ประเทศอเมริกา เป็นประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องแหล่งช้อปปิ้งที่ไม่ว่าจะเป็นใครได้ไปประเทศนี้ก็ต้องมีซื้อของฝากไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้ากลับมากันทั้งนั้น อีกทั้งยังเป็นประเทศที่คนไทยไปอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากไม่ว่าจะไปเพื่อศึกษาต่อ หรือไปทำงานก็ตาม เป็นเหตุให้คนไทยที่ไปอาศัยอยู่ประเทศอเมริกาก็มักจะให้ญาติในประเทศไทยส่งของกินของใช้ไปให้หรือบางทีก็ฝากคนที่อาศัยอยู่ในประเทศอเมริกาส่งของกลับไปให้เช่นกัน
ดังนั้น CPLINTER นำความรู้ในการจะนำเข้าส่งออกอเมริกาที่จำเป็นจะต้องทราบกฎ ระเบียบและเงื่อนไขต่างๆก่อนการนำเข้าส่งออกอเมริกามาฝาก ไปดูกันเลย
ช่องทางการขนส่งสินค้าไปประเทศอเมริกา
ส่งของไปอเมริกามีช่องทางการจัดส่งสินค้าทั้งหมด 2 ช่องทาง คือ
1) การขนส่งสินค้าทางเครื่องบิน (AIR FREIGHT)
การขนส่งทางเครื่องบินหรือทางอากาศ เป็นการขนส่งสินค้าที่ได้รับความนิยมในการนำเข้าส่งออกเมริกามากที่สุดทั้งสะดวกและรวดเร็ว แต่ก็มีค่าใช้จ่ายที่สูง เหมาะกับสินค้าที่มีขนาดเล็ก ปริมาณไม่มาก ตัวอย่างเช่น เอกสาร เสื้อผ้า กระเป๋า เป็นต้น มี 2 รูปแบบ คือ Air Courier และ Air Cargo ใช้ระยะเวลาในการขนส่งสินค้าประมาณ 5-10 วัน
2)การขนส่งสินค้าทางเรือ (SEA FREIGHT)
การขนส่งสินค้าทางเรือ หรือทางน้ำ เป็นการขนส่งสินค้าที่เหมาะกับสินค้าขนาดใหญ่ และสินค้าที่นำมาจัดส่งต้องไม่เป็นสินค้าที่เร่งด่วนสามารถทนต่อสภาพแวดล้อมได้ ตัวอย่างเช่น เครื่องจักร เฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น มี 2 ประเภท คือการขนส่งทางเรือแบบLCL เป็นการขนส่งแบบบรรจุไม่เต็มตู้คอนเทนเนอร์ และการขนส่งแบบFCL เป็นการขนส่งแบบบรรจุเต็มตู้คอนเทนเนอร์ โดยมีทั้งแบบตู้ขนาด 20 ฟุต 40 ฟุต และแบบ 40 ฟุตไฮคิวบ์ ใช้ระยะเวลาในการขนส่งสินค้าประมาณ 30 -35 วัน
กฎระเบียบการนำเข้าอเมริกา
1) ในการนำเข้าสินค้าประเทศอเมริกา ผู้นำเข้าจะต้องเสียอัตราภาษีนำเข้าหรือภาษีอากรที่แยกตามแต่ละประเภทของสินค้าก่อนจึงจะนำสินค้าออกจากปลายทางได้ แต่โดยส่วนใหญ่แล้วผู้นำเข้าจะไม่ต้องเสียภาษีนำเข้าหากมูลค่าสินค้ามีราคาต่ำกว่า 800 เหรียญสหรัฐหรือประมาณ 24,600 บาทและสินค้าอิเล็กทรอนิกส์บางชนิด ศิลปวัตถุ โบราณวัตถุที่มีอายุ 100 ปีขึ้นไปจะได้รับการยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีนำเข้า 2) สินค้าต้องห้ามนำเข้าอเมริกา มีดังนี้ – สัตว์เลี้ยงหรือสิ่งมีชีวิต – ยาเสพติดทุกชนิด – อาวุธปืน – สิ่งของมีคม – เนื้อสัตว์ที่มีส่วนผสมของหมู ไก่ และไข่ อย่างเช่น หมูแผ่น หมูหยอง – ยารักษาโรคที่ไม่มีใบสั่งจากแพทย์ – วัตถุอันตราย หรือวัตถุไวไฟ 3) สินค้านำเข้าที่ต้องมีใบอนุญาตนำเข้าหรือใบอนุญาตประกอบการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 3.1) สินค้าที่ต้องมีใบอนุญาตนำเข้า ได้แก่ – เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ – ยารักษาโรคบางชนิด – ผลไม้ ผักและพืชประเภทถั่วต่างๆ (nuts) – นม ผลิตภัณฑ์เนย และผลิตภัณฑ์ที่ทําจากนมและเนย – พืชและผลิตภัณฑ์จากพืช – น้ำมันและผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม 3.2) สินค้าที่มีเครื่องหมายการค้า (trademark) หรือมีลิขสิทธิ์ (copyright) การนําเข้าต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบที่กำหนด 3.3) สินค้าประเภทอาหารแห้งหากต้องการนำเข้าอเมริกาควรส่งไม่เกิน 10 -20 กิโลกรัม หากเกินต้องมีเอกสารFood and Drug Administration (FDA) ควบคุมสินค้าอาหารและยา หรือขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศุลกากรจะพิจารณา
กฎระเบียบการส่งออกอเมริกา
1) ในการจะส่งออกสินค้าประเทศอเมริกา ผู้ส่งออกต้องทราบว่าสินค้าที่จะส่งออกอเมริกาต้องได้รับใบอนุญาตการส่งออก (export license) แต่สินค้าโดยส่วนใหญ่นั้นไม่จำเป็นต้องขอใบอนุญาตจากหน่วยงานในอเมริกาก่อนการส่งออก มีเพียงสินค้าบางประเภทที่ต้องได้รับการรับรองจากหน่วยงานในประเทศอเมริกา ซึ่งผู้ส่งออกจะต้องตรวจสอบว่าสินค้านั้น เป็นสินค้าควบคุมการส่งออกของหน่วยงานในประเทศอเมริกาหรือไม่ และสินค้านั้นต้องไม่ใช่สินค้าห้ามนำเข้าในประเทศปลายทาง 2) ภาษีมูลค่าเพิ่มในประเทศอเมริกาจะเสียภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 10 สรุปแล้ว หากต้องการนำเข้าส่งออกอเมริกา จำเป็นต้องทราบข้อมูลคร่าวๆเหล่านี้ เพื่อเป็นความรู้เบื้องต้นและเป็นแนวทางก่อนจะมีการนำเข้าส่งออกอเมริกา หากสนใจนำเข้าส่งออกอเมริกา CPLINTER ให้บริการขนส่งสินค้าแบบครบวงจรในราคาที่เหมาะสม พร้อมบริการอื่นๆอีกมากมาย เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าทุกท่าน ไม่ว่าจะเป็นบริการแพ็คสินค้า เตรียมเอกสารสำหรับส่งออก เดินพิธีการขาเข้าและขาออก สนใจส่งออก-นำเข้า สินค้า ติดต่อสอบถามซีพีแอล โทร 02-519-4426, 063-519-4426, 091-519-4426 Line @cplinter หรือสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.cplinter.com ได้เลยค่ะ)
อยากทำธุรกิจนำเข้าสินค้าต้องรู้สิ่งเหล่านี้
จริง ๆ แล้วหลายคนมีความสนใจอยากนำสินค้าจากต่างประเทศเข้ามาขาย เพราะสินค้าที่นำเข้ามาขายนั้นจะมีความพิเศษเป็นเอกลักษณ์อยู่ในตัวเอง ทั้งในเรื่องของสไตล์การออกแบบ คุณภาพของสินค้า หรือข้อน่าสนใจอีกข้อก็คือสินค้ามีราคาถูกกว่าสินค้าในประเทศ หรือมีความแปลก ใหม่ น่าสนใจ
อยากนำเข้าสินค้าต้องทำอย่างไร
สำหรับการนำเข้าสินค้าก็มีความจำเป็นที่จะต้องทราบข้อมูลพื้นฐานเรื่องของตลาดเหล่านี้เสียก่อน
- ขายอะไร ใครคือลูกค้า - สินค้าที่จะนำเข้ามามีหลายระดับซึ่งจะเหมาะกับลูกค้าแต่ละกลุ่ม ลูกค้าต่างกลุ่มก็มีความต้องการที่แตกต่างกัน รวมไปถึงวิธีการสื่อสารการตลาดก็ต้องใช้คนละแบบด้วยเช่นกัน
- ราคาตลาดเท่าไร - การสำรวจราคาตลาดคือสิ่งที่ต้องทำต่อมา สินค้าประเภทเดียวกันราคาอาจแตกต่างกันได้เพราะมีลูกค้าคนละกลุ่ม การรู้ราคาตลาดจะช่วยให้สามารถตัดสินใจเลือกแหล่งสินค้าและวิธีนำเข้ามาเพื่อให้สามารถคำนวณราคาทุนและกำไรที่เหมาะสมได้
- ขายอย่างไร ขายที่ไหน -
ช่องทางการขายขึ้นอยู่กับตัวสินค้าด้วย บางชนิดเหมาะกับการขายออนไลน์ แต่บางชนิดจำเป็นต้องมีหน้าร้านหรือโชว์รูมไว้แสดงสินค้าและเพิ่มภาพลักษณ์ให้สินค้าด้วย
- นำเข้าสินค้าจากไหน - แหล่งผลิตที่มีการนำสินค้าเข้ามามากในปัจจุบันคือประเทศจีน โดยเฉพาะสินค้าประเภท Mass ที่ไม่เน้นเรื่องของแบรนด์และคุณภาพมากนักเพราะเป็นสินค้าที่มีราคาถูกและนำเข้าได้จำนวนมาก
- แต่แหล่งสินค้านำเข้าก็ไม่ได้มีที่จีนที่อย่างเดียวเท่านั้น ขึ้นอยู่กับชนิดของสินค้าที่ต้องการขายและขายให้กับลูกค้ากลุ่มใดด้วย เช่น เฟอร์นิเจอร์ที่เน้นคุณภาพสูงและมีแบรนด์มักมาจากฝั่งยุโรปหรืออเมริกา ขนมแปลก ๆ รูปลักษณ์ดีนำเข้าจากจากญี่ปุ่นได้ หรือเครื่องสำอางจากเกาหลี ซึ่งบรรดาผู้ผลิตสินค้าอาจไม่ได้มีโรงงานผลิตอยู่ในประเทศของตน อาจตั้งโรงงานผลิตในประเทศที่มีค่าแรงต่ำ เช่น จีน เวียดนาม ฯลฯ ดังนั้น ควรนำเข้าจากประเทศที่เป็นศูนย์การผลิตจะดีกว่า เพราะจะช่วยลดค่าขนส่งและระยะเวลาไปได้มาก
- ต้นทุนนำเข้า - สิ่งที่ต้องคำนึงถึงในเรื่องของต้นทุนจริง ๆ คือค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการนำเข้า ไม่ได้อยู่ที่ราคาส่งของตัวสินค้าแม้ว่าจะต่อราคาได้ถูกลงแล้วก็ตาม สิ่งสำคัญคือดูว่านำเข้าจากที่ใด และมีการบริหารจัดการการนำเข้าดีแค่ไหน ซึ่งทั้งหมดต้องไม่ลืมเรื่องของค่าภาษีนำเข้าด้วย
สำหรับผู้ที่สนใจธุรกิจนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศทั้งมือใหม่หรือผู้ต้องการคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ วันนี้ขอแนะนำ 2 ฟีเจอร์ใหม่ที่ถือเป็นผู้ช่วยชั้นดีนั่นคือ SCB Trade Portal ซึ่งเป็นบริการที่ให้ข้อมูลความเคลื่อนไหวของธุรกิจนำเข้า-ส่งออก โดยมีข้อมูลเชิงลึกที่ทันต่อเหตุการณ์ ครบครัน ครอบคลุมกว่า 185 ประเทศ และ SCB Trade Club เป็นบริการสำหรับผู้นำเข้าและผู้ส่งออกสินค้าในการเลือกและจับคู่ธุรกิจกับคู่ค้าที่มีคุณภาพและน่าเชื่อถือ จากธนาคารชั้นนำทั่วโลก ติดต่อเรา -คลิก-