Home
Blog
ข้อหารือภาษีอากร
เลขที่หนังสือ กค 0702/พ./7621 ภาษีมูลค่าเพิ่ม
กรณีการออกใบกำกับภาษีตามคำพิพากษาศาลฏีกา
เลขที่หนังสือ
| : กค 0702/พ./7621
|
วันที่
| : 24 พฤศจิกายน 2560
|
เรื่อง
| : ภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีการออกใบกำกับภาษีตามคำพิพากษาศาลฏีกา
|
ข้อกฎหมาย
| : มาตรา 77/1 (8) 78,86/4 86/4(5), 89 89 (5), 90/2 (3) แห่งประมวลรัษฎากร
|
ข้อหารือ
| (1) บริษัทฯ ประกอบกิจการขาย ติดตั้ง และบริการบำรุงรักษาลิฟท์ และบันไดเลื่อน บริษัทฯ ได้ทำสัญญาซื้อขายวัสดุอุปกรณ์งานระบบไฟฟ้า สื่อสาร สุขาภิบาล และระบบป้องกันอัคคีภัย เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2537 ราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว จำนวน 162,651,610 บาท ซึ่งลูกค้าได้ชำระเงินให้บริษัทฯ เพียงบางส่วน ส่วนที่ลูกค้าค้างชำระ บริษัทฯ ได้ฟ้องศาลเพื่อบังคับให้ชำระหนี้ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2541
และคดีดังกล่าวได้ถึงที่สุดแล้วตามคำพิพากษาศาลฎีกาที่ พิพากษาให้ลูกค้าชำระหนี้พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี (2) ในการขายสินค้าดังกล่าว บริษัทฯ ไม่ได้ออกเอกสารใบกำกับภาษีให้กับลูกค้า ณ วันส่งมอบสินค้าในปี 2540 ถึงปี 2541 โดยบริษัทฯ ได้ออกเพียงใบแจ้งหนี้ให้ลูกค้า จำนวน 15 ฉบับ เพื่อขอรับชำระเงินค่าวัสดุอุปกรณ์ และภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราร้อยละ 10 เนื่องจากบริษัทฯ เข้าใจว่า บริษัทฯ
ต้องออกใบกำกับภาษีให้กับลูกค้าเมื่อลูกค้าชำระเงิน ต่อมาในปี 2543 บริษัทฯ ถูกกรมสรรพากรประเมินภาษีมูลค่าเพิ่มในประเด็นที่บริษัทฯ ไม่ได้ออกใบกำกับภาษีในขณะที่ความรับผิดในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มเกิดขึ้นระหว่างเดือนภาษีมกราคม 2539 ถึงเดือนภาษีพฤษภาคม 2543 ซึ่งบริษัทฯ ได้ชำระภาษีที่ขาดพร้อมเงินเพิ่มเสร็จสิ้นเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2544 ต่อมา เมื่อลูกค้าได้ชำระเงินตามคำพิพากษาตาม 1. ในวันที่ 25 มกราคม 2560 จำนวน 64,836,256.07 บาท บริษัทฯ จึงได้ออกหลักฐานใบเสร็จรับเงิน โดยไม่ได้ออกใบกำกับภาษีให้แก่ลูกค้า
บริษัทฯ จึงหารือว่า บริษัทฯ สามารถออกใบกำกับภาษีหลังจากถูกกรมสรรพากรประเมินภาษีมูลค่าเพิ่มในประเด็นที่บริษัทฯ ไม่ได้ออกใบกำกับภาษีในขณะที่ความรับผิดในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มเกิดขึ้นได้หรือไม่ อย่างไร
|
แนววินิจฉัย
| กรณีบริษัทฯ ซึ่งเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มขายวัสดุอุปกรณ์งานระบบไฟฟ้า สื่อสาร สุขาภิบาล และระบบป้องกันอัคคีภัยให้แก่ลูกค้า เข้าลักษณะเป็นการขายสินค้าตามมาตรา 77/1 (8) แห่งประมวลรัษฎากร บริษัทฯ มีหน้าที่ต้องออกใบกำกับภาษีให้แก่ลูกค้าทุกครั้งและต้องจัดทำในทันทีที่ความรับผิดในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มเกิดขึ้นตามมาตรา 78 และมาตรา 86 แห่งประมวลรัษฎากร หากบริษัทฯ
มิได้จัดทำในทันทีที่ความรับผิดในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มเกิดขึ้น บริษัทฯ ต้องรับผิดเสียเบี้ยปรับตามมาตรา 89(5) แห่งประมวลรัษฎากร และต้องระวางโทษตามมาตรา 90/2 (3) แห่งประมวลรัษฎากร กรณีบริษัทฯ ถูกเจ้าพนักงานประเมินภาษีมูลค่าเพิ่ม เบี้ยปรับ และเงินเพิ่มจากฐานความผิดที่ไม่ได้ออกใบกำกับภาษีเมื่อความรับผิดในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มเกิดขึ้น ซึ่งบริษัทฯ ได้ชำระตามที่เจ้าพนักงานประเมินไปแล้ว บริษัทฯ จึงไม่จำต้องออกใบกำกับภาษีอีก อย่างไรก็ดี หากลูกค้าได้ชำระภาษีมูลค่าเพิ่มให้บริษัทฯ บริษัทฯ
ย่อมมีสิทธิออกใบกำกับภาษีตามมาตรา 86 และมาตรา 86/4 แห่งประมวลรัษฎากร ให้แก่ลูกค้าตามจำนวนภาษีมูลค่าเพิ่มที่ลูกค้าได้ชำระ โดยใบกำกับภาษีดังกล่าวต้องมีรายการ ชื่อ ชนิด ประเภท ปริมาณ และมูลค่าของสินค้า ณ วันที่ความรับผิดในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มเกิดขึ้นสำหรับการขายสินค้าในแต่ละครั้งให้ถูกต้องครบถ้วนตามมาตรา 86/4 (5) แห่งประมวลรัษฎากร
|
เลขตู้
| : 80/40495
|
ขอบคุณบทความจาก :: https://www.rd.go.th
เลขที่หนังสือ
|
:
| กค 0702/2805
|
|
|
|
วันที่
|
:
| 4 เมษายน 2555
|
|
|
|
เรื่อง
|
:
| ภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีขอหารือเกี่ยวกับการเป็นผู้ออกและใช้ใบกำกับภาษีโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
|
|
|
|
ข้อกฎหมาย
|
:
| มาตรา 82/5(5) มาตรา 86 มาตรา 89(6) และมาตรา 90/4(3) แห่งประมวลรัษฎากร
|
|
|
|
ข้อหารือ
|
:
|
1.
| บริษัทฯ นำใบกำกับภาษีซื้อที่ออกโดยผู้ประกอบการที่ไม่ได้มีการประกอบกิจการจริง ไปใช้ในการเครดิต ภาษีและบริษัทฯ ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่า บุคคลใดเป็นผู้ออกใบกำกับ ใบกำกับภาษีซื้อดังกล่าวถือว่าเป็นใบกำกับภาษี ที่ออกโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
|
|
| 2.
| บริษัทฯ ออกใบกำกับภาษีขาย โดยไม่มีการซื้อสินค้าจากบริษัทฯ และไม่มีการนำใบกำกับภาษีไปใช้เครดิตภาษี แต่บริษัทฯ ได้นำมูลค่าในใบกำกับภาษีนั้นไปเป็นฐานในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม การกระทำของบริษัทฯ เป็นกรณี กระทำความผิดและมีโทษในทางแพ่งและทางอาญา
|
|
|
|
|
แนววินิจฉัย
|
:
|
1.
| กรณีเจ้าพนักงานสรรพากรได้สอบยันใบกำกับภาษีซื้อของบริษัทฯ แล้วพบว่า บริษัทฯ นำใบกำกับภาษีซื้อ ที่ออกโดยบริษัท ธ. ซึ่งสำนักงานสรรพากรพื้นที่กรุงเทพมหานคร ได้มีหนังสือลงวันที่ 6 ตุลาคม 2553 แจ้งว่า บริษัท ธ. ไม่มีการประกอบกิจการใดๆ และมีพฤติการณ์เป็นผู้ออกใบกำกับภาษีขายโดยมิชอบด้วยกฎหมาย และสำนักงานสรรพากรพื้นที่ปทุมธานี ได้มีหนังสือลงวันที่ 5 พฤศจิกายน 2553 แจ้งว่า บริษัท อ. มีพฤติการณ์เป็นผู้ออกใบกำกับภาษี โดยมิชอบด้วยกฎหมาย ออกใบกำกับภาษีขายโดยไม่มีการซื้อ - ขายสินค้าจริง
ดังนั้นกรณีบริษัทฯ นำใบกำกับภาษีของ บริษัททั้งสองรายดังกล่าวไปถือเป็นภาษีซื้อในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามมาตรา 82/3 แห่งประมวลรัษฎากร โดยไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่ามีการซื้อสินค้าและมีการชำระเงินค่าสินค้าจริง บริษัทฯ ต้องรับผิดชำระภาษีพร้อมเบี้ยปรับตามมาตรา 89(3)(4) และ(7) แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบกับคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป.81/2542 เรื่อง การคำนวณเบี้ยปรับ หรือเงินเพิ่มภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 89 และมาตรา 89/1 แห่งประมวลรัษฎากร ลงวันที่ 24 มกราคม พ.ศ.2542 และต้องเสียเงินเพิ่มอีกร้อยละ 1.5 ต่อเดือน
หรือเศษของเดือนของเงินภาษีที่ต้องชำระตามมาตรา 89/1 แห่งประมวลรัษฎากร และมีความผิดอาญาตามมาตรา 90/4(7) แห่งประมวลรัษฎากร
|
|
| 2.
| กรณีบริษัทฯ ออกใบกำกับภาษีขายโดยไม่มีการซื้อสินค้าจากบริษัทฯ จริง และบริษัทฯ ได้นำมูลค่าใน ใบกำกับภาษีขายนั้นไปเป็นฐานในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม ถือว่าบริษัทฯ เป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนออกใบกำกับภาษี โดยไม่มีสิทธิที่จะออกตามกฎหมายตามมาตรา 86/13 แห่งประมวลรัษฎากร ต้องเสียเบี้ยปรับสองเท่าของจำนวนภาษีตาม ใบกำกับภาษีตามมาตรา 89 (6) แห่งประมวลรัษฎากร และเป็นความผิดอาญาตามมาตรา 90/4 (3) แห่งประมวลรัษฎากร
|
|
| 3.
| กรณีการกระทำความผิดตาม 1. และ 2. กรรมการผู้จัดการ ผู้จัดการ หรือผู้แทนของนิติบุคคลนั้น ต้องรับโทษที่ บัญญัติไว้สำหรับความผิดนั้นๆ ด้วย เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าตนมิได้ยินยอมหรือมีส่วนในการกระทำความผิดของนิติบุคคลนั้น ตามมาตรา 90/5 แห่งประมวลรัษฎากร
|
|
|
|
|
เลขตู้
|
:
| 75/38087
|