........................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... Show ฐานข้อมูล (Database) ฐานข้อมูล (Database) หมายถึง กลุ่มของข้อมูลที่มีความสัมพันธ์กัน นำมาเก็บรวบรวมเข้าไว้ด้วยกันอย่างมีระบบและข้อมูลที่ประกอบกันเป็นฐานข้อมูลนั้น ต้องตรงตามวัตถุประสงค์การใช้งานขององค์กรด้วยเช่นกัน เช่น ในสำนักงานก็รวบรวมข้อมูล ตั้งแต่หมายเลขโทรศัพท์ของ ผู้ที่มาติดต่อจนถึงการเก็บเอกสารทุกอย่างของสำนักงาน ซึ่งข้อมูลส่วนนี้จะมีส่วนที่สัมพันธ์กันและเป็นที่ต้องการนำออกมาใช้ประโยชน์ต่อไป ภาพที่ 1 ฐานข้อมูล (Database) ที่มา https://www.techtalkthai.com/5-skills-database-administrators-should-have-in-cloud-era/ ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ (Relational Database)ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ (Relational Database) เป็นแนวคิดของฐานข้อมูลที่นิยมใช้กันมากที่สุดในปัจจุบัน โดยจะมีการจัดเก็บข้อมูลในลักษณะของตารางที่มีความสัมพันธ์กัน โดยฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์เป็นการเก็บข้อมูลในรูปแบบของ ตารางข้อมูล (table) โดยแต่ละตารางที่มีอยู่จะต้องมีการเชื่อมโยงทางข้อมูลระหว่างกัน (relation) ในแต่ละตารางจะประกอบด้วยแถว และคอลัมน์ ภาพที่ 2 แสดงตารางลูกค้าที่แสดงให้เห็นแถวและคอลัมน์ โครงสร้างเก็บข้อมูลของฐานข้อมูลภาพที่ 3 แสดงองค์ประกอบของโครงสร้างเก็บข้อมูลของฐานข้อมูล 1.ตารางข้อมูล (table) เป็นที่เก็บของข้อมูลตามกลุ่มต่างๆ2. ระเบียนข้อมูล (record) หมายถึงหน่วยของข้อมูลที่เกิดจากการนำเอาเขตข้อมูลหลาย ๆ เขตข้อมูลมารวมกัน เพื่อเกิดเป็นข้อมูลเรื่องใดเรื่องหนึ่งเช่น ข้อมูลของลูกค้า (1 คน) จะประกอบไปด้วย รหัส ชื่อ ที่อยู่ และหมายเลขโทรศัพท์ของลูกค้า 3. เขตข้อมูล (field) หมายถึง หน่วยของข้อมูลที่ประกอบขึ้นจากตัวอักขระตั้งแต่หนึ่งตัวขึ้นไป มารวมกันแล้วได้ความหมายของสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ข้อมูลที่ปรากฏอยู่ในฟิลด์ เป็นหน่วยย่อยของระเบียนที่บรรจุอยู่ในแฟ้มข้อมูล 4. อักขระข้อมูล (character) คือ ตัวอักษรแต่ละตัว ที่บันทึกลงไปในแต่ละคอลัมน์ โดยอักขระจะต้องสอดคล้องกับชนิดของข้อมูลที่กำหนดไว้ในเขตข้อมูลด้วย เช่น คอลัมน์ราคาจะต้องเป็นตัวเลขเท่านั้น คำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบฐานข้อมูล เอนทิตี้ (Entity) หมายถึง สิ่งที่ต้องการในฐานข้อมูลที่เป็นที่รวมข้อมูลที่มีความสัมพันธ์กัน มีข้อมูลที่บ่งชี้เอกลักษณ์เฉพาะตัวได้ เช่น เอนทิตี้ของระบบงานจำหน่ายสินค้าซึ่งประกอบด้วย เอนทิตี้ที่มีความสัมพันธ์กัน ได้แก่ เอนทิตี้สินค้า เอนทิตี้ลูกค้า เอนทิตี้ใบสั่งซื้อ ภาพที่ 4 แสดงตัวอย่างเอนทิตี้ แอททริบิวต์(Attribute) หมายถึง ข้อมูลที่แสดงถึงคุณสมบัติของเอนทิตี้ เช่น เอนทิตี้สินค้า ประกอบด้วยแอททริบิวต์ รหัสสินค้า ชื่อสินค้า ราคาสินค้า และสินค้าคงเหลือ เอนทิตีลูกค้าประกอบด้วยแอททริบิวต์ รหัสลูกค้า ชื่อลูกค้า และที่อยู่ เอนทิตีใบสั่งซื้อประกอบด้วยแอททริบิวต์ รหัสใบสั่งซื้อ รหัสสินค้า รหัสลูกค้า และจำนวนภาพที่ 5 แสดงตัวอย่างแอททริบิวต์ ความสัมพันธ์(Relationship) หมายถึง ความสัมพันธ์ระหว่างเอนทิตี้ในระบบฐานข้อมูล เช่น เอนทิตี้ใบสั่งซื้อมีความสัมพันธ์กับเอนทิตีสินค้า และ เอนทิตี้ลูกค้า ดังรูปภาพที่ 6 แสดงความสัมพันธ์ระหว่างเอนทิตี้ 1. ความสัมพันธ์แบบหนึ่งต่อหนึ่ง (One-to-one Relationships) เป็นการแสดงความสัมพันธ์ของข้อมูลในเอนทิตี้หนึ่งที่มีความสัมพันธ์กับข้อมูลในอีกเอนทิตี้หนึ่ง ในลักษณะหนึ่งต่อหนึ่ง ตัวอย่างเช่น เอนทิตี้สินค้าและเอนทิตี้ใบสั่งซื้อ มีความสัมพันธ์โดยแอททริบิวต์รหัสสินค้ามีความสัมพันธ์กับแอททริบิวต์ชื่อสินค้าเป็นความสัมพันธ์แบบหนึ่งต่อหนึ่ง หมายความว่ารหัสสินค้าหนึ่งเป็นชื่อสินค้าได้ชนิดเดียว ภาพที่ 7 แสดงความสัมพันธ์แบบหนึ่งต่อหนึ่ง (One-to-one Relationships) ความสัมพันธ์แบบหนึ่งต่อกลุ่ม (one-to-many Relationships) เป็นการแสดงความสัมพันธ์ของข้อมูลในเอนทิตี้หนึ่ง ที่มีความสัมพันธ์ข้อมูลหลาย ๆ ข้อมูล ในอีกเอนทิตี้หนึ่ง ตัวอย่าง เช่น ความสัมพันธ์ระหว่างเอนทิตีลูกค้าและเอนทิตีใบสั่งซื้อเป็นความสำพันธ์แบบหนึ่งต่อกลุ่มหมายความว่าลูกค้าหนึ่งคนสามารถสั่งซื้อสินค้าได้หลายใบภาพที่ 8 แสดงความสัมพันธ์แบบหนึ่งต่อกลุ่ม (one-to-many Relationships) ความสัมพันธ์แบบกลุ่มต่อกลุ่ม (Many-to-many Relationships) เป็นการแสดงความสัมพันธ์ ของข้อมูลสองเอนทิตี้ในลักษณะกลุ่มต่อกลุ่ม ตัวอย่างเช่น แอนทิตีสินค้ามีความสัมพันธ์กับเอนทิตีใบสั่งซื้อเป็นความสัมพันธ์แบบกลุ่มต่อกลุ่ม(May to Many Relationship) หมายความว่าใบสั่งซื้อหนึ่งใบสามารถมีสินค้าได้หลายชนิด สำหรับสินค้าสามารถอยู่ในใบสั่งซื้อได้หลายใบภาพที่ 9 ความสัมพันธ์แบบกลุ่มต่อกลุ่ม (Many-to-many Relationships) ชนิดของคีย์ในฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์
ภาพที่ 10 แสดงฟิลด์ที่เป็นคีย์หลักในตาราง • คีย์คู่แข่ง(Candidate Key) คีย์คู่แข่งเป็นฟิลด์หนึ่งหรือหลายฟิลด์ที่นำมารวมกันแล้ว มีคุณสมบัติเป็นคีย์หลัก (ค่าไม่ซ้ำกันในแต่ละรายการ) แต่ไม่ได้ถูกใช้เป็นคีย์หลัก ภาพที่ 11 แสดงฟิลด์ที่เป็นคีย์คู่แข่งในตาราง • คีย์ผสม(Composite Key)ตารางที่หาฟิลด์ที่มีค่าซ้ำไม่ได้เลย จึงต้องใช้หลายๆ ฟิลด์มารวมกันทำหน้าที่เป็นคีย์หลัก ฟิลด์ที่ใช้ร่วมกันนี้เรียกว่าคีย์ผสม ภาพที่ 12 แสดงฟิลด์ที่เป็นคีย์ผสม และ คีย์นอกในตาราง การออกแบบระบบฐานข้อมูลจุดประสงค์ในการออกแบบฐานข้อมูล • เพื่อลดความซ้ำซ้อนของข้อมูลในฐานข้อมูล • เพื่อให้ข้อมูลตอบสนองต่อผู้ใช้ให้เร็วที่สุด • เพื่อช่วยให้ตรวจสอบความถูกต้อง รวมทั้งจัดมาตรฐานของข้อมูลได้สะดวก • เพื่อที่จะสามารถกำหนดลักษณะการเข้าถึงข้อมูลสำหรับผู้ใช้แต่ละประเภทได้ • เพื่อให้สามารถเชื่อมโยงข้อมูลกับแอพพลิเคชั่นได้สะดวกมากยิ่งขึ้น ภาพที่ 13 โปรแกรมจัดการฐานข้อมูล ที่มา https://www.9experttraining.com/articles/microsoft-access ขั้นตอนในการออกแบบฐานข้อมูล 1. กำหนดวัตถุประสงค์ของฐานข้อมูล การทำเช่นนี้จะเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับขั้นตอนในขั้นต่อๆ ไป 6.กำหนดความสัมพันธ์ของตาราง ดูที่ตารางแต่ละตารางแล้วพิจารณาว่าข้อมูลในตารางหนึ่งสัมพันธ์กับข้อมูลในตารางอื่นๆ อย่างไร ให้เพิ่มเขตข้อมูลลงในตารางหรือสร้างตารางใหม่เพื่อระบุความสัมพันธ์ต่างๆ ให้ชัดเจนตามต้องการ ภาพที่ 14 ออกแบบฐานข้อมูล ที่มา http://j28ro.blogspot.com/2011/12/wintest-database-vhf.html
ภาพที่ 15 ออกแบบฐานข้อมูล ที่่มา https://www.dewestvlaamse.be/laatste-nieuws/fagg-lanceert-nieuwe-geneesmiddelendatabank/database ฐานข้อมูลชนิดใดได้รับความนิยมมากที่สุดฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์(Relational Database) สัมพันธ์เป็นฐานข้อมูลที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจุบัน เป็นฐานข้อมูลที่ง่ายต่อการท าความเข้าใจโครงสร้างข้อมูล แม้ว่า ฐานข้อมูลชนิดนี้จะทางานช้าและต้องการเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มี
ฐานข้อมูลประเภทใดต่อไปนี้ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในการนำไปใช้งานในองค์กรต่าง ๆฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ (Relational Database) เป็นแนวคิดของฐานข้อมูลที่นิยมใช้กันมากที่สุดในปัจจุบัน โดยจะมีการจัดเก็บข้อมูลในลักษณะของตารางที่มีความสัมพันธ์กัน โดยฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์เป็นการเก็บข้อมูลในรูปแบบของ ตารางข้อมูล (table) โดยแต่ละตารางที่มีอยู่จะต้องมีการเชื่อมโยงทางข้อมูลระหว่างกัน (relation) ในแต่ละตารางจะ ...
รูปแบบของระบบฐานข้อมูล มีกี่ประเภท อะไรบ้างรูปแบบของระบบฐานข้อมูล มีอยู่ด้วยกัน 3 ประเภท คือ 1. ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ (Relational Database) เป็นการเก็บข้อมูลในรูปแบบที่เป็นตาราง (Table) หรือเรียกว่า รีเลชั่น (Relation) มีลักษณะเป็น 2 มิติ คือเป็นแถว (row) และเป็นคอลัมน์ (column)
ความสําคัญของระบบฐานข้อมูล มีอะไรบ้างข้อดีของระบบฐานข้อมูล
1. การค้นหาข้อมูลที่มีจำนวนมากและซับซ้อน ได้รวดเร็ว 2. มีขนาดเล็กกว่า 3. ไม่มีข้อมูลซ้ำซ้อน (Redundancy) 4. ป้องกันข้อมูลขัดแย้ง (Inconsistency) ได้ 5. บังคับให้เกิดมาตราฐานได้ 6. ใช้ข้อมูลร่วมกันได้ 7. มีระบบรักษาความปลอดภัย (Security) เช่น กำหนดสิทธิ์ในการใช้งานของผู้ใช้
|