ในประเทศที่มีอากาศร้อนอย่างประเทศไทยของเรา แอร์รถยนต์มีความสำคัญมากต่อการเดินทาง แต่ปัญหาแอร์รถยนต์ไม่ทํางานมักจะเกิดขึ้นบ่อย ไม่ว่าจะเป็นคอมแอร์รถยนต์ไม่ทํางาน พัดลมแอร์ไม่ทํางาน หรือแอร์รถยนต์ไม่ติด ในบทความนี้เราจะอธิบายว่าปัญหาเหล่านี้เกิดจากอะไรบ้างและแก้ไขยังไง Show แอร์รถยนต์มีกลิ่นเหม็น แบตเตอรี่รถยนต์หมด เนื้อหา
อาการที่แสดงว่าคอมแอร์รถยนต์ไม่ทํางาน หาสาเหตุคอมแอร์รถยนต์ไม่ทํางาน สาเหตุคอมแอร์ไม่ทํางาน นี่คือวิธีตรวจดูว่าคอมแอร์รถยนต์ไม่ทํางาน เสียแล้วหรือยัง โดยสังเกตอาการเหล่านี้
เมื่อแอร์รถไม่ทํางาน หรือสู้ศึกแอร์รถยนต์ไม่ติด คุณลองสังเกตว่าคอมแอร์ของรถคุณนั้นมีอาการเหล่านี้หรือไม่ เพราะอาจจะทำให้แอร์ไม่เย็น หรือเย็นบ้างเป็นบางครั้ง และทำให้อัตรารอบเครื่องยนต์ทำงานหนัก หรือรถกินน้ำมันมากยิ่งขึ้น แอร์รถยนต์ไม่ทํางานมีอาการอะไร สาเหตุคืออะไร1. ตู้แอร์ตันและกรองแอร์ตันอาการนี้จะทำให้ลมไม่ออก ดูเหมือนพัดลมแอร์ไม่ทํางาน อาการนี้จะพบเห็นได้บ่อยและมักจะเกิดขึ้นในรถยนต์ที่ใช้งานมาแล้วหลายๆปี ขาดการดูแล สาเหตุหลักคือการใช้น้ำหอมหรือผลิตภัณฑ์ปรับอากาศแบบเจล หรือรถที่ใช้งานในบริเวณที่มีฝุ่นลูกรังหรือดินฟุ้งกระจาย แล้วถูกดูดเข้าไปในระบบแอร์ สิ่งเหล่านี้ทำให้แอร์เต็มไปด้วยฝุ่นสกปรกติดแน่นที่คอล์ยรังผึ้ง พัดลม หรือแค่อาจจะตันที่กรองแอร์เท่านั้นเอง เมื่อคุณเปิดแอร์เบอร์สูงแต่กลับมีแต่เสียงลมอู้ตลอดเวลา หรือรู้สึกว่า ลมออกมาไม่แรงเท่าที่ควร และเมื่อเปิดนานๆจะมีน้ำเย็นๆไหลออกมาหยดซึมที่แผ่นรองเท้าภายในรถนั่นก็หมายความว่าระบบแอร์ของคุณกำลังตัน วิธีแก้ไข: ไม่ควรรื้อหรืองัดแงะเองถ้าหากว่าไม่มีประสบการ์และความรู้ แนะนำให้ส่งร้านแอร์รถยนต์เพื่อล้างระบบแอร์ ตู้แอร์รถยนต์ตัน มีฝุ่นเกาะอุดตัน 2. มอเตอร์พัดลมระบายความร้อนเสียสาเหตุคอมแอร์รถยนต์ไม่ทํางาน อาจจะเป็นลูกปืนมอเตอร์แตก มีเสียงดังออกมา และเมื่อแอร์ทำงานจะเกิดอาการสั่นเมื่อพัดลมหมุนทำงาน พัดลมหมุนช้าลงหรือขัดๆ โดยมากแล้วจะเป็นปัญหาที่แก้ไม่ยาก แต่ก็มักจะมองข้ามไปเพราะด้วยความที่ตัวอุปกรณ์นั้นอยู่ในพื้นที่บริเวณใต้ฝากระโปรงติดกระจังหน้า จึงไม่ค่อยมีใครสังเกตุ วิธีแก้ไข: เปลี่ยนมอเตอร์พัดลม โดยสำหรับสามารถสั่งได้ด้วยตัวเองที่ศูนย์บริการ หรือตามร้านอะไหล่ยนต์ทั่วไปโดยอ้างอิงจากรุ่นและปีรถยนต์ แต่ถ้าหากพัดลมระบายกระจังหน้ามีอาการฝืดเพราะสิ่งสกปรกอาจจะลองใช้น้ำมันหล่อลื่นหยอดที่แกนของมอเตอร์เพื่อให้ฝุ่นละลายออกไปแต่ก็ยืดอายุการใช้งานได้พอสมควร ดังนั้นถ้าหากเกิดอาการเหล่านี้ขึ้นมาจริงๆ แนะนำให้เปลี่ยนไปเลยจะดีกว่า เพื่อที่จะได้ไม่ส่งผลต่อปัญหาอื่นๆของระบบระบายความร้อนตามมา 3. น้ำยารั่ว หรือน้ำยาขาดปัญหานี้แก้ไขได้ง่าย คุณแค่ต้องช่างเติมน้ำยาเข้าไปให้อยู่ในระดับปอนด์ที่กำหนดในรถแต่ละยี่ห้อ เมื่อน้ำยารั่ว หรือน้ำยาขาดความเย็นจะลดลง วิธีแก้ไข: ปิดระบบความเย็นทั้งหมดแล้วขับรถไปให้ช่างผู้ชำนาญไล่หาจุดรั่วของระบบทำความเย็น ซ่อม แล้วเติมน้ำยาเข้าไป 4. คลัชคอมเพรสเซอร์แอร์เสื่อมคลัชหน้าคอมแอร์มีหน้าที่รับคำสั่งของเซนเซอร์แอร์ และจะสั่งให้แม่เหล็กหน้าคลัชคอมเพรสเซอร์ดูดจับลูกรอกพูเลย์เพื่อให้สามารถหมุนทำงานไปพร้อมๆกับสายพานเครื่องยนต์ เพื่อที่ฉีดอัดน้ำยาไปสู่ระบบทำความเย็น เมื่ออุปกรณ์นี้ได้เริ่มเสื่อมสภาพตามการใช้งาน จะสังเกตได้ว่า อาการแอร์ไม่เย็นจะเกิดในช่วงที่รถติดไฟแดงในช่วง ฤดูร้อน หรือรถยนต์ที่ไม่ได้มีการเคลื่อนตัวไปไหน นั่นก็หมายความว่าเมื่อห้องเครื่องมีความร้อนจะส่งผลทำให้แม่เหล็กที่เสื่อมสภาพนั้นทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพเท่าที่ควร วิธีแก้ไขคอมเพรสเซอร์แอร์ไม่ทํางาน รถยนต์: ปิดคอมเพรสเซอร์แอร์ทิ้งไว้ซักครู่ เพื่อให้หน้าคลัชลดความร้อนลง เมื่อรถเคลื่อนตัวจึงเปิดระบบแอร์ขึ้นมาตามปกติ อันที่จริงแล้วไม่ควรปล่อยไว้ เพราะลูกลอกหน้าคลัชคอมเพรสเซอร์อาจจะไหม้และละลายจนทำให้คอมเพลสเซอร์เสียตามไปด้วย 5. คอมแอร์รถยนต์ไม่ทํางานคอมเพรสเซอร์เสียเป็นปัญหาหนัก คุณจะต้องเสียเงินจำนวนมากเพื่อซื้อมาเปลี่ยน คอมเพรสเซอร์มีราคาที่ค่อนข้างสูงและรถยนต์แต่ละยี่ห้อก็มีต้นทุนในเรื่องราคาอะไหล่และค่าแรงที่ไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับความยากง่ายของแต่ละยี่ห้อ หากเมื่อทราบแล้วว่าคอมเพรสเซอร์เสีย คุณไม่ควรเปิดแอร์เพราะนอกจากแอร์จะไม่เย็นแล้วยังฉุดให้เครื่องยนต์ต้องทำงานหนักมากขึ้นอีกด้วย สำหรับอาการนี้ไม่มีวิธีแก้ไขด้วยตนเอง คุณต้องส่งให้ช่างผู้ชำนาญหรือศูนย์บริการอย่างเดียว คอมแอร์รถยนต์ไม่ทํางานหรือเสีย ต้องอาศัยช่าง ด้วยวิธีการเหล่านี้ เมื่อแอร์รถไม่ทํางาน หรือเห็นแอร์รถยนต์ไม่ติด ไม่เย็นฉ่ำ เราหวังว่าคุณสามารถตรวจหาจุดที่เสียได้อย่างถูกต้อง และมีความรู้ในการหาช่างหรือศูนย์ซ่อม ติดตามข่าวล่าสุดได้ที่:https://khaorodnissan.com/ |
ปิดแอร์แล้ว คอมแอร์ไม่ตัด รถยนต์
ลิขสิทธิ์ © 2024 th.frojeostern Inc.
