Show
 “พระหลวงปู่ทวด” วัดช้างให้ จ.ปัตตานี ถือเป็นพระประเภทนิรันตราย ถือว่าประสบการณ์ชัดเจน มีประสบการณ์ด้านแคล้วคลาดจากอุบัติเหตุเป็นเลิศ ผู้ที่นับถือต่างพบเห็นประสบการณ์มากมาย จนมีคำพูดว่า “แขวนพระหลวงปู่ทวดแล้วไม่ตายโหง” คติความเชื่อนี้เองทำให้มีการสร้างหลวงปู่ทวดออกมาจำนวนมาก จนมีคำพูดในวงการสร้างพระเครื่องว่า “สร้างพระหลวงปู่ทวดอย่างไรก็ขายได้และไม่ขาดทุน” ไม่น่าเชื่อว่าพระหลวงปู่ทวด วัดช้างให้ ซึ่งสร้างโดยพระครูวิสัยโสภณ หรือพระอาจารย์ทิม ธมมธโร อดีตเจ้าอาวาสวัดช้างให้ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เมื่อ พ.ศ.๒๔๙๗ หรือเมื่อ ๖๕ ปีที่แล้ว จะโด่งดังสูงล้ำด้วยค่านิยม ชนิดไล่หลังพระสมเด็จวัดระฆังเลยทีเดียว ทุกวันนี้กลับกลายเป็นค่านิยมที่มีการแสวงหากันทั่วประเทศ ส่วนรุ่นและองค์ที่ขึ้นชื่อว่าแพงสุดๆ และแพงกว่าพระสมเด็จ คือ “พระหลวงปู่ทวด รุ่นเลขใต้ฐาน ปี ๐๕” หรือที่ปัจจุบันเรียกว่า “เบตง ๑” โดยเฉพาะหมาย “เลข 999” ทั้งนี้ มีการตั้งประเมินค่านิยมไว้ว่า “หากใครอยากได้พระหลวงปู่ทวด รุ่นเลขใต้ฐาน ปี ๐๕ หมายเลข 999 ต้องใช้เงินเช่าอย่างน้อย ๑๕ ล้านบาท” ส่วนเหตุผลที่ทำให้พระหลวงปู่ทวด รุ่นเลขใต้ฐาน ปี ๐๕ หมายเลข 999 มีคาราสูงมานั้น มีเหตุปัจจัยอยู่ ๓ ประการ คือ ๑.ผู้สร้างมีชื่อเสียง เป็นยอมรับ ๒.จำนวนการสร้างชัดเจน ๙๙๙ องค์ มีการตอกเลขกำกับ ซึ่งใช้เป็นข้อศึกษา และ ๓.เนื้อนวโลหะเทได้ดีมาก เลขตัวเดียวแพงกว่า ๒ ตัว เลข ๒ แพงกว่า ๓ ตัว นอกจากจากนี้ถ้าเป็นเลขมงคลก็จะเแพงขึ้นไปอีก ประวัติในการจัดสร้าง พระเครื่อง หลวงปู่ทวด รุ่นเลขใต้ฐานเกิดขึ้นเนื่องจากเมื่อ พ.ศ.๒๕๐๕ ทางวัดพุทธาธิวาสยังขาดทุนทรัพย์ในการก่อสร้างวิหารหลวงปู่ทวด คณะกรรมการซึ่งประกอบด้วย คุณสวัสดิ์ โชติพานิช อดีตประธานศาลฎีกาซึ่งสมัยนั้น ท่านดำรงตำแหน่งเป็นผู้พิพากษาศาล อ.เบตง จ.ยะลา คุณชะลอ คุณเริ่ม คุณเรียง จึงจัดสร้างหลวงปู่ทวดรุ่นเลขใต้ฐานขึ้น โดยคุณสวัสดิ์เป็นผู้เดินทางไปจุดธูปขออนุญาตต่อหน้าสถูปหลวงปู่ทวด ที่วัดช้างให้โดยท่านอาจารย์ทิมเป็นผู้เห็นชอบด้วย การสร้างครั้งนี้ถือว่าเป็นการสร้างรูปหล่อโลหะหลวงปู่ทวดเป็นครั้งแรก โดยพิธีเททองหล่อในครั้งนั้นกระทำขึ้นที่บ้านนายช่างจรัสพัฒนางกูล บ้านช่างหล่อ กรุงเทพฯ โดยมีพระราชสังวราภิมณฑ์ หรือหลวงปู่โต๊ะ อินทสุวัณโณ วัดประดู่ฉิมพลีเมตตาไปเป็นประธานนั่งปรกในพิธีเททองหล่อในครั้งนั้นด้วย ท่านอาจารย์ทิมยังได้มอบผงหลวงปู่ทวดเนื้อว่านรุ่นแรก เพื่อนำไปบรรจุในองค์พระหลวงปู่ทวดรุ่นนี้ด้วยอีกทั้งยังเดินทางไปเป็นผู้อุดผงด้วยตนเองในพิธีครั้งนั้นด้วย ในการหล่อครั้งนั้นได้รูปหล่อที่ตัดจากชนวนแล้ว จำนวน ๙๙๙ องค์ มีอยู่จำนวนหนึ่งที่ไม่ได้ตัดออกจากชนวน องค์พระติดอยู่เป็นช่อ มีทั้งช่อละ ๙ องค์และช่อละ ๑๓ องค์ มีประมาณไม่เกิน ๑๐๐ ช่อ พระเครื่องหลวงปู่ทวดรุ่นเลขใต้ฐานนี้ลักษณะเป็นองค์หลวงปู่ทวดนั่งขัดสมาธิโดยไม่มีบัวคว่ำ บัวหงาย องค์พระเครื่องสูงประมาณ ๑ นิ้ว ฐานสูงประมาณ ๑/๒ ซม.กระแสเนื้อบนพื้นผิวจะออกกระแสแดง เมื่อได้สัมผัสการใช้ผิวจะออกดำ ใต้ฐานจะตอกหมายเลข ๑-๙๙๙ เป็นเลขอารบิคคมชัดทุกองค์ หากพลิกแล้วสังเกตที่ใต้ฐานให้ดีจะเห็นรอยปิดก้นซึ่งบรรจุผงเนื้อว่านเอาไว้ ด้วยโลหะชนิดเดียวกันอย่างแนบเนียน หลังจากที่บรรจุผงเนื้อว่านและตอกหมายเลขเรียบร้อยแล้วทางคณะกรรมการ จึงได้นำกลับมาเข้าพิธีพุทธาภิเษกที่วัดช้างให้โดยท่านอาจารย์ทิมได้เมตตาปลุกเสกให้เป็นกรณีพิเศษ หลังจากนั้นจึงนำไปที่วัดพุทธาธิวาสเพื่อออกให้เช่าบูชาในราคาองค์ละ ๑๐๐ บาท เท่านั้น สำหรับภาพพระองค์ครูวันนี้เป็นพระหลวงปู่ทวด เลขใต้ฐานรุ่นแรก ปี ๒๕๐๕ หมายเลข 999 ของ “นายทองเพิ่ม อุปริมทิศ” ซึ่งเป็นชื่อและนามสกุลใหม่ของนายสมชาติ ศรีรัตนารุ่งเรือง หรือ “เสี่ยสมชาติ” เจ้าของธุรกิจรังนก มีการตั้งประเมินค่านิยมไว้ว่า “หากใครอยากได้พระหลวงปู่ทวด รุ่นเลขใต้ฐาน ปี ๐๕ หมายเลข 999 ต้องใช้เงินเช่าอย่างน้อย ๑๕ ล้านบาท สำหรับ ๑๐ ลำดับของความนิยม ประกอบด้วย ๑.พระหลวงปู่ทวดเนื้อว่านรุ่นแรกวัดช้างให้ พิมพ์ใหญ่หัวขีด ค่านิยมหลักหลายแสนปลายๆ ถึงหลักล้าน ๒.พระหลวงปู่ทวดเนื้อว่านรุ่นแรกพิมพ์ใหญ่บี ค่านิยมหลักหลายแสนถึงหลักล้าน ๓.พระหลวงปู่ทวดเนื้อว่านรุ่นแรกพิมพ์ใหญ่ไหล่จุด ค่านิยมหลักหลายแสน ๔.พระหลวงปู่ทวดเนื้อว่านพิมพ์พระรอดหน้าใหญ่ ค่านิยมหลักแสนถึงหลายแสน ๕.พระหลวงปู่ทวดเนื้อว่านพิมพ์อื่นๆ ล้วน ค่านิยมหลักแสนทั้งสิ้นถ้าสภาพสวย ๖.พระหลวงปู่ทวดพิมพ์หลังเตารีดใหญ่เนื้อนวโลหะ พ.ศ.๒๕๐๕ ค่านิยมหลักหลายแสน ๗.รูปหล่อโบราณพระหลวงปู่ทวดรุ่นเล็กใต้ฐาน พ.ศ.๒๕๐๕ ค่านิยมหลักหลายแสน ๘.เหรียญเสมาพระหลวงปู่ทวดรุ่นแรก พ.ศ.๒๕๐๐ ค่านิยมหลักหลายแสนถึงล้าน ๙.รูปเหมือนพระหลวงปู่ทวดบัวรอบรุ่นใต้ฐานลายเซ็น พ.ศ.๒๕๐๘ ค่านิยมหลักแสน และ ๑๐.พระหลวงปู่ทวดหลังเตารีดใหญ่ กลาง เล็ก ล้วนแล้วแต่มีค่านิยมเป็นหลักหมื่นถึงแสน หากมีใครกล่าวถึง “หลวงปู่ทวด” เราเชื่อว่าคนไทยทั่วประเทศคงไม่มีใครไม่รู้จัก เพราะท่านคือพระผู้มีอภิญญาอันแก่กล้า เป็นพระศักดิ์สิทธิ์แห่งยุคที่มีสมญานามว่า “หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด” และสำหรับครั้งนี้เราได้ รวมสุดยอด 9 เหรียญหลวงปู่ทวด ยอดนิยม พร้อมประวัติความเป็นมา ! มารวมไว้ที่นี่ เพื่อเอาใจท่านผู้อ่านที่เคารพและเลื่อมใสหลวงปู่ทวดท่านเป็นเดิมอยู่แล้ว เพราะเราคัดเฉพาะเหรียญสำคัญๆมาฝาก รวมถึงผู้ที่กำลังต้องการทราบถึงที่มาที่ไปของแต่ละเหรียญ ก็ขอบอกกันเลยว่าคุณจะพลาดไม่ได้ อย่ารอช้ากันอยู่เลย เราไปอ่านพร้อมๆกันเลยดีกว่า หลวงปู่ทวด “เหยียบน้ำทะเลจืด”หากมีใครอยากทราบเรื่องราวของ หลวงปู่ทวด เห็นทีจะต้องขออนุญาตย้อนไปไกลถึงเมื่อประมาณ 400 กว่าปีที่แล้ว ซึ่งมีเรื่องราวปาฏิหาริย์เกิดขึ้นมากมาย ในช่วงปลายรัชสมัยของพระมหาธรรมราชา แห่งกรุงศรีอยุธยา ไม่ว่าจะเรื่องโรคระบาด และเรื่องราวอภินิหารอีกมากมายที่เกิดขึ้นเมื่อครั้งที่ท่านยังคงดำรงอยู่ แต่ถึงแม้ว่าท่านจะได้ละสังขารลาลับจากโลกนี้ไปนานหลายร้อยปีแล้วก็ตาม แต่ชื่อเสียงของท่านยังคงเลื่องลือ และยังคงเป็นที่เคารพศรัทธาของคนรุ่นหลังอย่างพวกเราในยุคปัจจุบันที่ยังคงมีอยู่ไม่เสื่อมคลาย พระศักสิทธิ์ผู้มีอภิญญาแก่กล้าที่มีนามว่า “สมเด็จเจ้าพะโคะ” หรือ “หลวงพ่อทวด” และอีกหนึ่งชื่อที่คนรุ่นหลังในปัจจุบันเรียกกันก็คือ “หลวงปู่ทวด” ที่เราชาวพุทธต่างคุ้นชื่อกันดี ท่านได้เกิดเมื่อเดือนสี่ ปีมะโรง พ.ศ 2125 (400 กว่าปีที่แล้ว) ท่านได้เติบโตมาในครอบครัวที่มีฐานะยากจน แต่ถูกบ่มเพาะมาด้วยจิตอันเป็นกุศล ชอบทำบุญสุนทาน และไร้การเบียดเบียนผู้อื่น ท่านมีชื่อเล่นที่บุพการีตั้งให้ว่า “ปู” บิดาชื่อ “นายหู” และมารมามีชื่อว่า “นางจันทร์” มีเรื่องราวแปลกประหลาดเกี่ยวกับท่าน ที่ได้มีการเล่าขานต่อๆกันมาหลายเรื่องราวว่า ครั้งหนึ่งเมื่อท่านยังเป็นทารก ขณะที่กำลังนอนหลับอยู่ในเปล ก็ได้มีงูตระบองสลาตัวใหญ่มากตัวหนึ่งขดพันอยู่รอบเปลของท่าน โดยไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้หลวงปู่ทวดที่กำลังนอนหลับอยู่ จนกระทั่งบิดามารดาของได้นำข้าวตอกดอกไม้ มาสักการะบูชา ( เพราะได้เกิดความสงสัยว่าอาจเป็นเทพยดาที่จำแลงมาเป็นพญางูก็เป้นได้ ) จากนั้นพญางูก็ได้คลายตัวที่ขดพันอยู่แล้วเลื้อยหายไป เมื่อมีอายุได้ 7 ขวบ บิดาของท่านก็ได้นำท่านไปฝากกับ สมภารจวง วัดกุฏิหลวง (วัดดีหลวง) เพื่อให้ท่านได้ร่ำเรียน และเมื่อได้ร่ำเรียนท่านก็เป็นเด็กที่อ่านเขียนเรียนดีที่เก่งทั้งทางหนังสือไทยและขอม พอมีอายุครบ 15 ท่านได้เข้าบรรพชาเป็นสามเณร วันหนึ่งบิดาของท่านได้มอบแก้ววิเศษไว้ให้เป็นของติดตัว ขณะที่เป็นสามเณรนั้นท่านได้ร่ำเรียนกับสมเด็จพระชินเสน ที่วัดสีหยัง (สีคูยัง) จากนั้นเมื่อท่านได้อุปสมบทก็ได้เดินทางไปร่ำเรียนวิชาต่อที่จังหวัด นครศรีธรรมราช ณ สำนักพระมหาเถระปิยทัสสี และได้รับฉายาว่า “ราโม ธมฺมิโก” แต่ผู้คนทั่วไปมักจะเรียกท่านว่า “ เจ้าสามีราม หรืออีกชื่อหนึ่งคือ “เจ้าสามีราโม” เมื่อการร่ำเรียนที่นครศรีธรรมราชเพียงพอแล้ว ท่านจึงออกเดินทางโดยเรือสำเภาเพื่อที่จะไปกรุงศรีอยุธยา สล็อต pg เว็บตรง ไม่ผ่านเอเย่นต์ ซึ่งในขณะที่เรือเดินทางไปถึงจังหวัดชุมพร ก็มีเหตุการณ์ที่ทำให้ไม่สามารถเดินเรือได้ เนื่องจากคลื่นทะเลปั่นป่วนอย่างหนัก จนถึงขั้นต้องทอดสมอถึง 7 วัน 7 คืน เป็นเหตุให้เสบียงต่างๆในเรือหมด ไม่มีอาหารและน้ำดื่ม เมื่อเรือสำเภาลอยเคว้งเต่ออยู่กลางท้องทะเลโดยขาดอาหารและน้ำจืด ลูกเรือในเรือจึงต่างพากันคิดว่า เหตุการณ์อาเพศที่เกิดขึ้นในครั้งนี้เป็นเพราะเจ้าสามีราม จึงลงใจกันนิมนต์ให้ท่านลงไปจากเรือสำเภา และส่งท่านไปขึ้นเกาะโดยเรือมาด ในขณะที่เรือมาดนั้นกำลังแล่นอยู่นั้น เจ้าสามีรามหรือหลวงปู่ทวดนั้นท่านได้ตั้งจิตอธิษฐานว่า “หากแม้ข้านี้สามารถจะสืบต่ออายุพุทธศาสนา ทำงานให้ศาสนารุ่งเรือง ขอให้น้ำทะเลบริเวณที่เท้าเหยียบลงไปนี้จงกลายเป็นน้ำจืดเถิด” จากนั้นท่านได้จุ่มเท้าแช่ลงไปในน้ำจากนั้นก็เกิดสิ่งมหัศจรรย์ขึ้น น้ำทะเลที่ท่านห้อยเท้าลงไปแช่นั้นได้เกิดแสงประกายแววาวไปทั่วบริเวณ เมื่อเป็นเช่นนั้นเจ้าสามีรามจึงบอกให้ลูกเรือลงไปตักน้ำมาดื่ม เมื่อลูกเรือได้ดื่มเข้าไปปรากฎว่าน้ำทะเลนั้นได้กลายเป็นน้ำจืดที่ดื่มได้ จึงช่วยกันตักน้ำเอาไว้ดื่มจนเพียงพอ นายสำเภาได้นิมนต์ท่านขึ้นเรืออีกครั้ง และจากนั้นมา เจ้าสามีรามก็ได้กลายเป็นชีต้นหรืออาจารย์นั่นเอง และนี่คือที่มาของคำว่า “เหยียบน้ำทะเลจืด” นั่นเอง เรื่องราวประวัติ รวมทั้งอภินิหารต่างๆของหลวงปู่ทวดท่านยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะนี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของความมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นเท่านั้น เพราะยังมีเรื่องราวที่เกี่ยวกับอภนิการอีกมากมาย ทั้งเหตุการณ์ที่เกิดโรคระบาด รวมไปถึงเหตุการณ์ที่ท่านได้กอบกู้บ้านเมืองไม่ให้ตกอยู่ภายใต้อำนาจใคร ด้วยสติปัญญาและอภิญญาที่แก่กล้าโดยไร้การนองเลือด เพราะเหตุนี้จึงทำให้เหล่าศาสนิกชนชาวไทยต่างศรัทธาและเลื่อมใสหลวงปู่ทวดกันจนมาถึงคนรุ่นหลังอย่างเรา และจะยังคงอยู่ไม่เสื่อมคลาย พระคาถาบูชาหลวงปู่ทวด เพื่อแคล้วคลาด ปลอดภัย(ให้บูชาด้วย มะลิขาว 9 ดอก ธูปแขก 9ดอก พร้อมกับกล่าวบทคำบูชาพระพุทธเจ้า และตามด้วยคาถาบูชา) “นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุท ธัสสะ นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุท ธัสสะ นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุท ธัสสะ นะโม โพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภะคะวา นะโม โพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภะคะวา นะโม โพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภะคะวา” คำแปล : “ข้าพเจ้าขอนอบน้อมแด่เจ้าประคุณสมเด็จหลวงปู่ทวด ผู้เป็นพระโพธิสัตว์ เป็นผู้มีโชคซึ่งเข้ามาสถิตอยู่ในตัวของข้าพเจ้า” พระคาถาหลวงปู่ทวดเปิดโลก(ตั้งจิตแล้วนึกถึงหลวงปู่ทวด) ตั้งนะโม 3 จบ “นะ เปิด โม เปิด พุท เปิด ธา เปิด ยะ เปิดโลกด้วย นะโมโพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภควา ยะธาพุทโมนะ” พระคาถาพระพุทธเจ้า 5 พระองค์(ตั้งนโม 3 จบ) “พระพุทธังอาราธนา พระพุทธเจ้าเปิดโลก พระธัมมังอาราธนา พระพุทธเจ้าเปิดโลก พระสังฆังอาราธนา พระพุทธเจ้าเปิดโลก นะเปิดบุญ โมเปิดบารมี พุทเปิดวาสนา ธาเปิดจิต ยะเปิดธรรม เปิดโลกเปิดจิตครอบจักรวาล ด้วยนะโมพุทธายะ ยะเปิดกรรมดี ธาเปิดงานดี พุทเปิดโชคดี โมเปิดลาภดี นะเปิดอำนาจดี เปิดสิ่งดีๆ ทั้งหลายมาสู่ตัวข้าพเจ้า ด้วยยะธาพุทโมนะ 1. เหรียญหลวงปู่ทวด วัดช้างไห้ รุ่นแรก ปี 2500เริ่มกันที่เราจะพาคุณไปรู้จักกับ เหรียญหลวงปู่ทวด วัดช้างไห้ รุ่นแรก ปี 2500 หรือที่ใครบางคนอาจเรียกเหรียญรุ่นนี้กันว่า “เหรียญหลวงพ่อทวดหัวโต” ถูกจัดสร้างโดยพระครูวิสัยโสภณ หรือ ท่านพระอาจารย์ทิม ซึ่งท่านได้เป็นเจ้าอาวาส วัดช้างไห้ จังหวัดปัตตานีในขณะนั้น สำหรับเหรียญรุ่นนี้ถือเป็นเหรียญเก่าแก่ ที่เรานักสะสมโดยเฉพาะในวงการพระเครื่องต่างใฝ่ฝันต้องการอยากได้มามีไว้ในครอบครองบูชา ถูกจัดสร้างขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อประมาณปีพ.ศ. 2500 การจัดสร้างในครั้งนั้นมีจำนวนประมาณ 3000 เหรียญ เมื่อถูกวางจำหน่ายไม่กี่วันก็หมดในเวลาไม่นาน จึงทำให้ท่านพระอาจารย์ทิมได้มีการสั่งปั๊มเหรียญและปลุกเสกเพิ่มอีกจำนวนประมาณ 5000 เหรียญ โดยการปั๊มจากแม่พิมพ์เดิม นอกจากนี้ยังได้มีการจัดสร้างเป็นเหรียญหลายเนื้อได้แก่เหรียญเนื้อทองแดงกะไหล่เงิน, เหรียญเนื้อทองแดงกะไหล่ทอง, เหรียญเนื้อทองแดงรมดำ (ที่ถูกสร้างขึ้นในปีพ.ศ. 2501) ทางด้านพุทธะลักษณะของเหรียญนั้น เป็นเหรียญทรงเสมาที่มีหูอยู่ในตัว ในส่วนของด้านหน้าจะเป็นรูปเหมือนของหลวงปู่ทวดอยู่ในอิริยาบถนั่งขัดสมาธิอเต็มองค์ ช่วงบริเวณกึ่งกลางของเหรียญ ที่ถูกรองรับด้วยฐานบัวสองชั้น ในส่วนของด้านบนเหนือศรีษะของรูปเหมือนหลวงปู่ทวดนั้น มีอักขระขอมซึ่งอ่านว่า “นะโมพุทธายะ” ในฝั่งด้านซ้ายขององค์หลวงพ่อมีอักษรที่ถูกสลักเอาไว้เป็นคำว่า “หลวงพ่อทวด” และในฝั่งทางด้านขวาขององค์หลวงพ่อนั้นเป็นอักษรที่สลักคำว่า “เหยียบน้ำทะเลจืด” ในส่วนของด้านหลังเหรียญนั้นเป็นรูปเหมือนของหลวงพ่อทิม ครึ่งองค์ปรากฏอยู่ช่วงบริเวณกึ่งกลางของเหรียญ ในส่วนของด้านบนเหนือศรีษะรูปองค์หลวงพ่อทิมนั้น มีอักขระภาษาขอมปรากฏอยู่ ซึ่งเป็นคำว่า “นะมะพะภะ” และในส่วนด้านล่างขององรูปเหมือนนั้นมีข้อความที่จารึกชื่อเป็นคำว่า “พระครูวิสัยโสภณ” (ทิม) ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งเรียนที่มีความสวยงามและมีความปรานีเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมีพุทธคุณสูงเรียกได้ว่าครอบจักรวาลกันเลยทีเดียว นี่จึงคือเหตุผลที่ว่าทำไมผู้คนโดยเฉพาะเราบรรดานักสะสมทั้งหลาย จึงต่างใฝ่ฝันอยากได้มีไว้มาครอบครองบูชา นอกจากนี้ในปัจจุบันยังมีราคาแพงและหาได้ยากอย่างยิ่งอีกด้วย สำหรับด้านพุทธคุณนั้นเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า โดดเด่นแทบจะในทุกด้าน ถือเป็นสุดยอดนิรันตราย แคล้วคลาดปลอดภัย ทางด้านเมตตามหานิยมก็เป็นเลิศ เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าโดดเด่นในทุกๆด้านหรือที่เรียกกันว่า “ครอบจักรวาล” กันเลยทีเดียว 2. เหรียญหลวงพ่อทวด พิมพ์หกเหลี่ยม แจกปีนัง ปี 2506มาต่อกันที่ เหรียญหลวงพ่อทวด พิมพ์หกเหลี่ยม แจกปีนังปี 2506 สำหรับเหรียญรุ่นนี้มีด้วยกันสองพิมพ์คือพิมพ์เล็ก ซึ่งได้มีการจัดสร้างในปีพ.ศ. 2506 แต่เหรียญของหลวงปู่ทวดรุ่นนี้ไม่ได้สร้างมาเพื่อแจกให้กับผู้คนในเมืองไทย หากแต่เป็นเหรียญที่สร้างให้กับวัดชัยมังคลาราม ในประเทศมาเลเซีย จึงทำให้ลูกศิษย์ลูกหาที่ติดตาม และผู้ที่อาศัยอยู่ในประเทศมาเลเซียเท่านั้นจึงจะได้รับแจก มีความโด่งดังเป็นอย่างมากสำหรับเหรียญรุ่นนี้หากใครมีไว้ในครอบครองบูชาก็นับว่าเป็นบุญวาสนาอย่างยิ่ง สำหรับด้านพุทธคุณนั้นเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า โดดเด่นแทบจะในทุกด้าน ถือเป็นสุดยอดนิรันตราย แคล้วคลาดปลอดภัย ทางด้านเมตตามหานิยมก็เป็นเลิศ เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าโดดเด่นในทุกๆด้านหรือที่เรียกกันว่า “ครอบจักรวาล” กันเลยทีเดียว มีพุทธะลักษณะที่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ในความแตกต่าง มีรูปทรงเป็นเหรียญหกเหลี่ยม ที่มีหูอยู่ในตัว ตรงช่วงบริเวณกึ่งกลางของเหรียญนั้น เป็นรูปเหมือนขององค์หลวงปู่ทวดนั่งสมาธิราบอยู่บนฐานบัวสองชั้น มีจุดไข่ปลาล้อมรอบทั่วขอบเหรียญ ตรงบริเวณฐานบัวนั้นมีอักษรสลักคำว่า “หลวงพ่อทวด” ปรากฏอยู่ ในส่วนของด้านหลังนั้นมีอุณาโลมบนยอดถัดลงมาจากหูของเหรียญ มีอักขระยันต์อยู่ตรงตึงกลางและถัดลงมาจากตึกกลางนั้นมีอักษรที่สลักคำว่า “วัดช้างไห้ สร้างให้วัดไชยามังข คลาราม ปีนัง ๒๕๐๖” ถือเป็นอีกหนึ่งเหรียญที่มีความสวยงามและมีความปรานีตามยุคสมัยเป็นอย่างมาก 3. เหรียญหลวงพ่อทวด รุ่นเลื่อนสมณศักดิ์ ปี 2508มาต่อกันอีกหนึ่งเหรียญที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงปี 2508 กับเหรียญที่มีชื่อว่า เหรียญหลวงปู่ทวด รุ่นเลื่อนสมณศักดิ์ ปี พ.ศ. 2508 ถือเป็นเหรียญที่มีเรื่องเล่าต่อๆกันมาหลายยุคหลายสมัย ว่ามีความขลังและมีพุทธคุณที่สูง ถือเป็นสุดยอดนิรันตราย แคล้วคลาดปลอดภัย ทางด้านเมตตามหานิยมก็เป็นเลิศ หรือเรียกกันว่า “ครอบจักรวาล” เห็นทีจะง่ายกว่า จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ในปัจจุบันเป็นที่ต้องการของเหล่าบรรดานักสะสมกันในวงการพระเครื่องกันเป็นอย่างมาก สำหรับเหรียญรุ่นนี้ถูกจัดสร้างโดยพระครูวิสัยโสภณ (ทิม ธมฺมธโร) หรือหลวงพ่อทิม ซึ่งท่านได้เป็นเจ้าอาวาสวัดช้างให้ในขณะนั้น ในช่วงปีพ.ศ. 2508 ถูกสร้างขึ้นเนื่องในวาระที่ท่านได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร ชั้นพัดขาว ฝ่ายวิปัสสนา ปี พ.ศ. 2499 ทางด้านพุทธะลักษณะของเรียนนี้มีความประณีตอยู่ไม่น้อย ซึ่งกรรมวิธีในการสร้างนั้นก็ทำตามยุคตามสมัย มีลักษณะเป็นเหรียญทรงเสมาซึ่งมีหูในตัว ในช่วงบริเวณกึ่งกลางนั้นมีรูปเหมือนของหลวงปู่ทวดปรากฏอยู่กลางเหรียญเต็มองค์ ในส่วนของด้านล่างหลวงปู่ทวดนั้นมีการสลักอักษรคำว่า “หลวงพ่อทวดวัดช้างไห้” ทางด้านซ้ายและด้านขวามีอักษรที่เป็นภาษาขอมปรากฎอยู่ทั้งสองด้าน ในส่วนรอบขอบเหรียญนั้นเป็นลายกนกจากซ้ายมาขวา ด้านหลังของเหรียญเป็นรูปองค์หลวงปู่ทิมที่ปรากฏเพียงส่วนบนจากศรีษะมาถึงช่วงบ่า มีลักษณะหน้ามองตรง ในส่วนขอบด้านซ้ายมาถึงขอบทางด้านขวาเป็นอักขระขอมพร้อมอยู่ช่วงบนเหนือศรีษะของรูปองค์หลวงปู่ทิม และทางด้านล่างของรูปองค์หลวงปู่ทิมนั้นมีอักษรที่สลักชื่อของท่านเป็นคำว่า “พระครูวิสัยโสภณวง (ทิม) ถัดลงมาคือบรรทัดรองสุดท้ายมีอักษรที่ปรากฏคำว่า “งานเลื่อนสมณศักดิ์” และในช่วงบรรทัดสุดท้ายมีอักษรที่สลักคำว่า “๐๘” 4. เหรียญหลวงปู่ทวด พิมพ์ซุ้มกอ วัดช้างไห้ ปี ๒๕๐๘ แจกปีนังมาต่อกันที่ มาต่อกันที่เหรียญหลวงพ่อทวดวัดช้างให้พิมพ์ซุ้มกอปี 2508 เหรียญหลวงปู่ทวด พิมพ์ซุ้มกอ วัดช้างไห้ ปี ๒๕๐๘ แจกปีนัง ถือเป็นเหรียญอีกหนึ่งรุ่นที่เราบรรดานักสะสมต่างใฝ่ฝันและตามหากันเป็นอย่างมาก เพราะเป็นเหรียญที่สร้างในจำนวนที่ค่อนข้างน้อย อีกทั้งยังมีพุทธคุณที่โดดเด่นในเรื่องเกี่ยวกับโชคลาภ เงินทองที่ผู้คนต่างพากันร่ำลือกันเป็นอย่างมากว่า หากผู้ใดมีติดตัวแล้วก็จะยิ่งรวย อีกทั้งยังถือเป็นสุดยอดนิรันตราย แคล้วคลาดปลอดภัย ทางด้านเมตตามหานิยมก็เป็นเลิศ เหรียญพิมพ์ซุ้มกอของหลวงปู่ทวดรุ่นนี้ ได้มีการจัดสร้างเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2506 ซึ่งวัตถุประสงค์ในการสร้างเหรียญนี้ก็เพื่อนำไปแจกญาติโยมและลูกศิษย์ลูกหาที่อยู่ในประเทศมาเลเซีย เนื่องในโอกาสที่ได้ร่วมทำบุญทอดกฐินและทอดผ้าป่าที่วัด “วัดไชยมังคลาราม” ซึ่งหลวงปู่ทิมท่านได้มีโอกาสสร้างวัดนี้ไว้ที่นั่น (ประเทศมาเลเซีย) ซึ่งชาวไทยและชาวมาเลเซียที่นั่น ก็มีความเลื่อมใสศรัทธาหลวงปู่ทวดเป็นอย่างมากเช่นกัน แม้กระทั่งชาวมุสลิมบางท่านที่เคารพศรัทธาหลวงปู่ทวด ก็ได้นำหอผ้ามาห่อแล้วพกติดตัวไว้ด้วยเช่นกัน การจัดสร้างในครั้งนั้นได้ถูกแบ่งออกเป็น 2 พิมพ์ คือพิมพ์แบบไม่มีหูและพิมพ์แบบมีหู นอกจากนี้ยังมีการจัดสร้างเป็นลายเนื้อได้แก่ เนื้อทองแดง ซึ่งมีทั้งทองแดงรมดำและทองแดงแบบเปลือย หรือบางเหรียญก็มีในรูปแบบกะไหล่ทอง นอกจากนี้ยังมีที่เป็นเหรียญเนื้อตะกั่ว ซึ่งเนื้อตะกั่วนั้นก็จะถูกแบ่งออกเป็น 2 พิมพ์ คือพิมพ์เล็กกับพิมพ์ใหญ่ ทางด้านของพุทธะลักษณะนั้นจะคล้ายกันเกือบทุกเนื้อเหรียญเหรียญ มีลักษณะคล้ายกับพระซุ้มกอ ของจังหวัดกำแพงเพชรที่เป็นพระกรุ ในส่วนของด้านบนองจะเป็นลักษณะโค้งมนอันเป็นที่มาของชื่อเหรียญรุ่นนี้ “เหรียญหลวงปู่ทวด พิมพ์ซุ้มกอ” ด้านหน้าเหรียญนั้นจะเป็นรูปเหมือนองค์หลวงปู่ทวดประทับลอยองค์ เต็มองค์ในอิริยาบถนั่งขัดสมาธิ ทั้งยังมีภายในเป็นเส้นซุ้มครอบแก้ว ตรงใต้ของหลวงปู่ทวดนั้นมีอักษรที่สลักคำว่า “หลวงพ่อทวด” และในส่วนของด้านหลังนั้นเป็นรูปยันต์ตรงกึ่งกลางเหรียญ ส่วนใต้ยันต์นั้นมีตัวอักษรที่สลักคำว่า “วัดช้างไห้” พื้นหลังเป็นลักษณะเรียบ 5. เหรียญเม็ดแตง “พิมพ์ ณ.แตกหนังสือเลยหู” หลวงปู่ทวด วัดช้างไห้ ปี 2506มาต่อกันที่เรียนพิมพ์เม็ดแตงหลวงพ่อทวด เหรียญเม็ดแตง “พิมพ์ ณ.แตกหนังสือเลยหู” หลวงปู่ทวด วัดช้างไห้ ปี 2506 ซึ่งเป็นเหรียญที่มีพุทธลักษณะงดงามและมีความปราณีตมาก ถูกสร้างขึ้นโดยพระครูวิสัยโสภณหรือท่านอาจารย์ทิม ซึ่งท่านได้เป็นอดีตเจ้าอาวาสวัดช้างไห้ในยุคนั้น ถูกสร้างขึ้นในปี พ.ศ 2506 ซึ่งถือเป็นเหรียญเม็ดแตงรุ่นแรก แต่จำนวนการสร้างนั้นไม่พอที่จะแจกญาติโยม จึงได้มีการสร้างอีกครั้งปี พ.ศ. 2508 (ซึ่งมีการสร้างเป็นเนื้ออัลปาก้าและเนื้อทองคำ) สำหรับเหรียญเม็ดแตงรุ่นปีพ.ศ. 2506 นั้น มีการจัดสร้างและถูกแบ่งพิมพ์ตามบล็อกแม่พิมพ์ดังนี้ 1. เหรียญบล็อกหน้าผาก 3 เส้น ที่มีชื่อว่า “พิมพ์จิ๋ว” ,2. เหรียญบล็อกหน้าผาก 3 เส้นที่มีชื่อว่า “พิมพ์วงเดือน” , 3. เหรียญบล็อกหน้าผาก 3 เส้นหนังสือเลยหู
“พิมพ์เม็ดตาสองข้าง มีเม็ดตาข้างเดียวและไม่มีเม็ดตา และ 4. เหรียญบล็อกหน้าผาก 4 เส้นหนังสือ “มีเนื้อเกินมาที่หน้าผาก และไม่มีเนื้อเกิน” สำหรับรุ่นในปีพ.ศ. 2508 มีดังนี้ บล็อกธรรมดา,บล็อกปีกกา, บล็อกปีกกาหัวขีดทางด้าน “ซ้าย” และหัวขีดทางด้าน “ขวา”, บล็อก ณ แตกหนังสือเลยหู, บล็อก ณ แตกหูขีด, บล็อก ณ แตกไม้โททะลุซุ้ม, บล็อก ณ แตกธรรมดา, บล็อกวงเดือน,บล็อกสายฝน “ไม้มลาย” บล็อก ณ แตกหน้าแว่น และบล็อก ณ แตกไม้หันอากาศทะลุซุ้ม ทางด้านพุทธลักษณะทางด้านหน้านั้นเป็นรูปองค์หลวงปู่ทวดครึ่งองค์ มองตรง ในส่วนทางด้านบนช่วงเหนือศรีษะขององค์หลวงปู่ทวดนั้นมีอักษรที่สลักคำว่า “หลวงพ่อทวดวัดช้างไห้” และในส่วนด้านหลังของเหรียญนั้นเป็นรูปของพระอาจารย์พิมพ์ครึ่งองค์หน้ามองตรง และมีอักษรที่สลักเหนือช่วงศีรษะของพระอาจารย์พิมพ์ว่า “พระครูวิสัยโสภณ(ทิม)” 6. เหรียญหลวงพ่อทวด รุ่น 2 วัดช้างไห้ ปี 2502ต่อไปเราจะพาคุณไปรู้จักกับ เหรียญหลวงพ่อทวดรุ่น 2 ปี 2502 วัดช้างไห้ สำหรับเหรียญหลวงปู่ทวดรุ่นนี้มีด้วยกันหลายพิมพ์ซึ่งปลุกเสกโดยพระอาจารย์ทิม ถูกจัดสร้างในช่วงปี พ.ศ 2502 ถือเป็นเหรียญหลวงปู่ทวดที่ค่อนข้างหายากอีกหนึ่งรุ่นในปัจจุบัน เรื่องพุทธคุณสูงนั้นสูงที่เรียกได้ว่าครอบจักรวาลกันเลยทีเดียว จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ใครหลายคนต่างใฝ่ฝันและปรารถนาอยากได้มามีไว้ครอบครองบูชา สำหรับเหรียญรุ่นนี้มีด้วยกัน 2 แบบ คือ เหรียญเสมา และเหรียญรูปไข่ มีการแบ่งพิมพ์เป็น2พิมพ์ คือพิมพ์ไข่ปลาเล็ก และพิมพ์ไข่ปลาใหญ่ และพิมพ์ไข่ปลาใหญ่นั้นมีด้วยกันถึง 4 บล็อก คือ 1.พิมพ์บล็อกหน้านุ่ม 2.พิมพ์บล็อกสายฝน 3. พิมพ์บล็อกหน้าแก่ และ 4. พิมพ์บล็อกสระไอไม้มลาย (ซึ่งเป็นพิมพ์ที่หายากและเป็นที่ปรารถนากันมากที่สุด) ส่วนพิมพ์ไข่ปลาเล็กนั้นถูกแบ่งพิมพ์เป็น 3 พิมพ์ ในส่วนของเหรียญเสมานั้นก็ได้มีการแบ่งเป็น 2 พิมพ์อีกเช่นกัน ซึ่งการสร้างเหรียญในชุดนี้ถือว่ามีมากมาย และแต่ละบล็อกแต่ละพิมพ์นั้นก็มีความปราณีตและพุทธลักษณะไม่ต่างกันมากนัก สำหรับพุทธลักษณะของเหรียญรูปไข่มีดังนี้ คือ เป็นเหรียญทรงรูปไข่ซึ่งมีหูอยู่ในตัว ด้านหน้ามีรูปเหมือนองค์หลวงปู่ทวด นังขัดสมาธิราบเต็มองค์ มีจุดไข่ปลาล้อมรอบขอบเหรียญ ใต้ล่างรูปหลวงปู่ทวดนั้นมีอักษรที่สลักคำว่า “หลวงพ่อทวด” และถัดมาในบรรทัดสุดท้ายนั้นมีคำว่า “วัดช้างไห้” ในส่วนด้านหลังนั้นเป็นรูปเหมือนพระอาจารย์ทิมครึ่งองค์ หน้ามองตรงด้านบนเหนือศรีษะเป็นอักขระขอมล้อมรอบจากทางฝั่งซ้ายไปขวา และด้านล่างใต้รูปเหมือนองค์พระอาจารย์ทิมนั้น มีการสลักอักษรคำว่า “พระครูวิสัยโสภณ (ทิม) 7. เหรียญหลวงปู่ทวด วัดช้างไห้ รุ่น 3 ปี 2504มาต่อกันที่ เหรียญหลวงปู่ทวด วัดช้างไห้ รุ่น 3 ปี 2504 สำหรับเหรียญรุ่นนี้ก็ยังคงเป็นเหรียญอีกหนึ่งรุ่นที่หายาก โดยพระอาจารย์ทิม วัดช้างไห้ เป็นผู้ปลุกเสก เหมือนกับเหรียญรุ่นที่ 1 และ รุ่นที่ 2 แต่สำหรับเหรียญรุ่นนี้ได้มีการสร้างขึ้นในช่วงปี พ.ศ 2504 และยังคงเป็นเหรียญที่ได้รับความนิยมกันมาอย่างต่อเนื่องและมีราคาแพงมาจนถึงปัจจุบัน ด้านพุทธคุณได้มีคำเล่าลือที่กล่าวถึงกันมากในทางค้าขาย หากใครใช้เหรียญรุ่นนี้ก็จะช่วยในเรื่องทำมาค้าขึ้น รุ่งเรืองและร่ำรวย นอกจากนี้ยังโดเด่นในเรื่องนิรันตราย แคล้วคลาด ปลอดถัย หรือจะเรียกว่าครอบจักรวาลก็คงไม่ผิด อีกทั้งยังมีประสบการณ์มากมายที่ได้ถูกเล่าขานต่อๆกันมา แต่ตัวอย่างในภาพที่เรานำมาให้ดูนี้คือ รุ่น 3 พิมพ์สองจุดประคดข้างเดียว พุทธลักษณะของเหรียญรุ่นนี้มีความต่างจากรุ่นที่ 1 และรุ่นที่ 2 เป็นเหรียญรูปทรงเสมาที่มีหูในตัว ในส่วนหน้าเหรียญเป็นรูปเหมือนหลวงปู่ทวดนั่งขัดสมาธิรราบอยู่เต็มองค์ ทางด้านขอบทางด้านซ้ายมีการลงอักษระขอม ทางด้านขวาก็มีการลงอักขระขอมเช่นกัน ใต้ล่างขององค์หลวงปู่ทวดนั้นมีอักษรที่สลักคำว่า “หลวงพ่อทวด วัดช้างไห้” ในส่วนของด้านหลังเหรียญนั้นเป็นรูปเหมือนพระอาจารย์ทิมหน้ามองตรงองค์ ปรากฎอยู่ครึ่งองค์ ทางด้านซ้ายจากช่วงบริเวณใบหูล้อมรอบอักขระขอมไปจนถึงบริเวณใบหูด้านขวา ในส่วนด้านล่างขององค์รูปเหมือนนั้นเป็นตัวอักษรที่มีจารึกคำว่า “พระครูวิสัยโสภณ(ทิม)” มีความคมชัดกว่าเหรียญรุ่นที่ 1 และเหรียญรุ่นที่ 2 เป็นอย่างมาก 8. เหรียญหลวงปู่ทวด เสมาหน้าเลื่อน ปี 2511มาต่อกันที่ เหรียญหลวงปู่ทวด เสมาหน้าเลื่อน ปี 2511 ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเหรียญที่เหล่าบรรดานักสะสมต่างใฝ่ฝัน เพราะในปัจจุบันนอกจากจะหายากแล้วยังมีราคาที่แพงมากถึงหลักแสนกันเลยทีเดียว แต่ก็ยังมีการขยับราคากันอยู่เรื่อยๆ สำหรับเหรียญรุ่นนี้ถูกสร้างในปี พ.ศ 2511 ณ วัดช้างไห้ จังหวัด ปัตตานี ซึ่งเป็นปีเดียวกันกับที่สร้างเหรียญพุทธซ้อน ทางด้านพุทธคุณไม่ต้องพูดถึง ถือเป็นสุดยอดนิรันตราย แคล้วคลาดปลอดภัย ทางด้านเมตตามหานิยมก็เป็นเลิศ เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าโดดเด่นในทุกๆด้านหรือที่เรียกกันว่า “ครอบจักรวาล” นั่นเอง พุทธลักษณะของเหรียญรุ่นนี้ก็มีความคล้ายคลึงกันกับเหรียญหลวงปู่ทวดในรุ่นต่างๆ แต่รุ่นนี้จะมีความแตกต่างและพิเศษทางด้านหลังเหรียญ จะขออนุญาติกล่าวถึงด้านหน้าเหรียญกันก่อนซึ่งก็คือ เป็นเหรียญทรงเสมาที่มีหูในตัว ที่มีรูปเหมือนของหลวงปู่ทวดเต็มองค์ ในอิริยาบทนั่งสมาธิราบ อยู่บริเวณกึ่งกลางเหรียญ ด้านใต้ของรูปเหมือนองค์หลวงปู่ทวดนั้น มีการจารึกอักษรคำว่า “หลวงพ่อทวดวัดช้างไห้ ในส่วนของขอบเหรียญนั้นเป้นลายกนกรอบเหรียญ ทางด้านซ้ายของขอบเหรียญยาวไปจนด้านฝั่งขว่านั้นมีการล้อมด้วยอักขระขอม ส่วนด้านหลังของเหรียญนั้นมีรูปสถูปอยู่ตรงกึ่งกลางเหรียญ ด้านบนของสถูปมีอักษรที่จารึกไว้ว่าเป็นคำว่า “สถูปหลวงพ่อทวด” แล้วล้อมรอบขอบนั้นเป็นลายกนกแบบไทยปรากฎให้เห็นอยู่ ซึ่งเหรียญนี้มีความสวยงามและละเอียดคมชัดกว่าเหรียญหลวงปู่ทวดรุ่นอื่นๆมาก ทั้งยังมีความปราณีตและการออกแบบที่สวยงามและพิเศษกว่าที่เคยมีมา 9. เหรียญหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ รุ่น4 (บล็อก10ขีด) ปี 2505มาต่อกันที่รุ่นสุดท้ายที่เราได้นำมาฝากนั่นก็คือเหรียญที่มีชื่อว่า “เหรียญหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ รุ่น4 (บล็อก10ขีด) ปี2505” สำหรับเหรียญรุ่นนี้ก็ยังคงถือเป็นเหรียญหายากอีกหนึ่งรุ่นเช่นกัน ได้มีการจัดสร้างขึ้นในช่วงปี พ.ศ 2505 ณ วัดช้างไห้ จังหวัด ปัตตานี ซึ่งได้รับการปลุกเสกเดียวกันกับพระชุดหลังเตารีด ด้านพุทธคุณค่อนข้างเป็นที่โด่งดัง ถือเป็นสุดยอดนิรันตราย แคล้วคลาดปลอดภัย ทางด้านเมตตามหานิยมก็เป็นเลิศ ถูกร่ำลือกันว่าครบแทบทุกด้านที่มักเรียกกันว่า “ครอบจักวาล” ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ของเหรียญรุ่นและวัตถุต่างๆของหลวงปู่ทวดอยู่แล้ว อีกทั้งยังถูกสร้างด้วยกันเป็น 2 เนื้อ คือเหรียญเนื้อทองแดงและเหรียญเนื้ออัลปาก้า มีด้วยกันหลายบล็อกแม่พิมพ์ ได้แก่ พิมพ์บล็อกธรรมดา, พิมพ์บล็อก 10 ขีด, พิมพ์บล็อกมีเม็ดตา, พิมพ์บล็อกสายฝน (ซึ่งถูกแบ่งออกอีก 3 บล็อก) , พิมพ์บล็อกขีดข้างหู, พิมพ์บล็อกเขยื้อน ทางด้านพุทธลักษณะนั้นเป็นเหรียญทรงรูปไข่ที่มีหูในตัว ในส่วนของด้านหน้าเหรียญเป็นรูปเหมือนองค์หลวงปู่ทวดนั่งขัดสมาธิราบอยู่เต็มองค์ มีรูปช้างหมอบอยู่บริเวณหัวเข่าทั้ง 2 ด้าน ขอบเหรียญมีจุดไข่หลาล้อมรอบ ในส่วนเหนือศรีษะขององค์หลวงปู่ทวดจากด้านซ้ายไปขวามีอักขระขอมปรากฏอยู่ และด้านล่างองค์รูปเหมือนหลวงปู่ทวดนั้นมีอักษรจารึกคำว่า “หลวงพ่อทวด” และมีอักษรจารึกคำว่า “วัดช้างไห้” ในบรรทัดสุดท้าย ตรงขอบเหรียญด้านล่างสุด ในส่วนของด้านหลังเหรียญนั้นเป็นรูปเหมือนพระอาจารย์ทิมหน้ามองตรง ครึ่งองค์ ปรากฎอยู่ครึ่งองค์ ทางด้านซ้ายจากช่วงบริเวณใบหูล้อมรอบอักขระขอมไปจนถึงบริเวณใบหูด้านขวา ในส่วนด้านล่างขององค์รูปเหมือนนั้นเป็นตัวอักษรที่มีจารึกคำว่า “พระครูวิสัยโสภณ(ทิม)” พระคาถาบูชาหลวงปู่ทวด วัดช้างไห้(ตั้งนะโม 3 จบ) “นะโม โพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภะคะวา” (3 จบ) “ใครแขวนพระหลวงปู่ทวดแล้วจะไม่ตายโหง” เป็นคำและคติความเชื่อของผู้คนในวงการพระเครื่อง ที่ต่างกล่าวขานกันมาว่าแบบนั้น แต่อย่างไรก็ตามการสะสมบูชาพระเครื่องเป็นความเชื่อ ความศรัทธาส่วนบุคคล หากจะให้ดีต้องประพฤติดี ปฏิบัติดี ไม่เบียดเบียนผู้อื่นควบคู่ไปด้วย อานิสงส์ของพุทธคุณจะยิ่งทวีคูณและแข็งขลัง รวมทั้งการปฏิบัติตามแนวทางของคำอบรมสั่งสอน ที่พระอาจารย์ท่านได้เคยอบรมสั่งสอนไว้ และสุดท้ายก่อนจะขออนุญาตลากันไปในครั้งนี้ เราหวังว่าเรื่องราว รวมสุดยอด 9 เหรียญหลวงปู่ทวด ยอดนิยม พร้อมประวัติความเป็นมา ! ที่เราได้นำมาฝากท่านผู้อ่านในครั้งนี้ จะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย และหวังอย่างยิ่งว่าท่านจะถูกใจ อย่างไรก็ตาม พวกเราทีมงานขออำนาจบารมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ รวมทั้งอำนาจบารมีแห่งพุทธคุณของหลวงปู่ดู่ ช่วยปกปักรักษาท่านผู้อ่านทุกท่านให้มีสุขภาพที่แข็งแรง ปลอดภัยจากไวรัสร้ายในขณะนี้ ซึ่งเราเชื่อว่าเราจะผ่านไปด้วยดี พบกันใหม่กับบทความในครั้งหน้าหากอยากทราบว่าเราจะนำเรื่องใดมาเล่าท่านได้ฟังกันอีกต้องห้ามพลาด สำหรับครั้งนี้ต้องขออนุญาตลากันไปก่อน หากผิดพลาดประการใดได้โปรดอภัยให้พวกเราทีมงานส่องพระ ณ ที่นี้ ขอขอบพระคุณท่านผู้อ่านทุกท่านที่ติดตามกันเสมอมา ที่มา : t-amulet.com, guaranteepra.com, uauction3.uamulet.com, posttoday.com, komchadluek.net, amuletheritage.com Credit ฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ |
พระหลวง ปู่ทวด ที่ นิยม ที่สุด
ลิขสิทธิ์ © 2024 th.frojeostern Inc.
