การสืบค้นข้อมูลโดยใช้สารบบเว็บ web directory

เครื่องมือค้นหา

ความหมายของSearch Engine

Search Engine คือเครื่องมือการค้นหาข้อมูลผ่านอินเตอร์เน็ตที่ทุกคนสามารถหาข้อมูลผ่านอินเตอร์เน็ตก็ได้โดยกรอกข้อมูลที่ต้องการค้นหาหรือคำค้นหา (คีย์เวิร์ด) เข้าไปที่ช่องค้นหากล่องแล้วกด Enter ข้อมูลที่เราค้นหาก็จะถูกแสดงออกมาอย่างมากมายเพื่อ ให้เราเลือกข้อมูลตรงกับความต้องการของเรามากที่สุดโดยลักษณะการแสดงผลของ Search Engine นั้นจะทำการแสดงผลแบบเรียงอันดับผลการค้นหาผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์

ประเภทของ Search Engine

Search Engine มี 3 ประเภท (ในวันที่ทำการศึกษาข้อมูลนี้และได้ทำการรวบรวมข้อมูลสรุปได้ 3 ประเภทหลัก) โดยมีหลักการทำงานที่ต่างกันและการจัดอันดับการค้นหาข้อมูลก็ต่างกันด้วยเพราะมีลักษณะการทำงานที่ต่างกันนี่เอง ทำให้โดยทั่ว ๆ ไปแล้วจะมีการแบ่งออกเป็นหลาย ๆ ประเภทด้วยกัน แต่ที่พอสรุปได้ก็มีเพียง 3 ประเภทหลัก ๆ ดังที่จะนำเสนอต่อไปนี้

ประเภทที่ 1 ตีนตะขาบจากเครื่องมือค้นหา

ตีนตะขาบจากเครื่องมือค้นหาคือเครื่องมือการค้นหาบนอินเตอร์เน็ตแบบอาศัยการบันทึกข้อมูลและจัดเก็บข้อมูลเป็นหลักซึ่งจะเป็นจำพวก Search Engine ที่ได้รับความนิยมสูงสุดเนื่องจากให้ผลการค้นหาแม่นยำที่สุดและการประมวลผลการค้นหาสามารถทำได้อย่างรวดเร็ว จึงทำให้มีบทบาทในการค้นหาข้อมูลมากที่สุดในปัจจุบัน

โดยมีองประกอบหลักเพียง 2 ส่วนด้วยกันคือ
1 ฐานข้อมูลโดยส่วนใหญ่แล้วตีนตะขาบจาก Search Engine เหล่านี้จะมีฐานข้อมูลเป็นของ ตัวเองที่มีระบบการประมวลผลและการจัดอันดับที่เฉพาะเป็นเอกลักษณ์ของตนเองอย่างมาก
2 ซอฟแวร์คือเครื่องมือหลักสำคัญ ที่สุดอีกส่วนหนึ่งสำหรับ Serch เครื่องยนต์ประเภทนี้เนื่องจากต้องอาศัยโปรแกรมเล็ก ๆ (ชนิดที่เรียกว่าจิ๋ว แต่แจ๋ว) ทำหน้าที่ในการตรวจหาและทำการ จัดเก็บข้อมูลหน้าเพจหรือเว็บไซต์ต่าง ๆ ในรูปแบบของการทำสำเนาข้อมูล เหมือนกับต้นฉบับทุกอย่างซึ่งเราจะรู้จักกันในนาม Spider หรือ Web Crawler หรือ Search Engine Robots
ตัวอย่างหนึ่งของตีนตะขาบจาก Search Engine ชื่อดัง http://www.google.com

ประเภทที่ 2 Web Directory หรือบล็อกไดเรกทอรี

สารบบเว็บหรือบล็อกไดเรกทอรีคือสารบัญเว็บไซต์ที่ให้คุณสามารถค้นหาข่าวสารข้อมูลด้วยหมวดหมู่ข่าวสารข้อมูลที่เกี่ยวข้องกันในปริมาณมาก ๆ คล้าย ๆ กับสมุดหน้าเหลืองครับซึ่งจะมีการสร้างดรรชนีมีการระบุหมวดหมู่อย่างชัดเจนซึ่งจะช่วย ให้การค้นหาข้อมูลต่าง ๆ ตามหมวดหมู่นั้น ๆ ได้รับการเปรียบเทียบอ้างอิงเพื่อหาข้อเท็จจริงได้ในขณะที่เราค้นหาข้อมูลเพราะว่าจะมีเว็บไซต์มากมายหรือ Blog มากมายที่มีเนื้อหาคล้าย ๆ กันในหมวดหมู่เดียวกันให้เราเลือกที่จะหา ข้อมูลได้อย่างตรงประเด็นที่สุด (ลดระยะเวลาได้มากในการค้นหา) ซึ่งจะขอยกตัวอย่างดังนี้

โอสารบบเว็บชื่อดังของโลกที่มี Search Engine มากมายใช้เป็นฐานข้อมูลสารบบ

1. ODP หรือ Dmoz ที่หลาย? ๆ คนรู้จักซึ่งเป็น Web Directory ที่ใหญ่ที่สุดในโลก Search Engine หลาย ๆ แห่งก็ใช้ข้อมูลจากที่ แห่งนี้เกือบทั้งสิ้นเช่น Google, AOL, Yahoo, Netscape และอื่น ๆ อีกมากมาย ODP มีการบันทึกข้อมูลประมาณ 80 ภาษาทั่วโลกรวม ถึงภาษาไทย
(URL: http://www.dmoz.org)

2. สารบัญเว็บไทย Sanook ก็เป็น Web Directory ที่มีชื่อเสียงอีกเช่นกันและเป็นที่รู้จักมากที่สุดในเมืองไทย

(URL: http://webindex.sanook.com)

3. บล็อกไดเรกทอรีอย่าง BlogFlux ไดเรกทอรีที่มีการเก็บข้อมูลเกี่ยวกับบล็อกมากมายตามหมวดหมู่ต่างๆหรือบล็อกไดเรกทอรีอื่น ๆ ที่สามารถหาได้จาก Make แห่งนี้จำนวนมาก

ประเภทที่ 3 Meta Search Engine

Meta Search Engine คือ Search Engine ที่ใช้หลักการในการค้นหาโดยอาศัยเมตาแท็กในภาษา HTML ซึ่งมีการประกาศชุดคำสั่งต่าง ๆ เป็นรูปแบบของ Tex แก้ไขด้วยภาษา HTML นั่นเองเช่นชื่อผู้พัฒนาคำค้นหาเจ้าของเว็บหรือบล็อก คำอธิบายเว็บหรือบล็อกอย่างย่อ

ผลการค้นหาของ Meta Search Engine นี้มักไม่แม่นยำอย่างที่คิดเนื่องจากบางครั้งผู้ให้บริการหรือผู้ออกแบบเว็บสามารถใส่อะไรเข้าไปก็ได้มากมายเพื่อให้เกิดการค้นหาและพบเว็บหรือบล็อกของตนเองและอีกประการหนึ่งก็คือมีก ารอาศัย Search Engine เซิร์ฟเวอร์ดัชนีหลาย? ๆ แห่งมาประมวลผลรวมกันจึงทำให้ผลการค้นหาข้อมูลต่าง ๆ ไม่เที่ยงตรงเท่าที่ควร

มาถึงตอนนี้หลาย ๆ ท่านที่เคยสงสัยว่า “Search Engine คืออะไร” คงได้หายสงสัยกันไปบ้างแล้วและเริ่มเข้าใจหลักการทำงานของ Search Engine กันมากขึ้นเพื่อจะได้เลือกใช้อย่างถูกต้องและตรงกับความต้องการของ เราในการค้นหาข่าวสารข้อมูลสำหรับบทความ “Search Engine คืออะไร” นี้หากขาดตกบกพร่องประการใดหรือไม่ได้รับข้อมูลที่ชัดเจนท่านสามารถติชมหรือให้ข้อเสนอแนะต่าง ๆ ผ่านความคิดเห็นของบทความชุดนี้เพื่อจะได้ทำการปรับปรุงและ แก้ไขให้ได้ข้อมูลที่ดีที่สุดและเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่ทำการค้นคว้างข้อมูลต่าง ๆ เพื่อนำไปใช้งาน

ลักษณะการทำงานของ Search Engine  

ประกอบไปด้วย 3 ส่วนหลัก ๆ คือ

1 แมงมุมหรือเว็บหุ่นยนต์จะเป็นตัวที่ทำหน้าที่เข้าสำรวจเว็บไซต์ต่างๆแล้วดึงข้อมูลเหล่านั้นมาอัพเดทใส่ในรายการฐานข้อมูลส่วนมากแมงมุมมักจะเข้าไปอัพเดทข้อมูลเป็นรายเดือน

2 ฐานข้อมูล (Database) เป็นส่วนที่เก็บรายการเว็บไซต์ฐานข้อมูลที่ดีควรจะมีขนาดใหญ่เพียงพอที่จะรองรับกับการเติบโตของเว็บไซต์ในปัจจุบันการออกแบบฐานข้อมูลที่ดีก็เป็นส่วนสำคัญเพราะถ้าฐานข้อมูลออกแบบมาทำ งานช้าก็ทำให้การรอผลนานและจะไม่ได้รับความนิยมไปในที่สุด

3. โปรแกรม Search Engine มีหน้าที่รับคำหรือข้อความที่ผู้ใช้งานป้อนเข้ามาแล้วเข้าค้นหาตามเว็บไซต์ต่างๆที่จัดเก็บไว้ในฐานข้อมูลจากนั้นก็จะรายงานผลเว็บไซต์ที่ค้นพบให้กับผู้ใช้การสืบค้นด้วยวิธีนี้นอกจาก จะต้องมีระบบการสืบค้นข้อมูลที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพแล้วการกลั่นกรองผลที่ได้เพื่อให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้ก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่สำคัญของการสืบค้นข้อมูล

ดังนั้นการเลือกใช้เครื่องมือในการค้นหาจะต้องเข้าใจว่าข้อมูลที่ต้องการค้นหานั้นมีลักษณะอย่างไรมีขอบข่ายกว้างขวางหรือแคบขนาดไหนแล้วจึงเลือกใช้เว็บไซต์ค้นหาที่ให้บริการตรงกับความต้องการ

วิธีการทำงานของ Search Engine

โดยทั่วไปเว็บไซต์เครื่องมือค้นหาที่มีกระบวนการทำงาน (ซัลลิแวน, 2001) แบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอนคือ

ใช้โปรแกรมรวบรวมเอกสารเว็บ (แมงมุมหรือซอฟต์แวร์รวบรวมข้อมูล) สำรวจและอ่านหน้าเว็บจากโดเมนต่างๆ และหากพบการเชื่อมโยงก็จะทำการติดตามการเชื่อมโยงภายในเว็บไซต์จนครบซึ่งจากการทำงานในลักษณะโยงใยนี้จึงเป็นที่มาของ คำว่าแมงมุมหรือซอฟต์แวร์รวบรวมข้อมูลจาก นั้นแมงมุมจะนำข้อมูลเว็บดังกล่าวไปเก็บไว้ในฐานข้อมูลของ Search Engine และแมงมุมจะกลับไปตรวจสอบข้อมูล ในเว็บนั้น ๆ อย่างสม่ำเสมอเช่นทุก 1 หรือ 2 เดือนระเบียนเพื่อสำรวจความสามารถ เปลี่ยนแปลง
จัดทำรายการดรรชนี
ประเทศไทยข้อมูลที่โปรแกรมแมงมุมพบจะถูกทำ สำเนาและส่งมาจัดเก็บที่รายการดรรชนี (ดัชนีหรือแคตตาล็อก) ตามบัญชีดรรชนีที่ (มนุษย์) กำหนดไว้
หากประเทศไทยข้อมูลที่เว็บต้นฉบับมีหัวเรื่อง: การ เปลี่ยนแปลงประเทศไทย Thailand ข้อมูลในห้างหุ้นส่วนจำกัดห้างหุ้นส่วนจำกัดสมุดดรรชนีจะเปลี่ยนแปลงด้วย
โปรแกรมสืบค้น (ค้นหาซอฟต์แวร์เครื่องยนต์)
จะเป็นโปรแกรมส่วนที่ที่คุณคุณคุณผู้ใช้อินเทอร์เน็ตติดต่อเข้าใช้บริการ
จะทำหน้าที่ในห้างหุ้นส่วนจำกัดห้างหุ้นส่วนจำกัดหัวเรื่อง: การค้นคืนประเทศไทยข้อมูลจากเนชั่ฐานประเทศไทยข้อมูลของเครื่องมือ ค้นหา
จะเริ่มที่คุณคุณคุณต้นหัวเรื่อง: หัวเรื่อง: การทำงานเมื่อที่คุณคุณคุณผู้ใช้ป้อนคำค้น
โปรแกรมจะนำคำค้นของที่คุณคุณคุณผู้ใช้ไปจับคู่กับดรรชนีในห้างหุ้นส่วนจำกัดห้างหุ้นส่วนจำกัดฐานประเทศไทยข้อมูล
แล้วทำการดึงประเทศไทยข้อมูล (เอกสารเว็บ) ที่ตรงกับคำค้นออก มา
และจัดลำดับผลหัวเรื่อง: หัวเรื่อง: การค้นตามระดับความสามารถด้านเกี่ยวข้องที่โปรแกรมประเมินได้
เครื่องมือค้นหาแต่ละที่คุณคุณคุณตัวจะใช้ตรรกะที่แตกต่างกันไป
ตัวอย่าง arrow arrow หัวเรื่อง: การสร้างทางทหารในห้างหุ้นส่วนจำกัดหัวเรื่อง: การกำหนดค่าน้ำหนักให้กับคำ ดรรชนีของเครื่องมือค้นหาอาจจัดลำดับดังนี้ (แบรดลีย์, 2002)
1 จะให้ค่าน้ำหนักความเกี่ยวข้องกับคำ ค้นมากที่สุด (ตามที่มนุษย์ได้ตั้งค่าโปรแกรมไว้)
2 คำหรือวลีที่ปรากฏในองค์ประกอบเม ตาแท็ก (เป็นส่วนหนึ่งของการเขียนเอกสาร HTML)
3 คำหรือวลีที่ปรากฏในแท็ก ชื่อ (ปรากฏที่บรรทัดแรกของแถบชื่อเรื่อง)
4 คำหรือวลีที่ปรากฏในหัวข้อหลัก และหัวข้อย่อย (ข้อความที่เป็นขนาดใหญ่ขนาดรอง ในแต่ละหน้าเว็บ)
5 จำนวนครั้งที่คำหรือวลีปรากฏใน ส่วนเนื้อหาของเอกสาร
6 ความถี่ที่เว็บอื่น ๆ เชื่อมโยงเข้า มา (มีการตรวจสอบโดยใช้โปรแกรม)

ประโยชน์ของการค้นข้อมูลโดยใช้เครื่องมือค้นหา

1. ค้นหาเว็บที่ต้องการได้สะดวกรวดเร็ว
2 สามารถค้นหาแบบเจาะลึกได้ไม่ว่า จะเป็นรูปภาพ , ข่าว, MP3 อื่น ๆ และอีกมากมาย
ที่ 3 สามารถค้นหาจากเว็บไซต์เฉพาะทางที่มี การจัดทำไว้เช่น download.com เว็บไซต์เกี่ยว กับข้อมูลและซอร์ฟแวร์ เป็นต้น
4 มีความหลากหลายในการค้นหาข้อมูล
5 รองรับการค้นหาภาษาไทย

การสืบค้นข้อมูลโดยใช้สารบบเว็บ web directory

การใช้งาน Google ปัจจุบันการใช้งานอินเทอร์เน็ตจะปรากฏเว็บไซต์ให้เราสามารถเยี่ยมชมได้มากมายหลายประเภทและได้มีการบรรจุข้อมูลข่าวสารอยูใน่เว็บไซต์ต่าง ๆ ซึ่งถ้าเราต้องการค้นหาข้อมูลที่อยูใน่ระบบ Internet1 เราอาจใช้อุปกรณ์ เครื่องมือที่เรียกวาตัวค้นหา่ (Search Engine) โดยตัวค้นหา (ค้นหา Engire) นี้จะถูกบรรจุอยูใน่เว็บไซต์ต่าง ๆ เช่น http://www.google.com, http://www.yahoo.com, http://www.lycos COM ในเอกสารนี้จะแนะ นําถึงการใช้งานค้นหา (ค้นหา Engire) ของ http://www.google.com ซึ่งจําเป็นตัวค้นหา (ค้นหา Engire) (ฐานข้อมูล) ที่นิยมใช้มากสุดและมีฐานข้อมูลของเว็บไซต์ต่าง ๆ เป็นจํานวนมากซึ่งจะมี รูปแบบที่มีคําอธิบายการใช้งานเป็นภาษาไทยที่เว็บไซต์ http://www.google.co.th เมื่อเราพิมพ์ที่อยู่ http://www.google.co.th ลงในช่องแล้วกดบันทึกที่อยู่ใส่จะปรากฏหน้าแรกของเว็บไซต์ซึ่งจะ มีส่วนประกอบต่าง ๆ ดังรูป

การสืบค้นข้อมูลโดยใช้สารบบเว็บ web directory

รูปแสดงส่วนประกอบต่างๆในหน้าค้นหาของ http://www.google.co.th โดยที่มีส่วนประกอบต่างๆคือ 1) เป็นรูปแบบของ http://www.google.co.th 2) เป็นประเภทของการค้นหาวาให้ค้นหาข้อมูลที่อยู่ใน่เว็บ ( เว็บไซต์) 3) เป็นประเภทของการค้นหาวาให้ค้นหาข้อมูลที่เป็นรูปภาพ่ 4) เป็นประเภทของการค้นหาที่แยกตามกลุ่มข่าวเรียงตาม Usenet 1 2 3 4 5 6 7 9 10 11 8 5) เป็นประเภทของ การค้นหาโดยจะแยกเป็นหมวดหมู่ต่าง ๆ เช่นศิลปะ, บ้าน, ธุรกิจ, เมสเป็นต้นซึ่งตัวเลือกในข้อ 2-5 เมื่อเรากดคลิกที่แถบใดแถบหนึ่งก็จะปรากฏเป็นแถบเข้มที่เราเลือกไว้โดยปกติแล้ว เมื่อเราเปิดหน้าแรกขึ้นมาเว็บไซต์ของ Google จะกาหนดการค้นหาให้ไว้ที่เว็บํ 6) เป็นช่องสําหรับใส่ค่า (keyward) ที่เราต้องการค้นหา 7) เป็นปุ่มกดสําหรับเริ่มการค้นหา 8) เป็นปุ่มสําหรับค้นหาเว็บอยางด่่วนโดยการค้นหาจะนําเว็บที่อยูอยู่ในลําดับแรกที่อยู่ใน่ลําดับแรกที่ค้นหาพบมาเปิดให้ในหน้าถัดไปเลย 9) เป็นตัวเลือกสําหรับ การค้นหาแบบละเอียดโดยในตัวเลือกนี้จะมีการกาหนดเงื่อนไขในํการค้นหาเพื่อให้ได้ผลการค้นหาที่ละเอียดยิงขึ่้นเช่นภาษา, ชนิดไฟล์, วันที่เป็นต้น 10) เป็นตัวเลือกสําหรับการปรับแต่งตัว เลือกใช้สําหรับการปรับแต่งรูปแบบเครื่องมือในการค้นหาเช่นจํานวนเว็ปที่แสดงในการค้นหาต่อหน้า 11) เป็นตัวเลือกสําหรับเครื่องมือเกี่ยวกบภาษาเพื่อใช้ในการค้นหาัการใช้งาน Google ถ้าเรา ต้องการค้นหาคําวาฟิสิกส์เราทําได้โดย่พิมพ์คําวา่ฟิสิกส์ลงในช่องสําหรับใส่คําที่ต้องการค้นหา (คำสำคัญ) แล้วกดปุ่มค้นหาโดย Google จะได้ผลการค้นหาต่อไปนี้การค้นหาจะแจ้งจํานวน เว็บที่แสดงจํานวนเว็บที่พบและเวลาที่ใช้ในการค้นหาในกรณีที่การค้นหาพบข้อมูลมากกวาที่จะแสดงในได้หมดใน 1 หน้าทาง่ http://www.google.co.th ก็จะแสดงหน้าถัดไป ได้โดยเราสามารถแถบที่ตอนล่างของหน้าเว็บไซต์การค้นหาของ http://www.goole.co.th จะมีคําสั่งในการค้นหาโดย 1) Google จะใช้เงื่อนไข “และ” (และ) ในการค้นหาในรูปแบบของประโยคอ ยุเสมอ่เช่นถ้าเราต้องการค้นหาประโยคที่วา่ “ฟิสิกส์โมเมนตัม” จะได้ผลการค้นหาต่อไปนี้ 2) ถ้าเราต้องการใช้เงื่อนไข “หรือ” (หรือ) สําหรับเชื่อมคําที่ต้องการค้นหาคือนําผลที่ค้นหา ได้ของทั้งหมดมารวมกนซึ่งเราทําได้โดยใช้คําวัา่หรือเป็นตัวอักษรใหญ่ระหวางค่่าที่ต้องการค้นหาเช่นถ้าเราต้องค้นหาวาประโยคที่ว่า่ “ฟิสิกส์หรือโมเมนตัม” จะได้ผลการค้นหาต่อไปนี้ 3 ) การค้นหาของ google สามารถค้นหาแบบเป็นกลุ่มคําหรือเป็นวลีเราสามารถใช้เครื่องหมาย “” เช่น “ฟิสิกส์โมเมนตัม” 4) Google จะสามารถค้นหาไฟล์ในรูปแบบอื่น ๆ โดยประเภทไฟล์ที่รองรับคือ – Adobe (Portable Document Format มี นามสกุลเป็น PDF) – Adobe โพสต์สคริปต์ (มีนามสกุลเป็น PS) – โลตัส 1-2-3 (มีนามสกุลเป็น WK 1 WK2, WK3, Wk4 ตัวตัว, wk5, wki, สัปดาห์, ดับเบิ้ลยู) – โลตัส Wordpro (มี นามสกุลเป็น LWP) – MacWrite (มีนามสกุลเป็น MW) – Microsoft Word (มีนามสกุลเป็น doc) – Microsoft Excel (มีนามสกุลเป็น XLS) – Microsoft Power Point (มีนามสกุลเป็น PPT) – แฟ้มข้อความ (มีนามสกุลเป็น TXT) เรา สามารถค้นหาโดยระบุชนิดของไฟล์ที่เราต้องการค้นหาได้โดยใช้ค่าวา่ filetype: แล้วตามด้วยนามสกุลของไฟล์ที่เราต้องการค้นหาเช่นคือเราต้องการค้นหาเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกบฟิสิกส์โดยมีรูปแบบไฟล์เป็นที่ัมีนามสกุล PPT คือเป็นไฟล์ Microsoft Power Point จะได้ผลการค้นหาต่อไปนี้ซึ่งเราสามารถดาวน์โหลดมาเก็บไว้ในเครื่องของเราได้โดยคลิกเมาส์ขวาแล้วเลือกแถบบันทึกเป้าหมายเป็น 5) Google สามารถตัดคําที่เป็นคําพ้องรูปโดยใช้ เครื่องหมาย “-” เช่นคําวา่เบสมีความหมายเกี่ยวกบปลาและดนตรีในเวลาที่เราต้องการตัดความหมายเกัี่ยวกบดนตรีกั็ทําได้โดยพิมพ์วา่เบสเพลงนอกจากนี้ยังสามารถตัดชนิดของไฟล์ที่ต้องการค้นหาได้เช่น ต้องการค้นหาคําวา่เบสโดยตัดการค้นหาชนิดไฟล์ที่เป็นรูปแบบไฟล์ PDF ออกก็ทําได้โดยพิมพ์ -filetype เบส: PDF 6) ในการค้นหาโดยปกติแล้ว Google จะละคําทัว ๆ ไปในภาษาอังกฤษเช่่นเพื่อ ของและอักษรตัวเดียวเพราะจะทําให้การค้นหาช้า แต่ถ้าเราต้องการรวมคําเหล่านั้นในการค้นหาทําได้โดยใช้เครื่องหมาย + ไว้หน้าคํานั้นโดยต้องเว้นวรรคก่อนเช่นกลับ + เพื่อธรรมชาติจะได้ผลการค้นหาต่อไป นี้ 7) Google สามารถค้นหาลิงค์ทั้งหมดที่เชื่อมไปยังเว็บไซต์นั้นโดยใช้คําวา่ Link: แล้วตาม

เว็บเบราเซอร์หมายถึงอะไรเว็บเบราเซอร์คืออะไร

การสืบค้นข้อมูลโดยใช้สารบบเว็บ web directory

เว็บเบราว์เซอร์ ( เว็บเบราเซอร์ )เบราว์เซอร์หรือโปรแกรมเรียกดู เว็บไซต์คือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ผู้ใช้สามารถดูข้อมูลและโต้ตอบกับข้อมูลสารสนเทศที่จัดเก็บในหน้าเวบที่สร้างด้วยภาษาเฉพาะเช่นภาษาเอช ทีเอ็มแอล (HTML) พีเอชพี (PHP) ที่จัดเก็บไว้ที่ระบบบริการเว็บ หรือเว็บเซิร์ฟเวอร์หรือระบบคลังข้อมูลอื่น ๆ โดยโปรแกรมค้นดูเว็บเปรียบเสมือนเครื่องมือในการติดต่อกับเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่เรียกว่า เวิลด์ไวด์เว็บ (wWW)

ประโยชน์ของเว็บเบราว์เซอร์
ด้านดูเอกสารภายในเว็บเซิร์ฟเวอร์ได้อย่างสวยงามมีหัวเรื่อง: การสำคัญแสดงประเทศไทย Thailand ข้อมูลในห้างหุ้นส่วนจำกัดห้างหุ้นส่วนจำกัดรูปของข้อความภาพและ
ระบบผู้ซื้อสินค้าคุณผู้ซื้อสินค้ามัลติมีเดียต่างๆทำให้หัวเรื่อง: การดูเอกสารบนเว็บมีความสามารถ น่าสนใจ มากขึ้นส่งผลให้อินเตอร์เน็ตได้รับ ความสามารถนิยมเป็นอย่างมากเช่นในปัจจุบันปัจจุบันเว็บเบราเซอร์ส่วนใหญ่จะรองรับ HTML5 และอ่าน CSS เพื่อความสวยงามของหน้าเว็บเพจ

รายชื่อเว็บเบราว์เซอร์ ( เว็บเบราว์เซอร์ ) ที่เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายเรียงตาม อันดับความนิยมสูงสุด 5 อันดับแรกของปี 2013
1. Google Chrome
2 Mozilla Firefox
3 Internet Explorer
4 โอเปร่า
5 การแข่งรถวิบาก

เอกสาร Google คืออะไร Google เอกสารหรือที่เรียกกันสั้น ๆ ว่า Google Docs เป็นบริการออนไลน์ที่ให้คุณสามารถจัดการเอกสารได้แบบไม่ต้องเสียเงินเพียงแค่คุณมีอีเมลของ Gmail และเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเพราะ Google เอกสารเตรียมมาให้คุณหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการพิมพ์รายงานแบบที่คุ้นเคยการทําสไลด์เพื่อนําเสนองานสําคัญหรือจะจัดการเอกสารแบบ Spreadsheets ได้เหมือน Excel ก็สามารถทําได้ Google Docs ทํางานเหมือน Microsoft Office แต่ทุกอย่างจะทํางานอยู่บนเว็บสามารถทํา งานได้ทันทีที่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตโดยไม่ต้องเสียเวลาติดตั้งโปรแกรมลงในเครื่องหรือเสียเงินค่าลิขสิทธิ์ก่อนใช้งาน แต่อย่างใดเพียงแค่เข้าไปยัง Google Docs เราก็สามารถสร้างแก้ไขหรือเปิดอ่านเอกสารได้เลยโดยตัว เอกสารนั้นจะถูกเก็บไว้ในเซิร์ฟเวอร์ของ Google และที่สําคัญเราสามารถแชร์เอกสารให้กับเพื่อนเพื่อแก้ไขข้อมูลไปพร้อม ๆ กันโดยจะเห็นว่าอีกฝ่ายกําลังพิมพ์อะไรอยู่สําหรับจุดเริ่มต้นของ Google Docs กํา เนิดมาจากโปรแกรม Google สเปรดชีตที่สามารถทํางานเหมือนกับตาราง Excel ได้เพียงอย่างเดียว แต่ในขณะนั้นก็มีโปรแกรมสําหรับแก้ไขเอกสารออนไลน์ที่มีชื่อว่า Writely ซึ่งเป็นที่นิยมพอสมควรของ Upstartle จนต้นปี พ.ศ. 2549 Google ได้เข้ามาซื้อกิจการของ Upstartle ทําให้ Google ได้สิทธิ์ครอบครอง Writely ได้ด้วยปัจุบัน Writely ถูกพัฒนามาเป็น Google Docs ซึ่งสามารถทํางานเข้าชุดกันกับ Google สเปรดชีตได้เป็นอย่างดีโปรแกรมจัดการเอกสารออนไลน์ด้วย Google Docs ประกอบด้วย เอกสารประกอบการอบรมปฏิบัติการโปรแกรมจัดการเอกสารออนไลน์ด้วย Google Docs – หน้า | 2 ศูนย์คอมพิวเตอร์โรงเรียนเบญจมราชูทิศจังหวัดจันทบุรีกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยีต้องเตรียมอะไรบ้างก่อนที่จะเริ่มต้นใช้งาน Google Docs เรามาเตรียมความพร้อมของเครื่องคอมพิวเตอร์เสียก่อนซึ่งไม่ยุ่งยาก แต่อย่างใดคุณสมบัติ ของเครื่องที่มีอยู่ตอนนี้อาจจะสามารถใช้งาน Google Docs ได้เลยก็ได้โดยสิ่งที่จําเป็นบนเครื่องคอมพิวเตอร์ที่จะต้องมีเพื่อรองรับการใช้งาน Google Docs ก็มีดังนี้ 1. ระบบปฏิบัติการ (ระบบปฏิบัติการ – OS) สามารถ ใช้งานบนระบบปฏิบัติการแทบจะทุกชนิด Windows, Mac OS X, GNU / Linux ฯลฯ 2. โปรแกรมเปิดเว็บไซต์ (Web Browser) สามารถใช้งานร่วมกับทุกเว็บเบราเซอร์เช่นสำรวจทางอินเทอร์เน็ต (IE), Mozilla Firefox, Google Chrome, Safari หรือโอเปร่า 3. อินเทอร์เน็ต (Internet) ติดตั้งอินเทอร์เน็ตเพื่อเชื่อมต่อการใช้งานผ่านระบบออนไลน์เพื่อช่วยให้การเชื่อมต่อไม่สะดุดและล่าช้าจนเกินไปซึ่งความเร็วอินเทอร์เน็ตควรอยู่ที่ระดับความเร็ว 1 Mbps ขึ้นไป Google Docs ใช้ทาอะไรได้บ้างความสามารถของ Google Docs มีอย่างล้นเหลือเรียกได้ว่าตอบสนองคนที่ต้องการใช้งานเอกสารได้อย่างสมบูรณ์แบบโดยเราจะมาทําความรู้จักกันอย่างละเอียดก่อนว่า Google Docs ใช้ทําอะไรได้บ้าง 1 สร้างเอกสารสเปรดชีตและงานนาเสนอแบบออนไลน์สร้างเอกสารพื้นฐานแบบเริ่มต้นจากศูนย์สามารถทํางานพื้นฐานทุกประเภทได้อย่างง่ายดายรวมถึงการทํารายการสัญลักษณ์แสดงหัวข้อย่อยการเรียงลําดับตามคอลัมน์การเพิ่มตารางรูปภาพข้อคิดเห็นสูตร การเปลี่ยนแปลงแบบอักษรและอื่น ๆ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ อัพโหลดไฟล์ของคุณที่มีอยู่แล้วรองรับรูปแบบไฟล์ที่นิยมใช้กันส่วนใหญ่ ได้แก่ DOC, XLS, ODT, ODS, RTF, CSV และ PPT เป็นต้นคุณจึง สามารถทํางานต่อไปพร้อมกับอัพโหลดไฟล์ของคุณที่มีอยู่ได้ด้วยใช้งานบนแถบเครื่องมือได้อย่างคุ้นเคยทาให้การแก้ไขเป็นเรื่องง่ายๆเลือกตัวหนาขีดเส้นใต้เพิ่มสัญลักษณ์ในข้อย่อยเปลี่ยนแบบอักษรหรือรูปแบบตัวเลข เปลี่ยนสีพื้นหลังของเซลล์และอื่น ๆ เพียงคลิกปุ่มบนแถบเครื่องมือที่คุณคุ้นเคยเอกสารประกอบการอบรมปฏิบัติการโปรแกรมจัดการเอกสารออนไลน์ด้วย Google Docs – หน้า | 3 ศูนย์คอมพิวเตอร์โรงเรียนเบญจมราชูทิศจังหวัดจันทบุรีกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี 2. ใช้งานและทางานร่วมกันในแบบเรียลไทม์เลือกคนที่คุณต้องการให้เข้าถึงเอกสารของคุณได้เพียงป้อนที่ อยู่อีเมลของคนที่คุณต้องการให้ใช้งานเอกสารที่ระบุร่วมกันแล้วส่งคําเชิญไปให้เขาเหล่านั้นก็สามารถใช้งานเอกสารร่วมกันได้ใช้งานร่วมกันได้ทันทีทุกคนที่คุณเชิญให้เข้ามาแก้ไขหรือดู เอกสารสเปรดชีตหรืองานนําเสนอของคุณสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ทันทีที่เข้าสู่ระบบแก้ไขและนาเสนอร่วมกับบุคคลอื่นในแบบเรียลไทม์สามารถดูและแก้ไขร่วมกันได้หลายคนในเวลาเดียวกันมีหน้าต่างสนทนาบนหน้าจอ สําหรับการแก้ไขเอกสารและสเปรดชีตเพื่อแสดงให้คุณเห็นว่าใครแก้ไขอะไรและเมื่อใดและแล้วการดูงานนําเสนอพร้อมกันไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปเนื่องจากใครก็ตามที่เข้ามาร่วมในงานนําเสนอต่างก็สามารถติดตาม งานนําเสนอนั้นได้โดยอัตโนมัติ 3. จัดเก็บและจัดระเบียบงานอย่างปลอดภัยแก้ไขและเข้าถึงจากที่ไหนก็ได้ไม่ต้องดาวน์โหลดสิ่งใดคุณสามารถเข้าถึงเอกสารสเปรดชีตและงานนําเสนอของคุณได้จากคอมพิวเตอร์เครื่องใดก็ได้ที่มีการเชื่อม ต่ออินเทอร์เน็ตและมีบราวเซอร์มาตรฐานโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ จัดเก็บงานของคุณได้อย่างปลอดภัยอุปกรณ์เก็บข้อมูลแบบออนไลน์และการบันทึกอัตโนมัติช่วยให้คุณไม่ต้องกังวลเรื่องฮาร์ดไดร์ฟเสียหรือไฟดับเพราะข้อมูลจะถูกเก็บไว้ ในเซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่ของ Google บันทึกและส่งออกสาเนาได้อย่างง่ายดายสามารถบันทึกเอกสารและสเปรดชีตของคุณไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณในรูปแบบ DOC, XLS, CSV ODS, ODT, PDF, RTF และ HTML ได้การจัด ระเบียบเอกสารของคุณค้นหาเอกสารของคุณได้อย่างง่ายดายด้วยการจัดระเบียบเอกสารในโฟลเดอร์ต่างๆและสามารถลากและวางเอกสารต่างๆของคุณลงในหลายโฟลเดอร์ได้ตามที่คุณต้องการ 4 ควบคุมว่าใครสามารถดูเอกสารของคุณได้เผยแพร่งานของคุณเป็นหน้าเว็บคุณสามารถเผยแพร่เอกสารของคุณแบบออนไลน์ได้โดยการคลิกเพียงครั้งเดียวก็สามารถเผยแพร่ผลงานชิ้นสําคัญของคุณให้เป็นหน้าเว็บได้อย่างง่าย เอกสารประกอบการอบรมปฏิบัติการโปรแกรมจัดการเอกสารออนไลน์ด้วย Google Docs – หน้า | 4 ศูนย์คอมพิวเตอร์โรงเรียนเบญจมราชูทิศจังหวัดจันทบุรีกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยีควบคุมว่าจะให้ใครเห็นหน้าเว็บของคุณได้บ้างสามารถเผยแพร่ข้อมูลได้ทั่วโลกหรือจํากัดเอกสารให้เห็นได้ในกลุ่มเพียงแค่ สองสามคนหรือจะสั่งไม่ให้ใครเห็นเอกสารนั้นเลยก็ได้ซึ่งก็แล้วแต่คุณจะกําหนดนอกจากนี้ยังสามารถหยุดการเผยแพร่ข้อมูลได้ตลอดเวลาโพสต์เอกสารขึ้นบล็อกของคุณเมื่อคุณสร้างเอกสารเสร็จคุณสามารถโพ สต์เอกสารลงบล็อกของคุณได้ทันทีเผยแพร่ภายใน บริษัท หรือกลุ่มของคุณเมื่อใช้ Google Apps จะช่วยให้ใช้งานเอกสารสเปรดชีตและงานนําเสนอที่สําคัญร่วมกันภายใน บริษัท หรือกลุ่มของคุณได้ง่ายขึ้น

ที่มา http://www.sl.ac.th/html_edu/sl/temp_e_learning/temp_media/834.doc