5 คนบันเทิง ที่สวยและเหมาะสมเป็น "ผู้อัญเชิญพระเกี้ยว" ในงานฟุตบอลประเพณีจุฬาฯ - ธรรมศาสตร์ ที่มีทั้งความสามารถและเพียบพร้อมมากมายจริงๆ หลังจากที่องค์การนิสิตนักศึกษาจุฬาฯ (อบจ.) ประกาศยกเลิกกิจกรรมขบวน "อัญเชิญพระเกี้ยว" ในงานฟุตบอลประเพณีจุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม ที่ผ่านมา ทำให้มีหลากหลายกระแสถกเถียงถึงประเด็นดังกล่าวนี้เป็นจำนวนมาก สำหรับการอัญเชิญตราพระเกี้ยวเปรียบเสมือนการอัญเชิญพระพุทธเจ้าหลวงทั้ง 2 พระองค์ ซึ่งเป็นผู้พระราชทานกำเนิดมหาวิทยาลัย เข้ามาในงาน และอีกเหตุผลหนึ่งก็คือ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้แก่นักกีฬาและเหล่ากองเชียร์ และหากเราย้อนดูภาพคนบันเทิงที่เคยเป็นตัวแทนนิสิต ได้เป็นผู้อัญเชิญพระเกี้ยว ในงานฟุตบอลประเพณี ที่ผ่านมานั้น สำหรับนางเอกสาวตลอดกาลอย่าง "นุสบา ปุณณกันต์" ได้เป็นตัวแทน ถือพานพุ่ม ในงานประเพณีจุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ และเธอนั้นยังจบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และระดับปริญญาโทในสาขาการบริหารจัดการทางวัฒนธรรม ภาคภาษาอังกฤษ ภาพจาก Mthai อีกหนึ่งนางเอกสาว ที่ ณ ปัจจุบัน เป็นคุณแม่ลูกหนึ่งที่ยังคงความงามได้สวยตลอดกาลเช่นกัน อย่างแม่ "แอฟ ทักษอร" ที่ได้เป็นผู้อัญเชิญพระเกี้ยวในงานฟุตบอลประเพณีฯ ครั้งที่ 55 จากคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ภาพจาก Mthai เช่นเดียวกันกับนางเอกหน้าสวยแถมเต้นเก่งอย่าง "แต้ว ณฐพร" ที่ได้เป็นผู้อัญเชิญพระเกี้ยว ในงานฟุตบอลประเพณีฯ ครั้งที่ 66 จากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เรียกได้ว่าทั้งเก่งและสวยงดงามและเต็มไปด้วยความสามารถจริงๆ ภาพจาก Mthai มาถึงด้านนักร้องสาว อย่าง "ฟาง ธนันต์ธรญ์" หรือที่ใครๆ รู้จักเธอในชื่อ "ฟาง เฟย์ฟางแก้ว" เธอได้เป็นผู้อัญเชิญพระเกี้ยวในงานฟุตบอลประเพณีฯ ครั้งที่ 68 จากคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ภาพจาก Mthai ปิดท้ายที่สาวสวย "ปันปัน เต็มฟ้า" ลูกสาวของนักร้องเสียงดี "แหวน ฐิติมา" จากคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (หลักสูตรนานาชาติ) ซึ่งในงานประเพณีจุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ ครั้งที่ 70 เธอได้เป็นตัวแทน ถือป้ายเปิดงานประเพณีจุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ และเป็นผู้อัญเชิญถ้วยรางวัลพระราชทานอีกด้วย ภาพจาก Facebook CUCoronet
จากกรณีเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมากหลังจากสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แถลงยกเลิกกิจกรรมขบวน “อัญเชิญพระเกี้ยว” ในงานฟุตบอลประเพณีจุฬาฯ–ธรรมศาสตร์ โดยให้เหตุผลว่า เป็นกิจกรรมที่สนับสนุนและสะท้อนถึงระบอบอำนาจนิยม รวมถึงค้ำยันความเชื่อว่าคนไม่เท่ากัน ตามที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น –ยกเลิกอัญเชิญพระเกี้ยวบอลประเพณีจุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ ประวัติ
“พระเกี้ยว” และความสำคัญ “พระเกี้ยว”เป็นศิราภรณ์ประดับพระเกศาหรือพระเศียรของพระราชโอรสและพระราชธิดาของพระมหากษัตริย์ และเป็นพิจิตรเลขาประจำรัชกาลในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทั้งนี้เพราะ พระปรมาภิไธยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวนั้น คือ “จุฬาลงกรณ์” ซึ่งแปลว่า เครื่องประดับศีรษะ หรือ จุลมงกุฎ เจ้านายที่ยังทรงพระเยาว์ จะทรงใช้พระเกี้ยวยอดประดับพระเมาลี (ผมจุก) ในพระราชพิธีโสกันต์ ทางจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมีความสำนึกในความเป็นสถาบันการศึกษาที่กำเนิดจากพระมหากรุณาธิคุณของสถาบันพระมหากษัตริย์ ให้ความสำคัญกับวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของชาวไทยในการแสดงความเคารพต่อสัญลักษณ์แทนองค์พระมหากษัตริย์เสมอมา ด้วยเหตุนี้จึงใช้พระเกี้ยวหรือจุลมงกุฎ เป็นตราสัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัย พร้อมกับปลูกฝังประเพณีอันดีงามแก่บุคลากรและนิสิตทุกยุคสมัยตลอดมา ให้มีความเคารพและเทิดทูนพระบรมราชสัญลักษณ์อันสูงส่งที่ได้รับพระราชทานมาเป็นตราประจำมหาวิทยาลัย การอัญเชิญพระเกี้ยวในงานฟุตบอลประเพณี ในส่วนของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย การอัญเชิญตราพระเกี้ยวเปรียบเสมือนการอัญเชิญพระพุทธเจ้าหลวงทั้ง 2 พระองค์ ซึ่งเป็นผู้พระราชทานกำเนิดมหาวิทยาลัย เข้ามาในงาน และอีกเหตุผลหนึ่งก็คือ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้แก่นักกีฬาและเหล่ากองเชียร์ ดังประโยคที่ดังก้องอยู่ในใจชาวจุฬาฯ ทุกคนว่า “สีชมพูจักอยู่ในกายเจ้า พระเกี้ยวเกล้าจักอยู่เป็นคู่ขวัญ” ข้อมูลจาก เว็บไซต์ของ หอประวัติจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เขียนบทความเกี่ยวกับอัญเชิญพระเกี้ยว ระบุว่า ขบวนพาเหรดในพิธีเปิด งานฟุตบอลประเพณีจุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ทุกปีนั้น เป็นสิ่งที่ได้รับความสนใจจากผู้ชมเป็นอย่างมากในทุกๆ ครั้ง ส่วนหนึ่งในขบวนที่สามารถดึงดูดผู้ชมได้ก็คือ ขบวนอัญเชิญพระเกี้ยว และตราธรรมจักร ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ประจำมหาวิทยาลัยทั้งสองสถาบัน ซึ่งในแต่ละปีแต่ละสถาบันจะจัดขบวนอัญเชิญได้สวยงามไม่แพ้กัน สำหรับการอัญเชิญตราสัญลักษณ์เข้ามาในขบวนพาเหรดของงานฟุตบอลประเพณีฯ ที่เก่าแก่ที่สุด จากหนังสือพิมพ์สยามนิกร (พิเศษ) ฉบับวันจันทร์ที่ 28 ธันวาคม 2507 มีผู้อัญเชิญเป็นนิสิตหญิงเพียงคนเดียว และองค์พระเกี้ยวมีขนาดเล็กกว่าองค์พระเกี้ยวจำลองที่ใช้ในปัจจุบัน การอัญเชิญตราสัญลักษณ์เข้ามาในสนามแข่งขันนั้น เหมือนเป็นการเปิดงาน ทางจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมีการอัญเชิญตราพระเกี้ยว ทางธรรมศาสตร์จะต้องมีตราธรรมจักร ตราสัญลักษณ์ดังกล่าวเปรียบดังทุกสิ่งที่เป็นสถานศึกษาแห่งนั้น จึงสมควรอย่างยิ่งที่จะต้องอัญเชิญเข้ามาในงานฟุตบอลประเพณีจุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ ในความจริงแล้ว นิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยทุกคน มีฐานะเป็นผู้อัญเชิญพระเกี้ยว เนื่องจากเป็นผู้ใช้พระเกี้ยวเป็นตราสัญลักษณ์ประจำสถาบันการศึกษา แต่ในงานฟุตบอลประเพณีฯ ไม่สามารถให้นิสิตจุฬาฯ ทุกคนขึ้นอัญเชิญพระเกี้ยวได้ทั้งหมด ด้วยเหตุนี้จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องคัดเลือกนิสิตจุฬาฯ ที่มีความเหมาะสม การคัดเลือกผู้อัญเชิญพระเกี้ยว ในนิสิตหญิง-ชาย เพียงคู่เดียว ที่จะได้รับหน้าที่ “อัญเชิญพระเกี้ยว” ต้องมีคุณสมบัติครบถ้วนทั้งรูปร่าง หน้าตา บุคลิกภาพ การวางตัว กิริยา มารยาท ผลการเรียน ตลอดจนมีความรู้เกี่ยวกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมีความรู้รอบเหมาะสมกับการเป็นตัวแทนนิสิตจุฬาฯ ที่ถือได้ว่าเป็นภาพลักษณ์ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้อัญเชิญพระเกี้ยว นอกจากนี้ ยังมีหลายคนที่เป็นคนดังในแวดวงต่างๆ อาทิ จิระนันท์ พิตรปรีชา จากคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ ผู้อัญเชิญพระเกี้ยวในงานฟุตบอลประเพณีฯ ครั้งที่ 32, แอฟ-ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ จากคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ ผู้อัญเชิญพระเกี้ยวงานฟุตบอลประเพณีฯ ครั้งที่ 55, แต้ว-ณฐพร เตมีรักษ์ จากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาฯ ผู้อัญเชิญพระเกี้ยวงานฟุตบอลประเพณีฯ ครั้งที่ 66, ฟาง-ธนันต์ธรญ์ นีระสิงห์ จากคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาฯ ผู้อัญเชิญพระเกี้ยวในงานฟุตบอลประเพณีฯ ครั้งที่ 68.. ขอบคุณภาพและที่มาจาก TU Photo, CU100, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, SGCU Camera : รวมภาพกิจกรรมในรั้วจามจุรี, หอประวัติจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, Taewaew_natapohn |