ประโยชน์ของสนามไฟฟ้าในชีวิต ประ จํา วัน

แรงแม่เหล็กเป็นแรงชนิดหนึ่งที่เรามองไม่เห็น อำนาจแม่เหล็กอาจเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ หรือเราจะสร้างขึ้นมาก็ได้ แต่ไม่ว่า     แม่เหล็กจะอยู่ในรูปแบบใด แม่เหล็กจะมี 2 ขั้วเสมอ คือขั้วเหนือและขั้วใต้ โดยเส้นแรงแม่เหล็กจะมีทิศทางจากขั้วเหนือไปขั้วใต้ เราเรียกบริเวณที่เส้นแรงแม่เหล็กผ่านไปว่า สนามแม่เหล็ก ยิ่งระยะห่างจากตัวแม่เหล็กมากเท่าไร กำลังจากสนามแม่เหล็กจะน้อยลง แรงดูดหรือแรงผลักที่แม่เหล็กกระทำต่อเหล็กนั้นเรียกว่า พลังงานแม่เหล็ก วัตถุที่แม่เหล็กสามารถดูดได้อย่างแรง ได้แก่ เหล็ก นิกเกิล โคบอลต์ เรียกว่า “สารเฟอร์โรแมกเนติก” แต่วัตถุที่แม่เหล็กดูดได้อย่างอ่อน ๆ เช่น อะลูมิเนียม แมกนีเซียม เรียกว่า “สารพาราแมกเนติก”

                        ชาวกรีกโรมันโบราณรู้จักอำนาจสนามแม่เหล็กไฟฟ้า พวกเขาเห็นว่ามีหินสีดำที่ลึกลับน่าพิศวงชนิดหนึ่ง มีแรงที่ทำให้โลหะบางชนิดเข้ามาติดอยู่กับมันได้ แต่ชาวกรีกโรมันไม่สามารถอธิบายปรากฎการณ์นี้ได้จนถึงปลายศตวรรษที่ 16 นักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษ ชื่อ วิลเลียม กิลเบิร์ด ได้เริ่มศึกษาระบบการทำงานของแม่เหล็ก เขาเสนอแนวคิดสำคัญประการหนึ่ง คือ โลกเองก็เป็นแม่เหล็กขนาดใหญ่ที่มีขั้วแม่เหล็กเหมือนแม่เหล็กธรรมดา แนวคิดนี้อธิบายว่าทำไมแม่เหล็กจึงชี้ไปทิศทางเหนือและทิศใต้อยู่เสมอแม่เหล็กถุกขั้วแม่เหล็กของโลกดึงดูดนั้นเอง