฾ูและใช฾งาน (exceptional ease of learning and use) การท่ีผ฾ูบริหารมีกิจกรรมหลากหลายท้ังภายในและภายนอกองค์กร จึงมีเวลาในการตัดสินใจในแต฽ละงานน฾อยดงั น้ันการพฒั นา EIS ควรเลอื กรูปแบบกราฟ ใช฾ภาษาที่งา฽ ยต฽อการเข฾าใจ มกี ารตอบโต฾ท่ีรวดเร็ว

145 5.5 พัฒนาเฉพาะสําหรับผู฾บริหาร (customization) การตัดสินใจของผู฾บริหารส฽วนใหญ฽มีความสัมพันธ์ต฽อพนักงานอ่ืน และต฽อการดําเนินธุรกิจขององค์กร ซึ่งเป็นส่ิงท่ีนักวิเคราะห์และออกแบบระบบต฾องคํานึงถึงในการพัฒนา EIS เพ่ือพัฒนาให฾มีศักยภาพและประสิทธิภาพสูงเหมาะสมกับการใช฾งานและเป็นแบบเฉพาะสําหรับผู฾บริหารที่จะเข฾าถึงข฾อมูลตามท่ีต฾องการ เช฽นข฾อมูลใดท่ีผู฾บริหารต฾องการมาก หรือมีการเรียกใช฾บ฽อยควรออกแบบให฾มีข้ันตอนการเข฾าถึงได฾ง฽ายสะดวกและรวดเร็ว โดยการกดปุมบนแปูนพิมพ์เพียงไม฽ก่ีปุม หรือการเคล่ือนที่และใช฾งานเม฾าส์บนจอภาพ หรอื การสงั่ งานด฾วยเสยี งพดู เปน็ ตน฾ จากลักษณะของระบบสารสนเทศเพื่อผ฾ูบริหารข฾างต฾นสามารถสรุปเป็นภาพได฾ดังนี้ EIS  - TPS/MIS/DSS - - - - Standard & Poor’s -  - - ภาพท่ี 7.5 ระบบสารสนเทศเพ่ือผ฾บู ริหาร ท่ีมา (Laudon & Laudon, 2000, p.47) จากข฾อมูลขา฾ งต฾นสามารถเปรียบเทยี บขอ฾ ดีและข฾อจํากัดระหว฽างระบบสารสนเทศเพื่อผ฾ูบริหารและระบบสนับสนุนการตัดสนิ ใจ สรุปไดด฾ ังตารางต฽อไปน้ีตารางที่ 7.2 ข฾อดีและข฾อจํากัดของระบบสารสนเทศเพื่อผ฾ูบริหาร (ชนวัฒน์ โกญจนาวรรณ, 2550,หน฾า 105-106) มิติ ระบบสารสนเทศเพอ่ื ผู้บริหาร (EIS) ระบบสนบั สนนุ การตัดสินใจ (DSS)กล฽ุมผ฾ใู ช฾ ผ฾บู รหิ ารระดบั สูง ผูบ฾ รหิ ารระดับกลาง นักวเิ คราะห์ และออกแบบระบบการสนบั สนุนการ สนบั สนนุ การตัดสินใจแบบไม฽มี สนับสนุนการตดั สินใจทกุ รูปแบบตัดสนิ ใจ โครงสร฾าง โดยตรงชนิดของสารสนเทศท่ี สารสนเทศทวั่ ไป เช฽น ข฽าว ข฾อมูลภายใน สารสนเทศเฉพาะทีเ่ กี่ยวข฾องกบัใช฾ และภายนอกองค์กร ข฾อมลู ลูกคา฾ ปัญหาที่เกิดขึน้ ตารางเวลารายงาน เป็นตน฾การทํางานเบ้ืองตน฾ ติดตาม ควบคุมการทํางาน วางแผนและ วางแผน จดั การองค์กร บคุ ลากรและ กาํ หนดทิศทางโอกาสในภาพรวมของ ควบคุมการปฏบิ ัติงานของบุคลากร องค์กร แต฽ละหน฽วยงานในองค์กร

146มติ ิ ระบบสารสนเทศเพือ่ ผู้บริหาร (EIS) ระบบสนับสนนุ การตดั สินใจ (DSS)กราฟิก มีรปู แบบเปน็ กราฟิกทกุ ระบบงาน มรี ูปแบบของกราฟิกในบางส฽วนการใชง฾ าน ใช฾งานง฽าย ใชง฾ านงา฽ ยเม่ือไม฽มกี ารทํางานรว฽ มกับ ระบบอื่นๆระบบจัดการ มรี ะบบกรอง ตรวจสอบ ติดตาม และ จากปัญหาท่ีค฾นพบดว฾ ย EIS นาํ มาสารสนเทศ เปรยี บเทยี บข฾อมูล คน฾ หาแนวทางแกไ฾ ขดว฾ ย DSSแบบจําลอง จัดเป็นเพียงส฽วนประกอบทจ่ี ะมกี าร เปน็ สว฽ นประกอบหลักของ DSS ที่ ตดิ ตงั้ เมื่อผ฾ูใช฾ตอ฾ งการ ต฾องมีการพฒั นาระบบ พัฒนาโดยบริษทั ผ฾ูผลิตหรือผ฾ูเชีย่ วชาญ พฒั นาโดยผใ฾ู ชท฾ วั่ ไปหรอื สว฽ นงานที่ เกี่ยวกบั ระบบสารสนเทศ รับผิดชอบเกี่ยวกบั ระบบสารสนเทศอุปกรณ์ประกอบ Mainframe, Workstation, LAN Mainframe, Workstation, PC, LANผลิตภัณฑซ์ อฟต์แวร์ ต฾องเข฾าถึงขอ฾ มูลในฐานข฾อมลู ได฾งา฽ ย มี ต฾องสามารถจําลองแบบสถานการณ์ การเข฾าถึงแบบออนไลน์ มรี ะบบจัดการ ปญั หาต฽างๆ ได฾เป็นอย฽างดี มีฟงั กช์ นั ฐานขอ฾ มูลท่ีมีประสทิ ธภิ าพสงู ท่สี ามารถสร฾างแบบจําลองเองได฾ความสัมพันธ์ของระบบสารสนเทศระบบต฽างๆ ในองค์กร พบว฽า TPS จะเป็นแหล฽งข฾อมูลพื้นฐานให฾กับระบบสารสนเทศอ่ืนๆ ได฾แก฽ ระบบ OIS ในขณะท่ี EIS จะเป็นระบบท่ีรับข฾อมูลจากระบบสารสนเทศในระดับท่ีต่ํากว฽า จากการแลกเปล่ียนข฾อมูลภายในระดับย฽อยๆ กันเอง ส฽วน MISเป็นระบบท่สี รุปการประมวลผลธรุ กรรมขององค์กรตอ฽ จาก TPS เพื่อส฽งตอ฽ ขอ฾ มลู ไปยังระบบ DSS โดยระบบ DSS จากหลายหน฽วยงานสนับสนุนก็ส฽งสารสนเทศที่ผ฽านการประมวลผลในภาพรวมแก฽ระบบEIS เพือ่ ให฾ผู฾บริหารใชป฾ ระกอบการตดั สนิ ใจ เปน็ ต฾นสถาปตั ยกรรมระบบการจัดการความรู้ สถาปัตยกรรมระบบการจัดการความร฾ูมีความสําคัญในการช฽วยให฾เข฾าใจประเภทของเทคโนโลยีในแต฽ละระดับ ตั้งแต฽ระดับพื้นฐานไปจนถึงระดับสูง เพ่ือให฾นํามาประยุกต์ให฾เหมาะกับการจัดการความร฾ูของแต฽ละองค์กร พัฒนาองค์กรให฾เป็นองค์กรแห฽งการเรียนรู฾ ซึ่งมีองค์ประกอบการจดั การความร฾ู (นํ้าทพิ ย์ วิภาวนิ และนงเยาว์ เปรมกมลเนตร, 2551, หนา฾ 74) แบง฽ เปน็ 3 ระดับ โดยระดับแรก คือ บริการโครงสร฾างพื้นฐาน ระดับท่ีสอง คือ บริการความร฾ู และระดับท่ีสาม คือ บริการประสานผใ฾ู ชก฾ บั แหล฽งความรู฾ หรือแหลง฽ สารสนเทศ สถาปัตยกรรมระบบการจัดการความรู฾ประกอบดว฾ ย 3 สว฽ น ดังน้ี 1. บรกิ ารโครงสรา้ งพืน้ ฐาน (infrastructure services) การบริการโครงสร฾างพื้นฐาน หมายถึง เทคโนโลยีพ้ืนฐานที่จําเป็นในการประยุกต์กับการจดั การความรู฾ มี 2 ประเภท คือ เทคโนโลยีสําหรับการจัดเก็บ และเทคโนโลยีสําหรับการสื่อสารซง่ึ มีรายละเอยี ดดงั น้ี 1.1 เทคโนโลยีที่สนับสนุนการจัดเก็บความรู฾ (storage of technology) หรือท่ีเรียกว฽า คลังความร฾ู (knowledge repository) เกี่ยวข฾องกับการจัดเก็บตัวเนื้อหาความรู฾ (content)

147และโครงสร฾าง (structure) โดยท่ัวไปคลังความรู฾มักจะเก็บข฾อมูลและเอกสาร ปัจจุบันคลังความร฾ูได฾รับการออกแบบให฾มีความสามารถในการจับสารสนเทศที่เป็นกราฟิก คลังความรู฾จึงเป็นการใช฾เทคโนโลยีเพอื่ การสร฾าง และใชค฾ วามรูซ฾ าํ้ ประเภทของเทคโนโลยีในการจดั เกบ็ ความร฾ูมดี ังน้ี 1.1.1 คลังข฾อมูล (data warehouse) เป็นเทคโนโลยีท่ีใช฾ในการรวบรวมข฾อมูลจํานวนมากจากหลายแหล฽งภายในองค์กร และช฽วยในการวิเคราะห์ข฾อมูล ตัวอย฽างในการประยุกต์ใช฾งานเก็บรวบรวมสารสนเทศเก่ียวกับลูกค฾าและรายละเอียดที่เกิดจากการทํางานประจําวัน เพ่ือใช฾ประโยชนใ์ นการพฒั นาความสัมพันธก์ ับลกู คา฾ ใหด฾ ีขึน้ 1.1.2 แม฽ข฽ายความร฾ู (knowledge server) เป็นเทคโนโลยีท่ีใช฾ในการสร฾างเน้อื หา การอ฾างถงึ และเชอ่ื มโยงเอกสารแต฽ละชิ้น มีการจัดระบบความร฾ูในองค์กรโดยการจัดกลุ฽ม ทําดรรชนีเขา฾ ถงึ และสร฾างเมตาดาต฾า (metadata) โดยผูใ฾ ช฾สามารถเรียกใช฾ผ฽านเวบ็ บราวเซอร์ 1.2 เทคโนโลยีท่ีสนบั สนุนการส่ือสาร (technology for communication) มี 3 ประเภท ดงั น้ี 1.2.1 เทคโนโลยีในการส่ือสารระหว฽างพนักงาน เช฽น การรับส฽งแฟูมข฾อมูล และอีเมล ตัวอย฽างเช฽น การใช฾โปรแกรมเอาทล์ กุ ค์ (Outlook) ในองคก์ รต฽างๆ เพ่ือการสอ่ื สารผ฽านอีเมล 1.2.2 เทคโนโลยีท่ีสนับสนุนความร฽วมมือระหว฽างพนักงาน เป็นการใช฾เทคโนโลยีในการชว฽ ยใหพ฾ นักงานสามารถพูดคุย โตต฾ อบ หรอื แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันท้ังในขณะเวลาเดียวกันและต฽างเวลากัน เช฽น โปรแกรมเน็ตมีทต้ิง (NetMeeting) สนับสนุนการประชุม การสนทนาออนไลน์(chat) และการแบง฽ ปนั ถ฽ายทอดความรรู฾ ะหวา฽ งพนักงานในองค์กร 1.2.3 เทคโนโลยีการจัดการการทํางานของบุคลากร (Workforce Management)เป็นระบบที่สนับสนุนให฾พนักงานสามารถจัดการ และควบคุมกระบวนการทํางานผ฽านทางระบบออนไลน์ เช฽น ระบบที่ใช฾ในการรับ และยืนยันรายการสินค฾าจากรายการสินค฾าของตัวแทนจําหน฽ายผา฽ นทางออนไลนไ์ ด฾ 2. บรกิ ารความรู้ (knowledge services) การบริการความร฾ู หมายถึง การประยุกต์ใช฾เทคโนโลยีเพ่ือสนับสนุนการให฾บริการความรู฾ เปูาหมายหลักของการจดั การความรู฾งมี 3 ด฾าน ดงั นี้ 2.1 การสร฾างความรู฾ (knowledge creation) ถูกสร฾างผ฽านวิธีการ 3 รูปแบบ ได฾แก฽1) การใชป฾ ระโยชน์จากความรเ฾ู ดมิ 2) การสํารวจความรู฾ การประมวลและการเข฾ารหัสความรู฾ เป็นการกล่ันกรองความร฾ูที่มีอย฽ูเดิมเพื่อนําไปส฽ูการสร฾างความร฾ูใหม฽ที่ดีและมีประสิทธิภาพมากข้ึน และ3) การประมวลและเข฾ารหัสความรู฾เป็นกระบวนการในการเชื่อมโยงความร฾ูท่ีอย฽ูในตัวคน (tacitknowledge) ให฾อย฽ูในรูปแบบที่ใช฾งานง฽ายขึ้น เช฽น สูตร คู฽มือ หรือเอกสาร โดยมีวัตถุประสงค์เพ่ืออํานวยความสะดวกในการเข฾าถงึ ของคนอ่นื ๆ เปน็ ต฾น 2.2 การแบ฽งปันความร฾ู (knowledge sharing) เพ่ือแบ฽งปันความรู฾ ซึ่งถือเป็นเปูาหมายท่ีสําคัญของการจัดการความรู฾ โดยใช฾เคร่ืองมือท่ีเรียกว฽า การวิเคราะห์เครือข฽ายสังคม เช฽นระบบท่ีมีความสามารถในการสร฾างแผนที่ความร฾ูที่โยงไปยังผ฾ูเชี่ยวชาญในบริษัท เพื่ออํานวยความสะดวก และเปน็ ชอ฽ งทางใหค฾ นในองคก์ รเข฾ามาแลกเปลี่ยนเรยี นรก฾ู บั ผเู฾ ชยี่ วชาญเหลา฽ น้ี 2.3 การใช฾ความร฾ูซํ้า (knowledge reuse) มีความหมายในเชิงกว฾าง คือ การสืบคืนสารสนเทศ (information retrieval) กระบวนการของการใช฾ความรู฾ซํ้ามี 4 ขั้นตอน คือ 1) การจับ

148ความร฾ู 2) การจัดทําความร฾ูสําเร็จรูป 3) การแพร฽กระจายความรู฾ และ 4) การใช฾ความรู฾ (Markus,2001) ได฾แก฽ เทคโนโลยีทใ่ี ช฾ในการจดั การเน้อื หา และการทาํ แผนท่ีความคิด เพื่อสร฾างและดําเนินการกับเนื้อหาทม่ี คี วามหลากหลายและมีรปู แบบแตกต฽างกัน ท้ังข฾อความ ภาพนง่ิ และภาพเคลื่อนไหว สรุปได฾ว฽าวัตถุประสงค์ของการบริการความรู฾เป็นการเพิ่มความสามารถในการสืบค฾นเช฽น เพ่ิมความสามารถในการตอบสนองความต฾องการของผ฾ูใช฾ และการสร฾างข฾อมูลหรือเมตาดาต฾าเพื่อสร฾างความร฾ูใหม฽ แบ฽งปันความร฾ู และใช฾ความร฾ูซํ้า โดยระบบการสืบค฾นส฽วนใหญ฽ใช฾เทคนิคการรวบรวมความต฾องการของผ฾ูใช฾จากคําถามท่ีผู฾ใช฾สืบค฾นผ฽านระบบ จึงมีการพัฒนาระบบเมตาดาต฾าซึ่งเปน็ สารสนเทศทมี่ ปี ระโยชนใ์ นการอธิบายตวั เอกสารที่สามารถใช฾ในการสร฾างชุดข฾อมูลที่สอดคล฾องกับความต฾องการของผ฾ูใช฾บรกิ ารสารสนเทศ 3. บรกิ ารประสานผใู้ ช้กบั แหล่งความร้หู รือแหล่งสารสนเทศ (presentation services) การพัฒนาบริการประสานผใ฾ู ช฾กับแหลง฽ ความร฾ู หรือแหล฽งสารสนเทศมี 2 ประเภท คือบรกิ ารทแี่ สดงความเปน็ สว฽ นบคุ คลของผ฾ใู ชแ฾ ต฽ละคน และระบบท่ีช฽วยการมองเห็น 3.1 บริการที่แสดงความเป็นส฽วนบุคคลของผู฾ใช฾แต฽ละคน (personalization) เป็นระบบที่แสดงความเป็นส฽วนบุคคลของผ฾ูใช฾แต฽ละคน เพ่ือสร฾างระบบที่เหมาะกับความต฾องการท่ีเฉพาะเจาะจงของผ฾ูใช฾แต฽ละคน เกี่ยวกับการรวบรวมสารสนเทศของผ฾ูใช฾ และจัดส฽งเน้ือหา และบรกิ ารที่เหมาะสมให฾ผใ฾ู ช฾ตามความตอ฾ งการเฉพาะบุคคล ไดแ฾ ก฽ ประวตั ิของผ฾ูใช฾ท่ีแสดงความสนใจและความตอ฾ งการ เนือ้ หาสาระ และการนําไปใช฾งาน 3.2 ระบบท่ีช฽วยการมองเห็น (visualization) เป็นระบบที่ช฽วยให฾ผู฾ใช฾เข฾าใจสารสนเทศและความร฾ทู เ่ี หมาะสม โดยสร฾างการสืบค฾นผ฽านระบบหัวเร่ือง และเคร่ืองมืออื่นท่ีใช฾งานง฽าย เช฽น การเซิร์ชเอ็นจิน (search engine) บนอินเทอร์เน็ต ได฾แก฽ เว็บไซต์ยาฮู (Yahoo) และ เว็บไซต์กูเกิล(Google) และนอกจากนีย้ งั มีระบบการเช่อื มโยงสารสนเทศท่ีเป็นกราฟิก (graphical interfaces) เป็นระบบทชี่ ว฽ ยใหผ฾ ใู฾ ช฾เข฾าใจสารสนเทศ จากข฾อมูลข฾างต฾นการบริการประสานผ฾ูใช฾กับแหล฽งความร฾ูหรือแหล฽งสารสนเทศจึงเป็นระบบที่แสดงความเป็นส฽วนบุคคลของผู฾ใช฾แต฽ละคน และเป็นระบบท่ีช฽วยการมองเห็น ซึ่งทําให฾ผ฾ใู ช฾บรกิ ารสารสนเทศเขา฾ ใจสารสนเทศและความร฾ูทีต่ ฾องการได฾ดยี ง่ิ ขึน้

149รูปแบบเทคโนโลยีสารสนเทศกับกระบวนการจัดการความรู้ รูปแบบของเทคโนโลยีสารสนเทศที่นํามาใช฾ในการจัดการความรู฾ต้ังแต฽การสร฾างหรือการแสวงหาความรู฾ การรวบรวม และการจัดการความร฾ู เพอ่ื ง฽ายต฽อการเข฾าถึง เผยแพร฽ และติดต฽อส่ือสารตลอดจนการค฾นหาและเข฾าถึงความร฾ูเพ่ือนํามาใช฾ประโยชน์ในการปฏิบัติงาน ซ่ึงรูปแบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่นํามาใช฾ในกระบวนการจัดการความร฾ูแบ฽งเป็น 6 ประเภท (ชัชวาลย์ วงษ์ประเสริฐ,2548, หน฾า 180-198) ดังน้ี 1. เทคโนโลยีสารสนเทศเพอ่ื การรวบรวมและการจัดการความรู้ทป่ี รากฏ การนําเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช฾เพ่ือรวบรวมและจัดการความร฾ูสามารถทําได฾หลากหลายรปู แบบ ดงั น้ี 1.1 ระบบจัดการฐานข฾อมูลสัมพันธ์ (Relational Database ManagementSystem: RDBMS) เป็นโปรแกรมท่ีช฽วยในการควบคุมและจัดการจัดเก็บข฾อมูลลงบนหน฽วยความจําสํารอง สามารถสรา฾ ง บํารุงรักษา และเขา฾ ถงึ ฐานข฾อมลู สมั พนั ธไ์ ด฾ 1.2 ระบบจัดการเอกสาร (Document Management Systems: DMS) เป็นการผลิตเอกสารโดยใช฾โปรแกรมประมวลผลคาํ จดั เกบ็ ขอ฾ มูลในรปู แบบเอกสารอิเลก็ ทรอนิกส์ เพื่อสะดวกในการสืบค฾นและเข฾าถึง สามารถพิมพ์และแจกจ฽ายเอกสารน้ันๆ ปัจจุบันมีการบันทึกอย฽ูในหลายรูปแบบ เชน฽ สือ่ มลั ตมิ ดี ยี ตวั หนังสือ รปู ภาพ เสียง และภาพเคล่อื นไหวหรอื วดิ โี อ เปน็ ตน฾ 2. เทคโนโลยสี ารสนเทศทใี่ ชใ้ นการสรา้ งความรู้ เทคโนโลยีสารสนเทศได฾ช฽วยในการสร฾างความร฾ูโดยใช฾ระบบเก่ียวกับงานด฾านความรู฾เช฽น โปรแกรมแคด (Computer Aided Design: CAD) ซึ่งเป็นโปรแกรมกราฟิกขั้นสูงที่ช฽วยในการสร฾าง และแก฾แบบ มีลักษณะเป็นสามมิติ หรือการใช฾ระบบความจริงเสมือน (virtual realitysystems) ซึ่งเป็นโปรแกรมที่พัฒนาจากโปรแกรมแคด มีลักษณะโต฾ตอบได฾ (interactive) ในการสร฾างภาพจําลองใกล฾เคียงกับความจริง มีประโยชน์ในด฾านการศึกษา วิทยาศาสตร์ และธุรกิจ หรือคอมพิวเตอร์ท่ีใช฾วิเคราะห์การลงทุน (investment workstations) ซึ่งเป็นพีซีท่ีมีความสามารถสูงใช฾วเิ คราะห์สถานะทางการเงนิ 3. เทคโนโลยสี ารสนเทศเพ่อื การเข้าถึงความรูท้ ่ีปรากฏ การนําเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช฾เพ่อื การเขา฾ ถึงความร฾ทู ่ปี รากฏมี 8 รูปแบบ ดังนี้ 3.1 กรุ฿ปแวร์ (groupware) เป็นซอฟต์แวร์ท่ีออกแบบสําหรับกล฽ุมคน ในการแบ฽งปันข฾อมูล ข฽าวสาร ทํากิจกรรมบนเคร่ืองคอมพิวเตอร์เครือข฽ายร฽วมกันได฾ เช฽น Lotus Note, NovellGroup Wise, Microsoft Exchange เป็นต฾น ประกอบด฾วยฐานข฾อมูลท่ีสามารถทํางานเอกสารร฽วมกัน ใช฾กําหนดการ ปฏิทิน และ/หรือ อีเมล อภิปรายความคิดทางออนไลน์ และนัดหมายการประชุม 3.2 อินเทอร์เน็ต (Internet) เป็นเครือข฽ายของเครือข฽ายคอมพิวเตอร์ท่ีมีแม฽ข฽ายคอมพิวเตอร์ทั่วโลกเชื่อมกัน ทําให฾ระบบอินเทอร์เน็ตเป็นเครือข฽ายส่ือสารท่ีใหญ฽ท่ีสุด และเป็นช฽องทางการส่ือสารท่ีครอบคลุมอย฽ูท่ัวโลก เพื่อการแลกเปลี่ยนเรียนร฾ูร฽วมกัน สามารถเข฾าถึงความร฾ูที่ตอ฾ งการผา฽ นเว็บไซต์ ทังเว็บไซต์ฟรีและเว็บไซต์ท่ีคิดค฽าธรรมเนียม ทําให฾การเข฾าถึงความร฾ูสามารถทําได฾ทกุ ที่ ทกุ เวลา และเขา฾ ถงึ ความรูไ฾ ดท฾ ่วั โลกภายในเวลาอันสัน้

150 3.3 โปรแกรมค฾นหา (search engines) เป็นโปรแกรมช฽วยในการค฾นหาข฾อมูล และความรู฾ท่ีต฾องการจากอินเทอร์เน็ตอย฽างรวดเร็ว โดยเฉพาะการค฾นหาจากฐานข฾อมูลความร฾ูต฽างๆ ที่สนับสนุนการเติมเต็มความร฾ูในกระบวนการผลิต และการจัดการความรู฾ขององค์กรเสมือนจริง ตัวอย฽างของโปรแกรมค฾นหา เชน฽ Google, About, Alta vista, Excite, Hotbot, Infoseek, Lycos เปน็ ตน฾ 3.4 อินทราเน็ต (Intranet) เป็นอินเทอร์เน็ตที่ใช฾ในองค์กร และมีการควบคุมการใช฾และมขี ฾อจํากัดในการเข฾าถึงจากภายนอกองค์กร ความรู฾เป็นกรรมสิทธ์ิขององค์กรเสมือนจริง ซึ่งต฾องมีการระบบรกั ษาความปลอดภัยของข฾อมลู ไดแ฾ ก฽ ไฟร์วอล์ (firewalls) ภาพท่ี 7.6 อินทราเน็ตของมหาวิทยาลยั ราชภฏั สวนดสุ ติ ทีม่ า (มหาวทิ ยาลัยราชภฏั สวนดสุ ติ , 2555) 3.5 ไซต์ท฽า (portals) หมายถึง เว็บท่ีรวบรวมลิงก์เว็บไซต์ และบทความต฽างๆ โดยการจัดหมวดหมู฽ให฾ดูง฽าย และมีหน฾าที่นําพาผ฾ูชม ไปยังเว็บหรือล้ิงอื่นๆ ที่เกี่ยวข฾อง ท้ังนี้เพ่ือความสะดวก รวดเร็ว และมีข฾อมูลที่หลากหลายมากมายให฾ได฾ค฾นหาตามความต฾องการ เช฽น web board,web link, search engine เป็นต฾น ข฾อดีคือ ผ฾ูใช฾ไม฽ต฾องเข฾าหลายเว็บไซต์เพ่ือใช฾บริการต฽างๆ แต฽เข฾าถงึ ขอ฾ มลู ได฾จากเวบ็ ไซต์เดียว เช฽น thaigov.net, pantip.com, sanook.com เป็นต฾น ซึ่งแนวโน฾มของของเวบ็ ไซตใ์ หม฽ๆ มักมลี กั ษณะเปน็ ไซต์ทา฽ มากข้นึ

151 ภาพที่ 7.7 ตัวอย฽างไซตท์ า฽ ของเวบ็ ไซต์ไทยกอ฿ ฟด็อทเนต็ ทม่ี า (ไทยก฿อฟด็อทเน็ต, 2555) 3.6 เครื่องมือการไหลของงาน (workflow tools) หมายถึง การใช฾ระบบสารสนเทศมาช฽วยในการทําให฾ระบบการอนุมัติเอกสารต฽างๆ มีประสิทธิภาพมากข้ึน เป็นกระบวนการทํางานในองค์กรเสมือนจริง สามารถทํางานร฽วมกันได฾ และเป็นเครื่องมือท่ีมีกลไก การเตือน การกําหนดเวลาเก่ียวกับปญั หาเพอื่ ปูองกัน และแนวทางแกไ฾ ขในการปฏบิ ตั งิ านขององค์กรเสมือนจริง 3.7 เครื่องมือการทํางานเสมือน (virtual working tools) เป็นการใช฾ความรู฾ความชํานาญของบุคคลในสถานท่ีท่ีแตกต฽างกันสามารถทํางานร฽วมกันบนเครือข฽ายในลักษณะที่เหมือนกับองคก์ ร โดยสามารถใชง฾ านจากสถานที่อืน่ ไดโ฾ ดยทนั ที ซึ่งไม฽ต฾องใหผ฾ เ฾ู ชย่ี วชาญเดนิ ทางไป ณ จุดน้ัน แต฽ใช฾เทคโนโลยีเป็นเคร่ืองมอื แทน 3.8 การเรียนร฾ูผ฽านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Learning tools) เป็นการใช฾เทคโนโลยีสารสนเทศในการเรียนร฾ู และฝึกอบรมบุคลากรด฾วยส่ืออิเล็กทรอนิกส์ ไม฽ว฽าจะเป็นเครือข฽ายอินเทอร์เน็ตหรอื เครือข฽ายอนิ ทราเน็ตในองค์กร โดยใหผ฾ ูเ฾ รียนสามารถเรยี นได฾ทุกสถานท่ี และทกุ เวลา 4. เทคโนโลยสี ารสนเทศเพ่อื การประยุกตใ์ ชค้ วามรู้ การนําเทคโนโลยสี ารสนเทศมาประยกุ ตใ์ ช฾ความรสู฾ ามารถกระทําไดด฾ งั น้ี 4.1 เคร่ืองมือที่เชื่อมระหว฽างผู฾ใช฾กับสารสนเทศ (management the contents)เป็นการใช฾อินทราเน็ต หรือกรุ฿ปแวร์เข฾าถึงเครือข฽ายและการใช฾เอกสารร฽วมกันได฾ง฽ายและค฾นหาข฾อมูลได฾รวดเร็ว มี 3 ลักษณะ ได฾แก฽ การรวบรวมสารสนเทศในเน้ือหาท่ีต฾องการ การจัดสารสนเทศในเน้อื หาท่ตี ฾องการ การสบื คน฾ และการใชส฾ ารสนเทศ

152 4.2 ระบบสนับสนุนการปฏิบัติการ (Performance Support System: PSS) เป็นซอฟต์แวร์ที่ช฽วยให฾งานสําเร็จรวดเร็ว เช฽น การทํางานท่ีเก่ียวกับภาษี รายได฾หรือรายการที่ต฾องมีการจดบันทึกไว฾ ได฾แก฽ ระบบเงิน รายรับรายจ฽ายขององค์กร เป็นต฾น ช฽วยในการทํางานท่ีซ้ําๆ ได฾ดี อาจมีการใชม฾ ลั ตมิ ีเดียและเทคนิคเดียวกบั ระบบผเ฾ู ชี่ยวชาญ 4.3 คลังข฾อมูล (data warehouse) เป็นกระบวนการรวบรวมข฾อมูลจากหลายแหล฽งของฐานข฾อมลู แปลงข฾อมลู เพือ่ ให฾อย฽ูในรูปแบบท่ีเหมาะสมในการจัดเก็บ และง฽ายต฽อการนําไปใช฾ และถูกเก็บในฐานข฾อมูลของคลงั ขอ฾ มูล 4.4 การทําเหมืองข฾อมูล (data mining) เป็นการค฾นหาความรู฾จากฐานข฾อมูลขนาดใหญ฽ รวมเทคนิคจากเครื่องมือต฽างๆ เข฾าไว฾ด฾วยกันเช฽นการวิเคราะห์ข฾อมูลทางสถิติ การจัดการฐานข฾อมูล การเรียนรู฾ของเคร่ืองจักร และการแสดงข฾อมูลในลักษณะกราฟิก เช฽น การวิเคราะห์โรคธรุ กจิ ประกนั ภยั ธุรกจิ ห฾างสรรพสินค฾า และธุรกจิ อืน่ ๆ เป็นต฾น 5. เทคโนโลยีสารสนเทศสนบั สนนุ การจดั การความรู้โดยนยั การนําเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช฾สนับสนนุ การจดั การความรูโ฾ ดยนัย สามารถทาํ ได฾ดังน้ี 5.1 จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (e-Mail) เป็นการนําโปรแกรมคอมพิวเตอร์ท่ีใช฾งานส฽งจดหมายเข฾ามาใช฾ สามารถแทรกข฾อมูลเอกสารประเภท ไฟล์เสียง รูปภาพ หรือวีดิทัศน์ สามารถทําทาํ งานได฾รวดเร็ว และส฽งจดหมายอิเลก็ ทรอนกิ ส์ไปได฾ท่ัวโลก 5.2 การประชุมผ฽านวิดีโอ (video conferencing) เป็นการใช฾วิดีโอในการตดิ ต฽อส่ือสาร และเป็นการติดต฽อกันระหว฽างคนต้ังแต฽สองคนข้ึนไป โดยน่ังอย฽ูหน฾าคอมพิวเตอร์ และมีกลอ฾ งถา฽ ยวิดโี อเล็กๆ และโปรแกรมทเ่ี หมาะสม ซึ่งตอ฾ งใชค฾ อมพิวเตอรท์ ีม่ ีความเร็วเพียงพอ 5.3 กระดานอภิปราย (discussion boards) มีวัตถุประสงค์ให฾เกิดการสื่อสารอย฽างไม฽เป็นทางการ ทําให฾เกิดการร฾องขอคําแนะนํา และการแลกเปล่ียนเรียนร฾ูร฽วมกัน ในหัวข฾อสนทนาที่สนใจ ใช฾สนบั สนนุ ตดิ ต฽อภายในชมุ ชนนักปฏบิ ัติ 5.4 เครื่องมือสนับสนุนโครงการ (project support tools) เป็นเครื่องมือท่ีทําให฾สามารถทํางานเป็นกลุ฽ม และทีมงานโครงการแบ฽งปันเอกสาร และแลกเปล่ียนข฽าวสารร฽วมกัน คล฾ายกับทีมงานโครงการทางไกล เพื่อระดมสมอง และสร฾างทางเลือกในการใช฾สารสนเทศ หรือข฾อคิดเห็นตัวอย฽างเครื่องมือสนับสนุนโครงการ เช฽น NetLimiter เป็นซอฟต์แวร์พื้นฐานในการทําการควบคุมปริมาณการใช฾งานอินเทอร์เน็ตและเป็นเคร่ืองมือตรวจสอบปริมาณการใช฾งานอินเทอร์เน็ตซ่ึงถูกออกแบบมาสําหรับระบบปฏิบัติการวินโดวส์ สามารถทําการควบคุมปริมาณการใช฾งานอินเทอร์เน็ตและตรวจสอบปริมาณการใช฾งานอินเทอร์เน็ตได฾ และ BaCon เป็นซอฟต์แวร์แบบบริหารจัดการแบนด์วิธ (Bandwidth Controller) ท่ีสามารถควบคุมปริมาณการใช฾แบนด์วิธแบบอัตโนมัติเพื่อให฾สามารถใช฾รองรับบริการต฽างๆ ในองค์กรได฾อย฽างมีประสิทธิภาพ โดยมีเปูาหมายคือ กลุ฽มผู฾ใช฾ในสถานศึกษา เปน็ ตน฾

153 6. เทคโนโลยสี ารสนเทศที่ใช้ในการประมวลความรู้ การประมวลความรู฾สามารถใช฾ปัญญาประดิษฐ์ เป็นสาขาของวิชาคอมพิวเตอร์ท่ีเลียนแบบการเรยี นรแ฾ู ละการตัดสินใจต฽างๆ ของมนษุ ย์ ซอฟตแ์ วรท์ ีใ่ ช฾ในการประมวลความรม฾ู ดี ังนี้ 6.1 การแบ฽งปันความรู฾ ประกอบด฾วยซอฟต์แวร์ที่ช฽วยในการแบ฽งปันสารสนเทศ การประชมุ อเิ ลก็ ทรอนิกส์ การจดั ตารางเวลา และการส฽งอีเมล เป็นเครือข฽ายท่ีกลุ฽มคนที่ทํางานในสถานที่ต฽างกันสามารถทํางานร฽วมกันได฾ มีการระบุวันท่ี เวลา และผ฾ูเขียน การตอบโต฾กันสามารถทําได฾ง฽ายโดยจะดูได฾ว฽าใครเสนอความคิดเห็นมาก฽อนหน฾าท่ีว฽าอย฽างไร เช฽น โลตัสโน฾ต (Lotus Note) หรือโปรแกรม Internet Explorer หรือ Netscape ซึง่ มีฟังกช์ นั ของกร฿ปุ แวร์รวมดว฾ ย เชน฽ อเี มล (e-Mail)การประชมุ ทางไกล การใช฾เคร่อื งโทรสาร โทรศัพท์ หรือการใช฾ห฾องสนทนา (chat room) รวมท้ังการนําระบบฐานข฾อมูล ที่มีเคร่ืองมือในการค฾นหา และดึงข฾อมูล เช฽น โปรแกรมเพื่อการค฾นหา (searchengine) เป็นต฾น 6.2 การเผยแพร฽ความร฾ู การใชร฾ ะบบคอมพวิ เตอรใ์ นสาํ นักงานเพื่อเผยแพร฽ความร฾ู ท้ังภายในและภายนอกองค์กร โดยอาจใช฾แอพพลิเคช่ันด฾านการประมวลคํา (word processing) การใช฾เว็บ หรอื การใชฐ฾ านข฾อมลู เปน็ ต฾น จากข฾อมูลข฾างต฾นกุญแจสําคัญในกระบวนการสร฾างความรู฾ ก็คือวิธีการคิดวิเคราะห์สงั เคราะห์สิง่ ท่ีมีลักษณะตรงข฾าม การสร฾างความรู฾จึงเร่ิมจากปฏิสัมพันธ์ทางสังคมและพัฒนาไปส฽ูการปรบั เปลยี่ นส฽ูภายนอก การผสมผสาน และการปรบั เปลีย่ นส฽ูภายในประโยชน์ของเทคโนโลยีสารสนเทศทน่ี ามาใช้ในการจดั การความรู้ การจดั การความรู฾ขององค์กรโดยนําเทคโนโลยีสารสนเทศมาช฽วยในการจัดการความรู฾ ทําให฾เกดิ ประโยชน์ต฽อระบบ และมคี วามปลอดภัยของขอ฾ มลู สําคญั ขององค์กร ซ่งึ มปี ัจจัยสําคัญดังน้ี 1. การจัดการเทคโนโลยสี ารสนเทศเพอ่ื จดั การความรู้ การนําเทคโนโลยีสารสนเทศมาใชป฾ ระโยชน์ในการจัดการความร฾ู ทําให฾เกิดการจัดการระบบสารสนเทศเพ่ือใช฾ในการจัดการองค์กรอย฽างเหมาะสม ถูกต฾อง ซึ่งต฾องมีการควบคุมเทคโนโลยีสารสนเทศใหท฾ ํางานอยา฽ งเป็นระบบดงั ภาพที่ 7.8

154          ภาพที่ 7.8 ความสมั พนั ธ์ระหว฽างเทคโนโลยีสารสนเทศ ระบบสารสนเทศ และองค์กร จากภาพข฾างต฾นสามารถอธิบายได฾ว฽า การควบคุมเทคโนโลยีสารสนเทศที่นํามาใช฾ก฽อใหเ฾ กิดระบบการทํางานและควบคมุ การนําเข฾าสารสนเทศ เพ่ือประกันว฽าข฾อมูลนําเข฾าได฾ถูกนําเข฾าส฽ูระบบอย฽างถูกต฾อง มีการจัดเก็บ และสืบคืนข฾อมูลที่ถูกต฾อง เช฽น ผ฾ูที่จะเข฾าถึงข฾อมูลท่ีเก็บไว฾ในฐานขอ฾ มูล ต฾องเป็นบุคคลท่มี ีสทิ ธิ์ใชข฾ อ฾ มูลน้ันเท฽านนั้ เปน็ ตน฾ เพ่ือให฾แน฽ใจว฽าผลผลิตสารสนเทศที่มีผู฾ขอใช฾ได฾ถูกแสดงผลให฾แก฽ผู฾ขอใช฾สารสนเทศอย฽างครบถ฾วน ตลอดจนการคํานวณเป็นไปอย฽างถูกต฾องส฽วนการควบคุมองค์ประกอบฮาร์ดแวร์ เพ่ือปูองกันความล฾มเหลวในการทํางานของฮาร์ดแวร์ เช฽นการมีระบบตรวจสอบความผดิ พลาดของฮาร์ดแวร์ เปน็ ตน฾ การแบ฽งเทคโนโลยีสารสนเทศท่ีนํามาใช฾ในการจัดการความร฾ูได฾ 6 ประเด็น (บุญญลักษม์ตํานานจติ ร, 2553, หนา฾ 156-157) ดังนี้ 1.1งานเอกสารเวิร์ดโพรเซสเซอร์ สิ่งพิมพ์เอกสาร เป็นงานที่มีการสร฾างขึ้นทุกวันและนับวันย่ิงสร฾างข้ึนมาก และใช฾งานกันตลอดเวลา งานน้ีมีบทบาทสําคัญเพราะเกี่ยวโยงกับการทํางานรายวัน 1.2 งานอีบ฿ุก อีไลบรารี ปัจจุบันมีการจัดการเอกสารส่ิงพิมพ์ในรูปหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ ต้ังแต฽การเก็บเอกสารแบบ Acrobat แบบอีบุค และ XML รวมท้ังการจัดเก็บเอกสารแบบรูปภาพ หรอื การสแกนเอกสารหนังสือ 1.3 ระบบฐานข฾อมูล ข฾อมูลข฽าสาร ทั้งที่เป็นข฾อมูลดําเนินการ เช฽น ฐานข฾อมูลเกี่ยวกบั บคุ ลากร สถานท่ี การเงนิ การบรกิ าร และงานข฾อมูลเกี่ยวกับพนักงานในองคก์ ร

155 1.4 เว็บ การเก็บข฾อมูลจํานวนมากอีกวิธีหน่ึงคือ การเก็บไว฾ในเว็บเซิร์ฟเวอร์ ซึ่งเก็บข฾อมลู ไดง฾ ฽าย รวดเรว็ สามารถเก็บข฾อมูลได฾หลากหลายรูปแบบ ท้ังมัลติมีเดีย และข฾อมูลท่ีไม฽มีรูปแบบหากพิจารณาตามทิศทางการพัฒนาเทคโนโลยีเว็บแล฾ว เทคโนโลยีเว็บในยุคแรกมักเน฾นท่ีการจัดการความร฾ูทชี่ ัดแจ฾ง โดยการจัดเก็บและสืบค฾นข฾อมูลจากเอกสาร HTML และ ฐานข฾อมูลจากเว็ปไซต์เป็นหลัก ในขณะที่เว็บยุคที่ 2 มง฽ุ เนน฾ การจดั การความร฾ูที่อย฽ูในตัวบุคคลมากขึ้น รูปแบบของการเขียนเว็บบล็อก และวิกิ รวมท้ังเว็บไซต์เครือข฽ายสังคมออนไลน์ ดังเช฽น เว็บ Hi5, Facebook และ Twitterเปน็ ตน฾ ในเว็บยุคถัดไปจะม฽ุงเน฾นท่ีการจัดการความรู฾เชิงความหมายมากยิ่งขึ้น เพื่อนําไปส฽ูการพัฒนาโปรแกรมตัวแทนท่ีมีความชาญฉลาด (Intelligent Agents) เพ่ือมาช฽วยในการปฏิบัติงานและสืบค฾นขอ฾ มูลของผ฾ูใช฾ได฾ดยี ่ิงข้ึน 1.5อเี มล เอฟทีพี (FTP) เป็นข฾อมูลชนิดไฟล์ทรัพยากรโปรแกรมคอมพิวเตอร์ เป็นแหล฽งเก็บข฾อมูลท้ังท่ีเป็นข฾อมูลอีเมลส฽วนตัว อีเมลของหน฽วยงาน ขององค์กร จึงมีการสร฾าง FTP Serverเพอื่ เก็บข฾อมลู จํานวนมากและจัดการข฾อมูลที่เป็นแฟูมไวใ฾ ช฾งานรว฽ มกนั 1.6 เว็บบล็อก (webblog) เป็นเว็บไซต์ชนิดหนึ่งบนอินเทอร์เน็ต แนวคิดของเว็บบล็อก คือ การให฾สมาชิกขององค์กรได฾เขียนความร฾ูใส฽เข฾าไปในบันทึก (blog) ของตนเอง โดยเล฽าประสบการณ์ต฽างๆ ความร฾ูเหล฽าน้ีจะถูกเผยแพร฽ไปยังสมาชิกคนอ่ืนๆ ในองค์กรดิจิทัลผ฽านหน฾าหลักของเวบ็ หรอื จากการสืบค฾นของสมาชกิ อ่ืน การใชเ฾ ว็บบลอ็ กในการจัดการความรู฾ดังภาพที่ 7.9 ภาพท่ี 7.9 เวบ็ บลอ็ กทน่ี ํามาใชใ฾ นองค์กร

156 จากภาพเว็บบล็อกถือเป็นเคร่ืองมือในการจัดการความรู฾ในองค์กรที่นําเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช฾เพื่อสื่อสารข฾อมูล สารสนเทศ บันทึกเร่ืองราวที่สนใจ โดยการเล฽าเร่ืองอันเกิดจากการศึกษาหาความรู฾ จากประสบการณ์ที่ได฾รับ ทําให฾บุคลากรในองค์กรสามารถเรียนร฾ูร฽วมกันได฾ในเวลาที่รวดเร็วได฾ทุกท่ี ทุกเวลา ตามความสนใจของแต฽ละบุคคล ในยุคอิเล็กทรอนิกส์ส฽งผลให฾องค์กรดิจิทัลมีความสําคัญมากย่ิงข้ึนต฽อการจัดการความรู฾ที่เกิดขึ้น เพื่อรวบรวมความรู฾ไปใช฾ประโยชน์ได฾ง฽ายและสร฾างคุณค฽าให฾กับองค์กรได฾อย฽างค฾ุมค฽า จึงมีการนําเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช฾ในการจัดการความรู฾ขององคก์ ร 2. ประโยชนข์ องการจดั การความรู้ การจัดการความร฾ูส฽งผลให฾เกิดองค์ความร฾ูใหม฽ นวัตกรรม โดยมีการนําเทคโนโลยี มาเป็นเคร่ืองมือในการติดต฽อสื่อสาร แลกเปล่ียน และเผยแพร฽ความร฾ูส฽งผลให฾เกิดประโยชน์อย฽างมหาศาลตอ฽ สงั คมปจั จบุ นั ดงั น้ี 2.1 ปูองกันความรู฾สูญหาย การจัดการความรู฾ทําให฾องค์กรสามารถรักษาความเช่ียวชาญ ความชํานาญ และความร฾ูท่ีอาจสูญหายไปพร฾อมกับการเปล่ียนแปลงของบุคลากร เช฽น การเกษยี ณอายุงาน หรือการลาออกจากงาน เป็นตน฾ 2.2 เพมิ่ ประสิทธิภาพในการตดั สินใจจากประเภท คุณภาพ และความสะดวกในการเข฾าถึงความร฾ู เนื่องจากผูท฾ ม่ี ีหน฾าทต่ี ัดสนิ ใจต฾องสามารถตัดสินใจได฾อย฽างรวดเร็ว และมคี ุณภาพ 2.3 ความสามารถในการปรับตัว และมีความยืดหย฽ุน เป็นการทําให฾ผู฾ปฏิบัติงานมีความเขา฾ ใจในงาน และวัตถุประสงค์ของงาน โดยไม฽ต฾องมีการควบคุม หรือมีการแทรกแซงมากนัก ผ฾ูปฏิบัติงานสามารถทํางานในหน฾าทตี่ ฽างๆ ไดอ฾ ยา฽ งประสิทธภิ าพ และพฒั นาจิตสํานึกในการทํางาน 2.4 ความได฾เปรียบในการแข฽งขัน การจัดการความรู฾ช฽วยให฾องค์กรมีความเข฾าใจลูกค฾าแนวโนม฾ ทางการตลาด และการแข฽งขนั ทาํ ให฾สามารถลดช฽องว฽าง และเพ่มิ โอกาสในการแข฽งขันได฾ 2.5 พัฒนาทรัพย์สินทางปัญญา เป็นการพัฒนาความสามารถขององค์กรในการใช฾ประโยชนจ์ ากทรพั ย์สนิ ทางปัญญาทีม่ อี ย฽ู ไดแ฾ ก฽ สทิ ธบิ ัตร เคร่อื งหมายการคา฾ และลิขสิทธิ์ เป็นต฾น 2.6 ยกระดับผลิตภัณฑ์ เป็นการนําการจัดการความรู฾มาใช฾เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และบริการ ซ่ึงจะเปน็ การเพมิ่ คุณค฽าให฾แกผ฽ ลติ ภณั ฑ์นนั้ ๆ อีกด฾วย 2.7 การบริหารลูกค฾า เป็นการศึกษาความสนใจ และความต฾องการของลูกค฾าจะเปน็ การสร฾างความพึงพอใจ และเพมิ่ ยอดขาย และสร฾างรายได฾ให฾แกอ฽ งคก์ ร 2.8 การลงทุนทางทรัพยากรบุคคล เป็นการเพิ่มความสามารถในการแข฽งขันโดยผ฽านการเรียนร฾ูร฽วมกัน การจัดการด฾านเอกสาร การจัดการกับความรู฾ที่ไม฽เป็นทางการเป็นการเพ่ิมความสามารถให฾แก฽องค์กรในการจ฾าง และฝกึ ฝนบคุ ลากร การจัดการความร฾ูต฾องอาศัยคนที่มีความร฾ู สามารถแปลความหมายและใช฾เทคโนโลยีสารสนเทศได฾อย฽างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล องค์กรจึงต฾องพยายามรักษา พัฒนาคนที่มีความรู฾ซึ่งเป็นส฽วนหนึ่งของการจัดการความร฾ู เนื่องจากการทําให฾ทุกคนในองค์กรมีแหล฽งความร฾ูที่สามารถเข฾าถึงได฾ง฽าย และแบ฽งปันความร฾ูกันได฾อย฽างเหมาะสม ส฽งผลให฾เกิดประโยชน์ต฽อการปฏิบัติงานเพิ่มความสามารถในการแขง฽ ขันขององคก์ ร

157สรปุ ความรู฾สามารถตัดสินและกลั่นกรองสรรพส่ิงให฾สามารถตอบสนองต฽อสถานการณ์และสารสนเทศใหม฽ๆ ความร฾ูจึงเป็นส่ิงท่ีสามารถนําไปเชื่อมโยงได฾กับระบบของสิ่งมีชีวิต ความเจริญ และการเปล่ียนแปลง นิยมแบ฽งได฾เป็น 2 ลักษณะ ได฾แก฽ ความรู฾โดยนัยหรือแบบซ฽อนเร฾น หรือบางทีเรียกกว฽าความร฾ูฝังลึก ซึ่งเป็นความรู฾ที่เกิดจากประสบการณ์การเรียนรู฾หรือพรสวรรค์ต฽างๆ และยากท่ีจะบอกได฾ ซึ่งสื่อสารหรือถ฽ายทอดในรูปของตัวเลข สูตร หรือลายลักษณ์อักษรได฾ยาก ความร฾ูชนิดนี้สามารถพัฒนาและแบ฽งปันกันได฾ ส฽วนความร฾ูแบบท่ีสอง คือ ความร฾ูที่สามารถแสดงออกมาให฾เห็นได฾บางทีเรียกว฽าความร฾ูชัดแจ฾ง เป็นความร฾ูที่เป็นเหตุเป็นผล สามารถรวบรวมและถ฽ายทอดออกมาในรูปแบบตา฽ งๆ ได฾ เช฽น หนังสือ คูม฽ อื เอกสาร และรายงานต฽างๆ เป็นต฾น ทําให฾คนสามารถเข฾าถึงได฾ง฽ายข้ึน ปัจจุบันองค์กรต฽างๆ ท้ังภาครัฐและเอกชนจึงให฾ความสําคัญต฽อการนําความร฾ูฝังลึกของแต฽ละบคุ คลในองค์กรออกมาใช฾ในการปฏิบัติงานร฽วมกัน สร฾างเป็นทีมงานท่ีเข฾มแข็ง เพื่อเป็นองค์กรท่ีย่ังยืนโดยมีการสร฾างความรู฾ การจัดหา การกล่ันกรองความรู฾ การจัดเก็บ การแลกเปล่ียน การประยุกต์ใช฾ความร฾ู รวมถึงการเผยแพร฽ความรู฾ออกส฽ูสาธารณชนซ่ึงนําเทคโนโลยีและระบบสารสนเทศมาบริหารจดั การ

158 คาถามทบทวน 1. จงอธิบายความหมายของความร฾ู 2. ความรู฾มกี ปี่ ระเภท อะไรบา฾ ง จงอธิบายความหมายของความรู฾แตล฽ ะประเภท 3. จงอธิบายความหมายของการจัดการความรู฾ 4. จงอธิบายความหมายของขอ฾ มลู สารสนเทศ ความร฾ู และปญั ญา 5. กระบวนการจดั การความรู฾มีอะไรบ฾าง จงอธิบาย 6. การปรับเปลีย่ นและสร฾างความรูจ฾ ะเกิดขนึ้ ได฾ 4 รปู แบบ อะไรบ฾าง พร฾อมอธิบาย 7. รูปแบบของเทคโนโลยีสารสนเทศกบั กระบวนการจัดการความร฾มู ีกี่รูปแบบ อะไรบา฾ ง 8. จงยกตวั อย฽างเทคโนโลยีสารสนเทศเพอื่ การเข฾าถึงความร฾ูที่ปรากฏมา 3 ตวั อย฽าง 9. จงยกตวั อยา฽ งเทคโนโลยสี ารสนเทศเพือ่ การประยุกต์ใชค฾ วามรู฾มา 3 ตวั อย฽าง 10. จงบอกความสําคัญและประโยชน์ของการนําเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช฾ในการจัดการความรู฾ มาอย฽างน฾อย 4 ข฾อ

บทที่ 8 กฎหมาย จรยิ ธรรม และความปลอดภยั ในการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ฐิติยา เนตรวงษ์ เน่ืองจากความก฾าวหน฾าทางด฾านเทคโนโลยีสารสนเทศได฾พัฒนาอย฽างรวดเร็ว ระบบคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีการส่ือสารได฾กลายมาเป็นส฽วนสําคัญในการประก อบกิจการขององค์กรธุรกิจต฽างๆ รวมทั้งยังเป็นส฽วนหนึ่งของความเป็นอยู฽ในการดํารงชีวิตประจําวันของมนุษย์ในยุคสังคมสารสนเทศ แต฽บางคร้ังได฾มีผ฾ูที่ขาดสามัญสํานึกพื้นฐานที่ดี ได฾ใช฾เทคโนโลยีสารสนเทศไปในทางทีผ่ ดิ ใช฾คอมพิวเตอร์สร฾างความเดือดร฾อน ก฽อความเสียหายให฾กับผู฾อ่ืน นับต้ังแต฽สร฾างความรําคาญไปจนถึงการเกิดความเสียหายเป็นมูลค฽ามหาศาล เนื่องจากการใช฾คอมพิวเตอร์เพื่อทําความผิดน้ันเป็นการใช฾เทคโนโลยีท่ีซับซ฾อน ยากต฽อการตรวจพบร฽องรอยในการก฽อความผิด ดังน้ันจึงจําเป็นต฾องมีกฎหมายเพื่อคม฾ุ ครองผไู฾ ดร฾ บั ความเสยี หายท่ีเกิดจากผู฾ที่ใช฾คอมพิวเตอร์เพ่ือกระทําความผิด และสร฾างความเสีย นอกจากน้จี ริยธรรมการใชง฾ านเทคโนโลยีสารสนเทศก็นับวา฽ เป็นสิ่งสําคัญต฽อผู฾ใช฾งาน เพราะหากขาดจิตสํานึกการใช฾ที่ดีแล฾วก็อาจส฽งผลให฾การนําเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช฾ในสังคม ก฽อเกิดปัญหาข้ึนมาได฾ ในส฽วนความปลอดภัยในการใช฾งานเทคโนโลยีเหล฽าน้ี แม฾แต฽การใช฾งานบนเครือข฽ายอินเทอร์เน็ตก็นับว฽ามีความสําคัญไม฽ย่ิงหย฽อนไปกว฽ากัน ซ่ึงผู฾ใช฾ต฾องตระหนักร฾ูถึงประโยชน์และโทษที่แฝงมาในรูปแบบท่ีหลากหลายทางออนไลน์ จึงจําเป็นต฾องทราบแนวทางการใช฾งานเทคโนโลยีสารสนเทศอย฽างปลอดภยั เพ่อื ลดความเส่ยี งและความเสียหายท่ีอาจเกดิ ขึน้ อยา฽ งไม฽คาดคิดกฎหมายท่ีเกีย่ วขอ้ งกบั เทคโนโลยสี ารสนเทศ ในอดตี เมื่อมเี หตุการณค์ วามเสียหายท่ีเกิดจากการใช฾คอมพิวเตอร์กระทําความผิด หรือสร฾างความเสียหายแก฽ระบบคอมพิวเตอร์ขึ้นมาแต฽ละครั้ง มักจะไม฽สามารถเอาผิดผ฾ูท่ีกระทําความผิดได฾ ผู฾กอ฽ ความผิดสามารถอย฽ู ณ สถานท่ีใดในโลกก็ได฾ ทําให฾ยากท่ีจะนําตัวผู฾กระทําความผิดมาลงโทษ และความเสียหายท่ีเกิดจากการใช฾คอมพิวเตอร์กระทําผิดก็สร฾างความเสียหายและส฽งผลกระทบต฽อผ฾ูคนจาํ นวนมากและรวดเรว็ แต฽ยงั ไมม฽ กี ฎหมายมารองรบั และสามารถนาํ มาใช฾ลงโทษได฾ ปัจจุบันประเทศไทยมีกฎหมายที่เกี่ยวข฾องกับการใช฾งานเทคโนโลยีสารสนเทศ อาทิพระราชบญั ญตั ิว฽าด฾วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พระราชกฤษฎีกากําหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการทําธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2549 ตลอดจนกฎหมายลิขสิทธ์ิ เป็นต฾น ปัจจุบันได฾มีพระราชบัญญัติว฽าด฾วยการกระทําผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 ที่ได฾เร่ิมพัฒนาตั้งแต฽ปี พ.ศ.2541 แล฾วพระราชบญั ญัติได฾ผ฽านความเห็นชอบของสภานิติบัญญัติแห฽งชาติวันท่ี 9 พฤษภาคม 2550จากนั้นได฾มีการเสนอร฽างพระราชบัญญัติเพื่อลงพระปรมาภิไธย และได฾ประกาศในพระราชกิจจานุเบกษาวันท่ี 18 มิถุนายน 2550 ส฽งผลให฾พระราชบัญญัติมีผลบังคับใช฾ภายในสามสิบวัน ซ่ึงก็คือวนั ที่ 18 กรกฎาคม 2550 และกลายเปน็ “พระราชบญั ญัติว฽าด฾วยการกระทําผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์

160พ.ศ. 2550” ทีใ่ ช฾ในปจั จบุ นั ในท่ีน้ีจะขอนําเสนอเฉพาะพระราชบัญญัติว฽าด฾วยการกระทําผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 และกฎหมายลิขสิทธิ์ท่ีจะเป็นประโยชน์ในการใช฾งานด฾านสารสนเทศดังมีรายละเอียดดังน้ี 1. พระราชบญั ญตั ิว่าด้วยการกระทาผิดเก่ยี วกบั คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 พระราชบัญญัติว฽าด฾วยการกระทําผิดเก่ียวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 ประกอบด฾วยมาตราตา฽ งๆ รวมทงั้ สน้ิ 30 มาตรา โดยสามารถแบง฽ ไดเ฾ ป็น 3 สว฽ น มีสาระสาํ คญั ดงั น้ี (ซีเอส ล็อกซอินโฟ, 2551 หน฾า 7-14) พระราชบญั ญัตวิ า่ ดว้ ยการกระทาผิดเก่ียวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550สว่ นทัว่ ไป หมวด 1 หมวด 2 บทบัญญตั ิความผิดเกยี่ วกบั คอมพิวเตอร์ พนักงานเจ้าหนา้ ท่ี- ช่ือกฎหมาย - การเขา฾ ถึงระบบ/เขา฾ ถึงขอ฾ มลู และการ - อํานาจของพนักงานเจ฾าหน฾าท่ี- วนั บงั คับใชก฾ ฎหมาย ดกั ขอ฾ มลู คอมพิวเตอรโ์ ดยมชิ อบ - การตรวจสอบการใช฾อํานาจ- คํานิยาม - การล฽วงร฾มู าตรการปอู งกันการเขา฾ ถึงและ พนักงานเจา฾ หน฾าที่- ผู฾รกั ษาการ นาํ ไปเปิดเผยโดยมชิ อบ - การใชอ฾ ํานาจหนา฾ ทพ่ี นักงาน - การรบกวนขอ฾ มูล/ระบบคอมพวิ เตอรโ์ ดย เจา฾ หน฾าที่ มชิ อบ - อํานาจหน฾าทขี่ องผใ฾ู ห฾บรกิ าร - การสแปมเมล ขอ฾ มลู คอมพวิ เตอร์ - การจาํ หนา฽ ยหรือเผยแพร฽ชดุ คําสัง่ เพ่อื ใช฾ - การปฏบิ ัตหิ นา฾ ท่ีของพนกั งาน กระทาํ ผดิ - การปลอมแปลงขอ฾ มูลคอมพิวเตอร/์ เจ฾าหนา฾ ที่ เผยแพรเ฽ นอื้ หาที่ไม฽เหมาะสม - การเผยแพร฽ภาพจากการตัดตอ฽ /ดัดแปลง ใหผ฾ อู฾ ืน่ ถูกดูหมนิ่ หรอื อบั อาย - การกระทําผดิ ทางคอมพวิ เตอร์นอก ราชอาณาจักรภาพท่ี 8.1 โครงสร฾างพระราชบัญญตั วิ า฽ ด฾วยการกระทําผดิ เกีย่ วกบั คอมพวิ เตอร์ พ.ศ. 2550 1.1 สว฽ นทว่ั ไป บทบัญญตั ิในส฽วนท่ัวไปประกอบด฾วย มาตรา 1 ช่ือกฎหมาย มาตรา 2วันบงั คบั ใช฾กฎหมาย มาตรา 3 คํานยิ าม และมาตรา 4 ผู฾รักษาการ 1.2 หมวด 1 บทบัญญัติความผิดเก่ียวกับคอมพิวเตอร์มีท้ังส้ิน 13 มาตรา ตั้งแต฽มาตรา5 ถึงมาตรา 17 สาระสําคัญของหมวดน้ีว฽าด฾วยฐานความผิด อันเป็นผลจากการกระทําที่กระทบต฽อความมั่นคง ปลอดภัย ของระบบสารสนเทศโดยเป็นการกระทําความผิดที่กระทบต฽อการรักษาความลับ (Confidentiality) ความครบถ฾วนและความถูกต฾อง (Integrity) และความพร฾อมใช฾งาน

161(Availability) ของระบบคอมพิวเตอร์ ซึง่ เป็นความผิดที่ไม฽สามารถยอมความได฾ ยกเว฾นมาตรา 16 ซ่ึงเปน็ ความผดิ เก่ียวกับการตดั ตอ฽ หรือดดั แปลงภาพ ซงึ่ ยังคงกําหนดให฾เป็นความผิดที่สามารถยอมความได฾ เพราะความเสียหายมักเกิดขึ้นเพียงบุคคลใดบุคคลหน่ึงเท฽าน้ัน ค฽ูคดีสามารถหาข฾อยุติและสรุปตกลงความเสยี หายกนั เองได฾ ซ่งึ ตา฽ งจากมาตราอน่ื ๆ ในหมวดน้ี ที่ผลของการกระทําผิดอาจไม฽ใช฽เพียงแค฽กระทบบุคคลใดบคุ คลหน่ึง แต฽อาจกระทบต฽อสังคม ก฽อเกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจในวงกว฾าง ซ่ึงสาระสาํ คัญมีดงั ตอ฽ ไปนี้ 1.2.1 การเข฾าถึงระบบคอมพิวเตอร์โดยมิชอบ รายละเอียดอย฽ูในมาตรา 5 ซึ่งการเขา฾ ถึงระบบคอมพิวเตอร์ เช฽น การใช฾โปรแกรมสปายแวร์ (Spyware) ขโมยข฾อมูลรหัสผ฽านส฽วนบุคคลของผอ฾ู น่ื เพ่ือใชบ฾ กุ รุกเข฾าไปในระบบคอมพิวเตอรข์ องผ฾นู น้ั ผา฽ นชอ฽ งโหว฽ของระบบดังกล฽าวโดยไม฽ได฾รับอนุญาต 1.2.2 การล฽วงรู฾มาตรการปูองกันการเข฾าถึง และนําไปเปิดเผยโดยมิชอบ จะเกี่ยวข฾องกับมาตรา 6 โดยการล฽วงรู฾มาตรการความปลอดภัยการเข฾าถึงระบบคอมพิวเตอร์ เช฽น การแอบบันทึกการกดรหัสผ฽านของผู฾อ่ืน แล฾วนําไปโพสต์ไว฾ในเว็บบอร์ดต฽างๆ เพื่อให฾บุคคลที่สามใช฾รหัสผา฽ นเข฾าไปในระบบคอมพวิ เตอรข์ องผท฾ู เี่ ป็นเหย่ือ 1.2.3 การเข฾าถึงข฾อมูลคอมพวิ เตอร์โดยมชิ อบมาตรา7 การเข฾าถึงข฾อมูลคอมพิวเตอร์เชน฽ การกระทาํ ใดๆ เพ่ือเขา฾ ถึงแฟูมข฾อมลู (File) ทีเ่ ปน็ ความลับโดยไมไ฽ ดร฾ บั อนุญาต 1.2.4 การดักข฾อมูลคอมพิวเตอร์โดยมิชอบรายละเอียดอยู฽ในมาตรา 8 ซึ่งการดักข฾อมูลคอมพวิ เตอร์ คือ การดักข฾อมูลของผู฾อื่นในระหว฽างการส฽ง เช฽น การใช฾สนิฟเฟอร์ (Sniffer) แอบดกั แพก็ เกต็ (Packet) ซง่ึ เปน็ ชุดขอ฾ มูลทีเ่ ลก็ ทส่ี ดุ ทอี่ ยร฽ู ะหวา฽ งการสง฽ ไปให฾ผูร฾ บั 1.2.5 ในมาตรา 9 และมาตรา 10 เน้ือหาเกี่ยวกับการรบกวนข฾อมูลคอมพิวเตอร์หรือระบบคอมพิวเตอร์โดยมิชอบ ซึ่งการรบกวนข฾อมูลคอมพิวเตอร์หรือระบบคอมพิวเตอร์ เช฽น การใช฾โปรแกรมไวรัสเพ่ือส฽งอีเมลจํานวนมากไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์ของผ฾ูอื่น เพ่ือทําให฾คอมพิวเตอร์ไม฽สามารถทาํ งานไดต฾ ามปกติ 1.2.6 การสแปมเมล จะเกี่ยวขอ฾ งกบั มาตรา 11 มาตราน้ีเปน็ มาตราที่เพ่ิมเติมข้ึนมาเพ่ือให฾ครอบคลุมถึงการส฽งสแปมซ่ึงเป็นลักษณะการกระทําความผิดที่ใกล฾เคียงกับมาตรา 10 และยังเป็นวิธีกระทําความผิดโดยการใช฾โปรแกรมหรือชุดคําส่ังไปให฾เหยื่อจํานวนมาก โดยปกปิดแหล฽งที่มาเช฽น ไอพีแอดเดรส ซ่ึงมักก฽อให฾เกิดความเสียหายเชิงเศรษฐกิจ หรือส฽งผลกระทบต฽อการใช฾คอมพวิ เตอร์ และอาจถงึ ข้นั ทําใหร฾ ะบบคอมพิวเตอร์ไมส฽ ามารถทาํ งานได฾อีกต฽อไป 1.2.7 มาตรา 12 การกระทาํ ความผิดทีก่ ฽อให฾เกิดความเสียหายหรือส฽งผลกระทบต฽อความมั่นคงของประเทศ การรบกวนระบบและข฾อมูลคอมพิวเตอร์ท่ีก฽อให฾เกิดความเสียหายต฽อประชาชนหรือกระทบต฽อความมั่นคงของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ ความม่ันคงในทางเศรษฐกิจ และการบรกิ ารสาธารณะ ซึ่งในปัจจบุ นั การกระทาํ ความผิดทางคอมพิวเตอร์ที่ส฽วนใหญ฽วิตกกังวลกัน คือการเจาะเข฾าไปในระบบคอมพิวเตอร์และแอบเพ่ิมเติม หรือทําลายข฾อมูลคอมพิวเตอร์หรือแก฾ไข เปลี่ยนแปลงข฾อมูลคอมพิวเตอร์ ซ่ึงอาจส฽งผลกระทบต฽อระบบสาธารณูปโภค หรือระบบการเงินของประเทศ ซึ่งเป็นทีม่ าของการทาํ สงครามขอ฾ มลู ข฽าวสาร (Information Warfare)

162 1.2.8 การจําหน฽ายหรือเผยแพร฽ชุดคําสั่งเพื่อใช฾กระทําความผิดรายละเอียดอยู฽ในมาตรา 13 1.2.9 มาตรา 14 และมาตรา 15 จะกล฽าวถึงการปลอมแปลงข฾อมูลคอมพิวเตอร์หรือเผยแพร฽เน้ือหาที่ไม฽เหมาะสม และการรับผิดของผ฾ูให฾บริการ สองมาตราน้ีเป็นลักษณะที่เกิดจากการนําเข฾าข฾อมูลคอมพิวเตอร์ท่ีเป็นเท็จ หรือมีเนื้อหาไม฽เหมาะสมในรูปแบบต฽างๆ โดยในมาตรา 14นั้นได฾กําหนดให฾ครอบคลุมถึงการปลอมแปลงข฾อมูลคอมพิวเตอร์หรือสร฾างข฾อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ หรือก฽อให฾เกิดความเสียหาย หรือก฽อให฾เกิดความตื่นตระหนกกับประชาชน หรือเป็นข฾อมูลที่กระทบต฽อสถาบนั พระมหากษัตริย์ หรอื การกอ฽ การรา฾ ย รวมทัง้ ขอ฾ มูลลามกอนาจาร และการฟอร์เวิร์ด(Forward) 1.2.10 การเผยแพร฽ภาพจากการตัดต฽อหรือดัดแปลงให฾ผ฾ูอ่ืนถูกดูหมิ่น หรืออับอายจะเกี่ยวข฾องกับมาตรา 16 ซ่ึงมาตราน้ีเป็นการกําหนดฐานความผิดในเรื่องของการตัดต฽อภาพของบคุ คลอืน่ ท่ีอาจทําให฾ผ฾ูเสียหายเสียช่ือเสียง ถูกดูหม่ิน เกลียดชัง หรือได฾รับความอับอาย โดยความผิดในมาตราน้ีเป็นความผิดท่ีมีความใกล฾เคียงกับความผิดฐานหมิ่นประมาท ซ่ึงได฾มีการกําหนดไว฾ในประมวลกฎหมายอาญา เพียงแต฽การแพร฽กระจายความเสียหายในลักษณะดังกล฽าวทางคอมพิวเตอร์หรืออินเทอร์เน็ตนั้นเป็นไปอย฽างรวดเร็วและขยายวงกว฾างมากกว฽า จึงต฾องมีวิธีแก฾ไขปัญหาและระงับความเสยี หายดว฾ ยวธิ ที ่รี วดเร็วด฾วยเช฽นกัน 1.2.11 มาตรา 17 กล฽าวถึงการกระทําความผิดนอกราชอาณาจักรซึ่งต฾องรับโทษในราชอาณาจักร โดยมาตรา 17 เป็นมาตราทวี่ า฽ ดว฾ ยการนําตวั ผู฾กระทําความผิดมาลงโทษ เน่ืองจากมีความกังวลว฽า หากมีการกระทําความผิดนอกประเทศแต฽ความเสียหายเกิดข้ึนในประเทศ แล฾วจะนําตวั ผู฾กระทาํ ความผิดมาลงโทษได฾อยา฽ งไร จงึ ไดก฾ ําหนดไวใ฾ ห฾ชัดเจนในพระราชบญั ญัตฯิ 1.3 หมวด 2 สําหรับในหมวดน้ี ได฾มีการกําหนดเกี่ยวกับอํานาจของพนักงานเจ฾าหน฾าที่และยงั มีการกาํ หนดเก่ียวกบั การตรวจสอบการใช฾อํานาจของพนักงานเจ฾าหน฾าที่ไว฾อีกด฾วย รวมทั้งยังมีการกําหนดหน฾าที่ของผู฾ให฾บริการท่ีต฾องเก็บรักษาข฾อมูลคอมพิวเตอร์ และต฾องให฾ความร฽วมมือกับพนักงานเจ฾าหน฾าที่ในการส฽งมอบข฾อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์แก฽พนักงานเจ฾าหน฾าที่ บทบัญญัติในหมวดนี้มีทั้งหมด 13 มาตรา ต้ังแต฽มาตรา 18 ถึง มาตรา 30 ประกอบด฾วย อํานาจของพนักงานเจ฾าหน฾าท่ี การตรวจสอบการใช฾อํานาจของพนักงานเจ฾าหน฾าท่ี การใช฾อํานาจในการบล็อก (Block)เว็บไซต์ทมี่ ีเน้ือหากระทบตอ฽ ความมน่ั คงหรือขัดต฽อความสงบเรียบร฾อย การห฾ามเผยแพร฽หรือจําหน฽ายชุดคําสั่งไม฽พึงประสงค์ ห฾ามไม฽ให฾พนักงานเจ฾าหน฾าท่ีเผยแพร฽ข฾อมูลท่ีได฾ตามมาตรา 18 ท่ีเกี่ยวข฾องกับอํานาจของพนักงานเจ฾าหน฾าท่ี พนักงานเจ฾าหน฾าท่ีประมาทจนเป็นเหตุให฾ผ฾ูอื่นร฾ูข฾อมูล ความรับผิดของผู฾ล฽วงรู฾ข฾อมูลของผู฾ใช฾บริการที่พนักงานเจ฾าหน฾าที่ท่ีได฾และนําไปเปิดเผย ห฾ามมิให฾พยานรับฟังหลักฐานท่ีได฾มาโดยมิชอบ หน฾าท่ีของผู฾ให฾บริการในการเก็บข฾อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์และความรับผิดชอบ หากไม฽ปฏิบัติตามหน฾าท่ี การแต฽งตั้งพนักงานเจ฾าหน฾าท่ี การรับคําร฾องทุกข์กล฽าวโทษ จับควบคุม ค฾น และการกําหนดระเบียบ แนวทางและวิธีปฏิบัติ และสุดท฾ายการปฏิบัติหน฾าท่ีของพนักงานเจา฾ หนา฾ ที่ สรุปแล฾วพระราชบัญญัติว฽าด฾วยการกระทําผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มีท้ังส้ิน30 มาตรา แบ฽งโครงสร฾างออกเป็น 3 ส฽วน ได฾แก฽ ส฽วนท่ัวไป ส฽วนที่ 2 ว฽าด฾วยฐานความผิดและ

163บทลงโทษผู฾กระทําความผดิ และสว฽ นท่ี 3 ทีเ่ ป็นการกําหนดอํานาจหน฾าที่ของพนักงานเจ฾าหน฾าท่ี และหน฾าที่ของผ฾ูให฾บริการ ในส฽วนต฽อไปจะกล฽าวถึงรูปแบบการกระทําผิดในพระราชบัญญัติว฽าด฾วยการกระทําผิดเกย่ี วกบั คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 ซึง่ มมี าตราตา฽ งๆ เพอ่ื รองรับรูปแบบการกระทาํ ผดิ ดว฾ ย 2. พระราชบัญญัติวา่ ดว้ ยธรุ กรรมอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ กฎหมายส฽วนใหญ฽รับรองธุรกรรมที่มีลายมือช่ือบนเอกสารที่เป็นกระดาษ ทําให฾เป็นปัญหาต฽อการทําธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ประเทศต฽างๆ รวมทั้งไทยจึงต฾องสร฾างกฎหมายใหม฽เพ่ือให฾การรองรับธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์เหล฽านี้ ทั้งนี้กฎหมายของประเทศส฽วนใหญ฽ถูกสร฾างบนแม฽แบบท่ีกําหนดโดยคณะทํางานสหประชาชาติ (UNCITRAL) สําหรับประเทศไทยมีพระราชบัญญัติว฽าด฾วยธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2544 และมีผลบังคับใช฾ตั้งแต฽เดือนเมษายน พ.ศ. 2545 โดยคณะกรรมการธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์จะเป็นผ฾ูดูแลการบังคับใช฾กฎหมายฉบับบนี้ เนื้อหาสําคัญเก่ียวกบั การคา฾ ของกฎหมายฉบบั นี้มดี งั ตอ฽ ไปนี้ 2.1 กฎหมายนี้รับรองการทําธุรกรรมด฾วยเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมด เช฽น โทรสารโทรเลข ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ โดยมาตรา 7 ระบุไว฾ว฽า ห฾ามมิให฾ปฏิเสธความมีผลผูกพันและการบงั คับใชท฾ างกฎหมายของขอ฾ ความใด เพียงเพราะเหตุทข่ี ฾อความนนั้ อย฽ใู นรปู ของข฾อมูลอเิ ล็กทรอนิกส์ 2.2 ศาลจะต฾องยอมรับฟังเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ แต฽ท้ังนี้มิได฾หมายความว฽าศาลจะต฾องเชื่อว฽าข฾อความอิเล็กทรอนิกส์นั้นเป็นข฾อความท่ีถูกต฾อง โดยมาตรา 9 ระบุว฽า ในกรณีท่ีบุคคลพึงลงลายมือช่ือในหนังสือให฾ถือว฽าข฾อมูลอิเล็กทรอนิกส์นั้นมีการลงลายมือชื่อแล฾ว ถ฾าใช฾วิธีการท่ีสามารถระบุตัวเจ฾าของลายมือชื่อ และสามารถแสดงได฾ว฽าเจ฾าของลายมือชื่อรับรองข฾อความในข฾อมูลอิเล็กทรอนิกส์นั้นว฽าเป็นของตน ซ่ึงจะเห็นว฽าเจตจํานงของกฎหมายนี้ช้ีว฽าศาลจะเชื่อหลักฐานอิเล็กทรอนิกส์นั้นว฽าเป็นของจริงเม่ือสามารถยืนยันตามหลักการท่ีน฽าเชื่อถือ (Authentication) และเป็นที่ยอมรับ (Non-Repudiation) ได฾เท฽านั้น ฉะน้ันเอกสารท่ีมีระบบลายมือชื่อดิจิทัลจะเป็นวิธีหน่ึงในการสร฾างหลักฐานทศ่ี าลจะเชื่อวา฽ เป็นจริง 2.3 ปัจจุบันธุรกิจจําเป็นต฾องเก็บเอกสารทางการค฾าท่ีเป็นกระดาษจํานวนมาก ทําให฾เกิดค฽าใช฾จา฽ ยและความไม฽ปลอดภัยขึ้น กฎหมายฉบับนี้เปิดทางให฾ธุรกิจสามารถเก็บเอกสารเหล฽าน้ีในรปู ไฟลอ์ ิเลก็ ทรอนิกส์ไดต฾ ามมาตรา 10 ท่ีกลา฽ ววา฽ ในกรณที ก่ี ฎหมายกําหนดให฾นําเสนอหรือเก็บรักษาข฾อความใดในสภาพท่ีเป็นมาแต฽เดิมอย฽างเอกสารต฾นฉบับ ถ฾าได฾นําเสนอหรือเก็บรักษาในรูปข฾อมูลอิเล็กทรอนิกส์ตามหลักเกณฑ์ดังต฽อไปนี้ ให฾ถือว฽าได฾มีการนําเสนอหรือเก็บรักษาเป็นเอกสารต฾นฉบับตามกฎหมายแล฾ว ซึ่งข฾อมูลอิเล็กทรอนิกส์ได฾ใช฾วิธีการที่เช่ือถือได฾ในการรักษาความถูกต฾องของข฾อความต้ังแต฽การสร฾างข฾อความจนเสร็จสมบูรณ์ และสามารถแสดงข฾อความนั้นในภายหลังได฾ความถูกต฾องของข฾อความตามมาตราที่ 7 ให฾พิจารณาถึงความครบถ฾วนและไม฽มีการเปล่ียนแปลงใดของข฾อความ เว฾นแต฽การรับรองหรือบันทึกเพ่ิมเติม จะเห็นว฽าประเด็นสําคัญของการเก็บรักษาข฾อมูลอิเล็กทรอนิกส์คือ การรักษาความถูกต฾องของข฾อมูล ซึ่งแฮชฟังก์ช่ัน (Hash Function) ที่เกิดขึ้นในกระบวนการลายมือช่ือดจิ ทิ ลั สามารถนํามาใชเ฾ พือ่ การน้ไี ดเ฾ ช฽นกัน 2.4 ปกติการทําสัญญาบนเอกสารที่เป็นกระดาษจะมีการระบุวันเวลาที่ทําธุรกรรมน้ันด฾วย ในกรณีธรุ กรรมอิเล็กทรอนิกส์นั้นได฾ให฾ข฾อวินิจฉัยเวลาของธุรกรรมตามมาตรา 23 ท่ีระบุว฽า การรับข฾อมูลอิเล็กทรอนิกส์ให฾ถือว฽ามีผลนับแต฽เวลาท่ีข฾อมูลอิเล็กทรอนิกส์นั้นได฾เข฾ามาสู฽ระบบข฾อมูลของ

164ผ฾ูรับข฾อมูล หากผ฾ูรับข฾อมูลได฾กําหนดระบบข฾อมูลท่ีประสงค์จะใช฾ในการรับข฾อมูลอิเล็กทรอนิกส์ไว฾โดยเฉพาะ ให฾ถือว฽าการรับข฾อมูลอิเล็กทรอนิกส์มีผลนับแต฽เวลาท่ีข฾อมูลอิเล็กทรอนิกส์นั้นได฾เข฾าสู฽ระบบขอ฾ มูลทผี่ ูร฾ ับข฾อมลู ไดก฾ ําหนดไวน฾ นั้ แต฽ถ฾าข฾อมูลอิเล็กทรอนิกส์ดังกล฽าวได฾ส฽งไปยังระบบข฾อมูลอื่นของผรู฾ ับข฾อมูลซง่ึ มใิ ชร฽ ะบบข฾อมลู ท่ีผ฾รู บั กําหนดไว฾ ใหถ฾ อื ว฽าการรับข฾อมูลอเิ ล็กทรอนิกส์มีผลนับแต฽เวลาท่ีได฾เรียกข฾อมูลอิเล็กทรอนิกส์จากระบบข฾อมูลน้ัน จะเห็นว฽าเวลาของธุรกรรมเกิดขึ้นได฾ 2 ช฽วง ช฽วงท่ีหนึ่งเวลาธุรกรรมเริ่มต฾นเมื่อข฾อมูลถูกส฽งเข฾าสู฽ระบบของผู฾รับ กรณีน้ีมักใช฾กับการส฽งคําสั่งซ้ือโดยโปรแกรมคอมพิวเตอร์เข฾าสู฽ระบบของผ฾ูขายโดยตรง ช฽วงที่สองเวลาธุรกรรมเร่ิมต฾นเมื่อผ฾ูรับเปิดอ฽านข฾อความ กรณีน้ีหมายถึง การที่ผู฾ซื้อส฽งเอกสารทางไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ถึงผู฾ขาย โดยผู฾ขายใช฾บรกิ ารไปรษณีย์อเิ ลก็ ทรอนกิ สข์ องผใ฾ู หบ฾ ริการอินเทอรเ์ นต็ (ISP) 2.5 มาตรา 25 ระบุถึงบทบาทของภาครัฐในการให฾บริการประชาชนด฾วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ให฾อํานาจหน฽วยงานรัฐบาลสามารถสร฾างระบบรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์(e-Government) ในการใหบ฾ รกิ ารประชาชนได฾ โดยตอ฾ งออกประกาศ หรอื กฎกระทรวงเพ่มิ เตมิ 2.6 ใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์หรือลายมือชื่อดิจิทัลของผ฾ูประกอบถือเป็นส่ิงสําคัญและมีค฽าเทียบเท฽าการลงลายมือชื่อบนเอกสารกระดาษ ดังน้ันผู฾ประกอบการต฾องเก็บรักษาใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์นี้ไว฾เป็นความลับ และมาตรา 27 ได฾กําหนดหน฾าที่ของเจ฾าของใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์ดังนี้ คือใช฾ความระมดั ระวงั ตามสมควรเพื่อมิให฾มีการใช฾ข฾อมูลสําหรับใช฾สร฾างลายมือช่ืออิเล็กทรอนิกส์โดยไม฽ได฾รับอนุญาต และแจ฾งให฾บุคคลที่คาดหมายได฾ โดยมีเหตุอันควรเช่ือว฽า จะกระทําการใดโดยขึ้นอยู฽กับลายมือช่ืออิเล็กทรอนิกส์หรือให฾บริการเกี่ยวกับลายมือช่ืออิเล็กทรอนิกส์ทราบโดยมิชักช฾าเมื่อกรณีเจ฾าของลายมือช่ือรู฾หรือควรได฾ร฾ูว฽าข฾อมูลสําหรับใช฾สร฾างลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์น้ันสูญหายถูกทําลาย ถูกแก฾ไข ถูกเปิดเผย โดยมิชอบหรือถูกล฽วงร฾ูโดยไม฽สอดคล฾องกับวัตถุประสงค์ หรือกรณีเจ฾าของลายมือช่ือร฾ูจากสภาพการณ์ที่ปรากฏว฽ากรณีมีความเส่ียงมากพอที่ข฾อมูลสําหรับใช฾สร฾างลายมือช่ืออิเล็กทรอนิกส์ สูญหาย ถูกทําลาย ถูกแก฾ไข ถูกเปิดเผยโดยมิชอบ หรือถูกล฽วงร฾ูโดยไม฽สอดคล฾องกบั วตั ถุประสงค์ 3. กฎหมายลขิ สิทธิ์ และการใช้งานโดยธรรม (Fair Use) กฎหมายลขิ สิทธภิ์ ายใต฾พระราชบัญญัติ พ.ศ. 2537 ที่เก่ียวข฾องกับเทคโนโลยีสารสนเทศและการใช฾งานโดยธรรม (Fair Use) ก็คือมาตรา 15 ท่ีมีสาระสําคัญในการค฾ุมครองลิขสิทธิ์ของเจ฾าของลิขสิทธิ์ เช฽น สิทธิในการทําซํ้าหรือดัดแปลงงาน การเผยแพร฽งานต฽อสาธารณชน และให฾เช฽าต฾นฉบับหรือสําเนางานบางประเภท เป็นต฾น ดังน้ันลิขสิทธ์ิจึงเป็นสิทธิแต฽ผู฾เดียว ของเจ฾าของลิขสิทธิ์อันเกิดจากงานสร฾างสรรค์ท่ีได฾รับความคุ฾มครองตามกฎหมายลิขสิทธิ์ นอกจากน้ีก็มีมาตรา 32 ถึงมาตรา 36 และมาตรา 43 ในหมวด 1 ส฽วนท่ี 6 ว฽าด฾วยข฾อยกเว฾นการละเมิดลิขสิทธ์ิ ให฾สามารถนําข฾อมูลของผู฾อื่นมาใช฾ได฾โดยไม฽ต฾องขออนุญาต หรือเป็นการใช฾งานโดยธรรม ต฾องข้ึนอย฽ูกับปัจจัย 4ประการดังนี้ 1) พิจารณาว฽าการกระทาํ ดังกลา฽ วมวี ตั ถปุ ระสงคก์ ารใช฾งานอย฽างไร ลักษณะการนําไปใช฾มิใช฽เป็นเชิงพาณิชย์ แต฽ควรเป็นไปในลักษณะไม฽หวังผลกําไร อาจใช฾เพ่ือการศึกษา หรือประโยชน์สว฽ นตัว การใชเ฾ พื่อการติชมหรอื วจิ ารณ์ เปน็ ต฾น

165 2) ลักษณะของข฾อมูลท่ีจะนําไปใช฾ซึ่งข฾อมูลดังกล฽าวเป็นข฾อเท็จจริง เป็นความจริง อันเป็นสาธารณประโยชน์ ซ่ึงทุกคนสามารถนาํ ไปใช฾ประโยชนไ์ ด฾ 3) จาํ นวนและเนอ้ื หาทีจ่ ะคัดลอกไปใชเ฾ มอ่ื เปน็ สดั ส฽วนกับขอ฾ มลู ทมี่ ีลิขสทิ ธ์ิทง้ั หมด 4) ผลกระทบของการนําข฾อมูลไปใช฾ที่มีต฽อความเป็นไปได฾ทางการตลาดหรือคุณค฽าของงานทม่ี ีลิขสิทธนิ์ ้นั ดงั น้นั ผใู฾ ชง฾ านควรนาํ ข฾อมูลมาใชง฾ านอย฽างระมดั ระวงั เพราะปัจจุบันโลกของอินเทอร์เน็ตเปิดกว฾างสําหรับทุกคนให฾มีโอกาสในการเผยแพร฽ข฾อมูลต฽างๆ ได฾ง฽าย และเสียค฽าใช฾จ฽ายน฾อยนอกจากน้ี การนําข฾อมูลจากอินเทอร์เน็ตไปใช฾ก็สามารถกระทําได฾โดยง฽าย ไม฽ว฽าจะเป็นรูปภาพ เสียงคลิปวิดีโอ บทความหรือบทประพันธ์ (Text) และซอฟต์แวร์ เป็นต฾น กฎข฾อบังคับในการนําข฾อมูลตา฽ งๆ เผยแพร฽ทางเว็บไซต์กเ็ หมือนกับสื่อท่ัวๆ ไป ตามกฎของการใช฾เนื้อหา การขออนุญาตในการนําข฾อมูลไปเผยแพร฽ ควรจะต฾องมีการตรวจสอบลิขสิทธ์ิที่เปิดไว฾ให฾ในการเผยแพร฽ทางเว็บไซต์ และเนอ่ื งจากลิขสิทธิ์เป็นเร่ืองที่ยุ฽งยากซับซ฾อน จึงจําเป็นอย฽างยิ่งท่ีจะต฾องกําหนดว฽าผ฾ูที่ได฾รับสิทธ์ิหลักน้ันจะมีอํานาจในการตัดสินใจแทนผู฾เขียน ศิลปิน ผู฾พัฒนา และส฽วนประกอบอื่นๆ ท่ีเกี่ยวข฾องท้ังหมดหรือไม฽ สําหรับข฾อยกเว฾นการละเมิดลิขสิทธ์ิท่ีเก่ียวกับโปรแกรมคอมพิวเตอร์ เพ่ือใช฾งานโดยธรรมในมาตรา 35 ได฾บัญญัติให฾การกระทําแก฽โปรแกรมคอมพิวเตอร์อันมีลิขสิทธิ์ มิให฾ถือว฽าเป็นการละเมิดลิขสิทธ์ิ หากไม฽มีวตั ถุประสงค์เพือ่ หากําไร ในกรณดี ังตอ฽ ไปนี้ 1) วจิ ัยหรอื ศึกษาโปรแกรมคอมพวิ เตอร์นนั้ 2) ใชเ฾ พื่อประโยชน์ของเจ฾าของสาํ เนาโปรแกรมคอมพวิ เตอรน์ ัน้ 3) ติชม วิจารณ์ หรือแนะนําผลงานโดยมีการรับร฾ูถึงความเป็นเจ฾าของลิขสิทธิ์ในโปรแกรมคอมพวิ เตอร์นน้ั 4) เสนอรายงานข฽าวทางส่ือสารมวลชนโดยมีการรับรู฾ถึงความเป็นเจ฾าของลิขสิทธ์ิในโปรแกรมคอมพิวเตอรน์ ั้น 5) ทําสําเนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ในจํานวนที่สมควรโดยบุคคลผ฾ูซึ่งได฾ซื้อหรือได฾รับโปรแกรมนน้ั มาจากบุคคลอ่ืนโดยถูกต฾อง เพอ่ื เกบ็ ไว฾ใช฾ประโยชน์ในการบํารุงรักษาหรือปูองกันการสูญหาย 6) ทําซํ้า ดัดแปลง นําออกแสดง หรือทําให฾ปรากฏเพื่อประโยชน์ในการพิจารณาของศาลหรือเจ฾าพนกั งานซง่ึ มอี ํานาจตามกฎหมาย หรอื ในการรายงานผลการพจิ ารณาดงั กล฽าว 7) นําโปรแกรมคอมพิวเตอร์น้ันมาใชเ฾ ปน็ ส฽วนหน่งึ ในการถามและตอบในการสอบ 8) ดัดแปลงโปรแกรมคอมพิวเตอร์ในกรณที ีจ่ ําเปน็ แก฽การใช฾ 9) จัดทําสําเนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์เพ่ือเก็บรักษาไว฾สําหรับการอ฾างอิง หรือค฾นคว฾าเพอ่ื ประโยชน์ของสาธารณชน ในส฽วนของการใช฾งานโดยธรรมในพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ท่ีมีเน้ือหาสาระสําคัญในการทําซํ้า โดยมิถือว฽าเป็นการละเมิดลิขสิทธ์ิ หากมีวัตถุประสงค์เพื่อมิได฾แสวงหากําไรในกรณีท่ีการทําซ้ําเพ่ือใช฾ในห฾องสมุดหรือให฾บริการแก฽ห฾องสมุดอ่ืน และการทําซ้ํางานบางตอนตามสมควรให฾แกบ฽ คุ คลอื่น เพ่อื ประโยชน์ในการวิจัยหรือการศกึ ษา

166 สรุปแล฾วจะเห็นว฽ากฎหมายที่เก่ียวข฾องกับเทคโนโลยีสารสนเทศได฾กําหนดขึ้นเพื่อควบคุมผู฾กระทําผิดที่ใช฾คอมพิวเตอร์และระบบเครือข฽ายสร฾างความเสียหาย และส฽งผลกระทบต฽อผู฾คนเศรษฐกิจ และสังคม พระราชบัญญัติว฽าด฾วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 ได฾บญั ญัตขิ ึน้ 30 มาตรา เพือ่ กาํ หนดอาํ นาจหน฾าท่ีของพนกั งานเจา฾ หนา฾ ที่ และรองรับรูปแบบการกระทําผิดซ่ึงมีหลากหลายรูปแบบ ไม฽ว฽าจะเปน็ การเขา฾ ถงึ ระบบและข฾อมูลคอมพวิ เตอร์โดยมิชอบ การรบกวนระบบและข฾อมูลคอมพิวเตอร์ ท่ีสร฾างความเสียหายแก฽ข฾อมูลและระบบเครือข฽ายให฾ไม฽สามารถทํางานหรือให฾บรกิ ารแก฽ผ฾ใู ช฾ได฾ การใชจ฾ ดหมายบกุ รุกหรอื สแปมสร฾างความรําคาญให฾กับผ฾ูอ่ืน การโพสต์ข฾อมูลเท็จ ตลอดจนการตัดต฽อภาพท่ีสร฾างความเสียหายแก฽ผ฾ูถูกกระทํา เหล฽าน้ีที่ผ฾ูใช฾งานคอมพิวเตอร์และระบบเครอื ข฽ายต฾องรเู฾ ทา฽ ทนั เพราะข฾อมูลและสารสนเทศสามารถเข฾าถึง และนําไปใช฾ประโยชน์ได฾ง฽ายผ฽านเครือข฽ายอินเทอร์เน็ต นอกจากน้ียังต฾องคํานึงถึงกฎหมายลิขสิทธิ์ หากมีการนําข฾อมูลต฽างๆ ท่ีเผยแพร฽ทางเว็บไซต์มาใช฾ หรือหากว฽าเราอย฽ูในบทบาทของผ฾ูให฾บริการเผยแพร฽ข฾อมูล ก็ต฾องคํานึงถึงการใช฾งานโดยธรรมวา฽ งานในลักษณะใดจึงจะถือวา฽ ไมเ฽ ปน็ การละเมิดลิขสิทธ์ิ กฎหมายท่ีได฾กล฽าวถึงในหัวข฾อน้ีเป็นเพียงเคร่ืองมือเพื่อใช฾ควบคุมให฾ผู฾ใช฾ หรือผู฾ให฾บริการสารสนเทศผ฽านทางเทคโนโลยีสารสนเทศ อยูใ฽ นกฎเกณฑ์ กติกา ของสังคมออนไลน์ท่ีวางไว฾ให฾เป็นข฾อปฏิบัติ แต฽หากเรามีจิตสํานึกที่ดีในการใช฾งาน มีจริยธรรมในยุคสังคมสารสนเทศ ก็จะทําให฾โลกออนไลน์เป็นแหล฽งเรียนร฾ูอันทรงคุณค฽าและมปี ระสิทธิภาพอย฽างไม฽มีขดี จํากัดจริยธรรมในการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ จากการที่รูปแบบการกระทําผิดเก่ียวกับการใช฾งานระบบคอมพิวเตอร์มีหลากหลายรูปแบบไม฽ว฽าจะเป็น สปายแวร์ สนิฟเฟอร์ ฟิชช่ิง ไวรัสคอมพิวเตอร์ DoS การสแปมอีเมล ฯลฯ ซึ่งก฽อให฾เกิดปัญหาทง้ั ทางดา฾ นเศรษฐกิจ สังคม และความม่ันคงของชาติ เนื่องจากการขาดจิตสํานึกและจริยธรรมท่ดี นี นั่ เอง จริยธรรม (Ethics) เป็นแบบแผนความประพฤติหรือความมีสามัญสํานึกรวมถึงหลักเกณฑ์ที่คนในสังคมตกลงร฽วมกันเพ่ือใช฾เป็นแนวทางในการปฏิบัติร฽วมกันต฽อสังคมในทางท่ีดี ซึ่งอาจจะไม฽มีกฎเกณฑต์ ายตวั ขน้ึ อยกู฽ บั กล฽มุ สังคมหรือการยอมรับในสังคมน้ันๆ เป็นหลัก ซึ่งจริยธรรมจะเก่ียวข฾องกบั การคดิ และตัดสนิ ใจ (จรยิ ธรรมในสังคมสารสนเทศ, 2551) จริยธรรมในการใช฾เทคโนโลยีสารสนเทศต฾องอยู฽บนพ้ืนฐาน 4 ประเด็นด฾วยกัน ที่ร฾ูจักกันในลักษณะตัวย฽อวา฽ PAPA (จริยธรรมในสังคมสารสนเทศ, 2551) คอื 1. ความเป็นส่วนตัว (Information Privacy) ความเป็นส฽วนตัว คือสิทธิท่ีจะอย฽ูตามลําพัง และเป็นสิทธิที่เจ฾าของสามารถท่ีจะควบคุมข฾อมูลของตนเองในการเปิดเผยให฾กับผู฾อ่ืน สิทธิน้ีใช฾ได฾ครอบคลุมทั้งปัจเจกบุคคล กล฽ุมบุคคล และองคก์ รต฽างๆ ที่จะคงไว฾ซ่งึ สารสนเทศท่มี อี ยใ฽ู นการใช฾ เพื่อการเผยแพร฽ นําไปใช฾ประโยชน์ หรือเปิดเผยขอ฾ มลู สว฽ นบคุ คล หากมีการกระทําการใดๆ ในข฾อมูลสว฽ นบุคคล เจ฾าของสทิ ธคิ์ วรจะได฾รับร฾ู ดังนั้นไม฽ว฽าเราจะอย฽ูในบทบาทของผ฾ูใช฾ระบบสารสนเทศ หรือผ฾ูให฾บริการสารนเทศ ก็พึงตระหนักถึงจริยธรรมในความเป็นส฽วนตัว หากเราเป็นผ฾ูใช฾งานระบบ ก็ไม฽ควรละเมิดสิทธิ์ของผู฾ให฾บริการ เจาะระบบเพ่ือแฮกเอาข฾อมูลในระบบมาใช฾ในทางท่ีมิชอบ และถ฾าหากเราอยู฽ในฐานะของผู฾ให฾บริการ เช฽น เป็นเว็บ

167มาสเตอร์ของเว็บไซต์ใดๆ แล฾ว ก็ไม฽ควรละเมิดสิทธ์ิความเป็นส฽วนตัว อาทิ ใช฾โปรแกรมติดตามและสํารวจพฤติกรรมของผ฾ูใช฾งานเว็บไซต์ของเรา การนําอีเมลของสมาชิกในเว็บไซต์ไปจําหน฽ายให฾กับบริษัทรับทําโฆษณาออนไลน์ หรือแอบเอาข฾อมูลส฽วนตัวของสมาชิกไปใช฾เพ่ือประโยชน์อื่นโดยมิชอบเป็นต฾น 2. ความถกู ต้องแมน่ ยา (Information Accuracy) ความถูกต฾องแม฽นยําในการเผยแพร฽ข฽าวสารข฾อมูลต฽างๆ บนอินเทอร์เน็ต นับว฽าต฾องให฾ความสําคัญเป็นอย฽างมาก เพราะข฾อมูลดังกล฽าวจะเผยแพร฽อย฽างรวดเร็ว และเข฾าถึงได฾ง฽าย ดังนั้นจริยธรรมสําหรับผ฾ูทําหน฾าท่ีเผยแพร฽หรือนําเสนอข฾อมูลต฽างๆ จึงควรตระหนักถึงความถูกต฾องแม฽นยํามีการวิเคราะห์และกล่ันกรองข฾อมูลก฽อนทําการนําเสนอ และพร฾อมที่จะนําไปใช฾ประโยชน์ได฾โดยไม฽ส฽งผลกระทบใดๆ กับผู฾ท่ีนําไปใช฾ นอกจากน้ีผ฾ูทําการเผยแพร฽ต฾องมีความรอบคอบในการนําเสนอขอ฾ มูล มกี ารปรบั ปรงุ ข฾อมลู ตา฽ งๆ ใหเ฾ ปน็ ปจั จุบนั เสมอ และพร฾อมที่จะรับผิดชอบต฽อการนําเสนอหากมีความผดิ พลาดเกดิ ขน้ึ 3. ความเปน็ เจา้ ของ (Information Property) ความเปน็ เจา฾ ของเป็นกรรมสทิ ธ์ิในการถือครองทรัพย์สิน ซ่ึงอาจเป็นทรัพย์สินท่ัวไปท่ีจับต฾องได฾ เช฽น คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ทางอิเล็กทรอนิกส์ และที่จับต฾องไม฽ได฾ เช฽น ทรัพย์สินทางปัญญาบทเพลง โปรแกรมคอมพิวเตอร์ และจากความก฾าวหน฾าทางด฾านเทคโนโลยีสารสนเทศ จึงสามารถสร฾างสรรค์งานในรูปแบบดิจิทัลตลอดจนมีการนําเสนอข฾อมูลทางออนไลน์ได฾โดยง฽าย ก฽อให฾เกิดการละเมิดลิขสิทธิ์ การทําซ้ํา ลอกเลียนแบบ โดยเฉพาะอย฽างยิ่ง การสําเนาซีดีเพลง VCD DVDภาพยนตร์ต฽างๆ ทําให฾เกิดผลเสียแก฽เจ฾าของผลงาน หรือผู฾ผลิตและผ฾ูจําหน฽ายสินค฾า ซึ่งเป็นการขาดจรยิ ธรรมโดยไมค฽ าํ นงึ ถงึ ความเป็นเจา฾ ของผลงานนน้ั ๆ 4. การเข้าถงึ ข้อมูล (Data Accessibility) การเข฾าถึงข฾อมูลของผู฾อ่ืนโดยไม฽ได฾รับความยินยอมน้ัน ถือเป็นการผิดจริยธรรมเช฽นเดียวกับการละเมิดข฾อมูลส฽วนตัว เพราะบางครั้งในการเข฾าถึงข฾อมูล การเข฾าใช฾บริการระบบหรือเวบ็ ไซตใ์ นหนว฽ ยงาน หรือองคก์ ร จะมกี ารกาํ หนดสิทธิ์วา฽ ใครมสี ิทธใิ นการเข฾าใชข฾ ฾อมูล เพ่ือปูองกันผู฾ไม฽ประสงค์ดี หรือผู฾บุกรุกท่ีพร฾อมโจมตีระบบเครือข฽ายขององค์กร ตลอดจนการลักลอบเข฾ามาใช฾ข฾อมูลโดยไม฽ได฾รับอนุญาต เพื่อนําไปใช฾ประโยชน์อ่ืนท่ีอาจก฽อความเสียหายให฾แก฽องค์กร ดังน้ันผ฾ูใช฾สารสนเทศจึงควรคํานึงถึงจริยธรรมในการเข฾าถึงข฾อมูล ไม฽ลักลอบไปใช฾ข฾อมูลของผ฾ูอ่ืนโดยไม฽ได฾รับอนุญาต ไม฽พยายามเจาะระบบเครือข฽ายของผู฾อ่ืนอันจะก฽อให฾เกิดความเสียหาย รวมถึงการปกปูองไมใ฽ หส฾ ิทธิการเข฾าถงึ ขอ฾ มูลของตนไปใหแ฾ กผ฽ ฾อู ืน่ เพราะอาจสร฾างความเสียหายให฾แก฽องคก์ รได฾ สรุปแล฾วจริยธรรมในการใช฾เทคโนโลยีสารสนเทศยุคสังคมสารสนเทศ เป็นแบบแผนความประพฤติใหเ฾ ราสามารถอย฽บู นโลกออนไลน์ได฾อย฽างเหมาะสมโดยต฾องอย฽ูบนพื้นฐานความเป็นส฽วนตัวท่ีต฾องเคารพในข฾อมูลส฽วนบุคคล ความถูกต฾องแม฽นยําที่ต฾องระมัดระวังในเร่ืองการเผยแพร฽ข฾อมูลให฾สามารถนําไปใช฾ให฾เกิดประโยชน์สูงสุด ความเป็นเจ฾าของที่ต฾องตระหนักถึงลิขสิทธิ์ และการเข฾าถึงขอ฾ มลู ซง่ึ ต฾องมีจรยิ ธรรมไม฽ลกั ลอบเจาะระบบหรือบุกรุกเข฾าไปใช฾งานระบบโดยไม฽ได฾รับอนุญาต ดังน้ันผู฾ที่อยู฽ในสังคมสารสนเทศนอกจากจะต฾องอย฽ูในกฎระเบียบที่สังคมได฾กําหนดเป็นแนวปฏิบัติ มีจริยธรรมพื้นฐานในการใช฾งานออนไลน์แล฾ว ก็จําเป็นต฾องร฾ูเท฽าทัน มีแนวทางปูองกันอาชญากรรม

168ต฽างๆ ท่ีแฝงมาทางออนไลน์ด฾วย ดังนั้นในหัวข฾อต฽อไปจะได฾กล฽าวถึงการรักษาความปลอดภัยในการใช฾งานเทคโนโลยีสารสนเทศ รวมถึงแนวโนม฾ ดา฾ นความปลอดภยั ในอนาคตด฾วยรูปแบบการกระทาผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทาผิดเก่ียวกับคอมพิวเตอร์พ.ศ. 2550 ปัจจุบันรูปแบบในการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ได฾มีหลากหลายรูปแบบ โดยในพระราชบัญญัติว฽าด฾วยการกระทําผิดเก่ียวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 ก็ได฾มีมาตราต฽างๆ เพื่อรองรับตอ฽ รปู แบบของการกระทําดงั กลา฽ วตั้งแต฽มาตรา 5 ถงึ มาตรา 16 ดังมรี ายละเอยี ดดังนี้ 1. การเข้าถงึ ระบบและข้อมูลคอมพิวเตอร์ สําหรับมาตราที่เกี่ยวข฾องกับการเข฾าถึงระบบและข฾อมูลคอมพิวเตอร์คือ มาตรา 5 ถึงมาตรา 8 โดยการเข฾าถึงโดยมิชอบ หมายถึง การบุกรุก และการล฽วงรู฾มาตรการปูองกันระบบคอมพิวเตอร์ ซ่ึงอาจเกิดจากการใช฾โปรแกรมสปายแวร์ (Spyware) เพื่อเจาะเข฾ามาในเครื่องคอมพิวเตอร์เปูาหมาย การใช฾โปรแกรมสนิฟเฟอร์ (Sniffer) เพื่อดักข฾อมูลท่ีอยู฽ในระบบคอมพิวเตอร์ขององค์กร รวมถึงฟิชชิ่ง (Phishing) ซ่ึงเป็นการโจมตีในรูปแบบการปลอมแปลงอีเมล (Spoofing)และสร฾างเว็บไซต์ปลอมเพื่อหลอกลวงให฾ผู฾รับอีเมลเปิดเผยข฾อมูลส฽วนบุคคล หรือข฾อมูลทางการเงินของบคุ คลนนั้ โดยรูปแบบการกระทําผดิ มรี ายละเอยี ดดงั นี้ 1.1 สปายแวร์ เป็นโปรแกรมท่ีอาศัยช฽องทางการเชื่อมต฽อกับอินเทอร์เน็ตขณะที่เราท฽องเว็บไซต์บางเว็บหรือทําการดาวน์โหลดข฾อมูล แอบเข฾ามาติดต้ังโปรแกรมในเคร่ืองคอมพิวเตอร์โดยผู฾ใช฾อาจไม฽ไดเ฾ จตนา และอาจทําการติดตามหรือสะกดรอยข฾อมูลของผู฾ใช฾ ซึ่งอาจส฽งผลในลักษณะต฽างๆ ต฽อเคร่ืองคอมพิวเตอร์เช฽น ปรากฎปฺอบอัพโฆษณาเล็กๆ ขณะใช฾เคร่ืองคอมพิวเตอร์โดยไม฽ได฾เรียกข้ึนมา เคร่ืองคอมพิวเตอร์ทํางานช฾าลงหรืออาจเข฾าสู฽เว็บไซต์ต฽างๆ ได฾ช฾าหรือเม่ือเปิดเว็บบราวเซอร์ก็จะลิงค์ไปยังเว็บไซต์หลักของตัวสปายแวร์ท่ีถูกต้ังค฽าไว฾ หากเกิดอาการรุนแรงสปายแวร์บางเวอร์ช่ัน อาจทําการติดตามค฾นหา รหัสผ฽านท่ีพิมพ์ลงไปเพื่อทําการล็อกอินเข฾าแอคเคาน์เตอร์ต฽างๆ 1.2 สนฟิ เฟอร์ คือโปรแกรมท่คี อยดักฟังการสนทนาบนเครือข฽าย รวมถึงการดักจับแพ็กเก็ตในเครือขา฽ ย โปรแกรมสนิฟเฟอร์จะถอดรหัสข฾อมูลในแพ็กเก็ตและเก็บบันทึกไว฾ให฾ผ฾ูติดตั้งนําไปใช฾งาน ซง่ึ แฮกเกอร์นิยมนํามาใชเ฾ พือ่ เจาะเข฾าไปในเครื่องคอมพิวเตอร์ปลายทางสําหรับดักจับข฾อมูล เช฽นช่อื บัญชี หรือชื่อผใ฾ู ช฾ และรหสั ผา฽ น เพื่อนําไปใช฾เจาะระบบอน่ื ต฽อไป 1.3 ฟชิ ชิง่ เปน็ การหลอกลวงเหยื่อเพื่อล฾วงเอาข฾อมูลส฽วนตัว โดยการส฽งอีเมลหลอกลวง(Spoofing) เพื่อขอข฾อมูลส฽วนตัว หรืออาจสร฾างเว็บไซต์ปลอม เพื่อหลอกลวงให฾เหย่ือ หรือผู฾รับอีเมลเปดิ เผยข฾อมูลสว฽ นบคุ คล หรอื ขอ฾ มูลดา฾ นการเงิน เพอ่ื นําไปใช฾ประโยชน์ในทางทผี่ ดิ ตอ฽ ไป 2. การรบกวนระบบและข้อมูลคอมพวิ เตอร์ การกระทําผดิ เกยี่ วกบั การรบกวนระบบและข฾อมลู คอมพวิ เตอร์ จะเกี่ยวข฾องกับมาตรา 9และมาตรา 10 ลักษณะความผิดจะทําการรบกวนหรือทําลายระบบ และข฾อมูลคอมพิวเตอร์ โดยใช฾เครื่องมือท่ีผู฾กระทําผิดกระทําการเรียกว฽า มะลิซเชิส โค฾ด (Malicious Code) ซ่ึงจะอย฽ูในรูปแบบต฽างๆ เช฽น ไวรัส เวิร์ม หรือหนอนอินเทอร์เน็ต และโทรจัน อันส฽งผลในการรบกวน และสร฾างความ

169เสียหายให฾กับระบบคอมพิวเตอร์ อาทิ การต้ังเวลาให฾โปรแกรมทําลายข฾อมูลคอมพิวเตอร์หรือระบบคอมพิวเตอร์ การทําให฾คอมพิวเตอร์ทํางานผิดปกติหรือหยุดการทํางาน เป็นต฾น นอกจากน้ียังมีการโจมตีอีกรูปแบบหน่ึงคือ ดิไนออล อ฿อฟ เซอร์วิส (Denial of Service) ที่เป็นการโจมตีเพื่อให฾ไม฽สามารถบรกิ ารระบบเครือข฽ายได฾อีกตอ฽ ไป สําหรับรายละเอียดการโจมตีระบบและข฾อมูลคอมพิวเตอร์มีดังน้ี 2.1 ไวรัสคอมพิวเตอร์ เป็นโปรแกรมชนิดหน่ึงท่ีพัฒนาขึ้นเพื่อก฽อให฾เกิดความเสียหายต฽อข฾อมูล หรือระบบคอมพิวเตอร์ ซ่ึงในปัจจุบันไวรัสคอมพิวเตอร์ได฾พัฒนารูปแบบ เทคนิคการแพรก฽ ระจาย ความสามารถ รวมท้ังความรุนแรง ในการก฽อความเสียหายแก฽ระบบแตกต฽างไปจากเดมิ มาก ซงึ่ รูปแบบของไวรัสคอมพิวเตอร์ได฾พฒั นาให฾มีรูปแบบดังนี้ 2.1.1 หนอนอินเทอร์เน็ต (Internet Worm) หมายถึง โปรแกรมท่ีออกแบบมาให฾สามารถแพร฽กระจายไปยังเคร่ืองคอมพิวเตอร์เครื่องอ่ืนได฾ด฾วยตัวเอง โดยอาศัยระบบเครือข฽ายคอมพิวเตอร์ เช฽น อีเมล หรือการแชร์ไฟล์ ทําให฾การแพร฽กระจายเป็นไปอย฽างรวดเร็วและเป็นวงกว฾าง 2.1.2 โทรจัน (Trojan) หมายถึง โปรแกรมท่ีออกแบบมาให฾แฝงเข฾าไปส฽ูระบบคอมพิวเตอร์ของผ฾ูใช฾อื่น ในหลากหลายรูปแบบ เช฽น โปรแกรม หรือการ์ดอวยพร เป็นต฾น เพื่อดกั จบั ตดิ ตาม หรอื ควบคมุ การทํางานของเครอื่ งคอมพวิ เตอร์ท่ีถูกคุกคาม 2.1.3 โคด฾ (Exploit) หมายถึง โปรแกรมที่ออกแบบมาให฾สามารถเจาะระบบโดยอาศัยช฽องโหว฽ของระบบปฏิบัติการ หรือแอพพลิเคชั่นท่ีทํางานอย฽ูบนระบบ เพื่อให฾ไวรัสหรือผ฾ูบุกรกุ สามารถครอบครอง ควบคมุ หรือกระทําการอยา฽ งหนงึ่ อยา฽ งใดบนระบบได฾ 2.1.4 ข฽าวไวรัสหลอกลวง (Hoax) มักจะอยู฽ในรูปแบบของการส฽งข฾อความตอ฽ ๆ กนั ไป เหมือนกับการส฽งจดหมายลูกโซ฽ โดยข฾อความประเภทน้ีจะใช฾หลักจิตวิทยา ทําให฾ข฽าวสารนัน้ นา฽ เชื่อถอื ถ฾าผท฾ู ่ีได฾รบั ขอ฾ ความปฏบิ ัติตามอาจจะทําใหเ฾ กิดความเสียหายตอ฽ ระบบคอมพิวเตอร์ เช฽นการให฾ลบไฟล์ข฾อมูลที่จําเป็นของระบบปฏิบัติการโดยหลอกว฽าเป็นไวรัสคอมพิวเตอร์ ทําให฾ระบบปฏบิ ตั ิการทาํ งานผิดปกติ เปน็ ต฾น 2.2 ดิไนออล อ฿อฟ เซอร์วิส (Denial of Service: DoS) หรือ ดิสตริบิวต์ ดิไนออลอ฿อฟ เซอร์วิส (Distributed Denial of Service: DDoS) เป็นการโจมตีจากผ฾ูบุกรุกที่ต฾องการทําให฾เกิดภาวะท่ีระบบคอมพิวเตอร์ไม฽สามารถให฾บริการได฾ หรือผู฾ใช฾งานไม฽สามารถเข฾าใช฾บริการรวมถึงทรัพยากรในระบบได฾ นอกจากน้ีการโจมตีรูปแบบน้ียังสามารถทําให฾เครื่องคอมพิวเตอร์หรือเครือข฽ายไมส฽ ามารถใช฾งานได฾ รปู แบบโจมตขี อง DoS หรอื DDoS มีหลากหลายรปู แบบดังน้ี 2.2.1 การแพร฽กระจายของไวรัสปริมาณมากในเครือข฽าย ก฽อให฾เกิดการติดขัดของการจราจรในระบบเครอื ข฽าย ทําให฾การสื่อสารในเครอื ข฽ายตามปกตชิ า฾ ลง หรือใชไ฾ ม฽ได฾ 2.2.2 การสง฽ แพ็กเก็ตจาํ นวนมากเข฾าไปในเครือข฽ายหรือ ฟลัดด้ิง (flooding)เพื่อให฾เกิดการติดขัดของการจราจรในเครือข฽ายมีสูงขึ้น ส฽งผลให฾การติดต฽อส่ือสารภายในเครือข฽ายช฾าลง 2.2.3 การโจมตีข฾อบกพร฽องของซอฟต์แวร์ระบบ เพื่อจุดประสงค์ในการเข฾าถึงสิทธิ์การใช฾สงู ขน้ึ จนไมส฽ ามารถเขา฾ ไปใช฾บรกิ ารได฾

170 2.2.4 การขัดขวางการเช่ือมต฽อใดๆ ในเครือข฽ายทําให฾คอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์เครอื ขา฽ ยไม฽สามารถส่ือสารกนั ได฾ 2.2.5 การโจมตีท่ีทําให฾ซอฟต์แวร์ในระบบปิดตัวเองลงโดยอัตโนมัติ หรือไม฽สามารถทํางานตอ฽ ไดจ฾ นไม฽สามารถให฾บริการใดๆ ได฾อกี 2.2.6 การกระทําใดๆ ก็ตามเพ่ือขัดขวางผ฾ูใช฾ระบบในการเข฾าใช฾บริการในระบบได฾ เชน฽ การปิดบริการเว็บเซริ ฟ์ เวอร์ลง 2.2.7 การทําลายระบบข฾อมูล หรือบริการในระบบ เช฽น การลบช่ือ และข฾อมลู ผู฾ใช฾ออกจากระบบ ทาํ ใหไ฾ มส฽ ามารถเขา฾ สูร฽ ะบบได฾ 3 การสแปมเมล (จดหมายบกุ รกุ ) ความผิดฐานการสแปมอีเมล จะเกี่ยวข฾องกับมาตรา 11 ในพระราชบัญญัติว฽าด฾วยการกระทําผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 ลักษณะการกระทํา เป็นการส฽งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์หรอื อีเมลไปให฾บุคคลอนื่ โดยการซ฽อนหรอื ปลอมช่ือ อีเมล และหากการส฽งอีเมลไปให฾ผ฾ูรับคนใดคนหน่ึงมากเกินปกติ ก็ถือว฽าเป็นการส฽งอีเมลสแปมเช฽นกัน บางคร้ังการส฽งอีเมลในลักษณะท่ีผู฾รับไม฽ตอ฾ งการกอ็ าจเรียกวา฽ อีเมลขยะ (Junk Email) 4 การใชโ้ ปรแกรมเจาะระบบ (Hacking Tool) การกระทําผิดฐานเจาะระบบโดยใช฾โปรแกรม จะเก่ียวข฾องกับมาตรา 13 ซ่ึงการเจาะระบบนิยมเรียกว฽า การแฮกระบบ (Hack) เป็นการเข฾าส฽ูระบบคอมพิวเตอร์ที่ได฾มีการรักษาความปลอดภัยไว฾ ให฾สามารถเข฾าใช฾ได฾สําหรับผ฾ูท่ีอนุญาตเท฽านั้น ส฽วนผู฾ที่เข฾าส฽ูระบบโดยไม฽ได฾รับอนุญาตจะเรียกว฽า แฮกเกอร์ ซ่ึงวิธีการที่แฮกเกอร์ใช฾ในการเจาะระบบมีหลายวิธี เช฽น การอาศัยช฽องโหว฽ของระบบปฏิบัติการ (โอเอส) เมื่อเจาะเข฾ามาในระบบได฾ ก็อาจมีการนําโปรแกรมบางส฽วนมาใช฾งานเพ่ือเจาะระบบเข฾าส฽สู ว฽ นทส่ี าํ คญั อื่นๆ ต฽อไป บางคร้ังแฮกเกอร์วางโปรแกรมโทรจันเอาไว฾ หรือส่ิงท่ีแฮกเกอร์นํามาแอบซ฽อนไว฾ในระบบ เพื่อเป็นตัวคอยเปิดช฽องทางให฾เข฾ามาใหม฽ในภายหลัง หรือเป็นตัวเก็บรวบรวมข฾อมลู บางอยา฽ งเอาไว฾ เพอ่ื จะไดน฾ าํ มาใชป฾ ระโยชนใ์ นภายหลงั 5 การโพสตข์ อ้ มลู เท็จ สาํ หรับการโพสต์ข฾อมูลเท็จ หรือการใส฽ร฾าย กล฽าวหาผู฾อื่น การหลอกลวงผ฾ูอื่นให฾หลงเช่ือหรือการโฆษณาชวนเชื่อใดๆ ที่จะส฽งผลกระทบต฽อระบบเศรษฐกิจ สังคม หรือก฽อให฾เกิดความเสื่อมเสียต฽อสถาบันพระมหากษัตริย์ เหล฽าน้ี เป็นการกระทําตามมาตรา 14 และ มาตรา 15 ของพระราชบัญญัติว฽าด฾วยการกระทําผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 นอกจากนี้การฟอร์เวิร์ดอีเมลหรอื การสง฽ ตอ฽ อเี มลก็ถอื เป็นความผดิ ดว฾ ย เพราะมสี ว฽ นในการเป็นผ฾เู ผยแพรข฽ ฾อมูลดงั กล฽าวด฾วย 6 การตัดตอ่ ภาพ ความผิดฐานการตัดต฽อภายให฾ผ฾ูอ่ืนได฾รับความเสียหาย เป็นความผิดในมาตรา 16 ในพระราชบัญญัติว฽าด฾วยการกระทําผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 ซ่ึงการกระทําผิดรวมถึงการแต฽งเติม หรือดัดแปลงรูปภาพด฾วยวิธีใดๆ จนเป็นเหตุให฾ผู฾ถูกกระทําได฾รับความเสื่อมเสียช่ือเสียง ถูกเกลยี ดชงั หรือได฾รบั ความอับอาย แต฽ถ฾าหากผู฾กระทําความผิดเป็นผ฾ูตัดต฽อภาพ และเผยแพร฽เองด฾วย ก็อาจไดร฾ ับโทษทัง้ มาตรา 14 มาตรา 15 และมาตรา 16 พรอ฾ มกันด฾วย

171 กล฽าวได฾ว฽ารูปแบบในการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ได฾มีหลากหลายรูปแบบ อาทิการเขา฾ ถงึ ระบบและข฾อมูลคอมพิวเตอร์ การรบกวนระบบและข฾อมูลคอมพิวเตอร์ การใช฾จดหมายบุกรุก การใชโ฾ ปรแกรมเจาะระบบ การโพสตข์ ฾อมลู เท็จ และการตัดต฽อภาพ ดังน้ันผู฾ใช฾จึงต฾องมีความร฾ูเท฽าทนั เทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือความปลอดภัยในการใชง฾ านเทคโนโลยีสารสนเทศดังจะได฾กล฽าวในหัวข฾อตอ฽ ไปการรักษาความปลอดภยั ในการใชง้ านเทคโนโลยีสารสนเทศ การใช฾งานด฾านเทคโนโลยีสารสนเทศมีความเส่ียงต฽อการถูกบุกรุก โจมตี จากรูปแบบการกระทําผิดตามพระราชบัญญัติว฽าด฾วยการกระทําความผิดเก่ียวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 ดังท่ีได฾กล฽าวมาแล฾วในตอนต฾น ดังนั้นในหัวข฾อน้ีจึงจะขอเสนอแนวทางปูองกันเพื่อการใช฾งานระบบคอมพิวเตอร์ได฾อยา฽ งปลอดภยั ดังมีรายละเอยี ดดงั น้ี 1. แนวทางป้องกันภัยจากสปายแวร์ ดังไดท฾ ราบมาแล฾วว฽าสปายแวรเ์ ป็นโปรแกรมที่ไม฽พึงประสงค์ท่ีแอบเข฾ามาในระบบการใช฾งานของเราและอาจตดิ ตามการทาํ งานข฾อมลู ของเราได฾ ดงั นัน้ การปอู งกนั สปายแวรส์ ามารถทาํ ได฾ดงั น้ี 1.1 ไม฽คลิกลิงก์บนหน฾าต฽างเล็กของปฺอบอัพโฆษณา ให฾รีบปิดหน฾าต฽างโดยคลิกที่ปุม“X” 1.2 ระมดั ระวงั อย฽างมากในการดาวน์โหลดซอฟต์แวร์ท่ีจัดให฾ดาวน์โหลดฟรี โดยเฉพาะเวบ็ ไซต์ท่ไี มน฽ ฽าเช่อื ถือ เพราะสปายแวรจ์ ะแฝงตวั อยูใ฽ นโปรแกรมดาวน์โหลดมา 1.3 ไม฽ควรติดตามอเี มลลิงก์ทใ่ี หข฾ อ฾ มูลวา฽ มีการเสนอซอฟต์แวร์ปูองกันสปายแวร์ เพราะอาจใหผ฾ ลตรงกนั ข฾าม 2. แนวทางป้องกนั ภยั จากสนิฟเฟอร์ สําหรับการปูองกันสนิฟเฟอร์วิธีที่ดีที่สุดที่สามารถปูองกันการดักฟัง หรือการดักจับแพ็กเก็ตทางออนไลน์ ก็คือ การเข฾ารหัสขอ฾ มลู โดยทําไดด฾ งั นี้ 2.1 SSL (Secure Socket Layer) ใช฾ในการเข฾ารหัสข฾อมูลผ฽านเว็บ ส฽วนใหญ฽จะใช฾ในธุรกรรมอเิ ล็กทรอนกิ ส์ 2.2 SSH (Secure Shell) ใช฾ในการเข฾ารหัสเพ่ือเข฾าไปใช฾งานบนระบบยูนิกซ์ เพ่ือปอู งกนั การดักจับ 2.3 VPN (Virtual Private Network) เปน็ การเข฾ารหัสขอ฾ มลู ท่ีส฽งผา฽ นทางอนิ เทอร์เนต็ 2.4 PGP (Pretty Good Privacy) เป็นวิธีการเข฾ารหัสของอีเมล แต฽ที่นิยมอีกวิธีหน่ึงคือ S/MIME 3. แนวทางปอ้ งกันภยั จากฟิชชิ่ง ลักษณะของฟิชช่ิงส฽วนใหญ฽เป็นการส฽งอีเมลหลอกลวง เพื่อขอข฾อมูลส฽วนตัว ดังน้ันแนวทางปอู งกนั สามารถทาํ ไดง฾ ฽ายๆ ดังน้ี 3.1 หากอีเมลส฽งมาในลักษณะของข฾อมูล อาทิ จากธนาคาร บริษัทประกันชีวิต ฯลฯควรตดิ ตอ฽ กับธนาคารหรอื บรษิ ทั และสอบถามดว฾ ยตนเอง เพื่อปูองกันไมใ฽ ห฾ถูกหลอกเอาขอ฾ มูลไป

172 3.2 ไม฽คลิกลิงก์ที่แฝงมากับอีเมลไปยังเว็บไซต์ที่ไม฽น฽าเช่ือถือ เพราะอาจเป็นเว็บไซต์ปลอมที่มีหน฾าตาคล฾ายธนาคารหรือบริษัททางด฾านการเงิน ให฾กรอกข฾อมูลส฽วนตัว และข฾อมูลบัตรเครดิต 4. แนวทางป้องกนั ภัยจากไวรสั คอมพวิ เตอร์ ปัจจุบันไวรัสคอมพิวเตอร์ได฾พัฒนารูปแบบ เทคนิคการแพร฽กระจาย ความสามารถรวมถึงความรุนแรงในการก฽อความเสียหายแก฽ระบบแตกต฽างไปจากเดิมมาก ดังนั้นแนวทางปูองกันไวรัสคอมพวิ เตอร์ จงึ สามารถกระทําได฾ดงั นี้ 4.1 ติดตั้งซอฟต์แวร์ปูองกันไวรัสบนระบบคอมพิวเตอร์ และทําการอัพเดทฐานข฾อมูลไวรสั ของโปรแกรมอยูเ฽ สมอ 4.2 ตรวจสอบและอุดชอ฽ งโหว฽ของระบบปฏิบตั ิการอยา฽ งสม่ําเสมอ 4.3 ปรับแต฽งการทํางานของระบบปฏิบัติการ และซอฟต์แวร์บนระบบให฾มีความปลอดภัยสูงเช฽น ไม฽ควรอนุญาตให฾โปรแกรมไมโครซอฟต์ออฟฟิสเรียกใช฾มาโคร เปิดใช฾งานระบบไฟร์วอลที่ติดต้ังมาพร฾อมกับระบบปฏิบัติการ Windows XP หรือระบบปฏิบัติการอื่นๆ ปิดการแชร์ไฟล์ผ฽านเครอื ขา฽ ยหากไม฽มีความจาํ เป็น 4.4 ใช฾ความระมัดระวังในการเปิดอ฽านอีเมล และการเปิดไฟล์จากสื่อบันทึกข฾อมูลต฽างๆเช฽น หลีกเล่ียงการเปิดอ฽านอีเมลและไฟล์ท่ีแนบมาจนกว฽าจะร฾ูแหล฽งที่มา ตรวจหาไวรัสบนสื่อบันทึกข฾อมูลทุกครั้งก฽อนเปิดเรียกใช฾ไฟล์บนส่ือนั้นๆ และไม฽ควรเปิดไฟล์ที่มีนามสกุลแปลกๆ อาทิ .pifรวมถึงไฟลท์ ม่ี นี ามสกุลซ฾อนกนั เช฽น .jpg.exe, .txt.exe และ .gif.scr เป็นต฾น 5. แนวทางป้องกันภัยการโจมตแี บบ DoS (Denial of Service) สาํ หรบั รูปแบบการโจมตีในลักษณะนี้จะส฽งผลให฾ระบบคอมพิวเตอร์ไม฽สามารถให฾บริการแก฽ผู฾เข฾าใช฾บริการได฾ ซึ่งส฽งผลกระทบถึงความสูญเสียทั้งในแง฽ของเวลาและทรัพย์สินสําหรับองค์กรดังนั้นมาตรการในการลดผลกระทบหรือความเสี่ยงต฽อการถูกโจมตี มีดังน้ี (ซีเอส ล็อกซอินโฟ, 2551หน฾า 28-29) 5.1 ใช฾กฎการฟิลเตอร์แพ็กเก็ตบนเราเตอร์สําหรับกรองข฾อมูล เพ่ือลดผลกระทบต฽อปัญหาการเกิด DoS รวมถึงความเสี่ยงที่อาจจะเกิดจากบุคคลภายในองค์กรเป็นต฾นกําเนิดการโจมตีแบบ DoS ไปยังเครอื ข฽ายเปูาหมายอื่นด฾วย 5.2 ติดต้ังซอฟต์แวร์เพิ่มเติมในการแก฾ไขปัญหาของการโจมตีโดยใช฾ TCP SYNFlooding ซึง่ จะช฽วยใหร฾ ะบบยงั สามารถทาํ งานไดใ฾ นสภาวะท่ถี กู โจมตีได฾ยาวนานขน้ึ 5.3 ปิดบริการบนระบบท่ีไม฽มีการใช฾งานหรือบริการที่เปิดโดยดีฟอลต์ เช฽น บนเว็บเซริ ฟ์ เวอรไ์ ม฽ควรเปดิ พอร์ตให฾บรกิ ารโอนยา฾ ยไฟลผ์ ฽านโปรโตคอล FTP 5.4 นําระบบการกําหนดโควตามาใช฾ โดยการกําหนดโควตาเน้ือที่ดิสก์สําหรับผ฾ูใช฾ระบบหรือสําหรับบริการในระบบ และควรพิจารณาการแบ฽งพาร์ทิชั่นออกเป็นส฽วนเพื่อลดความเสี่ยงหรือผลกระทบท่ีเน้ือที่บนพาร์ทิช่ันใดๆ เต็ม จะได฾ไม฽ส฽งผลกระทบต฽อข฾อมูลหรือการทํางานของระบบพาร์ทิชั่นอื่นไปด฾วย รวมทั้งการกําหนดโควตาของการสร฾างโพรเซสในระบบ หรือโควตาในเร่ืองอ่ืนที่มีผลต฽อการใช฾งานทรัพยากรในระบบล฾วนเป็นส่ิงท่ีควรนํามาใช฾ และควรศึกษาคู฽มือระบบเพื่อหลีกเลี่ยงปญั หาทอี่ าจจะเกดิ จากความเลนิ เลอ฽ ของผ฾ดู ูแลระบบหรอื การแก฾ไขปัญหาเมื่อเกดิ เหตุฉุกเฉินขึ้น

173 5.5 สังเกตและเฝูามองพฤติกรรมและประสิทธิภาพการทํางานของระบบ นําตัวเลขตามปกติของระบบมากําหนดเป็นบรรทัดฐานในการเฝูาระวังในครั้งถัดไป เช฽น ปริมาณการใช฾งานฮารด์ ดิสก์ ประสิทธิภาพการใช฾งานหน฽วยประมวลผลกลางหรือซีพียู ปริมาณการจราจรในเครือข฽ายท่ีเกิดขน้ึ ในช฽วงเวลาหนง่ึ เปน็ ต฾น 5.6 ตรวจตราระบบการจัดการทรพั ยากรระบบตามกายภาพอย฽างสม่ําเสมอ แน฽ใจว฽าไม฽มีผูท฾ ไ่ี ม฽ได฾รับอนุญาตสามารถเข฾าถึงได฾ มีการกําหนดตัวบุคคลที่ทําหน฾าท่ีในส฽วนต฽างๆ ของระบบอย฽างชัดเจน รวมถึงการกําหนดสิทธิในการเข฾าถึงระบบอย฽างรัดกุมด฾วย เช฽น เทอร์มินอลท่ีไม฽ได฾เปิดให฾ใช฾งานมีการเปิดข้ึนหรือไม฽ จุดเข฾าถึงการเช่ือมต฽อเข฾าเครือข฽าย อุปกรณ์ สวิตซ์ อุปกรณ์เราเตอร์ ห฾องเซิร์ฟเวอร์ ระบบควบคมุ การเขา฾ ใช฾ห฾องเครือขา฽ ย สายสําหรับการเช่ือมต฽อมีสภาพชํารุด หรือสภาพอันบ฽งช้ีถึงสาเหตุทไี่ มป฽ กติหรอื ไม฽ ระบบการถ฽ายเทอากาศ ระบบไฟฟูาสํารองทํางานเป็นปกติหรือไม฽ เป็นตน฾ 5.7 ใช฾โปรแกรมทริปไวร์ (Tripwire) หรือโปรแกรมใกล฾เคียงในการตรวจสอบการเปลีย่ นแปลงท่ีเกดิ ข้นึ กบั ไฟล์คอนฟิกหรือไฟลท์ ส่ี าํ คญั ต฽อการทาํ งานในระบบ 5.8 ติดต้ังเครื่องเซิร์ฟเวอร์ฮ็อตสแปร์ (hot spares) ที่สามารถนํามาใช฾แทนเครื่องเซิร์ฟเวอร์ได฾ทันทีเม่ือเหตุฉุกเฉินข้ึน เพ่ือลดช฽วงเวลาดาวน์ไทม์ของระบบ หรือลดช฽วงเวลาท่ีเกิดDenial of Service ของระบบลง ซึ่งการทไ่ี มส฽ ามารถเข฾าใช฾งานระบบได฾ ถือว฽าเข฾าสู฽ภาวะของ Denialof Service เชน฽ เดยี วกัน แม฾ว฽าจะเกิดจากสาเหตุของผบ฾ู กุ รุกหรือสาเหตุอ่ืนกต็ าม 5.9 ติดตั้งระบบสํารองเครือข฽าย หรือระบบห฾องกันความสูญเสียการทํางานของระบบเครือขา฽ ย หรือระบบสํารองเพ่อื ใหร฾ ะบบเครอื ขา฽ ยสามารถใช฾ได฾ตลอดเวลา 5.10 การสํารองข฾อมูลบนระบบอย฽างสมําเสมอ โดยเฉพาะคอนฟิกที่สําคัญต฽อการทาํ งานของระบบ พิจารณาออกนโยบายสาํ หรบั การสาํ รองขอ฾ มลู ทส่ี ามารถบังคบั ใชไ฾ ด฾จริง 5.11 วางแผนและปรบั ปรงุ นโยบายการใช฾งานรหัสผ฽านที่เหมาะสม โดยเฉพาะผู฾ท่ีมีสิทธ์ิสูงสุดในการเข฾าถึงระบบทั้ง root บนระบบ UNIX หรือ Administrator บนระบบ MicrosoftWindows NT 6. แนวทางปอ้ งกันสแปมเมลหรือจดหมายบุกรุก การส฽งอีเมลในลักษณะน้ีจะมีสองประเภทคือ อีเมลสแปม และอีเมลบอมบ์ (EmailBomb) มรี ายละเอยี ดดังน้ี 6.1 การปูองกันอีเมลสแปม ในการปูองกันจริงๆ น้ันอาจทําไม฽ได฾ 100 % แต฽ก็สามารถจะลดปญั หาจากอีเมลสแปมไดด฾ งั น้ี 6.1.1 แจ฾งผูใ฾ หบ฾ รกิ ารอินเทอร์เน็ตบลอ็ กอีเมลทีม่ าจากช่ืออีเมลหรือโดเมนน้นั ๆ 6.1.2 ตั้งค฽าโปรแกรมอีเมลที่ใช฾บริการอย฽ูโดยสามารถกําหนดได฾ว฽าให฾ลบหรือย฾ายอีเมลท่ีคาดว฽าจะเป็นสแปมไปไวใ฾ นโฟลเดอรข์ ยะ (Junk) หรือกําหนดค฽าที่จะใช฾เป็น keyword ว฽าหากมคี าํ นีใ้ นอเี มลใหย฾ า฾ ยไปโฟลเดอร์ขยะ หรอื กาํ หนดใหบ฾ ลอ็ กอเี มลจากชือ่ อเี มลทรี่ ะบุไว฾ได฾ 6.1.3 ไม฽สมัคร (Subscribe) จดหมายข฽าว (Newsletter) บนเว็บไซต์ หรือโพสต์อเี มลลงในเว็บบอรด์ ต฽างๆ มากเกนิ ไป เพราะจะเป็นการเปดิ เผยอีเมลของเราสู฽โลกภายนอก ซึ่งอาจได฾

174อีเมลของเราได฾ด฾วยวิธีการหนึ่ง เช฽น การใช฾ซอฟต์แวร์ดูดอีเมลจากเว็บไซต์ หรือเว็บไซต์ผู฾ให฾บริการดงั กล฽าวอาจนําขอ฾ มูลอเี มลไปขายเพ่ือหากาํ ไร 6.2 การปอู งกันอเี มลบอมบ์ ลกั ษณะของอเี มลบอมบ์จะเปน็ การส฽งอีเมลหลายๆ ฉบับไปหาคนเพียงคนเดียวหรือไม฽ก่ีคนเพ่ือหวังผลให฾ไปรบกวนระบบอีเมลให฾ล฽มหรือทํางานผิดปกติ ในการปูองกันอเี มลบอมบ์สามารถทาํ ได฾ดังน้ี 6.2.1 กําหนดขนาดของอีเมลบอกซ์ของแต฽ละแอคเคาท์ว฽าสามารถเก็บอีเมลได฾สูงสดุ เทา฽ ใด 6.2.2) กาํ หนดจาํ นวนอีเมลที่มากที่สดุ ทีส่ ามารถส฽งได฾ในแต฽ละครง้ั 6.2.3 กําหนดขนาดของอีเมลท่ีใหญท฽ สี่ ุดท่ีสามารถรบั ได฾ 6.2.4 ไมอ฽ นญุ าตใหส฾ ง฽ อเี มลจากแอคเคานท์ ี่ไมม฽ ีตวั ตนจรงิ ในระบบ 6.2.5 ตรวจสอบว฽ามีอีเมลแอคเคาท์นี้จริงในระบบก฽อนส฽ง ถ฾าเช็คไม฽ผ฽าน แสดงว฽าอาจมกี ารปลอมชอ่ื มา 6.2.6 กาํ หนด keyword ให฾ไม฽รับอีเมลเข฾ามาจาก subject ทีม่ ีคําที่กาํ หนดไว฾ 6.2.7 หม่ันอัพเดทรายชื่อโดเมนที่ติด black list จากการส฽งอีเมลสแปมหรืออเี มลบอมบ์ 7. การป้องกนั ภยั จากการเจาะระบบ มีแนวทางปูองกันโดยใช฾ไฟร์วอลล์ ซ่ึงไฟร์วอลล์อาจจะอย฽ูในรูปของฮาร์ดแวร์หรือซอฟต์แวร์ก็ได฾ โดยเปรียบเสมือนยามเฝูาประตูท่ีจะเข฾าส฽ูระบบ ตรวจค฾นทุกคนท่ีเข฾าสู฽ระบบ มีการตรวจบัตรอนุญาต จดบันทึกข฾อมูลการเข฾าออก ติดตามพฤติกรรมการใช฾งานในระบบ รวมท้ังสามารถกาํ หนดสิทธทิ์ จี่ ะอนญุ าตให฾ใช฾ระบบในระดบั ต฽างๆ ได฾แนวโน้มดา้ นความปลอดภยั ในอนาคต เทคโนโลยีด฾านการรักษาความปลอดภัยบนระบบเทคโนโลยีสารสนเ ทศได฾พัฒนาไปอย฽างรวดเร็วเพ่ือรองรับรูปแบบการก฽ออาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ ซึ่งเปรียบเสมือนการแข฽งขันกับกล฽ุมแฮกเกอร์ที่ได฾พัฒนาเทคนิคการก฽ออาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์รูปแบบใหม฽ๆ เช฽นกัน จึงมีความพยายามของผ฾ูเช่ียวชาญด฾านการรักษาความปลอดภัยท่ีได฾คาดการณ์แนวโน฾มด฾า นความปลอดภัยที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล฾ เพ่ือท่ีจะสามารถปูองกันหรือหาทางแก฾ไขไม฽ให฾สิ่งที่เป็นอันตรายเหล฽านี้เกิดข้ึนได฾ ดังมีรายละเอียดต฽อไปนี้ (ศูนย์ประสานงานการรักษาความปลอดภัยคอมพิวเตอร์ประเทศไทย, 2551) 1. เกิดข฾อบังคับในหลายหน฽วยงานในการเข฾ารหัสเคร่ืองคอมพิวเตอร์แลปท็อปคอมพิวเตอร์แลปท็อปเป็นเคร่ืองคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กที่สามารถพกพาได฾สะดวก ผ฾ูใช฾สามารถเปล่ียนสถานที่ทํางานได฾โดยง฽าย จึงเป็นท่ีนิยมของหน฽วยงานหรือองค์กรต฽างๆ ท่ีหันมาใช฾เคร่ืองคอมพิวเตอร์แลปท็อปแทนเครื่องคอมพิวเตอร์แบบต้ังโต฿ะ แต฽การสูญเสียข฾อมูลท่ีอยู฽ในเคร่ืองคอมพิวเตอร์แลปท็อปก็มีความเสี่ยงสูงเช฽นกัน เช฽น หากนําแลปท็อปไปซ฽อมยังบริษัทตัวแทนจําหน฽าย การท่ีผู฾ใช฾ไม฽ได฾เข฾ารหัสข฾อมูลของแลปท็อปไว฾ อาจทําให฾ช฽างซ฽อมคอมพิวเตอร์สามารถเข฾าถึงข฾อมูลได฾โดยตรง หรือหากมีการขโมยแลปทอ็ ปเกิดขึ้น ข฾อมูลของบริษัทก็จะสูญหาย หรือผ฾ูขโมยนําข฾อมูลท่ีอย฽ูในแลปท็อปไปขายก็ได฾

175ดังน้ันหลายหน฽วยงานจึงต฾องใช฾มาตรการรวมถึงข฾อบังคับต฽างๆ เพ่ือให฾พนักงานมีความระมัดระวังในการใชง฾ านแลปท็อปมากขน้ึ มาตรการเหลา฽ นไ้ี ดร฾ วมถงึ การเขา฾ รหัสข฾อมูลท่ีอยู฽บนแลปท็อป ซ่ึงเป็นการช฽วยปกปอู งข฾อมูลในกรณีที่แลปท็อปถูกคนร฾ายขโมยไป ฉะนั้นมาตรการเพ่ือการรักษาความปลอดภัยของข฾อมูลในอนาคตจะต฾องกําหนดให฾เจ฾าหน฾าท่ีผ฾ูถือครองแลปท็อปต฾องทําการเข฾ารหัสข฾อมูลที่อย฽ูบนเคร่ือง รวมท้ังการใช฾งานการตรวจสอบตัวตนแบบ two-factor ในการล็อกอินเข฾าเคร่ืองแลปท็อปตลอดจนมีมาตรการให฾บริษัทผ฾ูผลิตแลปท็อปพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สนับสนุนการเข฾ารหัสข฾อมูล โดยไม฽จําเป็นต฾องใช฾ซอฟตแ์ วรภ์ ายนอกมาเสริม 2. ปัญหาความปลอดภัยของข฾อมูลใน PDA สมารทโฟน และ iPhone ปัจจุบันการพัฒนาPDA สมารทโฟน และ iPhone เป็นไปยังรวดเร็วและมีความสามารถแทบจะทัดเทียมเครื่องคอมพิวเตอร์ทั้งในด฾านการเก็บข฾อมูล การเชื่อมต฽อกับเครือข฽ายอินเทอร์เน็ต ดังน้ันผ฾ูใช฾จึงนิยมเก็บข฾อมลู สว฽ นตวั ทสี่ าํ คญั ไว฾ใน PDA สมารทโฟน และ iPhone ดังนั้นหากอุปกรณ์ดังกล฽าวสูญหายข฾อมูลที่อย฽ูในอุปกรณ์ก็อาจถูกนําไปใช฾ประโยชน์ไปในทางที่ผิดได฾โดยง฽าย จึงจําเป็นอย฽างยิ่งท่ีต฾องมีการเข฾ารหสั ข฾อมลู ที่อยใ฽ู น PDA สมารทโฟน และ iPhone เชน฽ เดียวกับแลปท็อป 3. การออกกฎหมายท่ีเกี่ยวข฾องกับการปกปูองข฾อมูลส฽วนบุคคล ประเทศไทยได฾ออกกฎหมายที่เกี่ยวข฾องกับการกระทําผิดหรือการก฽ออาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์และทางด฾านเทคโนโลยีสารสนเทศหลายฉบับ ทําให฾ผู฾เช่ียวชาญด฾านการรักษาความปลอดภัยได฾คาดการณ์กันว฽าภายในอนาคตแนวโน฾มการออกกฎหมายจะเน฾นไปทางด฾านการปกปูองข฾อมูลส฽วนบุคคลเป็นหลัก ไม฽ว฽าจะเป็นการเข฾าถึงข฾อมูลส฽วนบุคคลโดยไม฽ได฾รับอนุญาต การบังคับให฾บริษัทหรือหน฽วยงานที่ทํางานเก่ียวกับข฾อมูลส฽วนบุคคลต฾องมีมาตรฐานการปูองกันข฾อมูลที่ดีเพียงพอ โดยคาดว฽าจะมีบทลงโทษที่รุนแรงมากข้ึนสําหรับการขโมยข฾อมูลส฽วนบุคคล นอกจากน้ีกฎหมายอาจมีการกล฽าวถึงบริษัทหรือหนว฽ ยงานท่ีทํางานเก่ยี วกับขอ฾ มูลสว฽ นบุคคล ไม฽ว฽าจะเปน็ ธนาคาร โรงพยาบาล หรือบริษัทประกันภัยจะต฾องมีมาตรการปูองกันการเข฾าถึงข฾อมูลส฽วนบุคคลท่ีดีพอและได฾มาตรฐาน กฎหมายดังกล฽าวจะเปรียบเหมือนข฾อมูลบังคับให฾หน฽วยงานและบริษัททั้งหลายให฾ความสนใจในการปูองกันข฾อมูลส฽วนบุคคลใหม฾ ากขน้ึ 4. หน฽วยงานภาครฐั ท่สี ําคญั เป็นเปูาหมายการโจมตีของแฮกเกอร์ สําหรับแนวโน฾มการโจมตีของแฮกเกอร์ในอนาคตคือหน฽วยงานรัฐต฽างๆ อันเน่ืองจากความปลอดภัยของระบบคอมพวิเตอร์ในหน฽วยงานของรัฐมีน฾อยกว฽าเมื่อเทียบกับหน฽วยงานเอกชนทําให฾โอกาสท่ีจะบุกรุกสําเร็จมีมากกว฽านอกจากน้ีระบบโครงสร฾างพื้นฐาน และระบบสาธารณูปโภคต฽าง ๆ ก็กลายเป็นเปูาหมายหลักในการโจมตดี ว฾ ยเชน฽ กัน 5. หนอนอินเทอร์เน็ต (Worms) บนโทรศัพท์มือถือ ปัจจุบันโทรศัพท์มือถือจํานวนมากได฾ถูกติดตั้งระบบปฏิบัติการเสมือนเป็นเคร่ืองคอมพิวเตอร์ เช฽น ระบบปฏิบัติการ Mac OS Xระบบปฏิบัติการ Microsoft Windows Mobile หรอื ระบบปฏิบตั ิการบนโทรศัพทม์ อื ถอื อื่นๆ เป็นต฾นซ่ึงลกั ษณะการทาํ งานก็จะคลา฾ ยกับระบบเครือข฽ายทว่ั ๆ ไปทีห่ นอนอนิ เทอรเ์ น็ตสามารถแพร฽กระจายสู฽เครื่องคอมพิเตอร์ผ฽านทางเว็บบราวเซอร์ โดยท่ีหนอนอินเทอร์เน็ตบนโทรศัพท์มือถือก็ได฾พัฒนาโปรแกรมบุกรุก (Exploit) ใช฾สําหรับโจมตีช฽องโหว฽ของทิฟฟ฼ ไลบาร์ร่ี (TIFF Library) ซึ่งเป็นชุดคําส่ังท่ีใช฾สําหรับพัฒนาโปรแกรมรูปภาพแบบหนึ่ง ซึ่งช฽องโหว฽ดังกล฽าวสามารถใช฾โจมตีโทรศัพท์มือถือได฾

176หลายรุ฽น ผา฽ นทางโปรแกรมเวบ็ บราวเซอร์ หากผ฾ูใช฾ทําการเรียกดูเว็บท่ีมีการฝังไฟล์รูปภาพแบบ TIFFของแฮกเกอรไ์ ว฾ แฮกเกอร์จะสามารถเขา฾ ควบคุมโทรศัพทม์ ือถือของผู฾ใช฾ไดโ฾ ดยง฽าย 6. เปูาหมายการโจมตี VoIP (Voice over IP) มีมากขึ้น เนื่องจาก VoIP เป็นเทคโนโลยีทางเลือกท่ีองค์กรนํามาใช฾งานโทรศัพท์ระหว฽างประเทศท่ีมีค฽าใช฾จ฽ายน฾อย ลักษณะของ VoIP จะใช฾เทคโนโลยีการสง฽ ขอ฾ มูลเสยี งบน IP โปรโตคอล รูปแบบการโจมตีจะมีสองลักษณะคือ การทําให฾ระบบVoIP ไม฽สามารถทํางานได฾ เช฽น การส฽งข฾อมูลจํานวนมากไปยังระบบเครือข฽าย ทําให฾ VoIP ในระบบเครือข฽ายท่ีถูกโจมตีไม฽สามารถส฽งข฾อมูลได฾ หรือแฮกเกอร์อาจส฽งข฾อมูลไปรบกวนข฾อมูลเสียงบนระบบVoIP ทําให฾ผ฾ูใช฾งานไม฽สามารถฟังเสียงท่ีถูกส฽งมาได฾ เป็นต฾น และอีกรูปแบบหน่ึงคือ การขโมยข฾อมูลเสยี งทถี่ ูกสง฽ โดย VoIP หรอื การเปล่ยี นแปลงขอ฾ มลู เสียงทถี่ ูกสง฽ โดย VoIP ก฽อนท่ีจะไปถึงผ฾ูใช฾ เป็นต฾น 7. ภัยจากช฽องโหว฽แบบซีโร-เดย์ (Zero-Day) ลักษณะของช฽องโหวแบบ Zero-Day คือช฽องโหวข฽ องระบบปฏบิ ัติการหรือซอฟตแ์ วร์ต฽างๆ ที่ถูกแฮกเกอร์นําไปใช฾ในการโจมตีระบบ แต฽ยังไม฽มีโปรแกรมซอ฽ มแซมชอ฽ งโหว฽จากทางเจ฾าของผลิตภณั ฑ์ บางครั้งบริษทั บางแห฽งผ฾ูเป็นเจ฾าของผลิตภัณฑ์ก็ทําธุรกิจเก่ียวกับการรับซ้ือช฽องโหว฽แบบ Zero-Day จากผ฾ูที่ค฾นพบช฽องโหว฽ เมื่อมีผู฾ท่ีค฾นพบช฽องโหว฽แล฾วก็จะติดต฽อไปยังเจ฾าของผลิตภัณฑ์ท่ีมีช฽องโหว฽ช฽วยกันแก฾ไขปัญหาต฽อไป ซึ่งรูปแบบธุรกิจดังกล฽าวถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสําหรับผู฾ที่ต฾องการขายข฾อมูลของช฽องโหว฽ต฽างๆ แทนที่การขายช฽องโหว฽กับกลุ฽มอาชญากรรมเหมือนท่ีแล฾วมา แต฽อย฽างไรก็ตามรูปแบบธุรกิจดังกล฽าวช฽วยลดความรุนแรงที่เกิดจากช฽องโหว฽แบบ Zero-Day ได฾เพียงส฽วนหนึ่งเท฽านั้น ยังมีโอกาสที่ แฮกเกอร์เลือกท่ีจะไม฽ขายขอ฾ มูลเก่ียวกับชอ฽ งโหว฽ Zero-Day แลว฾ ใช฾ประโยชนจ์ ากช฽องโหว฽ดังกล฽าวด฾วยวิธีการของแฮกเกอร์เองดงั น้ันผด฾ู แู ลระบบยังคงตอ฾ งมีความพร฾อมในการรบั มือการโจมตดี ว฾ ยช฽องโหว฽แบบ Zero-Day ต฽อไป 8. Network Access Control (NAC) มีบทบาทสําคัญมากข้ึนในองค์กร NAC นับว฽าเป็นเทคโนโลยที ี่เขา฾ มาใช฾มากขึน้ ในองคก์ รเพอ่ื ช฽วยแบ฽งเบาภาระขององค์กรในการจดั การปัญหาท่ีบุคลากรในองค์กรนําเคร่ืองคอมพิวเตอร์ที่ไม฽ได฾รับอนุญาต เช฽น แลปท็อป คอมพิวเตอร์ส฽วนบุคคล เข฾ามาเชื่อมต฽อกับระบบเครือข฽ายภายในขององค์กร การกระทําดังกล฽าวอาจทําให฾ระบบเครือข฽ายภายในองค์กรถูกบุกรุกผ฽านทางเคร่ืองคอมพิวเตอร์ส฽วนบุคคลของบุคลากรได฾ หากเครื่องดังกล฽าวไม฽มีระบบความปลอดภัยท่ีเพียงพอ ซ่ึง NAC ก็คือ คอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ทุกอย฽างต฾องถูกควบคุมให฾ตรงตามนโยบายขององค์กรก฽อนที่จะนําไปเช่ือมต฽อเข฾ากับระบบเครือข฽ายขององค์กร หากไม฽ตรงตามนโยบายแล฾ว เคร่ืองคอมพิวเตอร์หรืออปุ กรณน์ น้ั จะไม฽สามารถใช฾งานระบบเครือข฽ายได฾ เทคโนโลยีต฽างๆ ได฾ถูกรวบรวมไว฾ใน NAC เพ่ือใช฾ในการควบคุมอุปกรณ์ให฾ตรงตามนโยบายเช฽น ระบบ Anti-Virus ระบบปูองกันการบุกรุก (IPS) และไฟร์วอลล์ เป็นต฾น นอกจากนี้ NAC ยังมีประโยชน์ในการสืบหาเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ติดมัลแวร์หรือถูกบุกรุกได฾ด฾วย ตัวอย฽างผลิตภัณฑ์ NAC เช฽น Network AdmissionControl, Network Access Protection และ Infranet เป็นต฾น ซึ่งการจะเลือกผลิตภัณฑ์ตัวใดนั้นต฾องพจิ ารณาการใชง฾ านที่สามารถนาํ มาติดตงั้ และประยุกต์ใชง฾ านภายในองค์กรไดอ฾ ย฽างมปี ระสิทธภิ าพ จะเห็นว฽าการรักษาความปลอดภัยในการใช฾งานเทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นความจําเป็นท่ีผู฾ใช฾เทคโนโลยสี ารสนเทศต฾องทราบ และร฾ูแนวทางท่ีจะปูองกันภัยจากการก฽ออาชญากรรมคอมพิวเตอร์ที่มีรูปแบบการบุกรุก โจมตี หลากหลายวิธี นับตั้งแต฽การเข฾าถึงระบบและข฾อมูลทางคอมพิวเตอร์ การรบกวนระบบคอมพิวเตอร์ การเข฾าเจาะระบบของแฮกเกอร์ เป็นต฾น และในอนาคตก็สามารถ

177คาดการณ์รูปแบบการโจมตี และเตรียมรับมือกับรูปแบบการกระทําผิด อาทิ การออกกฎหมายควบคุมเพื่อปกปูองข฾อมูลส฽วนบุคคลให฾เป็นรูปธรรมอย฽างชัดเจน การออกข฾อบังคับเพ่ือการเข฾าถึงระบบได฾ยากขึ้นเพือ่ ปอู งกันผ฾ูไมม฽ สี ิทธิ์เข฾าส฽ูระบบ รวมถึงหน฽วยงานของรัฐท่ีต฾องเฝูาระวังการเข฾าโจมตีหรือบุกรุกจากแฮกเกอร์ ซ่ึงจะมีการนําระบบ NAC (Network Access Control) เข฾ามาใช฾ในองค์กรมากขึน้สรุป ประเทศไทยมกี ฎหมายท่เี กยี่ วข฾องกบั เทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือคุ฾มครองผู฾ได฾รับความเสียหายที่เกิดจากผู฾ท่ีใช฾คอมพิวเตอร์สําหรับการกระทําผิด โดยกฎหมาย ระเบียบ ข฾อบังคับต฽างๆ กําหนดขึ้นเพอื่ รองรบั รปู แบบการกระทาํ ผิดหลากหลายรปู แบบ นบั ต้ังแต฽การเข฾าถึงระบบคอมพิวเตอร์โดยสปายแวร์ สนฟิ เฟอร์ ฟชิ ช่ิง การรบกวนระบบคอมพวิ เตอร์โดยไวรสั DoS การ สแปมอเี มล การใช฾โปรแกรมเจาะระบบโดยแฮกเกอร์ เป็นต฾น ฉะน้ันผู฾ใช฾เทคโนโลยีสารสนเทศจึงควรมีจริยธรรมในการใช฾เทคโนโลยีสารสนเทศ เพ่ือจะได฾อย฽ูในสังคมออนไลน์ร฽วมกันอย฽างสันติสุข สามารถใช฾ประโยชน์จากเทคโนโลยสี ารสนเทศใหเ฾ กิดประโยชน์สูงสุด โดยต฾องพิจารณาถึง ความเป็นส฽วนตัวเคารพในสิทธิส฽วนบุคคลของผอู฾ ื่น มีความรบั ผิดชอบตอ฽ การเผยแพร฽ข฽าวสารข฾อมูลที่ถูกต฾องแม฽นยํา การไม฽ละเมิดลิขสิทธิ์ในความเป็นเจ฾าของของผู฾อื่น รวมถึงการเข฾าถึงข฾อมูลโดยสิทธิอันชอบธรรมไม฽ละเมิดสิทธ์ิของผู฾อ่ืนนอกจากน้ีผู฾ใช฾เทคโนโลยีสารสนเทศก็ควรรู฾แนวทางปูองกันภัยจากการก฽ออาชญากรรมคอมพิวเตอร์อาทิ การระมัดระวังในการเข฾าเว็บไซต์ต฽างๆ เพื่อการดาวน์โหลดข฾อมูล เพราะอาจติดไวรัสหรือสปายแวร์ได฾ การติดตั้งซอฟต์แวร์เพ่ือปูองกันไวรัส การใช฾ฟิลเตอร์แพ็กเก็ตสําหรับกรองข฾อมูลเพ่ือปูองกันการโจมตีแบบ DoS การติดต้ังไฟร์วอลล์เพื่อปูองกันการบุกรุกจากแฮกเกอร์ เป็นต฾น ในอนาคตแนวโน฾มด฾านความปลอดภัย องค์กรของรัฐควรให฾ความสําคัญต฽อการปูองกันการบุกรุกหรือถูกโจมตีระบบเครือข฽ายขององค์กรให฾มาก เพราะเป็นเปูาหมายของแฮกเกอร์ เน่ืองจากระบบปูองกันยังไม฽รัดกุมพอจึงง฽ายต฽อการเจาะระบบ รวมถึงการระมัดระวังในการให฾สิทธิ์การเข฾าใช฾ระบบบุคลากรในองค์กร การนาํ ฮาร์ดแวร์มาใชภ฾ ายในองคก์ ร จงึ ควรควบคุมอยา฽ งเข฾มงวด

178 คาถามทบทวน 1. ให฾นักศึกษานําเสนอประสบการณ์ที่เกิดขน้ึ กับนักศึกษาหรือบุคคลใกลต฾ ัว จากการกระทาํผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พร฾อมระบุวิธกี ารแก฾ปญั หา 2. ให฾นกั ศกึ ษาแสดงความคิดเหน็ การปอู งกนั การก฽ออาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ในชีวิตประจําวัน 3. ใหน฾ กั ศึกษานาํ เสนอข฽าวที่เกย่ี วข฾องกับการก฽ออาชญากรรมทางคอมพวิ เตอร์ แลว฾ แสดงความคิดเหน็ ระบคุ วามผดิ ตามพระราชบัญญตั วิ า฽ ด฾วยการกระทําผิดเกี่ยวกบั คอมพวิ เตอร์ พ.ศ. 2550 4. จงระบุความสําคญั ของการใชเ฾ ทคโนโลยีสารสนเทศบนพน้ื ฐานของคุณธรรม จรยิ ธรรม 5. ให฾นกั ศึกษาแสดงความคิดเห็นการใชอ฾ ีเมล และเวบ็ บอร์ดของมหาวิทยาลัยราชภฏั สวนดุสติ อยา฽ งเหมาะสม 6. ให฾นกั ศกึ ษาเสนอแนะแนวทางการการปูองกันอาญชากรรมที่อาจเกิดขน้ึ จากการใช฾งานเทคโนโลยบี นเครือขา฽ ยสงั คมออนไลน์ 7. หากเพอื่ นของนกั ศึกษาได฾ประสบรูปแบบการโจมตีแบบสนฟิ เฟอร์นักศึกษาจะมีแนวทางปอู งกนั ภยั จากการโจมตรี ูปแบบน้ีอยา฽ งไร 8. ให฾อธบิ ายแนวโนม฾ รูปแบบการโจมตีระบบเครือข฽ายในอนาคต 9. นกั ศึกษาจะมวี ิธีการใช฾ VoIP (Voice over IP) อย฽างไรจงึ จะปลอดภยั จากอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ 10. จากความรท฾ู ่ีได฾รับใหน฾ กั ศึกษาเขยี นแผนท่ีความคดิ (Mind Mapping) ประมวลความรู฾ที่ได฾รับ

บทท่ี 9 การประยุกตเ์ ทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือชีวติ อาจารยอ์ าภาภรณ์ องั สาชน เทคโนโลยีสารสนเทศมีบทบาทเข฾ามาเป็นองค์ประกอบหน่ึงในการดําเนินชีวิตประจําวันของทุกคน ตั้งแต฽การเรียนร฾ู การประกอบอาชีพ การดูแลรักษาสุขภาพ การพักผ฽อนหย฽อนใจ จึงทําให฾ทุกคนจําเป็นต฾องเรียนร฾ูและปรับตัวกับการเปล่ียนแปลง และการเติบโตอย฽างรวดเร็วของเทคโนโลยีสารสนเทศ การศึกษาเพ่ือให฾ตนเองสามารถประยุกต์เทคโนโลยีสารสนเทศสําหรับพัฒนาตนเองและสังคมจึงมีความสําคัญเป็นอย฽างมาก ในบทเรียนนี้จะนําเสนอเกี่ยวกับการประยุกต์เทคโนโลยีสารสนเทศกบั งานดา฾ นตา฽ งๆ ท่ีสามารถพบเหน็ ได฾ทั่วไป ทั้งด฾านการศึกษา ด฾านสังคม ด฾านสาธารณสุขงานศาสนาและศิลปวัฒนธรรม การประกอบธุรกิจ การบริหารจัดการภาครัฐ รวมจนถึงการสร฾างนวัตกรรมด฾วยการประยกุ ต์เทคโนโลยีสารสนเทศกบั การศกึ ษา การนําเทคโนโลยีสารสนเทศมาประยุกต์กับการศึกษานั้นมีการนํามาใช฾กับระบบการศึกษาของไทยมาเป็นระยะเวลาหลายปีแล฾ว เทคโนโลยีทางการศึกษาได฾มีการพัฒนาขึ้นอย฽างต฽อเนื่องและมีรูปแบบทสี่ ฽งเสริมใหเ฾ กิดสภาพการเรยี นรแู฾ บบใหม฽ทท่ี ําใหผ฾ เ฾ู รยี นได฾มชี ฽องทางการเรียนร฾ูเพิ่มมากขึ้น 1. e-Learning การพัฒนาการศึกษาโดยทําเทคโนโลยีสารสนเทศเข฾าประยุกต์เพ่ือให฾เกิดรูปแบบการศึกษาแบบใหม฽ที่สามารถรองรับรูปแบบการศกึ ษาด฾วยตนเอง การศึกษาตลอดชีวิต การนําคอมพิวเตอร์และเครือข฽ายการส่ือสารโดยเฉพาะอินเทอร์เน็ตมาเป็นตัวช฽วยในการเพ่ิมความสะดวกสบายในการเรียนรู฾การวัดผล และการจดั การศึกษาเพือ่ ทดแทนหรือสนับสนุนการศึกษาแบบเดิม e-Learning ย฽อมาจากคําว฽า electronic(s) learning เป็นการเรียนร฾ูทางอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งรวมถึงการเรียนร฾ูทางคอมพิวเตอร์หรือการเรียนโดยใช฾คอมพิวเตอร์ด฾วย (computer learning) เพื่อช฽วยในการสอนแทนรูปแบบเดิม โดยสามารถใช฾เทคโนโลยีอื่นๆ มาสนับสนุนด฾วย เช฽น วิดีโอ ซีดีรอมสัญญาณดาวเทียม เครือข฽ายคอมพิวเตอร์ อินเทอร์เน็ต อินทราเน็ต รูปแบบของการเรียนร฾ูทางอเิ ล็กทรอนิกส์ ส฽วนมากจะเป็นการเรียนแบบออนไลน์ ซ่ึงทําให฾สามารถโต฾ตอบกันได฾เสมือนการเรียนในช้ันเรียนปกตไิ ด฾ การปรับปรุงเนื้อหาความรใู฾ หท฾ นั สมัย การนําเสนอด฾วยส่ือมัลติมีเดียทําให฾การเรียนการสอนแบบการเรียนรูท฾ างอเิ ล็กทรอนกิ ส์มีความน฽าสนใจมากขึ้น คณุ สมบตั อิ ีกอยา฽ งหนึ่งของการเรียนรู฾ทางอิเล็กทรอนิกส์นั่นคือ การเรียนแบบระยะไกล หรือdistance Learning เน่ืองจากการใช฾เทคโนโลยีการส่ือสารโดยเฉพาะอินเทอร์เน็ตมาประยุกต์ ทําให฾ผ฾เู รยี นและผสู฾ อนไม฽ต฾องเดนิ ทางมาเจอกันหรือเหน็ หน฾ากนั ในห฾องเรียนปกติ แต฽สามารถส่ือสารโต฾ตอบกนั ไดห฾ ฾องเรียนเสมอื น เทคโนโลยีเหล฽าน้ียังช฽วยส฽งเสริมรูปแบบการเรียนร฾ูด฾วยตนเองอีกด฾วย บางคร้ังเราอาจได฾ยินคําว฽า “คอมพิวเตอร์ช฽วยสอน” หรือ computer-assisted instruction (CAI) ซึ่งมักมี

180รูปแบบการสอนแบบออฟไลน์ หมายถึง ไม฽เน฾นการเรียนการสอนผ฽านเครือข฽าย แต฽เน฾นกับการเรียนดว฾ ยเครือ่ งคอมพวิ เตอร์ส฽วนบคุ คลเปน็ หลกั ตวั แบบการเรียนรท฾ู างอิเล็กทรอนิกส์แบบผสมผสาน (A hybrid e-Learning model) (Tsai,2011, p.147) ประกอบด฾วย โปรแกรมประยกุ ตส์ ฽วนต฽างๆ ดงั น้ี 1) e-leaning map การเรียนโดยการออกแบบแผนท่ีการเรียนเฉพาะบุคคลซ่ึงใช฾ข฾อมูลจากการทดสอบเบอื้ งต฾น 2) on-line e-learning มี 2 ตัวเลือก คือ การถ฽ายทอดสด กับ การถ฽ายข฾อมูลลงแบบออนไลน์ 3) e-learning group ทรัพยากรในชุมชนการเรียนรู฾ แลกเปล่ียนกันได฾โดยใช฾เคร่ืองแม฽ข฽ายของกลุ฽มข฽าว เป็นการส่ือสารระหว฽างผ฾ูสอนกับผ฾ูเรียนในการปฏิสัมพันธ์หรือแลกเปล่ียนข฽าวสารได฾ท้ังภาพและเสียง 4) e-comprehension กระบวนการเรียนร฾ูผ฽านการสร฾างสถานการณ์ กรณีศึกษา โดยใช฾ขอ฾ ความหลายมิติ เว็บไซต์ มลั ตมิ ีเดยี คําถาม และอ่ืนๆ 5) e-illustration การใช฾ภาพประกอบ แผนภาพ และมัลติมีเดีย เพื่อเป็นการยกตัวอย฽างประกอบการอธิบายให฾ชดั เจน 6) e-workgroup แบ฽งผเู฾ รียนออกเป็นกล฽ุมต฽างๆ และจัดกิจกรรมท้ังภายในและระหว฽างกล฽ุมเพ่ือให฾ไดผ฾ ลการเรียนรรู฾ ว฽ มกนั ภาพท่ี 9.1 Hybrid e-Learning Model ท่มี า (Tsai, 2011, p.150)

181 2. มัลติมีเดียเพื่อการเรยี นรู้ มัลติมีเดียเพื่อการเรียนรู฾ หมายถึง การใช฾โปรแกรมคอมพิวเตอร์ถ฽ายทอดหรือนําเสนอเนื้อหาและกิจกรรมการเรียนการสอน ท่ีบูรณาการหรือผสมผสานสื่อหลากหลายรูปแบบ (Multipleforms) เข฾าไว฾ด฾วยกัน ได฾แก฽ ข฾อความ กราฟิก ภาพนิ่ง ภาพเคล่ือนไหว เสียง วีดิทัศน์ หรือรูปแบบอื่นๆ ที่นอกเหนือจากข฾อความเพียงอย฽างเดียว โดยมีเปูาหมายเพื่อส฽งเสริมสนับสนุนให฾เกิดกระบวนการเรียนรู฾ทมี่ ปี ระสิทธภิ าพตอ฽ ผู฾เรยี น (ณฐั กร สงคราม, 2553) หลักการออกแบบเน้ือหา ประกอบด฾วย 3 สว฽ น ได฾แก฽ 1) การเตรียมเน้ือหา ประกอบด฾วย การวางโครงสร฾างของเนื้อหา การคัดเลือกเน้ือหาที่จะนําเสนอ การเรียงลําดบั หัวขอ฾ เนื้อหา และการใช฾ภาษาใหเ฾ หมาะสม 2) การออกแบบเนื้อหาประเภทต฽างๆ ประกอบด฾วย การสร฾างเน้ือหาด฾านความร฾ู ความจํา ความเข฾าใจ การสร฾างเนื้อหาด฾านทกั ษะและการปฏิบัติ การสรา฾ งเน้อื หาดา฾ นทัศนคติ 3) การออกแบบข฾อคาํ ถามสาํ หรับการประเมนิ ประกอบด฾วย การสร฾างแบบทดสอบก฽อนเรียนและหลังเรียน การสร฾างแบบฝึกหัด การสรา฾ งคาํ ถามท่ใี ชใ฾ นบทเรยี น หลักการออกแบบการเรียนการสอน (Gagne, 19921 อ฾างใน ณัฐกร สงคราม, 2553)นาํ เสนอตามข้นั ตอนกระบวนการเรียนการสอนได฾ 9 ขน้ั ดงั น้ี 1) การกระตุน฾ หรือเร฾าความสนใจให฾พร฾อมในการเรียน 2) การแจง฾ วัตถปุ ระสงค์ของการเรยี น 3) การทบทวนและกระตนุ฾ ใหร฾ ะลกึ ถึงความรูเ฾ ดิม 4) การนําเสนอสิ่งเรา฾ หรือเนอื้ หาและความร฾ใู หม฽ 5) การแนะแนวทางการเรยี นร฾ู 6) การกระตุ฾นการตอบสนองหรอื แสดงความสามารถ 7) การให฾ข฾อมลู ปูอนกลบั 8) การทดสอบความรห฾ู รอื การประเมินผลการแสดงออก 9) การส฽งเสรมิ ความจาํ หรอื ความคงทน และการนําไปใช฾หรอื การถา฽ ยโอนการเรยี นร฾ู 3. Virtual Classroom ห฾องเรียนเสมือนเป็นห฾องเรียนท่ีสามารถรองรับชั้นเรียนได฾ในเวลาและสถานท่ีซึ่งผู฾เรียนกับผู฾สอนไม฽ได฾อยู฽ร฽วมกันในสถานที่เดียวกัน โดยมีคุณลักษณะคือ การสนับสนุนการประเมินผลและการเขา฾ มสี ฽วนร฽วมในการส่อื สารดว฾ ยเครื่องมือต฽างๆ ทั้งปฏทิ ินออนไลน์ โปรแกรมคน฾ หา และคําแนะนําออนไลน์ สําหรับการประเมินผลประกอบด฾วย เครื่องมือมาตรฐาน สมุดเกรดออนไลน์ ข฾อสอบและคําถาม การตดิ ต฽อกับผู฾สอนสามารถทําได฾ผ฽านทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ ข฾อความทันที ห฾องสนทนากระดานอภปิ ราย การถา฽ ยโอนไฟล์

182 สําหรับรูปแบบการเรียนรู฾ เป็นการสร฾างความร฽วมมือกับผ฾ูเรียนร฽วมชั้น และเรียนรู฾แบบอิสระแบบตัวต฽อตัว ประโยชน์ที่ได฾รับคือ ความยืดหยุ฽นและอํานวยความสะดวกให฾กับผ฾ูเรียน ด฾วยตน฾ ทุนทีต่ าํ่ กวา฽ เม่ือเทียบกับความสามารถในการเขา฾ ถึงชน้ั เรียนของผ฾ูเรียนท่ีขาดแคลนในท฾องถ่ินต฽างๆ(Dean, 2012) ตัวอย฽างของเทคโนโลยีที่นํามาประกอบกันให฾กลายเป็นสภาพการเรียนรู฾เสมือน (Aitken,2010, p.31) ได฾แก฽ 1) videoconferencing 2) web conferencing 3) audio conferencing 4) wikis เช฽น wikipedia 5) virtual world เช฽น Second Life 6) social network เช฽น Twitter, Facebook, YouTube 4. Mobile Technology ในปจั จุบันอปุ กรณ์โทรศัพท์เคลื่อนท่ีถูกออกแบบมาให฾สามารถรองรับทั้งการรับ-ส฽งข฾อมูลด฾วยเสียงและข฾อความ โดยกําจัดข฾อจํากัดด฾านความสามารถของการส฽งเน้ือหาที่เป็นวิดีโอได฾โดยเฉพาะการเข฾าถึงอุปกรณ์อื่นๆ ที่สามารถนํามาเช่ือมต฽อได฾ท้ังเทคโนโลยีภาพเคลื่อนไหว เสียงภาพลักษณ์ต฽างๆ สามารถแปลงเข฾าส฽ูอุปกรณ์โทรศัพท์เคลื่อนที่ได฾ แนวโน฾มของสังคมท่ีต฾องการเข฾าสู฽เครือข฽ายอินเทอร์เน็ตได฾ผ฽านทางโทรศัพท์เคล่ือนท่ีนั้นมีมากข้ึน เช฽นเดียวกับการเรียนร฾ูทางอิเล็กทรอนิกส์ก็ไม฽ได฾จํากัดอยู฽เพียงในเครื่องคอมพิวเตอร์อีกต฽อไป โทรศัพท์เคลื่อนที่ก็กลายมาเป็นสภาพแวดล฾อมท่ีสําคัญอีกแห฽งหน่ึงของการเรียนรู฾ทางอิเล็กทรอนิกส์ (Male and Pattinson, 2011,p.337) การเชื่อมต฽อกับอุปกรณ์ภายนอก โทรศัพท์เคล่ือนท่ีสามารถเชื่อมต฽อกับอุปกรณ์แสดงผลต฽างๆ ไม฽ว฽าจะเป็นอุปกรณ์แสดงภาพ อุปกรณ์เสียง เครื่องพิมพ์ ถ฽ายโอนข฾อมูลไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์ เช่ือมต฽อไมโครโฟนในการส฽งข฾อมูลเสียง และรับเสียงจากภายนอกแล฾วแปลงเข฾าสู฽โทรศพั ท์เคลือ่ นท่ไี ด฾ รวมทั้งการเช่อื มตอ฽ สญั ญาณวิทยสุ ําหรับการถ฽ายทอดการเรยี นผา฽ นเครือขา฽ ยวิทยุ สําหรับการออกแบบการปฏิสัมพันธ์ การออกแบบการใช฾งานจะม฽ุงเน฾นถึงประโยชน์ท่ีได฾รับ ได฾แก฽ การกระต฾ุนให฾ผ฾ูเรียนมีความสนใจและใส฽ใจในการเรียน เข฾าไปมีส฽วนร฽วมในกระบวนการเรียนร฾ู มุ฽งเน฾นการเข฾าเรียนของผู฾เรียน เพราะระบบการเรียนร฾ูทางอิเล็กทรอนิกส์ ไม฽มีผ฾ูสอนโดยตรงทางระบบต฾องลดช฽องว฽างน้ีลง การส฽งเสริมการคิดท้ังในกรอบและนอกกรอบ คงรักษาสถานะเพ่ือการเตรยี มพรอ฾ มเข฾าสก฽ู ารเรยี น ตลอดจนการสร฾างความเขา฾ ใจซึง่ กนั และกัน ความก฾าวหน฾าของเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และการสื่อสาร อินเทอร์เน็ต และรูปแบบการเรียนร฾ูออนไลน์ เป็นสิ่งดึงดูดใจและเป็นเคร่ืองมือที่ทรงพลังสําหรับการสอนและการเรียนร฾ู เครือข฽ายไรส฾ าย ระบบการจัดการบทเรียน มลั ติมีเดยี และเทคโนโลยอี ืน่ ๆ ซงึ่ เพ่ิมมิติของความมั่งค่ังและซับซ฾อนไปสู฽การสร฾างประสบการณ์เรียนรู฾ การใช฾การเรียนร฾ูทางอิเล็กทรอนิกส์ให฾มีประสิทธิภาพจะต฾องมีการปรับเปลีย่ นบทบาทของครูผู฾สอนและการสรา฾ งความร฾ูด฾านเทคโนโลยีให฾กับผู฾เรียน รวมทั้งพัฒนาความน฽าเชือ่ ถอื และความก฾าวไกลของโครงสรา฾ งทางเทคโนโลยีดว฾ ย ผ฾ูเรียนต฾องเข฾าร฽วมในห฾องเรียนออนไลน์

183โดยในเว็บไซต์จะต฾องมีแนวการสอน คําอธิบายรายวิชา ข฾อบังคับเบื้องต฾น วัตถุประสงค์การเรียนร฾ูงานที่มอบหมาย ให฾เหมาะสมกับเวลาท่ีกําหนดให฾ เพื่อให฾ผู฾เรียนสามารถสร฾างความสําเร็จในการเรียนรู฾ตามท่ีต้ังไว฾ได฾ แต฽อาจเกิดปัญหาขึ้นได฾หากผู฾เรียนยังขาดทักษะด฾านคอมพิวเตอร์ ดังน้ันในช฽วงแรกผู฾สอนควรให฾ความช฽วยเหลือ แนะนําผู฾เรียนให฾เกิดความมั่นใจในช฽วงสัปดาห์แรก นอกจากน้ีการรักษาระเบียบวินัยของการเรียนก็เป็นส่ิงจําเป็นอย฽างยิ่งในการก฾าวไปส฽ูความสําเร็จของการศึกษา(Omar, Kalulu, and Belmasrour, 2011, p.22)การประยุกต์เทคโนโลยีสารสนเทศกับสงั คม 1. การประยุกต์เทคโนโลยีสารสนเทศกับงานสาธารณสุข เทคโนโลยีสารสนเทศมีความเป็นไปได฾ในการปรับปรุงคุณภาพ ความปลอดภัยและประสิทธิภาพของการให฾บริการสาธารณสุข การแพร฽กระจายของเทคโนโลยีสารสนเทศในงานสาธารณสุขยังจัดว฽าอย฽ูในระดับต่ําเม่ือเทียบกับธุรกิจหรืองานด฾านอ่ืนๆ จึงมีความจําเป็นท่ีจะต฾องทําการลงทุนเพิ่มข้ึนในการพฒั นางานบริการสาธารณสขุ เทคโนโลยีสารสนเทศสามารถนํามาประยุกต์กับการให฾บริการด฾านสาธารณสุขเพ่ือรวบรวม จัดเก็บ ค฾นคืน และถ฽ายโอนข฾อมูลในระบบอิเล็กทรอนิกส์ได฾ งานทางด฾านสาธารณสขุ ทส่ี ามารถประยกุ ตเ์ ทคโนโลยสี ารสนเทศแบง฽ ออกเป็น 3 ประเภทได฾แก฽ 1) ระบบบริหารจัดการและการเงิน เพ่ืออํานวยความสะดวกในการจัดการเอกสารใบแจ฾งหนี้ ใบเสร็จรับเงนิ งานบัญชี และงานธุรการต฽างๆ 2) ระบบคลินิก เพ่ืออํานวยความสะดวกในการนําเข฾าข฾อมูลตลอดจนกระบวนการรักษาพยาบาล 3) โครงสรา฾ งพนื้ ฐานด฾านเทคโนโลยีสารสนเทศ ในการสนับสนุนท้ังงานบริหารจัดการและงานคลนิ ิก เทคโนโลยีสารสนเทศท่ีนิยมใชใ฾ นระบบบริการสาธารณสุข ได฾แก฽ - ระบบบนั ทกึ สุขภาพอิเล็กทรอนกิ ส์ (electronic health record : EHR) - คอมพิวเตอร์สําหรับการปูอนรายการการรักษาและการตรวจต฽างๆ (computerizedprovider order entry : CPOE) - ระบบสนับสนุนการตัดสินใจทางคลินกิ (clinical decision support system : CDSS) - ระบบการรกั ษาทางไกล (telemedicine) - ระบบการจัดเก็บ ค฾นคืน และการสื่อสารข฾อมูลภาพ (picture archiving andcommunications system : PACS) - เทคโนโลยีบาร์โคด฾ (bar coding) - เทคโนโลยีการระบุขอ฾ มูลด฾วยคลื่นความถ่วี ิทยุ (radio frequency identification : RFID) - เครอ่ื งจ฽ายยาอัตโนมัติ (automated dispensing machines : ADMs) - ระบบจัดการงานเอกสารอิเล็กทรอนกิ ส์ (electronic materials management : EMM) - งานเชื่อมโยงระหว฽างระบบบริหารจัดการและความร฽วมมือกับส฽วนงานต฽างๆ(interoperability)

184 กระทรวงสาธารณสุขได฾มีการพัฒนาระบบงานข้ึนเพ่ือส฽งเสริมให฾สถานพยาบาลต฽างๆ ได฾นาํ ไปใชง฾ าน ไดแ฾ ก฽ 1) ระบบงานโรงพยาบาลส฽งเสริมสุขภาพตําบลและศูนย์สุขภาพชุมชน (โปรแกรมสถานีอนามยั JHCIS) 2) โปรแกรมสําหรับบริหารงานฐานข฾อมูลระดับตําบลสําหรับสถานีอนามัย (โปรแกรมสถานีอนามยั HCIS) 3) โปรแกรมอํานวยความสะดวกในการให฾บริการรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลชุมชนและ/หรือโรงพยาบาลทวั่ ไปในสงั กัดกระทรวง (โปรแกรมระบบบริหารงานโรงพยาบาล HIS) 4) ระบบจดั สรรบคุ ลากรทางการแพทยด์ ว฾ ยภมู ศิ าสตรส์ ารสนเทศ (ระบบ GIS) 5) ระบบติดตามโครงการจัดหาคอมพิวเตอร์ ตวั อยา฽ งนวตั กรรมทางการแพทยใ์ นปี 2554 เช฽น การตรวจค฾นหาโรคอลั ไซเมอร์ด฾วยการฉีดสาร AV-45 ยารักษาโรคมะเร็งผิวหนัง (anti-CTLA-4) การใช฾แคปซูลติดกล฾องในการตรวจโรคระบบทางเดินอาหาร (capsule endoscopy) การตรวจหา nitric oxide ในผ฾ูปุวยโรคหอบหืด การใช฾วคั ซนี Sipuleucel-T ในการรกั ษาโรคมะเร็ง 2. การประยุกตเ์ ทคโนโลยีสารสนเทศกบั ศาสนา ศิลปวฒั นธรรม 2.1 กระทรวงวฒั นธรรม จากการนําเทคโนโลยีสารสนเทศมาประยุกต์กับงานด฾านต฽างๆ กระทรวงวัฒนธรรมซ่ึงมีหน฾าท่ีหลักในการดูแลงานด฾านการศาสนา และศิลปวัฒนธรรมของชาติ ได฾มีการวางแผนยุทธศาสตรด์ า฾ นเทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่อื สารข้ึนเพอื่ ใช฾สําหรับพัฒนางานด฾านการอนุรักษ์และส฽งเสริมงานของกระทรวงฯ ให฾มีประสิทธิภาพดีขึ้น โดยกําหนดเป็นแผนแม฽บทเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่อื สาร สาํ นกั งานปลดั กระทรวงและสํานกั งานรฐั มนตรี พ.ศ. 2552-2556 ดังน้ี ยุทธศาสตร์ท่ี 1 ผลักดันให฾ระบบศูนย์ข฾อมูลกระทรวงวัฒนธรรมเพื่อเป็นศูนย์ข฾อมูลกลางองค์ความรู฾ด฾านศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรมของชาติโดยกําหนดเป็นหน฽วยบูรณาการและเผยแพร฽องค์ความรู฾ ผ฽านแผนท่ีองค์ความรู฾ทางวัฒนธรรม 3 กลุ฽ม (บุคคล สถานท่ี และ ข฾อมูล) 3 มิติเวลา (ข฾อมลู ในปจั จบุ ัน ขอ฾ มูลร฽วมสมัย และข฾อมูลประวตั ศิ าสตร์หรืออดตี ) ยุทธศาสตร์ที่ 2 สร฾าง สะสม และ จัดให฾มีทรัพยากรเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการจัดทําข฾อมูลในรูปแบบ national digital archives สําหรับสนับสนุนงานหอสมุด พิพิธภัณฑ์ หอจดหมายเหตุ และหอศิลป฼ให฾อยู฽ในระดับท่ีสามารถจัดเก็บค฾นหาและให฾บริการข฾อมูลได฾ตามมาตรฐานสากล โดยดําเนนิ การพฒั นาระบบ eArchieves, eLibrary, และ eMuseum ยุทธศาสตร์ที่ 3 สร฾างกลไกในการพัฒนาระบบจัดเก็บทะเบียนข฾อมูลสําคัญด฾านศิลปวัฒนธรรมและข฾อมูลเชิงลึกทางวิชาการด฾านศิลปวัฒนธรรมอย฽างเหมาะสม พอเพียง ต฽อเนื่องและเป็นระบบ โดยทําการบูรณาการศูนย์ข฾อมูลหลักและระบบฐานข฾อมูลหลักของ สํานั กงานปลัดกระทรวงและสํานักงานวัฒนธรรมจังหวัด กรมการศาสนา กรมศิลปากร สํานักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห฽งชาติ สํานักงานศิลปวัฒนธรรมร฽วมสมัย ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธรสถาบนั บณั ฑิตพฒั นศลิ ป฼

185 ยุทธศาสตร์ท่ี 4 บูรณาการกิจกรรมการพัฒนาสื่อและเนื้อหาด฾านวัฒนธรรม(cultural digital content) ทุกระดับตั้งแต฽ระดับท฾องถ่ินถึงระดับชาติเพื่อสนับสนุนการอนุรักษ์รักษา สืบทอด ปกปูอง เชิดชูคณุ ค฽าวัฒนธรรมของชาติและความหลากหลายของวัฒนธรรม ตลอดจนใหบ฾ รกิ ารประชาชน ยุทธศาสตร์ท่ี 5 พัฒนาเครือข฽ายประชาคมออนไลน์ (online social network) เพ่ือเฝูาระวังภัยคุกคามทางวัฒนธรรมอยู฽ในสังคมแบบออนไลน์ และดูแลความเหมาะสมของสื่อ และเนื้อหาออนไลน์ ยทุ ธศาสตร์ท่ี 6 ใช฾ ICT เป็นเครอื่ งมือหลักในการพัฒนาสังคมแห฽งความคิดสร฾างสรรค์(creative society) เพ่ือนําประเทศสู฽การพัฒนาเศรษฐกิจแห฽งความคิดสร฾างสรรค์ (creativeeconomy) ทาํ การจัดทําเป็นเวบ็ ไซต์ 4 ภาษา ไดแ฾ ก฽ อังกฤษ สเปน ญ่ีปนุ และ จนี ยุทธศาสตร์ท่ี 7 พัฒนากลไกและช฽องทางการให฾บริการโดยใช฾เทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ิมขีดความสามารถในการบริการประชาชนและสนับสนุนการทํา งานของรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ทุกมติ ิ และใชเ฾ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสารอยา฽ งเต็มท่ใี นทกุ องคาพยพของกระทรวง ตวั อย฽างบรกิ ารด฾านศาสนาและศลิ ปวัฒนธรรม 1) ข฾อมูลกลางทางวัฒนธรรม รวบรวมข฾อมูลเป็น 4 หมวด ได฾แก฽ บุคคล และ/หรือองค์กรทางวัฒนธรรม ส่ิงประดิษฐ์ทางวัฒนธรรม โบราณสถาน ศิลปวัตถุ วิถีชีวิต และ สถานท่ีทางวัฒนธรรม โดยแบ฽งออกตามภูมิภาคด฾วย 2) บรกิ ารรบั คาํ รอ฾ งและให฾บริการงานด฾านภาพยนตร์และวดี ีทัศน์ 3) บริการส฽งเสรมิ คณุ ธรรมจริยธรรมและเผยแพรข฽ ฾อมลู ดา฾ นศาสนา ของกรมศาสนา 4) บริการข฾อมูลเก่ียวกับกิจกรรมและงานแสดงด฾านวัฒนธรรม สุนทรีย์ คีตศิลป฼ ของกรมศลิ ปากร กรมส฽งเสรมิ วฒั นธรรม สํานักงานศิลปวัฒนธรรมร฽วมสมัย และสถาบันบณั ฑติ พฒั นศลิ ป฼ 5) บรกิ ารสารสนเทศภูมิศาสตรด์ ฾านการท฽องเที่ยวอยา฽ งบรู ณาการ 6) บรกิ ารข฾อมูลของหอจดหมายเหตแุ หง฽ ชาติ 7) บริการขอ฾ มลู เกย่ี วกบั ศูนยข์ อ฾ มูลมรดกโลก 8) โปรแกรมพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2542 และศัพท์บัญญัติทางวิชาการ 19 สาขา 2.2 พระไตรปิฏกภาษาบาลี ฉบบั คอมพิวเตอร์ พระไตรปิฏก ฉบับคอมพิวเตอร์ (BUDSIR : BUDdhist Scriptures InformationRetrieval) ได฾รับการพัฒนาโดยมหาวิทยาลัยมหิดล ต้ังแต฽ปี พ.ศ. 2531 โดยความร฽วมมือระหว฽างมหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยมหามกุฎราชวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลยั เพื่อมง฽ุ พัฒนารปู แบบการสบื คน฾ ขอ฾ มูลสําหรับผุ฾ที่ต฾องการศึกษาพระไตรปิฏกและคัมภีร์ต฽างๆได฾อย฽างสะดวก รวดเร็วและถูกต฾อง โปรแกรมดังกล฽าวได฾รวบรวม พระไตรปิฏกฉบับบาลี อักษรไทย45 เล฽ม พระไตรปิฏกฉบับบาลีอักษรโรมัน 45 เล฽ม พระไตรปิฏกฉบับแปลเป็นภาษาไทย 45 เล฽มอรรถกถาและคัมภรี ์อนื่ ๆ ฉบับบาลีอักษรไทย 70 เล฽ม อรรถกถาและคัมภีร์อ่ืนๆ ฉบับบาลีอักษรโรมัน70 เลม฽ และภาษาเทวนาครีและสิงหล

186 3. การประยุกต์เทคโนโลยีสารสนเทศกับสิ่งแวดลอ้ ม ส่ิงแวดล฾อมถือว฽าเป็นทรัพยากรอันมีค฽าที่ต฾องดูแลรักษาให฾คงไว฾ การนําเทคโนโลยีสารสนเทศมาสนับสนุนงานการดูแลรักษา และบริหารจัดการทรัพยากรสิ่งแวดล฾อมจึงมีบทบาทมากข้ึนโดยเฉพาะกับหน฽วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงคือ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล฾อม ซ่ึงได฾มีการวางแผนยุทธศาสตร์ด฾านเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารของกระทรวงฯ รวมทั้งการจดั ทําเว็บไซต์ในการเผยแพรข฽ อ฾ มลู ด฾านทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละส่งิ แวดล฾อม เป็นช฽องทางในการสื่อสารและแลกเปล่ยี นข฾อมลู กบั ประชาชน ข฾อมูลที่ให฾บริการแก฽ประชาชน ได฾แก฽ (กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล฾อม,2555) 1) ข฾อมูลประชาสัมพันธ์ของกระทรวงฯ นําเสนอ ขา฽ วสารและกจิ กรรมตา฽ งๆ ทเ่ี กิดขึ้น 2) ศูนย์ข฾อมูลและองค์ความรู฾ทรัพยากรน้ํา ของกรมทรัพยากรน้ํา ซึ่งให฾บริการข฾อมูลเกีย่ วกบั ดาวเทียมอตุ ุนิยมวทิ ยาและเสน฾ ทางพายุ แผนที่อากาศ แผนที่ด฾านทะเล แผนท่ีแสดงปริมาณฝน รายงานผลของเรดาห์ตรวจอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา รายงานผลของเรดาห์ตรวจอากาศของสํานักงานฝนหลวง สภาพนํ้าฝนและน้ําท฽า ปริมาณนํ้าฝนรายวัน ระดับน้ําและปริมาณน้ําแม฽น้ําโขงสภาพและปรมิ าณน้าํ ในอ฽างเก็บน้าํ และแผนที่นํา้ บาดาล 3) สารานุกรมสัตว์ เป็นบริการขององค์การสวนสัตว์ ให฾ความรู฾เก่ียวกับสัตว์ชนิดต฽างๆแบง฽ ออกเปน็ หมวด ไดแ฾ ก฽ สัตวเ์ ล้ยี งลกู ด฾วยนม สตั ว์เลือ้ ยคลาน สัตว์สะเท้ินนํ้าสะเทิ้นบก สัตว์ปีก สัตว์น้ํา สัตว์อ่นื ๆ นอกจากนยี้ ังมขี อ฾ มูลเกีย่ วกับการอนรุ ักษ์สตั ว์ปาุ ข฾อมูลสวนสัตวใ์ นประเทศไทย 4) บริการสืบค฾นพันธุ์ไม฾ เป็นระบบสืบค฾นข฾อมูลพันธ์ุไม฾ ขององค์การสวนพฤกษศาสตร์โดยมีข฾อมูลอ฾างอิงจากหนังสือพรรณไม฾สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ฾าสิริกิต์ิเล฽ม 1 - 7 และหนงั สอื พรรณไม฾น้ําบึงบอระเพ็ด แนะนาํ พนั ธ์ุไม฾ทนี่ า฽ สนใจ บริการตอบคาํ ถามทางพฤกษศาสตร์ 5) ฐานข฾อมูลด฾านกฎหมายที่เก่ียวข฾องกับกระทรวงฯ ประกอบด฾วย กฎหมายของกรมทรัพยากรธรณี กรมควบคุมมลพษิ กรมส฽งเสริมคุณภาพส่ิงแวดล฾อม กรมทรัพยากรน้ํา กรมทรัพยากรนํ้าบาดาล กรมอุทยานแห฽งชาติ สัตว์ปุาและพันธุ์พืช กรมปุาไม฾ และ สํานักงานนโยบายและแผนทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดล฾อม 6) แผนแม฽บทโครงการจัดทําแผนแม฽บทเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารของกระทรวงฯ พ.ศ. 2555 -2559 และแผนบริหารจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศ รวมท้ังข฾อมูลโครงสร฾างสารสนเทศของกระทรวงฯ ดว฾ ย 4. การประยุกตเ์ ทคโนโลยีสารสนเทศกับงานบริการสงั คม การพัฒนาระบบบริการภาครัฐได฾มีการให฾บริการสังคมผ฽านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Services) ซ่ึงอย฽ูในความรับผิดชอบของหลายหน฽วยงาน ไม฽ว฽าจะเป็นกระทรวงแรงงานกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความม่ันคงของมนุษย์ และหน฽วยงานต฽างๆ การนําเทคโนโลยสี ารสนเทศมาให฾บรกิ ารความรู฾และประชาสัมพนั ธใ์ ห฾ประชาชนได฾ทราบถึงสิทธิประโยชน์และสวัสดิการท่ีประชาชนได฾รับจากภาครัฐ บริการสารสนเทศต฽างๆ ที่ประชาชนสามารถติดตามได฾จากเว็บไซต์ของหน฽วยงานที่เกีย่ วขอ฾ ง เช฽น

187 1) ระบบการจัดหางานของบณั ฑิต 2) ระบบแจง฾ เบาะแสผปู฾ ระสบภยั ทางสังคม 3) ระบบจดั หางานสาํ หรบั ผู฾สมคั รงานและผ฾วู ฽าจ฾าง 4) ระบบบริการแจ฾งเหตสุ าธารณภยั เพือ่ ประชาชน 5) ระบบบริการข฾อมูลและประวัติการประกันสังคมสําหรับประชาชนและหน฽วยงานที่เก่ยี วข฾อง 6) ระบบบรกิ ารตรวจสอบสิทธปิ ระกนั สขุ ภาพผ฽านระบบอเิ ล็กทรอนิกส์ 7) ระบบบริการสารสนเทศภูมิศาสตร์เพื่อส฽งเสริมการให฾และการอาสาช฽วยเหลือสังคมอย฽างบรู ณาการ 8) ระบบแจ฾งเบาะแสเพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพยส์ ินของประชาชน 9) ขอ฾ มูลสิทธิประโยชน์ทีป่ ระชาชนพึงได฾รับจากภาครัฐ 10) ข฾อมูลสวสั ดกิ ารสงั คมของไทย 11) ฐานข฾อมูลกฎหมายที่เกี่ยวขอ฾ งกบั การพฒั นาสังคมและความมัน่ คงของมนุษย์ 12) ระบบแจ฾งข฾อมลู การปอู งกันและปราบปรามการค฾ามนุษย์การประยกุ ตเ์ ทคโนโลยีสารสนเทศกบั ธรุ กจิ 1. e-Commerce พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หรือ electronic commerce คือ การทําธุรกรรมผ฽านส่ืออิเล็กทรอนิกส์ ในทกุ ชอ฽ งทางท่ีเป็นอิเล็กทรอนิกส์ เช฽น การซื้อขายสินค฾าและบริการ การโฆษณาผ฽านส่ืออเิ ล็กทรอนกิ ส์ ไมว฽ า฽ จะเป็นโทรศัพท์ โทรทัศน์ วิทยุ รวมถึงอินเทอร์เน็ต โดยมีวัตถุประสงค์เพ่ือลดค฽าใช฾จ฽าย และเพื่อประสิทธิภาพขององค์กรโดยการลดบทบาทขององค์ประกอบทางธุรกิจ เช฽น ทําเลทตี่ ง้ั อาคารประกอบการ คลงั เกบ็ สินค฾า ห฾องแสดงสินค฾า รวมถึงพนักงานขาย พนักงานแนะนําสินค฾าพนักงานต฾อนรับลูกค฾าเป็นต฾น จึงลดข฾อจํากัดของระยะทางและเวลาลงได฾ (กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร, 2555) ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์ หรือ electronic business หมายถึง การแปลงกระบวนการหลักของธุรกิจให฾สามารถดาํ เนินการโดยผา฽ นเทคโนโลยอี ินเทอรเ์ นต็ ซึง่ ครอบคลุมท้ังกิจกรรมทางธุรกิจ การค฾าขาย การติดต฽อประสานงาน งานธุรการต฽างๆ ท่ีเกิดขึ้นภายในสํานักงาน และการทําธุรกรรมอเิ ล็กทรอนิกส์ต฽างๆ ซ่ึงมคี วามหมายรวมถงึ การพาณชิ ย์อิเล็กทรอนกิ ส์ของธุรกิจด฾วย ในปัจจุบันการดําเนินพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์และธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทย เริ่มได฾รับการยอมรบั อยา฽ งแพร฽หลาย และกระจายไปสธ฽ู ุรกจิ ต฽างๆ มากขนึ้ โดยทางภาครฐั ได฾ออกกฎหมายคุ฾มครองขึ้นเพ่ือดูแลการทําธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ที่เกิดขึ้น คือ พระราชบัญญัติว฽าด฾วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2544 ซึ่งให฾ความคุ฾มครองท้ังการทํานิติกรรม ข฾อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ลายมือชื่ออิเลก็ ทรอนิกส์ การคุ฾มครองผู฾บริโภค ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์และพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์มีความจําเป็นต฾องติดต฽อส่ือสารกันทางอินเทอร์เน็ต จึงทําให฾มีความเสี่ยงท่ีอาจเกิดอันตรายจากภัยคุกคามต฽างๆ ต฽อการรับส฽งข฾อมูลท่ีเป็นความลับทางการค฾าหรือข฾อมูลส฽วนบุคคลผ฽านระบบเครือข฽ายคอมพิวเตอร์ ดังนั้นการรักษาความ

188ปลอดภัยของระบบคอมพิวเตอร์จึงมีความสําคัญเป็นอย฽างย่ิง ปัจจุบันมีวิธีการรักษาความปลอดภัยของระบบคอมพิวเตอรอ์ ยูห฽ ลายวิธี ดังนี้ 1) ความปลอดภัยในการซื้อขายหรือการให฾บริการ เช฽น secure sockets layer (SSL),secure electronic transactions (SET), ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์, ลายมือช่ือดิจิทัล, การใช฾รหสั ผา฽ น 2) ความปลอดภัยในองค์กร โดยการปูองกันระบบของเครื่องแม฽ข฽าย เช฽น การใช฾ไฟร์วอลล์ (firewall) การเข฾ารหัส (encryption) เพ่ือปูองกันการเข฾าสู฽ระบบโดยไม฽ได฾รับอนุญาต การใช฾ซอฟตแ์ วรก์ ําจดั ไวรัส 3) ความปลอดภยั ของฝาุ ยลูกคา฾ ควรเลือกใชเ฾ ว็บบราวเซอรท์ ี่มีการรักษาความปลอดภัยที่ดีพอ ไม฽เปิดเผยข฾อมูลส฽วนบุคคลให฾ผู฾อ่ืนทราบ การเข฾าเว็บไซต์ที่มีการเข฾ารหัสข฾อมูลบัตรเครดิตด฾วยsecure HTTP และ secure sockets layer (SSL) โดยสังเกตจากเคร่ืองหมาย “https://” หรือสังเกตจากเครอื่ งหมายแม฽กุญแจ บรเิ วณเมนบู าร์หรือด฾านลา฽ งขวามอื ของจอคอมพวิ เตอร์ ภาพท่ี 9.2 ตัวอยา฽ งของเว็บไซต์การทาํ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ทม่ี า (www.ebay.com)

189 ภาพท่ี 9.3 ตวั อยา฽ งของเวบ็ ไซต์การทําธรุ กรรมการเงินอิเล็กทรอนิกส์ ที่มา (www.mebytmb.com) 2. e-Marketing e-Marketing ย฽อมาจากคําว฽า electronic marketing หรือ การตลาดอิเล็กทรอนิกส์หมายถงึ การดําเนินกจิ กรรมทางการตลาดโดยใช฾เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ต฽างๆ ท่ีทันสมัยและสะดวกต฽อการใช฾งาน เข฾ามาเป็นสื่อกลาง ไม฽ว฽าจะเป็น คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ หรือ เคร่ืองพีดีเอ ท่ีถูกเชื่อมโยงเข฾าด฾วยกันด฾วยเครือข฽ายอินเทอร์เน็ต มาผสมผสานกับวิธีการทางการตลาด การดําเนินกิจกรรมทางการตลาดอย฽างลงตัวกับลูกค฾าหรือกล฽ุมเปูาหมาย เพ่ือบรรลุจุดมุ฽งหมายขององค์กรอย฽างแทจ฾ รงิ (ภาวุธ พงษ์วิทยภานุ และ สธุ น โรจนอ์ นุสรณ,์ 2551) ข้นั ตอนการดําเนนิ งาน e-Marketing ประกอบด฾วยข้ันตอนตา฽ งๆ ดังน้ี 1) กําหนดวัตถุประสงค์ เช฽น เพ่ือสร฾างยอดขาย เพ่ือสร฾างภาพลักษณ์ เพื่อให฾บริการและเพ่ือสนับสนุนการขาย การสร฾างตราสินค฾าให฾เป็นที่รู฾จัก การรักษาฐานลูกค฾าปัจจุบัน การสร฾างความจงรกั ภักดใี นตราสนิ คา฾ 2). การกําหนดกล฽ุมเปูาหมาย โดยทําการวิเคราะห์กล฽ุมเปูาหมายด฾วยวิธี 5W+1H คือWho (ใคร) What (อะไร) Where (ทไี่ หน) When (เม่อื ไร) Why (ทําไม) และ How (อย฽างไร) 3) วางแผนงบประมาณ เป็นการประเมินจํานวนเงินเพื่อใช฾ในการดําเนินงาน รวมถึงการวางแผนการตลาดให฾อย฽ูภายใต฾งบประมาณท่ีกําหนดไว฾ ตัวอย฽างวิธีการจัดทํางบประมาณ ได฾แก฽ การจัดทํางบประมาณตามสัดส฽วนการขาย การจัดทํางบประมาณตามสภาพตลาด การจัดทํางบประมาณตามวตั ถปุ ระสงค์ การจัดทํางบประมาณตามเงินทุน

190 4) กําหนดแนวความคดิ และรปู แบบ การหาจดุ ขายและลูกเล฽น โดยการสร฾างสรรค์แนวคิดท่ีแปลกใหม฽ เพื่อสร฾างจุดเด฽น หรือความแตกต฽างให฾กับเว็บไซต์ของธุรกิจ และสร฾างความเป็นเอกลักษณ์ของเว็บไซต์ เช฽น การใช฾สีสัน การวางรูปแบบโครงร฽างของหน฾าเว็บ การกําหนดเน้ือหาในเวบ็ ไซต์ 5) การวางแผนกลยทุ ธ์ สอ่ื และช฽วงเวลา การทําการตลาดอิเล็กทรอนิกส์มีความจําเป็นที่จะต฾องกําหนดกลยุทธ์ด฾านออนไลน์ท่ีเหมาะสม เช฽น การโฆษณาผ฽านหน฾าเว็บไซต์ในรูปแบบต฽างๆการตลาดผ฽านระบบค฾นหา การตลาดผ฽านอีเมล การตลาดผ฽านเว็บบล็อก การตลาดผ฽านเครือข฽ายสงั คม โดยต฾องมีเทคนคิ ในการเลอื กลงโฆษณาในเว็บไซตใ์ ห฾ได฾ผล เช฽น ควรเลือกโฆษณากับเว็บไซต์ท่ีมีผ฾ูเข฾าชมมากๆ เลือกลงโฆษณาท่ีตรงกับกลุ฽มเปูาหมายของเราและของเว็บไซต์ ควรเลือกลงโฆษณาหลายๆ เวบ็ ไซต์ ทาํ แบนเนอร์โฆษณาหลายรปู แบบ 6) ดําเนินการตามแผนงานที่วางไว฾ ควรหมั่นตรวจความพร฾อม ความก฾าวหน฾าของการดําเนินการ โดยมีเทคนคิ การเตรยี มตวั ก฽อนทาํ การประชาสัมพนั ธ์หรือดาํ เนินกลยุทธ์ของเว็บไซต์ ได฾แก฽การตรวจความพร฾อมของตนเองในการรอบรับลูกค฾าด฾วย 6C’s ประกอบด฾วย Content คือเนื้อหาข฾อมูลของเว็บไซต์ Community คือชุมชนของสมาชิกเว็บไซต์ Commerce คือกิจกรรมการค฾าขายCustomization คือการปรับแต฽งให฾เหมาะสม Communication คือช฽องทางการสื่อสารไปส฽ูกลุม฽ เปาู หมาย Convenience คอื ความสะดวกสบายในการใชง฾ าน ภาพที่ 9.4 Google AdWords ใหบ฾ รกิ ารโฆษณาบนเว็บไซต์ของ Google ทม่ี า (www.google.com/AdWords)

191 7) การวัดผลและประเมินผลลัพธ์ โดยดูผลลัพธ์ที่ออกมาเพื่อวัดผลความสําเร็จของแผนงานที่วางไว฾ สามารถประเมินได฾จากหลายปัจจัย เช฽น การเติบโตของยอดขาย ส฽วนแบ฽งทางการตลาด ภาพลกั ษณข์ องสนิ ค฾าหรอื บริการ กําไรที่ต้ังเปูาไว฾ สถิติการเขา฾ เยยี่ มชมเวบ็ ไซต์ 3. M-Commerce M-Commerce หรือ Mobile Commerce หมายถึง กิจกรรมเชิงพาณิชย์ การบริการข฽าวสาร การโฆษณาประชาสัมพันธ์ รวมท้ังธุรกรรมการเงินที่ดําเนินการผ฽านอุปกรณ์และเครือข฽ายโทรศัพท์เคล่ือนท่ี Mobile Marketing หรือ การตลาดด฾วยโทรศัพท์เคล่ือนท่ี จัดเป็นกลยุทธ์ด฾านการตลาดแนวใหม฽ที่นําเทคโนโลยีโทรศัพท์เคลื่อนท่ีมาเป็นส่ือกลางในการส่ือสารกับกล฽ุมเปูาหมายได฾อย฽างใกล฾ชิด เข฾าถึงกลุ฽มลูกค฾าเปูาหมายได฾โดยตรง ทุกท่ี ทุกเวลา ทั่วโลก ได฾โดยตรงและเข฾าถึงได฾มากกว฽าสื่อประเภทอนื่ ตัวแบบของการทําพาณิชย์ดว฾ ยโทรศพั ทเ์ คลือ่ นท่ี ประกอบด฾วยองค์ประกอบ ดังนี้ 1) ผูใ฾ ห฾บรกิ ารอนิ เทอรเ์ นต็ ของโทรศพั ทเ์ คลอ่ื นท่ี (Mobile Internet Service Provider) 2) ผจู฾ ัดเตรียมเนื้อหาภายในโทรศัพท์เคลือ่ นที่ (Mobile Content Provider) 3) เวบ็ ทา฽ ในโทรศพั ทเ์ คลื่อนที่ (Mobile Portal) 4) ตวั แทนตําแหนง฽ ของโทรศัพทเ์ คล่อื นท่ี (Mobile Location Broker) 5) ใหบ฾ ริการธรุ กรรมทางโทรศัพท์เคลอ่ื นที่ (Mobile Transaction Provider) รูปแบบการตลาดด฾วยโทรศัพท์เคล่ือนท่ี ในปัจจุบันมีการดําเนินงานอย฽างแพร฽หลาย มีหลากหลายรปู แบบ (ภาวุธ พงษ์วทิ ยภานุ และ สธุ น โรจน์อนสุ รณ์, 2551) ไดแ฾ ก฽ 1) การตลาดด฾วยการส฽งข฾อความส้ัน (SMS marketing) เป็นรูปแบบหน่ึงในการทําการตลาดด฾วยการรับ-ส฽งข฾อความสั้น หรือ short message service ซ่ึงสามารถทําได฾อย฽างรวดเร็วส฽งขอ฾ ความได฾ท่วั โลกอยา฽ งง฽ายดาย สามารถทําการคดั เลอื กกล฽มุ เปูาหมายได฾ ประหยัดต฾นทุนในการทําการตลาด 2) การตลาดด฾วยการสง฽ ข฾อความมัลติมเี ดีย (MMS marketing) บริการส฽งข฾อความด฾วยส่ือมัลติมีเดีย (multimedia message service) ผ฽านโทรศัพท์เคลื่อนที่ โดยไม฽มีข฾อจํากัดรูปแบบของข฾อมูล สามารถรองรับได฾ท้ังข฾อความ รูปภาพ ภาพเคลื่อนไหว ข฾อความเสียง วีดิโอ ที่ได฾รับความนิยมอยา฽ งยิง่ ด฾วยการเชือ่ มตอ฽ อินเทอรเ์ น็ตในยคุ 3G 3) การตลาดด฾วย IVR (interactive voice response marketing) เป็นการตลาดผ฽านระบบตอบรับหรือการให฾ข฾อมูลอัตโนมัติผ฽านทางโทรศัพท์ เป็นการโต฾ตอบข฾อมูลด฾วยเสียงที่ทําการบันทึกไว฾ล฽วงหน฾า โดยผ฾ูโทรสามารถกดปุมหมายเลขบนโทรศัพท์แทนแปูนพิมพ์เพ่ือเลือกฟังข฾อมูลท่ีต฾องการได฾ รองรับการทํางานได฾ไม฽จํากัดเวลาและรองรับได฾หลายๆ ค฽ูสายในเวลาเดียวกัน ตัวอย฽างไดแ฾ ก฽ บริการลูกค฾าสัมพันธ์ หรือ call center, ระบบ 1900 (audio text), fax on demand, voicemail, และmorning call 4) การตลาดด฾วยอินเทอร์เน็ตทางโทรศัพท์ (WAP marketing) โดยใช฾ wirelessapplication protocol หรอื WAP เป็นมาตรฐานในการกาํ หนดวิธกี ารในการเข฾าถึงข฾อมูลและบริการอินเทอร์เน็ตบนโทรศัพท์เคล่ือนท่ี ข฾อมูลนําเสนอด฾วยภาษา WML (wireless markup language)

192เพื่อให฾สามารถแสดงผลบนหน฾าจอท่ีมีพ้ืนที่จํากัด สามารถใช฾งานร฽วมกับระบบปฏิบัติการต฽างๆ ของระบบโทรศัพท์เคลอ่ื นท่ไี ด฾ 5) การตลาดด฾วย Bluecast (bluecast marketing) เป็นการตลาดท่ีใช฾งานร฽วมกับเทคโนโลยี bluetooth ซ่งึ อย฽ใู นพ้นื ที่การใหบ฾ ริการระยะไม฽เกิน 10 เมตร โดยทําการส฽งข฾อความ หรือสอ่ื มลั ตมิ เี ดยี เช฽น ข฾อความโฆษณา การใหส฾ ว฽ นลด การแจ฾งผลขอ฾ มลู 6) การตลาดด฾วยการปล฽อยข฾อความโฆษณาไปตามพื้นฐานต฽างๆ (proximityadvertising) เป็นการปลอ฽ ยขอ฾ ความเมื่อผ฾ใู ช฾บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่เข฾าไปในบริเวณท่ีให฾บริการก็จะทําการสง฽ ข฾อความประชาสมั พนั ธ์ หรอื โปรโมช่นั ไปยังเครอื่ งของผ฾ูรับทันที 7) การตลาดด฾วยบาร์โค฾ดสองมิติ (2D barcode marketing) บาร์โค฾ดท่ีสามารถบรรจุข฾อมูลได฾มากกว฽ารูปแบบเดิม บางทีเรียกว฽า QR code (quick response code) สามารถใช฾งานได฾ด฾วยการนํากล฾องจากโทรศัพท์เคล่ือนที่ทําการถ฽ายหรือจับภาพ ระบบจะนําภาพไปตีความรหัสตามมาตรฐาน แล฾วแปลงข฾อมูลออกมา เช฽น การเช่ือมต฽อเว็บไซต์ของสินค฾าหรือบริการ การให฾ข฾อมูลประชาสมั พนั ธ์ การชาํ ระคา฽ สนิ ค฾า การใหค฾ าํ แนะนํา บอกทิศทาง การรว฽ มสนกุ ชิงรางวลั 8) การตลาดด฾วย Mobile Blog (mobile blog marketing) ด฾วยเทคโนโลยี mobileweb 2.0 ทาํ ใหผ฾ ใู฾ ชโ฾ ทรศพั ทเ์ คลือ่ นทีส่ ามารถเขา฾ ถงึ ขอ฾ มลู ไดง฾ า฽ ยข้นึ สามารถทําการแบ฽งปันข฾อมูลหรือสรา฾ งชุมชนบนเครือข฽ายได฾งา฽ ย ไดร฾ บั ความนิยมโดยเฉพาะการใช฾งานผ฽านเครือข฽ายเทคโนโลยี 3G เช฽นTwitter, Facebook, และ Youtubeการประยกุ ตเ์ ทคโนโลยีสารสนเทศกบั ภาครฐั 1. รัฐบาลอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ (e-Government) แนวคิดของรัฐบาลอเิ ล็กทรอนกิ ส์ เรม่ิ ตน฾ มาจากประเทศสหรฐั อเมริกา ช฽วงต฾นทศวรรษปีค.ศ. 1990 ในสมัยของประธานาธิบดีบิล คลินตัน ขณะที่รองประธานาธิบดี อัล กอร์ ได฾พัฒนาโครงการทางด฽วนสารสนเทศของประเทศ ต้ังแต฽นั้นมาหลายประเทศก็ได฾เร่ิมพัฒนาโปรแกรมสําหรับรัฐบาลอเิ ล็กทรอนกิ ส์ รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ จัดเป็นการนําเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารมาใช฾เป็นเคร่ืองมือของรัฐในการบริหารจัดการตามนโยบายและการให฾บริการส฽ูประชาชน ภาคธุรกิจ โดยภาครัฐ หรือระหว฽างภาครัฐด฾วยกันเอง ซ่ึงเป็นหน฾าท่ีของรัฐท่ีพึงตอบสนองต฽อเทคโนโลยีใหม฽และสิ่งแวดล฾อมใหม฽ท่ีจะเกิดข้ึน โดยจะต฾องมีการกระจายโครงสร฾างพื้นฐานของระบบสารสนเทศส฽ูประชาชน ดว฾ ยคุณภาพสูงสดุ เทา฽ ที่จะทําได฾ รวมทั้งการปกปูองและค฾ุมครองสิทธิของประชาชนต฽อการล฽วงละเมดิ ท่อี าจจะเกิดข้ึนจากการใช฾เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร โดยรัฐบาลไทยได฾เล็งเห็นว฽าประเทศไทยจะต฾องมีขีดความสามารถในการแข฽งขันกับระดับภูมิภาคให฾ได฾ โดยเฉพาะการก฾าวสู฽ประชาคมอาเซยี น ในระบบเศรษฐกิจใหม฽ (new economy) ทําให฾ประเทศไทยต฾องหันมาวางกลยุทธ์เพื่อนําพาประเทศไทยเข฾าส฽ู e-Thailand กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ได฾ดําเนินการพัฒนาระบบเครือข฽ายสารสนเทศภาครัฐ (network infrastructure) และผลกั ดันให฾เกิดการให฾บริการ

193ของภาครัฐผา฽ นระบบอเิ ลก็ ทรอนิกส์ โดยครอบคลมุ บรกิ ารใน 5 ดา฾ น (กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร, 2555) ได฾แก฽ รฐั บาลอเิ ล็กทรอนกิ ส์ (e-Government) หมายถึง วิธีการบริหารจัดการภาครัฐสมัยใหม฽ที่เน฾นการใช฾เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร เพ่ือเพ่ิมประสิทธิภาพของผลงานของภาครัฐ และปรบั ปรุงการใหบ฾ ริการแก฽ประชาชน และบริการด฾านขอ฾ มูลเพื่อเพมิ่ อตั ราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและทาํ ใหป฾ ระชาชนมสี ฽วนร฽วมกับรัฐมากขึ้น โดยจะนาํ การใช฾เทคโนโลยมี าใช฾เพอ่ื เพ่มิ ศกั ยภาพของการเข฾าถึง และการให฾บริการของรัฐ โดยม฽ุงเน฾นไปท่ีกลุ฽มคน 3 กลุ฽ม ได฾แก฽ ประชาชน ภาคเอกชน และข฾าราชการ โครงการภายใต฾แนวคิดนี้ ประกอบด฾วย การพัฒนาระบบบริการภาครัฐผ฽านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Service) เครือข฽ายสารสนเทศภาครัฐ (government information network :GIN) โครงการพัฒนากรอบแนวทางมาตรฐานการแลกเปล่ียนข฾อมูลแห฽งชาติ (Thailand e-government interoperability framework : The-GIF) e-Logistic ของภาครัฐ และ การพัฒนาบุคลากรด฾านเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร (ICT human resource development : ICTHRD) พาณิชยอ์ ิเล็กทรอนิกส์ (e-Commerce) คือ การดําเนินการธุรกรรมทางพาณิชย์ผ฽านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยภาครัฐจัดเตรียมโครงสร฾างพื้นฐานและบริการของภาครัฐในการอํานวยความสะดวกแกก฽ ารดําเนินพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ รวมท้ังการออกกฎหมายเพ่ือคุ฾มครองการประกอบธุรกิจอเิ ล็กทรอนิกส์ดว฾ ย อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (e-Industry) หมายถึง การสร฾างความเข฾มแข็งของภาคอตุ สาหกรรมการผลติ โดยใช฾เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นเคร่ืองมือสําคัญ เพ่ือเปูาหมายในการสร฾างความสามารถในการแข฽งขันของภาคอุตสาหกรรม โดยจะนํามาซ่ึงการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย฽างยงั่ ยนื ในอนาคตต฽อไป การศึกษาอิเล็กทรอนิกส์ (e-Education) หมายถึง การส฽งข฾อมูลส่ือการศึกษาและการบริการผ฽านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เช฽น สายโทรศัพท์ ระบบเครือข฽ายคอมพิวเตอร์ ตัวอย฽างบริการการศกึ ษาอิเลก็ ทรอนิกส์ เช฽น course ware, ห฾องสมุดอิเล็กทรอนิกส์ การลงทะเบียนเรียน การชําระค฽าเล฽าเรยี น และฐานข฾อมลู ออนไลน์ทางวชิ าการ ภาคสังคมอิเล็กทรอนิกส์ (e-Society) หมายถึง สังคมของมนุษย์ท่ีเกิดข้ึนโดยผ฽าน“อิเล็กทรอนิกส์” ซ่ึงมนุษย์ในสังคมไทยได฾ยอมรับรูปแบบทางอิเล็กทรอนิกส์ในหลายลักษณะที่จะมีความสมั พันธร์ ะหว฽างกัน ท้ังที่เป็นระบบการสื่อสารแบบมีสายและระบบไร฾สาย และทางอินเทอร์เน็ตตลอดจนรูปแบบของส่ือสารมวลชนที่เปลี่ยนจากระบบด้ังเดิมท่ีเป็นการส่ือสารแบบทิศทางเดียวได฾กลายเป็นการส่ือสารแบบโต฾ตอบกันได฾ท้ังสองทิศทาง โดยขจัดอุปสรรคของระยะทางและเวลาที่แตกต฽างกัน รูปแบบของรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (Beynon-Devis, 2007, p.8) มีหลายรูปแบบ ไดแ฾ ก฽ 1) Internal e-government เป็นระบบงานภายในของภาครัฐด฾วยการใช฾เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และสร฾างห฽วงโซ฽มูลค฽าขึ้นกับงานภายใน นวัตกรรมที่เกิดขึ้นคือ ระบบงานสนับสนุนงานสว฽ นหลงั

194 2) Government to Citizen (G2C) เป็นการสร฾างบริการท่ีสนับสนุนให฾เกิดห฽วงโซ฽ของลกู ค฾าหรอื ประชาชน เพราะประชาชนเป็นผ฾ูมีส฽วนได฾ส฽วนเสียหลักของระบบ เพื่อให฾เกิดการให฾บริการท่ดี ขี ้ึน 3) Government to Business (G2B) เป็นการสร฾างความสัมพันธ์ระหว฽างภาครัฐกับภาคธุรกิจในการส฽งเสรมิ ห฽วงโซอ฽ ุปทาน รวมไปถึงการทาํ ธุรกิจทางอิเลก็ ทรอนิกส์ด฾วย 4) Government to Government (G2G) เป็นการทํางานร฽วมกันของภาครัฐ สร฾างความร฽วมมือเพอื่ ให฾เกิดหว฽ งโซม฽ ลู คา฽ และสามารถแลกเปลยี่ นข฾อมลู ระหวา฽ งหนว฽ ยงานได฾ 5) Citizen to Citizen (C2C) เป็นการส฽งเสริมให฾เกิดประชาธิปไตยและสร฾างภาพอนาคตของการบรหิ ารงานภาครฐั อย฽างมธี รรมาภิบาล ประโยชน์ของรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ จะเน฾นไปท่ีการปรับปรุงการบริการต฽อประชาชนและภาคเอกชน และพัฒนาประสทิ ธิภาพและประสทิ ธผิ ลของรฐั บาล ดังน้ี 1) การพัฒนาการเข฾าถึงข฾อมูลและบริการท่ีดีกว฽าเดิมของประชาชน โดยบริการเบ็ดเสรจ็ ณ จุดเดยี ว และมชี ฽องทางการสอ่ื สารทม่ี าข้ึนโดยใชส฾ ่ืออเิ ล็กทรอนิกสม์ าเสริม 2) ปรับปรุงคุณภาพของการบริการ โดยสร฾างความน฽าเช่ือถือให฾ดีกว฽าเดิม เพ่ือความรวดเรว็ สร฾างความโปร฽งใสของการใหบ฾ ริการ 3) การจัดการกระบวนการทด่ี ขี ึน้ โดยเพิ่มกระแสสารสนเทศให฾ไหลเวียนได฾ดีขึ้น และมีผูร฾ ับผดิ ชอบที่ชัดเจนในงานตา฽ งๆ 4) มรี ะบบทด่ี ขี ้นึ โดยมีเครื่องมือในการวิเคราะห์ การบริหารจัดการ การสนับสนุนการตดั สินใจของผู฾ดําเนินการ 5) การกระจายอาํ นาจไปสูป฽ ระชาชน รัฐบาลได฾มโี ครงการพฒั นารฐั บาลอิเล็กทรอนิกส์โดยจัดต้ังหน฽วยงานท่ีมีช่ือว฽า สํานักงานรฐั บาลอเิ ล็กทรอนิกส์ (องคก์ ารมหาชน) โดยมีการดาํ เนนิ โครงการหลกั ๆ ทีส่ าํ คญั ดังน้ี 1) โครงการพัฒนาเครือข฽ายสารสนเทศภาครัฐ (Government Information Networkหรอื GIN) ที่เชอื่ มตอ฽ กระทรวง ทบวง จนถึงระดับกรม เพอ่ื ใหร฾ องรบั ปริมาณข฾อมลู ขา฽ วสารของรัฐ 2) ระบบจดหมายอิเล็กทรอนกิ สก์ ลางเพ่ือการสื่อสารในภาครัฐ (MailGoThai) 3) ระบบเวบ็ ไซตก์ ลางบรกิ ารอิเลก็ ทรอนิกสภ์ าครัฐ (e-Government portal) 4) โครงการเช่อื มโยงระบบสารบรรณอิเล็กทรอนกิ ส์ (e-CMS)การประยกุ ต์เทคโนโลยสี ารสนเทศกับงานบริการ เทคโนโลยสี ารสนเทศกับการประยกุ ต์สําหรับงานบรกิ ารน้นั ได฾มกี ารพัฒนาอยา฽ งต฽อเน่ืองและก฽อให฾เกิดรูปแบบการให฾บริการใหม฽ๆ ที่สอดคล฾องและตอบสนองความต฾องการใหม฽ๆ ของผ฾ูใช฾งานมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดสุ ิต เปน็ หน฽วยงานที่เล็งเหน็ ความสําคัญของการนาํ เทคโนโลยีสารสนเทศมาใช฾ในงานบริการโดยเฉพาะการส฽งเสริมอัตลักษณ์ด฾านต฽างๆ ของมหาวิทยาลัย ซึ่งประกอบด฾วยการศึกษาปฐมวัย อตุ สาหกรรมอาหาร อตุ สาหกรรมบริการ และพยาบาลศาสตร์ บริการต฽างๆ ของมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ที่ให฾บริการในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ผ฽านเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัย (www.dusit.ac.th) ไดแ฾ ก฽

195 1) บริการห฾องสมุดเสมือน (virtual library) ให฾บริการโดยสํานักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ ประกอบด฾วย บริการสืบค฾นหนังสือและวารสาร (online public accesscatalog – OPAC) ฐานข฾อมูลวิชาการออนไลน์ กฤตภาคออนไลน์ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ ส่ือมัลติมเี ดยี รวมทง้ั บรกิ ารดแู ลเครือ่ งคอมพิวเตอร์โน฾ตบุ฿ก ระบบเครือข฽ายภายในและระบบเครือข฽ายไร฾สาย บรกิ ารเว็บเมล บริการหอ฾ งปฏิบตั กิ ารคอมพวิ เตอร์ 2) บริการวิชาการผ฽านระบบ internet protocol television (IPTV) ท่ีเรียกว฽า SuanDusit internet broadcasting – SDIB ประกอบด฾วย 4 ช฽อง ได฾แก฽ ch.1 kid channel, studychannel, variety channel, และ radio channel 3) บรกิ ารด฾านการเรยี นร฾ูทางอเิ ล็กทรอนกิ ส์ ได฾แก฽ โครงการพัฒนาสังคมแห฽งการเรียนร฾ูอย฽างต฽อเนื่องโดยใช฾เทคโนโลยีสารสนเทศ (Dusit LMS) โครงการเครือข฽ายเผยแพร฽ ถ฽ายทอดและพัฒนา การใช฾ส่ือสําหรับการศึกษาระดับปฐมวัยและประถมศึกษา (Electronic Distance LearningRajabhat University – eDLRU) 4) บรกิ ารฐานข฾อมลู งานวจิ ัย (e-Research) โดยสถาบนั วิจยั และพัฒนา 5) บริการระบบบริหารการศึกษาหรือระบบทะเบียนออนไลน์ ของสํานักส฽งเสริมวิชาการและงานทะเบยี น 6) บริการข฾อมูลการสํารวจประชามติ ผลการแสดงความคิดเห็นของประชาชนตามระบอบประชาธปิ ไตยและในด฾านสงั คมและวฒั นธรรมไทย โดยสวนดุสิตโพล - ระบบการจัดการผ฾ูใช฾จากส฽วนกลาง (Identity Manager – IDM) ระบบจะจัดการให฾รหัสผ฽านเป็นหนึ่งเดียว แต฽ username ยังคงเป็นตามเดิมของระบบนั้นๆ การเปลี่ยนแปลงรหัสผ฽านจะมผี ลตอ฽ ระบบสารสนเทศต฽างๆ ของมหาวทิ ยาลยั ดงั น้ี - ระบบงานทะเบียนออนไลน์ - การใชอ฾ ินเทอร์เน็ตแบบเครอื ข฽ายไรส฾ าย (wireless LAN) - การใช฾ e-Mail ของมหาวิทยาลัย ทเ่ี ว็บไซต์ - การใชอ฾ ินเทอรเ์ นต็ จากทางบา฾ น (ผ฽าน modem) - การใช฾งานเครื่องคอมพิวเตอร์ตามห฾องปฏิบัติการศูนย์การศึกษาต฽างๆ (ระบบ AD-active directory) - การใชอ฾ ินเทอร์เน็ตผา฽ น VPN (virtual private network) - การใชพ฾ นื้ ท่ีสาํ หรับสรา฾ ง website ส฽วนตัวท่เี ว็บไซต์ - งานสืบคน฾ หนงั สือออนไลน์ (e-Book) ท่ีเวบ็ ไซต์ - ระบบบริหารและจัดการบุคลากรที่เว็บไซต์

196เทคโนโลยสี ารสนเทศกับการสร้างนวัตกรรม นวัตกรรม คือ กระบวนการในการสร฾างความเปลี่ยนแปลงทั้งเล็กและใหญ฽ เปล่ียนแปลงโดยส้ินเชิงหรือบางส฽วน เปล่ียนแปลงในตัวสินค฾า กระบวนการ และบริการ ซ่ึงนําไปส฽ูการนําเสนอส่ิงใหม฽สําหรับองคก์ รในการเพ่มิ มูลค฽าแกล฽ กู คา฾ และความรขู฾ ององค์กร (O’Sullivan and Dooley, 2009)ตารางท่ี 9.1 ประเภทของนวัตกรรมประเภทของนวัตกรรม การเปล่ียนแปลงองคป์ ระกอบ การเปลี่ยนแปลงระบบIncremental ปรับปรงุ บางส฽วน ไมม฽ กี ารเปลีย่ นแปลงModular เปลย่ี นใหม฽ ไมม฽ ีการเปลี่ยนแปลงArchitectural ปรบั ปรุงบางส฽วน มีโครงสร฾างหรือสถาปัตยกรรมใหม฽Radical เปลีย่ นใหม฽ มีโครงสรา฾ งหรอื สถาปัตยกรรมใหม฽ ทีม่ า (Handerson and Clark, 1990 อ฾างใน Smith, 2006 p.28)วจิ ยั และพฒั นา กระบวนการเชิงพาณิชย์ นวตั กรรม ภาพท่ี 9.5 ขั้นตอนของกระบวนสร฾างนวัตกรรม ท่มี า (Smith, 2006 p.107) รปู แบบของนวตั กรรม สามารถแบ฽งได฾ตามผลทไ่ี ด฾รับ ได฾แก฽ 1) นวัตกรรมสินค฾า เป็นการพัฒนาสินค฾าท่ีเป็นสินค฾าอุปโภค บริโภค รวมไปถึงสินค฾าอุตสาหกรรม เช฽น เคร่ืองมือ เครือ่ งจักร 2) นวตั กรรมบรกิ าร เปน็ การสร฾างวธิ ีใหมใ฽ นการใหบ฾ รกิ าร 3) นวัตกรรมกระบวนการ เป็นการเปลี่ยนแปลงวิธีการดําเนินงานซึ่งนําไปสู฽รูปแบบใหม฽ของกระบวนการทํางาน ตัวอย฽างของนวัตกรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ เช฽น คอมพิวเตอร์ อินเทอร์เน็ต ระบบโทรศพั ท์เคลอื่ นที่ หุน฽ ยนต์ พาณิชย์อิเล็กทรอนกิ ส์ เครอื ข฽ายสังคม คอมพวิ เตอร์นาโน

197ตัวอย฽างของนวัตกรรมสินค฾าทีน่ าํ เสนอออกสูต฽ ลาดในปี พ.ศ. 2553 ไดแ฾ ก฽nPower Personal Energy Generator Sony 3D-360 Hologram Recomputer: The Cardboard Computer2010 Brabus Mercedes-Benz Viano Apple Tablet The Honda Bicycle SimulatorLoungePanosonic 50-inch 3D 1080 Plasma TV V12 Dual-Touchscreen Notebook Google WaveThe KS810 Keyboard Scan Corrugated Cardboard Labtop Case Powermat Wireless Battery Charger ภาพที่ 9.6 Most Promising New Products for 2010 ท่ีมา (www.businesspundit.com)

198ตวั อยา฽ งของนวัตกรรมสินค฾าทน่ี ําเสนอออกสตู฽ ลาดในปี พ.ศ. 2554 ได฾แก฽The Mint: robotic housecleaner Samsung LED Thin 3D TV Infinity I-Kitchen3D HD Camcorder KOR-Fx: vibration movie or Miniature Cell Phone Towers for the game box officeCell Phone Hotel Keys Shape-Shifting Touchscreen Power PlasticQuantum Dot LED Display Robotic Walking Pants Electric Nanomotor ภาพท่ี 9.7 Most Promising New Products for 2011 ที่มา (www.businesspundit.com)

199สรุป เทคโนโลยีสารสนเทศสามารถนํามาประยุกต์ได฾กับการดําเนินชีวิตประจําวันเพิ่มมากขึ้น จะเห็นได฾ว฽ามีเทคโนโลยีมากมายที่ได฾ถูกนํามาใช฾เพ่ือการพัฒนางานด฾านต฽างๆ ไม฽ว฽าจะเป็นการพัฒนาระบบการศึกษา การขยายโอกาสทางธุรกิจ การบริหารประเทศ การดําเนินงานของภาครัฐ การให฾บรกิ ารด฾านสาธารณสุข งานการส฽งเสรมิ การทาํ นุบํารุงศาสนา ศลิ ปวฒั นธรรม นอกจากน้ีเทคโนโลยีสารสนเทศได฾ถูกพัฒนาให฾มีความก฾าวหน฾าอย฽างรวดเร็ว จนนําไปส฽ูการสร฾างนวัตกรรมเพ่ืออํานวยความสะดวกและรองรับความต฾องการท่ีไม฽สิ้นสุดของมนุษย์ ดังนั้นความต฾องการก฾าวทันเทคโนโลยีจึงจําเป็นต฾องเรียนรู฾ สามารถติดตามความเปล่ียนแปลงต฽างๆ ท่ีจะเกิดขึ้น เพื่อให฾เราสามารถประยุกต์เทคโนโลยีเหล฽าน้นั กับการดําเนนิ ชีวติ ได฾ตอ฽ ไป

200 คาถามทบทวน 1. จงยกตวั อยา฽ งของเทคโนโลยสี ารสนเทศท่ที า฽ นใชใ฾ นการสนับสนุนการศึกษาของท฽าน 2. เทคโนโลยสี ารสนเทศมีประโยชน์กับการเรียนร฾ขู องท฽านอยา฽ งไรบ฾าง 3. ท฽านเคยใชเ฾ ทคโนโลยสี ารสนเทศในการดาํ เนินชวี ติ อยา฽ งไรบา฾ ง จงยกตัวอยา฽ ง 4. เทคโนโลยสี ารสนเทศด฾านสาธารณสขุ มคี วามสาํ คัญกบั การใหบ฾ ริการประชาชนอยา฽ งไร 5. ทา฽ นคิดวา฽ เทคโนโลยีสารสนเทศสามารถชว฽ ยอนรุ กั ษส์ งิ่ แวดลอ฾ มได฾หรอื ไม฽ อย฽างไร 6. จงเปรยี บเทยี บความแตกต฽างระหวา฽ งการทําพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์กับการทําพาณิชย์ด฾วยโทรศพั ท์เคลื่อนท่ี 7. หากทา฽ นไดร฾ บั มอบหมายให฾ทําการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับหลักสูตรที่ตนเองเรียนอยู฽ ท฽านจะเลอื กใช฾เทคโนโลยสี ารสนเทศอะไรบา฾ งเป็นเครอื่ งมือในการดําเนนิ งาน 8. ท฽านคิดว฽าการพัฒนาระบบรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์จะช฽วยส฽งเสริมระบอบประชาธิปไตยได฾หรือไม฽ อยา฽ งไร 9. ท฽านเคยใชบ฾ รกิ ารดา฾ นเทคโนโลยสี ารสนเทศของมหาวิทยาลยั ราชภฏั สวนดสุ ติ อะไรบา฾ ง 10. จงยกตัวอยา฽ งของนวตั กรรมดา฾ นเทคโนโลยสี ารสนเทศทท่ี า฽ นรจู฾ ักหรือเคยนํามาใช฾

บทท่ี 10 แนวโนม้ ของเทคโนโลยีสารสนเทศในอนาคต ผ้ชู ่วยศาสตราจารย์ ดร. พรรณี สวนเพลง ปัจจุบัน คือโลกในศตวรรษท่ี 21 ซ่ึงมีการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล฾อมของการแข฽งขันทุกด฾าน ไม฽ว฽าจะเป็นด฾านเศรษฐกิจ สังคม การเมืองและกฎหมาย เทคโนโลยี และวัฒนธรรม ซึ่งการเปล่ียนแปลงดังกล฽าวเกิดจากปัจจัยตัวแปรท่ีสําคัญ 3 ประการคือ กระแสโลกาภิวัฒน์ การเปล่ียนแปลงทางด฾านเทคโนโลยี และเศรษฐกิจระหว฽างประเทศที่มีการค฾าขายอย฽างเสรี ซ่ึงการเปล่ียนแปลงดังกล฽าวมีผลกระทบต฽อการดําเนินธุรกิจและการปฏิบัติงานขององค์กรต฽างๆ เป็นอย฽างมากซ่งึ กอ฽ ใหเ฾ กิดการแขง฽ ขนั อย฽างรุนแรง และปัจจัยสําคัญที่องค์กรจะสามารถเอาชนะคู฽แข฽งหรือสร฾างความได฾เปรียบทางการแข฽งขันคือ การใชเ฾ ทคโนโลยีสารสนเทศและนวตั กรรมสมัยใหม฽ ดังนั้นนักศึกษาจึงจําเป็นท่จี ะตอ฾ งเรยี นร฾แู ละพัฒนาทักษะทางด฾านเทคโนโลยีสารสนเทศ รวมถึงการใช฾นวัตกรรมใหม฽เพื่อให฾สามารถปรับตัวให฾เท฽าทันการเปลี่ยนแปลงทางด฾านเทคโนโลยีสารสนเทศในโลกอนาคต ซ่ึงในบทน้อี ธบิ ายถึงแนวโน฾มเทคโนโลยสี ารสนเทศในอนาคต นวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศกับความรับผิดชอบต฽อสังคมและสิ่งแวดล฾อมในอนาคต การปฏิรูปการทํางานกับการใช฾ข฽าวสารบนฐานเทคโนโลยีในอนาคต และการปฏบิ ัติตนให฾ทนั ตอ฽ การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยสี ารสนเทศแนวโนม้ การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศในอนาคต ในปจั จบุ ันเปน็ ยคุ ของกระแสโลกาภิวัตนท์ มี่ กี ารเปล่ียนแปลงทางด฾านเทคโนโลยีสารสนเทศแบบก฾าวกระโดด ซ่ึงเทคโนโลยีสารสนเทศประกอบด฾วยองค์ประกอบท่ีสําคัญ 2 องค์ประกอบ คือเทคโนโลยีเพ่ือการประมวลผล คือ ระบบคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีเพ่ือการเผยแพร฽ คือระบบสื่อสารโทรคมนาคม และเทคโนโลยีอ่ืนๆ ซ่ึงแนวโน฾มการใช฾เทคโนโลยีสารสนเทศในอนาคตสรุปได฾ดังน้ี 1. ระบบคอมพิวเตอร์ ระบบคอมพิวเตอร์ ประกอบด฾วยเทคโนโลยีฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์ซึ่งในอนาคตคาดวา฽ จะมแี นวโน฾มการใช฾งาน ดังน้ี 1.1 ฮาร์ดแวร์ 1.1.1 แท็บเล็ต (tablet) ได฾รับความนิยมมาต้ังปี พ.ศ. 2554 และจะได฾รับความนิยมอย฽างต฽อเน่ืองและสูงข้ึนในอนาคต โดยเฉพาะอย฽างย่ิงไอแพด (iPad ของ Apple) และ คินเดิ้ล(Kindle ของ Amazon) ซ่ึงส฽วนมากใช฾สําหรับการเข฾าไปอ฽านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e-Book) โดยการเชื่อมต฽อการพัฒนาของออนไลน์มาร์เกตเพลส (online market place) ของ Amazon หรือiStore ของ Apple ทําให฾ผู฾ใช฾งานสามารถเข฾าถึงเน้ือหา (content) ต฽างๆ และสามารถซ้ือได฾สะดวกข้ึน นอกจากน้ียังมีคาดการณ์ว฽าในอนาคตจะมีการใช฾เคร่ืองคอมพิวเตอร์แบบแท็บเล็ตมากกว฽าเคร่ือง

202เน็ตบก฿ุ (netbook) ด฾วยศกั ยภาพของเครื่องคอมพิวเตอรแ์ ท็บเล็ตท่ีสามารถประมวลผลที่สูงกว฽าและมีอุปกรณเ์ สริม เช฽น คีย์บอร์ดท่ีมีที่เสียบแท็บเล็ตสําหรับผ฾ูที่ไม฽ชอบเวิลชัวร์คีบรอด (visual keyboard)และแบตเตอร่ีพกพาเพื่อยืดเวลาการใช฾งานอุปกรณ์ และด฾วยขนาดของแท็บเล็ตที่มีขนาดเบาทําให฾สะดวกในการพกพา และมีหน฾าจอที่แสดงผลแบบสัมผัสซ่ึงสะดวกต฽อการใช฾งานอีกด฾วย ท้ังนี้รัฐบาลมีนโยบายท่จี ะแจกเคร่อื งแท็บเล็ตให฾กับนักเรียนช้ันประถมศึกษาทั่วประเทศประมาณ 900,000 เคร่ืองเพื่อใช฾เป็นเครื่องมือสําหรับการเรียนการสอน ซึ่งจะทําให฾เป็นการใช฾เทคโนโลยีสารสนเทศยกระดับคุณภาพการศึกษาของประเทศ จึงทําให฾ในอนาคตจะมีการใช฾แท็บเล็ตมากขึ้นและใช฾กันอย฽างแพรห฽ ลายในทกุ อตุ สาหกรรม 1.1.2 สมาร์ทโฟน (smartphone) คือ โทรศัพท์มือถือ หรือ โทรศัพท์เคล่ือนท่ีท่ีสามารถเช่ือมต฽ออินเทอร์เน็ตได฾ มีระบบปฏิบัติการระดับสูงในตัว มีความยืดหยุ฽นในการใช฾งานสูงสามารถติดต้ังโปรแกรมได฾หลากหลาย ซึ่งปัจจุบันมีสมาร์ทโฟนที่ผลิตออกมากกว฽า 300 รุ฽นในตลาดซึ่งมีราคาตั้งแต฽ 5,000 บาทข้ึนไป ที่ได฾รับความนิยมมากคือ ไอโฟน (iPhone) ซัมซุงกาแล็กซ่ีเท็บ(Sumsung Galaxy Tab) และโนเกีย (Nokia) เปน็ ตน฾ จากการเปดิ ตัวของระบบปฏิบัติการแอนดรอย์(androids) ท่ีเร่ิมแพร฽หลาย จึงทําให฾การเข฾าถึงผ฾ูใช฾ผ฽านแอปพลิเคชัน (application) ต฽างๆ ทางสมาร์ทโฟนได฾งา฽ ยข้ึน ในรูปแบบเรียลไทม์ (real time) โดยเฉพาะอย฽างยิ่งการใช฾โมบายแอปพลิเคชัน(mobile application) เพื่อสร฾างอรรถประโยชน์โดยตรงผ฽านรูปแบบที่น฽าสนใจ ซ่ึงปัจจุบันแอปพลิเคชันท่ีดึงดูดความสนใจของคนไทยได฾มากท่ีสุดเกี่ยวข฾องกับการถ฽ายรูปและสามารถเช่ือมโยงกับเครือข฽ายสังคมออนไลน์ (online social network) เช฽น แอปพลิเคชันอินสตราแกรม(Instagram) ในเฟซบ฿กุ (Facebook) เป็นตน฾ ภาพท่ี 10.1 นําเสนอการใช฾โทรศัพท์มือถือของคนทั่วโลก พบว฽าในปัจจุบันนี้มีการเปล่ียนแปลงวิถีการใช฾โทรศัพท์มือถือเชื่อมโยงการสืบค฾นข฾อมูลข฽าวสารและสื่อต฽างๆ ซ่ึงมีผลกระทบตอ฽ พฤติกรรมของผ฾ใู ช฾ดงั น้ี (Online Market Trend, 2012)

203 1) ปัจจุบนั นี้ผู฾ใชโ฾ ทรศพั ท์มือถือโดยเฉลีย่ วนั ละมากกวา฽ 7.2 ชว่ั โมงซึ่งคิดเป็น27% ของเวลาใน 1 วัน 2) มีการใช฾โทรศัพท์มือถือในสถานท่ีต฽างๆ เช฽น 67% พิมพ์บนบนเตียงนอน47% ใช฾สาํ หรบั การฆ฽าเวลาในการรอคอยบางสิง่ 39% ขณะดูโทรทัศน์ 25% สื่อสารกับผ฾ูอื่น 22% ใช฾ระหว฽างอย฽ูกับครอบครัว 19% ในห฾องน้ํา 15% ระหว฽างการชอปปิง และ 15% ในงานเล้ียงสังสรรค์ต฽างๆ เป็นต฾น 3) การใช฾โทรศัพท์มือถือในลักษณะต฽างๆ ข้ึนอยู฽กับเพศด฾วย เช฽น ใช฾สําหรับเล฽นเว็บไซต์โชเชียลมีเดีย (social media), สร฾างความบันเทิง (entertainment), เล฽นเกม (games),ค฾นหาข฾อมูล (general Information and search) และส฽งอีเมล เพศหญิงมีการใช฾มากกว฽าสําหรับการชอปปิง (shopping) และคน฾ หาข฾อมูลในทอ฾ งถิน่ (local search) มากกวา฽ เพศชาย 4) การโฆษณาประชาสัมพันธ์ พบว฽าในปัจจุบันการโฆษณาผ฽านทางโทรศัพทม์ ือถือมีผลตอ฽ การตดั สินใจซื้อของผบู฾ ริโภคมากกว฽า 48% ทางคอมพิวเตอร์และเว็บไซต์ 47%และทางโทรทัศน์ 46% 5) โทรศพั ทม์ อื ถอื มผี ลกระทบต฽อพฤติกรรมของผ฾ูบริโภคในการซ้ือสินค฾าและบริการมากข้ึน ซ่ึงพบว฽า 42% ใช฾การโฆษณาบนโทรศัพท์มือถือ 23% นําเสนอข฾อมูลที่ให฾ทางเลือกท่ีดีกวา฽ 26% ชว฽ ยในการคน฾ หาข฾อมูล และ 14% ซอ้ื สินค฾าและบรกิ ารผา฽ นทางโทรศัพทม์ ือถือ

204 ภาพท่ี 10.1 การใช฾โทรศัพท์มือถือของคนในยุคปัจจบุ นั ทม่ี า (Online Market Trend, 2012) โดยสรปุ แนวโน฾มของฮารด์ แวรท์ ใี่ ช฾ในอนาคต คือ การใช฾แท็บเล็ตและสมาร์ทโฟนในการเข฾าถึงอินเทอร์เน็ต เน่ืองจากพกพาสะดวก มีน้ําหนักเบา มีฟังก์ช่ันท่ีรองรับการใช฾งานท่ีครบสมบูรณ์และมรี าคาทไี่ ม฽แพงมาก 1.2 ซอฟต์แวร์ แนวโน฾มของซอฟต์แวร์ในอนาคตจะมีลักษณะเป็น SaaS ที่ใช฾สําหรับองค์กรธุรกิจ และ โมบายแอปพลเิ คชันสาํ หรบั ผบ฾ู รโิ ภค ซึ่งมรี ายละเอียดดงั น้ี 1.2.1 Software as a Service (SaaS) คือ การใช฾ซอฟต์แวร์แอปพลิเคชันเหมอื นกับการรับบริการ ซ่ึงไม฽ต฾องมีการลงทุนซื้ออุปกรณ์ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ใดๆ แต฽สามารถใช฾

205งานซอฟต์แวร์ได฾ตามท่ีต฾องการ ซ่ึง SaaS เป็นอีกทางหน่ึงของการใช฾ซอฟต์แวร์ธุรกิจโดยไม฽ต฾องทุนเพียงแต฽เสียค฽าใช฾จ฽ายเป็นรายเดือนหรือรายปี ซ่ึงทําให฾องค์กรประหยัดค฽าใช฾ในการติดตั้งซอฟต์แวร์ซื้อลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ ค฽าใช฾จ฽ายของเจ฾าหน฾าที่ดูแลและค฽าใช฾อื่นๆอีกมากมาย ลักษณะของซอฟต์แวร์ประเภท SaaS โดยทั่วไปจะทํางานผ฽านเครือข฽ายอินเตอร์เน็ตด฾วยโปรแกรมเว็บบราวเซอร์ (webbrowser) SaaS เป็นแนวโน฾มที่กําลังมาแรง ตัวอย฽างของการประสบความสําเร็จอย฽างงดงาม คือsaleforce.com เปน็ ตน฾ 1.2.2 โมบายแอปพลเิ คชนั (mobile application) สาํ หรับผู฾บริโภคจะมีการเติบโตเพิ่มมากข้ึนเรื่อยๆ เนื่องจากมีอัตราการใช฾อุปกรณ์เคล่ือนท่ี อย฽างโทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ตท่ีเพ่ิมมากขน้ึ ซง่ึ ศูนยว์ ิจยั กสกิ รไทย ไดว฾ ิเคราะหถ์ ึงสภาพการณ์ และแนวโน฾มตลาดโมบายล์แอปพลิเคชันในประเทศไทยพบว฽าจะมีการเติบโตแบบกา฾ วกระโดด ด฾วยปัจจยั ดงั ต฽อไปน้ี (ศูนยว์ ิจยั กสิกรไทย, 2554) 1) การขยายตัวของตลาดสมาร์ทโฟน เนื่องจากคุณสมบัติอันโดดเด฽นของสมาร์ทโฟนในการเช่ือมต฽อระบบอินเทอร์เน็ต และสามารถลงแอปพลิเคชันต฽างๆได฾อย฽างและสะดวกจงึ ทําใหเ฾ กดิ ความต฾องการสงู ในการพัฒนาแอปพลิเคชันเพื่อสร฾างบริการใหม฽ๆ ในการตอบสนองความต฾องการของผูบ฾ ริโภคในยุคปจั จุบนั ไดด฾ ี 2) การขยายตวั ของตลาดแท็บเลต็ ถึงแมว฾ ฽าฟังกช์ ัน่ การทํางานโดยท่ัวไปของแท็บเล็ตจะมีความคล฾ายคลึงกันกับสมาร์ทโฟน แต฽ด฾วยความเร็วในการประมวลผลข฾อมูลที่สูงกว฽าและขนาดของหน฾าจอแสดงผลท่ีใหญ฽ขึ้น ประกอบกับความสามารถในการใช฾งานแอปพลิเคชันที่ถูกพัฒนาสําหรับสมาร์ทโฟนได฾ ทําให฾ผ฾ูใช฾เร่ิมให฾ความสนใจในการใช฾งานแท็บเล็ตในวงกว฾างมากยิ่งข้ึนโดยแท็บเล็ตยังถูกนํามาประยุกต์ใช฾ในด฾านธุรกิจ และการศึกษาอีกด฾วย จึงทําให฾มีการพัฒนาโมบายแอปพลิเคชันเพมิ่ มากข้นึ เพอ่ื ตอบสนองความต฾องการใช฾งานของผ฾บู รโิ ภค 3) การเปิดให฾บริการ 3G เชิงพาณิชย์ ซึ่งได฾ว฽านับเป็นจุดเร่ิมต฾นของการเปลี่ยนแปลงโฉมหน฾าธุรกจิ บรกิ ารโทรคมนาคมสู฽ยุคการสื่อสารข฾อมูลความเร็วสูง และคาดว฽าจะส฽งผลให฾เกิดการพฒั นาบรกิ ารและแอปพลิเคชันใหมๆ฽ ทตี่ อ฾ งอาศยั การสื่อสารความเร็วสงู ดว฾ ย 4) ราคาจําหน฽ายโทรศัพท์มือถือที่ถูก โมบายแอปพลิเคชันที่จําหน฽ายผ฽านรา฾ นแอปพลิเคชันออนไลนจ์ ะมีทงั้ แบบฟรแี ละแบบทต่ี ฾องชาํ ระเงนิ โดยแอปพลิชันแบบฟรีในตลาดโลกมีสัดส฽วนประมาณร฾อยละ 36.2 ในขณะที่แบบที่ต฾องชําระเงินจะมีสัดส฽วนประมาณร฾อยละ 63.8 ซึ่งด฾วยราคาของโมบายแอปพลเิ คชันทไี่ มแ฽ พงมากนักจึงมีความต฾องการของผ฾ูใช฾ทจ่ี ะใช฾เพ่มิ ข้นึ 5) ช฽องทางการจัดจําหน฽ายที่เข฾าถึงง฽าย โมบายแอปพลิเคชันจะถูกขายออนไลน์ผ฽านช฽องทางการจัดจําหน฽ายท่ีเรียกว฽า “ร฾านแอปพลิเคชันออนไลน์” (online applicationstore) โดยผู฾ใช฾สามารถเข฾าถึงได฾ง฽ายบนสมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ต ประกอบกับการจัดหมวดหมู฽แอปพลเิ คชนั ที่งา฽ ยแก฽การคน฾ หา และระบบการชําระเงินท่ีสะดวกรวดเรว็ เป็นต฾น

206 ภาพที่ 10.2 ตัวอยา฽ งของโมบายแอพพเิ คช่นั ทีม่ า ประชาชาตธิ รุ กิจ (2555, ออนไลน)์ จากปัจจัยตา฽ งๆท่กี ล฽าวมาข฾างต฾น จะมสี ฽วนชว฽ ยผลักดันให฾ฐานผใ฾ู ช฾งานโมบายแอปพลิเคชนั ในไทยมีการขยายตัวมากย่ิงข้ึน ส฽งผลให฾เกิดการพัฒนาโมบายแอปพลิเคชันสําหรับองค์กรรัฐหรอื เอกชน เพื่อเป็นช฽องทางการทําตลาดหรือส฽งเสริมบริการของตนในตลาดผู฾บริโภคมากย่ิงข้ึน และอาจมสี ว฽ นในการปฏวิ ัติรูปแบบการใชช฾ ีวติ ของผ฾ูบริโภค รวมไปถึงธุรกิจท่ีเกี่ยวข฾อง เช฽น การชอปปิงในห฾างสรรพสินค฾าเสมือนจริงบนโมบายลแ์ อปพลิเคชัน ซึง่ สามารถกระทาํ ไดท฾ ุกท่ที ุกเวลา เป็นตน฾ ภาพที่ 10.3 การทาํ งานของคลาวด์คอมพวิ ติ้ง ที่มา Wikidot (ม.ป.ป)

207 1.3 คลาวด์คอมพิวติ้ง (cloud computing) เป็นแนวโน฾มท่ีกําลังได฾รับความนิยม ซึ่งเป็นแนวคิดสําหรับแพลตฟอร์ม (platform) ของระบบคอมพิวเตอร์ในยุคหน฾า เพื่อเป็นทางเลือกให฾แก฽ผ฾ูใช฾ในการลดภาระด฾านการลงทุนในเทคโนโลยีสารสนเทศ ทั้งการใช฾งานในระดับองค์กรธุรกิจ(corporate users) และ ผู฾ใช฾ระดับส฽วนบุคคล (individual users) โดยเป็นหลักการนําทรัพยากรของระบบสารสนเทศ ทั้งฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์มาแบ฽งปันในรูปแบบการให฾บริการ (Software AsA Services: SaaS) ในระดบั การประมวลผลผ฽านเครือข฽ายอินเทอร์เน็ต โดยผู฾ใช฾ไม฽จําเป็นต฾องมีเครื่องคอมพวิ เตอร์ประสิทธภิ าพสงู หรอื ตดิ ตงั้ ซอฟต์แวร์ระบบ ตลอดจนซอฟต์แวรแ์ อปพลิเคชันจํานวนมากเพ่ือการทํางานท่ีซับซ฾อน แต฽สามารถใช฾บริการประมวลผล และแอปพลิเคชันต฽าง ๆ จากผู฾ให฾บริการระบบประมวลผลคลาวด์และชําระค฽าบริการตามอัตราการใช฾งานท่ีเกิดขึ้นจริง ภาพที่ 10.3 แสดงการทํางานของระบบคลาวด์คอมพิวติ้งท่ีมีการจัดเก็บและประมวลผลผ฽านระบบคลาวด์ สามารถรองรับการทาํ งานระบบคอมพวิ เตอร์ได฾อยา฽ งมีประสิทธภิ าพ 2. ระบบสอื่ สารโทรคมนาคม ระบบสือ่ สารโทรคมนาคมในอนาคตจะมกี ารบูรณาการเข฾าด฾วยกันระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งจะกลายเป็นเทคโนโลยีคอนเวอร์เจนซ์ (convergence) ในอนาคตจะมีการใช฾ระบบการสื่อสารและระบบเครือข฽ายในหลากหลายรูปแบบ และท่ีได฾รับความนิยมเป็นอย฽างมากท่ีสุด คือ เครือข฽ายสังคมออนไลน์ (online social network) และการทําธุรกิจแบบโซเซียลคอมเมิร์ส (social commerce)ซง่ึ มีรายละเอยี ดดังนี้ 2.1 เครือข฽ายสังคมออนไลน์ (online social network) หมายถึง เว็บไซต์ที่ให฾บริการผใ฾ู ช฾ใหส฾ ามารถสรา฾ งเว็บ โฮมเพจของตน เขยี นเว็บบล็อก โพสต์รูปภาพ วิดีโอ ดนตรี เพลง รวมถึงการแชร์ความคิด และสามารถเช่ือมโยงไปยังเว็บไซต์อื่นๆ เพื่อค฾นหาข฾อมูลท่ีสนใจได฾ ซ่ึงปัจจุบันมีการแสดงข฾อมูลอันดับความนิยมเข฾าชมเว็บไซต์ประจําสัปดาห์ส้ินสุดเม่ือ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 ในกลุ฽มอุตสาหกรรม “Computer and Internet – Social Networking and Forum” มีรายละเอียดดังนี้ตารางท่ี 10.1 การใชเ฾ วบ็ ไซตเ์ ครือขา฽ ยสงั คมออนไลน์ อนั ดบั เวบ็ ไซต์ สดั ส่วนการเขา้ ใชง้ าน (%) 1. Facebook 62.38 2. Youtube 20.29 3. Twitter 1.57 4. Pinterest.com 1.06 5. Yahoo! Answer 1.00 6. LinkedIn 0.79 7. Tagged 0.66 8. Google+ 0.50 9. MySpace 0.39 10. Yelp 0.36 ทีม่ า วทิ ยา มานะวาณิชเจริญ (2555, หนา฾ 64)

208 ท้ังน้ีการเจริญเติบโตของเครือข฽ายสังคมออนไลน์จะเติบโตควบค฽ูไปกับอุปกรณ์พกพาหรือ โมบาย การใช฾งานเครือข฽ายสังคมมีใช฾ทั้งในระดับบุคคลและระดับองค์กร ซึ่งการใช฾งานระดับบุคคลมีการใช฾งานเพ่ือการตลาดและประชาสัมพันธ์มากข้ึน ในอนาคตจะใช฾เพ่ือเป็นสื่อในเชิงการตลาดมากขึ้น และใช฾เพ่ือเป็นช฽องทางในการเข฾าถึงผู฾บริโภคโดยตรงท้ังการให฾ข฾อมูล ความรู฾คําแนะนาํ และการตอบคําถามต฽างๆ มีแนวโน฾มชัดเจนว฽าเครือข฽ายสังคมออนไลน์อย฽างเฟซบุคจะเป็นช฽องทางหน฾าร฾านในการขายสินค฾า สินค฾าที่จะเข฾ามาขายกันได฾แก฽ เสื้อผ฾า กระเป฻า เครื่องสําอางเครอื่ งประดับ เป็นตน฾ 2.2 โซเชียลคอมเมิรซ์ (Social Commerce) คือ การใช฾เครือข฽ายสังคมออนไลน์ในการค฾าขาย ซึ่งเป็นส฽วนหนึ่งของระบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-Commerce) เป็นการนําโซเชียลมีเดีย(social media) และสื่อออนไลน์แบบต฽างๆ มาช฽วยในการสร฾างการปฏิสัมพันธ์ระหว฽างผู฾ขายกับผ฾ูซ้ือชว฽ ยในการขายสินค฾าออนไลนต์ า฽ งๆ ผา฽ นทางเวบ็ ไซต์ ในอนาคตโซเซียลคอมเมริซ์จะกลายเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดอีกรูปแบบหน่ึงที่มาแรงในธุรกิจออนไลน์ เพราะกระแสความนิยมของผู฾บริโภคในยุคปัจจุบันใช฾เครือข฽ายสังคมออนไลน์ (social network) ด฾วยเทคโนโลยี WEB 2.0 ท่ีทําให฾มีการแลกเปลี่ยนข฾อมูลข฽าวสาร การรับรู฾สินค฾าและบริการจากเพื่อนๆ โดยการตลาดแบบบอกต฽อ (virtualmarketing) ซ่ึงผ฾ูขายไม฽จําเป็นต฾องโฆษณามาก เนื่องจากผ฾ูซ้ือได฾รับข฾อมูลเก่ียวกับสินค฾าและบริการจากเพ่ือนๆ ที่อย฽ูในเครือข฽ายสังคมของเขานั่นเอง ทําให฾ผ฾ูบริโภคจะมีอํานาจการต฽อรองสูง สามารถเลือกสนิ คา฾ โดยการจับตวั เปน็ กลม฽ุ ทําให฾มีกําลังการซือ้ จาํ นวนมาก และสามารถต฽อรองกับผ฾ูผลิตสินค฾าไดเ฾ ปน็ อยา฽ งดี โดยไมจ฽ าํ เปน็ ต฾องผ฽านพอ฽ คา฾ คนกลาง ทําให฾ธุรกิจสามารถสรา฾ งกาํ ไรได฾มากข้นึ อีกด฾วย 3. แนวโน฾มอ่ืนๆ ด฾านเทคโนโลยีสารสนเทศ ได฾แก฽ แนวโน฾มด฾านข฾อมูล การวิเคราะห์ธุรกิจ(business analytics) กรีนไอที (green IT) มาตรฐานไอทีและการรักษาความปลอดภัย (ITstandard and IT security) และ สมารท์ ซิตี้ (smart city) และ ซง่ึ มีรายละเอยี ดดังน้ี 3.1 แนวโน฾มด฾านข฾อมูล บริษัทฮิตาชิ ดาต฾า ซิสเต็มส์ ได฾คาดการแนวโน฾มด฾านข฾อมูลตงั้ แตป฽ ี พ.ศ. 2555 มดี งั นี้ (กมลภัทร บญุ ค้าํ , 2555 หนา฾ 28) 3.1.1 ความมีประสิทธิภาพของระบบจัดเก็บข฾อมูล (storage efficiency) จะมีมากข้ึน เช฽น การใช฾ระบบจัดเก็บข฾อมูลเสมือนจริง (virtual storage) การจัดสรรพื้นท่ีแบบจํากัดตามการใชง฾ านจรงิ และการเก็บข฾อมูลถาวร (archiving) เปน็ ตน฾ 3.1.2 จะมีการผสมผสานระบบเข฾าด฾วยกัน (consolidation to convergence)โดยการผสานรวมเซริฟเวอร์ (sever) ระบบจัดเก็บข฾อมูล เครือข฽าย และแอพพิเคชั่น โดยอาศัยแอปพลิเคชันโปรแกรมมิ่ง (Application Programming Interface: APIs) ซ่ึงจะช฽วยจํากัดภาระงาน(workload) ให฾กับระบบจัดเก็บข฾อมูล ทําให฾เคร่ืองเซิร์ฟเวอร์และหน฽วยความจํามีประสิทธิภาพมากยิ่งข้ึน และเป็นการประหยัดค฽าใชจ฾ ฽ายใหก฾ บั องคก์ รอีกดว฾ ย 3.1.3 ข฾อมูลขนาดใหญ฽ (big data) หรือเรียกว฽า “บิ๊กดาต฾า” น้ันจะมีการเติบโตมากข้ึนซึ่งองคก์ รจะตอ฾ งหาวธิ ีการจัดการกับบก๊ิ ดาตา฾ ทีจ่ ะเกดิ ขน้ึ 3.1.4 การย฾ายข฾อมูลแบบเสมือน (virtualization migration) การย฾ายข฾อมูลของอุปกรณ์แบบต฾องหยุดระบบจะถูกแทนท่ีด฾วยความสามารถใหม฽ของระบบเสมือนจริงท่ีถูกย฾ายข฾อมลู โดยไมจ฽ ําเปน็ ต฾องรีบตู (reboot) ระบบใหม฽

209 3.1.5 การปรับใช฾ระบบคลาวด์ (cloud acquisition) การปรับใช฾ระบบคลาวด์ทั้งในแบบบริการตนเอง แบบจ฽ายเท฽าท่ีใช฾งานและความต฾องการ จะเข฾ามามีแทนที่วงจรการปรับใช฾ผลติ ภณั ฑป์ จั จุบนั ท่ีมีระยะเวลาระหว฽าง 3-5 ปี เน่ืองจากมกี ารบรู ณาการระบบสารสนเทศเขา฾ ดว฾ ยกัน 3.2 การวิเคราะห์ข฾อมูลธุรกิจ (Business Analytics :BA) เม่ือมีข฾อมูลจํานวนมากองค์กรจําเป็นต฾องมีการวิเคราะห์ข฾อมูลก฽อนนําไปใช฾ในเชิงการตลาดและการตัดสินใจ สําหรับ BA ซึ่งเติบโตจาก BI (Business Intelligence: BI) ด฾วยเคร่ืองมือท่ีมีความชาญฉลาดสูงขึ้น ช฽วยให฾สามารถกล่ันกรองข฾อมูลและวิเคราะห์ธุรกิจจากข฾อมูลที่มีอยู฽และนําไปสู฽ความก฾าวหน฾า หรือสร฾างความได฾เปรียบทางธุรกิจ เนื่องจากการวิเคราะห์ข฾อมูลธุรกิจ คือ สิ่งสําคัญในการกําหนดแนวทางการปรบั ปรุงแผนธรุ กจิ ตวั อยา฽ งการใช฾ BA ในภาคการผลิต จะทาํ ใหส฾ ามารถวางแผนการผลิตและการขายได฾อย฽างแม฽นยํา ซ่ึงการวิเคราะห์ข฾อมูลธุรกิจสามารถเป็นตัวสนับสนุนที่สําคัญที่จะสร฾างความสําเร็จให฾กับผู฾ผลิตจากการคาดการณ์ท่ีดีจะให฾ผลตอบแทนการลงทุน (Return Of Investment :ROI) ได฾มากข้นึ ทั้งน้ีธุรกิจท่ีมีแนวโน฾มในการลงทุนด฾าน BA ได฾แก฽ อุตสาหกรรมการผลิต สถาบันการเงินและธนาคาร และธรกุ ิจคา฾ ปลกี เปน็ ตน฾ (กรกต ส฽องเรืองรอง, 2555 ก หนา฾ 22-23) 3.3 กรีนไอที (Green IT) ในอนาคตแนวโน฾มของสินค฾าทางด฾านเทคโนโลยีสารสนเทศจะตอ฾ งเปน็ มิตรกบั สิ่งแวดลอ฾ ม ไม฽ทําลายส่ิงแวดล฾อม ทเี่ รียกว฽า “กรีนไอที” (green IT) เพราะค฽านิยมของผ฾ูบริโภคใส฽ใจต฽อส่ิงแวดล฾อมมากขึ้น ซ่ึงอุปกรณ์ทางด฾านเทคโนโลยีสารสนเทศจําเป็นที่จะต฾องออกแบบให฾ประหยัดพลังงาน กินกระแสไฟฟูาน฾อย เกิดความร฾อนน฾อย ซึ่งในอนาคตจะมีการพัฒนา“กรีนพีซี” (green PC) ซึ่งสามารถตอบโจทย์ในเรื่องของความสะดวกสบายในการใช฾งาน และเป็นมิตรกับส่ิงแวดล฾อมอีกด฾วย ท้ังนี้ในอนาคตเทคโนโลยีสารสนเทศท่ีเป็นมิตรกับส่ิงแวดล฾อมจะอย฽ูในเง่ือนไขหลักของการจัดซื้อ ทั้งนี้ปัจจุบันยังไม฽มีข฾อบังคับเร่ืองคาร์บอนเครดิต (carbon credit) การประหยัดพลังงาน การปล฽อยก฿าซออกสู฽สภาพแวดล฾อมก็ตาม แต฽กรีนไอทีจะเป็นเง่ือนไข 1 ใน 6เง่ือนไขแรกท่ีองค์กรจะนํามาใช฾พิจารณาการจัดซื้ออย฽างแน฽นอน เพราะการช฽วยประหยัดพ้ืนที่และประหยัดพลงั งาน ซึ่งจะโยงไปส฽ูการประหยัดเวลา ต฾นทุนการปฏิบัติการ และการบํารุงรักษาที่จะช฽วยลดต฾นทนุ การจดั จา฾ งและอบรมบุคลากรต฽อไป (กลมภทั ร บญุ คาํ้ , 2555 หน฾า 25) 3.4 ความปลอดภัยและมาตรฐานด฾านเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT Security and ITStandard) ความปลอดภัยสารสนเทศเป็นส่ิงท่ีจําเป็นต฽อองค์กร และในอนาคตจําเป็นต฾องให฾ความสําคัญมากข้ึน ซ่ึงระบบรักษาความปลอดภัยต฾องมีความฉลาดในการทํางานได฾ซับซ฾อนมากข้ึนเพื่อให฾รองรับกับภัยคุกคามท่ีมีการพัฒนาตัวเองให฾เก฽งกว฽าเดิมอยู฽เวลา ทั้งความปลอดภัยด฾านเทคโนโลยสี ารสนเทศ (IT security) จําเปน็ ทจี่ ะต฾องอย฽ูทุกส฽วนของระบบสารสนเทศ ตั้งแต฽โครงสร฾างพื้นฐาน ระบบเครอื ขา฽ ย รวมถึงขอ฾ มูลการใช฾งานต฽างๆ รวมถึงมาตรฐานด฾านเทคโนโลยีสารสนเทศ (ITstandard) เป็นเคร่ืองมือที่สร฾างความน฽าเชื่อถือ ดังนั้นองค์กรจําให฾ความสําคัญกับการได฾รับรองมาตรฐานสากลต฽างๆ มากขึ้น โดยเฉพาะมาตรฐาน ISO ที่เก่ียวข฾องกับเทคโนโลยีสารสนเทศ เช฽นISO/IEC20000 (International Standard for IT Service Management), ISO/IEC 27001:2005(Information Security Management Systems: ISMS) , ISO/IEC 270003 (ImplementationGuidance) ซ่งึ เป็นแนวทางปฏิบัติสําหรับการพัฒนาระบบ ISMS นอกจากน้ียังมีมาตรฐานสากลอื่นๆอีก เช฽น ITIL (Information Technology Infrastructure Library) แนวปฏิบัติในการให฾บริการ

210เทคโนโลยีสารสนเทศ, CoBIT แนวปฏิบตั ใิ นการพฒั นาระบบการกํากับดูแลดา฾ นเทคโนโลยีสารสนเทศรวมถงึ ธรรมาภบิ าลเทคโนโลยสี ารสนเทศ (IT Governance) ซง่ึ ทกุ มาตรฐานองค์กรจะให฾ความสําคัญมากขึ้นเพื่อสร฾างให฾เกิดความเชื่อม่ันต฽อองค์กร และได฾รับการรับรองมาตรฐานสากล ตลอดจนเพื่อสร฾างภาพลักษณ์ขององค์กร และการเตรียมความพร฾อมองค์กรเพ่ือรับการเปิดเสรีทางธุรกิจในประชาคมอาเซยี น หรือ AEC 2015 (ASEAN Economic Community 2015) อกี ดว฾ ย 3.5 สมาร์ทซิต้ี (Smart City) ในอนาคตประเทศไทยจะมีการนําเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช฾เพื่อพัฒนาจังหวัดหรือเมืองในรูปแบบของอัจฉริยะ ซึ่งในปัจจุบันได฾มีจังหวัดนครนายกเป็นจังหวดั นาํ ร฽อง โดยไดม฾ ีการจดั ทาํ โครงการ สมารท์ โพวนิ ส์ (smart province) คือ การนําเทคโนโลยีมาปรับใช฾ทั่วท้ังจังหวัด ตั้งแต฽ระดับเมือง อําเภอ ตําบล และหม฽ูบ฾าน ซึ่งใช฾เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นเครอ่ื งมอื ในการยกระดบั คณุ ภาพชวี ติ ประชาชน (กรกต สอ฽ งเรอื งรอง, 2555 ข หน฾า 18-21) เปูาหมายของโครงการสมาร์ทโพวินส์ คือ เพิ่มคุณภาพชีวิตและสังคมแห฽งการเรียนร฾ู ซ่ึงภายใต฾โครงการได฾วางกลยุทธ์ด฾านเทคโนโลยีสารสนเทศไว฾ 13 กลยุทธ์ ได฾แก฽ ด฾านการส่ือสาร การวางผังเมืองและผังพัฒนาจังหวัดอย฽างต฽อเน่ือง การบูรณาการแผนงานและงบประมาณการบรหิ ารกจิ การบา฾ นเมอื งทด่ี ี การจัดการบ฾านเมืองน฽าอย฽ู การท฽องเท่ียว การเกษตร การอาหาร การสาธารณสุข การศึกษา การพาณิชย์และการปกครองและความมั่นคง โดยในแผนปฏิบัติแบ฽งออกเป็น4 ระยะ ดงั น้ี ระยะท่ี 1 จะเกิดขึ้นในปีแรก โดยเริ่มจากการลงโครงสร฾างพื้นฐานด฾านเครือข฽ายการส่อื สาร และมีการใช฾อนิ เทอรเ์ นต็ ไวไฟ (wifi) ฟรี ซ่ึงจะเกิดการใชง฾ านในองค์รวม ไดแ฾ ก฽ 1) ภาคการศึกษา จะเกิดเป็น e-Education ซ่ึงจะรองรับการแจกเครื่องคอมพิวเตอร์แท็บเลต็ (tablet) สําหรับนกั เรยี นช้ันประถมศึกษาตามนโยบายของรัฐบาลเพ่ือใช฾ในการเรียนการสอน 2) ภาคประชาชนจะสามารถเข฾าถึงสังคมแห฽งการเรียนรู฾มากข้ึน เช฽น เข฾าใช฾เวบ็ ไซต์กูเกิ้ล (google) เพื่อสืบค฾นหาความรต฾ู า฽ งๆ และส฽งเสรมิ การเรียนร฾ูตลอดชีวิตไดม฾ ากขึ้น 3) ภาคการท฽องเท่ียว นักท฽องเที่ยวจะสามารถใช฾ฟรีไฟไว ได฾ตามสถานท่ีทอ฽ งเที่ยวสาํ คญั หรอื ในรสี อร์ต (resort) ทกุ แห฽ง 4) ภาคราชากร จะใช฾ระบบสารสนเทศในการทํางานมากขึ้น โดยมีเปูาหมายในการลดการใชก฾ ระดาษให฾น฾อยลง และจะมกี ารใชเ฾ ครือข฽ายสงั คมเปน็ เคร่ืองมือส่ือสารระหว฽างภาครัฐกับประชาชน ตลอดจนธรุ กจิ เอกชน เปดิ โอกาสให฾ทุกฝาุ ยไดเ฾ สนอแนะ ปัญหาต฽างๆ ซึ่งจะเป็นช฽องทางใหภ฾ าครัฐได฾รับฟงั ความคิดเห็นของประชาชนผา฽ นเครอื ขา฽ ยสังคมออนไลน์ ระยะที่ 2 จะเรม่ิ ข้ึนในปีที่สอง คือ เกดิ ห฾องปฏิบัติการ (management cockpit)ซึ่งจะเป็นศูนย์บัญชาการกลางของจังหวัด และในอนาคตจะขยายไปส฽ูศูนย์บัญชาการในระดับอําเภอและระดับตําบล โดยจะเกิดข฾อมูลในองค์รวมทั้งหมด เกิดการวางแผน เกิดเปูาหมายเกิดระบบภูมิสารสนเทศ (GIS) หรอื แผนท่ีอเิ ล็กทรอนกิ ส์ ซึง่ จะช฽วยด฾านการบริหารจังหวดั ในภาพรวม ระยะท่ี 3 ประชาชนจะได฾ใช฾บริการภาครัฐในรูปแบบของ One Stop Serviceโดยสามารถใช฾บัตรประชาชนเข฾าถึงทุกบริการของภาครัฐนอกจากน้ีการใช฾บริการบางประเภทประชาชนไม฽ต฾องเดินทางไปสํานักงานแต฽สามารถใช฾บริการบน Cloud Service ผ฽านเครือข฽าย

211อินเทอร์เน็ต โดยบริการต฽างๆ ของภาครัฐไปส฽ูประชาชนจะเกิดข้ึนอย฽างเป็นรูปธรรม โดยประชาชนสามารถใช฾บริการด฾วยตนเอง หรือ Self Service ซึ่งจะชว฽ ยลดข้ันตอนการติดต฽อหน฽วยงานภาครัฐ ลดเวลาในการติดต฽อ และลดคา฽ ใชจ฾ า฽ ยในการดาํ เนินงาน ทําให฾เกิดความสะดวกสบาย และภาครัฐรวมถึงหน฽วยงานราชการเกิดความคล฽องตัวในการทํางาน สะดวก รวดเร็ว และง฽าย เนื่องจากมีข฾อมูลที่ต฽อเหตกุ ารณ์ ขอ฾ มูลถกู ต฾องสมบรู ณ์ สามารถสนับสนนุ การตดั สนิ ใจด฾านการบรหิ ารจดั การได฾ ระยะท่ี 4 เป็นการประเมินผลแผนปฏิบัติและโครงการต฽างๆ ภายใต฾นโยบายสมาร์ทโพวินส์ โดยทําการสรุปภาพรวมของระบบตา฽ งๆ รวมถึงแนวทางการปรับปรุงและพัฒนาระบบสารสนเทศใหด฾ ขี ้นึ และนําไปสู฽การขยายผลให฾กับจังหวัดอน่ื ๆ ในภาพรวมที่จะเกิดขึ้นในอนาคต คาดว฽า ภาครัฐจะสามารถลดค฽าใช฾จ฽ายในด฾านการบริหารจัดการ เช฽น อัตรากําลังคน ค฽าใช฾จ฽ายต฽างๆ โดยเฉพาะอย฽างยิ่งการดําเนินงานการพัฒนาและดูแลทกุ สขุ ของประชาชน โดยในระดบั อาํ เภอจะมงุ฽ เน฾นงานพฒั นาแทนงานทะเบียนต฽างๆ โดยการแจง฾ เกิด แจ฾งตาย แจง฾ ยายสิ่งปลกู สร฾าง เหลา฽ น้ีจะถกู ดาํ เนนิ การด฾วยระบบออนไลน์ ซึ่งทําให฾ประชาชนสะดวกไม฽ต฾องเดินทาง เสียค฽าใช฾จ฽ายและเสียเวลา อีกท้ังเป็นการบริการประชาชนท่ีมีประสิทธิภาพประหยัดเวลาในการขอรับบริการจากภาครัฐ ลดขั้นตอน ทําให฾สะดวกรวดเร็ว นอกจากนี้ประชาชนสามารถแสดงความคิดเห็นและข฾อเสนอแนะผ฽านทางเครือข฽ายสังคมออนไลน์ได฾อีกด฾วยซึ่งจะมีการใช฾เลขบัตรประชาชนเป็นตวั ตนของเครือขา฽ ยสงั คมออนไลน์ นอกจากน้ียังมีศูนย์ปฏิบัติการเพื่อช฽วยเหลือประชาชนในด฾านตา฽ งๆ เชน฽ ด฾านภยั พิบตั แิ ละความเดอื นรอ฾ นของประชาชน และด฾านรายได฾ประชาชนจะเป็นโอกาสใหม฽ โดยจะมีการจัดต้ังสหกรณ์ชุมชนระดับตําบลขึ้น เพื่อส฽งเสริมการประกอบอาชีพใหม฽ๆ ซง่ึ จะเปน็ แหล฽งสรา฾ งทางด฾านเทคโนโลยีสารสนเทศในอนาคตอีกด฾วย 4. นวัตกรรมดา้ นเทคโนโลยีสารสนเทศในอกี 5 ปี ข้างหน้า บริษัทไอบีเอ็ม (IBM) ได฾นําเสนอ IBM Give in Five 5 นวัตกรรมล้ํายุคที่คาดว฽าจะเปล่ียนแปลงชีวิตของเรา รวมถึงนําเสนอเทคโนโลยีใหมๆ฽ ในอกี 5 ปีข฾างหนา฾ (พ.ศ. 2556-2560) ดังน้ี(Technology Focus, 2012 หน฾า 77) 4.1 การสร฾างพลังงานข้ึนเองเพื่อใช฾ภายในบ฾าน คือ การที่ทุกคนสามารถสร฾างพลังงานเพ่ือใช฾ภายในบ฾านข้ึนเองได฾ การเคล่ือนไหวต฽างๆ ไม฽ว฽าจะเป็นการเดิน ขี่จักรยาน และสิ่งต฽างๆ ที่อย฽ูรอบตัว เช฽น ความร฾อนจากคอมพิวเตอร์จะสามารถสร฾างพลังงาน ซึ่งสามารถเก็บรวบรวมและนําพลงั งานสะอาดนีม้ าใช฾งานภายในบ฾าน สถานท่ีทํางาน และเมืองต฽างๆ ตัวอย฽างเช฽น อุปกรณ์ขนาดเล็กหรือแบตเตอรี่ท่ีต฽อเข฾ากับซี่ล฾อจักรยานจะสามารถเก็บรวบรวมพลังงานที่เกิดขึ้นในทุกรอบของการหมุนของแปูนจักรยานและเมื่อกลับถึงบ฾านสามารถถอดอุปกรณ์ดังกล฽าว และเสียบปลั๊กเพ่ือดึงพลังงานน้ันมาใช฾สําหรับอุปกรณ์ต฽างๆ ตั้งแต฽หลอดไฟไปจนถึงเตาไมโครเวฟ และอุปกรณ์ทางด฾านเทคโนโลยที ้งั หมด เป็นต฾น 4.2 มนุษย์จะใช฾เสียงพูด ใบหน฾าและดวงตาแทนรหัสผ฽าน ในอนาคตเราจะไม฽ต฾องใช฾รหัสผา฽ นอีกตอ฽ ไป เพราะข฾อมูลทางไบโอเมตริก (biometric) เช฽น ข฾อมูลเก่ียวกับเค฾าโครงใบหน฾า การสแกนม฽านตา และไฟล์เสียงพูด จะถูกประกอบเข฾าด฾วยกันผ฽านทางซอฟต์แวร์ เพ่ือสร฾างรหัสผ฽านออนไลน์ ซ่ึงในอนาคตเราเพียงแต฽เพียงไปถอนเงินที่ต฾ูเอทีเอ็มอย฽างปลอดภัย เพียงแต฽พูดชื่อหรือมอง

212เข฾าไปในเซ็นเซอร์ (sensor) ขนาดเล็กที่สามารถรับรู฾ความแตกต฽างม฽านตาของแต฽ละคนได฾ ก็จะทําธุรกรรมไดอ฾ ย฽าง สะดวกและปลอดภยั 4.3 มนษุ ย์สามารถใช฾สมองสัง่ งานแลปทอป (laptop) และโทรศัพท์เคล่ือนที่ได฾ ในขณะนี้ได฾มีนักวิทยาศาสตร์ในสาขาชีวสารสนเทศ หรือไบโออินฟอร์เมติกส์ (Bioinformatics) กําลังทําการค฾นคว฾าวิธีการเช่ือมโยงสมองของคนเข฾ากับอุปกรณ์ต฽างๆ เช฽น คอมพิวเตอร์ หรือสมาร์ทโฟนรวมถึงการออกแบบชุดหูฟังที่มีเซ็นเซอร์พิเศษสําหรับอ฽านคล่ืนไฟฟูาสมอง รวมถึงสีหน฾า ระดับความตื่นเต฾น การมีสมาธิจดจ฽อและความคิดของบุคคล โดยที่ไม฽จําเป็นต฾องขยับร฽างกาย ภายใน 5 ปีข฾างหน฾ามีการพยากรณ์ว฽ายอดจําหน฽ายอุปกรณ์พกพาจะอยู฽ที่ 5,600 ล฾านเครื่อง ขณะที่มีประชากรอาศัยอย฽ูในโลกประมาณ 7,000 ล฾านคน เน่ืองจากโทรศัพท์มือถือได฾รับความนิยมแพร฽หลายมากขึ้นและราคาก็ลดลงเร่ือยๆ ดังน้ันระบบโมบายจะก฽อให฾เกิดโครงสร฾างพ้ืนฐานที่ทันสมัย พร฾อมบริการมากมายบนโทรศัพท์มือถือซึ่งสามารถตอบสนองความต฾องการครอบคลุมถึงเร่ืองการทําธุรกรรมของธนาคาร การแพทย์ และการศกึ ษา ปจั จบุ ันจะเรมิ่ เห็นการประยุกต์ใช฾งานเทคโนโลยีน้ีในอุตสาหกรรมเกมและความบันเทิง รวมถึงขยายไปถึงการแพทย์เพ่ือทดสอบแบบแผนของสมองมนุษย์ และช฽วยในการฟน้ื ฟูผป฾ู ุวยทเี่ กดิ ภาวะเสน฾ เลือดสมองแตกและชว฽ ยในการทําความเข฾าใจเก่ียวกับความผิดปกติของสมอง เช฽น โรคสมาธิส้ัน ไดอ฾ ีกด฾วย 4.4 ทกุ คนสามารถเขา฾ ข฾อมูลต฽างๆ ได฾ทุกทีทกุ เวลาดว฾ ยเทคโนโลยีโมบาย ในช฽วง 5 ปีต฽อจากน้ี ช฽องว฽างระหว฽างผ฾ูท่ีมีข฾อมูลและผ฾ูที่ไม฽มีข฾อมูลจะลดน฾อยลงเป็นอย฽างมาก เนื่องจากความก฾าวหน฾าของเทคโนโลยีโมบาย ซ่ึงในประเทศอินเดีย บริษัทไอบีเอ็มใช฾เทคโนโลยีเสียงพูดและอุปกรณ์พกพาเพื่อช฽วยให฾ชาวชนบทที่ไม฽รู฾หนังสือสามารถถ฽ายทอดข฾อมูลผ฽านทางข฾อความท่ีบันทึกไว฾ในโทรศัพท์ และการเข฾าถึงข฾อมูลได฾อย฽างที่ไม฽เคยปรากฏมาก฽อน ซ่ึงทําให฾คุณภาพชีวิตของประชาชนชาวอินเดียดีข้ึน ทําให฾สามารถตรวจสอบรายงานสภาพอากาศ ร฾ูว฽าจะมีแพทย์เดินทางเข฾ามารักษาเม่ือไร และยังสามารถตรวจสอบระดับราคารับซ้ือสินค฾าและพืชผลทางการเกษตรได฾อีกด฾วย สําหรับชุมชนที่ขยายใหญ฽ขึ้นจะสามารถใช฾เทคโนโลยีโมบายเพ่ือรองรับการเข฾าถึงข฾อมูลสําคัญ และปรับปรุงการให฾บริการแก฽ประชาชน โดยอาศัยโซลูช่ัน (solution) และรูปแบบธุรกิจใหม฽ๆ เช฽น โมบายคอมเมรริ ์ซ (mobile commerce) และบริการทางการแพทย์ระยะไกล 4.5 คอมพิวเตอร์จะคัดกรองข฾อมูลสําคัญให฾สอดคล฾องกับความต฾องการและพฤติกรรมของผใู฾ ช฾ ในอีก 5 ปขี ฾างหนา฾ จะการใช฾เทคโนโลยีระบบวิเคราะห์ข฾อมูลแบบเรียลไทม์ (real time) เพ่ือกล่ันกรองและผนวกข฾อมูลจากทุกแง฽มุมของชีวิต ตั้งแต฽ข฽าวสาร ไปจนถึงกีฬา การเมือง หรือแม฾แต฽กระทง่ั เทคโนโลยที ผี่ ูใ฾ ช฾ชนื่ ชอบ และจะตดั โฆษณาที่ผู฾รบั ขอ฾ มูลไมพ฽ งึ ประสงค์ออกไป พร฾อมกับนําเสนอและแนะนาํ ข฾อมูลทเ่ี ป็นประโยชนแ์ ก฽ผู฾บริโภคอยา฽ งแท฾จรงิ ทั้งหมดเป็นนวัตกรรมทางด฾านเทคโนโลยีสารสนเทศท่ีจะเกิดข้ึนในอนาคตอันใกล฾ดังน้ันนักศึกษาจําเป็นท่ีจะต฾องทราบและศึกษาแนวโน฾มการเปลี่ยนแปลงทางด฾านเทคโนโลยีอยู฽เสมอเพื่อใหส฾ ามารถปรับใช฾กบั การดําเนนิ ชีวติ ประจาํ วันและการประกอบอาชีพอย฽างมีประสทิ ธิภาพต฽อไป

213เทคโนโลยสี ารสนเทศกับความรบั ผิดชอบตอ่ สังคมและสิ่งแวดล้อมในอนาคต การใชเ฾ ทคโนโลยสี ารสนเทศในอนาคตจําเป็นจะต฾องคํานึงถึงความรับผิดชอบต฽อสังคม (socialresponsibility) และการเป็นมิตรกบั สง่ิ แวดล฾อม ซึ่งมีรายละเอยี ดดงั น้ี 1. เทคโนโลยีสารสนเทศกบั ความรบั ผดิ ชอบตอ่ สงั คม ความรบั ผิดชอบตอ฽ สังคม (social responsibility) ซ่ึงมีทั้งระดับบุคลและองค์กร ซึ่งเป็นสิ่งท่สี าํ คัญเป็นอย฽างมากสําหรับการใชเ฾ ทคโนโลยสี ารสนเทศในอนาคต มรี ายละเอียดดงั นี้ 1.1 ความรับผิดชอบต฽อสังคมระดับบุคคล ประกอบด฾วย 3 สิ่งได฾แก฽ การเป็นผู฾รับผิดชอบต฽อสิ่งที่เกิดขึ้น การปฏิบัติตามกฎเกณฑ์และการตัดสินใจที่วางใจได฾ ( พราหาราช &ฮัมมอน, 2554 หน฾า 188) ซ่ึงจะเป็นพฤติกรรมท่ีบุคคลแสดงออก ท้ังนี้ความรับผิดชอบต฽อสังคมด฾านการใชเ฾ ทคโนโลยีสารสนเทศ ได฾แก฽ 1.1.1 การใช฾เทคโนโลยีสารสนเทศอย฽างมีจริยธรรม และถูกต฾องตามกฎหมายท่ีได฾กาํ หนด (รายละเอยี ดในบทท่ี 8) 1.1.2 การใช฾เทคโนโลยีสารสนเทศอยา฽ งสร฾างสรรค์ และเป็นมติ รทีด่ กี ับคนอ่ืน 1.1.3 การใชเ฾ ทคโนโลยีสารสนเทศเพอ่ื ก฽อใหเ฾ กดิ ความรกั สามคั คีในหม฽ูคณะ 1.1.4 การใช฾เทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือสร฾างกิจกรรมทางสังคมท่ีเป็นประโยชน์ เช฽นการช฽วยเหลือผูป฾ ระสบภยั การบริจาค หรอื กจิ กรรมทเี่ กี่ยวกบั ขอ฾ งจิตอาสา 1.1.5 การใช฾เทคโนโลยีสารสนเทศท่ีเป็นมิตรกับสิ่งแวดล฾อม รักษาส่ิงแวดล฾อม และคํานึงถึงการประหยัดพลังงาน 1.2 ความรับผิดชอบต฽อสังคมระดับองค์กร (Corporate Social Responsibility: CSR)หมายถึงการดําเนินธุรกิจควบคู฽ไปกับการใส฽ใจดูแลรักษาส่ิงแวดล฾อมในชุมชนและสังคม ภายใต฾หลักจริยธรรม การกํากับดูแลท่ีดี (good governance) เพ่ือนําไปสู฽การดําเนินธุรกิจที่ประสบความสําเร็จอย฽างย่ังยืน ในการดําเนินธุรกิจอย฽างมีความรับผิดชอบต฽อสังคมน้ัน องค์กรจะต฾องตอบสนองต฽อประเด็นด฾านสังคม และส่ิงแวดล฾อม โดยม฽ุงท่ีการให฾ประโยชน์กับคน ชุมชน และสังคม นอกจากน้ันยังต฾องคํานึงถึงบทบาทขององค์กรภาคธุรกิจที่ต฾องปฏิบัติอย฽างสอดคล฾องกับความคาดหวังของสังคมโดยจะต฾องทําด฾วยความสมัครใจ และบุคลากรทุกคนในองค์กรจะต฾องมีบทบาทเกี่ยวข฾องกับกิจกรรมตา฽ งๆ ท่ีตอบแทนในสิ่งทด่ี งี ามสสู฽ ังคมอย฽างจรงิ จัง 2. เทคโนโลยีสารสนเทศกับส่งิ แวดลอ้ ม นอกเหนือจากความรับผิดชอบต฽อสังคมแล฾วการใช฾เทคโนโลยีสารสนเทศในอนาคตจําเป็นต฾องคํานึงถึงส่ิงแวดล฾อมอีกด฾วย ซึ่งในอนาคตจะต฾องใช฾เทคโนโลยีสารสนเทศที่เป็นมิตรกับส่ิงแวดล฾อม หรือ “กรีนไอที” หรือ “เทคโนโลยีสีเขียว” ซ่ึงมีเปูาหมายของการพัฒนา ตัวอย฽างของกรีน และสภาพแวดล฾อมที่ได฾รับผลกระทบจากเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งมีรายละเอียดดังน้ี (GreenNetwork, 2009) 2.1 เปาู หมายของกรีนไอที 2.1.1 การออกแบบจากแหล฽งกําเนิดไปยังแหล฽งกําเนิดการใช฾งานของส่ิงต฽างๆ ก็จะเป็นวัฎจกั รของผลิตภณั ฑ์ โดยการสร฾างผลิตภณั ฑ์ใหส฾ ามารถนํากลบั มาใช฾งานใหมไ฽ ด฾ (recycle)

214 2.1.2 การลดข฾อมูล เป็นการลดท้ิงและมลพิษ โดยการเปลี่ยนรูปแบบของการนําไปสร฾างผลติ ภณั ฑ์และการบริโภค 2.1.3 พัฒนาส่ิงใหม฽ๆ เป็นการพัฒนาเพื่อเทคโนโลยี ไม฽ว฽าจะเป็นการนําซากสัตว์มาเป็นเช้ือเพลิงหรอื ทางเคมี แต฽กอ็ าจทาํ ให฾สขุ ภาพและสภาพแวดล฾อมเสียหายได฾ 2.1.4 ความสามารถในการดํารงชีวิต สร฾างศูนย์กลางทางด฾านเศรษฐศาสตร์ให฾เหมาะสมกับเทคโนโลยีและผลติ ภณั ฑใ์ ห฾เหมาะสมกบั สภาพแวดลอ฾ ม ความเร็วในการพัฒนาและสร฾างอาชพี ใหมเ฽ พอื่ ปกปูองโลก 2.1.5 พลังงาน ต฾องรับร฾ูข฽าวสารทางด฾านเทคโนโลยีสีเขียวรวมไปถึงการพัฒนาของเช้ือเพลงิ ความหมายใหมข฽ องการกําเนิดพลังงาน และผลของพลังงาน 2.1.6 สภาพสิ่งแวดล฾อม นําไปสู฽การค฾นหาสําหรับผลิตภัณฑ์ใหม฽ เพ่ือค฾นหาสิ่งท่ีบรรลุและวิธีทท่ี าํ ใหเ฾ กิดการกระทบกบั สภาพแวดลอ฾ มน฾อยทสี่ ุด 2.2 ตวั อยา฽ งของกรนี ไอที ตัวอย฽างของกรีนไอทีได฾ถูกนํามาใช฾ในอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ในอนาคตจะต฾องถูกออกแบบมาเพอ่ื ให฾คํานึงสงิ่ แวดล฾อมซง่ึ มรี ายละเอยี ดดังนี้ 2.2.1 กรีนคอมพวิ เตอร์ (green computer) เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ท่ีรับผิดชอบต฽อสิ่งแวดล฾อมและทรัพยากรอื่นๆ ประกอบไปด฾วยพลังงานหน฽วยประมวลผลศูนย์กลางท่ีมีประสิทธิภาพ (ซีพียู) เคร่ืองเซิร์ฟเวอร์ และอุปกรณ์เสริมเพื่อลดการทํางานของทรัพยากรและการจัดการเร่ืองการสิ้นเปลืองของอุปกรณ์อิเลก็ ทรอนกิ ส์ (e-Waste) ซึง่ มแี นวโนม฾ การลดพลังงาน ดังนี้ 1) ใหซ฾ พี ียแู ละอปุ กรณ์เสรมิ ตา฽ งๆ ท่ไี มไ฽ ด฾ใช฾งาน ลดการใชพ฾ ลงั งานลง 2) ลดพลังงานและการจ฽ายไปให฾แก฽อุปกรณ์เสริมท่ีไม฽ได฾ใช฾งานนาน เช฽นเครอ่ื งพมิ พ์เลเซอร์ 3) ให฾หันมาใช฾จอภาพหรือมอนิเตอร์ในแบบ Liquid-Crystal-Display (LCD)แทนการใชม฾ อนิเตอร์ Cathode-Ray-Tube (CRT) 4) ถ฾าเป็นไปได฾ใช฾เคร่ืองคอมพิวเตอร์โน฾ตบ฿ุกมากกว฽าเครื่องคอมพิวเตอร์เดสก์ทอป เพราะเคร่ืองคอมพิวเตอร์เดสก์ทอปจะกินไฟและใช฾พลังงานมากกว฽าเคร่ืองคอมพิวเตอร์โนต฾ บ฿ุก 5) ใช฾ฟีเจอร์ Power-Management ให฾ปิดการทํางานของฮาร์ดดิสก์ และหนา฾ จอมอนิเตอร์หากไมไ฽ ดม฾ กี ารใช฾งานตดิ ต฽อกนั นานๆ หลายนาที 6) ใช฾กระดาษให฾น฾อยท่ีสุด และถ฾าเป็นไปได฾ก็ให฾นํากระดาษกลับมาใช฾งานหมุนเวียนอีก 7) ลดการใชพ฾ ลังงานกับเครอื่ งคอมพิวเตอร์เวิร์กสเตชัน เซิร์ฟเวอร์ เน็ตเวิร์กและขอ฾ มลู สว฽ นกลาง 2.2.2 กรีนดาต฾าเซ็นเตอร์ (green data center) กรีนดาต฾าเซ็นเตอร์ หรือ ศูนย์ข฾อมูลกลางสีเขียว คือ การใช฾งานทางด฾านการจัดเก็บข฾อมูล การจัดการทางด฾านข฾อมูลและการแพร฽กระจายของข฾อมูลท่ีจัดเก็บไว฾ในเครื่องจักร

215อปุ กรณ์ไฟฟูาและระบบคอมพวิ เตอร์ที่ออกแบบมาเพื่อใหพ฾ ลงั งานสูงสุดแต฽มีผลกระทบกับส่ิงแวดล฾อมน฾อยสุด ทั้งการออกแบบการคํานวณจะเน฾นศูนย์ข฾อมูลกลางสีเขียวรวมถึงเทคโนโลยี ขั้นสูงและด฾วยกลยทุ ธ์การออกแบบท่ีใชอ฾ ปุ กรณท์ ีแ่ ผ฽กระจายแสงได฾น฾อยๆ อย฽างการปูพรม การออกแบบที่สนับสนุนสภาพแวดล฾อม และลดการส้ินเปลอื งโดยการนํากลับมาใชง฾ านอกี เปน็ ต฾น 3. สภาพแวดล้อมท่ีได้รับผลกระทบจากการใช้งานระบบไอที เคร่ืองคอมพิวเตอร์ท่ีใช฾งานอย฽ูนี้ก฽อให฾เกิดปัญหาต฽อสภาพแวดล฾อม ซึ่งเมื่อใช฾งานอย฽ูก็คงไม฽รบกวนโลกมาก แต฽พอเคร่ืองคอมพิวเตอร์หมดอายุการใช฾งานกลายเป็น “ขยะคอมพิวเตอร์” หรือ“ขยะอิเล็กทรอนิกส์” ซึ่งอุปกรณ์บางอย฽างก็ไม฽สามารถย฽อยสลายได฾ ก฽อมลพิษทางด฾านอากาศส่ิงแวดล฾อมให฾แก฽โลกอีกด฾วย เพราะในส฽วนประกอบของเคร่ืองคอมพิวเตอร์นั้น ก็มีทั้งที่ประกอบไปด฾วย พลาสติก อะลูมิเนียม สังกะสี และอื่นๆ ปัจจุบันมีผู฾ใช฾งานได฾คิดประดิษฐ์นําเอาไม฾ไผ฽เข฾ามาเป็นส฽วนประกอบกับอุปกรณ์เคร่ืองคอมพิวเตอร์ เช฽น คีย์บอร์ด หน฾าจอมอนิเตอร์ เมาส์ หรือเครื่องคอมพิวเตอร์โน฾ตบุ฿ก เพ่ือลดปัญหาการย฽อยสลายของขยะอิเล็กทรอนิกส์ ซ่ึงเราจะต฾องช฽วยกันใช฾เทคโนโลยีเพื่อเป็นมิตรกับส่ิงแวดล฾อม และภาวะโลกร฾อนที่กําลังทําลายสิ่งแวดล฾อมท่ีอยู฽รอบตัวเราก฽อให฾เกิดปัญหาภัยพิบัติทางธรรมชาติตามมา ซึ่งในอนาคตเราจะต฾องคํานึงถึงการใช฾พลังงานอย฽างมีประสิทธิภาพ (energy efficiency) ซึ่งการใช฾คอมพิวเตอร์เพื่อประมวลผลข฾อมูลจะต฾องคํานึงถึงการปล฽อยก฿าซคาร์บอนไดออกไซด์ส฽ูช้ันบรรยากาศ หรือร฽องรอยคาร์บอน (carbon footprint) จะเป็นเร่ืองทมี่ ีความสาํ คัญมากในอนาคต เม่ือความตอ฾ งการด฾านพลังงานสูงขึ้น และประเทศต฽างๆ เร่ิมบังคับใช฾ภาษีคาร์บอนโดยฝุายเทคโนโลยีสารสนเทศขององค์กรจะต฾องเข฾ามามีส฽วนในการรับภาระด฾านพลังงานนด้ี ว฾ ยการปฏิรูปการทางานกับการใช้ข่าวสารบนฐานเทคโนโลยีในอนาคต การทํางานในอนาคตจะทําให฾มีเกิดการเปล่ียนแปลงรูปแบบการทํางานเป็นอย฽างมาก คืออยู฽ท่ีไหนก็สามารถทํางานได฾ ทํางานได฾ทุกท่ีทุกเวลา (work anywhere, anytime by anyone) มีการทาํ งานท่ีมีการแขง฽ ขันสูงในเวทโี ลก รวมถงึ เป็นงานที่ต฾องใช฾ “ความรู฾” และ “ความคิดสร฾างสรรค์”เปน็ พ้ืนฐานในการทํางาน อีกทั้งจําเป็นต฾องใช฾เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นเคร่ืองมือในการติดต฽อสื่อสารรวมถึงเป็น “อาวุธ” ที่สําคัญในการสร฾างความได฾เปรียบในการแข฽งขันขององค์กร ในหัวข฾อน้ีจะอธิบายถึงการปฏิรูปการทํางานกับการใช฾ข฽าวสารบนฐานเทคโนโลยีสารสนเทศในอนาคต และการปรับตัวขององค์กรเพือ่ รองรับการเปลย่ี นแปลง ซ่งึ มรี ายละเอียดดังน้ี 1. การปฏริ ูปการทางานกับการใช้ขา่ วสารบนฐานเทคโนโลยสี ารสนเทศในอนาคต การปฏิรปู การทํางานกับการใช฾ข฽าวสารบนฐานเทคโนโลยีสารสนเทศในอนาคตจะทําให฾องค์กรต฽างๆ เกดิ การเปลย่ี นแปลง ดงั นี้ 1.1 การปฏริ ูปรปู แบบการทํางานขององค์กร เทคโนโลยีสารสนเทศก฽อให฾เกิดการปฏิรูปรูปแบบของการทํางาน เช฽น การใช฾เทคโนโลยีสารสนเทศสื่อสารกันในองค์กรด฾วย อีเมล์ กรุ฿ปแวร์(groupware) หรือแม฾แต฽กระท่ังเครือข฽ายสังคมออนไลน์ อย฽างเฟซบุค ที่ทําให฾การส฽งข฾อมูลข฽าวสารของพนักงานไม฽จําเป็นต฾องเดินหนังสืออีกต฽อไป ลดการใช฾กระดาษที่ต฾องพิมพ์ข฽าวสารแจก และสามารถสง฽ ขอ฾ มลู ขา฽ วสารเป็นจาํ นวนมากไปถึงบุคคลที่ต฾องการได฾อย฽างรวดเร็ว นอกจากนี้รูปแบบการ

216ทํางานแบบ “เวอร์ช฽วลออฟฟิศ” (virtual office) คือ สามารถทํางานได฾ ไม฽ว฽าจะอยู฽ ณ ท่ีไหน เวลาใดก็ตาม ด฾วยอุปกรณ์ส่ือสารประเภทใดก็ได฾ท่ีสะดวกในการใช฾ติดต฽อสื่อสาร (anywhere anytimeany device) โดยแนวโน฾มการทาํ งานจะเปล่ียนแปลงไปจากเดิมท่ีต฾องมีพื้นท่ีในสํานักงานให฾พนักงานเข฾าไปน่ังประจําท่ีเพ่ือทํางาน (Work place) มาเป็นการทํางานจากท่ีใดก็ได฾ไม฽ว฽าจะเป็นพื้นท่ีใดในออฟฟิศ หรือเป็นท่ีอื่นภายนอกออฟฟิศ ซึ่งสอดคล฾องกับนโยบายของภาครัฐท่ีสนับสนุนให฾หน฽วยงานข฾าราชการทํางานที่บ฾าน เพ่ือลดการใช฾พลังงาน ทําให฾หลายองค์กรตระหนักถึงแนวคิด และวิธีการทํางานท่ีให฾พนักงานทํางานจากที่บ฾านผ฽านระบบเครือข฽ายอินเทอร์เน็ต หรือทีเรียกว฽า เวอร์ช฽วลออฟฟศิ ให฾ได฾ประสทิ ธิภาพเทียบเทา฽ หรอื มากกว฽าการเขา฾ มาทํางานในสาํ นักงาน 1.2 มีการจัดการเชิงกลยุทธ์ เทคโนโลยีสารสนเทศถูกนํามาใช฾ในการสนับสนุนการจัดการเชิงกลยุทธ์ขององค์กรเพ่ือสร฾างความได฾เปรียบในการแข฽งขัน ซ่ึงในอนาคตการแข฽งขันแต฽ละอุตสาหกรรมจะทวีความรุนแรงท้ังภายในประเทศและนอกประเทศ ซ่ึงมีผลกระทบต฽อการดําเนินธุรกิจเป็นอย฽างย่ิง องค์กรจะต฾องปรับตัวและอย฽ูรอด (survival) รวมถึงการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการแข฽งขันท่ีม฽ุงเน฾นกันที่ความรวดเร็ว ความแม฽นยํา และทันต฽อเหตุการณ์ เพื่อสร฾างความได฾เปรียบทางการแขง฽ ขนั นอกจากนคี้ ฽ูแข฽งขนั มีมากข้ึนไม฽จํากัดเฉพาะในประเทศเท฽าน้ัน แต฽ค฽ูแข฽งจากต฽างชาติมีศักยภาพสูงทั้งทางด฾านการเงินและเทคโนโลยีสมัยใหม฽ ได฾เข฾ามาท฾าทายในเกือบทุกอุตสาหกรรมดังน้ันการบริหารจัดการองค์กรจึงจําเป็นต฾องเปลี่ยนรูปแบบ เพราะรูปแบบการบริหารแบบเดิมท่ีม฽ุงเน฾นให฾ความสนใจเฉพาะการบริหารงานภายในองค์กร โดยมองข฾ามไม฽สนใจต฽อสภาพแวดล฾อมภายนอกที่เปลี่ยนไป อาจจะทําให฾เกิดอุปสรรคต฽อการดําเนินงานและล฾มเหลวในที่สุด ดังน้ันผู฾บริหารในยุคโลกภิวัฒน์จึงมีความจําเป็นท่ีจะต฾องทําความเข฾าใจเกี่ยวกับบริบทของส่ิงแวดล฾อมที่การเปล่ียนแปลงบูรณาการเข฾ากับการจัดการเชิงกลยุทธ์ โดยเฉพาะอย฽างยิ่งการจัดการเทคโน โลยีสารสนเทศและระบบสารสนเทศเชิงกลยุทธ์ (Strategic Information Systems: SIS) ซึ่งเป็นอาวุธท่ีสาํ คัญในการสรา฾ งความไดเ฾ ปรยี บในการแข฽งขันให฾กบั องค์กร 1.3 ใชเ฾ ทคโนโลยีสารสนเทศเป็นเครื่องมือในการทํางาน เพ่ือให฾การทํางานคล฽องตัวและมปี ระสิทธภิ าพมากยิง่ ข้ึน เช฽น การใชร฾ ะบบสารสนเทศต฽างๆ ในองค์กร ไม฽ว฽าจะเป็นระบบประมวลผลรายการเปล่ียนแปลงข฾อมูล (Transaction Processing Systems :TPS) เป็นระบบสารสนเทศพ้ืนฐานขององค์กรทางธุรกิจท่ีใช฾สนับสนุนการทํางานของผู฾ปฏิบัติการ ระบบสารสนเทศเพ่ือการจัดการ (Management Information Systems: MIS) ท่ีให฾บริการให฾ผู฾บริหารเพ่ือสนับสนุนการบริหารจัดการของผู฾บริหาร และระบบสนับสนุนการตัดสินใจ (Decision Support Systems: DSS)สนับสนุนการตัดสินใจของผู฾บริหาร เป็นต฾น จะเห็นได฾ว฽าเทคโนโลยีสารจะช฽วยเปล่ียนแปลงและปรับปรุงคุณภาพของการที่จํานะมาประยุกต์ใช฾หลายๆ ด฾าน ซ่ึงจะเป็นเครื่องมือช฽วยให฾การทํางานมีประสิทธิภาพและลดค฽าใช฾จ฽าย ซ่ึงแน฽นอนว฽าเทคโนโลยีสารสนเทศยังคงเป็นเครื่องมือที่สําคัญในการทาํ งานและเพมิ่ ความสําคญั มากข้ึนอย฽างต฽อเนอ่ื งในอนาคต 1.4) การใช฾เทคโนโลยีสารสนเทศสร฾างคุณค฽าให฾กับองค์กรในอนาคตเทคโนโลยีสารสนเทศจะถูกนํามาใช฾เพื่อสร฾างคุณค฽า (value) ให฾กับองค์กร เช฽น ใช฾ในการสนับสนุนการทํางานเป็นทีมด฾วยการสือ่ สารผา฽ นระบบเครือข฽ายสังคมออนไลน์ท่ีเปิดโอกาสให฾พนักงานสามารถแลกเปลี่ยน

217ความคิดเห็น ข฾อเสนอแนะ และความร฾ูแก฽กันและกัน เพ่ือพัฒนาสินค฾าและบริการที่ตอบสนองความพึงพอใจแกล฽ กู ค฾าให฾มากท่ีสุด เปน็ ตน฾ 2. การปรบั ตวั ขององคก์ รเพ่ือรองรบั การเปลยี่ นแปลง ดังท่ีได฾กล฽าวมาแล฾วในข฾างต฾นว฽าปัจจุบันความก฾าวหน฾าของเทคโนโลยีสารสนเทศได฾มีบทบาท ท่ีสําคัญต฽อวิถีชีวิตและสังคมของมนุษย์ เทคโนโลยีสารสนเทศได฾สร฾างการเปล่ียนแปลงและสร฾างโอกาสให฾แก฽องค์กร เช฽น เปลี่ยนโครงสร฾างความสัมพันธ์และการแข฽งขันในอุตสาหกรรม ปรับโครงสร฾างการดําเนินงานขององค์กรเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตและบริการ เป็นต฾น เน่ืองจากเทคโนโลยีสารสนเทศก฽อให฾เกดิ รปู แบบใหม฽ใน การตดิ ตอ฽ ส่อื สารและมปี ฏิสัมพันธ์ระหว฽างบุคคล ทําให฾มกี ารพฒั นาและกระจายตัวของภมู ปิ ัญญา ซึง่ ตอ฾ งอาศัยบุคคลท่ีมีความร฾ูและความเข฾าใจในการใช฾งานเทคโนโลยีให฾เกิดประโยชน์ ปัจจุบันองค์กรในประเทศไทยได฾มีการตื่นตัวที่จะนําเทคโนโลยีเหล฽าน้ีมาใชง฾ านมากขึ้น เพือ่ ท่จี ะทาํ ให฾เราติดตามความเปลี่ยนแปลงท่ีเกิดขึ้นจากเทคโนโลยีได฾ทัน และสามารถใช฾เทคโนโลยีให฾เป็นประโยชนใ์ นการแข฽งขัน (แนวโน฾มของเทคโนโลยสี ารสนเทศ, 2555) การพัฒนาเทคโนโลยขี ององคก์ ารจะขึน้ อยก฽ู ับผบู฾ ริหารเป็นสําคัญ โดยท่ีผู฾บริหารองค์กรจะต฾องเตรียมความพร฾อมดงั ตอ฽ ไปนี้ 2.1 ทําความเข฾าใจต฽อบทบาทของเทคโนโลยีสารสนเทศที่มีต฽อธุรกิจปัจจุบัน เพ่ือให฾สามารถนาํ ความร฾ตู ฽าง ๆ มาประยกุ ตใ์ ช฾กบั งานท่ีกําลงั ทําอยู฽ เพ่ือเพิ่มขีดความสามารถและศักยภาพในการแข฽งขันขององค์การ เช฽น การใช฾เครือข฽ายสังคมออนไลน์มาช฽วยในการสร฾างระบบลูกค฾าสัมพันธ์(Customer Relationship Management: CRM) เพื่อเป็นการรักษาลูกค฾าและสร฾างความจงรักภักดีขอลกู ค฾าให฾มตี ฽อสนิ ค฾าและบริการขององค์กร เปน็ ต฾น 2.2 วางแผนพัฒนาระบบสารสนเทศ เพื่อให฾การดําเนินการสร฾างหรือพัฒนาระบบสารสนเทศเป็นไปตามวัตถุประสงค์ขององค์กรภายใต฾งบประมาณและระยะเวลาท่ีกําหนดไว฾ การวางแผนถอื เปน็ สิ่งท่สี ําคญั เพราะระบบสารสนเทศจะประกอบดว฾ ยระบบยอ฽ ยอื่น ๆ อีกมาก ซ่ึงจะต฾องสัมพันธ์กันและใช฾เวลาในการพัฒนาให฾สมบูรณ์ และจําเป็นจะต฾องมีการจัดเตรียมโครงสร฾างพ้ืนฐานทางด฾านเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT Infrastructure) ทจี่ าํ เปน็ เชน฽ เครื่องคอมพิวเตอร์ ซอฟแวร์ ระบบเครอื ขา฽ ย ให฾มพี รอ฾ มรองรับการใช฾การ 2.3 พัฒนาระบบสารสนเทศเก่ียวข฾องกับการจัดการข฾อมูล หรือความร฾ูขององค์กร นักวิเคราะห์ระบบและผู฾ใช฾จะศึกษาหรือพิจารณาถึงข฾อมูลและข฽าวสารต฽าง ๆ ที่องค์กรต฾องการและใช฾ในการดําเนินงานอยู฽เป็นประจํา เพ่ือที่จะทําการรวบรวม และจัดระเบียบเก็บไว฾ในระบบสารสนเทศ และเม่ือมีความต฾องการข฾อมูล ก็สามารถเรียกออกมาใช฾ได฾ทันที โดยการพัฒนาระบบต฾องให฾ความสําคัญกับภาพรวมและความสอดคล฾อง ในการใช฾งานสารสนเทศขององค์กรเป็นสําคัญ ทั้งนี้บางองค์กรจําเป็นต฾องพัฒนาระบบองค์ความรู฾ (Knowledge Based Systems: KBS)เพอื่ จดั เก็บองค์ความรข฾ู ององคก์ รสามารถใชเ฾ ปน็ ฐานในการพัฒนาและสรา฾ งนวตั กรรมใหม฽ๆ ได฾ 2.4 พฒั นาศักยภาพของบคุ ลากรด฾านเทคโนโลยีสารสนเทศ ให฾มีความพร฾อมรองรับการเปลี่ยนแปลงทางด฾านเทคโนโลยี โดยอาจจะมีการต฾องมีการจัดการฝึกอบรมการใช฾ระบบสารสนเทศหรือเทคโนโลยีใหม฽ๆให฾กับบุคลากรขององค์กร เพื่อให฾สามารถใช฾เทคโนโลยีสารสนเทศขององค์กรได฾อยา฽ งคม฾ุ คา฽ และเป็นประโยชนต์ อ฽ การปฏบิ ตั ิงาน

218 โดยสรุปการปฏิรูปการทํางานกับข฽าวสารในอนาคตน้ัน ผ฾ูท่ีจะเป็นนักบริหารและนักวิชาชีพด฾านเทคโนโลยีสารสนเทศท่ีประสบความสําเร็จจะต฾องไม฽เพียงแค฽รู฾จักเทคโนโลยีสารสนเทศแต฽จะต฾องสามารถใช฾เทคโนโลยีสารสนเทศอย฽างมีประสิทธิภาพ และร฾ูจักการจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยผ฾ูบริหารในอนาคตจะต฾องร฾ูจักการประยุกต์ใช฾เทคโนโลยีกับงานและองค์กรของตน มีความคิดในการที่จะสร฾างระบบสารสนเทศที่ตอบสนองความต฾องการขององค์กร เพื่อช฽วยในการตดั สนิ ใจในภาวะที่มีการแข฽งขนั สงู ทาํ ให฾การบรหิ ารของตนเองมีประสิทธิภาพและประสบความสําเร็จอยา฽ งสูง ขณะท่นี กั วชิ าชีพจะใช฾ระบบสารสนเทศในการรวบรวมประมวลผล และจัดการข฾อมูลอย฽างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนการค฾นหาและตรวจสอบข฾อมูลจากแหล฽งต฽าง ๆ ผ฽านระบบเครือข฽ายอย฽างถกู ต฾องและรวดเร็วการปฏบิ ตั ิตนใหท้ ันต่อการเปล่ียนแปลงของเทคโนโลยสี ารสนเทศ โลกในอนาคตเป็นยุคแห฽งการเรียนรู฾ ซึ่งข฾อมูลข฽าวสารทั่วทุกมุมโลกมีมากมายให฾เราได฾รับร฾ูอย฽างรวดเร็ว ง฽าย กระชับ ฉับไว จนตามแทบไม฽ทัน การทํางานก็เช฽นกันมีความจําเป็นอย฽างยิ่งท่ีจะต฾องปรับตัว เรียนร฾ูอย฽างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ นักศึกษาต฾องพัฒนาตัวเองให฾เป็นบุคคลที่มีความรู฾และทักษะอย฽างเพียบพร฾อม มีความสามารถในการแก฾ปัญหาพร฾อมเสมอที่จะรับข฾อมูลอย฽างชาญฉลาด ร฾ูเท฽าทันสถานการณ์ของโลกใบนี้ ดังนั้นนักศึกษาจําเป็นจะต฾องมีการเตรียมตัวและเตรียม“ทักษะ” เพื่อให฾สามารถทํางานในกระแสโลกาภิวัฒน์ในศตวรรษท่ี 21 ได฾ ซึ่งมีทักษะที่จําเป็นดังตอ฽ ไปน้ี (เบลลันกา, 2554, หนา฾ 34-35) 1. แนวคดิ สาคัญในศตวรรษที่ 21 แนวคิดสําคัญในศตวรรษท่ี 21 ท่ีนักศึกษาจําเป็นจะต฾องทราบและมีความรู฾พื้นฐานเหลา฽ นเ้ี ปน็ พ้ืนฐานเพื่อใหส฾ ามารถประกอบอาชพี ได฾อย฽างมี “สมั มาชพี ” เป็นพลเมืองที่ดีของสังคมและมีความสขุ ในชีวติ คอื 1.1 จิตสาํ นึกตอ฽ โลก คอื ความรับผิดชอบต฽อสังคม สิ่งแวดล฾อมและโลกใบนี้ โดยจะต฾องมีความร฾ูและมีแนวคิดในการดํารงชีวิตท่ีถูกต฾อง มีจิตสํานึกต฽อโลก มีคุณธรรมจริยธรรม มีจิตอาสารักษาส่ิงแวดล฾อม เป็นผ฾ูที่มีความรับผิดชอบต฽อตนเองและสังคม รวมถึงความสามารถที่จะต฾องเรียนรู฾และทาํ งานรวมกับคนจากวัฒนธรรมที่หลากหลาย และสามารถส่อื สารด฾วยภาษาตา฽ งประเทศได฾ 1.2 ความร฾พู ้ืนฐานดา฾ นการเงิน เศรษฐกิจ ธุรกิจ และการเป็นผ฾ูประกอบการ คือ ทักษะใหม฽ที่จําเป็น เน่ืองจากมีการเปลี่ยนแปลงอย฽างมากทางด฾านเศรษฐกิจ เช฽น จะต฾องมีการวางแผนการออมและการลงทนุ หลงั เกษียณ ของตนเอง วิกฤตการณ์ที่เพิ่งขึ้นในภาคธนาคาร ธุรกิจสินเชื่อและการจํานอง รวมถึงภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจคร้ังใหญ฽ที่มีผลกระทบในหลายๆ ประเทศ เป็นการตอกย้ําความสําคัญของความร฾ูความเข฾าใจว฽าพลังทางเศรษฐกิจมีผลต฽อชีวิตของผ฾ูคนมากมายเพียงใด การตัดสินผิดพลาดทางด฾านการเงินอาจจะส฽งผลกระทบต฽อคุณภาพชีวิตได฾ ซึ่งในการทํางานนั้นจะต฾องเรียนรวู฾ ฽าจะปรับตัวและทาํ ประโยชน์ใหก฾ ับองค์กรได฾อย฽างไร และต฾องร฾ูจักนําวิธีคิดแบบผู฾ประกอบการมาใช฾ในชีวิตเม่ือตระหนักถึงโอกาส ความเส่ียง และรางวัลแล฾ว จะสามารถเพิ่มผลงาน เพิ่มทางเลือกในอาชีพ และจัดการกับสถานการณ์ที่เปลย่ี นแปลงได฾อย฽างสขุ ุม

219 1.3 ความร฾ูพ้ืนฐานด฾านพลเมือง คือ ความรู฾เกี่ยวกับกฎหมาย สิทธิและหน฾าที่ของการเปน็ พลเมืองทด่ี ี เพอ่ื ทจี่ ะไดป฾ ฏิบัติตามสิทธิและหน฾าท่ีของตนเอง ไม฽ละเมิดสิทธิของผู฾อ่ืนและไม฽ขัดต฽อกฎหมายบ฾านเมอื ง 1.4 ความร฾ูพื้นฐานด฾านสุขภาพ คือ ความรู฾เก่ียวกับสุขอนามัยเพ่ือจะได฾มีสุขภาพที่แข็งแรง ทําให฾ดําเนินชีวิตประจําวันได฾อย฽างปกติสุข ซ่ึงควรมีความร฾ูเก่ียวกับ การรับประทานอาหารการออกกาํ ลังกาย การมีอารมณท์ ่ีแจม฽ ใสเบกิ บาน และการพักผอ฽ นนอนหลบั เปน็ ต฾น 1.5 ความร฾ูพ้ืนฐานด฾านสิ่งแวดล฾อม คือ ความรู฾พ้ืนฐานเก่ียวกับสิ่งแวดล฾อม ลักษณะภมู ิอากาศ ภูมปิ ระเทศ ภาวะโลกร฾อน ภยั พบิ ัตทิ างธรรมชาติ และการรักษาสง่ิ แวดล฾อม 2. ทกั ษะการเรยี นร้แู ละนวัตกรรม ทักษะการเรียนรู฾และนวัตกรรมเป็นพ้ืนฐานท่ีมีความจําเป็นในการทํางานในอนาคต ซ่ึงประกอบด฾วย 2.1 ความคิดสร฾างสรรค์และนวัตกรรม คือ การคิดนอกรอบ มีการใช฾จินตนาการสร฾างสรรค์นวัตกรรมข้ึนมา ตัวอย฽างท่ีเห็นได฾อย฽างชัดเจน คือ สตีฟ จ็อบส์ (Steve Jobs) ผู฾ที่เป็น“ตาํ นาน” ของการใชค฾ วามคิดสร฾างสรรคใ์ นการพัฒนานวตั กรรมของ Apple 2.2 การคิดเชิงวิพากษ์และการแก฾ไขปัญหา คือ ความสามารถในการคิดเชิงวิเคราะห์วิพากษ์ วิจารณ์ และสามารถคิดแก฾ไขปญั หาตา฽ งๆ ท่เี กดิ ขึน้ ได฾ ซง่ึ ในอนาคตนกั ศกึ ษาจําเป็นท่ีจะต฾องมีทักษะการคิด หรือลักษณะจิต 5 ประการ (การ์ดเนอร์., 2554 หน฾า 60) ดังน้ี 1) จิตเช่ียวชาญ(discipline mind) 2) จิตสังเคราะห์ (synthesizing mind) 3) จิตสร฾างสรรค์ (creative mind) 4)จติ เคารพ (respect mind) และ5) จิตรจ฾ู ริยธรรม (ethical mind) ซึ่งทั้ง 5 ลักษณะจิตจําเป็นต฾องรับการฝึกฝนและขัดเกลาอยา฽ งต฽อเนอ่ื ง 2.3 การสอื่ สารและการร฽วมมอื ทาํ งาน คือ ทักษะในการส่ือสาร ฟัง พูด อ฽าน เขียน และการทํางานรว฽ มกบั ผอ฾ู ่ืนได฾อย฽างมปี ระสทิ ธภิ าพ 3. ทกั ษะดา้ นสารสนเทศ สอ่ื และเทคโนโลยี ทักษะดา฾ นสารสนเทศ ส่ือ และเทคโนโลยีน้ัน เป็นทักษะและความรู฾ท่ีนักศึกษาจําเป็นท่ีจะตอ฾ งฝึกฝนและเรยี นรู฾ เพื่อให฾มสี ามารถปฏบิ ัตติ นเพื่อรองรับต฽อการเปลี่ยนแปลงทางด฾านเทคโนโลยีในกระแสโลกาภวิ ฒั น์ ซ่งึ จําเปน็ ต฾องมี 3.1 ความรู฾พ้นื ฐานดา฾ นสารสนเทศ คือ สามารถพัฒนา จัดเก็บ สืบค฾น และแพร฽กระจายสารสนเทศเพือ่ สนบั สนุนการทํางานและดําเนินชวี ติ ประจาํ วันไดอ฾ ยา฽ งมปี ระสทิ ธิภาพ 3.2 ความร฾ูพื้นฐานด฾านส่ือ มีความร฾ู ความเข฾าใจ และทักษะในการใช฾ส่ือ ซ่ึงมีอยู฽มากมายในโลกปัจจุบัน และจะเพ่ิมมากข้ึนในโลกอนาคต ต฾องร฾ูเท฽าทันสื่อ และใช฾สื่อเป็นเครื่องมือในการปฏบิ ัติงานได฾ 3.3 ความรู฾พื้นฐานทางเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร เป็นทักษะที่สําคัญ ท่ีนักศกึ ษาจะตอ฾ งมคี วามสามารถในการใชร฾ ะบบคอมพวิ เตอร์ ระบบการสื่อสาร อย฽างถูกต฾อง และอย฽างชาญฉลาด

220 4. ทักษะชีวติ และการทางาน เปน็ ทักษะใหม฽ทค่ี วามสําคัญในการดาํ รงชวี ติ อย฽างมคี วามสขุ ซึ่งประกอบด฾วย 4.1 ความยืดหย฽ุนและความสามารถในการปรับตัว คือ สามารถยืดหยุ฽นและปรับตัวได฾ในทุกสถานการณ์ ไม฽ว฽าจะเป็นการปฏบิ ัตงิ าน หรือ ชีวิตประจาํ วนั 4.2 ความริเร่ิมและการช้ีนําตนเอง เป็นส่ิงท่ีมีความสําคัญเน่ืองจากเป็นทักษะที่ต฾องพัฒนาให฾ตัวเราสามารถดําเนินชีวิตไปในทางที่ถูกต฾อง ไม฽ดําเนินชีวิตผิดธรรมนองคลองธรรม หรือจรยิ ธรรม รวมถึงกฎหมาย 4.3 ทักษะทางสังคมและการเรียนรู฾ข฾ามวัฒนธรรม เน่ืองจากในอนาคตการทํางานมิได฾อยู฽เพียงแต฽ภายในประเทศเท฽านั้น แต฽การทํางานในอนาคตจะเปิดกว฾างมากท้ังในระดับภูมิภาคอาเซียนและระดับโลก ดังน้ันนักศึกษาจําเป็นท่ีจะต฾องมีการฝึกฝนทักษะทางสังคม และการเรียนร฾ูและทาํ งานข฾ามวัฒนธรรมของตา฽ งประเทศได฾ 4.4 การเพ่ิมผลผลิตและความร฾ูรับผิด คือ การใช฾เทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือเพิ่มผลผลิตใหก฾ บั องค์กร รวมถงึ การรบั ผดิ ชอบตอ฽ ส่ิงที่ได฾ทาํ ขน้ึ 4.5 ความเป็นผ฾ูนําและความรับผิดชอบ ประการสุดท฾ายคือ จะต฾องฝึกความเป็นผ฾ูนําและมคี วามรับชอบตอ฽ หน฾าท่ีของตนเองท่ีไดร฾ บั มอบหมาย และความรับผิดชอบต฽อสังคม โดยสรุปทักษะท่ีสําคัญในโลกอนาคตท่ีนักศึกษาจําเป็นต฾องมีการเตรียมตัวทั้ง 5 ทักษะ คือแนวคิดสําคัญในศตวรรษที่ 21 ทักษะการเรียนร฾ูและนวัตกรรม ทักษะด฾านสารสนเทศ สื่อและเทคโนโลยี และทักษะชีวิตและการทํางาน เพื่อจะได฾เป็นพลเมืองท่ีดีและมีความสุขในชีวิตต฽อไปบนโลกใบน้ี

221สรุป ในโลกศตวรรษที่ 21 ซ่ึงเป็นโลกของโลกาภิวัฒน์ ที่มีการเปล่ียนแปลงความก฾าวหน฾าของเทคโนโลยีสารสนเทศอย฽างก฾าวกระโดด เทคโนโลยีสารสนเทศได฾สร฾างการเปลี่ยนแปลงและสร฾างโอกาสให฾แก฽องค์กร เน่ืองจากเทคโนโลยีสารสนเทศก฽อให฾เกิดรูปแบบใหม฽ในการติดต฽อสื่อสารและมีปฏิสัมพันธ์ระหว฽างบุคคล ทําให฾มีการพัฒนาและกระจายตัวของภูมิปัญญา ซึ่งต฾องอาศัยบุคคลท่ีมีความรู฾และความเข฾าใจในการใช฾งานเทคโนโลยีให฾เกิดประโยชน์ ดังน้ันนักศึกษาจึงจําเป็นท่ีจะต฾องร฾ูและสามารถพัฒนาทกั ษะการใชเ฾ ทคโนโลยีสารสนเทศในอนาคตไดอ฾ ย฽างมปี ระสิทธิภาพ กระแสโลกาภวิ ตั น์ทําใหม฾ กี ารเปล่ยี นแปลงทางดา฾ นเทคโนโลยีสารสนเทศ ซ่ึงในอนาคตจะมีการเปลย่ี นแปลงทางดา฾ นเทคโนโลยีสารสนเทศและนวัตกรรมแบบก฾าวกระโดด ระบบคอมพิวเตอร์จะมีการใช฾เท็บเล็ตและสาร์ทโฟนมากขึ้น จะมีการใช฾ซอฟต์แวร์แบบ SaaS และโมบายแอพพิเคช่ันมากขึ้น รวมถึงระบบคลาวด์คอมพิวต้ิง เครือข฽ายสังคมออนไลน์ โซเซียลคอมเมิรซ์ กันอย฽างแพร฽หลายรวมถึงยังมีแนวโน฾มเทคโนโลยีสารสนเทศอื่นๆ ได฾แก฽ แนวโน฾มด฾านข฾อมูลที่ในอนาคตองค์กรจะพบกับบิ๊กดาต฾าหรือข฾อมูลมหาศาลท่ีจะต฾องมีการบริหารจัดการอย฽างมีประสิทธิภาพ การวิเคราะห์ข฾อมูลธุรกิจ (BA) จะถูกนํามาใช฾เป็นเครื่องมือทางธุรกิจมากข้ึน รวมถึงแนวโน฾มกรีนไอทีท่ีจะต฾องคํานึงถึงการรักษาและเป็นมิตรกับส่ิงแวดล฾อม ความปลอดภัยและมาตรฐานด฾านเทคโนโลยีสารสนเทศ และสาร์ทซิตี้ท่ีจะพัฒนาให฾เป็นจังหวัดอัจฉริยะ ท่ีใช฾เทคโนโลยีสารสนเทศยกระดับคุณภาพชีวิตของคนชมุ ชนใหด฾ ขี น้ึ และนวตั กรรมดา฾ นเทคโนโลยีสารสนเทศในอีก 5 ปขี า฾ งหนา฾ การใช฾เทคโนโลยีสารสนเทศในอนาคตจําเป็นจะต฾องคํานึงถึงความรับผิดชอบต฽อสังคม ท้ังในระดับบุคคลและระดับองค์กร รวมถึงการใช฾เทคโนโลยีสารสนเทศที่คํานึงถึงสิ่งแวดล฾อม และผลกระทบของสภาพของสิง่ แวดล฾อมทจี่ ะได฾รบั ผลกระทบจากการใช฾ระบบเทคโนโลยสี ารสนเทศ การเปล่ียนแปลงทางด฾านเทคโนโลยีในอนาคตจึงทําให฾เกิดการปฏิรูปการทํางานในอนาคตซึ่งจะเกิดรูปแบบใหม฽ในการใช฾ข฽าวสารบนฐานเทคโนโลยี และองค์กรจําเป็นต฾องมีการปรับตัวเพื่อรองรบั การเปลย่ี นแปลงท่จี ะเกดิ ขึน้ ประการสุดท฾าย การปฏิบัติตนให฾ทันต฽อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีสารสนเทศในอนาคตซง่ึ เป็นโลกของการเรียนรู฾ ดงั น้ันจึงจําเป็นต฾องมีการพัฒนาทักษะท้ัง 5 ด฾าน คือ แนวคิดสําคัญในศตวรรษที่ 21 ทักษะการเรียนร฾ูและนวัตกรรม ทักษะด฾านสารสนเทศ ส่ือ และเทคโนโลยี และทกั ษะชวี ติ และการทาํ งาน เพื่อใหส฾ ามารถปรบั ตัวรองรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นอนาคต สามารถใช฾เทคโนโลยสี ารสนเทศอย฽างชาญฉลาดและรู฾เท฽าทัน เพื่อเป็นเคร่ืองมือในการสร฾างความสําเร็จให฾กับตนเอง และเปน็ เครื่องมอื ในการสรา฾ งชยั ชนะในการแข฽งขนั ขององคก์ ร

222 คาถามทบทวน 1. จงอธิบายการเปล่ยี นแปลงของกระแสโลกาภวิ ตั น์ทเ่ี กิดข้ึนในศตวรรษที่ 21 2. จงอธบิ ายแนวโนม฾ การใชร฾ ะบบคอมพวิ เตอรใ์ นอนาคต 3. จงอธบิ ายแนวโน฾มระบบสื่อสารโทรคมนาคมในอนาคต 4. จงอธิบายแนวโน฾มดา฾ นขอ฾ มลู ในอนาคต 5. จงยกตวั พร฾อมอธิบายนวตั กรรมดา฾ นเทคโนโลยีสารสนเทศในอกี 5 ปีข฾างหน฾ามา 5ตัวอย฽าง 6. จงอธิบายความสาํ คญั ของการใชเ฾ ทคโนโลยสี ารสนเทศกับความรับผิดชอบต฽อสังคมในอนาคต 7. จงอธิบายการทํางานกับการใช฾ขา฽ วสารบนฐานเทคโนโลยสี ารสนเทศในอนาคต 8. จงอธิบายแนวคิดสาํ คญั ในศตวรรษที่ 21 9. ทาํ อย฽างไรนักศึกษาจึงจะฝึกทักษะการเรยี นรแู฾ ละนวตั กรรมได฾ 10. ให฾นักศึกษาอา฽ นประวตั ิของสตีฟ จอบส์ (Steve Jobs) และสรุปถึงแนวคิดในการพัฒนานวัตกรรมของเขา

บรรณานกุ รมกองบรรณาธิการ. (2554). มอื ใหม่หัดใชอ้ ินเทอร์เน็ต ฉบับสมบรู ณ์ สาหรับปี 2012-2013. กรงุ เทพฯ: โปรวชิ ั่น.---. ( 2553). มอื ใหม่หัดใช้อนิ เทอรเ์ นต็ ฉบบั สมบูรณ์ สาหรบั ปี 2510-2511. กรุงเทพฯ: โปรวิชน่ั .---. (2554). Blue Social Network. กรุงเทพฯ: เลิฟ แอนด์ ลิฟ.กระทรวงการพฒั นาสังคมและความมัน่ คง. (2555). สืบค฾น 5 มีนาคม 2555 จาก http://www.m-society.go.th.กระทรวงทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสิง่ แวดล้อม. (2555). สบื ค฾น 1 มีนาคม 2555 จาก http://www.warehouse.mnre.go.th/mnre.กระทรวงเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสาร (2555). สืบค฾น 1 มีนาคม 2555 จาก http://www.mict.go.th/main.php?filename=index.กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สาร. (2551). การใช้งานอนิ เทอร์เน็ตสาหรับผเู้ รมิ่ ตน้ . กรงุ เทพฯ: โครงการอบรมเพ่ือการส฽งเสรมิ และพัฒนาการใช฾ ICT ณ ศนู ย์การเรียนรู฾ ICT ชุมชน.กวรี ตั น์ เพ็งแจม฽ . (2555). Wireless LAN Technology อิสระแหง่ การเชื่อมโยง อสิ ระไปกับโลกไร้ สาย. สืบค฾น 15 เมษายน 2555 จาก http://www.buycoms.com/upload/coverstory/121/Wireless.html.กติ ิมา เพชรทรพั ย์. (2555). Network Technology. สบื คน฾ 30 เมษายน 2555 จาก http://www.thaigoodview.com/library/contest2551/tech04/20/wireless/n05. html.กลม฽ุ งานเทคนคิ และระบบเครือขา฽ ย. (2555). งานบรกิ าร. สืบคน฾ 15 เมษายน 2555 จาก http://network.dusit.ac.th/mainคุณากร คจั ฉวัฒนา. (2554). Next Technologies 2012. eLeader, (22) ธันวาคม, 46-54.โครงการสารานกุ รมไทยสาหรบั เยาวชน โดยพระราชประสงค์ในพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั . สารานกุ รมไทยสาหรบั เยาวชน เล่มท่ี 16. (2555). สบื คน฾ 25 มกราคม 2555 จาก http://kanchanapisek.or.th/kp6/New/sub/book/book.php?page=main&book =16.จตุชัย แพงจันทร์ และอนโุ ชต วฒุ ิพรพงษ์. (2551). เจาะระบบ Network. (พมิ พค์ รั้งท่ี 2). นนทบรุ ี: ไอดซี ี อินโฟ ดสิ ทริบวิ เตอร์ เซ็นเตอร์.จริยธรรมในสังคมสารสนเทศ. (2551). สืบคน฾ 27 พฤษภาคม 2551 จาก http://sukane.blogth.com.ชนวฒั น์ โกญจนาวรรณ. (2550). การจดั การสารสนเทศสาหรับผู้นาองคก์ รและผบู้ รหิ าร. กรุงเทพฯ: เอ็กซเปอรเ์ น็ท.

224ชัชวาลย์ วงษป์ ระเสริฐ. (2548). การจัดการความรใู้ นองค์กรธุรกจิ . กรุงเทพฯ: เอ็กซเปอร์เน็ท.ซี เอส ล็อกซอินโฟ. (2551). กฎหมายคอมพฉ์ บับนกั ไอที. กรงุ เทพฯ: ซี เอส ลอ็ กซอินโฟ.ชูเกียรติ ต้ังคุณสมบัติ. (2549). การพัฒนาองค์กรแห่งการเรียนรู้เพ่ือเพิ่มความสามารถทางการแข่งขัน ในอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับไทยตามนโยบายภาครัฐ. ดุษฎนี ิพนธ์ หลกั สูตรรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภฏั สวนดสุ ิต.ณัฏฐพันธ์ เขจรนันทน์ และไพบูลย์ เกียรติโกมล. (2551). การวิเคราะห์และออกแบบระบบ สารสนเทศ. กรงุ เทพฯ: ซีเอด็ ยเู คช่ัน.ณัฐกร สงคราม. (2553). การออกแบบและพัฒนามัลตมิ เี ดียเพื่อการเรียนรู้. กรงุ เทพฯ: สาํ นักพิมพ์ แหง฽ จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย.ณัฐพร มักอดุ มลาภ. (2554). คู่มือเรียนรู้และใช้งานอนิ เทอร์เน็ตเบือ้ งต้น. นนทบุรี: ไอดซี ฯี .ณาตยา ฉาบนาค. (2548). ระบบสารสนเทศเพอื่ การส่ือสาร. กรุงเทพฯ: เอส.พ.ี ซี. บ฿คุ ส์.ดวงพร เก๋ียงคาํ . (2551). คูม่ ือการสร้างเว็บไซท์ด้วยตนเอง. (พมิ พค์ ร้ังท่ี 3). กรงุ เทพฯ: โปรวิชน่ั .ดารณี พิมพ์ช฽างทอง. (2552). ระบบสารสนเทศในองค์กร. กรงุ เทพฯ: ทรปิ เพล้ิ กร฿ุป.เดลนิ ิวสอ์ อนไลน์. (2553). “สอ่ื ใหม่” บนสนามข่าว. สบื คน฾ 13 กรกฎาคม 2553 จาก http://www.dailynews.co.th.ทวีศักดิ์ กาญจนสุวรรณ. (2552). เทคโนโลยมี ลั ตมิ เี ดีย: Multimedia Technology. กรุงเทพฯ: เคทีพี คอมพ์ แอนด์ คอนซลั ท.์ทิศทางเทรนด์ผบู้ ริโภคปี 2011จะไปทางไหนดี. (2554). สบื คน฾ 5 มีนาคม 2555 จาก www.softbizplus.com/it/932-hot-trends-2011.เทคโนโลยี Wi-Fi. (2553). สบื ค฾น 15 ธันวาคม 2554 จาก http://fluck14.wordpress.com.ไทยก฿อฟดอ็ ทเน็ต. (2555). ตัวอยา่ งไซตท์ า่ ของเวบ็ ไซตไ์ ทยก๊อฟด็อทเน็ต. สบื ค฾น 23 กมุ ภาพนั ธ์ 2555 จาก http://www.thaigov.net.ธนกร หวงั พพิ ฒั นว์ งศ์, อานนท์ ไกรเสวกวิสัย และ สราวธุ ิ ราษฎรน์ ิยม. (2553). ระบบคน้ หา รูปภาพโดยใชห้ ลักการเวบ็ เชงิ ความหมาย. กรงุ เทพฯ: สาํ นักงานคณะกรรมการ การอดุ มศกึ ษา.นาตยา คชนิ ทร. (30 ธนั วาคม 2554). เกาะแนวโนม฾ เทคโนโลยี 2555 ‘แทบ็ เลบ็ อลั ตร฾าบ฿ุกและ คลาวด์’. เดลนิ ิวส์, หนา฾ 10.นา้ํ ทพิ ย์ วิภาวิน และ นงเยาว์ เปรมกมลเนตร. (2551). นวตั กรรมห้องสมดุ และการจัดการความรู้. กรุงเทพฯ: ซเี อที โซลชู ั่น.เนคเทค. (2555). Semantic KM. สบื ค฾น 23 กุมภาพนั ธ์ 2555 จาก http://text.hlt.nectec.or.th/ontology/content/what-is-semantic-km.แนวโน้มของเทคโนโลยสี ารสนเทศ. (2555). สืบค฾น 5 มนี าคม 2555. จาก http://www.bcoms.net/temp/lesson12.asp.บดินทร์ วจิ ารณ์. (2550). การจัดการความรู้ สู่...ปัญญาปฏิบัติ. กรุงเทพฯ: เอ็กซเปอร์เน็ท.บญุ ดี บญุ ญากิจ และคณะ. (2549). การจัดการความรทู้ างทฤษฏสี ูก่ ารปฏบิ ตั ิ. กรงุ เทพฯ: สถาบัน เพิม่ ผลผลติ แห฽งชาติ.

225บุญญลักษม์ ตํานานจิตร. (2553). ระบบการจัดการองค์ความรู้. (พิมพ์คร้ังที่2). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดสุ ิต.ประดิษฐ์ ภิญโญภาสกลุ . (2555). Virtual Office และ Teleworking บนอินเทอร์เน็ต. สืบค฾น 5 มีนาคม 2555 จาก http://web.ku.ac.th/schoolnet/snet1/network/ virtual_off.html.ปริศนา มัชฌิมา. (2552). การสบื คน้ สารสนเทศขน้ั สูง. (พิมพค์ รั้งที่ 3). กรงุ เทพฯ: ศนู ยห์ นังสือ มหาวทิ ยาลัยราชภฏั สวนดสุ ิต.----. (2554). เอกสารประกอบการสอน การจัดการฐานข้อมูลเบื้องตน้ . (พิมพ์ครัง้ ท่ี 3). กรุงเทพฯ: เอ็ม แอนด์ เอ็ม เลเซอรพ์ ริน้ ต์.ปิยพร เชีย่ วชูศกั ด.์ิ (2554). ทอ่ งโลกออนไลน์ ดู ช็อป แชท ครบวงจร. กรุงเทพฯ: สวัสดี ไอท.ีฝุายผลิตหนังสือตําราวชิ าการคอมพวิ เตอร์. (2551). การสือ่ สารข้อมลู และเครือขา่ ย. กรุงเทพฯ: ซเี อด็ ยูเคชน่ั .----. (2550). ระบบเครอื ขา่ ยเบอ้ื งตน้ . กรงุ เทพฯ: ซเี อ็ดยูเคชนั่ .พงษ์ศักดิ์ ผกามาศ. (2553). ระบบไอซที แี ละการจัดการยุคใหม่. กรงุ เทพฯ: วติ ต้กี รปุ .พรรณี สวนเพลง. (2552). เทคโนโลยีสารสนเทศและนวัตกรรมสาหรับการจัดการความรู้. กรุงเทพฯ: ซเี อ็ดยเู คชัน่ .พนิดา ตันศริ ิ. (2554). เว็บเชงิ ความหมายของเวบ็ 3.0. Executive Journal, 5(2), 48-55.พนิดา พานชิ กลุ . (2553). เทคโนโลยสี ารสนเทศ. กรุงเทพฯ: เคทพี ี คอมพ์ แอนด์ คอนซัลท์.พุฒ ก฾อนทอง. (2550). ระบบสื่อสารข้อมลู และเครือข่ายคอมพวิ เตอร์. สบื ค฾น 25 เมษายน 2555 จาก http://www.cnt.obec.go.th/huaikrot/network.พิศาล พิทยาธุรวิวัฒน์. (2551). ติดต้ังระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ Intranet/Internet ฉบบั ผูเ้ ริม่ ตน้ . กรงุ เทพฯ: ซเี อด็ ยูเคช่ัน.พสิ ษิ ฐ์ ชาญเกยี รติก฾อง. (2550). การออกแบบโครงข่ายคอมพวิ เตอร์. ปทุมธาน:ี มหาวทิ ยาลยั รงั สิต.ภาวุธ พงษวทิ ยภานุ และ สธุ น โรจนอ์ นสุ รณ์. (2551). e-Marketing เจาะเทคนคิ การตลาด ออนไลน์. กรงุ เทพฯ: ตลาด ดอท คอม.ภิเษก ชัยนิรนั ดร.์ (2555). กลยทุ ธ์การตลาด Social Media. กรงุ เทพฯ: ซีเอ็ดยเู คชั่น.--. (2553). การตลาดแนวใหม่ ผา่ น Social Media. กรงุ เทพฯ: ซีเอด็ ยเู คชั่น.--. (2552). Marketing Click: กลเม็ดเคล็ดลับกับการตลาดออนไลน์. กรุงเทพฯ: ซีเอด็ ยูเคช่ัน.มหาวิทยาลัยมหิดล. (2547). พระไตรปฏิ กฉบับคอมพิวเตอร์บน Internet. สบื คน฾ 25 มกราคม 2555 จาก http://budsir.mahidol.ac.th.มหาวิทยาลยั ราชภฏั สวนดุสติ . (2555). อนิ ทราเนต็ ของมหาวทิ ยาลยั ราชภฏั สวนดุสติ . สบื คน฾ 23 กมุ ภาพันธ์ 2555 จาก http://intranet.dusit.ac.th/index.php.มารยาท โยทองยศ. (2554). การสืบคน้ ข้อมลู สารสนเทศผา่ นเครอื ขา่ ยอินเทอร์เนต็ เพ่ือการวิจัย. สืบคน฾ 20 ธนั วาคม 2554 จาก http://research.bu.ac.th/news/f_list/news388/1.pdf.

226ยุทธนา แซ฽เตียว. (2547). การวัด การวิเคราะห์ และการจัดการความรู้ : สร้างองค์กร อัจฉรยิ ะ. กรุงเทพฯ: สถาบันเพ่ิมผลผลิตแหง฽ ชาติ.รอฮมี ปรามาส. (2554). โลกเครอื ข่าย: อนาคตของอินเทอร์เน็ต. กรุงเทพฯ: โฟสต์บุ฿กส.์ระบบคน้ หาขอ้ มูลด้วยเสียง. (2554). สืบคน฾ 20 ธนั วาคม 2554 จาก http://www.aspirecreation. com/blog/google-voice-search.ราชบัณฑิตยสถาน. (2554). เครือข่ายสังคมออนไลน์. สบื ค฾น 5 กมุ ภาพนั ธ์ 2555 จาก http://www.royin.go.th/th/knowledge/detail.php?ID=4357.--. (2542). พจนานุกรมฉบับราชบณั ฑติ ยสถาน พ.ศ. 2542. สบื ค฾น 5 ตลุ าคม 2554 จาก http://rirs3.royin.go.th/dictionary.asp.รินรดา โยธาปาน และอรสมุ น ศานตวิ งศส์ กลุ . (2555). การสือสารขอ้ มูล. สืบค฾น 15 เมษายน 2555 จาก http://www.student.chula.ac.th/~49438788/__3.html.วรพจน์ วงศ์กิจรง฽ุ เรือง และ อธิป จติ ตฤกษ.์ (2554). ทกั ษะแห่งอนาคตใหม่: การศึกษาเพือ่ ศตวรรษท่ี 21. กรุงเทพฯ: โอเพน฽ เวิลดส์ .วิกพิ ีเดียสารานกุ รมเสรี. (2554). เครอื ข่ายสงั คมออนไลน์. สบื ค฾น 5 กมุ ภาพนั ธ์ 2555 จาก http://th.wikipedia.org.วิจารณ์ พานิช. (2555). ตัวอย่างเว็บไซต์ทใ่ี ชส้ ถาปัตยกรรมระบบการจดั การความรู้. สืบค฾น 23 กุมภาพันธ์ 2555 จาก http://www.gotoknow.org/blogs/posts/479712.วิเชียร เปรมชัยสวัสด์ิ. (2551). ระบบสารสนเทศเพ่ือการจัดการ. กรุงเทพฯ: สมาคมส฽งเสริม เทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุน).วิบลู ย์ พฤกษย์ นิ ดี. (2553). แนะนําหนังสือ Semantic Web Programming. วารสารรม่ พฤกษ์, 28(1), 169-187.ศิริพร กนกชัยสกลุ . (2553). เครือขา่ ยสงั คมออนไลน์ (Social Networking Website). สืบค฾น 5 กุมภาพันธ์ 2555 จากhttp://www.bu.ac.th/knowledgecenter/executive_ journal/jan_mar_10/pdf/2 9-32.pdf.ศรีไพร ศกั ดิ์รุ฽งพงศากลุ . (2551). ระบบสารสนเทศและเทคโนโลยีการจดั การความรู้. กรงุ เทพฯ: ซีเอด็ ยเู คชั่น.ศภุ ชยั ตัง้ วงศศ์ านต.์ (2551). ระบบการจัดเกบ็ และการสืบค้นสารสนเทศดว้ ยคอมพิวเตอร์. กรงุ เทพฯ: โรงพิมพ์พิทักษ์การพิมพ.์ศนู ย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร. (2555). โปรแกรมระบบงาน. สืบคน฾ 28 กุมภาพนั ธ์ 2555 จาก http://ict.moph.go.th.ศนู ยเ์ ทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร. (2552). แผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศและการ ส่อื สารสานักงานปลัดกระทรวงและสานกั งานรัฐมนตรี พ.ศ. 2552-2556. สืบค฾น 30 มกราคม 2555 จาก http://www.m-culture.go.th/it/ckfinder/ userfiles/ files/srm4.pdf.ศนู ย์เทคโนโลยอี ิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แหง฽ ชาติ. (2554). เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์. สบื ค฾น 10 ธันวาคม 2554 จาก http://elearning.nectec.or.th.

227ศูนย์นวัตกรรมและเทคโนโลยกี ารศึกษา. (2553). แนวโนม้ การจัดการเรียนการสอนยุค 2011. นครราชสมี า: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยสี ุรนาร.ีศูนยป์ ระสานงานการรักษาความปลอดภยั คอมพวิ เตอร์ ประเทศไทย. (2551). แนวโน้มด้านความ ปลอดภัยในอนาคต. สืบคน฾ 27 พฤษภาคม 2551 จาก http://thaicert.nectec.or.th/ paper/basic/SANS.Trend.pdf.เศรษฐพงศ์ มะลิสุวรรณ. (2553). สังคมเครอื ขา่ ย (social Network) ตอนที่ 2. สบื คน฾ 5 กมุ ภาพนั ธ์ 2555 จาก http://www.vcharkarn.com/varticle/41454.สขุ ุม เฉลยทรพั ย์และคณะ. (2551). เทคโนโลยีสารสนเทศ. (พิมพ์คร้ังที่ 6). กรุงเทพฯ: มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั สวนดสุ ิต.สุชาดา นภิ านันท์. (2551). การจัดการความรขู้ องนักศกึ ษามหาวิทยาลัยราชภฏั สวนดุสิต. สบื คน฾ 23 กุมภาพนั ธ์ 2555 จาก http://www.idis.ru.ac.th/report/index.php?topic=6716.20;wap2.สุธี พงศาสกุล และ ณรงค์ ลํา่ ด.ี (2551). เวบ็ เทคโนโลยี. กรงุ เทพฯ: เคทพี ี คอมพ์ แอนด์คอนซัลท์.สวุ ิช ถริ ะโคตร. (2554). เวบ็ ไซต:์ ทฤษฎแี ละหลกั การ. มหาสารคาม: มหาวทิ ยาลัยมหาสารคาม.สาํ นักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์. (2554). โครงการหลักของสานกั งานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องคก์ ารมหาชน). สบื ค฾น 28 กมุ ภาพันธ์ 2555 จาก http://www.ega.or.th/Content.aspx?m_id=61.สาํ นกั เทคโนโลยเี พ่ือการเรยี นการสอน สํานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พื้นฐาน. (2554). e-book คืออะไร. สบื คน฾ 23 พฤศจิกายน 2554 จาก http://210.246.188.51.สาํ นกั วทิ ยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลยั ราชภัฏสวนดุสิต. (2554). ฐานข้อมูล ออนไลน์. สบื ค฾น 23 ธนั วาคม 2554 จาก http://arit.dusit.ac.th/database.php.อรรถกร เก฽งพล. (2548). ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ: Management information systems. กรุงเทพฯ: เจเนซสิ มเี ดียคอม.อตริ ฒุ ม์ โตทวีแสนสุข. (2552). Mobile App สายพันธไุ์ ทย. สืบค฾น 13 กรกฎาคม 2553 จาก http://www.marketinggoops.com/news/tech-mobile/thai-application.อัมรินทร์ เพ็ชรกุล. (2553). อนิ เทอรเ์ นต็ ฉบบั สมบูรณ์. กรุงเทพฯ: ซิมพลิฟาย.อิทธพิ ล ปรีตปิ ระสงค์. (2552). ประเภทของเครือข่ายสงั คมออนไลน์. สืบคน฾ 5 กมุ ภาพันธ์ 2555 จาก http://www.gotoknow.org/blogs/posts/288469.โอภาส เอ่ียมสริ วิ งศ์. (2554). ระบบสารสนเทศเพื่อการจดั การ. กรุงเทพฯ: ซีเอด็ ยเู คช่นั .Aitken, R. (2010). Building for the future with virtual learning. Strategic HR Review. 9, 29-34.Architecture of cloud computing. (2010). Retrieved March 5, 2012, from http://myreportmsit24ite612.blogspot.com/2010/10/architecture-of-cloud- computing_05.html.

228Armbrust, M. et al. (2009). Above the Clouds: A Berkeley View of Cloud Computing. Retrieved February 10, 2012, from http://x-integrate.de/x-in- cms.nsf/id/DE_Von_Regenmachen_und_Wolkenbruechen_Impace_2009_ Nachlese/$file/abovetheclounds.pdf.Beynon-Davies P. (2007). Models for e-government. Transforming Government: People, Process and Policy. 1,7-28.Business Pundit. (2010). 25 Most Promising New Products for 2010. Retrieved February 26, 2012, from http://www.businesspundit.com/25-most- promising-new-products-for-2010.Cleveland, C. (2011). Cleveland Clinic Unveils Top 10 Medical Innovation for 2011. Retrieved January 30, 2012, from http://my.clevelandclinic.org/ media_relations/cleveland-clinic-unveils-top-10-medical-innovations-for- 2011.aspx.Computer maintenance tips. (2012). Retrieved December 5, 2011, from http://www.infohq.com/Computer/computer_maintenance_tip.htm.Craiq. (2011). Mobile web is more important than apps for business communication. Retrieved March 5, 2012, from http://craigpearce.info/ marketing/mobile-web-is-more-important-than-apps-for-business- communication.Dean, M. (2012). What Is a Virtual Classroom?. Retrieved February 26, 2012, from http://www.ehow.com/about_5476106_virtual-classroom.html.Hatua, S. R. (2006). E-Journal. Retrieved November 20, 2006, from http://www.geocities.com/sudiphatua/ejn.html.iMarketing team. (2011). iMarketing 10.0. Bangkok: Pro-vision.Innetrex. (2012). Wireless installation. Retrieved April 30, 2512, from http://www.innetrex.com/wireless_install.php.Inhabitat. (2012). Retrieved March 5, 2012, from http://inhabitat.com/university- of-leicester-unveils-green-alice-supercomputer.Jarvis. (2009). Augmented reality technology and communication. Retrieved March 5, 2012, from http://www.zonkio.com/augmented-reality- technology-and-communication_1700.html.Laudon, K.C. & Laudon, J.P. (2000). Management information system. (6th ed). Upper Saddle Rever, New Jersey: Prentice Hall.Male, G. & Pattison, C. (2011). Enhancing the quality of e-learning through mobile technology. Campus-Wide Information Systems. 28, 331-344.

229McQuerry S. (2512). Network World. Retrieved April 29, 2512, from http://www.networkworld.com/redesign08/subnets/cisco/053008-ch1-ccna- prep-library.html?page=10.NECTEC's IPv6 Testbed. (2011). IPv6. Retrieved January 20, 2555, from http://www.ipv6.nectec.or.th.Omar, A., Kalulu, D., & Belmasrour, R. (2011). Enhanced instruction: the future of e-learning. International Journal of Education Research. 6, 21-37.Online Market Trend. (2012). Retrieved March 5, 2012, from http://www.onlinem arketing-trends.com/2012/03/27-media-time-consumed-by-mobile.htmlO’Sullivan, D. & Dooley, L. (2009). Applying Innovation. Thousand Oaks: SAGE.Pizza company facebook. (2555). Retrieved March 5, 2012, from http://th-th. facebook.com/thepizzacompany.Puangpronpitag S. (2003). Design and Performance Evaluation of Multicast Congestion Control for the Internet. LEEDS: School of Computing. University of Leeds. Retrieve April,15, 2012 from http://4glory.exteen.com/20070118/communication-modesRadar, N. & Nova, S. (2007). Web Technology. Retrieved January 13, 2011, from www.radarnetworks.com.Sah, R. (2011). 5 Trends in Software Development for 2012. Retrieved February, 3 2012 from http://pcquest.ciol.com/content/Developer/2011/111110102.asp.Sheehan, M. (2009). Peer-to-Peer is NOT “Cloud Computing” But… . Retrieved April 29, 2512, from http://blog.gogrid.com/2009/05/07/peer-to-peer-is- not-cloud-computing-but%e2%80%a6/.Shutterstock. (2012). Retrieved March 5, 2012, from http://www.shutterstock.com/ pic-55093723/stock-vector-green-computer.htmlSmith, D. (2006). Exploring Innovation. Berkshire: McGraw-Hill.Snowden, D., (2003). การบรรยายในการสัมมนาเรื่อง “การจัดการความรู้: สู่วงจร คุณภาพท่ีเพิ่มพูน”. จัดโดยสํานักมาตรฐานอุดมศึกษา ทบวงมหาวิทยาลัย เม่ือวันท่ี 22 พฤษภาคม 2546 ณ โรงแรมสยามซิต้ี กรงุ เทพฯ.Technology-p3. (2555). เทคโนโลยีกับการพฒั นา. สืบคน฾ 5 มนี าคม 2555 จาก http://technology-p3.blogspot.com/2011/10/green-technology.htmlTouchphoneview. (2512). QR Code. Retrieved March 5, 2512, from http://www.touchphoneview.com/news/qr-code.Tsai, A. (2011). A hybrid e-learning model incorporating some of the principal learning theories. Social Behavior and Personality. 39, 145-152.

230Web 3.0. (2010). Retrieved January 15, 2511, from http://www.mkttwit.com.Wikipedia. (2512). HTML 5. Retrieved March 5, 2512, from th.wikipedia.org/wiki/HTML5Williams, B.K., Sawyer, S.C. & Hutchinson, S.E. (1999). Using information technology: A practical introduction to computers & communications. (3rd ed). Boston: Irwin/McGraw-Hill.42u. (2012). Green Data Center. Retrieved March 5, 2012, from http://www.42u.com/datacenter-solutions.htm