ใครที่มองหาเครื่องดูดฝุ่นอัจฉริยะไว้ในบ้านสักเครื่อง วันนี้เรามี รีวิว Mi Robot Vacuum-Mop 2 หุ่นยนต์ดูดฝุ่นอัจริยะใหม่ล่าสุดจาก Xiaomi ที่ไม่ควรมองข้าม เพราะมีเทคโนโลยีที่จัดเต็ม ตั้งแต่การตรวจจับเส้นทางที่แม่นยำ, แรงดูด 2,700Pa เก็บฝุ่นได้เยอะ แถมยังมีคุณสมบัติโต้ตอบอัจฉริยะได้อีกเพียบ! Show
สเปค Mi Robot Vacuum-Mop 2
อุปกรณ์ภายในกล่องอุปกรณ์ที่ให้มาในกล่องของ Mi Robot Vacuum-Mop 2 ถือว่าครบถ้วน ดังนี้
ดีไซน์เล็กน้ำหนักเบาพร้อมฟังก์ชันครบถ้วน!รีวิว Mi Robot Vacuum-Mop 2 ดีไซน์มาในทรงกลม ที่มีความแข็งแรงของงานประกอบมากๆ ครับ รวมถึงน้ำหนักที่ค่อนเบาเพียง 3.6 กิโลกลัมเท่านั้น ทำให้เวลายกหรือย้ายเครื่องก็ทำได้สบายครับ ที่ด้านบนของตัวเครื่อง จะมีปุ่ม Power เพื่อเปิดหรือปิดเครื่อง พร้อมด้วยปุ่ม Home เพื่อสั่งการให้กลับไปยังที่ชาร์จ โดยทั้ง 2 ปุ่มนี้จะมีไฟ LED เพื่อบอกสถานะตัวเครื่องครับ ถัดลงมาจะเป็นกล้องที่เป็นระบบนำทางด้วยภาพที่มีการอัปเกรดใหม่ให้เดินทางได้แม่นยำกว่าเดิมครับ ที่ด้านบนเครื่องยังสามารถเปิดออกมาเพื่อถอดถังเก็บฝุ่นเพื่อนำไปทิ้งหรือทำความสะอาดได้ง่ายๆ และยังมีปุ่มรีเซ็ต Wi-Fi อยู่ด้วยครับ ขณะที่ด้านหน้าจะมีเซ็นเซอร์อินฟราเรดเพื่อตรวจจับวัตถุตรงหน้า พร้อมด้วยแผ่นรับแรงกระแทก ด้านหลังเครื่องจะมีช่องสำหรับระบายอากาศและเป็นช่องสำหรับลำโพงเสียง สำหรับที่ด้านล่างของเครื่องจะมีระบบเซ็นเซอร์ต่างๆ, ล้อหลัก, ขนแปรงหลัก 0.1 มม., ช่องสำหรับใส่แปรงไฟเบอร์ 6 แฉกขนาดเล็ก รวมถึงมีเซ็นเซอร์กันตกจากที่สูงอยู่บริเวณส่วนหน้าและด้านข้างด้วยครับ เริ่มใช้งานด้วย Mi Home และเริ่มติดตั้งอุปกรณ์ก่อนเริ่มใช้งาน Mi Robot Vacuum-Mop 2 เราต้องดึงแผน cover ตัวเครื่องออกที่ด้านบนพร้อมจุกโฟมของทั้ง 2 ด้านครับ จากนั้นให้ใส่ใส่แปรงไฟเบอร์ 6 แฉกที่แถมมาให้ในกล่องลงไป และทำการเสียบปลั๊กของแท่นชาร์จ โดยต้องมีพื้นที่ว่างด้านข้างฝั่งซ้าย-ขวาของแท่นชาร์จที่ 0.5 เมตร และด้านหน้า 1.5 เมตรครับ เมื่อทำขั้นตอนข้างต้นเรียบร้อยแล้ว ก็ให้ทำการดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น Mi Home รองรับทั้ง Android และ iOS จากนั้นให้ทำการเพิ่มอุปกรณ์ “หุ่นยนต์ดูดฝุ่น-ถูพื้น Mi 2” และทำตามขั้นตอนที่ปรากฏบนหน้าจอได้เลยครับ วิธีควบคุมและสถานะต่างๆ ของตัวเครื่อง
สถานะไฟ LED บริเวณปุ่ม Home
สถานะไฟ LED ของ Wi-Fi
ระบบนำทางด้วยภาพแบบไดนามิกในการเริ่มดูดและกวาดฝุ่นครั้งแรกของ Mi Robot Vacuum-Mop 2 อาจจะยังมีการชนสิ่งของบนพื้นห้องหรือกำแพงอยู่ครับ เพราะอยู่ในขั้นตอนการบันทึกแผนที่ห้องอยู่ครับ แต่หลังจากที่ปล่อยให้รอบแรกทำงานจนเสร็จสิ้นเองอัตโนมัติ (ห้ามกดให้เครื่องเข้าที่ชาร์จด้วยตัวเราเอง) เส้นทางการทำความสะอาดถือว่าแม่นยำขึ้นและเริ่มไม่ชนสิ่งกีดขวางครับ ความอัจฉริยะของการตรวจจับเส้นทางและสิ่งกีดขวางของ Mi Robot Vacuum-Mop 2 จะได้กล้องระบบนำทาง vSLAM ที่ตรวจจับแบบเรียลไทม์ และมีการวาดแผนผังที่แทบจะตรงกับลักษณะของห้องเราแบบใกล้เคียง 100% มากๆ ครับ ทั้งนี้ ตัวเครื่องยังได้ใช้หน่วยประมวลผล Quad-core Cortext-A53 เข้ามาเสริมความอัจฉริยะการประมวลผลด้าน AI มากขึ้นเช่นกัน ทำความสะอาดล้ำลึกด้วยขนแปรงบางเพียง 0.1 มม. พร้อมแปรง 6 แฉกที่กวาดทุกเศษฝุ่นเรื่องของเศษฝุ่นต่างๆ ที่อยู่บนพื้น Mi Robot Vacuum-Mop 2 ถือว่าจัดการให้เรียบร้อยเลยทีเดียวครับ พวกเศษฝุ่นผงเล็กๆ หรือเส้นผมจะถูกกวาดเข้าเครื่องได้แบบสบายๆ จากแปรง 6 แฉกและเศษฝุ่นขนาดใหญ่ขึ้นก็จะถูกกวาดด้วยแปรงไฟเบอร์หลักด้านล่างเครื่อง ซึ่งสังเกตได้ทันทีเวลาเราเดินบนพื้นที่ทำความสะอาดเรียบร้อยว่าจะไม่รู้สึกถึงเศษฝุ่นที่ติดที่เท้า ปรับความแรงได้ถึง 4 ระดับ พร้อมแรงดูดมากถึง 2,700PaMi Robot Vacuum-Mop 2 สามารถปรับโหมดทำความสะอาดได้ 4 โหมด ได้แก่ เงียบ, มาตรฐาน, แรง และเทอร์โบ โดยโหมดที่แรงที่สุดจะมีแรงดูดมากถึง 2,700Pa ช่วยให้บริเวณที่มีฝุ่นติดแน่นหลุดออกมาได้ง่ายๆ เลย ที่สำคัญการทำงานของเครื่องนี้ก็ครอบคลุมกับห้องขนาดใหญ่ถึง 150 ตารางเมตร เข้าได้ทุกที่ด้วยขนาดที่เล็กและสูงเพียง 81.5 มม.นอกจาก Mi Robot Vacuum-Mop 2 จะทำความสะอาดบนพื้นทั่วไปแล้ว ในส่วนของบริเวณใต้โต๊ะหรือโซฟาที่มีช่องว่างด้านล่างน้อยมากๆ ก็สามารถเข้าถึงได้แน่นอนเพราะมีความสูงของตัวเครื่องเพียง 81.5 มม. เท่านั้นครับ ทำให้เราไม่ต้องกังวลว่าเครื่องจะหมุนไปติดขอบโซฟาหรือโต๊ะเตี้ยเลย เรียกว่าทำความสะดวกได้ครอบคลุมทั่วทุกมุมจริงๆ ข้ามสิ่งกีดขวางสูงไม่เกิน 20 มม. ได้ง่ายดายไม่ใช่แค่จะเข้าถึงใต้โต๊ะใต้โวฟาได้เท่านั้น แต่ Mi Robot Vacuum-Mop 2 ยังสามารถข้ามสิ่งกีดขวางที่มีความสูงไม่เกิน 20 มม. ได้สบายๆ ได้แก่ ข้ามวงกบประตู, รางประตู และพรมได้แบบสบาย ไม่มีติดขัดแน่นอนครับ แก้ไขแผนที่หรือจะให้ดูดฝุ่นจุดไหนก็ควบคุมได้เอง!เมื่อเราปล่อยให้เครื่องทำความสะอาดและจบการทำงาน 1-2 รอบด้วยตัวเองโดยอัตโนมัติแล้ว เราจะได้แผนผังห้องของเราในแอปตามที่เกริ่นที่ข้างต้นครับ ซึ่งรายละเอียดที่ให้มาในแผนผังแม่นยำมากๆ มีการแยกสีของแต่ละห้อง อย่างที่เรารีวิวจะสีเหลืองจะเป็นห้องนั่งเล่นและเมื่อข้ามรางประตูไปก็จะเป็นสีน้ำเงินที่เป็นห้องนอนครับ โดยเราสามารถตั้งชื่อห้องได้ที่ฟังก์ชันแก้ไขชื่อในแอป Mi Home เลยครับ ทั้งนี้เมื่อได้แผนผังมาแล้ว อีกฟีเจอร์ที่ถูกใจมากๆ เลยคือกำแพงเสมือนที่จะเป็นการจำกัดการทำงานของเครื่องตามพื้นที่ที่เราต้องการ หรือจะเลือกเป็นโซนได้เลยว่าห้ามเข้าดูดฝุ่นหรือถูพื้นครับ หรือจะเลือกโซนเฉพาะจุดให้ไปทำความสะอาดก็ได้เหมือนกันครับ สั่งการด้วยเสียงก็ยังได้!เมื่อเราเชื่อมต่อกับ Mi Home ไปแล้ว เราก็ยังสั่งการด้วยเสียงผ่าน Google Assistant (ต้องเชื่อมต่อผ่านแอป Google Home) ได้เช่นกันครับ เช่น “เปิดหุ่นยนต์ดูดฝุ่น” หรือ “ชาร์จหุ่นยนต์ดูดฝุ่น” เป็นต้น ใครที่ถนัดสั่งด้วย Alexa ก็ทำได้เหมือนกันครับ ไม่ได้แค่กวาดอย่างเดียวเพราะถูพร้อมกันไปเลย !อุปกรณ์ถังน้ำพร้อมแผ่นถูพื้นที่แถมมาในกล่องเราก็ทำการเชื่อมได้ที่หลังเครื่องครับ โดยที่เราสามารถเติมน้ำเปล่าได้มากสุดถึง 250 มิลลิลิตร โดยตัวแผ่นถูพื้นจะทำปล่อยน้ำพร้อมถูพื้นได้อย่างอัจฉริยะ และยังทำการกวาดตามระบบเดิมได้ต่อเนื่อง และใครที่กลัวว่าพื้นจะเป็นรอยก็หายห่วงได้เลยครับ เพราะการทำงานค่อนข้างถนอมพื้นผิวเป็นอย่างดี ซึ่งจากที่ลองใช้ เราแทบไม่จำเป็นต้องมาถูพื้นให้เสียเวลา พวกคราบน้ำที่ติดอยู่บนพื้นก็ถูกถูออกไปได้ง่ายครับ ทั้งนี้ เราก็ยังปรับระดับน้ำได้ 3 ระดับ ได้แก่ ต่ำ, ปานกลาง และสูง เก็บฝุ่นได้เยอะไม่ต้องไปทิ้งบ่อยๆสำหรับถังเก็บฝุ่นที่ให้มาสามารถจุได้มากถึง 500 มิลลิลิตร สามารถดึงออกมาเพื่อไปทำความสะอาดหรือล้างน้ำได้ทันทีครับ แต่ก่อนที่จะใส่กลับเข้าไปในเครื่องก็รอให้ถังเก็บแห้งก่อนครับ ฟีเจอร์อื่นๆ ให้มาเพียบนอกเหนือจากฟีเจอร์หลักๆ ที่เราได้บอกไปแล้ว ก็ยังมีฟีเจอร์อื่นที่ให้มาเยอะมากๆ ไม่ว่าจะเป็นการตั้งเวลาเพื่อทำความสะอาด, ดูประวัติการทำความสะอาด, เปิดโหมดห้ามรบกวนตามเวลาที่กำหนดได้, ค้นหาเครื่องดูดฝุ่นได้ และสามารถตรวจสอบได้ว่าตัวกรอง แปรงด้านข้าง หรือแปรงหลักเหลืออายุการใช้งานกี่เปอร์เซ็นต์ ใช้งานได้นานหลายรอบ
สรุปการใช้งานจากที่ได้ลองใช้งาน Mi Robot Vacuum-Mop 2 จริงๆ เหมาะมากสำหรับคนที่ไม่มีเวลาในการทำความสะอาดห้องบ่อยๆ ครับ ปล่อยให้เครื่องได้ทำงานเองโดยอัตโนมัติได้ ซึ่งก็ทำความสะอาดเศษฝุ่นและถ้ายิ่งเราสั่งถูให้ด้วยก็คือดีจริงๆ ครับ ประหยัดเวลาได้เยอะมาก จำกัดคราบน้ำต่างๆ ได้ดี และการใช้งานก็มีให้เลือกหลายฟังก์ชันและทำงานได้แม่นยำตามที่เราได้ตั้งค่าเอาไว้ในแอป Mi Home แต่สิ่งที่พอสังเกตได้เลยคือบริเวณฝุ่นที่อยู่ชิดกับกำแพงจะไม่ถูกดูดเข้าครับ (หรือถ้ามีก็น้อยมากๆ) เพราะตัวเครื่องที่ออกแบบให้เน้นการทำงานของห้องแบบกว้างๆ เป็นหลักอยู่แล้วครับ ราคาและวันวางจำหน่ายMi Robot Vacuum-Mop 2 สนนราคาเพียง 8,499 บาท เริ่มวางจำหน่ายในวันที่ 30 มกราคม 2565 ผ่านทาง Xiaomi store, ร้านค้าที่ร่วมรายการ และช่องทางออนไลน์ ดังนี้
โดยจะมีโปรโมชันพิเศษตั้งแต่วันที่ 30 มกราคม – 13 กุมภาพันธ์ 2565 รับฟรี! Mi Body Composition Scale 2 มูลค่า 690 บาท Related Topics:Mi Robot Vacuum-Mop 2reviewVacuumXiaomiรีวิว Up Next รีวิว ASUS ExpertBook B7 Flip โน้ตบุ๊คพรีเมี่ยมสายธุรกิจ ประสิทธิภาพเยี่ยมด้วย Intel Core i7 และ Windows 11 Pro ตั้งแต่แกะกล่อง Don't Miss รีวิว Redmi Note 11 สมาร์ทโฟนที่ก้าวสู่ความท้าทายใหม่ด้วยสเปคสุดแรง Snapdragon 680 ชาร์จไว 33W Pro และกล้อง 50MP Advertisement You may like
|