เหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ไทย มีอะไรบ้าง

ประมวลภาพถ่ายสถานที่ทางประวัติศาสตร์ของศาสนจักร

• ประมวลภาพถ่ายสถานที่ทางประวัติศาสตร์ของศาสนจักร

  ภาพถ่ายสถานที่สำคัญ ๆ ทางประวัติศาสตร์ของศาสนจักรบรรยายให้เห็นดินแดนซึ่งวิสุทธิชนยุคสุดท้ายสมัยต้น ๆ เคยเหยียบย่างมาแล้ว, ดินแดนซึ่งบรรดาศาสดาพยากรณ์ยุคปัจจุบันเคยอาศัยอยู่และสอน, และดินแดนซึ่งเหตุการณ์ในพระคัมภีร์หลายเหตุการณ์เกิดขึ้น. เพื่อให้ท่านใช้ประโยชน์จากภาพถ่ายได้ดีขึ้นในการศึกษาของท่าน, ภาพถ่ายแต่ละภาพมีคำอธิบายสั้น ๆ กำกับไว้. หมายเลขกำกับคำอธิบายและหัวข้อเรื่องตรงกันกับภาพถ่ายที่มีหมายเลขและหัวข้อเรื่องเดียวกัน. ย่อหน้าแรกต่อจากหัวข้อเรื่องของคำอธิบายบรรยายถึงสภาพแวดล้อมในภาพ, รวมถึงสิ่งสำคัญ ๆ ที่ให้สังเกตและมักจะระบุว่าช่างภาพหันไปทางทิศใด. จากนั้นมีบันทึกเหตุการณ์ทางพระคัมภีร์ที่สำคัญ ๆ ในภูมิภาคนั้น, พร้อมด้วยข้ออ้างอิงพระคัมภีร์ทั้งนี้เพื่อให้ท่านทราบว่าจะอ่านรายละเอียดเรื่องราวเกี่ยวกับเหตุการณ์เหล่านั้นได้จากที่ใด.

  ---

• ๑. ป่าศักดิ์สิทธิ์

  ป่าศักดิ์สิทธิ์ตั้งอยู่ในเมืองพอลไมราและเมืองแมนเชสเตอร์, รัฐนิวยอร์ก. ป่าแห่งนี้อยู่ทางตะวันตกของบ้านไม้ซุงหลังเล็กของครอบครัวสมิธในปี ๑๘๒๐.

  

  ---

• ๒. เนินเขาคาโมราห์และเขตแมนเชสเตอร์-พอลไมรา

  ทิวทัศน์ทางทิศเหนือ, ภาพถ่ายนี้แสดงให้เห็นเนินเขาคาโมราห์, ในแมนเชสเตอร์, รัฐนิวยอร์ก. เนินเขานี้มองเห็นจากมุมขวามือด้านล่างของภาพค่อนไปทางด้านบนเกินครึ่งหนึ่งของภาพเล็กน้อย. อนุสาวรีย์สีขาวที่มองเห็นสุดด้านเหนือของเนินเขาสร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแด่เทพโมโรไนและการออกมาของพระคัมภีร์มอรมอน. เนินเขาคาโมราห์ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของป่าศักดิ์สิทธิ์ห่างไปประมาณห้ากิโลเมตร. ใกล้ด้านบนของภาพคือพอลไมรา, ไกลออกไปหกกิโลเมตรครึ่ง. บ้านไร่สมิธและป่าศักดิ์สิทธิ์อยู่ซ้ายมือด้านบนของภาพ.

  

  ---

• ๓. บ้านไม้ซุงของโจเซฟ สมิธ ซีเนียร์

  บ้านจำลองของโจเซฟ สมิธ ซีเนียร์, สร้างบนสถานที่ตั้งบ้านไม้ซุงหลังเดิมใกล้พอลไมรา, รัฐนิวยอร์ก. ครอบครัวสมิธสร้างบ้านหลังจริงทำด้วยท่อนซุงหนึ่งชั้นครึ่งไม่นานหลังจากพวกเขามาถึงพอลไมรา.

  

  ---

• ๔. สำนักพิมพ์และโรงพิมพ์แกรนดิน

  โรงพิมพ์ที่ซ่อมแซมใหม่ของอาคารประวัติศาสตร์ เอ็กเบิร์ต บี. แกรนดิน ซึ่งตีพิมพ์พระคัมภีร์มอรมอนชุดแรกใน ค.ศ. ๑๘๓๐. มาร์ติน แฮร์ริส จำนองไร่ของเขาและขายบางส่วนเพื่อชำระค่าพิมพ์พระคัมภีร์มอรมอน ๕,๐๐๐ เล่ม. การเรียงพิมพ์เริ่มในเดือนสิงหาคม ค.ศ. ๑๘๒๙, และสำเร็จเป็นรูปเล่มเมื่อวันที่ ๒๖ มีนาคม ค.ศ. ๑๘๓๐.

  ---

• ๕. แม่น้ำซัสเควฮันนา

  ภาพนี้แสดงให้เห็นแม่น้ำซัสเควฮันนาในเมืองฮาร์โมนีย์, รัฐเพนน์ซิลเวเนีย.

  

  ---

• ๖. บ้านไม้ซุงของปีเตอร์ วิตเมอร์ ซีเนียร์

  บ้านไม้ซุงที่สร้างขึ้นใหม่ของปีเตอร์ วิตเมอร์ ซีเนียร์, สร้างบนสถานที่ซึ่งเป็นฐานของบ้านเดิมในเฟเยทท์, รัฐนิวยอร์ก.

  

  ---

• ๗. ห้างหุ้นส่วนนูเวล เค. วิทนีย์

  ร้านนี้มีบทบาทสำคัญในประวัติของศาสนจักรในเคิร์ทแลนด์. โจเซฟกับเอมมา สมิธ เคยอาศัยอยู่ที่นี่ในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ. ที่นี่กลายเป็นศูนย์ใหญ่ของศาสนจักรในปี ค.ศ. ๑๘๓๒. การเปิดเผยสำคัญ ๆ หลายครั้งได้รับที่นี่. โรงเรียนศาสดาพยากรณ์มีขึ้นในร้านนี้ตั้งแต่วันที่ ๒๔ มกราคม ค.ศ. ๑๘๓๓ จนถึงเดือนเมษายน ค.ศ. ๑๘๓๓.

  

  ---

• ๘. บ้านจอห์น จอห์นสัน

  บ้านของจอห์นกับอลิซ จอห์นสัน อยู่ในไฮรัม, รัฐโอไฮโอ. ห้องนี้อยู่ชั้นสอง.

  

  ---

• ๙. พระวิหารเคิร์ทแลนด์

  พระวิหารเคิร์ทแลนด์ตั้งอยู่ในเคิร์ทแลนด์, รัฐโอไฮโอ.

  

  ---

• ๑๐. หุบเขาอาดัม-ออนได-อาห์มัน

  ทัศนียภาพทางทิศตะวันออกเลยหุบเขาอาดัม-ออนได-อาห์มัน, หุบเขาอันเงียบสงบ, สวยงามอยู่ในมิสซูรีทางตะวันตกเฉียงเหนือใกล้ชุมชนกัลลาติน.

  

  ---

• ๑๑. สถานที่ตั้งพระวิหารฟาร์เวสท์

  ถิ่นฐานที่ฟาร์เวสท์, รัฐมิสซูรี, กลายเป็นบ้านของวิสุทธิชน ๓,๐๐๐ ถึง ๕,๐๐๐ คน ซึ่งหาที่หลบภัยจากการข่มเหงในเทศมณฑลแจ๊คสันกับเทศมณฑลเคลย์. ในวันที่ ๓๑ ตุลาคม ค.ศ. ๑๘๓๘ ศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธ และผู้นำศาสนจักรคนอื่น ๆ ถูกจับและ, หลังการพิจารณาคดีต้องโทษจำคุกในริชมอนด์, ถูกคุมขังในคุกลิเบอร์ตี้. ระหว่างฤดูหนาว ค.ศ. ๑๘๓๘–๑๘๓๙, วิสุทธิชนยุคสุดท้ายถูกขับไล่ออกจากฟาร์เวสท์และสถานที่อื่น ๆ ในมิสซูรีและไปตั้งถิ่นฐานใหม่ในอิลลินอยส์.

  

  ---

• ๑๒. คุกลิเบอร์ตี้

  คุกเล็ก ๆ อยู่ในลิเบอร์ตี้, รัฐมิสซูรี. โจเซฟ สมิธ และพี่น้องชายอื่น ๆ อีกห้าคนถูกกักขังภายในกำแพงหนา ๑.๒ เมตร (สี่ฟุต) ตั้งแต่วันที่ ๑ ธันวาคม ค.ศ. ๑๘๓๘ จนถึงวันที่ ๖ เมษายน ค.ศ. ๑๘๓๙. (ซิดนีย์ ริกดัน ได้รับการปล่อยตัวเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์.) โดยถูกจำกัดให้อยู่ชั้นล่างหรือส่วนที่เป็นคุกใต้ดินของอาคาร, พวกเขาจึงนอนบนพื้นหินเย็นเยือก, ปูด้วยฟางมีแสงสว่างน้อยนิดและขาดแคลนเครื่องป้องกันฤดูหนาวซึ่งมีอากาศหนาวเย็น.

  

  ---

• ๑๓. คฤหาสน์ในนอวู

  โจเซฟ สมิธ จูเนียร์ และครอบครัวย้ายเข้าคฤหาสน์ในนอวูในเดือนสิงหาคม ค.ศ. ๑๘๔๓. ต่อมามีการต่อเติมอาคารด้านตะวันออกของโครงสร้างหลักโดยมีรวมทั้งสิ้น ๒๒ ห้อง. เริ่มตั้งแต่เดือนมกราคม ค.ศ. ๑๘๔๔, เอบเบเนเซอร์ โรบินสัน บริหารบ้านหลังนั้นเป็นโรงแรม, และศาสดาพยากรณ์ใช้ ๖ ห้องสำหรับครอบครัวท่าน. บ้านหลังนั้นเป็นเสมือนศูนย์พบปะสังสรรค์ของสังคมชาวนอวู. ศาสดาพยากรณ์ต้อนรับคนสำคัญ ๆ ที่นี่.

  

  ---

• ๑๔. ร้านอิฐแดงของศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธ

  ร้านและสำนักงานของโจเซฟ สมิธ ที่ก่อสร้างขึ้นใหม่อยู่ในนอวู, รัฐอิลลินอยส์. เป็นหนึ่งในอาคารที่สำคัญที่สุดอาคารหนึ่งในศาสนจักรระหว่างยุคนอวู. อาคารหลังนี้ไม่เป็นเพียงร้านทั่วไปเท่านั้น, แต่ยังกลายเป็นศูนย์กิจกรรมด้านสังคม, เศรษฐกิจ, การเมือง, และศาสนาอีกด้วย. โจเซฟ สมิธ มีสำนักงานอยู่บนชั้นสอง.

  

  ---

• ๑๕. พระวิหารนอวู

  แบบจำลองพระวิหารนอวูตามมาตราส่วนตั้งอยู่บนสถานที่ของพระวิหารดั้งเดิม. พระวิหารสร้างขึ้นจากหินปูนสีเทาขาวซึ่งมาจากท้องที่. อาคารมีความยาว ๓๙ เมตร กว้าง ๒๗ เมตร. ยอดหอคอยสูง ๔๘ เมตรเหนือระดับพื้นดิน. สมาชิกศาสนจักรเสียสละมากมายเพื่อสร้างพระวิหารอันสวยงามนี้, โดยเริ่มงานสร้างใน ค.ศ. ๑๘๔๑. บางคนทำงานสร้างอาคารเป็นเวลาหลายเดือน; คนอื่น ๆ เสียสละเงินทองของพวกเขา. แม้ว่าจะไม่เสร็จสมบูรณ์, พระวิหารก็มีสมาชิกมาใช้เต็มอัตราเพื่อประกอบศาสนพิธีในช่วงหลายเดือนก่อนพวกเขาจะหลบหนีไปตะวันตก. ขณะที่วิสุทธิชนหลายคนออกจากนอวูเมื่อต้นฤดูใบไม้ผลิใน ค.ศ. ๑๘๔๖ เนื่องจากถูกคุกคามจากความรุนแรงของฝูงชน, มีทีมงานพิเศษอยู่ต่อเพื่อสร้างพระวิหารให้เสร็จสมบูรณ์. เมื่อวันที่ ๓๐ เมษายน ค.ศ. ๑๘๔๖, เอ็ลเดอร์ออร์สัน ไฮด์ กับวิลฟอร์ด วูดรัฟฟ์และคนอื่น ๆ อีกประมาณ ๒๐ คนอุทิศพระนิเวศน์ของพระเจ้าหลังนี้. ในเดือนกันยายนต้องทิ้งพระวิหารไปเมื่อสมาชิกศาสนจักรที่เหลืออยู่ถูกขับไล่จากนอวู; จากนั้นกองกำลังของฝูงชนเหยียบย่ำและทำให้โครงสร้างอันศักดิ์สิทธิ์ต้องแปดเปื้อน. พระวิหารถูกทำลายด้วยเพลิงไหม้ในเดือนตุลาคม ค.ศ. ๑๘๔๘.

  

  ---

• ๑๖. คุกคาร์เทจ

  ห้องขังในเมืองคาร์เทจ, รัฐอิลลินอยส์.

  

  ---

• ๑๗. การอพยพไปตะวันตก

  การเริ่มย้ายออกจากนอวู, รัฐอิลลินอยส์, วางแผนไว้สำหรับเดือนมีนาคม–เดือนเมษายน, แต่เนื่องจากมีการคุกคามจากฝูงชนประธานบริคัม ยังก์ จึงแนะนำให้วิสุทธิชนเริ่มอพยพข้ามแม่น้ำมิสซิสซิปปีในวันที่ ๔ กุมภาพันธ์ ค.ศ. ๑๘๔๖. ประธานยังก์อยู่ต่อเพื่อปฏิบัติเอ็นดาวเม้นท์ให้วิสุทธิชนและไม่ออกจากนอวูจนกลางเดือนกุมภาพันธ์.

  

  ---

• ๑๘. พระวิหารซอลท์เลค

  ไม่กี่วันหลังจากวิสุทธิชนยุคสุดท้ายซึ่งเป็นคณะผู้บุกเบิกกลุ่มแรกเข้าไปในหุบเขาซอลท์เลค, ประธานบริคัม ยังก์ เคาะพื้นดินด้วยไม้เท้าของท่านและประกาศว่า, “ตรงนี้เราจะสร้างพระวิหารของพระผู้เป็นเจ้าของเรา.” มีพิธีเบิกดินเมื่อวันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ ค.ศ. ๑๘๕๓. วันที่ ๖ เมษายน ค.ศ. ๑๘๕๓, มีการวางศิลามุมเอก. พระวิหารเสร็จสมบูรณ์และอุทิศเมื่อ ๔๐ ปีต่อมาในวันที่ ๖ เมษายน ค.ศ. ๑๘๙๓. ฝ่ายประธานสูงสุดและโควรัมอัครสาวกสิบสองประชุมกันที่นี่ในแต่ละสัปดาห์เพื่อไตร่ตรองและแสวงหาการนำทางจากพระเจ้าในการบริหารงานและสร้างอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้า.

  

  ---

เหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์คืออะไร

เหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์สมัยใหม่ของไทยในข้อใดที่ทำให้ไทยเข้าสู่สังคมนานาชาติ

สมัยประวัติศาสตร์ไทยมีอะไรบ้าง

หลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่ใช้ในการศึกษาเหตุการณ์สำคัญในสมัยรัตนโกสินทร์มีอะไรบ้าง