การสำรวจภายในทวีปแอฟริกา เริ่มมีอย่าจริงจัง ในคริสต์ศตวรรษที่ 19 Show ภายหลังการปฎิวัติอุตสาหกรรมทำให้เกิดความต้องการแสวงหาแหล่งวัตถุดิบใหม่มาป้อนโรงงานอุตสาหกรรมแหล่งเชื้อเพลิงใหม่คือน้ำมัน แหล่งแร่ ทองคำ รวมทั้งแหล่งระบายพลเมืองที่เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว ชาวยุโรปจึงมีความเห็นว่าทวีปแอฟริกาน่าจะเป็นดินแดนที่ช่วยแก้ปัญหาเหล่านั้นได้ จึงเริ่มให้ความสนใจที่จะเดินทางเข้าไปสำรวจภายในทวีปเพื่อจับจองไว้เป็นอาณานิคม แทนที่จะเดินทางสำรวจชายฝั่งทะเลอย่างที่เคยกระทำมาเมื่อครั้งเริ่มแสวงหาเส้นทางเดินเรือไปยังทวีปเอเซีย อาณาจักรอียิปต์โบราณมีความเจริญรุ่งเรืองติดต่อกันมานานหลายพันปี จนกระทั่งระยะหลังได้ถูกต่างชาติสับเปลี่ยนกันเข้ามาครอบครอง อาทิเช่น อัลซีเรียน เปอร์เซียน กรีก โรมันโดยเฉพาะอาหรับที่เข้ามาครอบแทนที่โรมัน ใน ค.ศ. 1185 ซึ่งมีผลทำให้ดินแดนตอนเหนือของทวีปแอฟริการับถ่ายทอดวัฒนธรรมมุสลิมไว้ทั้งหมด คริสต์ศตวรรษที่ 15 – 16 เบลเยียมเป็นชนชาติแรก ที่เริ่มเข้าไปบุกเบิก และได้ทำการจับจองบริเวณสองฝั่งแม่น้ำซาอีร์ (คองโก) ไว้ใน ค.ศ. 1876 บรรดาประเทศในยุโรปทั้งหลาย อังกฤษและฝรั่งเศสนับว่าเป็นคู่แข่งขันสำคัญในการยึดครอง ดินแดนในทวีปแอฟริกา ดินแดนของฝรั่งเศสส่วนใหญ่จะอยู่ในบริเวณชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ไปจนถึงทะเลทรายและฮารา ส่วนอังกฤษได้เข้าครอบครองบริบริเวณแอฟริกาทางเหนือ ตะวันตก ตะวันออก และจอนใต้ ซึ่งส่วนใหญ่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรมีค่า นอกจากนี้ประเทศอื่น ๆ เช่น อิตาลี สเปน เยอรมัน โปรตุเกส ได้พากันยึดครองดินแดนต่าง ๆ จนในที่สุดเหลือประเทศที่เป็นอิสระเพียง 2 แห่ง คือ ไลบีเรีย และเอธิโอเปีย เท่านั้น การแข่งขันในการแสวงหาอาณานิคมในทวีปแอฟริการดังกล่าวนำไปสู่ความขัดแย้งกัน ระหว่างประเทศมหาอำนาจ และเป็นสาเหตุหนึ่งของสงครามโลก ครั้งที่ 1 (ค.ศ.1914 – 1918) นับตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 (ค.ศ.1939 – 1945 ) เป็นต้นมา ประเทศต่าง ๆ ในทวีปแอฟริกาต่างก็ดิ้นรนในการเรียกร้องเอกราชกันเรื่อยมา และต่างก็ประสบความสำเร็จ ในการปกครองตนเอง อย่างไรก็ตาม การที่แอฟริกาเป็นทวีปใหญ่ที่ประกอบด้วยประเทศใหญ่เล็กมากมาย จึงเป็นดินแดนที่ต้องเผชิญกับปัญหาต่าง ๆ เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ปัญหาสำคัญที่สุดคือปัญหา ทางเศรษฐกิจสังคมที่นำไปสู่การขาดความมั่นคง ทางการเมืองในหลายประเทศ นอกจากนี้ยังมีปัญหาอันเกิดจากนโยบายการแบ่งแยกผิว คือนโยบายอะพาร์ดไฮต์ (Apartheid) ในสาธารณรัฐแอฟริกาใต้ที่รัฐบาลเป็นคนผิวขาว และชนผิวดำไม่ได้รับความเป็นธรรม ซึ่งยังเป็นปัญหาที่แก้ไขไม่ได้มาในปัจจุบัน (ที่มา :http://www.sainampeung.ac.th/chalengsak) ����������¢ͧ���¸������ѹ�� 2.
�ѡ���ô��ؤ���� 3. �Ţͧ�ѡ���ôԹ��� ชาวยุโรปชาติใดที่เข้ามายึดครองดินแดนในแอฟริกาเป็นกลุ่มแรกอาณานิคมในทวีปแอฟริกา ลัทธิอาณานิคมในทวีปแอฟริกา (อังกฤษ: Scramble for Africa) เกิดขึ้นใน ค.ศ. 1885 จากประเทศเยอรมนีโดยการนำของออตโต ฟอน บิสมาร์ค ได้จัดให้มีการประชุมในกรุงเบอร์ลินว่าด้วยข้อตกลงเกี่ยวกับการเข้าครอบครองดินแดนในทวีปแอฟริกา
เพราะเหตุใดชาติตะวันตกจึงต้องการเข้าครอบครองดินแดนในทวีปแอฟริกาสาเหตุการเข้ายึดครอง
เพื่อเปิดประตูการค้าให้กว้างขวางตลอดทั่วภาคพื้นทวีป เพื่อปลดปล่อยชนเผ่าต่างๆให้เป็นอิสระจากพวกนักค้าทาสชาวอาหรับ เพื่อเผยแผ่คริสต์ศาสนาไปยังดินแดนที่ชาวยุโรปเรียกว่ากาฬทวีป ( Dark Continent )
การยึดครองของพวกอาณานิคมในยุคแรกมีจุดประสงค์ใดการเข้ายึดครองแอฟริกาของชาวยุโรปในครั้งนั้นมีข้ออ้าง 3 ประการ คือ 1. เพื่อเปิดประตูการค้าให้กว้างขวางตลอดทั่วภาคพื้นทวีป 2. เพื่อปลดปล่อยชนเผ่าต่างๆให้เป็นอิสระจากพวกนักค้าทาสชาวอาหรับ 3. เพื่อเผยแผ่คริสต์ศาสนาไปยังดินแดนที่ชาวยุโรปเรียกว่า กาฬทวีป ( Dark Continent )
ประเทศยุโรปชาติใดบ้างที่เป็นเจ้าอาณานิคมอาณานิคมและรัฐในอารักขาของอิตาลี. อิตาเลียนแอฟริกาตะวันออก ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1936–1941. บริติชโซมาลีแลนด์ ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1940–1941 (ภาคเหนือของประเทศโซมาเลีย) อิตาเลียนเอริเทรีย ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1882–1936 (ประเทศเอริเทรีย) ... . อิตาเลียนลิเบีย ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1934–1943 (ประเทศลิเบีย). |