ช่วงไหนที่ผู้หญิงมีอารมณ์ทางเพศ

ปัญหากวนใจสาวๆแบบนี้ เป็นกันหลายคนค่ะ แต่ส่วนใหญ่มองว่าเป็นเรื่องน่าอาย คิดว่าเป็นเรื่องปกติ ไม่กล้าบอกคู่รัก รวมถึงค่านิยมรักนวลสงวนตัวของสาวไทย ส่วนใหญ่จึงไม่ปรึกษาแพทย์เพื่อปรึกษาว่าทำไมจึงหมดความต้องการทางเพศไปเฉยๆ แต่วันนี้เอสทรีคซ์คลินิก หาคำตอบและทาแก้ไขมาให้คุณแล้วค่ะ

สารบัญ

  • อาการที่บ่งบอกว่าสาวๆอายุน้อยไร้อารมณ์ทางเพศผิดปกติ
  • สาเหตุส่วนใหญ่ที่ทำให้ผู้หญิงอายุน้อยไร้อารมณ์ทางเพศ
    • อาการเจ็บไข้ได้ป่วยและการได้รับยาบางชนิด
    • สภาพจิตใจ
    • อดนอน
  • สาวๆ อายุน้อยก็ไร้อารมณ์ทางเพศ หมดอารมณ์ทางเพศได้

อาการที่บ่งบอกว่าสาวๆอายุน้อยไร้อารมณ์ทางเพศผิดปกติ

  • ไม่สนใจกิจกรรมทางเพศเลย ( ไม่ว่าจะแบบไหน ท่าไหน ที่ไหน )
  • ไม่คิดเรื่องทางเพศเลย แทบไม่มีในสมองในแต่ละวัน
  • ถูกกระตุ้นก็ไม่รู้สึก หรือรู้สึกเปลี่ยนไป ไม่มีความต้องการ
  • ไม่เคยถึงจุดสุดยอด ไม่เคยสำเร็จความใคร่ติดต่อกันเป็นเวลานานจนเบื่อหน่าย

อาการเหล่านี้หากเป็นติดต่อกันนานๆ ควรหาทางแก้ไข เพราะเรื่องบนเตียงเป็นส่วนสำคัญของชีวิตคู่ค่ะ
ดูอาการของการหย่อนสมรรถภาพทางเพศของผู้หญิงเพิ่มเติม คลิก

สาเหตุส่วนใหญ่ที่ทำให้ผู้หญิงอายุน้อยไร้อารมณ์ทางเพศ

อาการเจ็บไข้ได้ป่วยและการได้รับยาบางชนิด

โรคภัยบางชนิดทำให้หมดความรู้สึกทางเพศได้ เนื่องจากส่งผลให้เลือดมาเลี้ยงช่องคลอดน้อยลง เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันสูง ไขมันในเลือดผิดปกติ และการได้รับยา เช่น ยาลดความดัน ความลดเอสโตรเจน อยากแก้ปวด ยาต้านอาการซึมเศร้า ทำให้เกิดผลข้างเคียงจนความรู้สึกทางเพศน้อยลง

สภาพจิตใจ

บางคนไม่มั่นใจในรูปร่างหน้าตา ถูกทำร้ายร่างกายและจิตใจ หรือเกิดอุบัติเหตุมาก่อน อาจจะทำให้เกิดความเครียด ความซึมเศร้า หมดความมั่นใจ กรณีนี้อาจจะต้องอาศัยการปรึกษาจิตแพทย์

อดนอน

การที่ร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอ ทำให้อารมณ์ทางเพศลดลง และการตอบสนองทางเพศผิดเพี้ยนไป

 

แต่หากที่กล่าวมาทั้งหมดไม่ใช่คุณ และคุณก็ยังอายุน้อย จะแก้ไขอย่างไรดี?

หมอแนะนำว่าให้ลองพูดคุยอย่างเปิดอกกับคู่รักก่อน หาวิธีทางแก้ไขร่วมกัน บอกสิ่งที่เราชอบหรือเราไม่ชอบ เพื่อทดลองการเพิ่มความต้องการทางเพศ แต่หากไม่มีความต้องการทางเพศจริงๆ และยังอยากมีกิจกรรมรักที่มีความสุข ปัจจุบันมีวิธีการรักษาโดย Sensing Booster ซึ่งเป็นการรักษาที่จุด G Spot ซึ่งเป็นจุดสร้างอารมณ์ทางเพศจนทำให้เกิดจุดสุดยอดได้ โดยวิธีนี้ปลอดภัย และหากใช้ควบคู่กับ Lady’s Secret จะยิ่งดีค่ะ เพราะทำให้ช่องคลอดกระชับและเพิ่มน้ำหล่อลื่น ลดอาการเจ็บระหว่างมีเพศสัมพันธ์ สามารถกระตุ้นความต้องการทางเพศของผู้หญิงได้ด้วยค่ะ

ไม่ใช่แค่สาวๆเท่านั้น วิธีนี้ยังช่วยผู้หญิงที่อายุมากขึ้น หรือวัยทองได้ด้วย เพราะหากสามีเรายังมีความต้องการ และเราเองก็ไม่อยากหมดความรู้สึกทางเพศ ต้องหาหนทางแก้ไขดีกว่าปล่อยไปเฉยๆนะคะ

สาวๆ อายุน้อยก็ไร้อารมณ์ทางเพศ หมดอารมณ์ทางเพศได้

ผู้หญิงส่วนใหญ่เมื่ออายุมากขึ้น โดยเฉพาะวัยหมดระดู ความต้องการทางเพศจะลดลงเป็นธรรมดา แต่ไม่จำเป็นว่าต้องให้มันหมดไปค่ะ และสาวๆที่อายุยังน้อย หลายคนมีปัญหาไร้อารมณ์ทางเพศ ไม่เคยถึงจุดสุดยอด แต่แบบไหนล่ะ ที่เรียกว่าผิดปกติ ?

โดยช่วงเวลาที่ไข่พร้อมผสมจะรออยู่ที่ตำแหน่งปลายท่อนำไข่เพียง 12-24 ชม. ของในแต่ละเดือนเท่านั้น หากมีการปฏิสนธิในช่วงเวลานี้ได้ ไข่จะเข้าไปฝังกับเยื่อบุหนังมดลูกกลายเป็นตัวอ่อน และเกิดการตั้งครรภ์ขึ้น แต่หากไข่ไม่ปฏิสนธิภายใน 14 วัน ก็จะเป็นเลือดประจำเดือนปกติ

ฉะนั้นสำหรับคู่รักที่อยากจะตั้งครรภ์แบบธรรมชาติ และอยากมีลูกง่ายตามที่หวัง แอดมินจึงมีเทคนิคการนับวิธีวันตกไข่มาฝาก ซึ่งวิธีการเหล่านี้อาจเป็นประโยชน์กับคู่รักหลายๆคู่ที่ต้องการเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์

เทคนิคการนับวันตกไข่ หรือ วันไข่ตก
การมีเพศสัมพันธ์ก่อนช่วงไข่ตกประมาณ 1-2 วัน อสุจิจะเข้าไปรอที่รังไข่เพื่อรอให้ไข่ตกลงมาและทำการปฏิสนธิจนเกิดการตั้งครรภ์ แต่ทั้งนี้วันไข่ตกของผู้หญิงแต่ละคนจะแตกต่างกัน โดยปกติแล้วไข่จะตกในช่วง 2 สัปดาห์ก่อนที่ประจำเดือนรอบใหม่จะมา ถ้าผู้หญิงที่รอบเดือนมาสม่ำเสมอและมีรอบเดือนมาทุกๆ 28 วัน วันไข่ตกก็อยู่ในช่วงวันที่ 14 ของรอบเดือน

วิธีคำนวณวันไข่ตก
สิ่งแรกที่ควรทำคือการจดบันทึกวันที่ประจำเดือนมาไว้ทุกเดือนเป็นระยะเวลา 8-12 เดือน แล้วนำมาทำการคำนวณหา ดังนี้
1. หาความยาวรอบเดือน ให้นับย้อนไปวันแรกที่มีประจำเดือนเดือนล่าสุด ถึงวันแรกที่มีประจำเดือนเดือนที่แล้ว เช่น เดือนล่าสุด คือวันที่ 8 มี.ค. เดือนที่แล้ว 6 เม.ย. เมื่อนับแล้วมีความยาวรอบเดือน 30 วัน
2. หาวันตกไข่ โดยนำเอา ความยาวรอบเดือน-ระยะที่ไข่ตก เช่น 30 วัน - 14 วัน = วันตกไข่ คือวันที่ 16 ของความยาวรอบเดือน จากนั้นนำวันแรกของการมีประจำเดือนเดือนล่าสุด คือ วันที่ 8 มี.ค. แล้วนับไป 16 วัน ก็จะได้วันไข่ตก คือ 23 มี.ค. เมื่อรู้วันไข่ตกแล้วก็สามารถเริ่มมีเพศสัมพันธ์ในช่วงก่อนวันไข่ตก และหลังวันตกไข่ได้ประมาณ 2 วัน เพื่อเปิดโอกาสให้ไข่และอสุจิได้มาเจอกันมากที่สุด

วิธีสังเกตอาการตกไข่
1. ตกขาวเยอะกว่าเดิม หากสังเกตว่าช่วงนี้มีอาการตกขาวมากกว่าปกติ นั่นอาจเป็นอาการของไข่กำลังจะตกโดยทางการแพทย์จะเรียกตกขาวนั่นว่า มูกที่ปากมดลูก (Cervical Mucus) ซึ่งมูกชนิดนี้เป็นมูกที่จะช่วยให้อสุจิเข้าไปผสมกับไข่ได้ง่ายขึ้น
2. มีอารมณ์ทางเพศ ในช่วงจังหวะที่ตรงกับช่วงไข่ตก ผู้หญิงจะมีอารมณ์ทางเพศสูงขึ้น เนื่องจากเป็นปฏิกิริยาทางร่างกายที่มรการสูบฉีดเลือดมากขึ้น ทำให้ผู้หญิงมีอารมณ์มากขึ้น และนอกจากนี้ฮอร์โมนในร่างกายจะช่วยให้ร่างกายของผู้หญิงมีน้ำมีนวล
3. อุณหภูมิร่างกายที่เพิ่มขึ้น ในช่วงเวลาตกไข่ อุณหภูมิในร่างกายจะสูงขึ้น เนื่องจากฮอร์โมนและเลือดที่สูบฉีดเพิ่มขึ้นทำให้อุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้น
4. มีอาการเจ็บคัดเต้านม ในช่วงไข่ตกบางรายอาจมีความรู้สึกเจ็บตึง คัดที่หน้าอก นั่นอาจเป็นอาการที่กำลังอยู่ในช่วงไข่ตก เนื่องจากฮอร์โมนมีปริมาณที่สูงขึ้นกว่าปกติ แต่อาจไม่แม่นยำเสมอไปเพราะการเจ็บเต้านมสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย
5. ปวดท้องน้อยข้างเดียว ช่วงที่มีการตกไข่ในผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์หลายราย มักจะมีอาการปวดที่ท้องน้อยนิดๆ อาการเหล่านี้เกิดจากร่างกายได้มีการเปลี่ยนแปลงระบบเจริญพันธุ์ภายในให้เหมาะสมสำหรับฝังตัวของตัวอ่อนนั่นเอง

อาหารบำรุงระบบสืบพันธุ์
หากมีการวางแผนการตั้งครรภ์แล้ว การบำรุงร่างกายรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่และสารอาหารที่มีประโยชน์ จะช่วยให้ทั้งผู้หญิงและผู้ชายมีสุขภาพร่างกายและรบบสืบพันธุ์ที่แข็งแรง โดยอาหารหลายชนิดมีบทบาทสำคัญ เช่น

1. ผักใบเขียวมีโฟเลตและวิตามินบีสูง ช่วยเร่งการตกไข่ของฝ่ายหญิง และทำให้อสุจิของฝ่ายชายแข็งแรงขึ้น
2. รับประทานถั่ว ธัญพืชมากขึ้น เพราะอุดมไปด้วยโปรตีนและธาตุเหล็ก มีส่วนช่วยให้ฝ่ายหญิงมีมดลูกแข็งแรงและผลิตไข่ที่มีคุณภาพ
3. รับประทานปลามีโปรตีน วิตามินดี และไขมันต่ำ เช่น ปลาทู แซลมอน รวมทั้งเพิ่มโปรตีนจากพืชมากกว่าเนื้อสัตว์ เช่น เมล็ดถั่ว ถั่วเหลือง หรือ เต้าหู้
4. รับประทานอาหารที่มีสังกะสี แมงกานีส และเบต้าแคโรทีน เช่น แครอท จะช่วยเพิ่มปริมาณอสุจิและระดับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน ส่วนแอปริคอตมีสารเบต้าแคโรทีนและแมงกานีสสูง ซึ่งสารอาหารทั้งสองชนิดถูกใช้ในการสร้างฮอร์โมน
5. อาหารที่มีวิตามินบี 12 มีส่วนต่อการสร้างสารสื่อประสาทในสมองที่เกี่ยวข้องกับความรู้สึกทางเพศ
6. รับประทานอาหารที่มีโฟเลต หรือ กรดโฟลิก เช่น ผักใบเขียวเข้ม แครอท อาโวคาโด ธัญพืชขัดสี ขนมปังไม่ขัดสี ผักโขม ตับ ไข่แดง เป็นต้น