หน้าที่ของผู้ประสานงานโครงการประกอบด้วยหลายด้าน ของการจัดการโครงการ เช่น การสร้างและการดำเนินการตามแผนโครงการและการปรับปรุงแก้ไขแผนเหล่านี้หากจำเป็น เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการ
ผู้ประสานงานโครงการจะต้องระบุแหล่งข้อมูลทั้งหมดที่สำคัญและมอบหมายผู้รับผิดชอบโครงการด้วย นอกจากนี้ผู้ประสานงานโครงการยังต้องประเมินผลการดำเนินงาน พร้อมรายงานความคืบหน้าให้กับลูกค้า โดยการประชุมผู้ประสานงาน *** สั่งทำ Resume เนื้อหาดี ข้อความโดนๆ เลือกแบบสวยๆ ได้ง่ายๆ ภาษาไทย 450 บาท อังกฤษ 750 บาท ส่งได้ใน 2 วัน หรือหากมี Resume เดิมอยู่แล้ว แต่ต้องการแบบที่ทันสมัย Design สวยๆ เราจัดให้เพียง 200 บาท สั่งได้เลย ตลอด 24 ชั่วโมงตัวอย่างคำบรรยายลักษณะงานผู้ประสานงานโครงการ (Project Coordinator Job Description Sample)
Line ID: @tfind
นอกจากนี้การบังคับใช้มาตรฐานโครงการตามที่ลูกค้ากำหนด จะช่วยลดความเสี่ยง เกี่ยวกับการทำโครงการเพื่อให้แน่ใจว่า โครงการดังกล่าวจะอยู่ในช่วงเวลาตามที่ลูกค้าต้องการ
บุคคลในตำแหน่งนี้ยังเป็นนักบัญชีในระดับหนึ่งและมีหน้าที่รับผิดชอบในการติดตามและรายงานเวลาและค่าใช้จ่ายทั้งหมดของทีมในแต่ละสัปดาห์และเพื่อคาดการณ์ความสามารถในการทำกำไรและอัตรารายได้และใช้ประโยชน์จากเงินทุนเหล่านี้ได้อย่างเหมาะสม เขาต้องให้แน่ใจว่าเอกสารทางกฎหมายทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับโครงการถูกต้องถูกต้องตามกฎหมายและลงนามโดยถูกต้องทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในโครงการ
เป็นผู้ประสานงานที่ประสบความสำเร็จจะบอกคุณว่า พวกเขาไม่จำเป็นต้องได้รับการสอนหรือ เรียนรู้ภายในห้องเรียน ดังนั้นในขณะที่สิ่งสำคัญคือต้องได้รับการรับรองคุณต้องมีทักษะบางอย่าง โดยสองลักษณะที่สำคัญที่สุดคือ การสื่อสารที่ดี และทักษะขององค์กร ขณะนี้ทักษะเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่คุณจะเรียนรู้ได้จากห้องเรียน แต่คุณสามารถใช้เวลาในแต่ละวันเพื่อทำหน้าที่หลักให้กับพวกเขาและกลายเป็นความชำนาญที่พวกเขามากขึ้น
บุคคลในตำแหน่งนี้จะต้องสื่อสารกับลูกค้าและสมาชิกในทีมของตนอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการจัดประชุม เพื่อให้แน่ใจว่าทุกคนสามารถติดตามความคืบหน้า ปัญหาต่างๆที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างดำเนินโครงการ รวมถึงวิธีแก้ไขต่างๆ ผู้ประสานงานโครงการต้องสามารถใช้เครื่องมือและเครื่องใช้ทั้งหมดที่จำเป็นในการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถนำเสนองานเพื่ออธิบายโครงการและฐานข้อมูลได้อย่างเหมาะสม
ผู้ประสานงานโครงการต้องมีทักษะด้านการประสานงานเพื่อให้มั่นใจว่าทุกคนที่เกี่ยวข้องในโครงการมีความเข้าใจในทุกแง่มุมของโครงการเป็นอย่างดี
หลักๆ
บางคนอาจจะมองว่าการทำงานในด้านอีเว้นท์นั้นจะมีแต่งานด้านการจัดงาน ออกแบบตัวงาน และดีไซน์สิ่งต่างๆ เท่านั้น เลยพาลคิดไปว่าถึงจะชอบอีเว้นท์แค่ไหน แต่พอตัวเองไม่ได้เรียนด้านการจัดอีเว้นท์มาก็อาจจะรู้สึกว่าไม่สามารถทำงานในบริษัทประเภทนี้ได้ แต่จริงๆ แล้ว มีงานอีกหลายด้านที่อยู่ในบริษัทอีเว้นท์ ถึงแม้จะไม่ใช่งานจัดการอีเว้นท์ตรงๆ แต่ก็ยังมีความสำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน ไปดูกันเลย ว่าจะมีสายงานและตำแหน่งอะไรที่ ทำงานอีเว้นท์ ได้บ้าง Account Executive/ Sale ก่อนที่จะเกิดงานอีเว้นท์ขึ้นมาแต่ละงานได้นั้น แน่นอนว่าต้องมีลูกค้าว่าจ้างก่อน ซึ่งตรงนี้ก็เป็นหน้าที่ของฝ่ายขาย ที่จะต้องพูดคุยถึงรายละเอียดงานนั้นๆ กับทางลูกค้าให้ชัดเจน เช่น
งานเกี่ยวกับอะไร อยากจัดที่ไหน มีงบเท่าไหร่ และรายละเอียดยิบย่อยอีกมากมายนับไม่ถ้วน เพราะฉะนั้นหน้าที่นี้ถือว่าสำคัญเป็นอย่างมากในการหารายได้ให้กับบริษัท เมื่อไหร่ที่อยากออกไปหาลูกค้าเจ้าอื่นๆ หน้าที่นี้ก็สามารถนัดลูกค้าเพื่อเข้าไปขายงานได้เช่นกัน Project Coordinator
งานอีเว้นท์เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นและจบไป มีระยะเวลาที่กำหนดไว้แบบแน่ชัด เพราะฉะนั้นเวลาทำงานก็จะแบ่งความรับผิดชอบเป็นงานๆ ไป ทำให้หน้าที่ Project Coordinator หรือ คนดูแลประสานงาน เป็นสิ่งที่จำเป็น เพราะการจัดงานต้องมีหลายเรื่องที่ต้องทำ การมีหัวหน้าประสานกับลูกค้าในแต่ละโปรเจกต์จะช่วยให้การทำงานเป็นไปได้ง่ายและมีระเบียบมากขึ้น
Creative
หลังจากมีการพูดคุยและดีลกับลูกค้าเรียบร้อยแล้ว สิ่งที่บรีฟกลับมา คนดูแลโปรเจกต์จะต้องมาประสานงานกับฝ่ายครีเอทีฟที่จะมีหน้าที่ออกแบบและหาไอเดียให้ตอบโจทย์กับสิ่งที่ลูกค้าต้องการ อย่างการดีไซน์กิจกรรม การจัดวางสถานที่ หรืองานโปรดัคชั่นต่างๆ ทีมครีเอทีฟก็มีความสำคัญในเรื่องเหล่านี้ทั้งหมด
Graphic Designer
นอกจากนั้น อย่าลืมว่าบางงานอีเว้นท์ก็จะต้องมีพาร์ทงานกราฟิกเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย อย่างการออกแบบโลโก้งาน, การดีไซน์เรื่องพื้นที่ หรือแม้กระทั่งคิดโปสเตอร์ยิบย่อยต่างๆ ดีเทลเหล่านี้ก็ต้องการคนที่มีความคิดสร้างสรรค์และเข้าใจในเรื่องการออกแบบเข้ามาช่วย เพราะไม่ใช่ลูกค้าทุกคนจะมีสิ่งเหล่านี้มาให้แต่แรก
Multimedia Producer
แต่ถ้าจะให้งานโปรดัคชั่นออกมาสมบูรณ์แบบและถูกหลักจริงๆ ตำแหน่งงานหรืองานด้านมัลติมีเดียที่เกี่ยวกับการออกแบบ แสง สี เสียง หรือ เอฟเฟกต์ต่างๆ ก็สำคัญมากๆ ส่วนใหญ่บริษัทออแกไนเซอร์ก็มักจะมีพนักงานด้านนี้ในการช่วยดูรายละเอียดและดีไซน์งานโปรดัคชั่นโดยรวมนั่นเอง
Purchase
ส่วนทีมงานหรือตำแหน่งที่จะช่วยให้องค์ประกอบและโครงสร้างของงานอีเว้นท์เกิดขึ้นมาได้นั้น ก็คือหน้าที่ของ Purchase หรือ จัดซื้อ ที่จะต้องหา supplier ของเรื่องต่างๆ อย่างเช่น โครงสร้างเวที, ร้านออกบูธและบริษัทต่างๆ ที่จะต้องนำมาใช้ในงานอีเว้นท์นั้นๆ เพราะแน่นอนว่างบประมาณค่าใช้จ่ายก็เป็นเรื่องสำคัญ ใครที่อยาก ทำงานอีเว้นท์ แต่อาจจะไม่ได้มีความรู้ลึกมาก หน้าที่ของจัดซื้อก็สามารถดูแลงานด้านอื่นๆ ได้
Support/ Staff
ขยับไปถึงช่วงวันงานกันบ้าง ลูกค้าบางรายอาจจะต้องการ ทีมงานหรือสตาฟคอยประจำที่หน้างานด้วย การมีทีมงานซัพพอร์ตหรือสตาฟคอยดูแลประจำแต่ละจุดก็จะช่วยให้งานผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ถือว่าตำแหน่งนี้เป็นตำแหน่งช่วยเหลือบริการและซัพพอร์ตตามสถานการณ์ต่างๆ นั่นเอง
ทำงานอีเว้นท์
สามารถค้นหางานอีเว้นท์ที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ที่
Line: @Zipevent (อย่าลืมเติม @ ข้างหน้าด้วยนะคะ) หรือจิ้มไปที่ลิงก์นี้ได้เลย //line.me/R/ti/p/%40khj7199c
Instagram: www.instagram.com/zipevent
Website: www.zipeventapp.com
Twitter: www.twitter.com/zipeventapp
Facebook: www.facebook.com/zipevent