ตกขาวเยอะมีกลิ่นเกิดจากอะไร

  • ตกขาวเป็นน้ำ หรือ ตกขาวเป็นเมือกใส

เป็นอาการที่ผู้หญิงทุกคนอาจเป็นกันได้ โดยเฉพาะในช่วงที่มีตกขาวมากกว่าปกติ ส่วนใหญ่มักจะเกิดขึ้นในช่วงกึ่งกลางระหว่างรอบเดือน (ระยะตกไข่) ตกขาวจะมีปริมาณมากและมีลักษณะเหลวใส ไม่มีสี ไม่คัน และไม่มีกลิ่น ซึ่งถือว่าเป็นอาการตกขาวที่ปกติและจะหายไปได้เอง แต่ทั้งนี้หากอาการตกขาวเป็นน้ำ ไหลออกมาเป็นฟอง และมีอาการคันร่วมด้วย อาจเกิดจากช่องคลอดอักเสบหรือติดเชื้อแบคทีเรียก็ได้
 

Show
  • ตกขาวสีเทา หรือ ตกขาวสีขาวขุ่น

อาจเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย (Bacterial vaginosis) ทำให้ตกขาวมีปริมาณมากขึ้น สีขาวเนียนปนเทาอ่อน ตกขาวมีกลิ่นเหม็นอับคล้ายกลิ่นคาวปลาเค็ม กลิ่นมักจะรุนแรงหลังการร่วมเพศหรือหลังหมดประจำเดือนใหม่ ๆ มักไม่พบอาการเจ็บป่วยอื่นร่วมด้วย
 

  • ตกขาวเป็นก้อนสีขาว

อาจเกิดจากการติดเชื้อรา Candida albicans ทำให้ตกขาวมีลักษณะเป็นก้อนคล้ายนมบูด เป็นสีขาวข้นหรืออาจเป็นสีเหลืองขาว ตกขาวมีกลิ่นเหม็นอับ แต่ไม่มีกลิ่นคาว ทำให้มีอาการแสบคันในช่องคลอดหรือมีปัสสาวะแสบขัดเป็นบางครั้ง ส่วนใหญ่มักเกิดจากการใช้ยาปฏิชีวนะเป็นเวลานานหรือเป็นผู้ป่วยที่มีภูมิต้านทานต่ำ
 

  • ตกขาวสีเหลือง

เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น การติดเชื้อแบคทีเรีย (แม้ว่าส่วนใหญ่แล้วตกขาวที่เกิดจากเชื้อชนิดนี้จะมีสีขาวปนเทา แต่ก็มีในหลายกรณีที่เป็นตกขาวสีเหลืองขุ่นได้ ร่วมกับจุดเด่นของตกขาวชนิดนี้ คือ “กลิ่นคาวปลา” และอาจมีอาการคันร่วมด้วย ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่มักเกิดจากการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์), การติดเชื้อหนองใน ซึ่งเป็นเชื้อแบคทีเรียที่มีชื่อว่า “ไนซีเรีย โกโนเรียอี” (ทำให้ตกขาวมีปริมาณมากขึ้น เป็นหนองสีเหลืองหรือมีสีเขียวปน ตกขาวมีกลิ่นเหม็นแต่ไม่คัน และจะมีอาการปวดแสบขณะปัสสาวะร่วมด้วย), การติดเชื้อรา (เช่นเดียวกับตกขาวที่เป็นก้อนสีขาว), การติดเชื้อไวรัส (เกิดจากการติดโรคทางเพศสัมพันธ์ ส่วนใหญ่เป็นเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดโรคเริม ทำให้มีตุ่มใส ๆ ขนาดเล็ก ต่อมาจะแตกออกกลายเป็นแผลและแสบคัน มีตกขาวสีเหลือง มีกลิ่นผิดปกติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในครั้งแรกที่ปรากฏอาการ), การติดเชื้อทริโคโมแนสในช่องคลอด (ส่วนใหญ่ตกขาวที่เกิดจากเชื้อชนิดนี้จะเป็นสีเขียว แต่ก็มีบ้างในบางกรณีที่เป็นตกขาวสีเหลือง ดูเพิ่มเติมในตกขาวสีเขียว) นอกจากสาเหตุที่กล่าวมาแล้ว ยังมีสาเหตุอื่น ๆ ที่ทำให้มีอาการตกขาวสีเหลืองได้ด้วย เช่น 

การติดเชื้อแบคทีเรีย Chlamydia ปากมดลูกอักเสบ และช่องคลอดอักเสบ แต่ก็พบได้ไม่บ่อยเท่ากับสาเหตุที่กล่าวมาข้างต้น

  • ตกขาวเป็นสีเขียว

มักเกิดจากการติดเชื้อทริโคโมแนส (Trichomonas vaginalis) ทำให้มีอาการคัน แสบ แดง และเจ็บที่อวัยวะเพศ บางรายอาจมีอาการปัสสาวะแสบขัด มีตกขาวผิดปกติร่วมกับอาการคัน อาจตกขาวเป็นสีเหลืองหรือสีเขียว มีปริมาณตกขาวเยอะขึ้น มีกลิ่นเหม็นออกเปรี้ยวเล็กน้อย ตกขาวมีลักษณะเป็นฟอง (ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของการติดเชื้อชนิดนี้) เป็นต้น นอกจากนี้ยังอาจเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียบางชนิด (ถ้าตกขาวเป็นสีเขียวแต่ไม่มีอาการคัน ไม่มีกลิ่น ให้ลองสังเกตตอนที่ออกมาใหม่ ๆ ถ้าเป็นสีขาว ไม่มีกลิ่น แต่พอออกมาถูกอากาศข้างนอกสักพักแล้วเปลี่ยนเป็นสีเหลืองหรือเขียว อาจจะเป็นตกขาวปกติที่ไม่จำเป็นต้องรักษาก็ได้)
 

  • ตกขาวเป็นสีน้ำตาล หรือ ตกขาวมีเลือด 

อาจเกิดจากการมีเลือดออกผิดปกติแล้วปนออกมาทำให้ตกขาวเป็นสีน้ำตาลได้ เช่น

  • เลือดออกจากประจำเดือนมาไม่ปกติ มาช้าหรือมาผิดปกติไม่ตรงรอบ
  • เลือดออกจากการตกไข่ ซึ่งมักเป็นในช่วง 2 สัปดาห์หลังมีประจำเดือนวันแรก อาจมีอาการปวดท้องน้อยร่วมด้วย ตกขาวในช่วงนี้มักเป็นมูกเหลวใส
  • เลือดออกจากการฝังตัวของตัวอ่อนหรือที่เรียกว่าเลือดล้างหน้าเด็ก มักเกิดขึ้นในสัปดาห์ที่ 3 หลังการมีประจำเดือนวันแรก มักเป็นเลือดสีชมพูจาง ๆ หรืออาจจะเป็นสีน้ำตาลก็ได้ในปริมาณไม่มาก และมักไม่มีอาการปวดท้องร่วมด้วย
  • เลือดออกจากฮอร์โมนผิดปกติหรือแปรปรวน
  • เลือดออกจากภาวะการตั้งครรภ์นอกมดลูก โดยอาจทำให้มีเลือดออกกะปริดกะปรอยร่วมกับมีอาการปวดท้องน้อยอย่างมาก
  • เลือดออกผิดปกติจากมะเร็งเยื่อบุมดลูก หรือมะเร็งปากมดลูก
  • อาจเกิดจากการติดเชื้อที่ปากมดลูกหรือช่องคลอด ทำให้มีตกขาวปริมาณมาก มีกลิ่นเหม็น อาจมีเลือดเก่าหรือสีน้ำตาลปน ส่งผลให้เกิดตกขาวมีเลือดในที่สุด
  • ตกขาวสีชมพู

มักพบได้ในหญิงหลังคลอด เนื่องจากการหลุดลอกของเยื่อบุโพรงมดลูก หรืออาจเป็นสีของเลือดล้างหน้าเด็กซึ่งมักจะเป็นสีชมพูจาง ๆ (Lighter shade of pink)
 

  • ตกขาวมีฟอง

อาจเกิดจากการติดเชื้อทริโคโมแนส (Trichomonas vaginalis)
 

  • ตกขาวร่วมกับตุ่มบวมแดงรอบอวัยวะเพศ

อาจเกิดจากโรคเริมที่อวัยวะเพศ

นี่คือสิ่งที่สาว ๆ ทุกคนควรรู้เกี่ยวกับภาวะตกขาวสีต่าง ๆ และตกขาวแบบไหนผิดปกติในวันนี้ หากคุณกำลังสงสัยว่ากำลังมีปัญหาตกขาวผิดปกติร่วมกับอาการคันหรือมีสีของตกขาวแบบที่กล่าวมาข้างต้น ควรบอกอาการให้แพทย์หรือเภสัชทราบเพื่อรับการรักษาต่อไป

ภาวะตกขาว

ภาวะตกขาว ซึ่งบางทีเรียกว่า มุตกิด หรือระดูขาวนั้น เป็นภาวะหนึ่งที่สตรีส่วนมากต้องประสบและทำให้สตรีจำนวนไม่น้อยมาพบแพทย์ และสูตินรีแพทย์ ภาวะดังกล่าวอาจเป็นอาการที่แสดงออกมาจากการตอบสนองต่อฮอร์โมนในสตรีที่ปกติ หรือจากการที่เป็นโรคที่ไม่รุนแรงเรื่อยไปจนกระทั่งถึงโรคที่รุนแรงก็ได้ ดังนั้นภาวะนี้จึงมีความสำคัญมิใช่น้อย

ตกขาว คืออะไร

ตกขาว เป็นของเหลวใด ๆ ที่ไหลออกมานอกช่องคลอด แต่ไม่ใช่เลือด ของเหลวดังกล่าวส่วนใหญ่ถูกสร้างขึ้นจากช่องคลอด ปากมดลูก และอวัยวะข้างเคียงบริเวณปากช่องคลอด

ลักษณะของตกขาว จะมีความแตกต่างกันไปขึ้นการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย ทั้งในขณะที่อยู่ในภาวะปกติ หรือกำลังเป็นโรคอยู่

ภาวะตกขาวที่ปกติเป็นอย่างไร และเกิดขึ้นได้อย่างไร

ตามปกติแล้วในสตรีที่อยู่ในวัยเจริญพันธุ์ (อีกนัยหนึ่ง คือ สตรีที่อยู่ในช่วงอายุที่ยังมีประจำเดือน หรือมีฮอร์โมนเพศหญิงเจริญเต็มที่) จะมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนแตกต่างกันไปตามระยะของประจำเดือน

การเปลี่ยนแปลงนี้ จะมีผลต่อลักษณะของๆ เหลวที่สร้างขึ้นมาจากอวัยวะต่าง ๆ ในระบบสืบพันธุ์สตรี ดังเช่น ในช่วงกึ่งกลางรอบประจำเดือนหรือระยะใกล้เคียงกับการตกไข่

ซึ่งเป็นเวลาที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจนสูง ทำให้ในช่วงเวลานี้ จะมีตกขาวลักษณะค่อนข้างเหลวใส ๆ ปริมาณมากกว่าระยะเวลาอื่น ส่วนตกขาวในระยะเวลาอื่นจะมีสีขาวขุ่นคล้ายแป้งเปียก

นอกจากนั้นแล้ว ตกขาวที่ปกติควรจะไม่คัน และไม่มีกลิ่น ถ้าตกขาวของท่านมีลักษณะดังที่กล่าวมานี้ถือว่าปกติ ไม่มีความจำเป็นต้องรักษา

อย่างไรก็ตาม  สตรีแต่ละท่านจะมีปริมาณตกขาวแตกต่างกันไป บางท่านอาจมีปริมาณตกขาวมากจนเปื้อนชุดชั้นในอยู่หลายวันในแต่ละเดือน แต่สำหรับบางท่านอาจมีปริมาณน้อยจนไม่รู้ว่ามีตกขาวเลย

นอกจากนี้ ฮอร์โมนในสตรีในวัยดังกล่าว ทำให้เซลล์ในช่องคลอดสมบูรณ์ และมีการสร้างสารประเภทแป้งที่เรียกว่าไกลโคเจน ซึ่งจะถูกเปลี่ยนแปลงโดยแบคทีเรียชนิดหนึ่งให้เป็นกรดอ่อน ๆ  ภาวะนี้จะช่วยป้องกันการรุกรานจากเชื้อโรคชนิดอื่นที่ก่อให้เกิดความผิดปกติได้

ภาวะตกขาวที่ผิดปกติเป็นอย่างไร มีสาเหตุจากอะไร

ตกขาวผิดปกติจะมีลักษณะที่ต่างออกไปจากที่กล่าวมาข้างต้น จะมีสาเหตุใหญ่อยู่ 2 ประเภท คือ สาเหตุจากการติดเชื้อ และสาเหตุจากการไม่ติดเชื้อ

ตกขาวที่มีสาเหตุจากการติดเชื้อ

ตกขาวจากสาเหตุนี้ เกิดได้จากเชื้อไวรัส แบคทีเรีย รา และพยาธิในช่องคลอด ตกขาวประเภทนี้ บางชนิดจะมีลักษณะที่ค่อนข้างเฉพาะตัว ดังจะกล่าวต่อไป

1. ตกขาวที่มีสาเหตุจากเชื้อไวรัส

เชื้อไวรัสบางชนิดเป็นเชื้อโรคที่ติดต่อมาโดยการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่มีเชื้อ บางครั้งอาจไม่มีอาการชัดเจน

ตัวอย่างของโรคในกลุ่มนี้ได้แก่ โรคเริมซึ่งเป็นโรคที่ไม่หายขาด จะมีอาการเป็นตุ่มใส ๆ ขนาดเล็ก ต่อมาจะแตกเป็นแผลแสบ มีตกขาวสีเหลืองมีกลิ่นผิดปกติโดยเฉพาะอย่างยิ่งในครั้งแรกที่ปรากฏอาการ

2. ตกขาวที่มีสาเหตุจากเชื้อแบคทีเรีย

ตกขาวประเภทนี้มักมีสีเหลือง หรือค่อนข้างเขียว อาจมีอาการคันในบางราย เชื้อบางชนิดอาจเกิดตกขาวมีกลิ่นคาวปลาหลังการร่วมเพศ แต่ในกรณีที่มีการติดเชื้อจากโรคหนองในจะมีตกขาวสีเหลืองจัด อาจร่วมกับมีอาการปัสสาวะแสบขัดได้

3. ตกขาวมีสาเหตุจากเชื้อรา

เชื้อราในช่องคลอดมักทำให้เกิดอาการตกขาวสีขาว มีลักษณะเป็นก้อนเล็ก ๆ คล้ายนมที่ทารกแหวะออกมา และมีอาการคันช่องคลอด การตกขาวชนิดนี้มักไม่ได้เกิดจากการติดต่อทางเพศสัมพันธ์

สาเหตุที่พบบ่อยเกิดจากการใช้ยาปฏิชีวนะ น้ำยาสวนล้างช่องคลอดที่มีส่วนผสมของยาปฏิชีวนะ หรือในกรณีที่ผู้ป่วยมีภูมิต้านทานต่ำ เช่น ผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวาน ผู้ป่วยกำลังใช้ยาที่มีฤทธิ์กดภูมิต้านทาน

4. ตกขาวที่มีสาเหตุจากเชื้อพยาธิในช่องคลอด

พยาธิชนิดนี้เป็นโรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ชนิดหนึ่ง มักมีสีเหลือง อาจเห็นเป็นฟอง มีอาการคันช่องคลอด และอาจมีกลิ่นออกเปรี้ยวเล็กน้อย

ตกขาวที่มีสาเหตุจากการไม่ติดเชื้อ

ตกขาวผิดปกติประเภทนี้ มีสาเหตุได้จาก การระคายเคืองหรือแพ้สารเคมี จากมะเร็งในอวัยวะสืบพันธุ์สตรี (เช่น มะเร็งของปากมดลูก ช่องคลอด ท่อนำไข่) รวมทั้งเกิดจากการมีสิ่งแปลกปลอมในช่องคลอด

ท่านจะทำอย่างไรในกรณีที่เกิดปัญหาตกขาว

ท่านที่ประสบปัญหาตกขาวที่มีลักษณะปกติดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นนั้น ท่านก็ไม่จำเป็นต้องทำการรักษาแต่อย่างไร เพียงแต่ควรมาพบสูตินรีแพทย์ของท่าน เพื่อตรวจภายในพร้อมทั้งตรวจมะเร็งปากมดลูกประจำปี

แต่ถ้าหากว่าท่านมีอาการตกขาวที่มีลักษณะผิดปกติ กล่าวคือ มีสี กลิ่นผิดไปจากปกติหรืออาจมีอาการคันร่วมด้วย ก็ควรจะได้รับการตรวจและรักษาให้ถูกต้องตามสาเหตุ

ทั้งนี้เนื่องมาจากการรักษาที่ตรงตามสาเหตุจะทำให้โรคหายเร็วขึ้น เช่น ในกรณีที่ตกขาวจากเชื้อรา แพทย์อาจจะให้ยาเหน็บรักษาด้วย โคลไทรมาโซล หรือถ้าเป็นจากเชื้อพยาธิในช่องคลอด ก็อาจจะต้องใช้ยารับประทาน เมโทรนิดาโซล เป็นต้น

ประการที่สองสาเหตุของตกขาวที่ผิดปกติบางครั้งอาจเกิดจากมะเร็งอวัยวะสืบพันธุ์สตรีได้ โรคดังกล่าวนี้ควรได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน

ส่วนประการสุดท้ายคือ ถ้าอาการตกขาวของท่านมีสาเหตุจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ท่านควรจะได้รับการตรวจหาพร้อมกับการรักษาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ชนิดอื่นที่อาจเกิดร่วมด้วย

รวมทั้งต้องมีการตรวจรักษาคู่สมรสด้วย จึงจะไม่ทำให้ท่านและคู่สมรสเกิดภาวะแทรกซ้อนและเกิดโรคขึ้นซ้ำอีกในภายหลัง

ข้อเขียนโดย: พ.อ.ผศ.น.พ.ธนบูรณ์   จุลยามิตรพร

อาจารย์ภาควิชาสูติศาสตร์นรีเวชวิทยา วิทยาลัยแพทย์ศาสตร์พระมงกุฎเกล้า
หน่วยช่วยการเจริญพันธุ์ และต่อมไร้ท่อทางนรีเวช กองสูตินรีเวชกรรม รพ.พระมงกุฎเกล้า
สูติแพทย์ที่ปรึกษา รพ.วิภาวดี

อาการตกขาวมีกลิ่นเกิดจากอะไร

อาการตกขาวมีกลิ่นและกลิ่นไม่พึงประสงค์เกิดได้จากหลายสาเหตุและปัจจัย แต่สิ่งที่ส่งผลให้เกิดการติดเชื้อมักมาจากการเสียสมดุลของจุลินทรีย์ตามธรรมชาติที่อาศัยภายในช่องคลอด อย่างเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา โดยวิธีต่อไปนี้อาจช่วยรักษาสมดุลจุลินทรีย์และลดความเสี่ยงของปัญหาตกขาวมีกลิ่นและกลิ่นไม่พึงประสงค์ใต้ร่มผ้าได้

ปกติตกขาวมีกลิ่นไหม

โดยปกติแล้ว ลักษณะของตกขาวจะมีสีใสหรือขาวขุ่นเล็กน้อย ไม่มีกลิ่น ซึ่งเราสามารถสังเกตอาการที่บ่งบอกว่าตกขาวผิดปกติ ได้จาก ตกขาวเปลี่ยนสีจากสีขาวเป็นตกขาวสีเขียว ตกขาวสีเหลือง ตกขาวสีขาวเทา หรือตกขาวมีสีแดง เนื่องจากมีเลือดปน

ช่องคลอดมีกลิ่นติดเชื้ออะไร

อาการที่พบบ่อยที่สุดในภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย (Bacterial Vaginosis) หลัก ๆ คือ มีกลิ่น “เหม็นเหมือนกลิ่นคาวปลา” และอาการอื่น ๆ ที่อาจพบร่วมด้วยได้ มีดังนี้ ตกขาวผิดปกติลักษณะเหลวเป็นน้ำ ตกขาวผิดปกติสีเทาออกขาว มีอาการข้างต้นรุนแรงขึ้นหลังมีเพศสัมพันธ์หรือระหว่างมีประจำเดือน

อาการคันตกขาวเกิดจากอะไร

เมื่อมีอาการคันหรือมีตกขาวปริมาณมาก ผู้หญิงทั่วไปมักจะนึกถึงการติดเชื้อราในช่องคลอดเป็นสาเหตุแรกๆ ทำให้ไปหาซื้อยามาใช้เอง ใช้ครบบ้างไม่ครบบ้างจนเกิดเป็นปัญหาเรื้อรังขึ้นมา อันที่จริงแล้วอาการคันและตกขาวเกิดได้จากหลายสาเหตุทั้งจากการติดเชื้อรา แบคทีเรีย หรือไวรัส หรือแม้กระทั่งไม่เกี่ยวกับการติดเชื้อ เช่น ความเป็นกรดของ ...