อาการเส้นเลือดหัวใจตีบ เกิดจากผนังเส้นเลือดหัวใจเกิดอาการตีบจากไขมันและการอักเสบบริเวณผนังเส้นเลือดทำให้เลือดไปเลี้ยงหัวใจไม่เพียงพอทำให้เกิดกล้ามเนื้อหัวใจตาย Show
อาการของเส้นเลือดหัวใจตีบมีอะไรบ้างส่วนใหญ่คือ อาการเจ็บแน่นหน้าอกเจ็บตรงกลาง เจ็บตื้อ ๆ เหมือนมีอะไรมาทับ มีร้าวไปที่ไหล่ด้านซ้ายหรือร้าวไปที่คางได้ มักพบอาการเหงื่อแตก ตัวเย็น ใจสั่นได้ในขณะที่มีอาการ มักจะมีอาการในขณะที่ออกกำลังกายหรือทำงานหนัก นั่งพักมักจะดีขึ้น ในบางรายอาจจะมาด้วยจุกแน่นลิ้นปี่ หายใจไม่ออก อาการอื่น ๆ ที่อาจเป็นเส้นเลือดหัวใจตีบอีกเช่น หน้ามืด เป็นลม หมดสติหรือเสียชีวิตได้
การวินิจฉัยภาวะเส้นเลือดหัวใจตีบ
การรักษาเส้นเลือดหัวใจตีบ ขึ้นกับอาการและความรุนแรงของโรค
การป้องกันเส้นเลือดหัวใจตีบได้แก่การรักษาโรคประจำตัวเรื้อรังให้อยู่ในเกณฑ์ เช่น เบาหวานก็ควรควบคุมน้ำตาลให้อยู่ในเป้าหมาย ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง การงดสูบบุหรี่ การงดดื่มสุรา การควบคุมน้ำหนักอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
จะเห็นได้ว่าภาวะเส้นเลือดหัวใจตีบ เป็นภาวะที่สำคัญ มีความรุนแรง จึงควรป้องกันในสิ่งที่ป้องกันและควบคุมได้ ถ้ามีอาการที่ท่านสงสัยก็ควรพบแพทย์เพื่อได้รับการประเมินและรักษาอย่างทันท่วงที โรคเส้นเลือดหัวใจตีบ เป็นสาเหตุของการเสียชีวิตอันดับต้นๆ ของเมืองไทย ในอดีตมักพบมากในวัยสูงอายุ แต่ปัจจุบันพบภาวะนี้ในผู้ที่มีอายุน้อยลงเรื่อยๆ ซึ่งผู้ป่วยส่วนใหญ่อาจไม่รู้ตัวว่าเป็นโรคเส้นเลือดหัวใจตีบเพราะมักไม่มีอาการในระยะแรก กว่าจะรู้ก็มีอาการของโรคเส้นเลือดหัวใจตีบที่ชัดเจน เจ็บหน้าอก แน่นหน้าอก หรือยิ่งไปกว่านั้นก็อาจพบหลังประสบภาวะหัวใจวายไปแล้ว โดยแนวทางการรักษาเส้นเลือดหัวใจตีบนั้นมีหลากหลายวิธี ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการขยายหลอดเลือดหัวใจด้วยการทำบอลลูนหัวใจ ซึ่งเป็นการรักษาที่ไม่ต้องผ่าตัด และมีความปลอดภัย โอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนต่ำ ใช้เวลาพักฟื้นน้อย สาเหตุของการเกิดโรคเส้นเลือดหัวใจตีบเส้นเลือดหัวใจตีบเกิดจากการที่เส้นเลือดตีบแคบลงจากความเสื่อมสภาพตามอายุที่เพิ่มมากขึ้น หรือ มีการสะสมของคราบหินปูน หรือ ไขมันไปเกาะอยู่ที่ผนังของหลอดเลือดชั้นในจนเกิดการอุดตัน ปริมาณเลือดแดงผ่านได้น้อย เป็นผลทำให้เกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด และหากเส้นเลือด แดงตีบแคบมากจนอุดตัน จะทำให้เกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายได้ ปัจจัยที่เสริมให้เส้นเลือดหัวใจตีบมากขึ้น
อาการที่ตามมาหากเกิดภาวะเส้นเลือดหัวใจตีบ
การตรวจวินิจฉัยเส้นเลือดหัวใจตีบแนวทางในการตรวจวินิจฉัยโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ เบื้องต้นแพทย์จะทำการซักประวัติก่อน จากนั้นจะส่งตรวจพิเศษเพิ่มเติมอื่นๆ เกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือด ได้แก่
บอลลูนหัวใจ ทางเลือกการรักษาเส้นเลือดหัวใจตีบโดยไม่ต้องผ่าตัดแนวทางการรักษาโรคเส้นเลือดหัวใจตีบในปัจจุบัน มีวิธีการรักษาหลายแบบ และแต่ละวิธีก็มีความเหมาะสมที่แตกต่างกันไป แต่วิธีการรักษาที่แพทย์นิยมทำโดยไม่ต้องใช้การผ่าตัด คือ การทำบอลลูนหัวใจ หรือการขยายหลอดเลือดหัวใจด้วยบอลลูนและใส่ขดลวดถ่างขยาย ซึ่งเป็นการหัตถการการรักษาที่สามารถทำได้เลย ต่อจากการฉีดสีดูการตีบของเส้นเลือดหัวใจ การทำบอลลูนหัวใจและใส่ขดลวดนั้น จะช่วยดันไขมัน หรือคราบหินปูนที่อุดตันหลอดเลือดอยู่ให้ไปชิดผนังหลอดเลือด ทำให้เลือดสามารถไหลผ่านจุดที่เคยตีบได้สะดวกขึ้น ลดความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันจากหลอดเลือดหัวใจอุดตันได้ บอลลูนหัวใจมีวิธีการรักษาอย่างไรการทำบอลลูนหัวใจรักษาเส้นเลือดหัวใจตีบ สามารถทำได้โดยการสอดสายสวนหัวใจ ซึ่งเป็นท่ออ่อนที่มีบอลลูนขนาดจิ๋วอยู่ตรงปลายเข้าไปทางหลอดเลือดที่บริเวณขาหนีบ หรือข้อมือ เมื่อถึงบริเวณที่หลอดเลือดตีบจึงต่อสายบอลลูนเข้ากับเครื่องมือที่อยู่ภายนอกร่างกาย เพื่อดันให้บอลลูนขยายออก เบียดคราบไขมัน คราบหินปูนที่เกาะอยู่ที่ผนังหลอดเลือดให้ยุบแบนลงและขยายหลอดเลือดให้กว้างออก เพื่อให้เลือดไหลไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจได้ดีอีกครั้ง นอกจากนี้แพทย์อาจพิจารณาใส่ขดลวด (stent) ที่มีลักษณะที่เป็นโครงตาข่าย เข้าไปค้ำยันยึดติดกับผนังหลอดเลือดที่ตีบเพื่อเสริมความแข็งแรงในการขยายหลอดเลือดหัวใจในตำแหน่งที่ทำการขยายบอลลูนร่วมด้วย เพื่อป้องกันการกลับมาอุดตันอีก |