1 ความสัมพนั ธข์ องพลังงานกับการดารงชีวติ
2. ความสัมพันธข์ องทรัพยากรกบั การดารงชีวติ
3 ความสัมพันธ์ของส่ิงแวดล้อมกบั การดารงชวี ิต
สมรรถนะประจำหน่วยกำรเรียนรู้ จุดประสงค์การเรียนรู้
มคี วำมรู้ ควำมเข้ำใจ เกี่ยวกบั 1. อธบิ าย และแสดงความคิดเหน็ เก่ยี วกบั
ควำมสัมพนั ธข์ องพลังงำน ความสัมพนั ธข์ องพลังงานกบั การดารงชีวิตได้
ทรัพยำกร และส่ิงแวดล้อมกับ 2. อธบิ าย และแสดงความคิดเหน็ เกี่ยวกบั
กำรดำรง ชวี ติ ตลอดจนสำมำรถ ความสัมพนั ธข์ องทรพั
ยากรกับการดารงชีวิตได้
แสดงควำมคดิ เหน็ เกี่ยวกับ 3. อธิบาย และแสดงความคิดเหน็ เก่ียวกับ
ควำมสัมพนั ธข์ องพลงั งำน ความสัมพันธ์ของส่งิ แวดลอ้ มกบั การดารงชวี ิตได้
ทรัพยำกร และสงิ่ แวดลอ้ มกับ
กำรดำรงชีวิต
ควำมสัมพนั ธข์ องพลงั งำนกบั กำรดำรงชีวติ
ในการดารงชีวิตของมนุษย์ ซึ่งจาเปน็ ท่ีจะต้องใช้พลังงานในการประกอบ
กจิ กรรมหรือการปฏบิ ตั งิ านตา่ ง ๆ เชน่
1. การเคลื่อนไหวซงึ่ อาจเปน็ สว่ นทเ่ี คลื่อนไหวอวัยวะ เชน่ การเต้นของ
หัวใจ การหายใจของปอด
การไหลของไซโตพลาสซึม ทีเ่ รยี กว่า ไซโคลซสิ หรอื การ
เคลอื่ นไหวสว่ นต่าง ๆ ของรา่ งกาย
2. กระบวนการทางสรรี ะ เช่น การแบง่ เซลล์ การหดตัวของเซลล์กล้ามเน้ือ
การทางานของเซลลป์ ระสาท การสังเคราะห์แสง
3. การตดิ ตอ่ สอ่ื สารซึง่ จะตอ้ งใชพ้ ลังงาน เช่น พลังงานเสียงเพอื่ การพดู คุย
4. พลังงานมคี วามสาคัญสาหรับการทางานของเครื่องมอื เครอ่ื งจักรต่าง ๆ
5. พลงั งานทาให้เกดิ การเปล่ียนแปลงทางธรรมชาติ เช่น ฟา้ ร้อง ฟา้ แลบ
พลงั งำนเชอื้ เพลงิ เป็นพลงั งำนทีม่ ีตน้ ทนุ
กำรผลติ
ค่อนขำ้ งต่ำกวำ่ พลงั งำนทงั้ หมด เปน็ เชื้อเพลงิ ที่มำจำกชวี ะ
หรอื ชวี มวล สง่ิ มีชีวติ หรอื เศษเหลือทงิ้ จำกกำรเกษตร นำมำ
เผำใหไ้ ดค้ วำมรอ้ นแลว้ นำควำมรอ้ นนไ้ี ปปั่นไฟฟำ้ หรือกำรนำ
ชีวมวลจำกมลู สตั ว์มำหมกั ดว้ ยแบคทีเรยี ให้เกิดแกส๊ ชวี ภำพ ที่
มอี งค์ประกอบของมีเทน กับ คำรบ์ อนไดออกไซด์ นำไปใช้
ประโยชน์เปน็ เช้อื เพลงิ ใหก้ ับเครอ่ื งยนต์ผลติ กระแสไฟฟำ้ ได้
พลังงำนนำ้ พน้ื ผิวโลกรอ้ ยละ 70 ถูกปกคลมุ ดว้ ย
น้ำ โดยนำ้ มีกำรเปลย่ี นสถำนะ มีกำรหมนุ
เวียนอยู่ตลอดเวลำ
นำ้ ท่ีกำลงั เคลอื่ นท่มี กี ำลังสะสมอยู่มำก โดยใชพ้ ลงั งำนน้ำไป
หมนุ กงั หนั ของเครอ่ื งกำเนดิ ไฟฟ้ำในโรงไฟฟำ้ พลงั งำนน้ำเพอ่ื
ผลติ ไฟฟ้ำ
พลังงำนลม เปน็ พลงั งำนธรรมชำตไิ มม่ วี นั หมด นำ
มำใชป้ ระโยชน์อย่ำงกวำ้ งขวำง โดยนำกังหนั ลมมำใช้ผลติ
กระแสไฟฟ้ำ ใชเ้ ปน็ กงั หนั สูบน้ำและยังชว่ ยลดกำรปลอ่ ยกำ๊ ซ
เรือนกระจกทเี่ ป็นสำเหตกุ ำรเกดิ ภำวะโลกรอ้ นได้
พลังงำนแสงอำทติ ย์ เปน็ พลงั งำนทใี่ ช้อยำ่ งไม่มีส้นิ สดุ
และปรำศจำกมลพษิ ตอ่
ส่ิงแวดล้อม โดยมี “เซลลแ์ สงอำทติ ย์”
เป็นส่ิงประดิษฐ์อิเล็กทรอนกิ สป์ ระเภทหนง่ึ ถูกนำมำใชผ้ ลิต
กระแสไฟฟ้ำโดยตรง มีประสิทธภิ ำพเปลย่ี นจำกพลงั งำนแสง
อำทิตย์เป็นพลังงำนไฟฟำ้ กำรผลติ กระแสไฟฟำ้ จำกพลังงำน
แสงอำทิตยจ์ ะมตี ง้ั แตข่ นำดเล็กตำมบำ้ นเรอื น บริษทั จนถงึ
ขนำดใหญอ่ ย่ำงโรงไฟฟำ้
พลงั งำนควำมร้อนใต้พภิ พ เปน็ พลงั งำนธรรมชำติที่
เกดิ ขนึ้ จำกกำรสะสมอยภู่ ำยใตผ้ วิ โลก เชน่ เดียวกบั นำ้ มัน
ปิโตรเลียมแตอ่ ยู่ในรปู ของน้ำร้อนหรือไอนำ้ ซง่ึ นำ้
ร้อนจะถูก
นำไปใชผ้ ลติ กระแสไฟฟำ้ สว่ นหนงึ่ นำไปประยุกตใ์ ช้ในกำร
อบแหง้ ใชใ้ นหอ้ งเยน็ เพ่ือรกั ษำอุณหภูมพิ ชื ผลกำรเกษตร
พลงั งำนควำมรอ้ นใตพ้ ภิ พยำมปรำกฏขึน้ มำบนผิวโลก จะ
เรียกวำ่ บ่อนำ้ ร้อน หรือ พกุ ำ๊ ซ ท่ีเปน็ แหลง่ ท่องเทย่ี วใชท้ ำ
กำยภำพบำบดั ได้
สรปุ
กำรใชป้ ระโยชน์เทคโนโลยดี ำ้ นพลังงำนในปจั จบุ ัน ทใ่ี ชก้ นั อย่ำง
แพรห่ ลำย คอื กำรใชไ้ ฟฟำ้ มปี ระโยชนด์ ้ำนกำรสือ่ สำร กำรแพทย์ กำร
วิทยำศำสตร์ กำรขนส่ง ฯลฯ กำรสร้ำงจติ สำนกึ ในกำรอนรุ กั ษพ์ ลังงำนจงึ เปน็
ส่งิ สำคญั อยำ่ งยิ่ง ใหท้ กุ คนใช้พลังงำนอย่ำงระมัดระวงั ควบคกู่ บั กำรรกั ษำ
ทรัพยำกรบนโลกดว้ ย แมว้ ำ่ จะเปน็ พลังงำนทำงเลอื กใหมท่ ท่ี ดแทนพลังงำนเดมิ
ก็ตำม แตก่ ำรใชพ้ ลังงำนอย่ำงค้มุ คำ่ สร้ำงสรรค์จะช่วยลดมลพิษใหก้ บั โลกนำ
กลับมำใชห้ มุนเวียนไดอ้ ยำ่ งย่งั ยืน
ทรพั ยำกรทำงธรรมชำติ เปน็ ส่ิงสำคญั ท่อี ย่คู ่กู บั โลกของเรำมำอยำ่ งเนนิ่ นำน ซ่ึง
มนุษย์ไดน้ ำมำใชเ้ ป็นวัตถุดบิ เพือ่ สร้ำงควำมเจรญิ ทำงเศรษฐกจิ ของประเทศตนเอง
ประเทศไหนมคี
วำมอดุ มสมบูรณ์อัดแน่นไปด้วยทรพั ยำกร ธรรมชำติ ประเทศนน้ั จะ
เต็มไปด้วยควำมร่ำรวย ม่งั คงั่ รวมทงั้ มคี วำมเจริญทำงดำ้ นเศรษฐกจิ สงู มำกกว่ำ
ประเทศท่มี ีทรพั ยำกรทำงธรรมชำตนิ อ้ ย แตอ่ ย่ำงไรกต็ ำมขอ้ เสียของมนั กค็ ือ ถำ้ มนุษย์
นำทรพั ยำกรธรรมชำตมิ ำใชอ้ ยำ่ งไมห่ ำวธิ เี กบ็ อนุรักษ์ไวบ้ ้ำง กจ็ ะทำใหท้ รพั ยำกร
ธรรมชำติสูญสิ้นไปจำกโลกนี้ โดยไม่มวี ันสรำ้ งขนึ้ มำไดอ้ ีก นอกจำกใชพ้ ลงั งำนอยำ่ งอ่ืน
เป็นเครอื่ งทดแทน
ใชใ้ นกำรอุปโภค บริโภคในชีวิตประจำวนั ชำระลำ้ งสงิ่
สกปรก
ตำ่ ง ๆ ใช้เปน็ ส่วนประกอบในกำรผลติ อำหำร
ใช้เป็นปจั จัยในกำรผลติ ภำคอุตสำหกรรมและเกษตรกรรม
ใชใ้ นกำรผลิตกระแสไฟฟ้ำ
ใช้ในกำรคมนำคมขนสง่
ใชใ้ นกำรพักผ่อนหยอ่ นใจ
ใชใ้ นกำรประมง เพอ่ื เป็นแหลง่ อำหำรเสริมของสตั ว์และพชื นำ้
เป็นตัวรักษำควำมสมดลุ ทำงธรรมชำติ ไม่ว่ำจะเปน็ อุณหภมู ิ
ปรมิ ำณนำ้ ฝน กำ๊ ซต่ำง ๆ ในบรรยำกำศ
ใชส้ ำหรับด้ำนกำรเกษตรกรรม เป็นแหลง่ เพำะปลกู เพื่อสร้ำง
ปจั จัยส่ี
เปน็ แหล่งทอ่ี ยอู่ ำศยั ในกำรสรำ้ งบ้ำนเรือน สงิ่ กอ่ สร้ำงตำ่ ง ๆ
เป็นแหล่งสะสมและอำศยั อย่ขู องทรพั ยำกรอ่ืน ๆ ไมว่ ำ่ จะเป็น
ปำ่ ไม้ แรธ่ ำตุ แหล่งน้ำ
ใช้เป็นแหลง่ ของสถำนทใ่ี นกำรพักผอ่ นหย่อนใจ
กำรใชป้ ระโยชนใ์ นดำ้ นเปน็ อำหำรทั้งโดยตรง หรือกำรแปร
รปู จำกสัตว์น้ำจืดและน้ำเคม็
ประโยชน์ด้ำนคำ้ ขำย จำหนำ่ ยภำยในและภำยนอกประเทศ
ใชเ้ ปน็ ยำพน้ื บำ้ น เปน็ เคร่ืองใช้ เครือ่ งประดับ
ให้ควำมเพลิดเพลนิ และควำมสวยงำม ซึ่งมผี ลในดำ้ นจิตใจ
ของมนษุ ยอ์ กี ด้วย
มนษุ ยไ์ ดพ้ ลงั งำนจำกแสงแดด จำกอำหำร
เพ่อื สุขภำพ
และควำมแขง็ แรงของร่ำงกำย นั่นคือนำมำใชใ้ นกำร
ดำรงชีพ กำรเจริญเตบิ โตของชวี ิต
มนษุ ยใ์ ช้พลงั งำนเปน็ ตวั แทนในกำรช่วยเหลอื กำรทำงำน
ตำ่ ง ๆ เพอ่ื ควำมเป็นอย่สู ะดวกสบำยเพ่ิมขึ้น
ให้ควำมเพลดิ เพลิน และควำมสวยงำม ซึง่ มผี ลในด้ำน
จติ ใจของมนุษย์อกี ดว้ ย
ทรัพยำกร สำมำรถพฒั นำควำมคดิ เพื่อใช้ในกำรดำเนินกจิ กรรมต่ำง ๆ
มนษุ ย์ เพ่อื คุณภำพชีวิตทดี่ ี
มีควำมสำมำรถในกำรนำทรพั ยำกรต่ำง ๆ มำใช้อยำ่ งชำญ
ฉลำด มีกำรศึกษำทด่ี ี มีวัฒนธรรมทีเ่
หมำะสม สุขภำพ
รำ่ งกำยแข็งแรง ชว่ ยพฒั นำประเทศชำตใิ ห้มคี วำมเจริญ
กำ้ วหนำ้ ไดอ้ ยำ่ งรวดเร็ว
ควำมสมั พันธข์ องสงิ่ แวดลอ้ มกบั กำรดำรงชีวติ
1. แหล่งปัจจยั พืน้ ฐานเบื้องตน้ ในการดารงชีวิต
2. การตง้ั ถ่นิ ฐานและชุมชน
3. พ้นื ฐานทางเศรษฐกิจและลักษณะอาชีพ
4. ลกั ษณะทางวัฒนธรรม 5. การเมือง
วถิ ชี ีวติ กำรดำรงชีวติ ของมนุษยย์ ุค Modern time
1. ตอบสนองตอ่ ปัจจยั ส่ี
2. ตอบสนองตอ่ ความมนั่ คงปลอดภยั
3. ตอบสนองตอ่ ความสะดวกสบาย
4.
ตอบสนองความสนกุ สนานบันเทิง
5. ตอบสนองตอ่ ความตอ้ งการตดิ ตอ่
บทสรปุ
โชคดีครบั