เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นอาณาบริเวณที่มีความหลากหลายทางประวัติศาสตร์ ภาษา และวัฒนธรรม และมีความสำคัญในทางเศรษฐกิจและการเมืองแห่งหนึ่งของโลก พลวัตทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมของอาณาบริเวณนี้มักจะถูกอธิบายว่าส่วนหนึ่งเกิดจากอารยธรรม ความทันสมัยอันเนื่องมาจากลัทธิอาณานิคมและการพัฒนาที่มาจากประเทศที่พัฒนาแล้ว แต่ส่วนที่สำคัญอีกส่วนหนึ่งมาจากพลังของกระบวนการสร้างรัฐชาติสมัยใหม่
ที่ผนวกรวมและผสมกลมกลืนกลุ่มชาติพันธุ์ที่หลากหลายให้เป็นส่วนหนึ่งของรัฐชาติที่มีอัตลักษณ์หนึ่งเดียว พร้อมกับจำแนก และแบ่งแยกกลุ่มชาติพันธุ์ให้เป็นคนอื่นภายในรัฐชาติ ซึ้งในบางกรณีนำไปสู่ความขัดแย้งและการใช้ความรุนแรงรูปแบบต่างๆ กระแสโลกาภิวัตน์กว่าสามทศวรรษที่ผ่านมาได้เปิดพื้นที่ใหม่ให้ แก่ทุน ผู้คน สินค้า เทคโนโลยี ความคิดใหม่ๆ สามารถข้ามพรมแดนได้ง่าย และกว้างขวางกว่าเดิม การเปลี่ยนแปลงดังกว่าทำให้เกิดการแย่งชิงและความขัดแย้งในการเข้าถึงทรัพยากร
เพิ่มปัญหาความไม่ยุติธรรมทางสังคมและสิ่งแวดล้อม และปัญหาอื่นๆ ตามมา ในขณะเดียวกันกลุ่มชาติพันธุ์เหล่านี้ต่างก็พยายามต่อสู้ดิ้นรนประกอบสร้างอัตลักษณ์ และเรียกร้องสิทธิในการเข้าถึงทรัพยากรและสิทธิทางวัฒนธรรมในรูปแบบต่างๆ มากขึ้น ดังนั้นการชาติพันธุ์ศึกษาจึงต้องหันมาทบทวน และแสวงหาทิศทางใหม่เพื่อให้สามารถทำความเข้าใจกัชะตากรรมของกลุ่มชาติพันธุ์เหล่านี้เสียใหม่ ศูนย์ศึกษาชาติพันธุ์และการพัฒนา แต่เดิมนั้นเป็นหน่วยงานระดับกลุ่มงานวิจัยในสังกัดสถาบันวิจัยสังคม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ตั้งขึ้นในปีพ.ศ. 2538 ด้วยตระหนักถึงการเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงอันเนื่องมาจากการพัฒนาทั้งในระดับชาติและกระแสโลกาภิวัตน์ที่มีต่อกลุ่มชาติพันธุ์เหล่านี้ ตลอดจนในช่วงกลางทศวรรษที่ 2530 ประเทศไทยได้เข้าเป็นส่วนหนึ่งของกระแสบูรณาการทางเศรษฐกิจของอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง นับแต่นั้น เป็นต้นมาศูนย์ศึกษาชาติพันธุ์และการพัฒนา จึงได้ขยายขอบเขตการทำงาน เพื่อศึกษาปัญหาของกลุ่มชาติพันธุ์ในประเทศเหล่านี้มากขึ้น รวมทั้งยังมีบทบาทในการสนับสนุนความเคลื่อนไหวของหน่วยงานและองค์กรพัฒนาเอกชนที่ทำงานกับกลุ่มชาติพันธุ์ ตลอดจนได้จัดทำโครงการอาสาสมัครชาวเขา เพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนชาวเขาได้เรียนรู้แนวคิดในการพัฒนา สนับสนุนการวิจัยที่สามารถนำไปสู่การสร้างความรู้และความเข้มแข็งของชุมชนชาติพันธุ์อีกด้วย เพื่อให้ศูนย์ชาติพันธ์และการพัฒนาดำเนินการไปอย่างมีประสิทธิภาพกับทั้งพัฒนาบุคลากร นักวิจัย ให้มีพื้นฐานความรู้ในด้านชาติพันธุ์สัมพันธ์และสามารถทำงานวิจัย และวิเคราะห์ปัญหาของกลุ่มชาติพันธุ์ได้อย่างเป็นระบบ ในปี พ.ศ. 2552 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จึงได้ขอให้โอนงานศูนย์ศึกษาชาติพันธุ์และการพัฒนาจากสถาบันวิจัยมาสังกัดคณะสังคมศาสตร์ ทั้งนี้เพื่อขยายงานวิจัยด้านชาติพันธุ์ให้กว้างขวางมากกว่าเดิม กับทั้งบูรณาการงานด้านการวิจัยเข้ากับการเรียนการสอนในระดับหลังปริญญา โดยศูนย์ศึกษาชาติพันธุ์และการพัฒนาได้รับการยกฐานะให้เป็นศูนย์ความเป็นเลิศทางวิชาการของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2552 เป็นต้นมา วัตถุประสงค์ของศูนย์ศึกษาชาติพันธุ์และการพัฒนา
ภารกิจของศูนย์ศึกษาชาติพันธุ์และการพัฒนา1. ด้านการเรียนการสอน 2. ด้านการวิจัย 3. ด้านการประชุมวิชาการสัมมนา และฝึกอบรม 4. ด้านคลังข้อมูล 5. ด้านการเผยแพร่สิ่งพิมพ์ เอกสารงานวิจัยและวีดิทัศน์ ความหลากหลายของวิถีชีวิตของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีลักษณะอย่างไรเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมเป็นอย่างมาก บนแผ่นดินใหญ่จะมีการผสมผสานกันระหว่างวัฒนธรรมอินเดียและจีน ส่วนอินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์, มาเลเซีย และสิงคโปร์นั้นประกอบด้วยวัฒนธรรมอาหรับ, โปรตุเกส, สเปน, จีน, อินเดีย และวัฒนธรรมพื้นเมืองมลายู ส่วนบรูไนจะค่อนข้างแตกต่างจากประเทศอื่น เพราะได้รับอิทธิพลมากมายจาก ...
อาเซียนมีความหลากหลายทางใดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จัดเป็นดินแดนแห่งความหลากหลายทางชาติพันธุ์โดยปรากฏชนชาติ ต่างๆ ตั้งถิ่นฐานกระจายตัวอยู่ทั่วทั้งภูมิภาค อาทิชาวพม่า ชาวไทย ชาวลาว ชาวชวา ชาวมลายูหรือ ชาว กะเหรี่ยง ชาวจาม ชาวลาหู่ชาวมูเซอและชาวละว้า ความเป็นชุมชนพหุสังคมถือเป็นประเด็นที่ส่งผล กระทบต่อการบูรณาการและการอยู่ร่วมกันเป็นประชาคม อาเซียน ...
ประเทศใดในอาเซียนที่มีวัฒนธรรมหลากหลายที่สุด๑. ประเทศสิงคโปร์ เป็นประเทศที่มีลักษณะความเป็นหลากหลายทางเชื้อชาติ ศาสนา ภาษาและ วัฒนธรรมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประเทศสิงคโปร์ มีประชากรทั้งประเทศ ประมาณ ๕.๔๗ ล้านคน จัดได้ว่าเป็น ประเทศที่มีความเด่นชัดในเรื่องความหลากหลายทางชาติพันธุ์ ปัจจุบันมีทั้งชาวจีน พุทธ อิสลาม ฮินดู คริสต์ และ ลัทธิเต๋า รวมไปถึงด้านวัฒนธรรม ...
สังคมพหุวัฒนธรรมในอาเซียนคืออะไร พหุวัฒนธรรมในอาเซียน เป็นความหลากหลายที่เกิดจาก ชาวอาเซียน สร้างสรรค์ คิด รับรู้ และทํา ร่วมกัน อาเซียนอยู่ในภูมิภาคที่มี ประวัติศาสตร์เก่าแก่ VERY HISTORIC AREA. เป็นดินแดนแห่งชุมทาง เศรษฐกิจและวัฒนธรรม
|