ขายของออนไลน์ต้องเสียภาษีแบบไหน ?เขียนเมื่อ 20 กุมภาพันธ์ 2565 หมวดหมู่ ภาษี โดย Jutamat Kimapong Show
ทำความเข้าใจกันก่อนว่าการขายของออนไลน์นั้นหากไม่ได้มีการเปิดหรือจดทะเบียนในรูปแบบบริษัท จะถือเป็นการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ซึ่ง ถูกจัดอยู่ในเงินได้ประเภทที่ 8 คือเงินได้จากการค้าขาย และช่วงเวลาที่พ่อค้าแม่ค้าต้องยื่นภาษีจะมีอยู่ 2 ช่วงดังนี้ค่ะ ยื่นภาษีสิ้นปี (ยื่นแบบ ภ.ง.ด.90) ช่วงเดือน ม.ค. - มี.ค.
เป็นการสรุปรายได้ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในช่วงปีที่ผ่านมา คำนวณภาษีอย่างไร ? ซึ่งส่วนใหญ่ร้านค้าออนไลน์มักจะไม่ได้จดทะเบียนพาณิชย์ วันนี้พิมเพลินขอพูดถึงเฉพาะการคำนวณภาษีแบบบุคคลธรรมดาละกันค่ะ ซึ่งการคำนวณภาษีรายได้แบบบุคคลธรรมดานั้น สูตรคือ (รายได้ - ค่าใช้จ่าย - ค่าลดหย่อน) x อัตราภาษี = ภาษีที่ต้องจ่าย สามารถคำนวณได้ 3 แบบ จุดสำคัญอยู่ที่ ค่าใช้จ่าย และ ค่าลดหย่อน นั่นเองค่ะ ข้อควรรู้ : กรณีที่พ่อค้า แม่ค้าออนไลน์ที่มีรายได้ (ย้ำนะคะว่ารายได้ ไม่ใช่กำไร) เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี จะต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ด้วยนะคะ โดยปัจจุบันยังจัดเก็บอยู่ที่ 7% นั่นเองค่ะ ค่าใช้จ่ายที่นำมาคิดภาษีสำหรับร้านค้าออนไลน์มีกี่แบบ
? ยังมีเรื่อง การลดหย่อน และตารางอัตราภาษี อีกด้วยนะ !! สูตรคือ (รายได้ - ค่าใช้จ่าย - ค่าลดหย่อน) x อัตราภาษี = ภาษีที่ต้องจ่าย ที่เรียกว่าขั้นบันไดเพราะว่า เมื่อเราได้ รายได้สุทธิ แล้วต้องนำรายได้สุทธินั้นมาเทียบกับกับตารางอัตราภาษี เพื่อดูว่า เราจะเสียภาษีเท่าไร (รายได้สุทธิคือ รายได้หลังหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนต่างๆ) ลองใส่ตัวเลขเข้าไปดูค่ะ ยกตัวอย่าง นาย A มีรายได้จากการขายของออนไลน์ 1,000,000 บาท 1,000,000 - 600,000 -60,000) = รายได้สุทธิ 340,000 บาท เทียบกับตารางเสียภาษี ต้องเสียภาษี 11,500 บาท รับทำบัญชี ภาษี ทำ-ยื่นแบบแสดงภาษีทุกประเภท ปิดงบการเงิน รายเดือน รายปี ปรึกษาภาษีเสลภูมิ, ร้อยเอ็ด ขอบเขตการให้บริการครอบคลุมงานด้านบัญชี ภาษี ประกันสังคม บันทึกบัญชี ปิดงบ จัดทำรายละเอียดต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง” รายละเอียดมีดังต่อไปนี้ ให้คำแนะนำ... [อ่านต่อ] ขายของออนไลน์ต้องเสียภาษีแบบไหน ? ขายของออนไลน์ต้องเสียภาษียังไง?ทำความเข้าใจกันก่อนว่าการขายของออนไลน์นั้นหากไม่ได้มีการเปิดหรือจดทะเบียนในรูปแบบบริษัท จะถือเป็นการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ซึ่ง ถูกจัดอยู่ในเงินได้ประเภทที่ 8 หรือ ม.40 (8) คือเงินได้จากการค้าขาย และช่วงเวลาที่พ่อค้าแม่ค้าต้องยื่นภาษีจะมีอยู่ 2 ช่วงดังนี้ค่ะ
คำนวณภาษีอย่างไร ?สำหรับร้านค้าออนไลน์ ภาษีหลัก ๆ จะมีอยู่ 2 แบบ คือ เสียภาษีแบบอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และ เสียภาษีแบบนิติบุคคล (กรณีนี้สำหรับร้านค้าออนไลน์ที่มีการจดทะเบียนเป็นบริษัท) ซึ่งส่วนใหญ่ร้านค้าออนไลน์มักจะไม่ได้จดทะเบียนพาณิชย์ วันนี้พิมเพลินขอพูดถึงเฉพาะการคำนวณภาษีแบบบุคคลธรรมดาละกันค่ะ ซึ่งการคำนวณภาษีรายได้แบบบุคคลธรรมดานั้น สูตรคือ (รายได้ - ค่าใช้จ่าย - ค่าลดหย่อน) x อัตราภาษี = ภาษีที่ต้องจ่าย สามารถคำนวณได้ 3 แบบ จุดสำคัญอยู่ที่ ค่าใช้จ่าย และ ค่าลดหย่อน นั่นเองค่ะ ข้อควรรู้ : กรณีที่พ่อค้า แม่ค้าออนไลน์ที่มีรายได้ (ย้ำนะคะว่ารายได้ ไม่ใช่กำไร) เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี จะต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ด้วยนะคะ ซึ่งกฎหมายจะบังคับให้พ่อค้า แม่ค้าออนไลน์ ต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่มีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาท โดยปัจจุบันยังจัดเก็บอยู่ที่ 7% นั่นเองค่ะ
ค่าใช้จ่ายที่นำมาคิดภาษีสำหรับร้านค้าออนไลน์มีกี่แบบ ?
ยังมีเรื่อง การลดหย่อน และตารางอัตราภาษี อีกด้วยนะ !!การลดหย่อนภาษี คือ รายการค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่สรรพากรประกาศให้นำมาหักลบกับรายได้ เพื่อให้เราคำนวณ รายได้สุทธิ ออกมากและนำไปเปรียบเทียบคิดภาษีกับตารางอัตราภาษี ที่เรามักจะได้ยินว่า คำนวณภาษีแบบขั้นบันได นั่นแหล่ะค่ะ สูตรคือ (รายได้ - ค่าใช้จ่าย - ค่าลดหย่อน) x อัตราภาษี = ภาษีที่ต้องจ่าย ที่เรียกว่าขั้นบันไดเพราะว่า เมื่อเราได้ รายได้สุทธิ แล้วต้องนำรายได้สุทธินั้นมาเทียบกับกับตารางอัตราภาษี เพื่อดูว่า เราจะเสียภาษีเท่าไร (รายได้สุทธิคือ รายได้หลังหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนต่างๆ) อัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา 2565 ใช้ยื่นปี 2566
มาลองคำนวณภาษีแบบวิธีที่ร้านส่วนใหญ่ใช้ คือ หักค่าใช้จ่ายตามอัตรา กันดีกว่า...
สูตรการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
ลองใส่ตัวเลขเข้าไปดูค่ะ ยกตัวอย่าง
สูตรการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
จากนั้นนำรายได้สุทธิไปเทียบกับตารางอัตราภาษี
แล้วปีนี้มีอะไรสามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้บ้าง?อย่างที่บอกไปค่ะว่า แต่ละปี สรรพากรจะประกาศลดหย่อนไม่เท่ากัน สำหรับของปี 2565 เพื่อยื่นภาษีในปี 2566 มีค่าใช้จ่ายอะไรที่สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้บ้างมาดูกันค่ะ
ข้อควรรู้!! : สำหรับค่าลดหย่อนกลุ่มประกัน เงินออม การลง ในส่วนของประกันชีวิตบำนาญ, กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ, กองทุน RMF, กองทุน SSF, กองทุนบำเน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.), กองทุนสงเคราะห์ครู,กองทุนออมแห่งชาติ ทั้งหมดนี้รวมกันแล้วต้องไม่เกิน 500,000 บาทค่ะ ช้อปดีมีคืน 2565 ใช้ลดหน่อนภาษีได้เมื่อไหร่?
ข้อควรรู้เรื่องภาษีออนไลน์ "อีเพย์เมนต์ (e - Payment)"แม่ค้าออนไลน์สงสัยกันใช่มั๊ยละคะว่า “แล้วสรรพากรจะรู้ได้ยังไงว่ามีการขายของออนไลน์เกิดขึ้น?” ตอนนี้มีกฎหมายออกมารองรับให้ทางสถาบันการเงินต้องมีการส่งข้อมูลการทำธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ หรือที่เรียกว่า “อีเพย์เมนต์ (e-Payment)” ที่เริ่มมีผลบังคับใช้จริงแล้วตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 63 ให้กับทางสรรพากรตรวจสอบ ซึ่งจะมีเงื่อนไขที่เข้าข่ายโดนสรรพากรตรวจสอบมีดังนี้ค่ะ
เงื่อนไขที่กล่าวมานี้ หากธนาคารพบว่าบัญชีใดเข้าข่ายข้อใดข้อหนึ่งก็มีสิทธิ์ถูกตรวจสอบและทำการส่งข้อมูลให้ทางสรรพากรค่ะ แต่ถ้าคุณพ่อค้า แม่ค้าออนไลน์รู้สึกสงสัยเกี่ยวกับภาษีอีเพย์เมนต์ (e-Payment) สามารถวาร์ปไปที่ ธนาคารจะส่งข้อมูลบัญชีแบบไหนให้กรมสรรพากรบ้าง? (ฉบับอัปเดทปี 2022) ได้เลยค่าา โปรแกรมคำนวณภาษีออนไลน์สำหรับใครที่อ่านมาเยอะแล้วก็ยังคงงงอยู่ดี ไม่ต้องกลัวค่ะ เดี๋ยวนี้เทคโนโลยีช่วยเราได้ เลิกกังวลแล้วมองหาตัวช่วยในการคำนวณภาษีได้ที่นี่เลยค่ะ แค่ใส่ตัวเลขก็คำนวณยอดภาษีออกมาให้เราได้เลย 1. RD Smart Taxเป็นแอพสำหรับมือถือมีให้ใช้ทั้ง iOS และ Android หาดาวโหลดเอามาคำนวณกันได้เลย โปรแกรมสุดท้ายสำหรับช่วยคำนวณภาษีกับ iTAX Pro โปรแกรมนี้มีให้ใช้ทั้งบนคอมฯ และมือถือ แอพหน้าตาสวยงามดูง่าย กรอกตัวเลขเป็นขั้นตอนชัดเจน ไม่งงงวยเหมือนเวลาเรากรอกในเว็ปสรรพากรแน่นอน ลองโหลดนำไปคำนวณภาษีกันได้เลยจ้า มีให้ใช้ทั้ง iOS และ Android เช่นกัน Page365 แนะนำ วางแผนภาษีร้านออนไลน์ง่าย ๆ ด้วยการ Export บิลออนไลน์ และ ใบกำกับภาษี ช่วยสรุปยอดขายรายเดือนได้ในคลิกเดียว อย่าลืมขอใบกำกับภาษีในทุกการใช้จ่ายในร้านออนไลน์ เช่น ค่าโฆษณาเฟสบุ๊ค ค่าขนส่ง เป็นต้น เพื่อใช้คำนวณเป็นค่าใช้จ่ายของร้านค้าด้วยนะคะ การเสียภาษีถือเป็นหน้าที่ของผู้มีรายได้ เราผู้เป็นเจ้าของร้านค้าออนไลน์ก็ถือว่าเป็นผู้มีรายได้เช่นกัน เพราะหากเราไม่ทำการยื่นภาษี เราจะโดนเรียกเก็บภาษีย้อนหลัง แถมยังต้องเสียค่าปรับอีกด้วย ทางที่ดีทำให้ถูกต้องตามกฎหมายไว้ก่อน สบายใจกว่ากันเยอะค่ะ
ตัวช่วยเทพ ๆ สำหรับร้านค้าออนไลน์ Previous ขนาดภาพ Facebook 2022 เรื่องควรรู้ของพ่อค้า แม่ค้าออนไลน์365Town, แม่ค้า Page365, แม่ค้าอินเทรนด์PimploenJanuary 4, 2022facebook Next วิธีเช็คสลิปปลอม หมดปัญหาลูกค้าแกล้งโอน ที่แม่ค้าออนไลน์ต้องรู้365Town, แม่ค้ามือโปรPimploenNovember 3, 2021วิธีเช็คสลิปปลอม, ตรวจสลิปโอนเงิน ขายของต้องยื่นภาษีอะไรหากเป็นร้านค้าธรรมดาต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาโดยการคำนวณจากเงินได้สุทธิ แต่ถ้าจดทะเบียนเป็นบริษัท 'นิติบุคคล' เป็นห้างหุ้นส่วนหรือในรูปแบบของบริษัท ก็ต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล โดยคำนวณจากกำไรสุทธิ
ร้านขายของต้องเสียภาษีไหมพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์มือใหม่มาทางนี้ ไม่ว่าเราจะขายอะไรก็ตามแต่ถ้ามีรายได้ยังไงก็ต้องยื่นภาษีนะ เพราะยังถือว่าเป็นบุคคลธรรมดาที่ต้องเสียภาษีเงินได้ โดยจะเสียภาษีหรือไม่เสียภาษีนี้จะต้องขึ้นอยู่กับว่าเรามี "เงินได้สุทธิ" หรือ "กำไรสุทธิ" เมื่อหักค่าใช้จ่าย
เปิดร้านขายของชำต้องเสียภาษีอะไรบ้างกรณีร้านขายของชำไม่ได้จดทะเบียนบริษัทเป็นนิติบุคคล จะต้องมีหน้าที่เสีย ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ซึ่งเจ้าของร้านขายของชำต้องทำรายรับ-รายจ่ายตลอดทั้งปี แล้วนำไปยื่นกรมสรรพากร มาตรา 40(8) โดยคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ตามสูตร คือ (รายได้ – ค่าใช้จ่าย – ค่าลดหย่อน) x อัตราภาษี = ภาษีที่ต้องจ่าย
เงินเข้าบัญชีเท่าไรต้องเสียภาษีมียอดฝากหรือโอนเงินเข้าทุกบัญชี ตั้งแต่ 3,000 ครั้งต่อปีขึ้นไป ไม่ว่าจะรับครั้งละกี่บาทก็ตาม ฝากหรือโอนเงินเข้าทุกบัญชีตั้งแต่ 400 ครั้งต่อปีขึ้นไป และมียอดเงินรวมกันตั้งแต่ 2,000,000 บาทต่อปีขึ้นไป ซึ่งต้องเข้าเงื่อนไขทั้งจำนวนครั้ง และจำนวนมูลค่าของเงินที่รับฝากหรือโอน
|