ระบบปฏิบัติการ ios เป็นระบบปฏิบัติการสำหรับ

รุ่นหลักของไอโอเอสจะมีการเปิดตัวทุก ๆ ปี จนถึงปัจจุบันนี้ ได้มีการปล่อยตัว iOS 12 ซึ่งเป็นรุ่นล่าสุดในวันที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2561 ในงาน WWDC ปี พ.ศ. 2561

ในงาน WWDC ปี พ.ศ. 2562 ไอโอเอส 13 ที่จะอัปเดทในไอแพด ได้เปลี่ยนชื่อใหม่เป็นไอแพดโอเอส ซึ่งเป็นนัยถึงการแยกระบบปฏิบัติการที่จะแตกต่างไปจากไอโอเอสซึ่งใช้สำหรับในไอโฟนและไอพ็อดทัช

ไอทีจีเนียส เอ็นจิเนียริ่ง (IT Genius Engineering) ให้บริการด้านไอทีครบวงจร ทั้งงานด้านการอบรม (Training) สัมมนา รับงานเขียนโปรแกรม เว็บไซต์ แอพพลิเคชั่น งานออกแบบกราฟิก และงานด้าน E-Marketing ที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบัน ทั้ง SEO , PPC , และ Social media marketting

ติดต่อเราเพื่อสอบถามผลิตภัณฑ์ ขอราคา หรือปรึกษาเรื่องไอที ได้เลยค่ะ

Line : @itgenius (มี @ ด้านหน้า) หรือ https://lin.ee/xoFlBFe
Facebook : https://www.facebook.com/itgeniusonline
Tel : 02-570-8449 มือถือ 088-807-9770 และ 092-841-7931
Email : [email protected]

ระบบปฏิบัติการ ios เป็นระบบปฏิบัติการสำหรับ

โดย Admin ITGenius

เข้าชม 8,689 ครั้ง

คำค้นหา : ประวัติ IOSความเป็นมาของระบบ iOSการแบ่งขนาด IOS รูปแบบ IOS การใช้งาน IOS ความหมาย IOS อุปกรณ์ที่เกี่ยวกับ IOS

         เปิดตัวครั้งแรกที่งาน WWDC 2019 (วันที่ 3 มิถุนายน 2019) และจะปล่อยให้อัปเดตในช่วงเดือนกันยายน 2019 หรือหลังจากเปิดตัว iPhone รุ่นใหม่ สำหรับเวอร์ชั่นนี้แอปเปิลยังคงเน้นไปที่ปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานให้เร็วกว่า iOS 12 ช่วยให้การเปิดแอปฯ รวดเร็วขึ้นกว่าเดิมถึง 2 เท่า ลดขนาดของแอปฯ ที่ดาวน์โหลด และปลดล็อกด้วย Face ID เร็วขึ้นกว่าเดิม 30% รวมถึงเพิ่ม Dark Mode ที่หลายคนรอคอย ช่วยปรับลุคใหม่ให้กับ iPhone และยังปรับปรุงแอปฯ แผนที่ใหม่ ปรับข้อมูลการแสดงผลที่ละเอียดและสวยงามขึ้นกว่าเดิม

          นอกจากจุดเด่นและข้อดีต่าง ๆ ของแต่ละระบบปฏิบัติการที่ได้กล่าวไปแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่แตกต่างกันก็คือแอปฯ ที่มีให้ใช้บนแต่ละระบบ ซึ่งบางแอปฯ หรือบางเกมก็อาจมีเฉพาะบน iOS แต่บางแอปฯ ก็มีแต่บน Android ซึ่งไม่สามารถฟันธงได้ว่าของระบบไหนจะดีกว่ากัน กรณีนี้คงต้องพิจารณากันตามความต้องการในการใช้งานของแต่ละคน รวมถึงความชื่นชอบในเรื่องของดีไซน์ความสวยงามหรือปัจจัยอื่น ๆ เพิ่มเติมด้วยนั่นเอง 

รองรับสำหรับการใช้งานใน iPhone 3G และ iPod Touch ซึ่งเปิดตัวเป็นครั้งแรก ทั้งยังรองรับ App store เป็นครั้งแรก

IOS 3 รองรับสำหรับการใช้งานใน iPhone 3GS สามารถคัดลอกและวางข้อความ และส่ง MMS ได้

IOS 4 รองรับสำหรับการใช้งานใน iPhone 4 เป็นรุ่นแรกที่ใช้ชื่อว่า iOS อย่างเป็นทางการ โดยใช้ชื่อว่า iOS 4 โดยเป็นเวอร์ชันแรกที่ iPhone รุ่นแรกไม่รองรับ ในรุ่นนี้รองรับฟังก์ชันมากมาย อาทิ Multitasking เป็นต้น และในรุ่น 4.2.1 เป็นรุ่นแรกที่เริ่มใช่งานใน ไอแพด ซึ่งเปิดตัวเป็นครั้งแรก

IOS 5 รองรับสำหรับการใช้งานใน iPhone 4S รุ่นนี้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบหน้าตาของฟังก์ชันพื้นฐาน และรองรับระบบต่างๆมากมาย อาทิ ไอคลาวด์ และ สิริ เป็นต้น

IOS 6 รองรับสำหรับการใช้งานใน iPhone 5 และไอพอดทัช รุ้นที่ 5 เปลี่ยนไปใช้ระบบแผนที่ของ TomTom, สามารถ Facetime ผ่านระบบเซลลูล่าร์, การถ่ายภาพแบบพาโนรามา, คีย์บอร์ดภาษาไทยแบบ 4 แถว, แอปพลิเคชันนาฬิกาสำหรับ iPad

IOS 7 เปลี่ยนส่วนต่อประสานกับผู้ใช้ใหม่ทั้งหมดให้เป็นแบบเรียบง่าย เพิ่มสถานีวิทยุไอจูนส์ ศูนย์การตั้งค่าด่วน บริการส่งไฟล์ระหว่างอุปกรณ์ของแอปเปิลผ่านแอร์ดรอป และเสริมความสามารถของซีรี(อังกฤษ: Siri) หรือที่แผลงเป็น สิริ

IOS 8 เพิ่มไอคลาวด์ไดรฟ์ การแจ้งเตือนแบบอินเตอร์แอกทีฟ การสนับสนุนแป้นพิมพ์จากผู้พัฒนาอื่นนอกเหนือแอปเปิล การแบ่งปันข้อมูลในอุปกรณ์ของแอปเปิลภายในครอบครัว และระบบการค้นหาใหม่

IOS 9 ปรับปรุง Siri ให้มีความแม่นย้ำมากขึ้นกว่าเดิม , เปลี่ยนแอปพลิเคชัน จาก Passbook เป็น Wallet , เพิ่มแอปพลิเคชัน News , ปรับปรุงอินเทอร์เฟส Multitasking และอื่นๆ

- สำหรับ iPad โดยเฉพาะ : เพิ่มฟีเจอร์ QuickType keyboard , เพิ่มการรองรับ Slide Over , เพิ่มการรองรับ รูปภาพข้างในรูปภาพ (Picture in Picture) และ เพิ่มการรองรับ Split View

Split View รองรับเฉพาะบน iPad Air 2 และ iPad Pro (ทั้ง 12.9 นิ้ว และ 9.7 นิ้ว)

Slide Over และ รูปภาพข้างในรูปภาพ (Picture in Picture) รองรับเฉพาะ iPad Air ขึ้นไป , iPad Mini 2 ขึ้นไป และ iPad Pro (ทั้ง 12.9 นิ้ว และ 9.7 นิ้ว)

IOS 10 - เปลี่ยนหน้าตา Lock Screen ใหม่ พร้อมฟังค์ชั่น Raise To Wake โดยใช้ Apple M9 คอยตรวจการเคลื่อนไหวของตัวเครื่อง , เปลี่ยนเสียงเอกเฟคบางส่วน , เปลี่ยนหน้าตา Control Center , เปลี่ยนหน้าตาแอพต่างๆ เช่น Apple Music News Maps

- ปรับปรุงการใช้ 3D Touch , ปรับปรุง QuickType

- สามารถลบแอพที่มาพร้อมกับ iOS ได้แล้ว , การแจ้งเตือน สามารถลบออกทั้งหมดได้ในแตะครั้งเดียว

- เพิ่มลูกเล่นสำหรับแอพ Messages , Photos

- เพิ่มแอพใหม่ Home

- เพิ่มฟังค์ชั่นการตรวจสอบเบอร์โทรเป็นสแปม , VoIP ทำได้บนแอพโทรศัพท์ได้แล้ว

IOS 11

iMessage

ปรับปรุงหน้าตา iMessage ใหม่ เก็บข้อมูลไว้ที่ iCloud ได้

Apple Pay สามารถส่ง Apple Pay Cash Card ให้คนอื่นผ่าน iMessage เพื่อใช้ซื้อของ จ่ายเงินได้


Siri

เพิ่มเสียง Siri, ปรับปรุงหน้าตาใหม่

Siri มีความฉลาดมากขึ้น เรียนรู้ความต้องการของผู้ใช้งาน (ข้อมูลจากอุปกรณ์) และนำเสนอข้อมูลได้ดีกว่าเดิม


กล้อง

ปรับปรุงการเข้ารหัสระบบกล้องใหม่ เพิ่มคุณภาพการถ่ายภาพในด้านต่างๆ ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายที่แสงน้อย, ระบบกันสั่นที่ดีขึ้น

Control Center

ออกแบบ Control Center ใหม่ ทุกอย่างอยู่ในหน้าจอเดียว รองรับ 3D Touch

Lock Screen และ Notification

ออกแบบใหม่ใช้งานง่ายและสวยขึ้น


แอป Photo

สามารถเลือก Frame ใน Live Photo มาแสดงได้, ทำ Loop Video เหมือน Boomberg ได้ และเพิ่มฟีเจอร์ฟิลเตอร์แต่งรูปใหม่


Maps

อัปเดตข้อมูลร้านค้า และรายละเอียดในแผนที่เพิ่มเติม ดูแผนที่ชั้นในตึกอาคาร, สนามบินได้


CarPlay

มีระบบบอกเส้นทาง จำกัดควาามเร็ว และ Do Not Disturb While Driving เพื่อป้องกันการรบกวนระหว่างการขับรถเพื่อความปลอดถัยที่มากขึ้น


HomeKit

เพิ่มระบบควบคุมลำโพงหลายตัวผ่านที่เดียว Multi-room audio, มาพร้อม AirPlay 2 ทำอะไรได้มากขึ้น


Apple Music

แสดงรายชื่อเพือนที่กำลังฟังเพลงอยู่ได้

เพิ่ม API ใหม่สำหรับนักพัฒนา สามารถเชื่อมต่อกับ Apple Music ได้ เปิดกว้างมากยิ่งขึ้น


App Store

ปรับปรุงการออกแบบ App Store ทั้งหมดใหม่หมดมีความคล้ายกับ Apple Music

เพิ่มแถบ Today ดูแอปใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นในมุมมองที่สวยงามมากขึ้น

เพิ่มแถบ Game สำหรับคนที่ชอบเล่นเกม ในนั้นสามารถดูหมวดหมู่เพิ่มเติมได้

เพิ่มแถบ Apps

หน้าจอรายละเอียด App

สามารถแตะเข้าไปดูรายละเอียด How-to นักพัฒนาสามารถใส่รายละเอียดเพิ่มได้หลายรูปแบบ

Machine Learning (ML) API

Core ML สามารถให้นักพัฒนาพัฒนาระบบให้เรียนรู้ลักษณะการใช้งานของอุปกรณ์ได้ เช่น จดจำใบหน้า, การตรวจจับตัวอักษร, การอ่านบาร์โค็ด ฯลฯ  นักพัฒนาสามารถจำ Core ML ไปพัฒนาต่อยอดได้