ร่ายสุภาพ ข. สัมผัสและคำเอกคำโท ๑) สัมผัสบังคับ ดูได้จากแผนผังของโคลงสองดังนี้ คำที่ ๕ ของวรรคที่ ๑ สัมผัสกับคำที่ ๕ ของวรรคที่ ๒ เพียงแห่งเดียวตามเส้นที่โยงไว้ ถ้าแต่งต่ออีกหลายบท คำสุดท้ายของวรรคที่ ๓ จะสัมผัสกับคำที่ ๑ หรือ ๒ หรือ ๓ ของวรรคแรกในบทต่อไป ตัวอย่าง โคลงสองสุภาพ
ร่ายสุภาพ ร่ายที่นิยมแต่งในวรรณกรรมไทยมี ๔ ชนิดคือ ร่ายสุภาพ ร่ายดั้น ร่ายโบราณ และร่ายยาว ร่ายมีลักษณะบังคับ ๕ อย่าง คือ คณะ พยางค์ สัมผัส คำเอกคำโท และคำสร้อย ร่ายที่นิยมกันแพร่หลายตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบัน คือ ร่ายสุภาพ และมักมีการนำร่ายสุภาพไปแต่งเป็นส่วนหนึ่งของลิลิต เช่น ลิลิตพระลอ ลิลิตตะเลงพ่าย ลักษณะบังคับของร่ายสุภาพ
จะแต่งกี่วรรคก็ได้ แต่ตอนจบต้องจบด้วยโคลงสองสุภาพ ๔. คำเอกคำโท มีบังคับคำเอกคำโทเฉพาะที่โคลงสองสุภาพตอนท้ายบทเท่านั้น ๕. คำสร้อย ร่ายสุภาพแต่ละบท มีคำสร้อยได้เพียง ๒ คำ คือ สองคำสุดท้าย https://www.gotoknow.org/posts/414076
|