หากรู้สึกว่างานอดิเรกที่ทำอยู่ในตอนี้ช่างจำเจเสียเหลือเกิน ลองเปลี่ยนบรรยากาศมาวาดภาพระบายสีอะคริลิคกัน ซึ่งการวาดนั้นไม่ได้ยากอย่างที่ใครๆ คิดเลย เพราะไม่ว่าจะเบื่อ เศร้า เหงา ดีใจ อกหัก รักคุด คุณก็สามารถปลดปล่อยความรู้สึกเหล่านี้ออกมาได้ด้วยการวาดรูป เผลอๆ คุณอาจจะได้รูปแนวเก๋ๆ ออกมาอย่างไม่ตั้งใจก็เป็นได้ ฟังดูดีมีประโยชน์ไหมล่ะ ส่วนวิธีการระบายสีนั้นก็ไม่มีอะไรยุ่งยาก เพียงแค่คุณอ่านคำแนะนำของเราแล้วนำไปใช้ ขั้นแรกเราเริ่มจากการรู้จักสีกันก่อนนะ สีอะคริลิค“สีอะครีลิค” เป็นสีที่มีส่วนผสมของสารพลาสติกโพลีเมอร์ (Polymer) จำพวก อะครีลิค (Acrylic) หรือ ไวนิล (Vinyl) เป็นสีที่มีการผลิตขึ้นมาใหม่ล่าสุด เวลาจะใช้นำมาผสมกับน้ำ ใช้งานได้เหมือนกับสีน้ำ และสีน้ำมัน บ่อยครั้งที่เราเรียกเจ้าสีอะคริลิคว่าเป็นสีอัจฉริยะ เพราะมันสามารถนำไปใช้กับงานหลากหลายประเภท แถมยังระบายได้กับหลายพื้นผิวอีกต่างหาก ไม่ว่าจะเป็น โลหะ ไม้ พลาสติก แก้ว ผ้า และกระดาษ นอกจากนี้ ยังมีคุณสมบัติที่แห้งเร็ว ติดแน่นกับพื้นผิวได้ดีและทนทาน จึงไม่น่าแปลกใจที่สีอะคริลิคจะกลายเป็นสียอดนิยมที่คนทั่วไปเลือกใช้กันลักษณะของสีเป็นแบบทึบแสง ซึ่งถ้าระบายแบบหนาๆ จะดูเหมือนภาพวาดด้วยสีน้ำมัน แต่จะดีกว่าตรงที่ไร้กลิ่นและปลอดสารพิษ จึงไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ของผู้ใช้ หรือถ้าระบายแบบบางๆ ก็ดูเหมือนระบายด้วยสีน้ำเช่นกัน เห็นไหมล่ะครับ ว่าเจ้าสีนี้มันอัจฉริยะขนาดไหน พื้นฐานการระบายสีอะคริลิค อย่างแรกเราต้องไม่ลืมว่า สีอะคริลิคนั้นเป็นสีทึบแสงเวลาที่ระบายไปแล้ว สีอาจจะไปทับลายเส้นที่วาดเอาไว้ได้ และจะทำให้เรามองไม่เห็นรูปภาพที่จะระบายได้ ฉะนั้นสำหรับผู้เริ่มต้น อาจใช้พู่กันลากสีตามเส้นภาพที่วาดไว้ก่อนจะระบายสีก็ได้ ต่อจากนั้นจึงค่อยทำการระบายสีบนรูป แต่ข้อควรระวังก็คือ สีอะคริลิค เป็นสีที่แห้งเร็วมาก การระบายจึงต้องมีความแม่นยำจริงๆ และอุปกรณ์ที่ใช้กับสีอะคริลิคต่างๆ อย่างพู่กัน และจานรองสี เมื่อใช้เสร็จแล้ว ควรล้างออกในทันทีเพราะถ้าสีแห้ง อุปกรณ์เหล่านี้อาจจะนำกลับมาใช้งานไม่ได้อีก และนี่คือเทคนิคง่ายๆ เบื้องต้น ซึ่งคุณสามารถนำไปใช้ในการวาดรูปของคุณ ให้ดูสวยงามและเป็นธรรมชาติมากขึ้น ทั้งยังเป็นการผ่อนคลายยามว่าง และช่วยสร้างเสริมจินตนาการของคุณอย่างไม่รู้จบ ถ้าคุณต้องการเลือกหาซื้อสีอะคริลิค คลิกมาที่ Central Online เราได้คัดเลือกสีอะคริลิคคุณภาพดี มาให้คุณเลือกสรรอย่างมากมาย ทั้งยังง่าย สะดวก และรวดเร็วในการส่ง
ไลฟ์แฮ็ก ผสมสีอะคริลิคอย่างไร ให้ได้สีผิวครบเฉดของคนทั้งโลกในปัจจุบันสีอะคลีลิคเป็นสีที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง เพราะมีตัวทำละลายเป็นน้ำ จึงมีความสะดวกในการใช้งาน แต่เมือแห้งตัวแล้วจะมีคุณสมบัติกันน้ำเช่นเดียวกันกับสีน้ำมัน แต่สีน้ำมันต้องใช้น้ำมันลินสีดเป็นตัวทำละลาย และใช้น้ำมันสน ในการล้างพู่กัน ซึ่งทำให้การวาดภาพสีน้ำมันมีอุปกรณ์และขั้นตอนที่ซับซ้อนกว่า อีกทั้งต้องทำงานในพื้นที่ ที่อากาศถ่ายเทสะดวกเพี่อระบายกลิ่นของสารระเหยต่างๆ ที่ใช้ระหว่างการระบายสี อย่างไรก็ดี ปัญหาที่ผู้เริ่มต้นใช้สีอะคริลิคมักจะประสบก็คือปัญหาในการผสมสีเพื่อให้ได้สีต้องการ การผสมสี เป็นกิจกรรมแรกๆ ที่ผู้ที่สนใจศิลปะควรศึกษาอย่างละเอียด เพื่อความคล่องตัวในการผสมสี ให้ได้เฉดสีตามความต้องการของผู้ทำงานศิลปะ บางครั้งเราพยายามในการผสมสีที่ต้องการครึ่งค่อนวัน แต่กลับไม่ได้เฉดสีตามที่ต้องการ นั้นเป็นเพราะเราเลือกหยิบสีที่นำมาผสมกันไม่ถูกต้องนั้นเอง ปกติแล้วแม่สีหรือสีปฐมภูมิ แดง เหลือง น้ำเงิน คือสีที่พวกเราคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว แต่หากได้ใช้เวลาศึกษาอีกนิดจะพบว่า จริงๆ แล้วสีอะคริลิค ยังประกอบไปด้วยแม่สีโทนร้อน และแม่สีโทนเย็น แม่สีโทนร้อน เมื่อสังเกตให้ดีจะเห็นว่าสีแดงจะมีสีแดงอมส้ม สีน้ำเงินอมม่วงแดง และสีเหลืองสด ในส่วนของแม่สีโทนเย็น สีแดงจะอมน้ำเงิน สีน้ำเงินอมเขียว และสีเหลืองอมเขียวหรือเขียวเลมอน การผสมสีโทนร้อนและโทนเย็นเข้าด้วยกัน จะทำให้เกิดเฉดสีเพิ่มขึ้นจากการผสมสีเฉพาะในสีโทนร้อนหรือสีโทนเย็นด้วยกัน การจดบันทึกในขั้นตอนการผสมสีจะช่วยทำให้เราสามารถผสมสีเดิมที่ต้องการได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้นค่ะ หากเราได้ศึกษาการใช้สีในการวาดภาพบุคคลของศิลปินมืออาชีพ เราจะพบว่าศิลปินเหล่านั้นใช้สีที่หลากหลายเฉดในการระบายสีผิวผู้คน หากเราก้มลงมองดูที่แขนของเราเอง เราก็จะพบว่าใน 1ตารางนิ้วของผิวหนังของเราประกอบด้วยเฉดสีมากมายหลายเฉด หาใช่สีเปลือกไข่ หรือสีครีมตามสีผิวของตัวละครในการ์ตูน การผสมสีผิวให้มีความสมจริงนอกจากจะทำให้ภาพวาดมีมิติ น่าสนใจแล้ว ยังเป็นการใส่ชีวิตวิญญาณลงไปให้กับบุคคลในภาพวาดอีกด้วย การผสมสีเฉดสีผิวของมนุษย์ที่นำเสนอนี้ ดิฉันได้รับการถ่ายทอดมาจากศิลปินหญิงชาวออสเตรเลียค่ะ สีที่ได้จากการผสมจะครอบคลุมทุกเฉดสีผิวของมนุษย์บนโลกนี้ และทำให้สามารถผสมสีผิวให้ตรงกับต้นแบบได้ง่ายมากๆ เนื่องจากเป็นการเทียบเคียงกับองค์ประกอบของเฉดสีต่างๆ ที่ปรากฏอยู่บนผิวของคนผู้นั้น ขั้นตอนแรก เราจะต้องผสมสีทุติยภูมิ หรือสีขั้นที่สอง จากแม่สีของเราก่อน เมื่อได้สีขั้นสองแล้ว นำสีที่ได้มาจับคู่กันแล้วผสมออกมาเป็นสีขั้นที่สาม หรือ สีขั้นตติยภูมิ ได้แก่ สีส้ม+สีเขียว สีส้ม+สีม่วง สีเขียว+สีม่วง ในรอบนี้ จะทำให้ได้สีโทนน้ำตาลเฉดต่างๆ ที่น่าสนใจ ซึ่งการจะปรับเฉดสีให้เข้ากับสีผิวของต้นแบบ เป็นเรื่องที่ง่ายมาก เริ่มจากการศึกษาว่าต้นแบบมีองค์ประกอบของสีเฉดใดที่ปรากฎในผิวบ้าง เช่น ชาวแอฟริกันบางคนมีโทนผิวสีน้ำตาลอมม่วง แต่สีน้ำตาลม่วงที่เราผสมได้ม่วงมากเกินไปและมืดกว่าสีผิวของต้นแบบ เราสามารถแบ่งสีน้ำตาลโทนม่วงที่ได้มากับผสมสีขั้นทุติยภูมิอีกครั้ง แล้วผสมสีขาวลงไป เพื่อปรับเฉดสีให้ตรงกับที่ตาเรามองเห็นจากแบบ สีในส่วนที่เหลือเราต้องเก็บไว้เพื่อใช้ในการระบายแสงเงา ซึ่งจะให้สีทั้งหมดเป็นสีเฉดเดียวกันค่ะ สีผิวของคนไทย สีผิวโทนเหลือง ซึ่งสามารถผสมขึ้นตามขั้นตอนแล้วผสมสีขาวลงไป สามารถผสมสีแดงลงไปเล็กน้อยในส่วนที่ต้องการสีแดงระเรื่อๆ ถ้าเราใช้สีครีมหรือสีเปลือกไข่แทนการผสมสีขึ้นเอง จะทำให้สีผิวที่ขาดมิติ และไม่ตรงกับสีผิวที่แท้จริงของคนไทยค่ะ ตัวอย่างภาพน้องบาร์บี้ มีสีผิวน้ำตาลแดง เฉดสีที่น้องยืนโพสท่าอยู่ข้าง คือ เฉดสีผิวที่น้องคู่ควร ถ้าสังเกตให้ดีจะเห็นว่าส่วนเงาบนใบหน้าของน้อง มีสีตรงกันกับสีที่เราผสมได้อยู่แล้ว เราทำให้สีอ่อนลงด้วยการผสมสีขาว แต่เราจะทำให้สีเข้มขึ้นโดยการผสมสีคู่ตรงข้ามลงไป เราจะไม่ใช้สีดำในการทำให้โทนสีเข้มขึ้น เพราะจะทำให้สีเหล่านั้นแบนไร้มิตินะคะ จากการศึกษาผลงานของจิตรกรหลาย ๆ ท่าน ทำให้เห็นว่า การใช้สีที่ผสมมาสำเร็จโดยไม่ผสมสีใด ๆ เพิ่มเติม ทำให้ส่วนที่ใช้สีนั้นแบน ไม่น่าสนใจ เพราะความจริงแล้วสีที่เรามองเห็นจริงเกิดจากการรวมตัวของสีหลายเฉด ไม่ใช่สีใดเพียงสีหนึ่ง การผสมสีให้น่าสนใจแม้จะใช้เวลานานแต่เป็นหนึ่งในทักษะสำคัญ ที่ต้องพัฒนาไปควรคู่กับการวาดภาพระบายสีค่ะ หวังว่าเทคนิคในการผสมสีนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกๆ ที่กำลังฝึกฝนฝีมือในการวาดภาพระบายสีด้วยสีอะคริลิคนะคะ ความคิดเห็น กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์ |