2024 ทำไม setting ใน smartphone ม เลข 1 ส แดง

เลข IMEI ของตัวเครื่องโทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ต เป็นอีก 1 สิ่งสำคัญที่ผู้ใช้งานหลายๆ คนมักจะใช้ในการตรวจสอบตัวเครื่องก่อนทำการซื้อเครื่องมาใช้งาน แต่เชื่อว่ายังมีอีกหลายๆ คนยังคงสงสัยอยู่ว่าเลข IMEI คืออะไร และมีประโยชน์อย่างไร รวมถึงเราจะสามารถตรวจดูได้อย่างไรบ้าง วันนี้จะพาไปรู้จักและรู้วิธีการตรวจดูเลข IMEI ผ่านบทความด้านล่างนี้

2024 ทำไม setting ใน smartphone ม เลข 1 ส แดง

IMEI (อีมี่) คืออะไร? ชื่อไทยอย่างเป็นทางการคือ "รหัสสากลประจำอุปกรณ์เคลื่อนที่" หากจะอธิบายแบบง่ายๆ IMEI หรือ International Mobile Equipment Identity นั้นก็เสมือนเป็นหมายเลขบัตรประชาชนของโทรศัพท์รุ่นนั้นๆ ที่แสดง หรือบ่งบอกตัวตนของตัวเครื่อง โดยจะมีเลขตัวเลข 15 หลัก แบ่งเป็น 4 กลุ่ม ดังนี้

  • เลข 6 ตัวแรก จะอยู่ในกลุ่ม TAC (Type Approval Code) โดยจะบ่งบอกถึงรหัสของประเทศนั้นๆ ซึ่งจะดูได้จากเลข 2 จากใน 6 ตัวแรก
  • เลขลำดับที่ 7 และ 8 จะอยู่ในกลุ่ม FAC (Final Assembly Code) จะบ่งบอกถึงแหล่งผลิต หรือโรงงานที่ผลิตขึ้นมา
  • เลขลำดับที่ 9 ถึง 14 จะอยู่ในกลุ่ม SNR (Serial Number) จะเป็นรหัสซีเรียล หรือหมายเลขประจำของตัวเครื่องนั้น
  • เลขลำดับที่ 15 จะอยู่ในกลุ่ม SP (Spare) จะเป็นเลขสำรองหลักสุดท้าย
    • เช่นเลข IMEI 490154100837810
      • 490154 จะเป็นเลข TAC
      • 10 จะบ่งบอกแหล่งผลิต (ดูแหล่งผลิตตามตัวเลขตามในตาราง)

2024 ทำไม setting ใน smartphone ม เลข 1 ส แดง

  • 083781 เป็นหมายเลขซีเรียลตัวเครื่อง
  • 0 เป็นเลขที่สำรองไว้ ส่วนมากจะเป็นเลข 0

2024 ทำไม setting ใน smartphone ม เลข 1 ส แดง

2024 ทำไม setting ใน smartphone ม เลข 1 ส แดง

เลข IMEI มีไว้ทำไม? ประโยชน์หลักๆ ของเลข IMEI ที่เราสามารถพบเจอได้ในชีวิตประจำวันเลย นั้นคือการแสดงตัวตนของตัวเครื่องผ่านผู้ให้บริการเครือข่ายที่เราได้นำ SIM Card มาใช้งานนั้นเอง ซึ่งหลายๆ คนคงเคยได้ยินหรือพบเจอด้วยตนเอง ยามที่โทรศัพท์ สมาร์ทโฟน แฟบเล็ตเครื่องโปรด หรือของคนใกล้ชิดได้หายไป และสิ่งแรกที่ต้องทำคือการแจ้งหายไปยังผู้ให้บริการเครือข่ายในบ้านเรา

2024 ทำไม setting ใน smartphone ม เลข 1 ส แดง

และพวกเขาก็จะทำการขอหมายเลข IMEI ไว้เพื่อช่วยในการค้นหา เมื่อยามที่เครื่องเปิดใช้งานนั้นเอง และในต่างประเทศบางประเทศนั้น ยังมีข้อบังคับให้ผู้ให้บริการเครือข่ายนั้นๆ ได้ระบุเลข IMEI ลงไปพร้อมกับชื่อของผู้ใช้งานทันทีที่มีการซื่อ-ขายเครื่องอีกด้วย เพื่อป้องกันการขโมยในภายหลัง และประโยชน์อีกอย่างที่ผู้ใช้งานในบ้านเรานิยมใช้กันก็คือ การนำเลข IMEI ไว้ตรวจดูหรือใช้เป็นหลักฐานในการซื้อ-ขายตัวเครื่อง

จะดูเลข IMEI ได้จากที่ไหนบ้าง?

Android

  • จากข้างกล่อง

2024 ทำไม setting ใน smartphone ม เลข 1 ส แดง

  • จากการกดหมายเลข *

    06#

2024 ทำไม setting ใน smartphone ม เลข 1 ส แดง

  • จากเมนู Status ใน Setting

2024 ทำไม setting ใน smartphone ม เลข 1 ส แดง

  • ตัวเครื่องใต้ฝาแบตฯ

2024 ทำไม setting ใน smartphone ม เลข 1 ส แดง

iPhone หรือ iOS

  • จากกล่องผลิตภัณฑ์

2024 ทำไม setting ใน smartphone ม เลข 1 ส แดง

  • ด้านหลังตัวเครื่อง

2024 ทำไม setting ใน smartphone ม เลข 1 ส แดง

  • ดูผ่าน iTunes

2024 ทำไม setting ใน smartphone ม เลข 1 ส แดง
2024 ทำไม setting ใน smartphone ม เลข 1 ส แดง

  • ดูจากเมนู About

2024 ทำไม setting ใน smartphone ม เลข 1 ส แดง

  • จากการกดหมายเลข *

    06#

2024 ทำไม setting ใน smartphone ม เลข 1 ส แดง

หวังว่าบทความนี้อาจมีประโยชน์กับผู้ใช้งานหลายๆ ท่าน ที่ต้องการตรวจเช็คหรือจดหมายเลข IMEI เก็บไว้ก่อน รวมถึงการทำความรู้จักกับความหมายของหมายเลข IMEI จากบนตัวเครื่องสมาร์ทโฟน และ แท็บเล็ตของแต่ละรุ่นให้มากขึ้นกันอีกนิด

บทความนี้ ร่วมเขียน โดย . โจเซฟ อเล็กซานเดอร์เป็น CEO ของ Mobile Kangaroo ร้านซ่อมครบวงจรและผู้แทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของ Apple ในเมาเท่นวิว แคลิฟอร์เนีย Mobile Kangaroo รับซ่อมอุปกรณ์ไฟฟ้าอย่าง คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ และแท็บเล็ตมากว่า 16 ปี พวกเขาเป็นผู้แทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของ Apple ในพื้นที่มากกว่า 20 เมือง

มีการอ้างอิง ที่อ้างอิงอยู่ในบทความ ซึ่งสามารถพบได้ทางด้านล่างของบทความ

บทความนี้ถูกเข้าชม 38,880 ครั้ง

คงเซ็งแย่ ถ้าหยิบมือถือมาจะโทรออก แต่ทำยังไงก็ขึ้นแต่ข้อความ “emergency calls only” หรือ "โทรฉุกเฉินเท่านั้น" อย่าเพิ่งเครียดไป เพราะจริงๆ แล้วเป็นเรื่องที่พบบ่อย โดยเฉพาะคนที่ใช้มือถือ Android บทความวิกิฮาวนี้เลยจะมาแนะนำวิธีการแก้ไขปัญหาที่พบบ่อยให้เอง แป๊บเดียวก็กลับไปคุยต่อได้แล้ว

  1. จะว่าไปแล้วซิมชิ้นเล็กๆ นี้ก็เหมือนกระดูกสันหลังของมือถือเลย ต้องใส่ซิมให้ถูก มือถือถึงจะใช้งานได้ ปกติซิมจะอยู่ในถาดด้านข้างของเครื่อง หรือแถวก้อนแบตเตอรี่ ที่ด้านหลังของเครื่อง ต่อไปนี้เป็นเคล็ดลับการถอดและใส่ซิม
    • ถ้าอยู่ในถาดใส่ซิม: ใช้ปลายลวดหนีบกระดาษหรือก้านต่างหูแหลมๆ จิ้มเข้าไปใสรูเล็กๆ ข้างช่องใส่แบตของมือถือ แล้วเลื่อนถาดใส่ซิมออกมา เพื่อหยิบซิม จากนั้นใส่ซิมกลับเข้าไปใน slot สังเกตด้วยว่ามุมตัดของซิมนั้นพอดีกับกรอบของถาด
    • ถ้าอยู่แถวแบตเตอรี่: แกะฝาหลังของมือถือออก แล้วถอดแบตเตอรี่ ก็จะเจอ slot ใส่ซิม ให้เลื่อนซิมออกมาจากช่อง แล้วเช็คว่าใส่ซิมให้มุมตัดของซิม ตรงกับมุมตัดของช่องหรือยัง โฆษณา
  1. ติดต่อ call center ของค่ายมือถือที่ใช้ เรื่องขอซิมใหม่. ถอดซิมเก่า แล้วใส่ซิมใหม่ เช็คว่าในหน้าจอยังขึ้น “emergency calls only” หรือเปล่า ถ้ายังมี แนะนำว่าปรึกษาช่างหรือศูนย์บริการดีกว่า เพราะถ้าเปลี่ยนซิมใหม่แล้วก็ยังมีปัญหา แสดงว่ามีชิ้นส่วนไหนเสีย แก้เองไม่ได้
    • ปกติคุณติดต่อขอรับซิมใหม่ได้ฟรี จากค่ายมือถือที่ใช้งาน
  1. เช็คกับค่ายมือถือ ว่าตอนนี้เครือข่ายล่มหรือเปล่า. ปกติถ้าสัญญาณหาย เครือข่ายล่ม ก็แน่นอนว่าจะโทรออกและรับสายไม่ได้ชั่วคราว ลองเช็คข่าวในโซเชียล หรือเว็บ official ของค่ายมือถือดู ว่าตอนนี้เครือข่ายมีปัญหาหรือเปล่า
    • หรือเข้าเว็บ third-party อย่าง DownDetector ก็ได้ จะมีบอกไว้ว่าเว็บไหนหรือเครือข่ายไหนกำลังล่มอยู่ โฆษณา
  1. มือถืออาจจะไม่ได้เชื่อมต่อเครือข่ายที่ดีที่สุดโดยอัตโนมัติ เลยทำให้มีปัญหาการเชื่อมต่อ ลองเปิด “Settings” แล้วเลือก “Connections” กับ “Mobile networks” จากนั้นแตะตัวเลือก “Network operators” ท้ายเมนู แล้วปิดสวิตช์ “Select automatically” จะเห็นรายชื่อสั้นๆ ของเครือข่ายมือถือโผล่มา ให้เลือกอันที่สัญญาณแรงและเสถียรที่สุด
    • ขั้นตอนนี้อาจจะต้องลองผิดลองถูกหน่อย จนเจอสัญญาณที่ดีที่สุด ไม่เจอข้อความ “emergency calls only” ขึ้นมากวนใจอีก
  1. สลับไปใช้ “network mode” ที่แรงน้อยกว่า ใน settings ของมือถือ. เปิด “Settings” แล้วกดปุ่ม “Connections” จากนั้นแตะตัวเลือก “Mobile networks” และ “Network mode” จากนั้นสลับจากตัวเลือกเชื่อมต่อ “LTE/3G/2G” อัตโนมัติ ไปเป็น “2G only” รีเซ็ตสัญญาณแบบนี้น่าจะช่วยให้ข้อความ “emergency calls only” หายไปจากหน้าจอได้
    • เปลี่ยน network mode ช่วยสลับ data preferences ของมือถือ น่าจะช่วยให้ข้อความ “emergency calls only” หายไปได้ โฆษณา
  1. ปัดเมนูแจ้งเตือนลงมาจากด้านบนของหน้าจอ แล้วมองหาสัญลักษณ์รูปเครื่องบิน เจอแล้วแตะได้เลย เพื่อตัดการเชื่อมต่อทั้ง Wi-Fi และเน็ตมือถือ จากนั้นเปิด Aircraft Mode ไว้สัก 5 วินาทีขึ้นไป ค่อยแตะสัญลักษณ์เครื่องบินซ้ำ น่าจะเป็นการทำ soft reset ช่วยให้ข้อความ “emergency calls only” หายไปได้
    • คุณเข้า Aircraft Mode ผ่าน “Settings” ก็ได้ โดยเลือก “Connections” จากในเมนูหลัก จะเห็นตัวเลือก “Flight mode” อยู่ระหว่างปุ่ม “Bluetooth” และ “Mobile networks” ให้เปิดสวิตช์นี้ เพื่อรีเซ็ตสัญญาณมือถือ
    • มือถือบางยี่ห้อหรือบางรุ่นจะขึ้นว่า “Flight Mode”
  1. ออกจากตรงที่คนเยอะๆ ไปลองใช้มือถือในที่โล่ง. สัญญาณมือถือมักไม่ค่อยเสถียร เวลามีคนใช้งานพร้อมกันเยอะๆ ในระยะสัญญาณเสาเดียวกัน ถ้าอยู่ๆ ก็มีข้อความ “emergency calls only” หรือ "โทรฉุกเฉินเท่านั้น" โผล่มา ก็ลองออกจากที่คนเยอะๆ ไปที่ที่คนน้อยแล้วลองโทรดูใหม่
    • เช่น บางทีก็โทรออกไม่ติด เวลาขับรถผ่านพื้นที่การจราจรหนาแน่นในเมือง โฆษณา
  1. ซื้อ backplate หรือแผ่นประกบหลังมือถือใหม่ จากยี่ห้อที่ใช้. ลองเช็คสภาพ backplate ของมือถือตอนนี้ดู ว่าแน่นกระชับไปกับตัวเครื่องหรือเปล่า ถ้าดูไม่ค่อยแนบ แสดงว่าเสาอากาศอาจจะเสียหาย จนทำให้มีข้อความ “emergency calls only” โผล่มา แบบนี้ต้องติดต่อศูนย์บริการของยี่ห้อมือถือที่ใช้ หรือเข้าเว็บ official ก็ได้ ว่าอยากเปลี่ยน backplate ของมือถือรุ่นนั้นๆ ใหม่
  1. กดปุ่ม power ของมือถือ แล้วจะมีปุ่ม “Power off” โผล่มาในหน้าจอ ก็แตะไป แล้วแตะ “OK” เพื่อปิดมือถือให้เสร็จ พอมือถือปิดแล้ว ก็เปิดฝาหลัง แล้วถอดแบตออกมา รอสัก 2 - 3 วินาที ค่อยใส่แบตกลับ ประกอบฝา แล้วเปิดเครื่องดู โฆษณา
  1. ถ้าทำทุกวิถีทางแล้วข้อความ “emergency calls only” ยังไม่หายไป แนะนำให้ทำ factory reset แต่ถือเป็นหนทางสุดท้ายจริงๆ โดยไปที่ “Settings” แล้วแตะ “System”, “Advanced” จากนั้นแตะ “Reset options” เลือก “Erase all data (factory reset)” ตามด้วย “Erase all data” แล้วใส่ PIN มือถือ สุดท้ายแตะ “Erase all data” อีกรอบ หวังว่ารีเซ็ตเครื่องแล้วจะช่วยได้!
    • ย้ำว่าต้อง backup ข้อมูลในมือถือไว้ก่อนทำ factory reset เพราะข้อมูลทั้งหมดจะหายไป เหมือนเครื่องใหม่ที่เพิ่งซื้อมา

ล็อกอินเข้าบัญชีผู้ใช้ของค่ายมือถือ แล้วเช็คว่าชำระค่าบริการหรือยัง. ลองเช็คดูว่าคุณชำระค่าบริการรอบก่อนหรือยัง ให้แน่ใจว่าไม่ได้ค้างค่าบริการหลายเดือน เพราะส่วนใหญ่แค่ไม่ชำระค่าบริการ 2 รอบบิล ค่ายมือถือก็มักระงับสัญญาณ ทำให้ใช้งานต่อไม่ได้