ศิลาจารึก เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ประเภทใด

จารึกที่พบในประเทศไทยอดีตกาลนานกว่า ๒,๕๐๐ ปีล่วงมาแล้ว ประเทศอินเดียมีความเจริญทางอารยธรรมสูงยิ่ง อีกทั้งยังได้เผยแพร่อารยธรรม สู่ประเทศข้างเคียง ทั้งโดยทางทะเล และทางบก ผู้เผยแพร่อารยธรรมเหล่านั้น ส่วนใหญ่จะเป็นพ่อค้าวาณิช ซึ่งเดินทางไปมาค้าขาย ในท้องถิ่นต่าง ๆ เมื่อมาถึงบ้านเมืองใด ก็หยุดพักอาศัย ปฏิบัติภารกิจของตนช่วงระยะเวลาหนึ่ง ในระหว่างนั้นก็ได้นำสิ่งแปลก ๆ ใหม่ ๆ อันมีอยู่ในประเทศของตน บอกเล่าถ่ายทอดสู่ชนพื้นเมืองต่าง ๆ ในแต่ละท้องถิ่นนั้น ๆ ทำให้สังคมในท้องถิ่นมีการพัฒนา เปลี่ยนแปลงไปสู่ความเจริญแบบอินเดีย

อารยธรรมอินเดีย ซึ่งแพร่อิทธิพลไปสู่ประเทศใกล้เคียงดังกล่าวแล้ว มีหลักฐาน ทั้งในทางโบราณคดี และประวัติศาสตร์ รับรองว่า บริเวณเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งมีประเทศไทยรวมอยู่ด้วยนั้น เป็นแหล่งที่อารยธรรมของอินเดีย เข้ามามีบทบาทแล้ว ตั้งแต่ พุทธศตวรรษ ที่ ๑๑ - ๑๒ เป็นต้นมา ซึ่งขณะนั้นอยู่ในช่วงสมัยราชวงศ์ปัลลวะของประเทศอินเดีย ด้วยเหตุนี้รูปแบบอักษรอินเดีย สมัยราชวงศ์ปัลลวะ จึงได้แพร่หลายทั่วไปในกลุ่มประเทศต่างๆ ตลอดภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รูปแบบอักษรชนิดนี้ ได้นามตามชื่อของราชวงศ์ผู้ครอบครองอาณาจักรว่า "รูปอักษรปัลลวะ"

ศิลาจารึก เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ประเภทใด
จารึกรูปอักษรปัลลวะ พบที่ จ.ปราจีนบุรี แสดงถึงบทบาท ของอารยธรรมอินเดีย ที่แพร่อิทธิพลสู่ประเทศไทย ในสมัยราชวงศ์ปัลลวะ ของอินเดีย

จารึกรุ่นแรกในประเทศไทย เป็นจารึกที่ได้รับอิทธิพลรูปอักษรจากประเทศอินเดีย สมัยราชวงศ์ปัลลวะเช่นเดียวกัน ได้พบจารึกอักษรปัลลวะบันทึกเรื่องราวต่าง ๆ มีหลักธรรม ในศาสนา ทั้งพระพุทธศาสนา และลัทธิศาสนาพราหมณ์ เป็นต้น ในพื้นที่ ไม่เฉพาะแต่ในประเทศไทยเท่านั้น แม้ในประเทศใกล้เคียง ได้แก่ ประเทศพม่า กัมพูชา และมาเลเซีย เป็นต้น ก็ได้พบเห็นอักษรชนิดนี้ด้วย ย่อมแสดงว่าในดินแดนทั้ง ๔ ประเทศ คือ ไทย พม่า กัมพูชา และมาเลเซีย มีหลักฐาน เกี่ยวกับรูปแบบ อักษรปัลลวะ อยู่ร่วมกันเหมือนกัน และถ้านำความสัมพันธ์ทางด้านภูมิศาสตร์ หรือภูมิสถาน ในสมัยโบราณเข้ามาพิจารณาร่วมด้วย อาจจะทำให้ได้หลักฐานอันน่าสนใจศึกษาเพิ่มขึ้น

จารึกเขาน้อย จ.ปราจีนบุรี (เป็นจารึกที่ผนัง ข้างกรอบประตูปราสาทเขาน้อย)  ปัจจุบันพบว่า เป็นศิลาจารึก ที่ปรากฏศักราชเก่าที่สุดในประเทศไทย
ศิลาจารึก เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ประเภทใด

ศิลาจารึกเก่าที่สุดพบในประเทศไทย เท่าที่มีหลักฐานทางศักราชปรากฏอยู่ด้วยคือ "จารึกเขาน้อย" พบที่เขาน้อย อำเภออรัญประเทศ จังหวัดปราจีนบุรี สร้างขึ้นในปีพุทธศักราช ๑๑๘๐ ศิลาจารึกชิ้นนี้เป็นหลักฐานเอกสารโบราณ ที่บ่งบอกถึงวัฒนธรรมทางด้านการใช้รูปอักษร ที่ปรากฏบนผืนแผ่นดินไทยครั้งแรก และเป็นยุคเริ่มต้นสมัยประวัติศาสตร์ ของไทยด้วย นับว่าเป็นช่วงเวลาที่สอดคล้องตรงกัน กับหลักฐานทางด้านศิลปกรรมในประเทศไทย ซึ่งร่วมสมัยกับพุทธศิลปะ สมัยทวารวดี ศิลปกรรมสมัยแรกของประเทศไทย

กลุ่มจารึกที่ใช้อักษรปัลลวะ

ในประเทศไทยมีพบอยู่ทั่วไป ในบริเวณภาคใต้พบที่จังหวัดนครศรีธรรมราช และพังงา ในบริเวณภาคกลางพบที่ลุ่มแม่น้ำกลอง ลุ่มน้ำเจ้าพระยา และลุ่มน้ำป่าสัก ได้แก่ จังหวัดราชบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม ลพบุรี ชัยนาท อุทัยธา นี สระบุรี และเพชรบูรณ์ ในภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พบในบริเวณลุ่มน้ำบางปะกง ลุ่มน้ำมูล และลุ่มน้ำชี ที่จังหวัดปราจีนบุรี บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี

ศิลาจารึก เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ประเภทใด
จารึกอักษรมอญโบราณ เป็นหลักฐานบ่งบอกอารยธรรม ของอาณาจักรหริภุญชัย ซึ่งปัจจุบันอยู่ในเขต จ.ลำพูน

ในสมัยโบราณบริเวณอันเป็นที่ตั้งประเทศไทยปัจจุบัน เป็นดินแดนที่มีกลุ่มชนหลายเชื้อชาติอาศัยอยู่ จารึกที่คนพื้นเมืองทำขึ้น ในสมัยหลังต่อมา จึงเป็นจารึกที่ใช้รูปอักษรอันเปลี่ยนแปลงมาจากรูปอักษรปัลลวะ ซึ่งนำมาจากประเทศอินเดีย ได้แก่ กลุ่มจารึก ที่ใช้อักษรมอญโบราณ และอักษรขอมโบราณ
ศิลาจารึก เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ประเภทใด
จารึกวัดตาพระยา จ.ปราจีนบุรี เป็นจารึกอักษรขอมโบราณ กระแสอิทธิพลวัฒนธรรมขอมโบราณนี้ แพร่หลายสู่ภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคใต้ แต่ไม่มีในภาคเหนือ

กลุ่มจารึกที่ใช้อักษรมอญโบราณปรากฏหลักฐานแน่ชัดในบริเวณภาคเหนือของประเทศไทยระหว่างพุทธศตวรรษที่ ๑๗ พบหลักฐานการใช้อักษรมอญโบราณ ภาษามอญโบราณ ในบริเวณลุ่มแม่น้ำปิงตอนบน คือ ดินแดนที่เป็นอาณาจักรหริภุญชัย ในเขตจังหวัดลำพูนปัจจุบัน โดยได้สืบทอดอารยธรรมกันมา ตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ ๑๗ ลงมาจนถึงพุทธศตวรรษที่ ๑๙ อารยธรรมมอญโบราณที่หริภุญชัย ก็สิ้นสุดลง กษัตริย์องค์สุดท้ายแห่งอาณาจักรหริภุญชัย มีพระนามว่า พระยายีบา ได้เสียเมืองหริภุญชัย แก่พระยามังราย ในปีพุทธศักราช ๑๘๓๙ ตรงกับรัชสมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราชแห่งอาณาจักรสุโขทัย

หลักฐานการใช้จารึกภาษามอญนั้น จำกัดบริเวณอยู่เฉพาะตัว ไม่อาจวิเคราะห์ได้ว่า กลุ่มชนซึ่งใช้ภาษามอญในอาณาจักรหริภุญชัย จะเป็นกลุ่มชน ที่สืบต่อการใช้ภาษามอญ มาจากกลุ่มชนทางแถบภาคกลางของประเทศไทยด้วยหรือไม่ เพราะยังไม่เคยพบจารึก บ่งบอกไว้อย่างชัดเจน

ศิลาจารึก เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ประเภทใด

ปราสาทหินพนมรุ้ง กลุ่มจารึกที่ใช้อักษรขอมโบราณ

พบอยู่ในบริเวณภาคกลาง ภาคอีสานและภาคใต้ของประเทศไทยปัจจุบัน มีอายุระหว่างพุทธศตวรรษ ที่ ๑๔ - ๑๖ แต่ยังไม่พบจารึกอักษรขอมโบราณ ในแถบภาคเหนือ ตั้งแต่จังหวัดตากขึ้นไป ทั้งนี้ อาจเป็นได้ว่า กระแสอิทธิพลวัฒนธรรมแบบขอมโบราณนี้ ไม่แพร่หลายขึ้นไปสู่ภาคเหนือของประเทศไทย หลักฐานทำนองนี้ รวมไปถึงโบราณสถานที่เรียกกันว่า ปราสาทหิน ปราสาทอิฐ และปรางค์แบบกัมพูชา หรือลพบุรี ที่มีอยู่ทั่วไปในภาคอีสาน ภาคกลาง ภาคใต้ แต่ไม่เคยปรากฏอยู่ทางภาคเหนือ

ปราสาทหินวัดกำแพงแลง จ.เพชรบุรี แสดงถึงการได้รับอารยธรรมของกัมพูชา ทั้งทางด้านศิลปกรรม รูปแบบอักษรและภาษาไว้
ศิลาจารึก เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ประเภทใด

จารึกที่ใช้อักษรขอมในสมัยต่อจากจารึกที่ใช้อักษรขอมโบราณคือ จารึกที่ใช้อักษรขอม ที่มีอายุอยู่ในระหว่างพุทธศตวรรษที่ ๑๗ - ๑๘ โดยเฉพาะจารึก ที่ปราสาทพระขรรค์ ประเทศกัมพูชา จะบอกให้ทราบว่า ในช่วงรัชสมัยของ พระเจ้าชัยวรมันที่ ๗ ซึ่งครองราชย์อยู่ระหว่าง พุทธศตวรรษที่ ๑๘ นั้น ได้ขยายอาณาเขต ของอาณาจักรออกไปกว้างขวางมาก ส่วนหนึ่งของอาณาจักร ได้เข้ามาอยู่ในบริเวณ ที่เป็นประเทศไทยปัจจุบัน กล่าวคือ ตลอดภาคตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ ถึงจังหวัดสุโขทัย ภาคใต้ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ภาคกลางที่จังหวัดกาญจนบุรี และเพชรบุรี กลุ่มเมืองที่อยู่ภายใต้การปกครองของอาณาจักรกัมพูชา ในช่วงเวลาที่กล่าวถึงนี้ ได้รับอารยธรรมของกัมพูชา ทั้งทางด้านศิลปกรรม รูปแบบอักษร และภาษาไว้ทั้งหมด ปรากฏหลักฐานแพร่กระจาย อยู่ในพื้นที่ดังกล่าวดังนี้ ทางด้านศิลปกรรม ได้แก่ วัดศรีสวาย จังหวัดสุโขทัย พระปรางค์สามยอด จังหวัดลพบุรี ปราสาทหินวัดกำแพงแลง จังหวัดเพชรบุรี และปราสาทเมืองสิงห์ จังหวัดกาญจนบุรี เป็นต้น
จารึกปราสาทพระขรรค์ ประเทศกัมพูชา บอกให้ทราบว่า ในรัชกาลพระเจ้าชัยวรมันที่ ๗ นั้น ได้แพร่ขยายอาณาเขตออกไปกว้างขวางมาก ส่วนหนึ่งปัจจุบันอยู่ในประเทศไทย
ศิลาจารึก เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ประเภทใด

กลุ่มจารึกที่ใช้อักษรขอม

ที่มีอายุอยู่ ในระหว่างพุทธศตวรรษที่ ๑๘ ได้แก่ จารึกดงแม่นางเมือง จังหวัดนครสวรรค์ พุทธศักราช ๑๗๑๐ ซึ่งจารึกด้วยอักษรขอม ภาษาเขมร และภาษาไทย จารึกหลังพระพุทธรูปนาคปรก จังหวัดลพบุรี พุทธศักราช ๑๗๕๖ ซึ่งจารึกด้วยอักษรขอม ภาษาเขมร และภาษาไทย และกลุ่มจารึก พระเจ้าชัยวรมันที่ ๗ ทรงสร้าง เพื่อประกาศเรื่องการสร้างโรงพยาบาล ได้แก่ จารึกเมืองพิมาย จังหวัดนครราชสีมา จารึกด่านประคำ จังหวัดบุรีรีมย์ และจารึกปราสาทตาเมียนโตจ จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งจารึกด้วยอักษรขอม ภาษาสันสกฤต เป็นต้น

ศิลาจารึก เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ประเภทใด

ศิลาจารึกพ่อขุนรามคำแหง
เป็นจารึกอักษรไทยที่เก่าแก่ที่สุด จารึกที่คนไทยทำขึ้น ปรากฏหลักฐานใน ต้นพุทธศตวรรษที่ ๑๙ เมื่อคนไทยก่อตั้งอาณาจักรสุโขทัยขึ้น ในแถบแม่น้ำยม พ่อขุนรามคำแหงมหาราช กษัตริย์พระองค์ที่ ๓ แห่ง อาณาจักรสุโขทัย ได้ประดิษฐ์ลายสือไทยขึ้น ในปีพุทธศักราช ๑๘๒๖ ปรากฏหลักฐานลายสือไทยดังกล่าว ในจารึกพ่อขุนรามคำแหง ซึ่งเป็นจารึกอักษรไทยที่เก่าที่สุด และไม่มีลักษณะของรูปอักษรไทยในที่แห่งไหน จะเก่าเท่า ถึงแม้ว่า จะได้พบจารึกอักษรไทยที่คนไทยได้ทำขึ้นจำนวนมากในทุกภาค ของประเทศไทย แต่หลักฐานการค้นพบปรากฏว่า จารึกเหล่านั้น มีอายุอยู่ในระหว่าง พุทธศตวรรษที่ ๒๐ ลงมา ทั้งสิ้น รูปอักษรไทยในอาณาจักรสุโขทัย ซึ่งเรียกว่า อักษรไทยสุโขทัยนั้น ได้เป็นแม่แบบของรูปอักษรไทยทั่วไปในสมัยต่อมา จารึกที่ใช้รูปอักษร ซึ่งวิวัฒนาการมาจากรูปอักษรไทยในจารึกพ่อขุนรามคำแหงมี ดังนี้

จารึกอักษรไทยสุโขทัย

เป็นจารึกที่ใช้ รูปอักษรซึ่งมีกำเนิดขึ้นในอาณาจักรสุโขทัย ระหว่างพุทธศตวรรษที่ ๑๙ และมีใช้ต่อมาจน ถึงพุทธศตวรรษที่ ๒๐ เช่น จารึกพ่อขุนรามคำแหง จังหวัดสุโขทัย จารึกวัดพระยืน จังหวัดลำพูน และจารึกวัดเขากบ จังหวัดนครสวรรค์ เป็นต้น

ศิลาจารึก เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ประเภทใด
จารึกวัดพระยืน จ.ลำพูน จารึกอักษรสุโขทัย ที่วิวัฒนาการมาจาก รูปอักษรไทยในจารึกพ่อขุนรามคำแหง

จารึกอักษรไทยอยุธยา

เป็นจารึกที่ใช้รูปอักษรที่วิวัฒนาการมาจากรูปอักษรไทยสุโขทัย ปรากฏใช้อยู่ทั่วไป ในบริเวณภาคกลางของประเทศไทย ระหว่างพุทธศตวรรษที่ ๒๐ - ๒๔ เช่น จารึกแผ่นดีบุกวัดมหาธาตุ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นต้น

ศิลาจารึก เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ประเภทใด
จารึกอักษรไทยอยุธยา เป็นจารึกบนแผ่นดีบุก พบที่วัดมหาธาตุ จ.พระนครศรีอยุธยา รูปอักษรวิวัฒนาการมาจาก รูปอักษรไทยสุโขทัย ระหว่างพุทธศตวรรษที่ ๒๐

จารึกอักษรไทยล้านนา

เป็นจารึกที่พบ ในอาณาจักรล้านนาบริเวณภาคเหนือของประเทศไทยปัจจุบัน ลักษณะเป็นรูปอักษร ที่วิวัฒนาการมาจาก รูปอักษรไทยสุโขทัย มีอายุระหว่างพุทธศตวรรษที่ ๒๐ และตัวอักษรอย่างนี้ ได้พัฒนาไปเป็นรูปอักษรอีกแบบหนึ่ง เรียกกันในปัจจุบันว่า อักษรไทยล้านนา หรืออักษรฝักขาม เช่น จารึกวัดปราสาท จังหวัดเชียงราย เป็นต้น

จารึกวัดปราสาท จ.เชียงราย มีรูปอักษรที่วิวัฒนาการมาจาก อักษรไทยสุโขทัย และอักษรนี้ปัจจุบัน พัฒนามาเป็นอักษรไทยล้านนา หรืออักษรฝักขาม
ศิลาจารึก เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ประเภทใด

จารึกอักษรไทยอีสาน

จารึกที่ใช้ตัวอักษรแบบนี้ พบเฉพาะในภาคอีสานของประเทศไทยเท่านั้น ลักษณะเป็นรูปอักษรที่วิวัฒนาการมาจาก รูปอักษรไทยล้านนา ซึ่งได้แพร่อิทธิพลผ่านไปในอาณาจักรล้านช้าง แล้วย้อนกลับข้ามฝั่งแม่น้ำโขงมาทางฝั่งตะวันตก เข้าสู่ภาคอีสาน และในสมัยหลังต่อมา ตัวอักษรอย่างนี้ ได้พัฒนาไปเป็นรูปอักษรอีกแบบหนึ่ง เรียกกันในปัจจุบันว่า อักษรไทยน้อย ซึ่งปรากฏใช้ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์เท่านั้น ตัวอย่างจารึกอักษรไทยอีสาน เช่น จารึกวัดแดนเมือง จังหวัดหนองคาย เป็นต้น

ศิลาจารึกเป็นหลักฐานประเภทอะไร

จารึก คือ เอกสารโบราณประเภทหนึ่ง ที่มีรูปอักษรเป็นร่องรอยลึกลงในเนื้อวัตถุต่างๆ ซึ่งสำเร็จด้วยกรรมวิธีจารึก เช่น รูปอักษรที่ปรากฏบนแผ่นศิลา เรียกว่าศิลาจารึก รูปอักษรที่ปรากฏบนแผ่นไม้ เรียกว่า จารึกบนแผ่นไม้ รูปอักษรที่ปรากฏบนแผ่นโลหะ ซึ่งมีลักษณะสี่เหลี่ยมคล้ายใบลาน เช่น แผ่นทอง แผ่นเงิน แผ่นนาก เรียกว่า จารึกลานทอง ...

ศิลาจารึกเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์สมัยใด

จารึกที่คนไทยทำขึ้นปรากฏหลักฐานในต้นพุทธศตวรรษที่ 19 เมื่อคนไทยก่อตั้งอาณาจักรสุโขทัยขึ้นในแถบลุ่มแม่น้ำยม พ่อขุนรามคำแหงมหาราช กษัตริย์พระองค์ที่ 3 แห่งราชวงศ์สุโขทัยได้ประดิษฐ์ลายสือไทยขึ้นในปีพุทธศักราช 1826 ลายสือไทยในศิลาจารึกพ่อขุนรามคำแหงมหาราช (ศิลาจารึกหลักที่ 1) เป็นจารึกอักษรไทยที่เก่าที่สุด และไม่มีลักษณะ ...

จดหมายเหตุเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ประเภทใด

จดหมายเหตุเป็นหลักฐาน ทางประวัติศาสตร์ประเภท พงศาวดาร แต่แตกต่าง กันตรงที่จดหมายเหตุเป็นการบันทึกร่วมสมัย บอกเกี่ยวกับวันเวลา ที่มีเหตุการณ์ เกิดขึ้น มีลักษณะเด่นในเรื่องการให้รายละเอียด และความถูกต้องในเรื่องเวลา พร้อมทั้งแทรกความคิดเห็นของผู้บันทึกลงไปด้วย จดหมายเหตุแบ่งออกเป็น หลายประการ ได้แก่จดหมายเหตุของหลวง ...

ประเภทของหลักฐานทางประวัติศาสตร์มีอะไรบ้าง

ให้นักเรียนร่วมกันจาแนกประเภทหลักฐานทางประวัติศาสตร์โดยน าแถบข้อความที่เป็น หลักฐานชั้นต้นและหลักฐานชั้นรองไปวางให้ถูกต้องตามประเภทหลักฐาน จดหมายเหตุ พงศาวดาร ตานาน บันทึกคาบอกเล่า คาสัมภาษณ์ เอกสารทางราชการ โบราณสถาน สารานุกรม วิทยานิพนธ์ โบราณวัตถุ