ความสําคัญของการสร้างสัมพันธภาพ หมายถึง

1. ความใสใจและเอาใจใส่ซึ่งกันและกัน ความใส่ใจในคนอื่น คือ มีความต้องการที่จะรู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับเขาบ้าง มีความสนใจในความคิดและความรู้สึกของเขา ต้องการรับรู้ในความล้มเหลวและความสำเร็จในชีวิตของเขา คนทุกคนชอบคนที่ให้ความสนใจในเรื่องราวของตัวเขาอย่างจริงใจ แต่ในทางตรงกันข้ามทุกคนจะไม่อยากคบกับคนที่สนใจแต่เรื่องของตัวเอง ไม่สนใจผู้อื่นเลย คุณคงเคยพบพานคนประเภทนี้บ้าง พวกเขาจะพูดถึงแต่เรื่องของตนเองไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมในชีวิตของเขา ประสบการณ์ของเขา ความคิดเห็นของเขา การพูดคุยกับคนแบบนี้ก็ไม่สนุกเลยและทุกคนก็อยากหลีกเลี่ยง

2. ความไว้เนื้อเชื่อใจ การอยู่กับผู้อื่นอย่างมีความสุข คุณจำเป็นต้องให้เขาไว้วางใจในตัวคุณด้วย เช่น เรื่องการตรงต่อเวลา การรักษาสัญญาและเรื่องอื่นๆ เช่นเดียวกับการที่คุณนัดใครสักคนแต่เขาไม่ไปตามนัด คุณคิดกับเขาอย่างไร แน่นอนว่าคุณจะเกิดความลังเล และไม่แน่ใจว่าคราวหน้าจะนัดเขาอีกหรือเปล่า

3. การยอมรับนับถือ คนทุกคนต้องรู้จักการนับถือตนเอง แต่ก่อนที่คุณจะรู้จักนับถือตนเอง คุณก็ต้องรู้จักที่จะนับถือผู้อื่นก่อน คุณจะเรียนรู้การนับถือตนเองได้จากการที่มีคนมาชื่นชมคุณ มีคนมายินดีกับความสำเร็จของคุณ พวกเขาต้องการได้สิ่งที่ดีที่สุดจากคุณ และคนรอบข้างก็เป็นตัวกระตุ้นให้คุณได้พัฒนาความสามารถของคุณ เพื่อให้ผู้อื่นยอมรับนับถือในตัวคุณ

4. การมีส่วนร่วมและการแบ่งปัน สัมพันธภาพที่ดีที่สุด คือ การได้มีส่วนร่วมและแบ่งปันในเรื่องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การมีส่วนร่วมในประสบการณ์ ร่วมเป็นเจ้าของในวัตถุสิ่งของ มีส่วนร่วมและแบ่งปันในความคิดความรู้สึก การมีส่วนร่วมและแบ่งปันหมายถึง การรับฟังผู้อื่นเล่าถึงสิ่งที่หวัง ความใฝ่ฝัน และความไม่สมหวังของเขา ความเป็นจริงคนส่วนมากมักจะลังเลที่จะมีส่วนแบ่งปัน เพราะกลัวว่าจะถูกปฏิเสธ หรือถูกมองอย่างผิดๆ แต่ความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างคุณกับผู้อื่นจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อทั้งสองฝ่ายต่างได้มีส่วนร่วมในชีวิตของกันและกัน
           การได้แบ่งปันความคิดและความรู้สึกกับผู้อื่น เป็นการช่วยให้คุณได้รู้จักตนเองมากยิ่งขึ้นในสิ่งที่ไม่รู้ คนทุกคนมักจะมีความรู้สึกก้ำกึ่งหรือสองฝักสองฝ่าย อาจสงสัยว่าสิ่งนั้นดีหรือไม่ดี อาจจะอธิบายได้ยาก การมีส่วนร่วมแบ่งปันจะทำให้คุณเป็นคนที่ไวกับความรู้สึกของตนเองและผู้อื่น เพิ่มความระมัดระวังตนเองและเป็นการช่วยให้คุณมีทักษะในการตัดสินใจและแก้ปัญหาได้ดีด้วย

5. การมีความยืดหยุ่น สัมพันธภาพที่ดีระหว่างคนสองคนควรมีความยืดหยุ่นไว้ สำหรับความบกพร่อง ความผิดพลาด และความแตกต่างไว้ด้วย
           ความยืดหยุ่น หมายถึง การที่คนๆ นั้นสามารถยอมรับและปรับตัวเข้ากับผู้อื่นได้ คนที่มีความยืดหยุ่นจะเป็นคนที่สามารถมีความสุข แม้จะอยู่กับคนที่มีความคิดเห็นต่างกัน หรือวิถีชีวิตที่แตกต่างกัน โดยปราศจากความรู้สึกกดดัน

6. ความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น คือ ความสามารถในการใส่ความรู้สึกของตัวคุณในขอบเขตความรู้สึกของคนอื่น การจะเข้าใจความรู้สึก ความคิด และพฤติกรรมของผู้อื่นได้นั้น ต้องมาจากการได้พิจารณาและสังเกตอย่างใกล้ชิด คุณสามารถที่จะแสดงความเห็นอกเห็นใจกับคนทุกคนได้ แม้ว่าการแสดงความเห็นใจคนที่คุณชอบจะเป็นการง่ายกว่า แต่ก็เป็นความจำเป็นที่คุณจะต้องแสดงความเห็นอกเห็นใจได้กับคนที่มีความแตกต่างจากคุณ

สัมพันธภาพที่ดีสร้างได้อย่างไร

 

คุณรู้หรือไม่ว่าการมีสัมพันธภาพที่ดีนั้นต้องทำอย่างไรบ้างที่จะช่วยให้ความสัมพันธ์ของคุณนั้นมั่นคงถาวร และยั่งยืนเหมือนต้นไม้ใหญ่อายุหลายร้อยปีชีวิตของมนุษย์ตั้งแต่ถือกำเนิดเกิดมาจนสิ้นชีวิต คนทุกคนต่างก็มีความต้องการที่คล้ายๆกัน นั่นก็คือต้องการที่ให้มีคนเข้าใจ และเห็นอกเห็นใจ ต้องการความรักจากคนรอบข้างหรือคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิต และบุคคลเหล่านี้มักจะเป็นครูที่ดีสำหรับคุณเสมอ
การเข้าอกเข้าใจผู้อื่น
การที่คุณมีสัมพันธภาพกับผู้อื่นนั้นเป็นการเปิดโอกาสให้คุณได้สนใจในสิ่งใหม่ๆ ได้เรียนรู้เรื่องใหม่ๆ ที่อยู่ตั้งแต่ระยะใกล้ตัวจนถึงไกลตัว หากคุณได้รับมิตรภาพตอบแทนก็จะทำให้คุณนั้นเกิดความมั่นใจในการสานมิตรภาพต่อไป แต่ถ้าคุณได้รับการเพิกเฉย สิ่งที่คุณควรคิดเป็นอันดับแรกก็คือ คุณทำอะไรผิดพลาดไปหรือเปล่า ขั้นต่อมาคือ ปรับปรุงพฤติกรรมและวิธีการสร้างสัมพันธภาพ โดยการเรียนรู้และเข้าใจผู้อื่น แต่การที่คุณมีแนวคิดและทัศนคติที่แตกต่างจากผู้อื่นอาจทำให้คุณรู้สึกไม่ดี รู้สึกว่านี่มันไม่ใช่ตัวคุณเลย แต่ความแตกต่างเหล่านี้จะเป็นสิ่งที่ทดสอบความสามารถของคุณในการพัฒนาขอบเขตสัมพันธภาพได้อย่างเต็มรูปแบบ

องค์ประกอบที่ดีในการสร้างสัมพันธภาพมีดังนี้
1. การติดต่อพูดคุย
ในการสร้างสัมพันธภาพกับผู้อื่นนั้นขั้นแรกคุณต้องรู้จักเข้าไปทักทายและพูดคุยกับคนที่เราต้องการจะสร้างสัมพันธภาพ อาจมีคนบางคนที่คุณรู้สึกถูกชะตากับเขา คุณชอบเขามากและคุณพบเห็นเขาอยู่บ่อยๆ และคุณก็อยากรู้จักเขา แต่ถ้าคุณไม่เคยที่จะเข้าไปพูดคุยหรือทักทายเขา เชื่อได้เลยว่า สัมพันธภาพระหว่างคุณกับเขา จะไม่มีทางเกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน เพื่อนที่ถูกใจของคนส่วนใหญ่มักจะมาจากเพื่อนร่วมชั้นเรียน เพื่อนที่มีกิจกรรมร่วมกัน เพื่อนที่ทำงานร่วมกัน เพื่อนที่เล่นกีฬาร่วมกัน แล้ววันหนึ่งคุณจะพบว่า หนึ่งคนในนั้นที่คุณมีโอกาสสร้างมิตรภาพที่ดีแก่เขา
2. มีประสบการณ์ร่วมกัน
คนที่มีความสนใจในเรื่องเดียวกัน มักจะมีเรื่องที่จะคุยกันได้ง่ายดาย มีความสุขในขณะที่พูดถึงสิ่งที่ตนชอบ หรือมีประสบการณ์ เช่นพูดคุยการแต่งนิยาย พูดคุยถึงเรื่องการทำกิจกรรมกลุ่มสัมพันธ์ การเล่นฟุตบอล ฯลฯ จะทำให้ทราบถึงความสนใจในเรื่องต่างๆ ของแต่ละฝ่ายได้เป็นอย่างดี และง่ายที่จะเรียนรู้ซึ่งกันและกัน เพราะทั้งสองฝ่ายมีบทสนทนาที่สามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและเปิดโอกาสให้คนทั้งคู่รู้จักกันมากยิ่งขึ้น
ประสบการณ์ในการทำงานเป็นเหมือนดั่งสะพานที่ทำให้คนสองคนเดินทางข้ามมาเพื่อร่วมมือกัน การได้ช่วยเหลือกันระหว่างเรียน ได้ทำงานเคียงข้างกัน ได้ทำโครงการร่วมกัน การเป็นกำลังใจให้กันและกันมักเป็นจุดเริ่มต้นของมิตรภาพและความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างเพื่อน การพูดถึงเรื่องเก่าๆ จะทำให้มิตรภาพแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น การร่วมและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างกันก็ถือว่าเป็นการแลกเปลี่ยนทัศนคติในการใช้ชีวิตซึ่งกันและกัน
3. ความเชื่อที่คล้ายกัน
กับคนที่คุณชอบและคุณก็สามารถอยู่กับเขาหรื่อสนทนากับเขาอย่างมีความสุข คุณต้องการแบ่งปันทัศนคติและความเชื่อของคุณให้เขารับรู้ แม้ว่าการพูดคุยนั้นจะมีความคิดเห็นที่ขัดแย้งกันบ้างก็ตาม แต่ความใกล้ชิดระหว่างมิตรภาพจะทำให้คุณกับเขาได้แลกเปลี่ยนมุมมองแนวคิดที่นำมากล่าวอ้าง ซึ่งจะทำให้ความคิดเห็นต่างๆ ของคุณทั้งสองคล้ายกันและเป็นไปในแนวทางเดียวกัน มีความเชื่อว่าคนที่มีแนวคิดในการดำเนินชีวิตที่คล้ายคลึงกันมักจะเป็นมิตรที่ดีต่อกันแต่คนส่วนใหญ่ก็จะรู้สึกสบายอกสบายใจ ที่ได้อยู่ร่วมกับคนที่ให้การสนับสนุนแนวคิดของตนเอง
พัฒนาสัมพันธภาพ
1. ใส่ใจและเอาใจใส่
การใส่ใจในคนอื่นคือ มีความต้องการที่จะรู้ว่าตอนนี้มีอะไรเกิดขึ้นกับเขาบ้าง สนใจในความคิดและความรู้สึกอื่นๆ ของเขา รับรู้ความล้มเหลวและความสำเร็จในชีวิตเขา แน่นอนคนทุกคนย่อมชอบคนที่ให้ความสนใจในเรื่องราวของเขาอย่างจริงใจแต่ในทางตรงกันข้ามทุกคนจะไม่อยากคบกับคนที่สนใจแต่เรื่องของตัวเอง เช่นเขาจะพูดถึงแต่เรื่องของตัวเอง พูดถึงกิจกรรมใน แต่ละวันของเขา ประสบการณ์ของเขา การพูดคุยแบบนี้ที่ทุกคนอยากจะหลีกเลี่ยงถอยหนี ความใส่ใจมีความหมายเดียวกับ " เมื่อใดที่คุณรู้สึกเหงา ผมจะคอยเป็นเงาที่อยู่เคียงข้างคุณ " คนส่วนใหญ่มักจะลังเลที่จะต้องไปรับรู้ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับคนอื่น เพราะพวกเขาเหล่านั้นกลัวว่าจะต้องไปมีส่วนร่วมในการรับภาระอันหนักหน่วง แต่ถ้าเพื่อนสนิทของคุณมักเอาแต่ใจและมีปัญหากับเพื่อนคนอื่น คุณก็หวังลึกๆ ว่าเพื่อนของคุณจะปรึกษาคุณแม้ว่าปัญหานี้จะไม่สามารถแก้ไขได้ก็ตาม แต่นั่นก็เป็นการช่วยให้กำลังใจ แต่บางครั้งความเป็นเพื่อนก็ต้องรู้จักที่จะกล้าปฏิเสธ เมื่อมีคนที่ปฏิบัติอย่างไม่ยุติธรรม คุณควรจะบอกให้เขารู้ไปเลยว่าคุณรู้สึกอย่างไรกับเหตุการที่เกิดขึ้น อย่างน้อยการเผชิญหน้ากับปัญหาย่อมดีกว่าการหลีกเลี่ยงโดยปล่อยให้เพื่อนของคุณทำความผิดแล้วผ่านเลย
2. นับถือตนเอง นับถือผู้อื่น
มนุษย์ต้องรู้จักนับถือตนเอง แต่ก่อนที่คุณจะรู้จักและนับถือตนเอง คุณก็ต้องรู้จักและนับถือผู้อื่นก่อน คุณนั้นจะเรียนรู้การนับถือตัวเองได้จากการที่มีใครวักคนบอกคุณว่า " ผมแอบมองและชื่นชมความสามารถของคุณอยู่ และขอให้คุณเป็นอย่างนี้ตลอดไป " เพียงคำพูดประโยคเดียวก็อาจทำให้คุณมองเห็นสิ่งที่มีค่าที่สุดในตัวคุณ และคุณจะรู้ได้อีกว่าพวกเขาต้องการอะไรจากคุณและเพื่อนก็เป็นตัวกระตุ้นให้คุณได้พัฒนาความสามารถของคุณเพื่อให้เพื่อนๆและคนรอบข้างยอมรับในตัวคุณ
3. ต้องไว้ใจกัน
การที่จะอยู่ร่วมสังคมกับผู้อื่นอย่างมีความสุขนั้น คุณจำเป็นต้องให้เขาไว้วางใจในตัวคุณด้วย เช่นเรื่องการรักษาสัญญา การตรงต่อเวลา การรักษาคำพูด เช่นเดียวกับที่ใครสักคนสัญญาอะไรกับคุณไว้แต่เขากลับไม่ทำตามที่สัญญา คุณจะคิดกับเขาอย่างไรซึ่งแน่นอนคุณจะต้องเกิดความลังเลในตัวเขา และไม่แน่ใจว่าหากเขาสัญญาอะไรกับคุณอีกคุณจะเชื่อเขาได้หรือเปล่า ความไว้วางใจในหลายๆ เรื่อง เช่น คุณหวังว่าเพื่อนของคุณจะคืนเงินที่ยืมคุณไป เพื่อนจะมาตามเวลาที่คุณนัดไว้ เพื่อนจะรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับคุณ เพื่อนต้องคอยเป็นกำลังใจให้คุณในยามที่คุณทุกข์ท้อใจ แต่ใครก็ตามที่ไม่ได้รับความไว้วางใจก็ยากนักที่ใครต่อใครจะคบหาเป็นเพื่อนสนิทหรือเพื่อนที่รู้ใจ
4. มีความยืดหยุ่น
สัมพันธภาพที่ดีระหว่างคนสองคนนั้นควรมีช่องว่าสำหรับความบกพร่อง ความผิดพลาด และความแตกต่างไว้ด้วย ความยืดหยุ่นเป็นการยอมรับและการปรับตัวให้เข้ากับผู้อื่น คนที่มีความยืดหยุ่นก้จะเป็นคนที่มีความสุขแม้จะอยู่กับคนที่มีความคิดเห็นต่างกันหรือมีการดำเนินชีวิตที่แตกต่างกัน โดยไม่มีความกดดันหรือต้องทำตัวเลียนแบบเพื่อนเพื่อที่จะให้เข้ากันได้
คนที่ไม่มีความมั่นคงในตัวเอง เขาไม่สามารถยอมรับเพื่อนหรือคนอื่นที่แตกต่างจากเขาได้ การพัฒนาความสามารถในการยอมรับและปรับตัวเข้ากับเพื่อนที่มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ต่างจากคุณด้วยความเหมาะสม นั่นเป็นความท้าทายสำหรับคุณที่จะ เพิ่มเติมความเชื่อมั่นในเอกลักษณ์ และความเป็นตัวคุณเองมากขึ้น

   

5. รู้จักร่วมรู้จักแบ่ง
สัมพันธภาพที่ดีที่สุดคือการได้มีส่วนร่วมและแบ่งปันในเรื่องราวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์ ความคิดความรู้สึก คุณต้องรู้จักที่จะรับฟังเพื่อนของคุณเล่าถึงสิ่งที่เขาหวังและสิ่งที่ไม่สมหวังความทุกข์ใจของเขา คนส่วนใหญ่มักจะลังเลที่จะมีส่วนแบ่งปัน เพราะกลัวว่าจะถูกปฏิเสธกลับมา แตทว่าความสัมพันธ์แน่นแฟ้นระหว่างเพื่อนจากทั้งสองฝ่ายที่มีส่วนร่วมในการใช้ชีวิตของกันและกัน เป็นเรื่องยากนักที่จะเกิดการแบ่งปันทางด้านความคิด หรือความรู้สึกดีๆ ระหว่างเพื่อน เช่นความรักความชอบอาจไม่แสดงออกมาตรงๆ แต่จะเป็นการแสดงออกมาโดยทางอ้อม อย่างเช่น การพูดจาหยอกล้อ การล้อเลียน การแสดงความเป็นห่วงเป็นใยมากเป็นพิเศษ สิ่งเหล่านี้ทั้งหมดทั้งปวงจะเป็นสื่อกลางของคำๆ นึง นั่นก็คือคำว่า " เราชอบเธอนะ "
6. เห็นอกเห็นใจ
ความเห็นอกเห็นใจ คือความสามารถที่คุณใส่ความรู้สึกของตัวคุณลงไปในความรู้สึกของบุคคลอื่น การจะเข้าใจความรู้สึกนึกคิด และพฤติกรรมของผู้อื่นได้นั้นต้องมาจากความใกล้ชิด คุณสามารถที่จะแสดงความเห็นอกเห็นใจกับทุกคนได้ แม้ว่าการแสดงความเห็นใจกับคนที่คุณชอบจะเป็นการง่ายกว่า แต่ก็มีความจำเป็นอย่างมากที่คุณจะแสดงความเห็นใจกับคนที่แตกต่างจากคุณด้วย อย่างเช่นคุณเป็นคนที่กระฉับกระเฉง ว่องไว มั่นใจในตัวเอง คุณคงจะลำบากใจไม่ใช่น้อยที่จะต้องแสดงความเห็นอกเห็นใจกับคนที่ เชื่องช้า เขินอาย และไม่มีความมั่นใจในตัวเอง
คนส่วนมากมักชอบคนที่มีอะไรคล้ายๆ กัน แต่คนเราก็ต้องมีแนวคิด พฤติกรรม และอารมณ์ที่แตกต่างกัน และคุณก็ควรที่จะต้องรู้ด้วยว่าคุณควรจะมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อเพื่อนหรือคนอื่นอย่างไร
ขอขอบคุณแหล่งข้อมูล

 

เหมรัตน์

 

http://iam.hunsa.com/jingreeddum/article/1826

การสร้างสัมพันธภาพมีความหมายและความสําคัญอย่างไร

การสร้างสัมพันธภาพ หมายถึง การมี ปฏิสัมพันธ์ระหว่างกันตั้งแต่ 2 คน ขึ้นไป ซึ่ง ลักษณะประจ าตัวของบุคคลจะมีผลกระทบต่อ ความคิด และการกระทาของอีกฝ่ายทันทีได้แก่ 1. การรับรู้ผลกระทบที่ส่งมา 2. การแสดงออกที่ผ่านกระบวนการคิด และรูปแบบที่คิดว่าเหมาะสมที่สุด 3. ความต้องการมีสัมพันธภาพระหว่างกัน จากหลายสาเหตุเริ่มจากฝ่ายใดฝ่าย ...

ข้อใดคือความหมายของสัมพันธภาพ

สัมพันธภาพ (Relationship) สัมพันธภาพ (Relationship) หมายถึง กระบวนการนำสัมพันธภาพที่บุคคลตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ทำความรู้จักกัน ติดต่อสัมพันธ์สร้างความคุ้นเคยสนิทสนมกัน บุคคลที่สัมพันธ์ภาพกันจะได้รับผลกระทบจากกันและกัน

ทักษะความสัมพันธภาพมีความสําคัญอย่างไร

บุคคลเรียนรู้จักตนเองได้จากการมีความสัมพันธ์กับผู้อื่น จากสัมพันธภาพนี้ บุคคลจะได้รู้จุดเด่น และจุดด้อยของตนเอง รู้และเข้าใจถึง ความแตกต่างระหว่างบุคคล รวมทั้งเรียนรู้ความเป็นจริงของโลก โดยสัมพันธภาพอันดีระหว่างบุคคล จะช่วยให้การเรียนรู้ เป็นไปโดยไม่บิดเบือน มีการยอมรับและเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างที่เป็นจริง ดังนั้น ...

การสร้างสัมพันธภาพที่ดีควรทำอย่างไร

ฝึกให้เป็นผู้ฟังและผู้พูดที่ดี ยอมรับนับถือในความคิดของผู้อื่น มอบหมายงานให้เหมาะสมกับวัยและความสามารถ รู้จักหลีกเลี่ยงการขัดแย้ง พยายามทำความเข้าใจ รู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา และคิดกลับกันว่า ถ้าเราเป็นเขา เราจะทำอย่างไร และรู้จักการให้อภัยซึ่งกันและกัน