สรุปสาระสําคัญ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๙ Show ๑ ความนำ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๙ (พ.ศ. ๒๕๔๕–๒๕๔๙) เป็น แผนที่ได้อัญเชิญแนวปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ตามพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว มาเป็นปรัชญานำทางในการพัฒนาและบริหารประเทศ โดยยึดหลัก ทางสายกลาง เพื่อให้ประเทศรอดพ้นจากวิกฤต สามารถดำรงอยู่ได้อย่างมั่นคง และนำไป สู่การพัฒนาที่สมดุล มีคุณภาพและยั่งยืน ภายใต้กระแสโลกาภิวัตน์และสถานการณ์เปลี่ยนแปลงต่างๆ ดังนี้ ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เศรษฐกิจพอเพียง เป็นปรัชญาชี้ถึงแนวการดำรงอยู่และปฏิบัติตนของประชาชนในทุกระดับ ตั้งแต่ระดับครอบครัว ระดับชุมชน จนถึงระดับรัฐ ทั้งในการพัฒนาและบริหารประเทศให้ดำเนินไปใน ทางสายกลาง โดยเฉพาะการพัฒนาเศรษฐกิจเพื่อให้ก้าวทันต่อโลกยุคโลกาภิวัตน์ ความพอเพียง หมายถึง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล รวมถึงความจำเป็นที่จะต้องมีระบบภูมิคุ้มกันในตัวที่ดีพอสมควร ต่อการมีผลกระทบใดๆ อันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงทั้งภายนอกและภายใน ทั้งนี้ จะต้องอาศัยความรอบรู้ ความรอบคอบ และความระมัดระวังอย่างยิ่งในการนำวิชาการต่างๆ มาใช้ในการวางแผนและการดำเนินการทุกขั้นตอน และขณะเดียวกันจะต้องเสริมสร้างพื้นฐานจิตใจของคนในชาติ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ของรัฐ นักทฤษฎี และนักธุรกิจในทุกระดับ ให้มีสำนึกในคุณธรรมความซื่อสัตย์สุจริต และให้มีความรอบรู้ที่เหมาะสม ดำเนินชีวิตด้วยความอดทน ความเพียร มีสติ ปัญญา และความรอบคอบ เพื่อให้สมดุลและพร้อมต่อการรองรับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและกว้างขวางทั้งด้านวัตถุ สังคม สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรมจากโลกภายนอกได้เป็นอย่างดี สถานีอนามัยเป็นบริการพื้นฐานทางด้านสาธารณสุขขั้นต้นสำหรับประชาชนใน ชนบท
การพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจและกระจายความเจริญสู่ ภูมิภาค ถือเป็นเป้าหมายหนึ่งของแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ ๔ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๕ (พ.ศ. ๒๕๒๕ - ๒๕๒๙) จากการที่ประเทศไทยได้ทำการพัฒนามาแล้ว ๒๐ ปี ปรากฏว่า เศรษฐกิจขยายตัวค่อนข้างสูง รายได้เฉลี่ยต่อหัวของคนไทยเพิ่มขึ้น การผลิตมีการกระจายตัวอย่างกว้างขวาง ทั้งภาคเกษตร อุตสาหกรรม และพาณิชยกรรม บริการพื้นฐานทางเศรษฐกิจ และสังคม ขยายตัวกว้างขวางขึ้น แต่ปรากฏว่า ยังคงมีปัญหาสำคัญๆ หลายประการ เช่น เรื่องเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ การใช้จ่ายเกินตัว ทั้งของภาครัฐบาล และเอกชน โครงสร้างเศรษฐกิจอ่อนแอ ไม่สามารถปรับตัวได้ทันกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป การเจริญเติบโตทาง เศรษฐกิจยังคงรวมกันอยู่ในกรุงเทพฯ และพื้นที่ ภาคกลางเป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปัญหาความยากจน และการกระจายรายได้ ปัญหาสังคม และปัญหาความเสื่อมโทรมของ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ยังขยายตัว และทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้น ในการจัดทำแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ ๕ จึงได้มีการเปลี่ยนแปลงแนวทางการพัฒนาประเทศ เป็น แนว ใหม่ เช่น
อย่างไรก็ตาม ยังคงมีปัญหาบางประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ที่ดิน ๙๙.๘ ล้านไร่ ที่ยังขาดความอุดมสมบูรณ์ไม่เหมาะกับการเกษตร มีปัญหาเรื่องการบุกรุกทำลายป่า และประชาชน ใน ๓,๘๒๔ หมู่บ้าน ยังขาดแคลนแหล่งน้ำ เพื่อการเกษตร และ ๑๒,๖๗๘ หมู่บ้าน ยังมีปัญหา เรื่องน้ำกิน - น้ำใช้ นอกจากนี้ มีปัญหาเรื่อง การขาดแคลนเงินออม ทำให้จำเป็นต้องพึ่งทรัพยากรจากต่างประเทศมาลงทุน ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาเรื่องหนี้สิน ส่วนการพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก ยังไม่เป็นไปตามเป้าหมาย เพราะรัฐบาลจำเป็นต้องจำกัดขนาดของการลงทุน เพื่อรักษาเสถียรภาพทางด้านการเงินการคลังต่อไป แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ มีกี่ฉบับประเทศไทยมีการใช้แผนพัฒนาเศรษฐกิจฯมาตั้งแต่ปี 2504 จนถึงปัจจุบันผ่านระยะเวลากว่า 60 ปี มี "แผนพัฒนาฯ" 12 ฉบับ
แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับใดที่มุ่งให้ "คนเป็นศูนย์กลางการพัฒนา"9) แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 9 (พ.ศ. 2545–2549) มุ่งพัฒนาประเทศภายใต้ แนวคิดที่เรียกว่า “อัญเชิญปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงน าทางการพัฒนา” ต่อเนื่องจากแผนพัฒนาฯ ฉบับ ที่ 8 ที่ยึด “คนเป็นศูนย์กลางการพัฒนา” โดยมุ่งการพัฒนาที่สมดุลทั้งด้านตัวคน สังคม เศรษฐกิจ และ สิ่งแวดล้อม เพื่อพัฒนาสู่ “สังคมที่เข้มแข็งและ ...
แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 ถือเป็นแผนประเภทใดสำหรับร่างแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 13 ถือเป็นแผนระดับที่ 2 ซึ่งเป็นกลไกที่สำคัญในการแปลงยุทธศาสตร์ชาติไปสู่การปฏิบัติและกำหนดทิศทางการพัฒนาที่ประเทศควรมุ่งเน้นในระยะ 5 ปีถัดไปคือปี 2566-2570.
แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 9 เน้นอะไรแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 9 (พ.ศ. 2545-2549) สาระสำคัญ : มีการอัญเชิญปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นแนวทางในการพัฒนา ดำเนินการต่อเนื่องในเรื่องของการเน้นคนเป็นศูนย์กลางในการพัฒนา และการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศภายหลังวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจปี พ.ศ. 2540.
|