ผ่านพ้นไปแล้วกับการเปิดตัวอุปกรณ์ใหม่จากทาง Apple ที่ส่งอุปกรณ์ออกมาถึง 2 รุ่นด้วยกันคือ iPhone 5C มาพร้อมสีสันสดใสแบบ Colorful ซึ่งฉีกแนวความเป็น iPhone จากเดิมที่เน้นเพียงสีขาวและสีดำเท่านั้น ส่วนอีกรุ่นคือ iPhone 5S มาพร้อมดีไซน์เรียบหรู โดยมาพร้อมชิปเซ็ตที่แรงขึ้นกว่าเดิม อีกทั้งยังเป็นเครื่องแรกของโลกที่ใช้สถาปัตยกรรม 64 bit ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมเดียวกับที่ใช้บนคอมพิวเตอร์ โดยการมาของอุปกรณ์รุ่นใหม่ทั้ง 2 ทำให้ทาง Apple ออกคำสั่งยกเลิกการผลิต iPhone 5 ซึ่งวันนี้เราจะมาเปรียบเทียบให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่าง iPhone 5, iPhone 5C และ iPhone 5S ว่ามีความแตกต่างกันตรงส่วนให้บ้าง ตารางเปรียบเทียบรายละเอียดของ iPhone5S, iPhone 5C และ iPhone 5 คลิกดูรายละเอียดเพิ่มเติมเปรียบเทียบ iPhone 5, iPhone 5C และ iPhone 5S รูปแบบดีไซน์ตัวเครื่อง iPhone 5, iPhone 5C และ iPhone 5S มีดีไซน์และรูปแบบตัวเครื่องเหมือนกัน แต่มีความแตกต่างกันตรงวัสดุที่นำมาใช้กับตัวเครื่อง ในส่วนของ iPhone 5 และ iPhone 5S ตัวเครื่องทำจากวัสดุอลูมิเนียมคุณภาพ มาพร้อมดีไซน์เรียบหรู โดยมีขนาด สูง 123.8 มม. กว้าง 58.6 มม. หนา 7.6 มม. น้ำหนัก 112 กรัม ส่วน iPhone 5C มีความสูงและความหนาเพิ่มขึ้นเล็กน้อยประมาณ 0.6 มม. ตัวเครื่องทำจากพลาสติก Polycarbonate ที่มีน้ำหนักเบา สามารถกันความร้อนและแรงกระแทกได้ดี สี iPhone 5 มีให้เลือก 2 สี คือ สีขาว
และสีดำ หน้าจอ ทั้ง iPhone 5, iPhone 5C และ iPhone 5S มีขนาดหน้าจอและความละเอียดเท่ากัน โดยใช้หน้าจอแสดงผล Retina กว้าง 4 นิ้ว ความละเอียด 1136x 640 (326 ppi) หน่วยประมวลผลชิปเซ็ต iPhone 5 และ iPhone 5C ขับเคลื่อนด้วยหน่วยประมวลผลที่เหมือนกัน คือชิปเซ็ต A6 (ARM Cortex-A15) ที่มีความแรงกว่า A5 ถึง 2 เท่า ในแง่ของการประมวลผลต่างๆ รวมทั้งภาพกราฟิกให้ดีขึ้น iPhone 5S ถูกปรับให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมด้วยหน่วยประมวลผล A7 (ARM Cortex-A57) ซึ่งออกแบบด้วยสถาปัตยกรรม 64-bit (เป็นสถาปัตยกรรมเดียวกับที่ใช้บนคอมพิวเตอร์) ที่จะทำให้การเรนเดอร์ภาพมีความไหลลื่นขึ้นและเพิ่มความสามารถในการประมวลผลกราฟฟิกให้มีประสิทธิภาพสูง โดยเป็นสมาร์ทโฟนเครื่องแรกของโลกที่ใช้สถาปัตยกรรมนี้ นอกจากนั้นยังมีการเพิ่มหน่วยประมวลผล M7 ที่เข้ามาเสริมในเรื่องของการตรวจสอบและเก็บข้อมูลการเคลื่อนไหวของร่างกาย เหมาะที่จะนำไปใช้งานร่วมกับแอพพลิเคชั่นเกี่ยวกับการออกกำลังกาย ระบบปฎิบัติการ iPhone
5 รันบนระบบปฏิบัติการ iOS6 หน่วยความจำ กล้อง ในส่วนของ iPhone 5C มีคุณสมบัติเพิ่มเติมคือ ตัวเลนส์ถูกครอบทับด้วย Sapphire crystal ที่มีคุณสมบัติในการป้องกันการเสียดสีที่อาจจะทำให้เกิดรอยบนเลนส์ และการบันทึกวีดีโอด้วยกล้องหลังสามารถซูมได้ถึง 3 เท่า iPhone 5S มีคุณสมบัติเพิ่มเติมและมีการปรับเปลี่ยนคุณสมบัติบางประการ คือ เลนส์ของกล้องถ่ายภาพถูกปรับให้มีขนาดรูรับแสง f/2.2 มีการลดขนาดของจุดรับแสงบนเซ็นเซอร์ลงเหลือเพียง 15 ไมครอนต่อ 1 พิกเซล ทำให้สามารถวางจุดรับแสงบนเซนเซอร์ได้มากขึ้น ขนาดของรูปภาพจึงมีขนาดใหญ่ขึ้น ผลลัพที่ได้คือทำให้ขนาดของเช็นเซอร์ทั้งชิ้นนั้นโตขึ้นประมาณ 15% ภาพที่ได้จึงมีคุณภาพที่ดียิ่งขึ้น ตัวเลนส์ถูกครอบทับด้วย Sapphire crystal และเพิ่มไฟแฟลชคู่ LED ที่เรียกว่า "True Tone" ในส่วนของการบันทึกวีดีโอจากกล้องหลังสามารถซูมได้ 3 เท่า นอกจากนี้ยังเพิ่มโหมดการถ่ายภาพต่อเนื่อง (Burst mode) ที่สามารถถ่ายได้ 10 ภาพต่อวินาที และฟังค์ชั่นบันทึกวิดีโอแบบสโลโมชั่นด้วยความละเอียด 720p ได้มากถึง 120 เฟรมต่อวินาที และสิ่งที่ทำให้ iPhone 5S แตกต่างจากรุ่นก่อนๆ นอกจากจะมีชิปเซ็ตที่แรงขึ้นแล้ว ยังมีการเพิ่มฟีเจอร์อีกหนึ่งตัวที่น่าสนใจคือ คือการปลดล็อคเครื่องด้วยการสแกนจากลายนิ้วมือบนปุ่ม Home หรือที่เรียกว่า "Touch ID" เพื่อช่วยเพิ่มความปลอดภัยมากยิ่งขึ้นในการใช้งาน รวมถึงใช้เป็นตัวสแกนนิ้วเพื่อซื้อสินค้าบน iTunes ได้อีกด้วย โดยตัวเซ็นเซอร์ที่ใช้ในการสแกนลายนิ้วมือนั้น สามารถสแกนได้ที่ความละเอียดสูงถึง 500ppi และสามารถสแกนลายนิ้วมือได้แบบ 360 องศา บทความที่เกี่ยวข้องติดตามข่าว สยามโฟน.คอม ที่ |