The History Of Whoo Radiant Rejuvenating Emulsion รีวิว

เมื่ออายุย่างเข้าสู่เลข 3 หลายคนในที่นี้คงจะเริ่มนั่งไม่ติด มีอาการตุ๊ม ๆ ต่อม ๆ กันบ้างแล้วใช่มั้ยคะ ? ยิ่งคนที่เกิดในปี 90s เป็นต้นไปนี่ก็คงจะหนาว ๆ สั่น ๆ เริ่มมีการไปฉีดโบท็อกเติมฟิลเลอร์เพื่อลดริ้วรอยเป็นการด่วนอย่างแน่นอน อย่างเราเองก็เป็นสาววัย 30+ ที่ต้องไปฉีดโบท็อกลิฟกรอบหน้าทุก 6 เดือน ไหนจะต้องไปเติมฟิลเลอร์ที่ร่องน้ำตากับร่องแก้มทุกปีอีก ซึ่งก็ต้องบอกตามตรงว่าเสียเงินในส่วนนี้ไปไม่ใช่น้อยเลยค่ะ กลับมาบ้านแต่ละที ก็นอนคิดไปมาหลายตลบ จึงได้ข้อสรุปว่าทำไมเราไม่ดูแลผิวทาครีมบำรุงดูก่อน ?

เราเริ่มจากการหาสกินแคร์ที่ว่าดีที่ว่าเด็ด ทั้งโทนเนอร์, เซรั่ม, ไนท์ครีม, เดย์ครีม รวมถึงครีมกันแดดเอง เราก็ลองมาทุกแบรนด์แล้วค่ะ จนล่าสุดได้มารู้จักกับแบรนด์หนึ่ง ที่ได้ยินเสียงลือหนาหูมานานว่าดีจริงอะไรจริง ตอนแรกก็ไม่เชื่อหรอกค่ะ แต่ไหน ๆ ช่วงนี้ก็ว่าง บวกกับสถานการณ์โควิดด้วย จะออกไปเติมหน้าที่คลินิกแต่ละทีก็ลำบาก 😮‍💨 เลยซื้อสกินแคร์ของ The History Of Whoo เซต Bichup มาลองดูว่าดีจริงไหม? บอกเลยว่าผลลัพธ์ดีเกินคาด!! สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็นจริง ๆ ค่ะ วันนี้เราจึงอยาก “แนะนำผลิตภัณฑ์ในคอลเลกชันของ The History Of Whoo” ทั้งหมด 8 ไลน์ ให้เพื่อน ๆ ได้อ่านกัน แต่ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับแบรนด์และคอลเลกชันแต่ละตัวกันก่อนดีกว่าค่ะ

The History Of Whoo เป็นแบรนด์สกินแคร์จากประเทศเกาหลีในระดับ Hi-End ที่มียอดขายสูงที่สุด ทั้งยังมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก จุดเด่นของแบรนด์ก็คือ “คุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่ดีเหนือความคาดหมาย” เพราะมีการใช้ส่วนผสมอันล้ำค่า บวกกับใช้สูตรสมุนไพรลับ ที่ครั้งหนึ่งเคยมีไว้ใช้สำหรับจักรพรรดินีและเหล่าพระราชวงศ์ในเกาหลีเท่านั้น

แต่ปัจจุบันนี้สูตรลับดังกล่าวได้ถูกนำใส่ไว้ในบรรจุภัณฑ์สุดหรูหราของ The History Of Whoo ที่ใคร ๆ ก็สามารถเป็นเจ้าของความงามแบบไร้ที่ติได้ ดังนั้นนี่จึงเป็นที่มาชื่อของแบรนด์ เพราะคำว่า “Whoo” เมื่อเขียนเป็นตัวอักษร “后” (วู) ก็จะแปลว่าจักรพรรดินีนั่นเองค่ะ

The History Of Whoo เปิดตัวในปี 2003 ภายใต้นโยบายของรัฐบาลเกาหลี ที่ต้องการผลักดันศาตร์ความงามแบบดั่งเดิมของคนเกาหลีใต้ให้ผู้คนทั่วโลกได้รู้จักผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่หรูหราในระดับพรีเมียม โดยพรีเซนเตอร์ที่ผูกขาดการโฆษณาสินค้าก็คือนักแสดงหญิงชาวเกาหลีใต้ “อีย็องแอ” เราเชื่อว่าไม่มีใครไม่รู้จักเธออย่างแน่นอน เพราะเธอคือนางเอกเรื่อง “แดจังกึม จอมนางแห่งวังหลวง” ที่มักเป็นที่จดจำในฐานะ “สาวสองพันปี” เนื่องจากใบหน้าที่ดูอ่อนเยาว์ของเธอ

โดยผลิตภัณฑ์ที่ขายดีที่สุดของทางแบรนด์คือ Bichup Soon Hwan Essence , Bichup Ja Saeng Essence และ Bichup Ja Yoon Cream ที่เป็นสกินแคร์ดูแลผิวแบบ All-In-One ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นของผิวและช่วยลดเลือนริ้วรอย เผยผิวที่เรียบเนียนและกระจ่างใสยิ่งขึ้น

The History Of Whoo เหมาะสำหรับอายุ 30 ปีขึ้นไปจริงหรือไม่ ?

ไม่จริงค่ะ เพราะ The History Of Whoo สามารถใช้ได้แต่ตั้งวัยรุ่นไปจนถึงวัยผู้ใหญ่ แต่สาเหตุที่ทำให้คนเข้าใจผิดว่า The History Of Whoo เป็นแบรนด์สกินแคร์สำหรับผู้หญิงวัย 30 นั้นเป็นเพราะว่าผลิตภัณฑ์ของทางแบรนด์โดดเด่นในเรื่องการต่อต้านและลดเลือนริ้วรอยมาก

บทความในวันนี้เราจะพาคุณไปทำความรู้จักคอลเลกชันของ The History Of Whoo ทั้งหมด เพื่อให้คุณได้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าไลน์ไหนที่เหมาะคุณที่สุด ไม่ว่าคุณจะอายุ 20 ปี, 30 ปี หรือ 50 ปี และไม่ว่าคุณจะมีผิวมัน ผิวผสม หรือผิวแห้ง เรารับประกันได้เลยค่ะว่าคุณจะต้องเจอคอลเลกชันที่เข้ากับสภาพผิวของคุณอย่างแน่นอนค่ะ

ว่าแล้วก็มาดูคำนิยามของแต่ละคอลเลกชันอย่างสั้น ๆ กันสักหน่อยค่ะ

เซตคอลเลกชันบำรุงผิวของ The History Of Whoo แต่ละสูตร มีอะไรบ้าง ?

1. Cheongidan (ชอนจีดัน) เซตสีเงิน : เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นใช้สกินแคร์ The History Of Whoo สามารถใช้ได้ทุกสภาพผิว ทุกช่วงวัย ให้การดูแลที่ครอบคลุม ช่วยต่อสู้กับสัญญาณแห่งวัยและช่วยเพิ่มความกระจ่างใสให้แก่ผิว
2. Gonjinhyang Soo (กงจินฮยาง ซู) เซตสีชมพู : เหมาะกับผิวในช่วงอายุ 18 – 25 ปี ที่มีปัญหาผิวแห้งมากหรือผิวมันเกินไป รวมถึงปัญหาสิวและรูขุมขนกว้าง เป็นสูตรที่คอยปรับบาลานซ์ให้ผิวจากภายใน
3. Gongjinhyang (กงจินฮยาง) เซตสีเหลืองส้ม : เหมาะผู้ที่อยู่ในช่วงอายุ 20 – 35 ปี ที่ต้องการความชุ่มชื้นและต้องการฟื้นฟูผิว
4. Gongjinhyang Seol (กงจินฮยัง ซอล) เซตสีขาว : เน้นปรับสีผิวให้สว่างกระจ่างใส
5. Jinyulhyang (จินยุนฮยาง) เซตสีแดง : เหมาะกับผิว 30 ปีขึ้นไป ที่ต้องการความชุ่มชื้น ป้องกันการเกิดริ้วรอย และรักษาริ้วรอย (เส้นบาง ๆ) ที่มีอยู่ให้จางลง เป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลผิวขั้นพื้นฐานของสาว ๆ วัย 30 ที่ดีมากค่ะ
6. Bichup (บิชับ) เซตสีทองครีม : ฟื้นฟูส่วนที่สึกหรอของผิว ทำให้ผิวกลับมาแข็งแรง ช่วยลดเลือนริ้วรอย และปรับปรุงสุขภาพผิวโดยรวม
7. Cheonyuldan (ชอนยุนดัน) เซตสีทอง : เหมาะกับผิว 30 ปีขึ้นไป ที่เน้นฟื้นฟูต่อต้านริ้วรอยแบบจริงจัง ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและความกระจ่างใสให้แก่ผิว
8. Hwanyu (ฮวานยู) เซตสีม่วง : เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุมากกว่า 40 ปี เป็นผลิตภัณฑ์ในระดับพรีเมียมที่ดังในเรื่องลดเลือนริ้วรอยมากที่สุด

The History Of Whoo : Bichup (บิชับ) เซตสีทองครีม

ผลิตภัณฑ์ในคอลเลกชันนี้ถือว่าเป็นซิกเนเจอร์ของแบรนด์ The History Of Whoo เลยก็ว่าได้ เพราะหลาย ๆ คนในที่นี้ก็เริ่มต้นด้วยการใช้สูตร Bichup มาก่อน แล้วจากนั้นก็ค่อยพัฒนาต่อยอดไปใช้คอลเลกชันอื่น ๆ

จุดเด่นของคอลเลกชัน Bichup คือ ช่วยฟื้นฟูส่วนสึกหรอของผิวอย่างเร่งด่วนจากภายใน ทำให้ผิวกลับมาแข็งแรงได้ไม่กี่สัปดาห์ ใครที่ผิวบอบบางใช้อะไรก็แพ้ง่าย แนะนำให้ลองคอลเลกชัน Bichup ดูค่ะ เพราะหลังจากใช้แล้วคุณจะรู้สึกว่าผิวของคุณได้รับการปกป้องอย่างแท้จริง และยังเหมาะกับผู้ที่มีผิวหมองคล้ำอีกด้วยยะคะ เพราะมีส่วนผสมที่ปรับให้สีผิวสม่ำเสมอและกระจ่างใสยิ่งขึ้น นอกจากนี้ทั้งยังช่วยทำให้ผิวนุ่มลื่นและเรียบเนียนขึ้นอีกด้วย เหมาะสำหรับผิวที่มีปัญหาริ้วรอยเช่นกัน

ลำดับการใช้สกินแคร์ BiChup (บิชับ)

1. Bichup First Care Moisture Anti Aging Essence
   มีชื่อเรียกอย่างว่า Soon Hwan Essence เป็นสินค้าที่ขายดีและเป็นตัวท็อปของไลน์นี้เลยค่ะ เนื้อเอสเซนส์มีสัมผัสที่บางเบา ไม่ทิ้งความเหนียวบนผิว หน้าที่หลัก ๆ คือช่วยทำให้ผิวของคุณเปิดรับสารบำรุงผิวจากสกินแคร์ตัวอื่น ๆ ได้ดียิ่งขึ้น ช่วยลดอาการหน้าบวมในตอนเช้าหลังตื่นนอนได้ด้วยค่ะ แนะนำให้ใช้ทันทีหลังทำความสะอาดผิวหน้าเสร็จ (ใช้ก่อนลงโทนเนอร์) จากนั้นจึงค่อยลงสกินแคร์ตัวอื่น ๆ ตาม สำหรับตัวนี้หลาย ๆ คนมักมองข้ามไป เพราะคิดว่าไม่สำคัญเท่ากับการใช้เซรั่มหรือครีมบำรุงผิว แต่จริง ๆ แล้วพรีเอสเซนส์จะช่วยทำให้ผิวหน้าแข็งแรงขึ้นมาก เป็นขั้นตอนแรกของการเตรียมผิวที่ดีมากจริง ๆ

   The History Of Whoo Bichup First Care Moisture Anti Aging Essence Mist พรีเอสเซนส์

2. Bichup Self Rejuvenating Serum หรือ Ja Saeng Essence
   เป็นผลิตภัณฑ์ขายดีที่สุด เน้นดูแลผิวที่มีปัญหาริ้วรอยก่อนวัย ช่วยลดเลือนริ้วรอยและปรับปรุงสภาพผิวโดยรวม ทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น เมื่อใช้ไปสักระยะรู้สึกได้เลยว่าผิวละเอียด นุ่มลื่นมาก ๆ ถือเป็นเซรั่มบูสเตอร์ all-in-one ที่คุณไม่ควรพลาด แนะนำให้ใช้หลังจากที่ลงโทนเนอร์เสร็จแล้ว และจากนั้นค่อยตามด้วยเซรั่มตัวอื่น ๆ ต่อค่ะ

   The History Of Whoo Bichup Self Rejuvenating Serum เซรั่มบูสเตอร์

3. Bichup Ja Yoon Cream
   ครีมบำรุงผิวที่ช่วยลดเลือนริ้วรอย ทำให้ผิวชุ่มชื้น เนียนนุ่ม และฟูมากขึ้น เมื่อใช้ไปสักระยะคุณจะรู้สึกได้ว่าผิวหน้าแข็งแรงอย่างเห็นได้ชัด จนหลาย ๆ คนให้ฉายาครีมตัวนี้ว่า “ครีมกู้หน้าขั้นเทพ” เนื้อครีมบอดี้ไม่หนักไม่เบา ซึมซาบได้เร็ว หากเป็นคนผิวมันแนะนำให้ใช้กลางคืน แต่หากเป็นคนผิวแห้งสามารถใช้ได้ทั้งกลางวันและกลางคืนก็ได้ค่ะ

   The History Of Whoo Bichup Ja Yoon Cream ครีมบำรุงผิว

4. Bichup Moisture Anti-Aging Mist
   มิสท์สเปรย์ใช้ฉีดเพื่อให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวระหว่างวัน แต่ก็สามารถฉีดก่อนหรือหลังลงครีมบำรุงผิวก็ได้ค่ะ ช่วยทำให้ผิวมีชีวิตชีวา ไม่แห้งกร้านจนเกินไป

   The History Of Whoo Bichup Moisture Anti-Aging Mist มิสท์สเปรย์

The History Of Whoo : Cheongidan (ชอนจีดัน) เซตสีเงิน 

คอลเลกชันนี้ถือว่าดีมากเหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นใช้สกินแคร์ The History Of Whoo เนื่องจากสามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิว ไม่ว่าจะเป็น ผิวแห้ง ผิวผสม หรือแม้แต่ผิวบอบบางแพ้ง่าย และไม่ว่าคุณจะเป็นหญิงสาวที่อยู่ในช่วงอายุใดก็ตามคุณก็สามารถใช้คอลเลกชัน Cheongidan ได้อย่างไม่มีปัญหาเลยค่ะ เอาเป็นวันใครที่ไม่รู้จะใช้ตัวไหนนี้ก็เริ่มจากคอลเลกชันนี้ดูก่อนได้ค่ะ

ในคอลเลกชัน Cheongidan จะส่วนผสมหลักอย่าง Gongjinbidan (กงจินบิดัน) แล้ว ก็ยังมีรากไข่มุกโสมป่า, ผงเขากวางอ่อน และสารสกัดจากพืชสมุนไพรอีก 26 ชนิด มีจุดเด่นในเรื่องการให้ความชุ่มชื้น เพิ่มความกระจ่างใส และทำให้ผิวมียืดหยุ่นมากขึ้น ผลลัพธ์ที่ได้จากการผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้คือผิวของคุณจะไม่หมองคล้ำหรือดูโทรมอีกต่อไป ใบหน้าจะดูอวบอิ่มเหมือนได้รับการบำรุงมาอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ยังสามารถป้องกันริ้วรอยก่อนวัยได้ดี ผู้ที่มีผิวเครียด (Psychodermatology เป็นโรคทางจิตวิทยาผิวหนัง) และมีปัญหาผิวแก่ก่อนวัยควรใช้ไลน์นี้มาก ๆ และยังเป็นสินค้าขายดีของ The History Of Whoo ด้วยค่ะ

ลำดับการใช้สกินแคร์ CheonGiDan (ชอนจีดัน) 

1. Cheongidan Radiant Cleansing Foam
   เป็นคลีนซิ่งโฟมล้างหน้า ที่นอกจากขจัดสิ่งสกปรกได้อย่างสะอาดล้ำลึกแล้ว ยังช่วยปลอมประโลมผิวขณะล้างหน้าได้อีกด้วย มาพร้อมส่วนผสมที่ช่วยทำให้ผิวของคุณชุ่มชื้นมากยิ่งขึ้น รับรองว่าไม่มีปัญหาผิวหน้าแห้งเอี๊ยดหลังล้างหน้าเสร็จแล้วแน่นอนค่ะ

   The History Of Whoo Cheongidan Radiant Cleansing Foam โฟมล้างหน้า

2. Cheongidan Radiant Rejuvenating Balancer
   ตัวนี้จะเป็นบาลานเซอร์ที่ช่วยปรับสมดุลค่า pH ของผิว อุดมไปด้วยสารให้ความชุ่มชื่นอย่างล้ำลึก ควรใช้หลังล้างหน้าเสร็จเพื่อเตรียมผิวให้พร้อมสำหรับการลงครีมบำรุงขั้นต่อไป

   The history of Whoo Radiant Rejuvenating Balancer บาลานเซอร์

3. Cheongidan Radiant Regenerating Essence
   เอสเซนส์เนื้อบางเบาเหมาะสำหรับใช้เพิ่มความยืดหยุ่นแก่ผิวและต่อต้านริ้วรอยในอนาคต โดยในขวดนี้จะอัดแน่นไปด้วยสารอาหารที่เหมาะสำหรับบำรุงผิวหลายชนิดเลยค่ะ ควรใช้หลังจากลงบาลานเซอร์เสร็จแล้ว

   The history of Whoo Cheongidan Radiant Regenerating Essence เอสเซนส์

4. Cheongidan Radiant Rejuvenating Eye Cream
   อายครีมสูตรเข้มข้น ที่ช่วยคืนความอ่อนเยาว์ให้ผิวรอบดวงตาที่อ่อนล้า เหมาะสำหรับสาว ๆ ที่มีอายุ 30-35 ปี ขึ้นไป และแม้ว่าตัวนี้จะเป็นสูตรเข้มข้น แต่เนื้อครีมบอดี้ไม่ได้หนักหรือทำให้รู้สึกเหนียวเหนอะหนะมากนักค่ะ
5. Cheongidan Radiant Rejuvenating Cream
   กระปุกนี้เป็นครีมบำรุงผิวตัวดังที่ใช้ฟื้นฟูผิวขั้นสูง ทำให้ผิวนุ่มนวลขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เนื้อครีมมีบออี้หนาและหนักมาก แต่ก็ให้ความชุ่มชื่นสูงมากเช่นกัน แนะนำให้ทาช่วงกลางคืน ตื่นมาผิวเด้งหน้าอิ่มฟูมากค่ะ

   The History Of Whoo Cheongidan Radiant Rejuvenating Cream ครีมบำรุงผิว

6. Cheongidan Radiant Rejuvenating Emulsion
   ตัวนี้จะเป็นอิมัลชันเนื้อบางเบาที่ซึมเข้าสู่ผิวได้เร็วมาก และด้วยความเบาของเนื้ออิมัลชัน ส่วนตัวเราคิดว่าเหมาะสำหรับคนผิวมันมากค่ะ แถมยังอุดมไปด้วยสารบำรุงผิวมากมาย เหมาะสำหรับใช้ทาช่วงกลางวันหลังลงเอสเซนส์ (ตัวที่ 3) 

   The history of Whoo Cheongidan Rediant Rejuvenating Emulsion อิมัลชัน

The History Of Whoo : Cheonyuldan (ชอนยุนดัน) เซตสีทอง

จุดขายของคอลเลกชัน Cheonyuldan คือมีการใช้สารต่อต้านอนุมูลอิสระต่าง ๆ ในการต่อต้านริ้วรอยไม่ว่าจะเป็น ดอกกล้วยไม้ป่า, เขากวางอ่อน, รากโสม และสารสกัดจากสมุนไพรอื่น ๆ อีก 25 ชนิด แต่ทั้งนี้ผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Cheonyuldan มักถูกเปรียบเทียบกับ Cheongidan (เซตสีเงิน) อยู่บ่อยครั้งเกี่ยวกับประสิทธิภาพการทำงาน เนื่องจากมีคุณสมบัติคล้ายกันมาก จนทำหลาย ๆ คนก็สับสนคิดว่าทั้ง 2 เป็นคอลเลกชันเดียวกัน ซึ่งในความเป็นจริงแล้วผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Cheonyuldan จะเป็นเวอร์ชันที่ยกระดับให้มีความพรีเมียมมากกว่าคอลเลกชัน Cheongidan (เซตสีเงิน)

เนื่องจากคอลเลกชัน Cheongidan (เซตสีเงิน) จะมีคุณสมบัติช่วยปรับปรุงสภาพผิวโดยรวม เหมาะสำหรับคนทุกช่วงอายุ ในขณะที่คอลเลกชัน Cheonyuldan จะเน้นไปที่การต่อต้านริ้วรอยโดยเฉพาะ ดังนั้นคอลเลกชันในไลน์นี้จึงเหมาะสำหรับคนที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไปมากเลยค่ะ

ลำดับการใช้สกินแคร์ CheonYulDan (ชอนยุนดัน)

1. Cheonyuldan Ultimate Rejuvenating Balancer
   บาลานเซอร์สำหรับปรับสภาพผิว ปรับค่า pH ของผิว ก่อนที่คุณลงครีมบำรุงตัวอื่น ๆ ควรใช้บาลานเซอร์หลังล้างหน้าเสร็จ

   The History Of Whoo Cheonyuldan Ultimate Rejuvenating Balancer บาลานเซอร์

2. Cheonyuldan Ultimate Regenerating Essence
   เอสเซนส์มีสารอาหารสำหรับผิวมากมาย ช่วยให้ผิวกระจ่างใส เปล่งปลั่ง และเรียบเนียนขึ้น ควรใช้หลังจากลงบาลานเซอร์เสร็จแล้ว

   The History Of Whoo Cheonyuldan Ultimate Regenerating Essence เอสเซนส์

3. Cheonyuldan Ultimate Rejuvenating Emulsion
   เป็นมอยส์เจอไรเซอร์ที่บางเบาและซึมเข้าสู่ผิวได้เร็ว เหมาะสำหรับคนผิวมัน สามารถใช้ในช่วงกลางวันได้ หรือหากใช้ในตอนกลางคืนก็จะให้การปกป้องผิวที่ดียิ่งขึ้น ควรใช้ทาหลังลงเอสเซนส์เสร็จแล้ว

   The History of Whoo Cheonyuldan Ultimate Rejuvenating Emulsion มอยส์เจอไรเซอร์

4. Cheonyuldan Ultimate Regenerating Cream
   เนื้อครีมมีความหนา แนะนำให้ใช้ขั้นตอนสุดท้ายของการบำรุงผิวตอนกลางคืน ใช้แล้วผิวจะนุ่มนวลและฟูมากขึ้น

The History Of Whoo : Gongjinhyang (กงจินฮยาง) เซตสีเหลืองส้ม

คอลเลกชัน Gongjinhyang จะเหมาะสำหรับคนที่อยู่ในช่วงอายุ 20 – 35 ปี ถือว่าเป็นวัยที่ต้องเริ่มปรนนิบัติผิวอย่างจริงจัง เพราะหากคุณเริ่มต้นบำรุงผิวได้เร็วเท่าไหร่ ก็ยิ่งส่งผลดีต่อสุขภาพผิวในอนาคตมากขึ้นเท่านั้นโดยเฉพาะกับเรื่องปัญหาริ้วรอย ก็จะเกิดได้ช้ากว่าคนอื่น

ซึ่งผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Gongjinhyang จะใช้ส่วนผสมหลักอย่าง Gongjinbidan (กงจินบิดัน) และยังมีสารสกัดจากโสมป่า และถังเช่าเสริมเข้ามาด้วย ดังนั้นจึงช่วยทั้งการต่อต้านริ้วรอยก่อนวัย, ปรับปรุงความยืดหยุ่นของผิว, ให้ความชุ่มชื้นอย่างล้ำลึก และทำให้ผิวกระชับขึ้น โดยจะใช้ได้ทั้งผิวธรรมดาไปจนถึงผิวผสม

แต่ทั้งนี้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นครีมอาจจะหนักมากเกินไปสำหรับคนผิวมัน แนะนำว่าในช่วงหน้าร้อนควรหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์เนื้อครีมนะคะ

ลำดับการใช้สกินแคร์ GongJinHyang (กงจินฮยาง)

1. Gongjinhyang Facial Foam Cleanser
   คลีนเซอร์โฟมตัวนี้จะช่วยขจัดสิ่งสกปรกบนใบหน้าและเครื่องสำอางตกค้างได้อย่างหมดจดในขั้นตอนเดียว เป็นสูตรที่มีความอ่อนโยนมาก ๆ ทั้งยังช่วยให้ผิวรู้สึกผ่อนคลาย ให้ความชุ่มชื้น พร้อมกับเติมสารอาหารสู่เข้าผิวในหลอดเดียว

   The History Of Whoo Gongjinhyang Facial Foam Cleanser คลีนเซอร์โฟม

2. Gongjinhyang In Yang Balancer
   บาลานเซอร์หรือโทนเนอร์สูตรนี้จะช่วยต่อสู้กับสัญญาณริ้วรอยของผิวและช่วยลดเลือนริ้วรอย เป็นสูตรบางเบาที่ซึมเข้าสู่ผิวได้ทันที ช่วยให้ผิวนุ่มชุ่มชื่น ทั้งยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของสกินแคร์ดูแลผิวตัวต่อไปได้ด้วย ดังนั้นควรใช้หลังล้างหน้าเสร็จเพื่อสมดุลผิวให้พร้อมบำรุง

   The History Of Whoo Gongjinhyang In Yang Balancer บาลานเซอร์

3. Gongjinhyang Qi And Jin Essence หรือ Intensive Nutritive Essence
   เอสเซนส์สูตรเข้มข้นพิเศษตัวนี้ช่วยเติมน้ำให้แก่ผิว ทำให้ผิวดูอ่อนกว่าวัย เป็นผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นมากในไลน์นี้ เพราะจะช่วยยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยให้ดูเต่งตึงขึ้นได้ระดับหนึ่ง ถือเป็นเอสเซนส์ที่ดีที่จะต่อสู้กับปัญหาริ้วรอย ควรค่าแก่การลงทุน แนะนำให้ใช้หลังบาลานเซอร์

   The History Of Whoo Gongjinhyang Intensive Nutritive Essence (Qi&Jin) เอสเซนส์

4. Gongjinhyang In Yang Lotion
   โลชั่นบำรุงผิวที่อุดมด้วยสารอาหาร ช่วยบรรเทาผิวพร้อมกับลดริ้วรอยให้ดูจางลงเล็กน้อย ทั้งยังช่วยเพิ่มความสามารถของผิวในการเก็บความชุ่มชื้นอีกด้วย แนะนำทาให้ทั่วใบหน้าหลังลงเอสเซนส์
5. Gongjinhyang Qi And Jin Cream หรือ Intensive Nutritive Cream
   ครีมบำรุงผิวสูตรเข้มข้น เน้นการฟื้นฟูผิวเพื่อให้ผิวกระชับและยืดหยุ่นมากขึ้น เนื้อครีมจะแทรกซึมลึกเข้าสู่ผิวเพื่อลดเลือนริ้วรอยและร่องลึก เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่มีกลิ่นหอมเฉพาะตัวมากค่ะ

   The History Of Whoo Gongjinhyang Intensive Nutritive Cream (Qi&Jin) ครีมบำรุงผิวสูตรเข้มข้น

6. Gongjinhyang Qi And Jin Eye Cream
   อายครีมที่ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวที่หย่อนคล้อย ปรับสีผิวให้กระจ่างใส ทั้งยังช่วยลดอาการบวมรอบดวงตาได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ

   The History Of Whoo Gongjinhyang Eye Cream (Qi&Jin) อายครีม

7. Gongjinhyang Nok Yong Energy Mask
   ทรีทเม้นต์มาส์กที่อุดมไปด้วยสารอาหารผิวมากมาย ช่วยฟื้นฟูผิวให้แข็งแรงด้วยการเข้าไปกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตบนใบหน้า เพราะเมื่อมาสก์ไปสักพักตัวมาสก์จะอุ่นขึ้นค่ะ แนะนำให้ใช้หลังจากทำความสะอาดผิวหน้า จากนั้นให้ทาบาง ๆ เป็นเวลา 15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่นและตามด้วยลงบาลานเซอร์ทับอีกที ใช้ประมาณ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ก็พอค่ะ
8. Gongjinhyang Neck And Face Repair Sleeping Repair Mask
   สลิปปิ้งมาส์ตัวนี้เหมาะมาก ๆ หากคุณต้องการกู้ผิวหน้าแบบเร่งด่วน เพราะเป็นสูตรที่มีความเข้มข้นสูง สามารถให้ความชุ่มชื่นแก่ผิวที่เริ่มร่วงโรยได้อย่างล้ำลึก ผิวของคุณจะดูกระจ่างใสเนียนนุ่มอย่างเห็นได้ชัด

The History Of Whoo : Gongjinhyang Seol (กงจินฮยัง ซอล) หรือ Radiant Brightening เซตสีขาว

Gongjinhyang Seol หรือที่มีชื่อว่า Gongjinhyang Radiant Brightening เป็นเซตดูแลผิวที่มีจุดเด่นในเรื่องการปรับสีผิวให้สว่างกระจ่างใสขึ้น เพราะมีสารสกัดจากธรรมชาติมากมาย หนึ่งในนั้นคือ Gongjinbidan (กงจินบิดัน) ที่เพิ่มความยืดหยุ่นของผิว ต่อต้านริ้วรอย ตามมาติด ๆ ด้วยสารสกัดจากดอกเบญจมาศที่สามารถยับยั้งการผลิตเม็ดสีเมลานินได้ เหมาะสำหรับคนที่ผิวหน้าหมองคล้ำ, สีผิวไม่สม่ำเสมอ, มีปัญหาฝ้า กระ และจุดด่างดำ อีกทั้งยังมีส่วนช่วยลดเลือนรอยแดงจากสิวให้จางลงได้ด้วย โดยคอลเลกชันนี้จะเหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแห้ง, ผิวผสม, ผิวมัน หรือผู้ใดก็ตามที่อายุ 18 ปีขึ้นไปที่ต้องการให้ผิวดูสดใสปลั่งเปล่ง

นอกจากปรับผิวให้กระจ่างใสขึ้นได้แล้ว สิ่งที่ทำให้ Gongjinhyang Seol แตกต่างกับผลิตภัณฑ์ไวท์เทนนิ่งในคอลเลคชันอื่น ๆ ของ The History Of Whoo นั่นก็คือผลิตภัณฑ์ทั้งหมดเป็นสูตรปราศจากแอลกอฮอล์ ดังนั้นจึงสามารถใช้ในระหว่างตั้งครรภ์ได้ค่ะ (ยกเว้น Balancer และ Peeling Gel) 

ลำดับการใช้สกินแคร์ GongJinHyang Seol (กงจินฮยาง ซอล)

1. Gongjinhyang Seol Brightening Foam Cleanser
   คลีนเซอร์โฟมสูตรไวท์เทนนิ่งที่ช่วยขจัดสิ่งสกปรกและความมันออกจากรูขุมขนของผิว ทำให้ผิวคงความชุ่มชื้นและกระจ่างใสขึ้น เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว มาพร้อมกับส่วนผสมที่ป้องกันการเกิดสิวอย่างกรดลอริก

   The History Of Whoo Gongjinhyang Seol Brightening Foam Cleanser โฟมเนื้อครีม

2. Gongjinhyang Seol Radiant Brightening Balancer
   บาลานเซอร์ปรับค่า pH ของผิว โดยตัวนี้จะมีสารต้านอนุมูลอิสระมากมายที่ช่วยปรับผิวกระจ่างใสและมีฤทธิ์ต้านการอักเสบในตัว

   The History Of Whoo Gongjinhyang Whitening Skin Balancer บาลานเซอร์

3. Gongjinhyang Seol Radiant White Essence
   ไวท์เทนนิ่งเอสเซ้นส์ ช่วยเพิ่มความกระจ่างใสและปรับสีผิวให้เรียบเนียนสม่ำเสมอ จัดการกับการต้นต่อของจุดด่างดำด้วยสารสกัดจากดอกเบญจมาศที่จะเข้าไปควบคุมการผลิตเมลานิน ควรใช้หลังจากลงบาลานเซอร์เสร็จแล้ว

   The History Of Whoo Gongjinhyang Radiant White Essence ไวท์เทนนิ่ง เอสเซนส์

4. Gongjinhyang Seol Radiant Brightening Emulsion
   หลังจากที่ล้างหน้า ใช้โทนเนอร์ และลงเอสเซนส์กันไปแล้ว หากคุณเป็นคนผิวมันและไม่อยากใช้ครีมในช่วงกลางวัน แนะนำให้ใช้อิมัลชั่นจริง ๆ ค่ะ เพราะนอกจากความบางเบาที่ซึมได้ดีแล้ว ก็ยังปรับผิวให้กระจ่างใส, ช่วยทำให้เกราะป้องกันผิวแข็งแรงขึ้น และช่วยลดผื่นแดงจากสารระคายเคืองต่าง ๆ ได้อีกด้วยนะคะ
5. Gongjinhyang Seol Radiant White Moisture Cream
   สำหรับไวท์เทนนิ่งครีมกระปุกนี้จะมีเนื้อสัมผัสที่หนามากในช่วงแรก แต่เมื่อทาลงผิวก็จะแตกตัวเป็นน้ำทันที ทำให้ซึมซาบเร็วมาก ช่วยเพิ่มความฉ่ำให้กับใบหน้าแต่ไม่ทิ้งความมันหรือความเหนียวเหนอะหนะ โดยในสูตรนี้จะเพิ่มความกระจ่างใสและมอบความชุ่มชื้นให้แก่ผิวได้ดี ตื่นมาแล้วผิวหน้าดูบลิ๊งออร่าจับมาก ๆ

   The History Of Whoo Gongjinhyang Seol Radiant White Moisture Cream ไวท์เทนนิ่งครีม

6. Gongjinhyang Seol Ultimate Brightening Corrector
   คอลเรคเตอร์สูตรเข้มข้มตัวนี้จะเหมาะสำหรับใช้แต้มเฉพาะจุดทุกเท่านั้น ช่วยลดเลือนกระ ฝ้า จุดด่างดำ หรือรอยแดงต่าง ๆ จากสิว รวมถึงช่วยปรับโทนสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอให้ดูสดใสและมีชีวิตชีวามากขึ้น หากบริเวณไหนที่คุณเห็นรอยดำรอยแดงชัดหน่อยก็สามารถใช้ทาบาง ๆ ได้ทุกคืน แต่เมื่อเริ่มจางลงแล้วก็เปลี่ยนมาใช้สัปดาห์ละครั้งก็พอค่ะ แอบกระซิบหน่อยว่าตัวนี้เห็นผลเรื่องรอยที่จางลงเร็วจริงค่ะ
7. Gongjinhyang Seol Brightening Peeling Gel
   เจลขัดหน้าตัวนี้แนะนำให้ใช้สัปดาห์ละ 1-2 ครั้งก็พอค่ะ เพราะหน้าที่หลัก ๆ คือจะช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายออก ทำให้เผยผิวใหม่ที่กระจ่างใสและเรียบเนียนมากขึ้นกว่าเดิม

   The History Of Whoo Gongjinhyang Brightening Peeling Gel เจลผลัดเซลล์ผิว

The History Of Whoo : Gongjinhyang Soo หรือ Vital Hydrating เซตสีชมพู

Gonjinhyang Soo หรือ Vital Hydrating คอลเลกชันนี้มาในโทนสีชมพูสุดหวานแหวว มีส่วนผสมเป็น Gongjinbidan (กงจินบิดัน) ที่ปรับปรุงความยืดหยุ่นของผิว รวมถึงสารสกัดจากดอกบัวและสมุนไพรจีนอีก 5-6 อย่าง ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว, ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ผิวหนัง และสุดท้ายคือช่วยเติมออกซิเจนให้ผิว

ดังนั้น Gonjinhyang Soo จึงเหมาะกับผิวในช่วงอายุ 18 – 25 ปี เป็นสูตรที่อ่อนโยนที่สามารถให้ความชุ่มชื้นได้อย่างดีเยี่ยม เน้นส่งเสริมให้ผิวกักเก็บน้ำตามธรรมชาติ ช่วยปรับสมดุลให้แก่ผิวที่แห้งมากหรือผิวที่มันเกินไป นอกจากนี้ใครที่มีปัญหาสิวหรือรูขุมขนกว้าง คอลเลกชันไลน์นี้ ก็จะเหมาะกับคุณเช่นกันค่ะ

ลำดับการใช้สกินแคร์ GongJinHyang Soo (กงจินฮยาง ซู)

1. Gongjinhyang Soo Vital Hydrating Sun Fluid SPF50+ Pa+++
   สำหรับตัวแรกที่จะรีวิวนี้เป็นสินค้าที่ขายดีที่สุดของไลน์ ซึ่งก็คือครีมกันแดดสูตรน้ำ ที่ทาปุ๊บซึมปั๊บ เรียบเนียนไปกับผิวหน้า คุมมันได้ดี ไม่ส่งผลต่อเมคอัพ อีกทั้งยังสามารถเติมระหว่างวันได้โดยไม่ก่อให้เกิดคราบ มีค่าการป้องกัน UVA – UVB สูง

   The history of Whoo Gongjinhyang Soo Vital Hydrating Sun Fluid SPF50+ Pa+++ กันแดด

2. Gongjinhyang Soo Vital Hydrating Cleansing Water
   คลีนซิ่งสูตรน้ำสำหรับล้างเครื่องสำอางและสิ่งสกปรกต่าง ๆ มาพร้อมความสามารถที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยนด้วยกรดอะมิโน ทั้งยังให้ความชุ่มชื้นสูง ช่วยลดอาการผิวหน้าแห้งตึงหลังใช้ได้เป็นอย่างดี ใช้ก่อนเริ่มต้นล้างหน้า

   The History Of Whoo Gongjinhyang Soo Vital Hydrating Cleansing Water คลีนซิ่งสูตรน้ำ

3. Gongjinhyang Soo Hydrating Foam Cleanser
   ใครมีปัญหาล้างหน้าแล้วผิวแห้งตึงหรือไม่อยากให้ผิวเหี่ยวไว แนะนำคลีนเซอร์โฟมตัวนี้เลยค่ะ นอกจากรักษาความชุ่มชื้นตามธรรมชาติของผิวไว้ได้แล้ว ก็ยังทำให้ผิวนุ่มเด้งเหมือนผิวเด็กด้วยนะคะ

   The History Of Whoo Gongjinhyang Soo Hydrating Foam Cleanser คลีนเซอร์โฟม

4. Gongjinhyang Soo Vital Hydrating Balancer
   โดยปกติแล้วโทนเนอร์ทั่วไปจะเน้นปรับค่า pH แก่ผิว แต่สูตรนี้จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวเป็นพิเศษ ทำให้ผิวดูโกลว์ อิ่มน้ำ สามารถเพิ่มความรู้สึกสดชื่นแก่ผิวได้ทันทีที่ใช้ อุดมไปด้วยอาหารผิวชั้นเลิศมากมาย แนะนำให้ใช้หลังล้างทำความสะอาดผิวหน้าเสร็จแล้ว

   The History Of Whoo Gongjinhyang Soo Vital Hydrating Balancer โทนเนอร์

5. Gongjinhyang Soo Vital Hydrating Essence
   สำหรับขวดนี้จะเป็นเอสเซนส์สูตรเข้มข้น เหมาะสำหรับผู้ที่อยู่ 20 ต้น ๆ เพื่อใช้ชะลอการเกิดรอยก่อนวัย สารสกัดในเอสเซนส์จะส่งเสริมให้ผิวกักเก็บน้ำได้ดีขึ้น ทั้งยังให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวอย่างล้ำลึก เนื้อเอสเซนส์บางเบาซึมซาบอย่างรวดเร็วโดยไม่ทิ้งความเหนอะหนะ แนะนำให้ใช้หลังจากทาบาลานเซอร์แล้วค่ะ

   The History Of Whoo Gongjinhyang Soo Vital Hydrating Essence เอสเซนส์

6. Gongjinhyang Soo Vital Hydrating Emulsion
   อิมัลชั่นสูตรนี้จะสร้างชั้นบาง ๆ บนผิวเพื่อป้องกันการสูญเสียความชุ่มชื้น ทำให้ผิวอิ่มน้ำมีสุขภาพดี มาพร้อมกับสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอย และสารอาหารที่เป็นประโยชน์สำหรับผิวมากมาย ส่งให้ผิวนิ่มราวกับผิวเด็ก และยังเพิ่มความกระจ่างใส เนื้อครีมมีน้ำหนักที่เบามากเหมาะสำหรับทาช่วงกลางวัน แนะนำทาให้ทั่วใบหน้าหลังเอสเซนส์ค่ะ

   The History Of Whoo Gongjinhyang Soo Vital Hydrating Emulsion

7. Gongjinhyang Soo Intensive Hydrating Cream
   ครีมกระปุกนี้สามารถใช้ทาได้ทั้งกลางวันและกลางคืน เนื่องจากครีมเนื้อบางเบาซึมง่ายมาก ใช้แล้วไม่อุดตัน ไม่อักเสบ ให้ชุ่มชื้นดีมาก แม้ว่าทางแบรนด์จะระบุว่าเหมาะสำหรับผิวแห้ง แต่ส่วนตัวเราคิดว่าน่าจะเหมาะสำหรับคนผิวธรรมดา-ผิวมันมากกว่าค่ะ ใครผิวแห้งมาก ๆ แนะนำให้ใช้ไนท์ครีมจากคอลเลกชันอื่นนะคะ สำหรับสูตรนี้จะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้แก่ผิว ดังนั้นจึงชะลอการเกิดริ้วรอยได้ด้วย ทั้งยังมีสารอาหารที่จำเป็นต่อผิวเยอะมาก ตื่นมาตอนเช้าผิวหน้าของคุณจะดูปลั่งเปล่าเหมือนได้รับการบำรุงมาอย่างเต็มที่ อีกทั้งช่วงไหนเป็นสิวฮอร์โมนก็จะช่วยทำให้สิวยุบเร็วขึ้นด้วยนะคะ

   The History Of Whoo Gongjinhyang Soo Vital Hydrating Cream ครีมบำรุงผิว

8. Gongjinhyang Soo Vital Hydrating Overnight Mask
   สำหรับตัวนี้เป็นสลีปปิ้งมาส์กสูตรเข้มข้น ที่ใช้เป็นขั้นตอนสุดท้ายของการดูแลผิว แนะนำให้ใช้สัปดาห์ละ 1-2 ครั้งก่อนนอน เหมาะสำหรับผิวแห้งเป็นพิเศษ เพราะสลีปปิ้งมาส์ตัวนี้จะช่วยฟื้นฟูและเติมเต็มความชุ่มชื้นภายในเพียงชั่วข้ามคืน ตื่นขึ้นมาพร้อมกับผิวที่อวบอิ่มและเรียบเนียน เปล่งประกายสุด ๆ

   The History Of Whoo Gongjinhyang Soo Vital Hydrating Overnight Mask สลีปปิ้งมาส์ก

The History Of Whoo : Hwanyu (ฮวานยู) เซตสีม่วง

สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุดคือคอลเลกชัน Hwanyu ที่มาในแพกเก็จสีม่วงสุดหรูหรา เห็นปุ๊บก็รู้ปั๊บว่าเป็นผลิตภัณฑ์จาก The History Of Whoo โดยไลน์นี้ค่อนข้างเป็นที่นิยมในหมูสาวใหญ่ เพราะมีชื่อเสียงโด่งดังในเรื่องการต่อต้านริ้วรอย ดังนั้นจึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไป หากคุณมีผิวแห้งหรือหมองคล้ำ คุณจะพบว่าผลิตภัณฑ์ในคอลเลกชัน Hwanyu สามารถช่วยชีวิตคุณได้ค่ะ เนื่องจากส่วนผสมหลักจะเป็นสมุนไพรมากกว่า 70 ชนิดเลยทีเดียว!!

ลำดับการใช้สกินแคร์ Hwanyu (ฮวานยู)

1. Hwanyu Imperial Youth First Serum
   เฟิสต์เซรั่มเป็นผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสำหรับใช้ลงก่อนทาครีมบำรุงผิวตัวอื่น ๆ เพื่อเป็นการเตรียมผิวให้พร้อม โดยจะประกอบไปสารสกัดจากโสมป่าที่มาทั้งใบ ลำต้น และราก พร้อมกับสมุนไพรอีก 11 ชนิด สามารถให้ความชุ่มชื้นอย่างล้ำลึก ทำผิวให้เรียบเนียน นุ่มลื่น ใช้เวลาในการออกฤทธิ์ประมาณ 4 สัปดาห์ก็จะเห็นผลได้ว่าผิวเปล่งปลั่งและอ่อนเยาว์ขึ้น เป็นหนึ่งในสินค้าที่ขายที่สุดในไลน์นี้เลยค่ะ
2. Hwanyu Imperial Youth Balancer
   ลงเฟิสต์เซรั่มกันไปแล้วก็ต้องต่อด้วยโทนเนอร์เพื่อปรับสภาพผิวให้มีค่า pH ที่สมดุลกันก่อน ซึ่งตัวนี้เป็นสินค้าที่ออกมาใหม่ในไลน์ Hwanyu เลยค่ะ ทำให้ผิวชุ่มชื้น เรียบเนียน และยืดหยุ่นมากขึ้น
3. Hwanyu Signature Ampoule
   ตัวนี้เป็นแอมพูลที่ใช้หลังจากที่เราลงโทนเนอร์เสร็จแล้ว ด้วยการแตะเบา ๆ ที่หน้าผาก แก้ม และคาง เนื้อสัมผัสของแอมพูลค่อนข้างเข้มข้น (หากคุณต้องการให้ตัวแอมพูลซึมซาบอย่างเต็มที่ ควรนวดต่อเนื่องในลักษณะเป็นวงกลมอีกสักพัก) โดยรวมแอมพูลขวดนี้จะช่วยทำให้ผิวแข็งแรง ลดเลือนริ้วรอย เพิ่มความยืดหยุ่นของผิว ผิวของคุณเรียบเนียนสม่ำเสมอและเปล่งประกายมากขึ้น
4. Hwanyu Imperial Youth Essence
   ตัวนี้มอยส์เจอไรเซอร์ที่หากใช้ทาช่วงกลางคืน คุณจะตื่นมาพร้อมกับผิวที่เปล่งปลั่ง ดูอวบอิ่มและมีสุขภาพดี ยิ่งใช้คู่กับ Hwanyu Imperial Youth Cream ยิ่งปังมากค่ะบอกเลย
5. Hwanyu Imperial Youth Emulsion
   ตัวนี้ก็เป็นสินค้าใหม่ในไลน์เช่นเดียวกับตัวโทนเนอร์ โดยทั่วไปแล้วหากคุณเป็นคนผิวมันแนะนำให้ใช้อิมัลชั่นช่วงกลางวัน เพราะมีเนื้อสัมผัสที่บางเบาแต่ส่วนผสมบำรุงภายในจะเข้มข้นมากกว่าเอสเซนส์หรือมอยส์เจอไรเซอร์ค่ะ
6. Hwanyu Imperial Youth Cream
   ตัวนี้จะเหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแห้ง เนื้อครีมจะคลายกับบาล์มที่มีบอดี้หนัก ๆ แต่ตื่นมาตอนเช้าผิวหน้าของคุณจะเรียบเนียนและนุ่มนวลมาก ๆ สัมผัสได้เลยว่าเมื่อคืนผิวของคุณได้รับการบำรุงและฟื้นฟูมาอย่างดี หากใช้ไปสักระยะริ้วรอยจะดูจางลง ผิวมีความยืดหยุ่นที่ดีขึ้น และมีความเปล่งปลั่งมากขึ้นด้วยค่ะ
7. Hwanyu Imperial Youth Eye Cream
   เมื่อพูดถึงการต่อต้านริ้วรอยจะไม่มีอายครีมก็คงไม่ได้ โดยอายครีมกระปุกนี้มีส่วนผสมชั้นยอดมากมายทั้ง โชวู, โสมป่า, เขากวางอ่อน และบัวหิมะ ทำให้ผิวที่บอบบางรอบดวงตามีความชุ่มชื้น, เรียบเนียน, ริ้วรอยดูตื้นขึ้น และทำให้ดวงตาที่อ่อนล้าดูสดใสขึ้นได้ เป็นอีกหนึ่งสินค้าที่ขายมากของทางแบรนด์

The History Of Whoo : Jinyulhyang (จินยุนฮยาง) เซตสีแดง

คอลเลกชันขวดสีแดง Jinyulhyang จะเหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุมากกว่า 30 ปีขึ้นไป ที่ต้องการความชุ่มชื้นอย่างล้ำลึก และต้องการลดโอกาสการเกิดริ้วรอย เพิ่มความกระชับให้กับผิว และรักษาริ้วรอยเดิมให้ตื้นหรือจางขึ้น(ผลิตภัณฑ์ของ Jinyulhyang จะทำงานและเห็นผลได้ดีกับพวกเส้นริ้วรอยเล็ก ๆ) ทั้งยังช่วยบรรเทาอาการ Rosacea หรือโรคผิวหนังอักเสบอักเสบเรื้อรังได้ด้วย สามารถใช้ได้กับผิวแห้ง ผิวผสม หรือผิวแพ้ง่าย แต่จะไม่เหมาะกับผิวมันสักเท่าไหร่ เพราะทุกตัวค่อนข้างเข้มข้นและหนัก หากคุณผิวมันแต่ต้องการใช้ไลน์นี้จริง ๆ แนะนำ Jinyulhyang Essential Revtalizing Emulsion (ตัวที่ 4) ค่ะ

เราเชื่อว่าตอนนี้สาว ๆ ที่ขึ้นเลข 3 อาจเริ่มสงสัยกันแล้วว่า “ตกลงฉันควรเลือกสูตรไหน ?” เพราะว่าก่อนหน้านี้เราแนะนำไปว่าคอลเลกชัน Gongjinhyang (เซตสีเหลืองส้ม) จะเหมาะกับคนที่อยู่ในช่วง 20-35 ปี ใช่มั้ยคะ​ ? แน่นอนค่ะว่ามันยังคงเป็นเช่นนั้นค่ะ แต่ในส่วนผสมของ Jinyulhyang นั้นจะยกระดับที่พรีเมียมมากกว่าเซตสีเหลืองส้มขึ้นไปอีก ดังนั้นเราขอสรุปอีกครั้งเพื่อไม่ให้คุณสับสน ดังต่อไปนี้นะคะ

• คอลเลกชัน Gongjinhyang (เซตสีเหลืองส้ม) จะให้การดูแลที่ครอบคลุมคือต่อต้านริ้วรอยก่อนวัย เหมาะสำหรับการเตรียมรับมือกับปัญหาผิววัย 30 ตอนต้น
• คอลเลกชัน Gongjinhyang (เซตสีแดง) มีความสามารถในการต่อต้านริ้วรอยได้ดีกว่าเซตสีเหลืองส้ม เหมาะกับริ้วรอยเส้นบาง ๆ มีส่วนกระตุ้นการทำงานของเซลล์ผิวและการสังเคราะห์คอลลาเจนขึ้นมาใหม่ ส่วนผสมต่าง ๆ ในไลน์จะเข้ากันได้ดีกับช่วงอายุนี้มากกว่าเซตสีเหลืองส้ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณเป็นผู้หญิงที่เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงทางฮอร์โมน

ส่วนคนที่สงสัยเกี่ยวกับ คอลเลกชัน Cheonyuldan (เซตสีทอง) ที่เหมาะสำหรับอายุ 30 ปีขึ้นไปเช่นกัน ควรจะเลือกตัวไหนดี ? สำหรับเซตสีทองนั้นจะมุ่งเน้นไปที่การต่อต้านริ้วรอยโดยเฉพาะจริง ๆ ไม่ได้เน้นดูแลในเรื่องอื่นเลยค่ะ ดังนั้นจึงเหมาะสำหรับคนวัย 30 ขึ้นไปที่มีปัญหาริ้วรอยเริ่มลึกแล้ว

ลำดับการใช้สกินแคร์ JinYulHyang (จินยุนฮยาง)

1. Jinyulhyang Essential Moisturizing Cleansing Foam
   เป็นคลีนซิ่งโฟมที่มอบความชุ่มชื่นได้ดีมาก มีสารสกัดจากดอก Soapwort ที่อุดมไปด้วย Vitamin C และ Saponins จากธรรมชาติ จึงสามารถทำความสะอาดผิวได้อย่างอ่อนโยน ช่วยป้องกันไม่ให้ผิวแห้งกร้านมากเกินไป ทั้งยังเป็นสูตร Alcohol-Free ช่วยลดการระคายเคืองแก่ผิวอีกด้วย

   The history of Whoo Jinyulhyang Essential Moisturizing Cleansing Foam คลีนซิ่งโฟม

2. Jinyulhyang Essential Revitalizing Balancer
   โทนเนอร์ที่อุดมด้วยสารสกัดจากโสมแดงและสารอาหารสำหรับผิวมากมาย เนื้อสัมผัสของโทนเนอร์ค่อนข้างเข้มข้นมาก ๆ เหมาะกับคนผิวแห้งมากกว่าผิวมัน ช่วยทำให้ผิวมีความชุ่มชื้น และช่วยปรับสภาพผิวให้พร้อมสำหรับการดูแลผิวขั้นตอนถัดไป แนะนำให้ใช้หลังจากทำความสะอาดผิวหน้า
3. Jinyulhyang Intensive Revitalizing Serum
   เอสเซนส์เนื้อบางเบาสูตรเข้มข้นพิเศษที่ผสมด้วยสารสกัดจากโสมแดง ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและปรับปรุงการสังเคราะห์คอลลาเจนในผิว เมื่อใช้แล้วผิวจะเปล่งปลั่ง ดูอวบอิ่ม เรียบเนียน และฉ่ำน้ำขึ้น แนะนำให้ใช้หลังจากลงโทนเนอร์ 

   The History Of Whoo Jinyulhyang Intensive Revitalizing Serum เซรั่ม

4. Jinyulhyang Essential Revtalizing Emulsion
   อิมัลชั่นที่บางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ แต่คุณสรรพคุณต่าง ๆ ยังคงให้การบำรุงผิวอย่างเข้มข้น ทั้งการซ่อมแซมเซลล์ที่เสียหาย, ลดเลือนริ้วรอยอย่างมีประสิทธิภาพ, ล็อคความชุ่มชื้นในผิว และยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยให้ผิวผิวดูเรียบเนียนและกระชับขึ้น เหมาะสำหรับคนผิวมันสามารถใช้ทาทั้งกลางวันและกลางคืนได้เลยค่ะ โดยจะทาให้ทั่วใบหน้าหลังเอสเซนส์นะคะ 

   The History Of Whoo Jinyulhyang Essential Revtalizing Emulsion อิมัลชั่น

5. Jinyulhyang Intensive Revitalizing Cream
   ครีมบำรุงผิว ที่มีส่วนผสมอย่างสารสกัดจากโสมแดงและสมุนไพรเกาหลีมากมาย ช่วยให้ความชุ่มชื้นอย่างล้ำลึก เพิ่มความยืดหยุ่นของผิวและลดริ้วรอยเส้นบาง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีเนื้อสัมผัสเหมือนบาล์ม (หนักมาก ๆ) จึงเหมาะกับผิวที่แห้งกร้าน สามารถช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอยได้
6. Jinyulhyang Intensive Revitalizing Eye Cream
   ครีมบำรุงรอบดวงตาสุดเข้มข้น ช่วยให้ริ้วรอยจางลง และยกกระชับผิวหย่อนคล้อยรอบดวงตา เนื้อสัมผัสที่ละเอียดอ่อน สามารถซึมซาบเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว 

   The History Of Whoo Jinyulhyang Intensive Revitalizing Eye Cream อายครีม

   The history of Whoo Jinyulhyang 2 Pcs Special Set

บทสรุป

ต้องยอมรับว่าบทความนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยค่ะ ที่เราจะสรุปแต่ละคอลเลกออกให้คนผู้อ่านได้อย่างละเอียดขนาดนี้ เราต้องใช้เวลาและค้นหาส่วนผสมมามากมายเพื่อตัดสินใจว่าคอลเลกไหนเหมาะกับคุณที่สุด อีกทั้งชื่อของแต่ละคอลเลกชันก็มีความคล้ายกันมากจนทำให้หลาย ๆ คนสับสนได้ (รวมถึงเราด้วย อิอิ)

เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการแยกสีแต่ละคอลเลกชันของเราจะทำให้คุณจะพบผลิตภัณฑ์ดีที่สุดในบทความนี้ นอกจากนี้หลาย ๆ คนอาจสงสัยว่าทำไมมีบางคอลเลกชันที่หายไป เนื่องจาก Gongjinhyang: Mi เป็นสินค้าเกี่ยวกับเครื่องสำอางค่ะ ส่วนคอลเลกชัน Gongjinhyang: Gun ก็เป็นสกินแคร์สำหรับผู้ชายที่หาซื้อยากมาก

ทั้งนี้ก่อนจากกัน เราแนะนำให้คุณสั่งซื้อสินค้าจากเว็บที่น่าเชื่อถือเท่านั้น หรือควรสั่งจาก Official ของทางแบรนด์เลยก็ได้ค่ะ เนื่องสินค้าของ The History Of Whoo มีราคาค่อนข้างสูง หากซื้อจากร้านทั่วไปที่ไม่มีการรับประกันความมั่นใจใด ๆ คุณอาจจะได้สินค้าของปลอมมาได้ รวมถึงสินค้าขนาดทดลองจากร้านหิ้วต่าง ๆ ก็ควรตรวจสอบให้ละเอียดก่อนสั่งซื้อเช่นกันนะคะ

สำหรับวันนี้ต้องขอตัวลาไปก่อน แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้านะคะ สวัสดีค่ะ 🙂