ใช้กระบวนการสร้างสรรค์งานทัศนศิลป์ ประยุกต์ใช้สื่อ วัสดุ อุปกรณ์ และเทคโนโลยีได้อย่างเหมาะสมและมีความรับผิดชอบ Show สาระการเรียนรู้ช่วงสั้น
จุดเน้น
รายละเอียดการเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ที่ 3
การสร้างสรรค์ภาพที่แสดงรูปแบบ ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง
1. กระบวนการสร้างสรรค์งานศิลปะการสร้างสรรค์งานศิลปะ มีกระบวนการหรือขั้นตอนตามลำดับ โดยเริ่มต้นจากการเรียนรู้ หรือสัมผัสกับธรรมชาติและสภาพแวดล้อม นำมาสู่การสร้างประสบการณ์ หรือความชำนาญแล้วจึงเกิดความคิดสร้างสรรค์ในการปฏิบัติงานศิลปะที่แปลกใหม่ต่อไป ซึ่งมีขั้นตอนในขั้นรายละเอียดดังนี้ 1. การรับรู้ (Perception) การรับรู้ หมายถึง การที่มนุษย์ใช้ประสาทสัมผัสด้านต่างๆ รับรู้และชื่นชมในธรรมชาติ และสภาพแวดล้อมรอบตัว ได้แก่การสัมผัสรอบรู้ด้วยประสาทตาในการมองเห็นความงามของธรรมชาติ และการสัมผัสด้วยประสาทหู ในการยินเสียงจากธรรมชาติ หรือจากเทคโนโลยีสมัยใหม่ ภาพและเสียงเหล่านี้เป็นแรงบันดาลใจให้มนุษย์สร้างสรรค์งานศิลปะ เช่น เขียนภาพบันทึกความงามและความรู้สึกจากธรรมชาติ แต่งเพลงหรืบรรเลงเพลงดนตรี บรรยายความงามของธรรมชาติ หรือเลียนเสียงธรรมชาติ เป็นต้น 2. ประสบการณ์ (Experience) ประสบการณ์ หมายถึง การที่มนุษย์ผ่านภาวการณ์รับรู้ ได้เห็น ได้ฟัง และได้ปฏิบัติด้วยตนเองมาแล้วบ่อยครั้งจนสะสมเป็นประสบการณ์และความชำนาญ เช่น ศิลปินที่มีใจรักและชื่นชมความงามของธรรมชาติมักจะเข้าไปสัมผัสชื่นชมกับความงามของธรรมชาติเหล่านั้น และนิยมถ่ายทอดความงามด้วยการเขียนภาพ จึงเกิดประสบการณ์และความชำนาญในการเขียนภาพธรรมชาติเป็นพิเศษนักเรียนที่เรียนวิชาศิลปะทุกคน สามารถที่สร้างสรรค์งานศิลปะ เพื่อถ่ายทอดประสบการณ์จากชีวิตประจำวันของตนได้อย่างมี 3. จินตนาการ (Imagination) 2. การสร้างสรรค์ภาพที่ไม่แสดงรูปแบบภาพที่ไม่แสดงรูปแบบ หมายถึง ภาพที่ไม่คำนึงถึงรูปลักษณะที่ปรากฏแก่สายตาว่าเป็นภาพอะไร แต่จะให้ความรู้สึกและอารมณ์ของผู้เขียนด้วยการใช้เส้น สี รูปร่าง รูปทรง ผสมผสานกันเป็นเรื่องราวหรือไม่เป็นรูปร่างก็ได้ เช่น การสร้างสรรค์ด้วยสี การหยด การแต้ม การเขียนภาพตามจังหวะดนตรี และการเขียนภาพตามจินตนาการ เป็นต้น
1. การสร้างสรรค์ด้วยสี การสร้างสรรค์ด้วยสี หมายถึง การใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการแสดงออกเกี่ยวกับการใช้สีอย่างอิสระ ด้วยวิธีการที่แปลกใหม่ เช่น วิธีการขูด เขียน ถูเป็นเส้นหรือริ้วรอย ผสมผสานกับสีที่หยดหรือแต้มลงไป ทั้งนี้ เน้นวิธีการสร้างสรรค์และการแสดงออกอย่างสนุกสนานเพลิดเพลินโดยไม่คำนึงว่าจะได้ภาพที่เป็นรูปลักษณะใด 2. การลดทอนภาพไม่ให้เหมือนจริง การลดทอนภาพไม่ให้เหมือนจริง หมายถึงการนำภาพเหมือนจริงมาลดทอน บางส่วนของภาพให้น้อยลง มีรูปร่างแตกต่างไปจากเดิม และมีความเป็นอิสระในการระบายสีเชิงสร้างสรรค์ได้มากขึ้นวิธีการลดทอนภาพไม่ให้เหมือนจริง มีดังนี้ 1) วิธีการลดทอนด้วยการเปลี่ยนสีใหม่ คือ เปลี่ยนสีในรูปร่าง รูปทรงเดิม ให้แตกต่างไปจากของจริงตามแนวเบื้องต้นทำให้ภาพเหมือนจริงแปรสภาพไปเป็นการใช้สีอย่างสร้างสรรค์ แสดงการลดทอนด้วยการเปลี่ยนสีใหม่ นอกจากนี้ที่กล่าวมาแล้วเรายังลดทอนภาพไม่ให้เหมือนจริงได้ในอีกหลายวิธี 3. การสร้างสรรค์ภาพที่แสดงรูปแบบภาพที่แสดงรูปแบบ หมายถึง ภาพที่ปรากฏแก่สายตาเหมือนจริงตามที่เรามองเห็นภาพวัตถุนั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นรายละเอียดของรูปร่าง รูปทรงเป็นอย่างไร ผู้เขียนภาพ สามารถถ่ายทอดออกมาได้เหมือนแบบ โดยแสดงรูปร่างรูปทรงที่แน่นอนเหมือนจริง และจะต้องคำนึงถึงความงามด้วย ลักษณะภาพแสดงรูปแบบ มีดังนี้ 1. การเขียนภาพคน โครงสร้างของคนประกอบด้วยส่วนต่างๆ เช่น ศีรษะ ลำตัว แขน และขา เป็นต้น แต่ละส่วนยังแยกย่อยออกไปได้อีกซึ่งจัดเป็นส่วนประกอบของภาพคน คือ คน หู ตา จมูก ปาก มือ เท้า คอ สะโพก เป็นต้น เมื่อนำเอาส่วนประกอบซึ่งเรียกอีกอย่างว่าอวัยวะต่างๆ มาประกอบกันเข้าจะเกิดเป็นรูปร่างรูปทรงขึ้น การเขียนภาพโครงสร้างของคนจะต้องคำนึงถึง สัดส่วน การทรงตัวลีลา ท่าทาง การเคลื่อนไหว ซึงเป็นลักษณะสำคัญที่จะทำให้ภาพสมบูรณ์เหมือนจริง ขั้นตอนการเขียนภาพจะต้องคำนึงวิธีการดังนี้ การเขียนภาพคนมี 2 ลักษณะ คือ 1. การเขียนภาพคนครึ่งตัว คือ การเขียนภาพคนเหมือน (Portrait) เน้นความเหมือนจริงที่ใบหน้า การเคลื่อนไหวของภาพคน จะเกิดขึ้นได้โดยการเปลี่ยนแปลงของขาและแขน ซึ่งเป็นส่วนของข้อต่อ และกล้ามเนื้อทำหน้าที่เหยียด งอ หุบได้ ถ้าคนยืนตรงน้ำหนักของร่างกายทั้งหมดจะลงอยู่ที่ขาอย่างเดียวเท่านั้น ในท่าเดินและท่าวิ่ง การโยกย้ายน้ำหนักของร่างกาย ให้สังเกตที่แขนและขาจะเคลื่อนไหวในทิศทางที่ตรงกันข้ามกัน เช่น แขนขวาแกว่งไปด้านหน้า ขาขวาและเท้าจะอยู่ด้านหลัง ทั้งนี้เพื่อให้ร่างกายทรงตัวอยู่ได้ 2.การเขียนภาพสิ่งแวดล้อม การเขียนภาพสิ่งแวดล้อม หมายถึง การเขียนสภาพทั่วไปที่มีอยู่ในธรรมชาติ เช่น ภูเขา ต้นไม้ สัตว์ แม่น้ำ และทะเลเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเองในธรรมชาติและอีกส่วนหนึ่งเป็นส่วนที่มนุษย์สร้างขึ้น เช่น บ้าน อาคาร ถนน รถยนต์ สิ่งเหล่านี้มีความสัมพันธ์กับการดำรงชีวิตของมนุษย์ที่พบเห็นเป็นประจำ จึงเป็นที่มาของการเขียนภาพทิวทัศน์บก ทิวทัศน์ทะเลภาพสิ่งก่อสร้าง และภาพสิ่งแวดล้อมของสังคม การเขียนภาพทิวทัศน์ ควรประกอบ ควรประกอบด้วยสิ่งเหล่านี้ 1. เส้นระดับสายตา (Horizontal Line) หรือเรียกว่าเส้นขอบฟ้า เป็นเส้นแนวนอนกั้นระหว่างพื้นดินกับขอบฟ้า เป็นการกำหนดเส้นระดับสายตาเพื่อวางแผนการเขียนภาพว่าต้องการแสดงส่วนใดมากกว่า เช่น ต้องการให้เห็นพื้นดินมากกว่าท้องฟ้าหรือให้เห็นภาพท้องฟ้ามากกว่าพื้นดิน การเขียนภาพทิวทัศน์ในที่โล่งแจ้ง มองภาพกว้างไกลจะทำให้การจัดภาพเกิดความยุ่งยาก จึงมีวิธีที่จะกำหนดได้ง่ายๆคือ ตัดกระดาษเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ากว้าง 15x18 ซม. แล้วตัดแยกออกเป็นรูปตัว L (แอล) ทั้งสองด้านนำมาประสานกัน ให้เหลือขนาด 10x13 ซม. โดยเจาะเป็นช่องอีก 3 ช่อง เท่าๆ กัน โดยเจาะเป็นรูสำหรับมองทิวทัศน์ข้างหน้า เพื่อนำมาจำลองในการวาดภาพต่อไป วิธีนี้จะช่วยหามุมมองการเขียนภาพทิวทัศน์ได้ง่ายขึ้น คือ กำหนดให้มีจุดเด่น จุดรอง และความสมดุลของภาพผู้เขียนควรรู้จักดัดแปลงภาพให้มีส่วนประกอบอื่นเพิ่มขึ้นได้ หรือตัดทอนบางส่วนที่ยุ่งยากออกไปเพื่อให้เกิดความสมดุลความเหมาะสม ทั้งนี่เพื่อต้องการให้ภาพมีความสวยงาม 3. การเขียนภาพการดำเนินชีวิตในสังคมและภาพจิตนาการ การเขียนภาพการดำเนินชีวิตในสังคมและจินตนาการภาพ คือ การเขียนภาพจากเหตุการณ์ หรือกิจกรรมที่ปรากฏในสังคม เช่น การเขียนภาพจากเหตุการณ์ หรือกิจกรรมในสังคม เช่น ภาพชีวิตความเป็นอยู่ในสังคม ภาพเกี่ยวกับขนบธรรมเนียม ประเพณี ศาสนา และภาพสร้างสรรค์ขึ้นมาจากจินตนาการ ภาพเหล่านั้นอาจเป็นจริงหรือเกินความเป็นจริงก็ได้ การเขียนภาพจะต้องคำนึงถึงการจัดภาพเป็นหลักว่าส่วนใดเป็นจุดเด่น และส่วนรอง และตามความสำคัญของเนื้อเรื่อง 2) การเขียนภาพการดำเนินชีวิตในสังคม หมายถึง การถ่ายทอดชีวิตความเป็นอยู่ในสังคมออกมาเป็นรูปภาพตามความเป็นจริงของชุมชนในสังคม เช่น อาชีพ การปกครอง โรงเรียนของเรา บ้านของฉัน เป็นต้น 3) การเขียนภาพจากขนบธรรมเนียม ประเพณี ศาสนา และวัฒนธรรม หมายถึง การถ่ายทอดภาพ ขนบธรรมเนียมประเพณี กิจกรรมทางศาสนา และวัฒนธรรมประจำท้องถิ่นที่เคยประสบ เช่น วันสำคัญทางศาสนา ประเพณีต่างๆ การเขียนภาพแบบศิลปะประจำชาติ เป็นต้น 4) การเขียนภาพจากจินตนาการความคิดสร้างสรรค์ หมายถึง การเขียนภาพที่ใช้ความคิดให้แปลกไปจากเดิมเป็นเรื่องใหม่ๆ ซึ่งอาจมีจริงหรืออาจเกินความเป็นจริงก็ได้ ทั้งนี้ ควรเป็นความคิดอย่างอิสระของแต่ละบุคคล การเขียนภาพเหล่านี้ต้องอาศัยธรรมชาติเป็นแนวทางก่อน แล้วค่อยดัดแปลงให้แปลกตาท้าทายความรู้สึกของผู้ดู เช่น การผจญภัยในต่างพิภพ การสร้างสรรค์งานศิลปะแนวจินตนาการมีลักษณะอย่างไร *สั่งสมเป็นประสบการณ์และความชำนาญ สู่การสร้างสรรค์งานด้วยจินตนาการ เป็นการแสดงออกจากจินตนาการภายในสู่ภายนอก ผลงานศิลปะย่อม แสดงจินตนาการไว้ด้วยเสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราว รูปทรง เส้น สี บรรยากาศในภาพจินตนาการอาจจะเป็นเรื่องของความเพ้อฝัน คาดหวังในอนาคต จินตนาการไปสู่อดีต หรือไปสู่ดินแดนที่มองไม่เห็น
การสร้างสรรค์งานศิลปะมีแนวทางได้แก่อะไรบ้างวิธีการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ
วางกรอบแนวทางจากความคิดรวบยอด(concept)ในการสร้างสรรค์จากสิ่งที่ประทับใจ แรงบันดาลใจ(Inspiration) จากเนื้อหาดังกล่าวข้างต้น เพียง 1 ประเด็น (จากแหล่งที่มาของความคิดสร้างสรรค์) ศึกษา ค้นคว้า ทำวิจัย(research)หรือจากผลงานของศิลปินที่สร้างสรรค์ผลงานศิลปะ เกี่ยวกับเรื่องนั้น ๆ โดยเฉพาะ
ภาพเขียนตามจินตนาการมีลักษณะอย่างไรขั้นตอนการเขียนภาพตามจินตนาการ มีลำดับเหมือนการเขียนภาพโดยทั่วไป คือ ร่างภาพก่อน ทั้งส่วนใหญ่และส่วนย่อยแล้วระบายสีตามเทคนิคที่ตนเลือก การเขียนภาพตามจินตนาการค่อนข้างจะอิสระเพราะไม่จำเป็นต้องยึดความเหมือนจริง อิสระในการนำเสนอทางด้านรูปทรง สีสัน หรือเทคนิคอื่นๆแต่คงยึดหลักการสร้างสรรค์งานภาพเขียน คือ ในการจัดภาพ หรือ ...
อะไรคือการสร้างสรรค์ผลงานทัศนศิลป์กระบวนการสร้างสรรค์ผลงานทัศนศิลป์ การสร้างสรรค์ทัศนศิลป์ เป็นการค้นหารูปทรงที่มีคุณค่า มีความ สําคัญ มีความสอดคล้องกับเป้าหมายของการสร้างสรรค์ เป็นการปฏิบัติ การที่เป็นกระบวนการ เพื่อให้ได้มาซึ่งรูปทรงใหม่หรือสิ่งใหม่ทางทัศน ศิลป์ มีลักษณะเฉพาะตัวของผู้สร้างสรรค์ และเป็นต้นแบบหรือต้นฉบับ (Originality) ที่มีเอกภาพ
|