ประกันคุ้มครองวงเงินสินเชื่อ กรุงศรี คืออะไร

สินเชื่อส่วนบุคคลเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่หลายคนเลือกใช้เพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงินให้แข็งแรง แต่ก่อนที่จะไปสมัครขอสินเชื่อจากที่ใด ลองมาทำความเข้าใจกันดูสักนิดว่า สินเชื่อส่วนบุคคลคืออะไร มีเรื่องใดที่ต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจสมัครขอสินเชื่อส่วนบุคคลบ้าง

 

สินเชื่อส่วนบุคคลคืออะไร?

สินเชื่อส่วนบุคคล (Personal Loan) คือ รูปแบบหนึ่งของการกู้เงินแบบอเนกประสงค์ ที่ผู้กู้สามารถนำเงินไปใช้จ่ายได้ตามความต้องการหรือความจำเป็นได้ โดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์หรือบุคคลค้ำประกัน

 

ประเภทของสินเชื่อมีอะไรบ้าง?

โดยทั่วไปแล้ว สินเชื่อนั้นสามารถจัดประเภทได้หลายแบบ ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามเกณฑ์ที่ใช้ เช่น สินเชื่อแบ่งตามระยะเวลา หรือ สินเชื่อแบ่งตามหลักประกัน แต่โดยปกติแล้ว สินเชื่อส่วนบุคคลจะแบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด และสินเชื่อส่วนบุคคลประเภทต่างๆ

 

วงเงินสินเชื่อ คืออะไร

วงเงินสินเชื่อ คือ วงเงินสูงสุดที่ผู้กู้ได้รับอนุมัติจากทางธนาคาร โดยจะขึ้นอยู่กับฐานรายได้และหลักเกณฑ์การพิจารณาของธนาคารเป็นสำคัญ หลังจากที่ทางธนาคารอนุมัติสินเชื่อแล้ว ผู้กู้จะได้รับวงเงินในบัญชี ซึ่งสามารถเบิกถอนไปใช้งานได้ตามความต้องการภายในวงเงินที่ได้รับ

 

ข้อควรรู้ก่อนขอสินเชื่อส่วนบุคคล

ผู้สมัครขอสินเชื่อควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสินเชื่อที่สนใจในเบื้องต้นให้ชัดเจนมากที่สุด อีกทั้งยังควรทำความเข้าใจลักษณะผลิตภัณฑ์และข้อควรรู้ต่าง ๆ ให้พร้อมก่อนเสมอ ทั้งนี้เพื่อเพิ่มความมั่นใจและความรอบคอบก่อนตัดสินใจกู้

โดยสินเชื่อส่วนบุคคลหรือ Personal Loan คือ สินเชื่อที่ออกโดยผู้ให้บริการสินเชื่อ ทั้งธนาคารและสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร เพื่อเป็นทางเลือกเงินก้อนสำหรับหมุนเวียนใช้จ่ายตามความต้องการและความจำเป็นของผู้กู้ ผู้กู้จะได้รับอนุมัติวงเงินที่สามารถใช้ได้ และทยอยผ่อนชำระคืนทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยเป็นจำนวนงวดตามที่ได้ตกลงกันไว้

สำหรับผู้ที่สนใจ หากต้องการต่อยอดสภาพคล่องทางการเงินด้วยสินเชื่อส่วนบุคคล ธนาคารกรุงศรีมาพร้อมกับสินเชื่อบุคคลในรูปแบบเงินก้อนพร้อมใช้ สินเชื่อหมุนเวียน และบัตรกดเงินสดให้ทุกคนได้เลือกต่อยอดทางการเงินในแบบที่ต้องการ

 

พร้อมทั้งสามารถติดตามความรู้เกี่ยวกับสินเชื่อเบื้องต้น รวมไปถึงข้อกำหนด และตารางการเปิดเผยข้อมูลผลิตภัณฑ์แต่ละตัวอย่างละเอียดผ่านไฟล์ต่าง ๆ ที่หน้าเว็บไซต์ หรือหากสนใจสมัครสินเชื่อด้วยตัวเองก็สามารถดำเนินการได้ง่าย ๆ ผ่านแอปพลิเคชัน  Krungsri Mobile Application หรือ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมผ่าน Call Center โทร. 1572

นางแองเจล่า ฮันเตอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ชับบ์ ไลฟ์ เปิดเผยว่า ประกันภัยคุ้มครองวงเงินสินเชื่อเป็นผลิตภัณฑ์ที่มอบความอุ่นใจเพิ่มขึ้นแก่เจ้าของรถที่ใช้บริการสินเชื่อ และลดความเสี่ยงจากเหตุการณ์ไม่คาดฝัน

โดย ชับบ์ ไลฟ์ ได้ร่วมมือกับ กรุงศรี ออโต้ โบรคเกอร์ ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ดังกล่าวแก่ลูกค้าของกรุงศรี ออโต้ มาเกือบ 20 ปี ซึ่งชับบ์ ไลฟ์ มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้สานต่อพันธมิตรในครั้งนี้ โดยยังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ ให้ตอบสนองความต้องการด้านการเงินได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เช่น การผ่อนชำระเบี้ยประกันรายเดือน ซึ่งช่วยให้เจ้าของรถสามารถบริหารจัดการค่าใช้จ่ายได้ดียิ่งขึ้น

ผลิตภัณฑ์ประกันภัยคุ้มครองวงเงินสินเชื่อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ช่วยลดข้อกังวลกับภาระทางการเงินของผู้ใช้บริการสินเชื่อ ด้วยความคุ้มครองในกรณีที่อุบัติเหตุ ทุพพลภาพ ตลอดจนการเสียชีวิต จนทำให้ไม่สามารถชำระค่างวดต่อไปได้ โดย ชับบ์ ไลฟ์ จะเข้ามารับผิดชอบสำหรับค่างวดคงเหลือ ทั้งนี้ ลูกค้าสามารถเลือกทำประกันได้พร้อมการทำสัญญาสินเชื่อเช่าซื้อ

นางกฤติยา ศรีสนิท ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ความร่วมมือกับ ชับบ์ ไลฟ์ ประกันชีวิต ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันภัยคุ้มครองวงเงินสินเชื่อ เป็นหนึ่งในความมุ่งมั่นของ กรุงศรี ออโต้ โบรคเกอร์ ในการส่งมอบบริการด้านการเงินที่ครอบคลุมแก่ผู้ใช้บริการสินเชื่อ ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อรถยนต์ สินเชื่อรถจักรยานยนต์ และสินเชื่อเพื่อคนมีรถ “คาร์ ฟอร์ แคช” โดยถือเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเราเชื่อว่า ประกันภัยคุ้มครองวงเงินสินเชื่อจะยังคงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของผู้ใช้รถที่มองหาความคุ้มครองและความคุ้มค่า ท่ามกลางสถานการณ์ไม่แน่นอนในปัจจุบัน

“การสานต่อความร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นการเน้นย้ำถึงค่านิยมของทั้งสององค์กรที่ให้ความสำคัญกับลูกค้าเป็นอันดับแรก โดย ชับบ์ ไลฟ์ และกรุงศรี ออโต้ โบรคเกอร์ จะเดินหน้าเชื่อมต่อการให้บริการผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ และข้อมูลกรมธรรม์ ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ไร้รอยต่อยิ่งขึ้น” 

ทุกวันนี้ไม่ว่าจะไปขอสินเชื่อบ้าน สินเชื่อส่วนบุคคล หรือสินเชื่ออะไรก็ตาม เจ้าหน้าที่มักจะแนะนำให้ทำประกันชีวิตคุ้มครองวงเงินสินเชื่อ เพื่อเป็นหลักประกันว่า หากว่าเราเสียชีวิตหรือทุพพลภาพ เงินกู้ก้อนนี้ จะไม่กลายเป็นภาระให้แก่คนรุ่นหลัง หรือเป็นหนี้เสียอย่างแน่นอน

ประกันชีวิตคุ้มครองวงเงินสินเชื่อคืออะไร?

ประกันชีวิตคุ้มครองวงเงินสินเชื่อ คือ ประกันชีวิตที่คุ้มครองผู้ขอสินเชื่อตามวงเงินที่กู้ และตามระยะเวลาสินเชื่อนั้น ๆ โดยบริษัทประกันจะจ่ายเงินกู้ที่เหลืออยู่ตามที่ระบุในหนังสือรับรองการประกันภัย หากผู้ทำประกันเสียชีวิต หรือสูญเสียอวัยวะ และทุพพลภาพสิ้นเชิงถาวรจากอุบัติเหตุ จนไม่สามารถประกอบอาชีพหรือผ่อนสินเชื่อต่อได้  

            ตัวอย่างเช่น นายเอ ขอสินเชื่อเพื่อซื้อรถยนต์ จำนวน 500,000 บาท ผ่อนชำระจนเงินต้นเหลือ 300,000 บาทตามตารางผ่อนชำระ นายเอไก่เสียชีวิตลง ในกรณีนี้ หากไม่ได้ทำประกันชีวิตคุ้มครองวงเงินสินเชื่อไว้ ทายาทตามกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นภรรยาหรือลูก จะต้องผ่อนชำระต่อ ถึงจะมีสิทธิในรถยนต์คันดังกล่าวอย่างสมบูรณ์ แต่หากไม่มีเงินผ่อนชำระต่อ สถาบันการเงินที่นายเอกู้ยืมจะทำการยึดรถยนต์คันดังกล่าวไปทันที แต่หากว่านายกอไก่ได้ทำประกันชีวิตคุ้มครองวงเงินสินเชื่อไว้ ประกันจะจ่ายเงินจำนวน 300,000 บาทให้กับสถาบันทางการเงินแทน ทายาทของนายเอก็จะไม่ต้องผ่อนชำระสินเชื่อต่อ และจะมีสิทธิเป็นเจ้าของรถยนต์คันดังกล่าวอย่างสมบูรณ์ทันที

            แต่เดิมนั้น การทำประกันชีวิตคุ้มครองวงเงินสินเชื่อนิยมทำในกรณีที่วงเงินสินเชื่อค่อนข้างสูงและมีระยะเวลาการผ่อนชำระที่นาน อย่างการกู้ซื้อบ้าน ที่ดิน หรือสินทรัพย์ที่มีมูลค่ามาก เนื่องจากมีระยะเวลากู้หลายสิบปี และมีความเสี่ยงที่ผู้กู้จะเสียชีวิต หรือทุพพลภาพไปก่อนที่จะปิดบัญชีสินเชื่อนั้น ๆ ได้ แต่ในปัจจุบันสินเชื่อส่วนบุคคลอื่น ๆ ก็สามารถซื้อประกันชีวิตรูปแบบนี้ไว้คุ้มครองได้ ทั้งสินเชื่อบัตรเครดิต และสินเชื่อรถยนต์ แม้จะเป็นสินเชื่อที่มีระยะเวลาการกู้ยืมที่สั้น ไม่ถึง 10 ปี แต่ก็เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการหลักประกันและสร้างความอุ่นใจมากยิ่งขึ้น

จำเป็นหรือไม่ ที่ขอสินเชื่อแล้วต้องทำประกันทุกครั้ง

ในความเป็นจริงแล้ว การทำสินเชื่อและการทำประกันชีวิตคุ้มครองวงเงินสินเชื่อเป็นสิ่งที่แยกออกจากกัน เราไม่จำเป็นจะต้องทำ แต่ถ้าทำก็เป็นหลักประกันให้กับคนในครอบครัวหรือทายาทของเราว่าไม่ต้องลำบากหาเงินมาผ่อนชำระสินเชื่อต่อไป

            แล้วใครกันที่ได้ประโยชน์?

            หากคุณตัดสินใจขอสินเชื่อ แล้วเจ้าหน้าที่แนะนำให้ทำประกันไปพร้อมกันด้วย หลายคนอาจจะตั้งการ์ดและคิดว่าสถาบันการเงินได้ประโยชน์ไปเต็มๆ แต่ในความเป็นจริงแล้ว เป็นการได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย กล่าวคือ สถาบันทางการเงินจะสามารถมั่นใจได้ว่า หนี้ก้อนนี้จะไม่เป็นหนี้เสีย หากว่าเกิดเหตุไม่คาดฝันกับผู้กู้ และผู้กู้ก็จะได้มั่นใจได้ว่า คนที่อยู่ข้างหลังจะไม่ต้องลำบากหาเงินมาใช้หนี้ก้อนนี้นั่นเอง

            แล้วใครที่ควรจะทำมากที่สุด?

            คำตอบคือ เสาหลักของครอบครัว หรือคนที่เป็นหัวเรือใหญ่ในการหาเงินเข้าบ้าน เพื่อเลี้ยงดูครอบครัว เพราะหากเสาหลักของครอบครัวเสียชีวิตหรือทุพพลภาพไม่สามารถทำงานได้ คนอื่น ๆ ในครอบครัวจะต้องก้าวขึ้นมาทำหน้าที่นี้ ซึ่งการเสียเสาหลักของบ้านไป อาจทำให้สถานะทางการเงินเกิดความไม่มั่นคง และยิ่งต้องมีภาระในการผ่อนชำระหนี้ ก็อาจทำให้เกิดความยากลำบากมากยิ่งกว่าเดิม ดังนั้นประกันชีวิตคุ้มครองวงเงินสินเชื่อจึงไม่ใช่ประกันเพื่อสถาบันทางการเงิน แต่เป็นหลักประกันเพื่อคนที่คุณรัก ให้ไม่ต้องมีภาระที่ไม่จำเป็น

สิทธิประโยชน์เเละความคุ้มครองมีอะไรบ้าง?

สำหรับประกันชีวิตคุ้มครองวงเงินสินเชื่อ จะให้ความคุ้มครองใน 2 กรณี คือ 1. เสียชีวิต 2. สูญเสียอวัยวะ และทุพพลภาพสิ้นเชิงถาวรจากอุบัติเหตุ ซึ่งทั้งสองกรณีทำให้ผู้กู้ไม่มีศักยภาพที่จะชำระหนี้ได้

            ในกรณีที่ผู้กู้เสียชีวิต จะคุ้มครองทุกกรณีไม่มีเงื่อนไข ไม่ว่าจะเป็นการเสียชีวิตอันเนื่องมาจากอุบัติเหตุ ความเจ็บป่วย หรือสาเหตุใดก็ตาม โดยจะได้รับความคุ้มครองตามเงินประกันที่ลดลงตามตารางการผ่อนชำระ แต่ในกรณีที่ผู้กู้ได้ผ่อนชำระเกินกว่าที่สถาบันการเงินกำหนด เพื่อลดต้นลดดอก ผู้รับผลประโยชน์หรือทายาทก็จะได้รับเงินส่วนต่างตรงนี้ด้วยเช่นกัน

            ในกรณีสูญเสียอวัยวะ และทุพพลภาพสิ้นเชิงถาวรจากอุบัติเหตุ ทางบริษัทประกันจะจ่ายเงินชดเชยตารางรางรายการทดแทน เช่น กรณีสูญเสียมือหรือเท้า 2 ข้าง โดยตัดตั้งแต่ข้อมือหรือข้อเท้า หรือสูญเสียสายตาทั้ง 2 ข้าง โดยไม่มีทางรักษาให้หายได้ จะได้รับความคุ้มครอง 100% ของวงเงินเอาประกันภัยให้กับสถาบันการเงินเพื่อชำระหนี้สินคงค้าง และส่วนที่เหลือ (ถ้ามี) ให้กับผู้รับผลประโยชน์หรือทายาทด้วยเช่นกัน

กู้เงินแล้ว ทำประกันวงเงินไปเลยดีไหม?

ทำประกันชีวิตคุ้มครองวงเงินสินเชื่อดีหรือไม่? ก่อนจะตอบคำถามนี้ต้องถามตัวเองก่อนว่า ทุกวันนี้เราทำประกันชีวิตเพราะอะไร คำตอบส่วนใหญ่คือ ไม่อยากจะให้คนที่เรารักต้องลำบาก ประกันชีวิตตัวนี้ก็เช่นกัน เพราะหากว่าเกิดอะไรขึ้นกับเราขึ้นมา ลูกหลานของเราจะได้รับผลประโยชน์ไปเต็ม ๆ หรืออย่างน้อย เขาจะไม่เดือดร้อนเพราะสินเชื่อก้อนนี้ของเรา เพราะแม้ว่าบางคนจะบอกว่าให้ขายรถหรือบ้านเพื่อใช้หนี้ แต่กว่าจะขายสินทรัพย์เหล่านี้ได้ ก็เล่นเอาเหงื่อตกไปเหมือนกัน ลองพิจารณาดูสักนิด ก่อนที่จะตัดสินใจปฏิเสธประกันชีวิตคุ้มครองวงเงินสินเชื่อไป

สำหรับผู้ที่ต้องการเงินสดหรือต้องการสินเชื่อส่วนบุคคลแบบด่วน ๆ สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ศรีสวัสดิ์ เงินสดทันใจ เราพร้อมให้คำปรึกษาและช่วยเหลือคุณอย่างเต็มที่ อนุมัติไว ไม่ต้องใช้สลิป ไม่เช็กประวัติทางการเงิน มีสาขาพร้อมให้บริการกว่า 5,000 สาขาทั่วไทย หรือสมัครผ่านเว็บไซต์ง่าย ๆ เพียงคลิกที่นี่ นอกจากนี้เรายังมีประกันชีวิตคุ้มครองวงเงินสินเชื่อ สำหรับผู้ที่ต้องการหลักประกันไว้ให้คนที่เรารัก ไม่ต้องลำบากอีกด้วย

ประกันคุ้มครองวงเงินสินเชื่อ กี่บาท

จุดเด่นของประกันคุ้มครองวงเงินสินเชื่อ นำไปลดหย่อนภาษีได้ โดยจะต้องทำประกันคุ้มครองวงเงินสินเชื่อ สำหรับกรมธรรม์ที่มีระยะเวลาเอาประกันภัยตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป ก็จะสามารถนำเบี้ยประกันที่จ่ายในปีที่ชำระ ไปลดหย่อนภาษีบุคคลธรรมดาได้สูงสุดถึง 100,000 บาท

ประกันโครงการคุ้มครองสินเชื่อคืออะไร

ประกันคุ้มครองสินเชื่อ หรือประกันชีวิตแบบคุ้มครองสินเชื่อ ซึ่งก็มีความหมายตรงตัวคือ เป็นการประกันความเสี่ยงในการชำระหนี้ ซึ่งประกันนี้จะให้ความคุ้มครองแก่ผู้กู้ ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันกับผู้กู้ก่อนสัญญาสินเชื่อจะสิ้นสุด พูดง่ายๆก็คือหากเกิดเรื่องไม่คาดฝันกับผู้กู้ ในระหว่างที่ยังคงมีหนี้ค้างชำระ บริษัทประกันก็ ...

ประกันวงเงินสินเชื่อรถยนต์ คืออะไร

ประกันสินเชื่อรถยนต์ คือ ประกันชีวิตรูปแบบหนึ่ง ที่ทางธนาคารอาจมีข้อเสนอให้เราทำประกันตัวนี้ หลังจากขอสินเชื่อซื้อรถได้แล้ว เนื่องจากทางธนาคารผู้ให้สินเชื่อเป็นผู้จ่ายชำระค่ารถนั้นไปก่อนแล้วมาแบกรับความเสี่ยงจากเรา ในฐานะผู้ขอกู้อีกต่อหนึ่ง และในอนาคตอาจมีเหตุการณ์ที่ทำให้การผ่อนชำระของเราต้องสะดุดหรือหยุดลงได้ดังนั้น ...

ประกันคุ้มครองวงเงินสินเชื่อ ยกเลิกได้ไหม

ยกเลิกได้นะครับคุณ เขาคิดยอดรวมมาจริงครับแต่พอเรายกเลิกแล้วเราก็ตัดยอดไอตัวค่าประกันออก ยอดรายเดือนก็จะเหลือแค่มูลค่าหนี้ที่เราก่อไว้แค่นั้นแหละครับ