เหรียญท้าว เว ส สุวรรณ วัดจุฬามณี ปี 63

เหรียญท้าว เว ส สุวรรณ วัดจุฬามณี ปี 63

เหรียญท้าว เว ส สุวรรณ วัดจุฬามณี ปี 63

เหรียญปรกใบมะขาม ท้าวเวสสุวรรณวัดจุฬามณี ปี 63 เนื้อทองทิพย์ เลี่ยมกรอบสำริดบรอนซ์ชุบทองฉลุลาย

  • ป้องกันภูตผีปีศาจ เสริมสิริมงคล เสริมดวงชะตา แคล้วคลาด โชคลาภค้าขาย เมตตามหานิยม กระทำการสิ่งใดสำเร็จทุกประการ
  • ชนวนเก่า แผ่นจาร พระเกจิคณาจารย์
  • หาทุนการศึกษาบาลีพระภิกษุ สามเณร วัดศรีบัวบาน จ.ลำพูน
  • พระอาจารย์อิฏฐ์ ภทฺจาโร วัดจุฬามณี และพระเกจิคณาจารย์หลายรูป


ใช้ได้ตั้งแต่  17/03/2022 - 26/12/2022

รวมยอดของ

สินค้านี้จำกัดจำนวนในการสั่งซื้อ

การจัดส่ง

เหรียญท้าว เว ส สุวรรณ วัดจุฬามณี ปี 63

จัดส่งฟรีเซเว่นอีเลฟเว่น (7-11) ส่งภายใน 2-5 วันทำการ หลังชำระเงิน

เหรียญท้าว เว ส สุวรรณ วัดจุฬามณี ปี 63

จัดส่งตามที่อยู่ ส่งภายใน 2-5 วันทำการ หลังชำระเงิน

✨พร้อมให้บูชาค่ะ ✨เหรียญท้าวเวสสุวรรณ รุ่นเจริญทรัพย์ ปี 2563 หลวงพ่ออิฎฐ์ วัดจุฬามณี จังหวัด สมุทรสงคราม พุทธคุณเด่นทางด้านป้องกันสิ่งอัปมงคลทั้งปวง แคล้วคลาดจากการกระทำย่ำยีทั้งหลายดียิ่งนัก และทำให้ผู้บูชา มีโชคลาภ ทรัพย์สินไหลมาเทมา ตำราโบราณได้กล่าวไว้ว่าผู้ใดต้องการ ความเจริญในลาภยศ ทรัพย์สินเงินทอง อำนาจวาสนา สูงสุดทางมหาเศรษฐีมีทรัพย์ ลาภยศ สรรเสริญสุข ไหลมาไม่ขาดสาย และขจัด ภูตผีปีศาจ สิ่งอัปมงคลไม่กล้าเข้ามารบกวน และช่วยบันดาลโชคลาภโภคทรัพย์เจริญๆ ยิ่งๆขึ้นไปให้แก่ผู้บูชาค่ะ สามารถบูชาให้เป็นมงคลต่อชีวิตได้นะคะ สนใจสอบถามได้ค่ะ แอดมินยินดีให้บริการค๊าาา 🥰🥰

>>>>>ดูเพิ่มเติมที่<<<<<<

Line Official : https://page.line.me/684dpeis

----------------------------------------

✨ ยินดีรับบัตรเดบิต และบัตรเครดิตทุกธนาคารค่ะ

✨ พิเศษ สามารถแบ่งจ่ายเบาๆ ผ่านเว็บได้แล้ว เข้าร่วมหลายธนาคารเลยค่ะ หรือสอบถามแอดมินได้ค่ะ

✨ สำหรับลูกค้าทางหน้าร้าน เฉพาะบัตรเครดิตธนาคารกสิกรไทยและ KTC แบ่งจ่ายได้ ไม่มีชาร์จ สูงสุด 10 เดือน รายละเอียดสอบถามได้

✨ บริการส่งฟรีทั่วประเทศไทย

------------------------------------------

"NoTe SiLvershop" Central Plaza Rama 3 ชั้น 3 หน้า True shop

🔯 contact >> "NoTe SiLvershop"

🔯 Tel : 085 252 8398 คุณโน๊ต

🔯 Tel : 095 645 9738 คุณเบล

🔯 Facebook : notesilvershop

🔯 ID Line : Notesilvershop

-------- www.notesilver.com ------

-------- www.shopee.co.th/notesilver ------

#ท้าวเวสสุวรรณ #ท้าวเวสสุวรรณวัดดัง #ท้าวเวสสุวรรณวัดจุฬามณี #วัดจุฬามณี #เหรียญท้าวเวสสุวรรณ #บูชาท้าวเวสสุวรรณ #เครื่องประดับเงินแท้ #notesilver #silver #sterlingsilver #เครื่องประดับเงินแท้ #ซิลเวอร์จิวเวลรี่ #jewelry #handmade #handmadejewelry #silver #sterlingsilver #silverring #notesilvershop #notesilver

🙏🙏ตามตำหรับตำราแห่งความเชื่อโบราณกาลทั้ง “ศาสตร์ไทย” และ “ศาสตร์จีน” #ท้าวเวสสุวรรณโณ ถือว่าเป็นวัตถุมงคลแก้เคล็ดของปีชง โดย #ท้าวเวสสุวรรณโณ จะคุ้มครองให้แคล้วคลาดจากภยันตรายต่างๆ ตลอดปีตลอดไป 🙏🙏ส่วนปีนักษัตรของคนที่ไม่ตรงกับปีชง ก็มักจะเช่าหาบูชาเพื่อ…เสริมดวง หนุนดวงที่ดีแล้ว ให้ดีกว่าเดิมและเจริญรุ่งเรืองยิ่งๆขึ้นไป

พระราชมงคลวชิรานุวัฒน์ วิ. (หลวงปู่บุญกู้ อนุวฑฺฒโน) ผู้สืบทอดมรดกธรรม และลูกศิษย์องค์สำคัญชั้นผู้ใหญ่ของท่านพ่อลี ธัมมธโร แห่งวัดอโศการาม จังหวัดสมุทรปราการ

หลวงปู่บุญกู้ อนุวัฑฒโน นามเดิมท่านชื่อ บุญกู้ นามสกุล น้อยวัฒน์ เกิดเมื่อวันที่ ๑ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๔๗๒ ปีมะเส็ง ณ บ้านเลขที่ ๑๙๓ ถนนธนบุรี แขวงบางลำภูล่าง เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร
หลวงปู่บุญกู้" อนุวัฑฒโน ท่านเข้ารับการอุปสมบทเป็นพระภิกษุในทางพระพุทธศาสนา ณ พัทธสีมาวัดอโศการาม ตำบลท้ายบ้าน อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม พุทธศักราช 2502 โดยมี พระสุธรรมคณาภรณ์ (พระอาจารย์แดง ธัมมรักขิตฺโต) วัดประชานิยม จังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นพระอุปัชฌาย์
พระสุทธิธรรมรังสีคัมภีรเมธาจารย์ (ท่านพ่อลี ธัมมธโร) วัดอโศการาม เป็นพระกรรมวาจารย์ พระอุปัชฌาย์ขนานนามฉายาให้ว่า “อนุวัฑฒโน”


ครั้นบวชแล้วท่านได้อยู่ศึกษาข้อวัตรปฏิบัติกับท่านพ่อลี ธัมมธโร ผู้เป็นบุรพาจารย์ อยู่อุปัฏฐากรับใช้ ปฏิบัติธรรม ศึกษาพระธรรมวินัย รวมทั้งหลักธรรมคำสอนในทางพระพุทธศาสนา จนมีความรู้ความสามารถแตกฉานในหลักธรรม นำไปประยุกต์ใช้ได้ทุกกาลสมัย

หลังจากที่ท่านลี ธัมมธโร มรณภาพลงเมื่อ พ.ศ.2505 "หลวงปู่บุญกู้" อนุวัฑฒโน ท่านอยู่ช่วยงานศพจนเป็นที่เรียบร้อย แล้วก็กราบลาครูบาอาจารย์ ออกเดินธุดงค์ปฏิบัติธรรมไปตามสถานที่ต่างๆ ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ เดินธุดงค์ปฏิบัติธรรมไปตามป่าเขาลำเนาไพร เพื่อหาความสงบวิเวกในการบำเพ็ญสมณธรรม เดินจงกรม นั่งสมาธิภาวนา ซึ่งสมัยก่อนนั้นป่าเขาตามเขตภาคต่างๆ ของประเทศไทย ยังคงความอุดมสมบูรณ์หนาแน่นเขียวขจีจากป่าไม้นานาพันธุ์ สัตว์ป่านานาชนิด มีช้าง เสือ เป็นต้น
"หลวงปู่บุญกู้" อนุวัฑฒโน ท่านได้ไปศึกษา และปฏิบัติธรรมกับครูบาอาจารย์พระกรรมฐานสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต อาทิเช่น หลวงปู่ฝั้น อาจาโร วัดป่าอุดมสมพร อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร หลวงปู่สิม พุทธาจาโร วัดถ้ำผาปล่อง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน วัดป่าบ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี หลวงพ่อสิงห์ทอง ธัมมวโร วัดป่าแก้วชุมพล อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร เป็นต้น รวมเวลาที่องค์ท่านไปศึกษา และปฏิบัติธรรมกับครูบาอาจารย์พระป่ากรรมฐานตามภาคต่างๆ เป็นเวลา 13 พรรษา ท่านกลับมาพำนักจำพรรษาประจำ ที่วัดอโศการาม ตำบลท้ายบ้าน อำเภอเมือง จ.สมุทรปราการ เพื่ออบรมศีลธรรม อบรมสมาธิภาวนาแก่พระภิกษุสามเณร อุบาสก อุบาสิกา ผู้ใฝ่ธรรมทั้งหลาย รวมทั้งได้รับอาราธนาไปแสดงพระธรรมเทศนาตามหน่วยงานราชการ สถาบันการศึกษา มหาวิทยาลัยต่างๆ ชั้นนำ ทั่วทั้งประเทศไทยและต่างประเทศ ต่อมาท่านรับอาราธนาไปเป็นพระธรรมทูตในต่างประเทศ จำพรรษา ณ วัดต่างๆ ในประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นเวลา 4 พรรษา สอนกรรมฐาน อบรมจิตภาวนาแก่พุทธศาสนิกชนผู้ใฝ่ธรรมทั่วไป ทั้งชาวไทยและต่างชาติ รวมทั้งรับอาราธนาไปเยี่ยมวัดในต่างประเทศหลายแห่ง เช่น ประเทศออสเตรเลีย เยอรมันนี ฝรั่งเศส, สวีเดน, เดนมาร์ก, จีน , ใต้หวัน และ เกาหลีใต้ เป็นต้น
ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
พระอุปคุตหลวงปู่บุญคู่วัดอโศการาม 2543 ให้บูชา 300 บาทค่าจัดส่ง 30 บาทระบบ flash หรือ j&t หรือ kerry

เหรียญท้าว เว ส สุวรรณ วัดจุฬามณี ปี 63
เหรียญท้าว เว ส สุวรรณ วัดจุฬามณี ปี 63
เหรียญท้าว เว ส สุวรรณ วัดจุฬามณี ปี 63

 

เหรียญท้าว เว ส สุวรรณ วัดจุฬามณี ปี 63
พระครูสุนทรวุฒิคุณ (หลวงพ่อพุฒ สุนทโร) อดีตเจ้าอาวาสวัดกลางบางพระ ตำบลบางพระ อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม

นามเดิมนั้นท่านมีชื่อว่า พุฒ นามสกุล หาญสมัย เกิดเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2453 ตรงกับวันศุกร์ขึ้น 13 ค่ำ เดือน 12 ปี จอ ณ บ้านเลขที่ 8 หมู่ที่ 4 ตำบลบางพระ อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม บิดาของท่านชื่อ นายขำ หาญสมัย มารดาของท่านชื่อนางปาน หาญสมัย ซึ่งท่านมีพี่น้องด้วยกัน 5 คน คือ 1. นางสาวบุญรอด หาญสมัย (ถึงแก่กรรมแล้ว) 2. พระครูสุนทรวุฒิคุณ (หลวงพ่อพุฒ สุนทโร) 3. นางปุ่น นาคละมัย 4. นายปั่น หาญสมัย 5. นางบุญนาค กลั่นสนิท (ถึงแก่กรรมแล้ว)

การศึกษาเล่าเรียนนั้น หลวงพ่อพุฒ ท่านได้ความรู้ติดตัวและได้เรียนมาจากวัด ซึ่งต่อมาหลวงพ่อพุฒได้จบการศึกษาสายสามัญ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จากโรงเรียนวัดบางพระ อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ครอบครัวของท่านแต่เดิมมีอาชีพทำนา

เมื่อท่านอายุได้ 20 ปี เข้ารับการคัดเลือกของราชการทหารให้เข้ารับราชการ หรือที่เราเรียกกันว่า “เกณฑ์ทหาร” ในที่สุดท่านก็ต้องเข้ารับใช้ชาติเป็นทหารรักษาพระองค์อยู่ถึง 2 ปี ได้กลับมาช่วยครอบครัว บิดา มารดา ของท่านทำงานอย่างขยันขันแข็งจนผู้คนในหมู่บ้าน และละแวกใกล้เคียง ชื่นชมยินดีส่งเสริมให้การทำงานอย่างจริงจังของท่าน ชีวิตความเป็นอยู่ก็อยู่ในกรอบศีลธรรมอันดีงามจนชาวบ้านในท้องถิ่นต่างเสนอให้ทางราชการแต่งตั้งท่านเป็นผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 4 ตำบลวัดละมุด อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม

ในวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2489 ผู้ใหญ่พุฒก็ตัดชีวิตทางโลกเข้าสู่ร่มกาสาวพัตรในรูปพระสงฆ์ ณ พัทธสีมา วัดบางพระ ตำบลบางแก้วฟ้า อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิตของท่าน โดยมีเจ้าอธิการหิ่ม อินทโชโต เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ทองอยู่ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์เปลี่ยน เป็นพระอนุสาวนาจารย์ โดยได้รับฉายาว่า สุนทโร

เมื่อหลวงพ่อพุฒ หรือพระภิกษุพุฒในสมัยนั้น อุปสมบทใหม่ ๆ ท่านก็มีความมุ่งมั่นในการศึกษาพระธรรมวินัย และเมื่อท่านมีโอกาส ท่านก็ศึกษาตำรับตำราต่าง ๆ ซึ่งค่อนข้างจะแปลกกว่าพระรูปอื่น เพราะท่านไม่ชอบปล่อยเวลาให้ล่วงไปอย่างไร้ค่า ซึ่งตำรับตำราในสมัยนั้นก็หายากไม่มีมากมายเหมือนในสมัยปัจจุบัน หนังสือที่ท่านให้ความสนใจเป็นพิเศษส่วนมากก็จะเป็นหนังสือประเภทธรรมะ และตำรายาแผนโบราณ และในปีแรกนั้น พ.ศ. 2489 ท่านก็สามารถสอบนักธรรมชั้นตรีได้ ต่อมาอีก 2 ปี คือในปี พ.ศ. 2491 ท่านก็สามารถสอบนักธรรมชั้นโทและชั้นเอกได้มาโดยลำดับ

หลังจากที่หลวงพ่อพุฒได้อุปสมบทและศึกษาพระธรรมวินัย ตลอดจนวิชาคาถาอาคมต่าง ๆ รวมทั้งได้ออกธุดงค์ได้เพียง 6 พรรษา ในปี พ.ศ. 2495 เจ้าอาวาสองค์ที่ 6 แห่ง วัดกลางบางพระได้มรณภาพลงตามสังขาร ทางคณะสงฆ์ ชาวบ้าน ตลอดจนกรรมการได้นิมนต์หลวงพ่อพุฒ ขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสของวัดกลางบางพระเป็นองค์ที่ 7 สืบต่อมา ได้รับนามว่า “พระอธิการพุฒ” ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2495 หลังจากที่พระอธิการพุฒ ในสมัยนั้นได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสของวัดกลางบางพระ ก็ได้ทำการพัฒนาวัด บูรณะปฏิสังขรณ์ เรื่อยมา โดยได้เริ่มมีการวางผังวัดใหม่เพื่อสร้างถาวรวัตถุต่าง ๆ ซึ่งในสมัยนั้นวัดเป็นที่ลุ่มพอสมควร ต้องทำการถมดินเป็นจำนวนมาก โดยได้รับแรงศรัทธาจากชาวบ้านในสมัยนั้น ซึ่งต้องใช้แรงงานคน ชาวบ้านก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ต่อมาได้ทำการซ่อมแซมบูรณะพระอุโบสถขึ้นใหม่อีกครั้ง เพราะชำรุดทรุดโทรมไปตามกาลเวลา ซึ่งในอดีตพระอธิการดาได้ทำการบูรณะซ่อมแซมมาแล้ว 1 ครั้ง เมื่อบูรณะพระอุโบสถเป็นที่เรียบร้อยแล้วในปี พ.ศ. 2497 ก็ได้ดำเนินการก่อสร้างศาลาการเปรียญของวัดกลางบางพระ ซึ่งใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างประมาณ 3 ปีเศษ

ในด้านการศึกษานั้น หลวงพ่อได้รับการแต่งตั้งให้ดูงานด้านการศึกษามาโดยลำดับ คือ พ.ศ. 2496 เป็นครูสอนพระปริยัติธรรม เป็นเจ้าสำนักเรียนวัดกลางบางพระ เป็นกรรมการสอบธรรมสนาม หลวง พ.ศ. 2500 เป็นกรรมการอุปถัมภ์โรงเรียนวัดกลางบางพระ พ.ศ. 2515 เป็นกรรมการอุปถัมภ์โรงเรียนสหศึกษาบาลี องค์พระปฐมเจดีย์ พ.ศ. 2529 เป็นประธานหน่วยอบรมประชาชนประจำตำบล พ.ศ. 2530 เป็นหน่วยรับพิเศษของเจ้าคณะใหญ่หนกลาง

วันที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2542 หลวงพ่อมีอาการเหนื่อยและอ่อนเพลีย จึงไปนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลห้วยพลู ต่อมาในวันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2542 อาการของหลวงพ่อยัง ไม่ดีขึ้นระบบการทำงานต่าง ๆ ของร่างกาย เริ่มไม่มีประสิทธิภาพ รุ่งเช้าวันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2542 เวลาประมาณ 08.45 น. หลวงพ่อได้จากพวกเราไปด้วยอาการอันสงบ คณะศิษยานุศิษย์ได้นำศพของหลวงพ่อกลับมายังวัดกลางบางพระและได้รับพระราชทานน้ำสรงศพ จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2542 เวลา 17.00 น. อย่างสมเกียรติท่ามกลางความอาลัยของคณะศิษยานุศิษย์ สิริรวมอายุของหลวงพ่อได้ 88 ปี 2 เดือน 8 วัน

จากคุณงามความดีที่ท่านได้สร้างสมปฏิบัติมา จึงได้รับพระราชทานสมศักดิ์ตามลำดับ คือ
1. ได้รับพระราชทานเป็นพระครูชั้นประทวน ในนามพระครูพุฒ สุน?ทโร เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2509 อายุ 54 ปี พรรษา 20
2. ได้รับพระราชทานเป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นตรี ในนามพระครูสุนทรวุฒิคุณ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2513 อายุ 58 ปี พรรษา 24
3. ได้รับพระราชทานเป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโท เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2518 อายุ 63 ปี พรรษา 29
4. ได้รับพระราชทานเป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นเอก เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2534 อายุ 80 ปี พรรษา 45
5. ได้รับตราตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์จากสมเด็จพระพุทธโฆษจารย์ เจ้าคณะใหญ่หนกลาง เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2536 อายุ 82 ปี พรรษา 47

วัตถุมงคลที่ท่านสร้างไว้มีมากแต่ที่จะพอนำมากล่าวได้ก็คือ
- เหรียญรุ่นแรก สร้างเมื่อ พ.ศ. 2505 แจกเปิดโรงเรียนวัดกลางบางพระ เมื่อวันที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2509 เป็นเหรียญรูปทรงเสมาหลวงพ่อหน้าตรงครึ่งองค์ เห็นสังฆาฏิทำด้วยสตางค์แดงผสมทองแดง และอีกชนิดหนึ่งทำด้วยทองเหลืองฝาบาตร ซึ่งเป็นพิมพ์เดียวกัน หน้าเหรียญเขียนว่า “พระอธิการพุฒ สุน?ทโร” ซึ่งในปัจจุบันหายากพอสมควร
- เหรียญรุ่นที่สองสร้างเมื่อ พ.ศ. 2513 เมื่อครั้งรับพระราชทานเป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นตรี เป็นเหรียญเต็มองค์นั่งขัดสมาธิ เขียนใต้ฐานว่า “พระครูสุนทรวุฒิคุณ” บนเขียนว่าวัดกลางบางพระ
- เหรียญรุ่นที่สามเป็นเหรียญเสมา สร้างเมื่อ พ.ศ. 2522 เป็นเหรียญรูปหล่อหลวงพ่อครึ่งองค์ สร้างเป็นที่ระลึกในงานฉลองพระครูสัญญาบัตรชั้นโท
- เหรียญรุ่นที่สี่เป็นเหรียญกลมหลวงพ่อครึ่งองค์ด้านหลังเป็นหนังสือ สร้างเมื่อ พ.ศ. 2528
- เหรียญรุ่นที่ห้าเป็นเหรียญเสมารูปหลวงพ่อเต็มองค์ นั่งถือไม้เท้า ด้านหลังเขียน “ที่ระลึกในงานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นชั้นเอก” สร้างเมื่อ พ.ศ. 2533
- เหรียญรุ่นที่หกเป็นเหรียญเสมาหลวงพ่อเต็มองค์นั่งทับปืนและลูกระเบิด ซึ่งเป็นเหรียญยอดนิยมที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “เหรียญปืนไขว้” หรือ “เหรียญนั่งทับปืน” สร้างเมื่อ พ.ศ. 2533
- เหรียญรุ่นที่เจ็ดเป็นเหรียญเสมารูปหลวงพ่อครึ่งองค์ด้านหน้าเขียนว่า “หลวงพ่อพุฒ อายุ 80 ปี” สร้างเมื่อ พ.ศ. 2533
- เหรียญรุ่นที่แปดเป็นเหรียญรูปไข่หลวงพ่อนั่งเต็มองค์ถือไม้เท้า ด้านหลังเขียนว่า “ที่ระลึกในงานฉลองพระเกตุจุฬามณี” สร้างเมื่อ พ.ศ. 2534
- เหรียญรุ่นที่เก้าเป็นเหรียญเสมาหล่อปืนไขว้ “นั่งทับปืน” มีทั้งเนื้อเงิน เนื้อนวะ และเนื้อทองแดง สร้างเมื่อ พ.ศ. 2533
- เหรียญรุ่นที่สิบเป็นเหรียญกงจักรหลวงพ่อนั่งทับปืน สร้างเมื่อ พ.ศ. 2533
- นอกจากนี้ยังมีวัวธนูบูชาและห้อยคอ ราหูอมจันทร์ แกะจากกะลาตาเดียวทั้งที่เป็นลูกและห้อยคอ พระผงรุ่นต่าง ๆ ตะกรุด สี และอื่น ๆ อีกมากที่หลวงพ่อท่านได้สร้างไว้ให้ลูกศิษย์ได้บูชา
ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
พระนางพญาหลวงพ่อพุฒวัดกลางบางพระให้บูชา 100 บาทค่าจัดส่ง 30 บาท ระบบflashหรือ j&t หรือ kerry
เหรียญท้าว เว ส สุวรรณ วัดจุฬามณี ปี 63
เหรียญท้าว เว ส สุวรรณ วัดจุฬามณี ปี 63
เหรียญท้าว เว ส สุวรรณ วัดจุฬามณี ปี 63

 

ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์จอมขมังเวทย์ มีวิชาไสยเวทย์แก่กล้า มีวาจาสิทธิ์ บรรลุญาณสมาบัติชั้นสูง บริสุทธิ์ ผ่องแผ้วทั้งทางโลกและทางธรรมปฏิปทาน่าเลื่อมใส ถือมักน้อยสันโดด และเคร่งครัดในพระธรรมวินัย มีเมตตาเอื้ออาทรปฏิบัติต่อพุทธศาสนิกชน ที่มานมัสการอย่างเสมอกัน ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง เป็นที่ศรัทธาเลื่อมใสของพุทธศาสนิกชนหลายจังหวัด เช่น อ่างทอง สิงห์บุรี ลพบุรี อยุธยา สุพรรณบุรี นครปฐม กาญจนบุรี และราชบุรี เป็นพระสุปฏิปัณโนรูปหนึ่งที่กราบได้อย่างสนิทใจ ด้านไสยเวทย์พุทธาคมได้รับการถ่ายทอดและสืบสายจากหลวงพ่อบัว วัดแสวงหา จ.อ่างทอง หลวงพ่อชั้น เกสโร วัดบางละแก อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี หลวงพ่อคำ วัดหน่อพุทธางกูร จ.สุพรรณบุรี หลวงพ่อแต้ม วัดพระลอย จ.สุพรรณบุรี ล้วนเป็นเกจิอาจารย์จอมขมังเวทย์และมีชื่อเสียงวัตถุมงคลได้รับความนิยมสูงชาติภูมิ หลวงพ่อเกลื่อนมีนามเดิมว่า เกลื่อน ประสารทรัพย์ ถือกำเนิดเมื่อวันจันทร์ที่ 17 มีนาคม พ.ศ.2467 (ปีกุน) เป็นบุตรคนโตในจำนวนทั้งหมด 2 คน คือ 1.หลวงพ่อเกลื่อน 2.นางบุญมา ของโยมพ่อกลั่น โยมแม่ง้อ ณ บ้าน รางฉนวน ต.วังน้ำเย็น อ.แสวงหา จ.อ่างทอง การศึกษาจบ ป.4 ที่โรงเรียนวัดข่อย อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง เมื่อจบแล้วได้มาช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพในด้านเกษตรกรรม

อุปสมบท ณ พัทธสีมา วัดแสวงหา เมื่อปี พ.ศ.2491 โดยมีพระครูปัญญาสารคณี (หลวงพ่อบัว) เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า คุตธมฺโม ศึกษาพุทธาคม เมื่ออุปสมบทแล้ว ได้อยู่รับใช้หลวงพ่อบัวอยู่ 2 พรรษา ก็ได้ลาท่านมาจำพรรษาอยู่วัดรางฉนวน ได้เรียนนักธรรม สอบได้นักธรรมเอก ในพรรษาที่ 5 หลวงพ่อเกลื่อนได้เริ่มเดินทางไปกลับวัดแสวงหา ได้ไปศึกษาวิชาไสยเวทย์วิปัสสนากรรมฐาน ทำสมาธิบรรจุพลังบรรจุอาคมการหนุนธาตุจากหลวงพ่อบัว ตามตำราวิชาสายหลวงปู่ศรี วัดพระปรางค์ อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี ซึ่งท่านเป็นสุดยอดปรมาจารย์ที่เข้มขลังที่สุดและโด่งดังมากในยุคนั้น ตะกรุดดอกละหลายหมื่น ได้ชื่อว่าเทพเจ้าไสยเวทย์แห่งลุ่มแม่น้ำน้อย หลวงพ่อแพร วัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี ก็ได้รับการถ่ายทอดวิชาจากหลวงปู่ศรีเช่นกัน ที่จริงแล้วหลวงพ่อบัว ท่านเป็นหลานแท้ ๆ ของหลวงปู่ศรีได้รับการถ่ายทอดวิชามาครบถ้วนภายหลังหลวงพ่อบัว ถูกนิมนต์มาเป็นเจ้าอาวาสวัดแสวงหา จ.อ่างทอง หลวงพ่อบัวก็ได้ถ่ายทอดวิชาให้หลวงพ่อเกลื่อนทั้งหมดเช่นกัน
อยู่รับใช้หลวงพ่อบัวอยู่ 2 พรรษา ก็ได้ลาท่านมาจำพรรษาอยู่วัดรางฉนวน ได้เรียนนักธรรม สอบได้นักธรรมเอก ในพรรษาที่ 5 หลวงพ่อเกลื่อนได้เริ่มเดินทางไปกลับวัดแสวงหา ได้ไปศึกษาวิชาไสยเวทย์วิปัสสนากรรมฐาน ทำสมาธิบรรจุพลังบรรจุอาคมการหนุนธาตุจากหลวงพ่อบัว ตามตำราวิชาสายหลวงปู่ศรี วัดพระปรางค์ อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี ซึ่งท่านเป็นสุดยอดปรมาจารย์ที่เข้มขลังที่สุดและโด่งดังมากในยุคนั้น ตะกรุดดอกละหลายหมื่น ได้ชื่อว่าเทพเจ้าไสยเวทย์แห่งลุ่มแม่น้ำน้อย หลวงพ่อแพร วัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี ก็ได้รับการถ่ายทอดวิชาจากหลวงปู่ศรีเช่นกัน ที่จริงแล้วหลวงพ่อบัว ท่านเป็นหลานแท้ ๆ ของหลวงปู่ศรีได้รับการถ่ายทอดวิชามาครบถ้วนภายหลังหลวงพ่อบัว ถูกนิมนต์มาเป็นเจ้าอาวาสวัดแสวงหา จ.อ่างทอง หลวงพ่อบัวก็ได้ถ่ายทอดวิชาให้หลวงพ่อเกลื่อนทั้งหมดเช่นกัน
เมื่อได้เรียนวิชาจาก หลวงพ่อบัว แล้วได้เดินทางไปขอศึกษาไสยเวทย์จาก หลวงพ่อคำ จนฺทโชโต วัดหน่อพุทธางกูร อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี หลวงพ่อคำเป็นอาจารย์เข้มขลังในไสยเวทย์ที่นับว่าเก่งมากองค์หนึ่งของสุพรรณบุรี เหรียญรุ่นแรกของท่านถูกยกย่องว่าเหนียวอยู่ยงคงกระพันที่สุดเหรียญหนึ่ง ยอดเกจิอาจารย์ต้นถึงพุทธกาลจากนั้นประมาณพรรษาที่ 14 ได้ไปจำพรรษาอยู่ที่วัดพระลอย ต.ลั้วใหญ่ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี ได้ขอศึกษาพุทธาคมจากพระครูประภัตรธรรมาภรณ์ (หลวงพ่อแต้ม) ซึ่งหลวงพ่อแต้มได้สืบทอดวิชาสายหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค จ.อยุธยา มีความเชี่ยวชาญด้านยันต์เกาะเพชร เหรียญรุ่น ๑ เป็นเหรียญดังของจังหวัดสุพรรณบุรีเช่นกัน ประสบการณ์มากมาย ค่านิยมเหรียญละหลายพันบาท เมื่อได้เรียนจากหลวงพ่อแต้ม แล้วก็ได้ไปเรียนวิชาไสยเวทย์จากหลวงพ่อชื้น วัดบางสะแก อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี


เรื่องบุญฤทธิ์และพลังแห่งจิตที่ปรากฏ
เรื่องอบายมุข และเรื่องดื่มสุราของเมาในเขตศาสนาสถานภายในวัดท่านจะห้ามเด็ดขาดในขั้นแรกท่านจะสอนว่ากล่าวตักเตือน ถ้าไม่เชื่อฟังท่านจะไล่ให้ออกไปจากเขตวัด หายปีที่ผ่านมาจังหวัดอ่างทองและอำเภอต่าง ๆ ในยุคนั้นโจรผู้ร้ายชุกชุม ตำรวจได้มาตั้งหน่วยปราบปรามอยู่ในพื้นที่วัดรางฉนวน ได้มีตำรวจปราบปรามท่านหนึ่งชื่อ จ่าทร แสงรุ่ง บ้านอยู่หมู่3 ต.ศรีบัวทอง อ.แสวงหา จ.อ่างทอง ได้มาสังกัดอยู่ที่สถานีปราบปรามภายในวัด พอตกเย็นก็ดื่มสุราจนเมามาย หลวงพ่อเกลื่อนทราบเข้าก็ไปว่ากล่าวตักเตือน แต่จ่าทร เป็นคนดื้อไม่เคยยอมใคร กลับนำเอาสุรามาเลี้ยงกันภายในวัดหนักยิ่งขึ้น มีเรื่องทะเลาะกับชาวบ้านและลูกเมียชาวบ้าน หลวงพ่อเกลื่อนได้ขับไล่ให้ออกไปจากวัด จ่าทรโกรธมากและกำลังเมาได้แบกปืนเล็กยาววิ่งมายังกุฏิหลวงพ่อจะยิงหลวงพ่อ หลวงพ่อกลัวว่า ถ้าจะยิงอาตมา ให้ยิงต้นสะเดาต้นนี้ก่อนพร้อมทั้งชี้นิ้วไปที่ต้นสะเดาข้างกุฏิ จ่าทรหันปืนแล้วยิงไปที่ต้นสะเดาจริง ๆ ปรากฏว่าปากกระบอกปืนแตกเป็น 2 ซีก จ่าทรตกตลึงถึงกับเข่าอ่อน ทิ้งปืน ทรุดตัวลงคุกเข่าแล้วค่อย ๆ คลายเข้าไปกราบขอขมาหลวงพ่อ เรื่องนี้ชาวบ้านที่อยู่ข้างวัดทราบรายละเอียดดี
ท่านหนึ่งได้มาขออาบน้ำมนต์ บนให้หลวงพ่อฟังว่า ภาวะตลาดข้าวไม่ดี ทำโรงสีขาดทุน เป็นหนี้ธนาคาร 10 กว่าล้าน มาให้หลวงพ่อช่วยอาบน้ำมนต์ชำระล้างสิ่งที่ไม่ดีทั้งหลายให้หมดไป และว่าถ้าโชคดีหลุดหนี้จะมาทำบุญช่วย หลวงพ่อสร้างศาลา หลวงพ่อได้นั่งหลับตาสักครู่ แล้วก็ทำน้ำมนต์อาบให้ พอหลวงพ่อรดน้ำมนต์เสร็จทานก็กล่าวว่า ต้นเดือนหน้าเอ็งจะมีลาภได้เงินก้อนใหญ่ อยู่ที่กล้าแค่ไหน เถ้าแก่โรงสีผู้นั้นคุยว่า กลับไปนอนคิดพิจารณาว่าภาวะอย่างนี้ข้าวก็ตุนไม่ได้ จะมีลาภจริงก็ต้องเสี่ยงซื้อสลากกินแบ่งและหวยใต้ดิน ด้วยแรงศรัทธาหลวงพ่อเกิดความมั่นใจได้ซื้อสลากทั้ง 2 อย่างได้ถูกเป็นเงินถึง 30 ล้านบาท

ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
พระผงหลวงพ่อเกลื่อนวัดรางฉนวนให้บูชา 100 บาทค่าจัดส่ง 30 บาทระบบฝากซื้อ j&t หรือ kerry

เหรียญท้าว เว ส สุวรรณ วัดจุฬามณี ปี 63
เหรียญท้าว เว ส สุวรรณ วัดจุฬามณี ปี 63
เหรียญท้าว เว ส สุวรรณ วัดจุฬามณี ปี 63