Zero dark thirty 2023 ย ทธการถล ม บ น ลาเดน

เผยแพร่: 30 ม.ค. 2556 11:26 โดย: MGR Online

กำกับ : แคทธารีน บิ๊กกาโลว์ แสดงนำ : มาร์ค สตรอง, โจเอล เอ็ดเจอร์ตัน, เจสสิก้า เชนสแตน, สก๊อตต์ เอดกินส์, เจสัน คลาร์ก กำหนดฉาย : 31 มกราคม 2556

การไล่ล่าตัวโอซามา บิน ลาดิน กลายเป็นสิ่งที่ทั่วโลกให้ความสนใจสูงสุด และมันก็เป็นภารกิจสำคัญในนโยบายการบริหารประเทศของประธานาธิบดีสหรัฐสอง สมัย เป็นเวลากว่าหนึ่งทศวรรษอีกด้วย แต่ท้ายที่สุดแล้ว ทีมเจ้าหน้าที่ CIA ทีมเล็ก ๆ ที่ชาญฉลาดก็เป็นผู้ที่ตามรอยเขาจนพบ ทุกแง่มุมในภารกิจนี้ถูกเก็บงำไว้เป็นความลับ แม้ว่าจะมีการเผยแพร่รายละเอียดบางอย่างต่อสาธารณชน ส่วนที่สำคัญที่สุดมากมายของปฏิบัติการลับครั้งนี้ ซึ่งรวมถึงบทบาทสำคัญของทีม CIA นั้น ก็กำลังจะถูกนำขึ้นจอเงินเป็นครั้งแรกในภาพยนตร์ลุ้นระทึกเรื่องใหม่จาก ฝีมือของทีมผู้สร้างเจ้าของรางวัลออสการ์

เรื่องราวการไล่ล่าและ จับกุมบิน ลาเดนของพวกเขา ซึ่งแม้จะจัดจ้าน แต่ก็ยึดข้อเท็จจริงเป็นหลัก ได้นำพาผู้ชมไปสู่วงในฐานอำนาจและไปสู่แนวหน้าของภารกิจครั้งประวัติศาสตร์ นี้ ที่มีบทสรุปเป็นปฏิ บัติการลอบสังหารพิเศษในคฤหาสน์ลึกลับ ที่ตั้งอยู่ในย่านชานเมืองในประเทศปากีสถาน

หากแต่ช่วงเวลาก่อนหน้าปฏิบัติการจู่โจมนี้เองที่ทำให้ Zero Dark Thirty โดดเด่นแตกต่างจากเรื่องราวบันทึกอื่น ๆ การดั้นด้นควานหาตัวบิน ลาเดน เต็มไปด้วยอันตรายตั้งแต่เริ่มแรก และก็ไม่ใช่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ทุกคนที่มีชีวิตรอดกลับมา ผู้เชี่ยวชาญด้านหน่วยสืบราชการลับบางคนเชื่อว่า ภารกิจนี้ไม่น่าจะสำเร็จได้ แต่ทีมนักวิเคราะห์และนักสอบสวนผู้มุ่งมั่นกลับท้าทายความเป็นไปได้อันน้อย นิดและพิสูจน์ให้เห็นว่าคนเหล่านั้นคิดผิด นี่เป็นครั้งแรกที่ความพยายามในการไล่ล่าตัวโอซามา บิน ลาดินของพวกเขาถูกบอกเล่าออกมาด้วยรายละเอียดที่สมจริง กระชับฉับไว และน่าตื่นเต้นอีกด้วยหละ

สวัสดีค่ะคุณผู้อ่านที่รัก มาดามขอเริ่มเดือนแห่งความรักแบบโหดๆ นิดนึง สวนกระแสกันหน่อยแต่รับรองว่าไม่เอาต์แน่ เพราะภาพยนตร์ที่นำเสนอวันนี้ถือว่ากำลังมาแรง กับกระแสตะวันออกกลาง การันตีด้วยคุณภาพจนได้รับรางวัลจากหลายสถาบัน โดยเฉพาะจากเวทีออสการ์ที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงถึงห้าสาขา ได้แก่ ลำดับภาพ ตัดต่อเสียง ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ดารานำหญิงและบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม แต่จะคว้ามาได้กี่รางวัล มาดามจะเก็บมาอัพเดทให้ทราบหลังสิ้นเดือนนี้ค่ะ

ที่ว่าโหดเพราะเรื่องนี้เกี่ยวกับสงครามตะวันออกกลาง ผู้ก่อการร้ายและการก่อวินาศกรรมระดับโลก โดยกองกำลังที่เรียกตัวเองว่า “กลุ่มก่อการร้ายอัลกออิดะห์” (Al Qaeda หรืออ่านว่า อัล เคดา ก็ได้ค่ะ)...แคบลงไปอีกนิด เรื่องนี้จะโฟกัสที่ภารกิจจับกุมผู้นำกลุ่มก่อการร้ายคนสำคัญอย่าง ‘โอซามา บิน ลาเดน’ (Osama Bin Laden) ก่อนที่เขาจะจบชีวิตด้วยการวิสามัญของกองทัพสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2554 อย่างที่เราทราบกันดี

เรื่องนี้น่าสนใจทีเดียวค่ะ นอกจากเนื้อหาที่ดึงความสนใจคนส่วนใหญ่แล้ว วิธีการนำเสนอก็ค่อนข้างน่าติดตาม ไม่ใช่ความดราม่าสุดขั้วของตัวละคร แต่เป็นกลิ่นอายของหนังแนวสืบสวนสอบสวนที่ทำให้เรื่องนี้มีเสน่ห์ ประกอบกับข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับบิน ลาเดนและกลุ่มผู้ก่อการร้ายไม่ใช่เรื่องหาอ่านได้ง่ายๆ ตามอินเทอร์เน็ต (โดยมากจะรู้แต่เรื่องผลงานอันเลวร้ายซะมากกว่า) ความโหดร้ายและความอับจนของสายลับทำให้เรื่องนี้มีแรงดึงดูดอย่างประหลาด

เริ่มที่เนื้อหาโดยย่อกันก่อน อย่างที่เกริ่นไว้...เรื่องนี้เป็นการเล่าเรื่องภารกิจของหน่วยข่าวกรอง สหรัฐฯหรือที่รู้จักกันดีในนามของ ‘ซีไอเอ’ เปิดเรื่องด้วยโศกนาฏกรรมเขย่าโลกอย่างเหตุการณ์ 9/11 และการมาถึงของสายลับหน้าใหม่อย่าง ‘มายา’ (นำแสดงโดย Jessica Chantain)...จากความไม่รู้กลายเป็นความคลั่งไคล้และมุ่งมั่นจะจับอาชญากรระดับโลก สำหรับมาดาม...การเป็นสายลับผู้หญิงในดินแดนตะวันออกกลาง ความคิดเห็นและความสามารถในการวิเคราะห์ของมายาทำให้เรื่องนี้น่าสนใจ...ความจริงก็เหมือนกับภาพยนตร์สืบสวนระยะหลังๆ ที่นิยมใช้ตัวละครเอก เป็นผู้หญิง...ว่ากันง่ายๆ ก็คือมันท้าทายดี เพราะขนาดผู้ชายอกสามศอกยังยอมแพ้...อะไรทำให้ผู้หญิงตัวเล็กๆ แถมเป็นหน้าใหม่ในวงการจับบิน ลาเดนได้?

มาถึงเรื่องน่าสนใจอีกอย่าง...คือชื่อเรื่อง ขอสารภาพเลยว่าครั้งแรกที่ได้ยินก็ยังนึกไม่ออกว่าหมายถึงอะไร เดาเอาเองว่าน่าจะเป็นโค้ดลับบางอย่างของกองทัพสหรัฐฯ...แต่ข้อสันนิษฐาน ทั้งหมดเป็นอันต้องพับไป เพราะชื่อ “Zero Dark Thirty” เป็นคำศัพท์เฉพาะที่ใช้กันแพร่หลายในวงการทหาร เพราะเขาจะไม่พูดเวลาเจอกันเหมือนปกติชนทั่วไป แต่พูดเป็นโค้ด และเวลา “Zero Dark Thirty” เป็นสำนวนที่ใช้เรียกช่วงเวลาดึกมาก โดยเฉพาะระหว่างเที่ยงคืนเป็นต้นไปจนกระทั่งเวลาพระอาทิตย์ขึ้นของวันถัดมา...

ถ้าอุปมาอุปไมยชื่อเรื่องและเนื้อหาก็ถือว่าเข้าคอนเซปต์อยู่ไม่น้อย เพราะภารกิจลับครั้งนี้ใช้เวลานานหลายปี หนทางก็แสนยากลำบากเพราะนักโทษที่จับได้ให้การวกวนสับสน ราวกับว่าทางการสหรัฐฯ จะไม่มีวันหามันสมองคนสำคัญของกลุ่มอัลกออิดะห์เจอ นอกจากนี้ สถานะของผู้ปฏิบัติการในภารกิจนี้ก็เหมือนอาศัยอยู่ในเงา เพราะเปิดเผยตัวตนไม่ได้ ทำอะไรเป็นที่สนใจก็ไม่ได้เพราะจะทำให้ผู้ร้ายไหวตัว ความเคลื่อนไหวและความเป็นไปได้ในการปฏิบัติภารกิจจึงแทบมองไม่เห็นแสงสว่าง...เหมือนเวลาเที่ยงคืนที่มองแทบไม่เห็นอะไรเลยไม่มีผิด!

และจุดไคลแมกซ์สำคัญก็หนีไม่พ้นคอนเซปต์เดียวกับชื่อเรื่อง ภารกิจอันมืดมนจะสำเร็จหรือไม่...คุณผู้อ่านน่าลองหาโอกาสไปชมที่โรงภาพยนตร์...ถ้าคุณๆ ท่านไหนมีโอกาสชมเรื่อง ‘Argo’ แล้วก็น่าจะชอบเรื่องนี้ด้วย แม้จะออกแนวตึงเครียดและดิบเถื่อนกว่าแต่รับรองว่าไม่มีตกเทรนด์แน่ๆ เพราะเรื่องนี้เขามาแรงจริง

มีหลายคนถามว่าเรื่องนี้สร้างขึ้นจากเรื่องจริงหรือเปล่า มาดามขอเรียกว่าได้แรงบันดาลใจจากเรื่องจริงน่าจะโดนกว่า เพราะเรื่องราวทุกอย่าง Kathryn Bigelow และ Mark Boal ผู้กำกับและผู้เขียนบทนำมาจากเทปบันทึกคำให้การของพยานก่อนการวิสามัญบิน ลาเดน ตามคำสัมภาษณ์ของทีมงานได้ความว่าสายลับผู้หญิงนี้มีการพูดถึงจริง แต่อาจไม่ได้มีคาแรdเตอร์ชัดเจนเหมือนในภาพยนตร์ อย่างไรก็ดี...เธอเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้หน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ สามารถสืบหา แหล่งกบดานและปิดตำนานแกนนำกลุ่มผู้ก่อการร้ายคนสำคัญคนหนึ่งของโลก

อย่างไรก็ดี...ท่ามกลางความโหดร้ายของสมรภูมิรบที่แทบจะหาความปลอดภัยไม่ได้ มาดามก็มองเห็นข้อคิดดีๆ บางอย่างจากเรื่องนี้ว่า “ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น” วีรกรรมหาญกล้าไม่กลัวตายของมายาเป็นตัวอย่างที่ดี อย่างที่เกริ่นไว้ว่าหนทางตามหาตัว บิน ลาเดน ไม่ใช่เรื่องง่าย เวลากว่าสิบปีทำให้เธอต้องปรับตัวและสูญเสียอะไรมากมายหลายอย่าง แต่มายาก็ไม่ย่อท้อจนในที่สุดความพยายามก็ตอบแทน

เราๆ ท่านๆ ก็เช่นกัน...การจะได้มาซึ่งบางอย่าง บางครั้งไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ถ้าเราพยายามและมุ่งมั่น เชื่อว่าผลของมันต้องคุ้มค่าแน่นอน อย่าให้ความผิดหวังกลายเป็นเครื่องเหนี่ยวรั้งและทำให้เราถอดใจไปเสียก่อน ความตั้งใจดีย่อมตอบแทนทุกคนอย่างคุ้มค่าเสมอค่ะ...จบกว่าเราจะพบกันใหม่ สัปดาห์หน้า