ประวัติศาสตร์ดนตรี ตะวันตก แบ่งออกเป็น กี่ ยุค กี่ สมัย

ดนตรีตะวันตกแบ่งเป็น 7 สมัยใหญ่ ๆ ดังนี้          

1. สมัยกลาง ( The Middle Ages ค.ศ. 850 – 1450 ) พ.ศ. 1393 – 1993 ก่อนสมัยนี้ราวศตวรรษที่ 6 ดนตรีขึ้นอยู่กับศาสนา Pope Gregorian เป็นผู้รวบรวมบทสวด เป็นทำนองเดียว ( Monophony ) โดยได้ต้นฉบับจากกรีก เป็นภาษาละติน ต่อมาจึงมี 2 ทำนอง( Polyphony ) ศตวรรษที่ 11 การศึกษาเริ่มในโบสถ์ในสมัยกลางนี้เองได้เริ่มมีการบันทึกตัวโน้ต โดยมีพระองค์หนึ่งเป็นชาวอิตาเลียนชื่อ Guido D’Arezzo ( พ.ศ. 1538 – 1593 ) ได้สังเกตเพลงสวดเก่าแก่เป็นภาษาละตินเพลงหนึ่งแต่ละประโยคจะมีเสียงค่อย ๆ สูงขึ้น จึงนำเอาเฉพาะตัวแรกของบทสวดมาเรียงกัน จึงออกเป็น Do Re Mi Fa Sol La Te Do( เว้นตัว Te เอาตัวที่ 2 ) ต่อมา ค.ศ. 1300 ( พ.ศ. 1843 ) ดนตรีก็เริ่มเกี่ยวกับศาสนาอย่างแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

2. สมัยฟื้นฟูศิลปวิทยา ( The Renaissance Period ค.ศ. 1450 – 1600 ) ยุคนี้เริ่มตั้งแต่ พ.ศ. 1993 – 2143 ตรงกับสมัยโคลัมบัส และเชคสเปียร์ ดนตรีในยุคนี้มักจะเป็นการเริ่มร้องหมู่เล็ก ๆ ส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับการร้องเพื่อสรรเสริญพระเจ้า ร้องกันในโบสถ์มี 4 แนว คือ โซปราโน อัลโต เทเนอร์ และเบส การร้องจะมีออร์แกนหรือขลุ่ยคลอ ดนตรีในสมัยนี้ยังไม่มีโน้ตอ่าน และมักเล่นตามเสียงร้อง 

3. สมัยบาโรค ( BaroQue ค.ศ. 1650 – 1750 ) ยุคนี้เริ่มตั้งแต่ พ.ศ. 2143 – 2293 และนักดนตรีที่มีชื่อเสียงในยุคนี้ได้แก่ บาค ไฮเดิล ในยุคต้นของสมัยบาโรค ( พ.ศ. 2143 – 2218 ) มีเครื่องดนตรีประมาณ 20 – 30 ชิ้นสลับกันเล่น เพื่อให้มีรสชาติในการฟังเครื่องดนตรีในการคลอเสียงร้อง เช่น ลิ้วท์ ขลุ่ย ต่อมาได้วิวัฒนาการใช้เครื่องสายมากขึ้นเพื่อประกอบการเต้นรำ รวมทั้งเครื่องลมไม้ด้วย ในสมัยนี้ผู้อำนวยเพลงจะเล่นฮาร์พซิคอร์ด

4. สมัยคลาสสิค ( Classical Period ค.ศ. 1750 – 1825 ) ตั้งแต่ พ.ศ. 2273 – 2368 สมัยนี้ตรงกับการปฏิวัติและการปฏิรูปในอเมริกา ไฮเดิลเป็นผู้ริเริ่มในการแต่งเพลงและคลาสสิค การแต่งเพลงในยุคนี้เกิดจากความคิดสร้างสรรค์ และจินตนาการของคีตกวีที่จะเลือกใช้เครื่องมือให้เหมาะสมกับลีลา และโอกาสตามอารมณ์ของดนตรี เช่น ดนตรีลักษณะหวานก็ใช้ไวโอลิน ถ้าแสดงความองอาจกล้าหาญ ก็ใช้แตรทรัมเปต มีการเดี่ยวเครื่องดนตรี นักดนตรีต้องศึกษาและเล่นให้ถูกต้องตามแบบแผน เพราะดนตรีในยุคนี้เริ่มเข้าร่องเข้ารอย คีตกวีในยุคที่มีไฮเดิล โมสาร์ท กลุ๊ก บีโธเฟน โดยเฉพาะบีโธเฟน เป็นคีตกวีในสมัยโรแมนติกด้วย

5. สมัยโรแมนติก ( Romantic Period ค.ศ. 1825 – 1900 ) พ.ศ. 2368 – 2443 สมัยนี้ตรงกับสมัยนโปเลียนแห่งฝรั่งเศส เพลงในสมัยนี้ ผิดไปจากเพลงในสมัยก่อน ๆ คือเมื่อก่อนเริ่มแรกเกี่ยวกับศาสนา ต่อมามีการเลือกใช้เครื่องดนตรีและในสมัยนี้ จะแต่งตามจุดประสงค์ตามความคิดฝันของคีตกวี เน้นอารมณ์เป็นสำคัญนักแต่งเพลงที่มีชื่อเสียงในสมัยนั้นมี ชูเบิร์ต เสตร้าส์ เมนโดโซน โชแปง ชูมานน์ บราหมส์ ไชคอฟสกี้ โดยเฉพาะในยุคนี้ แต่ละประเทศในยุโรปจะมีความนิยมไม่เหมือนกัน เช่น ลักษณะของเพลงร้อง เพลงประกอบละคร เพลงเต้นรำแบบวอลท์ เป็นไปตามคีตกวีและความนิยมส่วนใหญ่

6. สมัยอิมเพรสชั่นนิสซึม ( Impressionism ค.ศ. 1850 – 1930 ) ประมาณ พ.ศ. 2393 – 2473 เป็นสมัยแห่งการใช้ความคิดสร้างสรรค์ ดัดแปลงดั้งเดิมจากสมัยโรแมนติกให้แปลกออกไปตามจินตนาการของผู้แต่ง เปรียบเทียบได้กับการใช้สีสันในการเขียนรูปให้ฉูดฉาด ในด้านดนตรีผู้ประพันธ์มักสรรหาเครื่องดนตรีแปลก ๆ จากต่างประเทศ เช่น จากอินเดียมาผสมให้มีรสชาติดีขึ้น การประสานเสียงบางครั้งแปร่ง ๆ ไม่รื่นหูเหมือนสมัยก่อน ทำนองเพลงอาจนำมาจากทางเอเชียหรือประเทศใกล้เคียง แล้วมาดัดแปลงให้เหมาะสมกับดุริยางค์ นักดนตรีที่มีชื่อเสียงในสมัยนั้นมี คลาวด์อบุชชี อิกอร์ สตราวินสกี่ อาร์โนลด์ โชนเบิร์ล           

7. สมัยคอนเทมพอลารี ( Contempolary ค.ศ. 1930 – ปัจจุบัน ) หรือ Modern Music – Eletronics ตั้งแต่ พ.ศ. 2473 จนถึงปัจจุบัน ชีวิตของคนในปัจจุบันอยู่กับความก้าวหน้า ทางวิทยาศาสตร์ได้รู้ได้เห็นสิ่งแปลก ๆ ใหม่ ๆ เช่น ไอพ่น ยานอวกาศโทรทัศน์ นักแต่งเพลงปัจจุบัน จึงเปลี่ยนวิธีการของการประพันธ์เพลงให้เป็นไปในแบบปัจจุบัน

ดูเพิ่ม[แก้ไข | แก้ไขต้นฉบับ]

  • ยุคสมัยของศิลปะ
  • ยุคของดนตรี

ความรู้

เรียนรู้เรื่องยุคสมัยของดนตรีสากล

ประวัติศาสตร์ดนตรี ตะวันตก แบ่งออกเป็น กี่ ยุค กี่ สมัย

ยุคสมัยของดนตรีสากล

ดนตรีสากลมีการกำเนิดขึ้นมาช้านานเริ่มตั้งแต่การนำดนตรีมาใช้ในการบวงสรวงบูชาเทพเจ้า ต่อมาพัฒนาทางด้านดนตรีขึ้นโดยการเป่าใบไม้ เป้าเขาสัตว์ ดีดเถาวัลย์ดีดคันธนู ทำให้เกิดเป็นเครื่องดนตรีประเภทดีด สี ตี และเป่า แบ่งออกเป็น 7 ยุคดังนี้

1. ยุคกลาง
มีการปรับปรุงเพลงที่ใช้ร้องทางศาสนาโดยจัดแนวร้องเพิ่มขึ้นอีกแนวหนึ่ง เพิ่มความหนักแน่นในการร้องและเพิ่มความไพเราะให้กับทำนองเพลง เป็นการเริ่มการร้องเพลงแบบภาษาเสียง 2 แนว มีลักษณะดังนี้

2. ยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา
เราศตวรรษที่16 ยุโรปฟื้นตัวจากสภาวะเศรษฐกิจประชาชนหันมาใส่ใจศิลปะและดนตรีมากขึ้น มีการร้องแบบประสานเสียงสมบูรณ์ขึ้นและนิยมร้องเพลงสวด

ประวัติศาสตร์ดนตรี ตะวันตก แบ่งออกเป็น กี่ ยุค กี่ สมัย

3. ยุคบาโรก
ยุคบาโรกคศ 1,600 ถึง 1750 คำว่าบาโรกเป็นคำที่ใช้กับศิลปะทุกแขนงหมายถึงลักษณะที่สง่างามลักษณะเช่นนี้เริ่มต้นที่ประเทศอิตาลีและแพร่หลายไปทั่วยุโรปดนตรียุคบาโรกเริ่มต้นในปลายศตวรรษที่ 16 จนถึงศตวรรษที่ 18 ประมาณ 150 ปีเป็นเวลาที่ยาวนานจึงมีการดนตรีที่มีพัฒนาและการเปลี่ยนแปลงตามกาลเวลาซึ่งแตกต่างกว่ายุคอื่นมากทางด้าเครื่องดนตรี คีตกวี และคีตลักษณ์

4. ยุคโรโคโค
ปลายศตวรรษที่ 17 เป็นยุคที่ศิลปะทุกอย่างมีความงดงามหรูหราเป็นสมัยของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 และ 15 ของฝรั่งเศส บทเพลงที่ใช้เรียกบทเพลงโลโค่หมายถึงดนตรีในแบบของ ซี.พี.อี.บาค นักประพันธ์เพลงยุคนี้จะต้องแต่งเพลงประกอบการแสดงละครโอเปร่า sonata เคนตาตา และ symphony ทั้งสิ้น ยุคนี้เป็นยุคภาพเกี่ยวกับยุคบาโรกในยุคคลาสสิก

ประวัติศาสตร์ดนตรี ตะวันตก แบ่งออกเป็น กี่ ยุค กี่ สมัย

5. ยุคคลาสสิก
หมายถึงแบบแผนและกฎเกณฑ์ของอารมณ์และอุดมคติที่สง่างามอันเป็นอมตะยุคคลาสสิกเป็นยุคที่เชื่อมต่อจากยุคบาโรกรูปแบบของดนตรีเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงในตอนต้นศตวรรษที่ 18 แล้วในตอนปลายศตวรรษที่ 18

6. ยุคโรแมนติก
วิธีเริ่มต้นในศตวรรษที่ 19 ดนตรีในยุคนี้เน้นการแสดงออกถึงอารมณ์ของผู้ประพันธ์เพลงเรื่องใจจะทำเพลงสามารถแบ่งตามความถนัดและความชอบของตนเองจึงทำให้บทเพลงไม่มีกฎเกณฑ์นิยมรับทำในรูปแบบการบรรยายเรื่องราวผู้ประพันธ์เพลงในยุคโรแมนติกต่างเน้นลักษณะดนตรีประจำชาติของตนโดยทำนองหรือลักษณะเพียงมาประยุกต์ใช้กับเพลงที่ตนเองกระทำขึ้น

ความคิดเห็น

ประวัติศาสตร์ดนตรี ตะวันตก แบ่งออกเป็น กี่ ยุค กี่ สมัย

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์

ประวัติดนตรีตะวันตกแบ่งออกได้กี่สมัย

1. สมัยกรีก (Ancient Greek music) 2. สมัยโรมัน (Roman) 3. สมัยกลาง (The Middle Ages) 4. สมัยรีเนซองส์ (The Renaissance)

Monophony เกิดขึ้นในยุคใด

วิวัฒนาการของดนตรีในยุคกลาง ช่วงแรกนั้นนิยมแบบMonophony ต่อมาในศตวรรษที่ 9 มีการพัฒนารูปแบบของเพลงโดยการเพิ่มแนวเสียงขึ้น 1 แนว เป็นการร้องแบบคู่ขนานพร้อมกับแนวทำนองหลัก

ดนตรีที่มุ่งถ่ายทอดอารมณ์ของผู้ประพันธ์เป็นอย่างมาก คือ ยุคสมัยใด

สมัยโรแมนติก เป็นยุคของดนตรีคลาสสิกในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19 (ค.ศ. 1810–1910) ซึ่งเน้นอารมณ์ของดนตรีมากกว่าความสมดุลของบทตอน และเน้นความเป็นตัวตนของคีตกวีมากกว่ากฎเกณฑ์ทางดนตรีที่มีมาแต่เดิม

ดนตรียุคกลาง อยู่ในปี ค.ศ. ใด

เริ่มประมาณปี ค.. 400 - 1400 ในสมัยกลางนี้โบสถ์เป็นศูนย์กลางทั้งทางด้านดนตรี ศิลปะ การศึกษาและการเมือง วิวัฒนาการของดนตรีตะวันตกมีการบันทึกไว้ตั้งแต่เริ่มแรกของริ สต์ศาสนา บทเพลงทางศาสนาซึ่งเกิดขึ้นจากกราประสมประสานระหว่างดนตรีโรมัน โบราณกับดนตรียิวโบราณ เพลงแต่งเพื่อพิธีทางศาสนาคริสต์เป็นส่วนใหญ่ โดยนำคำสอนจากพระ ...