ถือเป็นยุคแรกๆ ที่มีโทรศัพท์มือถือใช้บนโลกใบนี้ ในยุค 1G นั้น เครื่องโทรศัพท์ยังเป็นแบบปุ่มกดนูนๆ ที่มาพร้อมกับเสาอากาศขนาดใหญ่ ในยุคนั้นเครื่องโทรศัพท์ทำได้เพียงแค่การโทรเข้า-ออก และรับสายหรือที่เรียกว่าเป็นการสื่อสารแบบอนาล็อก โดยหลักการของการสื่อสารแบบอนาล็อกนั้น จะเป็นการส่งสัญญาณแบบ FDMA (Frequency Division Multiple Access) หรือแบ่งช่องความถี่เป็นแบบย่อยๆ หลายช่อง แล้วใช้สัญญาณวิทยุส่งคลื่นเสียงไปยังสถานีรับส่งสัญญาณ หนึ่งคลื่นความถี่จึงเท่ากับหนึ่งช่องสัญญาณ การใช้บริการระบบโทรศัพท์จึงใช้ได้เพียงช่องความถี่ที่ว่างอยู่เท่านั้น ในยุค 1G จึงไม่สามารถรับส่งข้อความใดๆ ได้ และไม่รองรับการใช้งานจำนวนมาก อีกทั้งยังมีปัญหาเรื่องการดักฟังโทรศัพท์ได้ง่าย Show
ยุคนี้มีการพัฒนาจากแบบอนาล็อกมาเป็นดิจิทัล ซึ่งอาศัยการเข้ารหัสโดยส่งคลื่นเสียงมาทางคลื่นไมโครเวฟ ทำให้ปลอดภัยในการใช้งาน และช่วยเรื่องสัญญาณเสียงที่คมชัดมากขึ้นโดยใช้เทคโนโลยีที่ผสมผสานระหว่าง FDMA กับ TDMA (Time Division Multiple Access) สามารถรองรับผู้ใช้งานในปริมาณมากขึ้น รวมทั้งส่งข้อความถึงกันได้มากกว่าแค่โทรเข้า-ออก และรับสาย อีกทั้งรูปลักษณ์ของโทรศัพท์ในยุคนี้ได้พัฒนาให้ดูทันสมัย มีน้ำหนักเบา และใช้งานง่ายขึ้น
เป็นช่วงที่มีเทคโนโลยี GPRS (General Packet Radio Service) เกิดขึ้น ทำให้สามารถรับส่งข้อมูลได้มากกว่าแค่ข้อความ แต่เป็นการส่งภาพหรือข้อความในรูปแบบที่หลากหลายมากขึ้นหรือที่เรียกว่า MMS (Multimedia Messaging Service) หน้าจอเริ่มเป็นจอสี เสียงเรียกเข้าเริ่มพัฒนาเป็นแบบ MP3 และเริ่มเล่นอินเตอร์เน็ตบนมือถือได้ด้วยความเร็ว 115 kbps
เป็นยุคของ EDGE (Enhanced Data Rates for Global Evolution) ซึ่งพัฒนาต่อมาจาก GPRS ในยุค 2.75G ผู้คนจึงสามารถเล่นอินเตอร์เน็ตบนมือถือได้ด้วยความเร็วที่มากขึ้นหรือสูงสุดที่ 180 kbps
ถือเป็นยุคที่มีความเปลี่ยนแปลงค่อนข้างมาก เช่น สามารถออนไลน์ผ่านมือถือได้ตลอดเวลา ในขณะที่ยุค 2G จะออนไลน์ได้เฉพาะเมื่อมีการ Log-in เพื่อเชื่อมต่อกับเครือข่ายเท่านั้น แต่ยุค 3G จะมีการเชื่อมต่อกับเครือข่ายตลอดเวลา แต่จะเสียค่าบริการเมื่อมีการใช้ข้อมูลผ่านเครือข่าย ต่างจากยุคก่อนหน้านี้ที่เมื่อ Log-in เข้าระบบจะเสียค่าบริการทันที โดยในยุคนี้ความเร็วของเครือข่ายจะสูงกว่าแบบเดิม เป็นยุคที่เริ่มมีการโทรผ่านอินเตอร์เน็ตได้ คุยแบบเห็นหน้าได้ ประชุมทางไกล ดูทีวีและวีดิโอออนไลน์ ตลอดจนเล่นเกมออนไลน์ได้
ถือเป็นยุคที่มีการประมวลเอาคุณภาพของการสื่อสารยุค 1G-3G มาพัฒนาในเรื่องความเร็วของการรับส่งข้อมูล โดยจะอยู่ที่ 100 Mbps ทำให้สามารถใช้งานกับโทรศัพท์มือถือหรือแท็บเล็ตได้และสัญญาณไม่มีการกระตุก สามารถดูวีดิโอออนไลน์ได้อย่างคมชัด โทรทางไกลข้ามประเทศผ่านอินเตอร์เน็ตม Video Call และประชุมผ่านโทรศัพท์ได้ง่ายดาย ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย อีกทั้งสามารถรองรับระบบโทรศัพท์ VoIP Phone ได้อย่างราบรื่น
สำหรับยุค 5G นั้น ถือเป็นการเข้าสู่การสื่อสารยุคใหม่ของทั่วโลก ปัจจุบันมีเพียงไม่กี่ประเทศที่เริ่มใช้ 5G ในเชิงพาณิชย์ อาทิ จีน เกาหลีใต้ สหรัฐอเมริกา และยุโรปบางประเทศ ส่วนในไทยได้ประมูลคลื่นความถี่กันเป็นที่เรียบร้อยในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ สิ่งที่เปลี่ยนไปเมื่อไทยเปิดใช้เครือข่าย 5G คือ ความเร็วสูงกว่า 4G อย่างมากหรือราวๆ 500 Mbps (หรือขั้นต่ำตั้งแต่ 1Gbps – มากกว่า 10 Gbps) สามารถรองรับเทคโนโลยีที่ขับเคลื่อนด้วยความเร็วสูง อาทิ รถยนต์ไร้คนขับ หุ่นยนต์อัจฉริยะ ตลอดจนการผลักดันเมืองไปสู่การเป็น Smart City เป็นต้น วิวัฒนาการมือถือ จากอดีตจนถึงปัจจุบัน มีอะไรบ้าง ? และอนาคตจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ?วิวัฒนาการมือถือ ถือว่ามาไกลมาก ๆ ตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบันนี้ สมัยก่อนยังเป็นโทรศัพท์ ที่มีสายเครื่องใหญ่ พกพาได้ค่อนข้างลำบาก และที่สำคัญราคาสูงมาก เหมือนเป็นการแบ่งชนชั้นได้เลย ใครมีโทรศัพท์ ณ ตอนนั้น ถือว่าต้องมีฐานะ มากพอสมควร โทรศัพท์ยุคแรก ยังมีคุณสมบัติ เพียงการสื่อสาร ใช้โทรเข้า-ออก แต่ในปัจจุบัน เทคโนโลยีโทรศัพท์ มือ ถือ ปัจจุบัน ยังสามารถทำได้ หลากหลายคุณสมบัติ ไม่ว่าจะใช้อินเทอร์เน็ต ส่งข้อความ ปฏิทิน นาฬิกาปลุก โซเชียลมีเดีย ดูหนัง เล่นเกม เป็นต้น และราคาก็ถูกลง ทำให้มีกำลังซื้อได้ ทำให้ยุคนี้ใคร ๆ ก็พกโทรศัพท์มือถือกัน กลายเป็นอวัยวะที่ 33 ของมนุษย์ก็ว่าได้ ประวัติ และ วิวัฒนาการ ของโทรศัพท์ยุคแรก เป็นยุคของ 1G (1st Generation) ยังเป็นระบบแอนะล็อกอยู่ เครื่องค่อนข้างใหญ่และหนัก หน้าจอใช้ดูได้เพียงตัวเลข และมีเฉพาะปุ่มกด มีฐานวางคล้ายกับโทรศัพท์บ้าน ยุคที่ 2 เป็นยุคของ 2G (2nd Generation) จากยุคแอนะล็อก สู่ยุคดิจิทัล ถ้าบอกว่าเป็น ช่วงรุ่งเรืองของโนเกีย พวกรุ่น 3310 โมโตโรล่าฝาพับ ซัมซุงฮีโร่ วัยรุ่นและผู้ใหญ่ยุคนี้หลาย ๆ คนคงพูดอ๋อ เพราะผ่านมาก่อน เกมงูคือฮิต ตั้งริงโทนคือเจ๋ง ภาพหน้าจอต้องมา ถือว่าบุกเบิกเลยก็ว่าได้ ปัจจัย ที่ มี ผล ต่อ การเปลี่ยนแปลงของ โทรศัพท์ เพราะความต้องการของคน มีมากขึ้น ต้องการโทรศัพท์ ที่ทำอะไรได้มากขึ้น และยังเป็นการ เริ่มใช้ GPRS ความเร็วสูงสุด 115 kbps แต่ใช้จริงอยู่ที่ 40 kbps เท่านั้น และเชื่อมไปถึงยุคที่ 3 2.5Gเป็นการเปลี่ยนแปลง ในเรื่องของการพัฒนา SMS สู่การส่ง MMS จากจอขาว-ดำ เริ่มมาเป็นจอสีแล้ว! รวมถึงเสียงเรียกเข้า หลากหลายมากขึ้น ยุคที่ 4 2.75G ย่อยจุดซะคิดว่าค่าเงิน 555 เป็นยุคที่ต่อเนื่องมา และเพิ่มความเร็ว ในการส่งข้อมูล ที่มีชื่อเรียกว่า EDGE (Enhanced Data rates for Global Evolution) ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 384 kbps แต่ความเร็วจริง อยู่ที่ประมาณ 100 kbps วิวัฒนาการมือถือ ยุคปัจจุบันเข้าสู่ยุคที่ 5 3G แล้ว! (Third Generation) เป็นยุคค่อนข้างปัจจุบันแล้ว และยังมีการใช้งานอยู่ และส่งข้อมูลแบบไร้สาย ที่ความเร็วสูงกว่ายุคก่อน ๆ ที่ผ่านมา เป็นยุคของการรับส่งข้อมูล แอปพลิเคชันต่าง ๆ การรับส่งไฟล์ ที่มีขนาดใหญ่ ได้ง่ายและไว เข้าสู่ยุคออนไลน์ การใช้ Video call มีสตรีมมิง และการดาวน์โหลด ดูหนังฟังเพลงได้ เป็นยุคติดมือถือกันงอมแงม ยุคที่ 6 4G ณ ตอนนี้เลย และถือว่าใหม่สำหรับคนไทย ในขณะที่ประเทศอื่น ใช้กันพักใหญ่ล่ะ เน้นไปที่ความเร็ว ของอินเทอร์เน็ต ความเสถียรของสมาร์ตโฟน แทบจะเป็นตัวช่วยในทุก ๆ อย่างของชีวิต อัปเดตชีวิตประจำวัน ตัวแจ้งเตือน การสื่อสารกับคนอื่น เรียกได้ว่าแทบขาดไม่ได้เลย วิวัฒนาการของโทรศัพท์ อนาคต อาจจะออกไปเที่ยว โดยที่ตัวอยู่บ้านก็ได้ หรืออาจจะไม่ต้องพกเครื่อง หรือเห็นเป็นหน้าจอ บนอากาศเลย ก็อาจจะเป็นไปได้ก็ได้ พูดถึง เทคโนโลยี โทรศัพท์ อดีต การใช้โทรศัพท์มือถือ เรายังจำได้ดีเลย มือถือเครื่องแรกในชีวิต ประมาณมัธยม1 คือโนเกีย 6230 สีเทาใส่เคสซะด้วย รับต่อมาจากพี่สาว จำเป็นต้องใช้ ให้คนขับรถ รับส่งโทรตามกลับบ้าน ใช้เสียงริงโทนเป็นเพลง Gee ยุคฮิตของ Girl generation จำได้ตอนนั้นเขินมาก ไม่กล้าให้ใครเห็น วัยใสฮ่า ๆ กลับมานอนกดเล่นที่บ้าน กดไปกดมาไม่หยุด เพราะตื่นเต้นมีโทรศัพท์แล้ว รู้สึกโตขึ้นแล้ว เหมือนต้องรับผิดชอบมัน คิดแล้วก็ขำ และก็มียุค BlackBerry ที่เราเห็นเพื่อน ๆ ใช้กัน ซึ่งตัวเองไม่เคยใช้ แต่ได้เห็นมาบ้าง 555 ยุคแรกพินของวัยรุ่น ปุ่มและหน้าจออย่างเจ๋ง ห้อยพวงกุญแจยิ่งเท่ ส่วนเรายังคงใช้โนเกีย รุ่นใดสักรุ่นหนึ่งอยู่ นอกจาก ข้อดีของการพัฒนาโทรศัพท์ ก็ย่อมมีข้อเสียคุณกำลังเป็นแบบนี้ อยู่หรือเปล่า ?
เป็นอย่างไรบ้างคะ ข่าวไอที มือถือ ที่เรานำมาให้อ่านกัน นี่ก็เป็นส่วนหนึ่ง ของที่มาโทรศัพท์มือถือ สู่สมาร์ตโฟนที่ทำได้มากกว่า มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ขึ้นอยู่กับผู้ใช้เอง นอกจากนี้เว็บไซต์ ข่าวไอที ยังมีหัวข้ออื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น ข่าวไอทีคอมพิวเตอร์ ข่าวดิจิทัล ข่าวเทคโนโลยี ฯลฯ ให้ได้ติดตามกันอีกด้วย @UFA-X10 เรียบเรียงโดย M.Varin แนะแนวเรื่อง |