เนื่องจากในสมัยสุโขทัยมีการสร้างพระพุทธรูปและประดับตกแต่งด้วยปูนปั้น ชาวสุโขทัยจึงมีกรรมวิธีเพื่อให้ปูนนั้นแข็ง พบว่าการใช้ปูน ทราย และน้ำอ้อย ผสมกันนั้นทำให้ปูนปั้นแข็งตัวได้ภายในเวลานาน ทำนบพระร่วง : เขื่อนโบราณสมัยสุโขทัย Show เมืองสุโขทัยโบราณนั้นมีภูมิประเทศเอียงลาดเพราะพื้นที่อยู่ติดภูเขา จนไม่สามารถเก็บน้ำได้ตามธรรมชาติ จำเป็นต้องมีการพัฒนาแหล่งเก็บน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้ง พระร่วงเจ้ากษัตริย์สุโขทัยสมัยนั้นจึงได้สร้างทำนบส่งไปตามลำรางส่งน้ำที่ขุดพบเป็นท่อสังคโลก ซึ่งเรียกว่า “ท่อปู่พญาร่วง” ส่งน้ำเข้าไปในตัวเมือง เพื่อเก็บขังในสระน้ำใหญ่เล็กหลายสระ และมีสระขนาดใหญ่ในกำแพงเมืองหรือที่เรียกว่า “ตระพัง” เช่น ตระพังทอง ตระพังเงิน ตระพังสอ ตระพังตระกวน นอกจากนี้ยังมีการขุดบ่อน้ำกรุอิฐไว้เป็นจำนวนมาก ทำให้พื้นที่ในเมืองสุโขทัยไม่ขาดแคลนน้ำ ดังจะเห็นได้จากจารึกว่า “เมืองสุโขทัยนี้จึ่งชม สร้างป่าหมากป่าพลูทั่วเมืองนี้ทุกแห่ง ป่าพร้าวก็หลายในเมืองนี้ ป่าลางก็หลายในเมืองนี้ หมากม่วงก็หลายในเมืองนี้ หมากขามก็หลายในเมืองนี้ ใครสร้างได้ไว้แก่มัน กลางเมืองสุโขทัยนี้ มีน้ำตะพังโพยสี ใสกินดี … ดั่งกินน้ำโขงเมื่อแล้ง” คำว่า "ภูมิปัญญา" หมายถึง ความรู้ ทักษะ ความเชื่อ และพฤติกรรมของคน ในการปรับตัวให้เข้ากับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แล้วสร้างสรรค์สังคมและสั่งสม ประสบการณ์เหล่านั้นเป็นเวลานาน เพื่ออนุชนรุ่นหลังต่อมา ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการสร้างสรรค์ภูมิปัญญาไทยสมัยสุโขทัย 1. ความต้องการปัจจัยในการดำรงชีวิต เช่น เครื่องมือ เครื่องใช้ เป็นต้น 2. ความต้องการแก้ไขปัญหาที่เกิดจากสภาพแวดล้อมตามธรรมชาติ 3. ความต้องการที่จะใช้ประโยชน์จากหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาเพื่อนำมาสร้าง 4. ความต้องการให้เกิดความมั่นคงของอาณาจักร ผลงานการสร้างสรรค์ภูมิปัญญาไทยในสมัยสุโขทัย 1. การสร้างที่กักเก็บน้ำเอาไว้ใช้ในหน้าแล้ง เนื่องจากสภาพของดินในสุโขทัย ส่วนใหญ่เป็นดินปนทรายที่ไม่อุ้มน้ำ ทำให้เกิดปัญหาในการเพาะปลูกในหน้าแล้ง จึงได้ มีการชักน้ำจากที่สูงทางด้านตะวันตกของสุโขทัยมายังบริเวณแหล่งที่อยู่อาศัย และ สร้างคันดินเพื่อบังคับน้ำให้ไหลจากที่สูงและหุบเขามาเก็บในคู ห้วย สระน้ำ โดยมีท่อดิน ขนาดใหญ่ฝังลึกอยู่ใต้ผิวดินเป็นท่อลำเลียง แนวคันดินสำหรับบังคับน้ำนี้เรียกว่า สรีดภงส์ หรือ ทำนบพระร่วง นอกจากนี้ยังมีการสร้างตระพังเก็บน้ำ หรือสระสำหรับ ภาพที่ (1) ภาพถ่ายทางอากาศวัดสระศรีกลางตระพังตะกวน) ซึ่งเป็นสระน้ำขนาดใหญ่ภายในเมืองสุโขทัย การที่ชาวสุโขทัยใช้วิธีเอาชนะปัญหาการขาดแคลนน้ำในหน้าแล้งด้วยวิธีที่ ปัจจุบันเรียกว่า การชลประทาน จัดได้ว่าเป็นภูมิปัญญาที่ยังคงใช้ปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง 2. การรู้จักใช้ศิลาแลง มาสร้างอาคารสถานที่ ศิลาแลงเป็นหินที่จะกลายสภาพ เป็นดินในระยะหลังๆต่อมา แต่ไม่ได้เป็นดินที่แท้จริง มีสภาพแข็งและมีลักษณะพรุน มีสีแดง สะสมอยู่ในพื้นดิน ชาวสุโขทัยนำมาสร้างโบสถ์หรือศาสนาสถานต่างๆโดยการ สกัดเป็นแผ่นๆแล้วนำมาซ้อนเรียงกันไว้จนมีลักษณะเป็นผนัง ใช้น้ำยาเป็นตัวประสาน ให้ศิลาแลงแต่ละแผ่นเชื่อมต่อกันเป็นศิลาแผ่นใหญ่ ภาพที่ (2) วัดมหาธาตุ จังหวัดสุโขทัย 3. การรู้จักเคลือบเครื่องปั้นดินเผาให้มีความสวยงาม คนไทยรู้จักการใช้ดิน เหนียวมาปั้นเป็นภาชนะต่างๆมาตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ แต่เมื่อมาถึงสมัยสุโขทัย คนไทยได้รู้จักการเคลือบเครื่องปั้นดินเผาให้มีความสวยงาม เครื่องเคลือบดินเผานี้ เรียกกันว่า เครื่องสังคโลก ภูมิปัญญาไทยในการทำเครื่องสังคโลกของชาวสุโขทัยนี้ เริ่มตั้งแต่การนำ ดินเหนียวและดินขาวคุณภาพดีมาปั้น นำยางไม้บางชนิดมาผลิตเป็นน้ำยาเคลือบ ตลอด จนการสร้างเตาเผาที่ระบายความร้อนได้ดี ในการเผาเครื่องสังคโลกนั้น มักจะเผากัน ในฤดูฝนเพราะอากาศในเตาและฝืนที่ใช้จะมีความชื้นมากขึ้น ทำให้เครื่องเคลือบดินเผา สีเขียวไข่กามีความสวยงามกว่าการเผาในฤดูร้อน ภาพที่ (3) เครื่องเคลือบดินเผา หรือ เครื่องสังคโลก 4. การประดิษฐ์โลหกรรมสำริด ชาวสุโขทัยได้ทดลองจนพบว่าการผสมตะกั่ว ลงในสำริด ทำให้โลหะหลอมได้ง่ายมากขึ้น ช่วยลดฟองอากาศในโลหะเหลว วัตถุที่ หล่อมีคุณภาพดี เหมาะในการนำมาทำภาชนะ เครื่องประดับ แต่เมื่อจะนำมาทำอาวุธ จะไม่นิยมผสมตะกั่วลงไปในสำริด เพราะต้องการให้สำริดมีความแข็งแกร่งและทนทาน ภาพที่ (4) พระพุทธรูปเนื้อสำริด ศิลปะสมัยสุโขทัย 5. การใช้วัสดุที่มีส่วนผสมเหมาะสำหรับทำให้ปูนปั้นแข็งตัว ชาวสุโขทัย ค้นพบว่าการใช้ปูน ทรายและน้ำอ้อยผสมกัน ทำให้ปูนปั้นแข็งตัวได้ภายในเวลาไม่ นาน เหมาะสำหรับการปั้นพระพุทธรูป และสิ่งประดิษฐ์ตกแต่งศาสนสถานต่างๆ เช่น ลวดลายปูนปั้นมณฑป เป็นต้น 6. ใช้คติความเชื่อในเรื่องพระพุทธศาสนาควบคุมพฤติกรรมของคนใน สังคม การปลูกฝังนิสัยของคนไทยสมัยสุโขทัยให้มีแต่ความสงบ มีศีลธรรม เพื่อ ความร่มเย็นของผู้คนในสังคม ปลูกฝังให้คนเกรงกลัวต่อบาป เช่น การนำเอานรก สวรรค์ ซึ่งปรากฏในหนังสือไตรภูมิพระร่วงมาสอนให้คนยึดทำแต่ความดี ละเว้นความ ภาพที่ (5) หนังสือไตรภูมิพระร่วงหรือเตภูมิกถา วรรณกรรมปรัชญาและศาสนาเล่มแรกของไทย 7. การประดิษฐ์ตัวอักษรไทย หรือที่เรียกว่า ลายสือไทย ของพ่อขุนราม คำแหงมหาราช เมื่อ พ.ศ. 1826 ทรงดัดแปลงมาจากหนังสือขอม มอญ ซึ่งนิยมใช้ อยู่ในแถบแม่น้ำเจ้าพระยาแต่เดิม ภูมิปัญญาการประดิษฐ์อักษรไทยของพ่อขุนราม คำแหงมหาราช ความพิเศษของตัวอักษรไทยที่พ่อขุนรามคำแหงมหาราชได้ทรง ประดิษฐ์ขึ้นมา ถือว่าเป็นภูมิปัญญาไทยสมัยสุโขทัย ที่กลายเป็นมรดกตกทอดมา
คำชี้แจง ให้นักเรียนจับกลุ่ม กลุ่มละ 4-5 คน ร่วมกันศึกษาเนื้อหาบทเรียน หลังจากนั้นให้ทำใบงานส่งครูผู้สอน <<คลิกปุ่มด้านล่าง เพื่อดูใบงานที่ 7>> ข้อใดเป็นภูมิปัญญาในสมัยสุโขทัย1. ศิลปกรรม สถาปัตยกรรม ในสมัยสุโขทัยได้พัฒนาสถาปัตยกรรมที่เป็นแบบเฉพาะของตนเอง เช่น เจดีย์ทรงดอกบัวตูมหรือทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ ... . 2. ขนบธรรมเนียมประเพณี ส่วนใหญ่มักเกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนา เช่น ประเพณีการบวช การทำบุญเข้าพรรษา ออกพรรษา และประเพณีทอดกฐิน. 3. อักษรไทย ... . 4. เครื่องสังคโลก ... . 5. การชลประทาน. ข้อใดเป็นการสร้างสรรค์ภูมิปัญญาในสมัยสุโขทัยanswer choices. การประดิษฐ์ตัวอักษรไทยที่เรียกว่า ลายสือไทย การรู้จักใช้ศิลาแลง การสร้างที่กักเก็บน้ำเอาไว้ใช้ในหน้าแล้ง
คนสุโขทัยใช้ภูมิปัญญาอย่างไรในการ2. คนสุโขทัยใช้ภูมิปัญญาในการทำเครื่องเคลือบสังคโลกอย่างไรบ้าง 1) การใช้ยางไม้เคลือบเครื่องดินเผาที่เป็นดินเหนียวและดินขาวให้เกิดความสวยงาม 2) การเลือกฤดูกาลในการเผาโดยนิยมเผาในฤดูฝนที่มีความชื้นมากจะได้เครื่องเคลือบที่มีสีสวยงามกว่าเผาในฤดูร้อน 3) การสร้างเตาเผาเครื่องเคลือบที่เรียกว่า เตาทุเรียง
ภูมิปัญญาไทยในสมัยสุโขทัยมีความสําคัญอย่างไรภูมิปัญญาไทยในสมัยสุโขทัยมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นรากฐานของวัฒนธรรมที่พัฒนาต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ตัวอย่างเช่น พุทธศานา ถูกเผยแผ่เข้ามาตั้งแต่ในสมัยสุโขทัย ซึ่งส่งผลทำให้พวกเราคนไทยส่วนมากนับถือกันอยู่ ณ ขณะนี้ หรือ ตัวอักษรไทยที่ประดิษฐ์โดยพ่อขุนรามคำแหง ก็นับเป็นมรดกเชิงวัฒนธรรมเช่นเดียวกัน
|