สวัสดีค่าา สาวๆ SistaCafe ที่รักสุขภาพทุกคนเลย ( ´ ▽ ` ).。o♡ 1. โปรตีน หนึ่งในสารอาหารที่สาวๆ จะละเลยไม่ได้เป็นอันขาดก็คือ ' โปรตีน ' เพราะมีประโยชน์แทบจะครอบจักรวาล เช่น เสริมสร้างกล้ามเนื้อ ช่วยลดน้ำหนัก รักษาสมดุลของน้ำตาลในเลือด ช่วยดูแลเซลล์สืบพันธุ์ ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ รักษาสมดุลค่ากรดด่างในร่างกาย รักษาระดับปริมาณน้ำในเซลล์ และช่วยกระตุ้นให้ภูมิคุ้มกันแข็งแรงขึ้น ควรกินโปรตีนทุกวันเพื่อสุขภาพที่ดี โดยอาหารที่เป็นแหล่งของโปรตีนคือเนื้อทุกชนิด เช่น เนื้อวัว เนื้อหมู เนื้อไก่ เนื้อปลา ไข่ พืชตระกูลถั่ว นม ชีสและโยเกิร์ตค่ะ 2. กรดไขมันโอเมก้า 3 สาวๆ หลายคนกลัวอ้วน จึงเลือกจะไม่กินอาหารที่มีไขมันเลย ซึ่งทำให้ร่างกายไม่แข็งแรงเท่าที่ควร ที่จริงแล้วไขมันเป็นสารอาหารที่ร่างกายต้องการอย่างมาก โดยเฉพาะกรดไขมันโอเมก้า 3 ซึ่งกรด ALA, DHA และ EPA เป็นชนิดที่พบเจอได้มากที่สุด ช่วยเสริมสร้างเซลล์ในร่างกาย ควบคุมระบบประสาท เสริมสร้างระบบไหลเวียนโลหิต ภูมิคุ้มกันแข็งแรงขึ้น และยังช่วยละลายวิตามิน A D E K ที่ละลายได้ในไขมันเท่านั้นอีกด้วยแหล่งของกรดชนิดนี้คือปลาแซลมอน, ปลาทูน่า ( สดๆ ไม่ใช่ทูน่ากระป๋องนะจ๊ะ ), ถั่วต่างๆ โดยเฉพาะวอลนัท, เมล็ด flaxseed และผักใบเขียวค่ะ 3. น้ำเปล่า สาวๆ หลายคนกินอาหารหลากหลายชนิด โดยมองข้าม ' น้ำเปล่า ' ไปอย่างง่ายดาย ทั้งที่น้ำเปล่านี่แหละ เป็นสารอาหารที่ทรงคุณค่าที่สุด! ทั้งช่วยในเรื่องการขับถ่าย, การดูดซึมและส่งผ่านสารอาหารอื่นๆ ในร่างกาย, ขับของเสียและรักษาความสมดุลของฮอร์โมน ผิวชุ่มชื้น รวมถึงทำให้ระบบในร่างกายทำงานเป็นปกติ ในร่างกายของเรามีส่วนประกอบเป็นน้ำ 50-80% ( ขึ้นอยู่กับมวลกล้ามเนื้อ ) เธอจึงต้องดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพออยู่เสมอ อย่างน้อย 8 แก้ว/2 ลิตรต่อวัน เพื่อให้ภูมิคุ้มกันดี ไม่ป่วยง่ายนะคะ 4. ไฟเบอร์ หากพูดถึงสารอาหารที่ช่วยในการขับถ่าย ลดอาการท้องผูกแล้วล่ะก็ คงนึกถึงอะไรไปไม่ได้นอกจาก ' ไฟเบอร์ ' เพราะช่วยกระตุ้นระบบลำไส้ให้ขับถ่ายของเสียออกมา แต่รู้ไหมว่าไฟเบอร์ยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ และโรคเบาหวานประเภท 2 ด้วยนะ ใครที่ลดน้ำหนักอยู่ ไฟเบอร์ก็ช่วยให้อิ่มนาน ไม่หิวจุกจิก จึงควรมีในทุกมื้ออาหารเป็นอย่างยิ่ง! โดยแหล่งที่มีไฟเบอร์เยอะๆ นอกจากผักใบเขียว แครอท บร็อคโคลี่ กะหล่ำปลีแล้ว ก็ยังมีข้าวโอ๊ต, ถั่ว, เมล็ดธัญพืชต่างๆ, ถั่วฝักยาว, ผลไม้จำพวกมะละกอและแอปเปิ้ล, psyllium husks และโฮลเกรนค่ะ 5. คาร์โบไฮเดรต ไม่ว่าจะกลัวอ้วนแค่ไหน แต่สารอาหารพื้นฐานที่ร่างกายต้องการก็ต้องมี ' คาร์โบไฮเดรต ' หรือแป้งอยู่ด้วย เพราะช่วยเพิ่มพลังงานให้ร่างกาย มีแรงใช้ชีวิตประจำวัน เป็นอาหารของเซลล์และเนื้อเยื่อในสมอง ฟื้นตัวจากอาการป่วยได้ดี โดยสิ่งที่ทำให้ร่างกายแข็งแรง ไม่ใช่แป้งขัดสีเชิงเดี่ยวอย่างข้าวขาว ขนมปังขาว แต่เป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน เช่น ข้าวกล้อง ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ผักและผลไม้ที่มีแป้งเป็นส่วนผสม โดยเฉพาะผักผลไม้สด จะได้สารอาหารเยอะที่สุด ยกเว้นมะเขือเทศ ที่ต้องปรุงสุกก่อน ร่างกายจึงจะดูดซึมสารอาหาร ( ไลโคปีน ) ได้อย่างมีประสิทธิภาพค่ะ 6. วิตามิน B รวม เรามักเห็นวิตามินบีรวม เป็นหนึ่งในท็อปลิสต์ของอาหารเสริมในรูปแบบแคปซูล แต่ที่จริงแล้ว เราสามารถรับวิตามินนี้จากอาหารทั่วไปได้ โดยคุณประโยชน์ของมันคือ ช่วยให้ร่างกายใช้พลังงานจากไขมัน คาร์โบไฮเดรตและโปรตีนอย่างเต็มที่ บำรุงร่างกายและระบบประสาท เสริมการทำงานของสมอง สร้างและสลายไขมัน ผลิตฮอร์โมน ละลายในน้ำได้ ไม่สะสมในร่างกาย โดยวิตามินเหล่านี้จะเจอในอาหารจำพวกผักใบ ( leafy vegetables ) เช่น ผักโขม บร็อคโคลี่ ผักเคล ผักกาด กะหล่ำ และผลิตภัณฑ์ประเภทนม เช่น โยเกิร์ต นม ชีสค่ะ 7. วิตามิน B12 แม้จะกินวิตามินบีรวมไปแล้ว แต่ ' วิตามินบี 12 ' ก็มีคุณสมบัติโดดเด่นที่ต้องพูดถึงเป็นพิเศษ เพราะวิตามินบี 12 ช่วยลดความเสี่ยงปัญหาสุขภาพต่างๆ มากมาย เช่น ภาวะเลือดจาง โรคสมองเสื่อม และภาวะผิดปกติทางอารมณ์ และยังช่วยเสริมสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง ทำปฏิกิริยากับสารสื่อประสาท ให้เรามีภาวะทางอารมณ์ที่ดีขึ้น อาหารที่มีวิตามินชนิดนี้เยอะๆ ก็จะเป็นอาหารประเภทไข่ เนื้อสัตว์ ตับ ปลา และผลิตภัณฑ์ประเภทนม โยเกิร์ต ชีส เป็นต้นค่ะ 8. ธาตุเหล็ก สำหรับผู้หญิงอย่างเราที่ต้องมีประจำเดือน สูญเสียเลือดในร่างกาย ' ธาตุเหล็ก ' ถือเป็นสารอาหารสำคัญที่ขาดไม่ได้เด็ดขาด! โดยธาตุเหล็ก 70% ในร่างกายอยู่ที่เซลล์เม็ดเลือดแดง ( ฮีโมโกลบิน ) และเซลล์กล้ามเนื้อ ( ไมโอโกลบิน ) หากเธอมีอาการเหนื่อยง่าย เพลียง่ายอยู่บ่อยๆ หรือมีประจำเดือนแล้วรู้สึกเหนื่อยกว่าปกติ ตัวซีด นั่นแปลว่าเธอกำลังขาดธาตุเหล็กค่ะ! เพราะฮีโมโกลบินมีหน้าที่สูบฉีดออกซิเจนจากปอดเข้าสู่เซลล์ในร่างกาย หากกินธาตุเหล็กไม่พอ ร่างกายจะได้ออกซิเจนไม่เต็มที่ โดยแหล่งของธาตุเหล็กที่ดีคือเนื้อแดง, ปลาทูน่า, ไข่, สัตว์ปีกต่างๆ, ปลาแซลมอนและพืชตระกูลถั่ว 9. วิตามินซี หากสาวๆ คนไหนเป็นหวัดบ่อย เอะอะเจ็บคอ คัดจมูก น้ำมูกไหล เป็นไปได้สูงว่าร่างกายขาด ' วิตามินซี ' โดยสารต้านอนุมูลอิสระที่ละลายในน้ำตัวนี้ ช่วยให้เนื้อเยื่อในร่างกายเติบโตได้ดี และซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่สึกหรอ และยังเป็นส่วนประกอบสำคัญในการสร้างคอลลาเจน ซึ่งเป็นพื้นฐานของกระดูกอ่อน เส้นเอ็นและหลอดเลือด ช่วยสมานแผลให้หายไวขึ้น และยังช่วยให้ร่างกายดูดซึม non-haem iron หรือธาตุเหล็กที่มักเจอในโปรตีนพืชได้ดีขึ้นด้วย แหล่งของวิตามินซีหลักๆ เลยก็คือผลไม้ตระกูลซิตรัส เช่น มะนาว ส้ม, ขิง, มะเขือเทศ และผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ เช่น สตรอว์เบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ ราสเบอร์รี่ 10. แคลเซียม ใครที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระดูก เจ็บตามข้อบ่อยๆ หรือฟันอ่อนแอ นั่นเพราะร่างกายขาดสารอาหารที่จำเป็นอย่าง ' แคลเซียม ' เพราะเขาช่วยเสริมสร้างกระดูกทั้งหมดในร่างกาย ระบบประสาทและกล้ามเนื้อให้แข็งแรง ป้องกันโรคกระดูกพรุน บรรเทาอาการปวดประจำเดือน ป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่ แหล่งของแคลเซียมที่แนะนำก็คือ ผลิตภัณฑ์ประเภทนม, ผักใบ, ปลาซาร์ดีน, หอยแมลงภู่, ปลาแซลมอนและลูกมะเดื่อ ( fig ) ใครกระดูกอ่อนแอ อย่าลืมหามากินกันนะคะซิส ------------------------------- ติดตามบทความใหม่ๆได้ที่ SistaCafe Facebook ป่วยบ่อยเกิดจากอะไรคนที่ประเดี๋ยวก็ป่วยเป็นนั่นเป็นนี่บ่อยครั้ง เป็นสัญญาณเตือนว่า คุณกำลังมีสุขภาพร่างกายที่อ่อนแอ ลองสังเกตตัวคุณดูว่ามาจากการที่คุณละเลยการดูแลสุขภาพหรือเปล่า เพราะถ้าทานอาหารไม่ดี ไม่ออกกำลังกาย เครียดจัด พักผ่อนน้อย โรคภัยก็ถามหาได้ง่าย ๆ หรืออีกสาเหตุหนึ่งที่อาจเป็นไปได้ก็คือ ภูมิคุ้มกันในร่างกายอ่อนแอ ซึ่งเป็นผลมา ...
ทำไงให้ไม่ป่วยบ่อย1. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และออกกำลังกาย 2. ให้อาหารเสริมมาเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยเสริมสร้างสุขภาพ 3. ใส่หน้ากากอนามัย และหมั่นล้างมือบ่อยๆ 4. ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอต่อวัน
อาการภูมิตกเป็นอย่างไร1. มักอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย 2. แพ้อากาศ คัดจมูก ไอ จาม เป็นต้น 3. เป็นหวัดบ่อย 4. มีอาการทางผิวหนัง เช่น ผื่นคัน กลาก เกลื้อน หรือเป็นงูสวัด จากการติดเชื้อไวรัสได้ง่าย
ภูมิคุ้มกันต่ําเป็นยังไง. ปัจจุบันเราจากสถิติพบว่าวัยทำงาน หรือคนทำงานออฟฟิศป่วยเป็นภาวะภูมิคุ้มกันต่ำกันมากขึ้น โดยมีอาการที่สังเกตได้ คือ เป็นไข้หวัดบ่อยๆ, ท้องเสียง่ายหรือเรื้อรัง, เป็นโรคเชื้อราบนผิวหนังบ่อยๆ ผื่นขึ้นง่าย โดยมีสาเหตุหลักๆ มาจากความเครียด มลภาวะ อาหารการกิน การไม่ออกกำลังกาย และการพักผ่อนน้อย
|