สังขละบุรี เที่ยวช่วง ไหนดี

มาเยือนเมืองสามหมอก ดินแดนสามวัฒนธรรมอย่าง "สังขละบุรี" ทั้งที ถ้าแค่จะมานั่งชิลล์สูดอากาศ ขอบอกว่า "พลาด" สุดแรง เพราะที่นี่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย อยากรู้มีที่ไหนบ้าง ตามไปชมกันได้เลย

1. วัดสมเด็จ(เก่า)  สังขละบุรี

ข้อมูล ตั้งอยู่ตรงข้ามกับเมืองบาดาล เป็นอุโบสถของวัดสมเด็จ (เก่า) ที่ถูกทิ้งร้าง เมื่อคราวย้ายเมืองสังขละบุรี ตอนที่เริ่มมีการสร้างเขื่อนเขาแหลม (เขื่อนวชิราลงกรณ ในปัจจุบัน) วัดนี้ตั้งอยู่บนเนินเขาเล็ก ๆ ไม่ได้จมอยู่ใต้น้ำ ภายในอุโบสถมีพระประธานสภาพยังค่อนข้างสมบูรณ์  รอบตัวโบสถ์มีต้นไทรใหญ่ปกคุลมดูขลังและเก่าแก่ งดงามยิ่งนัก สามารถเที่ยวต่อหลังจากแวะชมเมืองบาดาลโดยค่าเรือบวกเพิ่มอีก 100 บาท

ที่ตั้ง  :  ตั้งอยู่ที่บ้านไหล่น้ำ ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี

การเดินทาง : หากมาจากกาญจนบุรีเลยจากแยกไปด่านเจดีย์สามองค์ตรงมาอีกเล็กน้อย ก็จะเจอวัดนี้ โดยตัววัดจะตั้งอยู่สองฝั่งถนน องค์พระพุทธรูปขนาดใหญ่ เด่นเป็นสง่า มองเห็นได้ชัดเจน

วันเวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน

ค่าใช้จ่าย :  ไม่มีค่าใช้จ่าย

ไฮไลท์ PaiNaiDii ขอบอก : แม้จะเป็นวัดที่ถูกทิ้งร้าง แต่องค์พระพุทธรูปโบราณขนาดใหญ่ยังคงมีสภาพที่สมบูรณ์อยู่มาก และเหล่าบรรดานักท่องเที่ยวยังพากันมาสักการะเหมือนสมัยที่วัดยังไม่ร้าง

~คลิกชมภาพเพิ่มเติมและอ่านรีวิว~

2. วัดวังก์วิเวการาม  สังขละบุรี

ข้อมูล อยู่เลยจากตัวอำเภอสังขละบุรีไปประมาณ 6 กิโลเมตร เป็นวัดจำพรรษาของ “หลวงพ่ออุตตมะ” ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของประชาชนชาวไทย ชาวมอญ รวมทั้งชาวกระเหรี่ยงและพม่าที่อาศัยอยู่ในบริเวณนั้น ภายในวิหารที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำประดิษฐานพระพุทธรูปหินอ่อนอันงดงามชาวบ้าน เรียกกันว่า หลวงพ่อขาว จากวัดวังก์วิเวการามแยกไปอีก 1 กิโลเมตร จะเป็นที่ตั้งของเจดีย์แบบพุทธคยามีลักษณะฐานเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสบรรจุ พระบรมสารีริกธาตุส่วนที่เป็นกระดูกนิ้วหัวแม่มือขวา ขนาดเท่าเมล็ดข้าวสาร บริเวณใกล้เจดีย์มีร้านจำหน่ายสินค้าจากพม่าหลายร้านจำพวกผ้า แป้งพม่า เครื่องไม้ 

ที่ตั้ง  : บ้านวังกะล่าง อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ใกล้กับชายแดนไทย-พม่า ห่างจากอำเภอเมืองกาญจนบุรี ประมาณ 220 กิโลเมตร

การเดินทาง :-ขับไปตามทางหลวงหมายเลข 323 ขับมาประมาณ 7 กม.

วันเวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน 8.00 - 17.00 น.

ค่าใช้จ่าย :  ไม่มีค่าใช้จ่าย

ไฮไลท์ PaiNaiDii ขอบอก : ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี มีการจัดงานคล้ายวันเกิดหลวงพ่ออุตตมะ ในงานมีกิจกรรมต่างๆ ประกอบด้วยพิธีกรรมทางศาสนา การแข่งขันชกมวยคาดเชือก การแสดงของชมรมวัฒนธรรมท้องถิ่นเช่น การรำแบบมอญ การรำตงของชาวกะเหรี่ยง และในงานประชาชนจะพร้อมใจกันแต่งกายตามแบบวัฒนธรรมของชาวไทยรามัญและจัด เตรียมสำรับอาหารทูนบนศีรษะไปถวายพระสงฆ์ที่วัด

~คลิกชมภาพเพิ่มเติมและอ่านรีวิว~

3. ด่านเจดีย์สามองค์ สังขละบุรี

ข้อมูล ด่านพระเจดีย์สาองค์ ตั้งอยู่ที่ตำบลหนองลู เป็นเขตสิ้นสุดชายแดนตะวันตกของประเทศไทย กั้นพรมแดนไทย – พม่า เดิมเคยเป็นช่องทางเดินทัพที่สำคัญในการทำสงครามไทย – พม่า ในอดีต เรียกกันว่า “หินสามกอง” เนื่องจากชาวบ้านผ่านมาบริเวณนี้ก็จะนำหินมากองไว้เพื่อสักการะเป็นสิริมงคล ในการเดินทาง นานวันกองหินก็ได้มีขนาดใหญ่ขึ้น ต่อมาใน พ.ศ. 2472 พระศรีสุวรรณคีรี เจ้าเมืองสังขละบุรีได้นำชาวบ้านมาก่อสร้างเจดีย์จากหินกองใหญ่ ซึ่งเป็นเจดีย์สามองค์ในปัจจุบัน เป็นเขตที่สามารถผ่านข้ามแดนเพื่อไปชมตลาดพญาตองซูในประเทศพม่า

ที่ตั้ง  : ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี สังขละบุรี กาญจนบุรี 71240

การเดินทาง :- ใช้ทางหลวงหมายเลข 323 โดยก่อนเข้าตัวตลาดสังขละบุรี 4 กิโลเมตร จะมีทางแยกขวาไปประมาณอีก 18 กิโลเมตร 

วันเวลาเปิด-ปิด- การข้ามแดนขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในช่วงเวลานั้นๆ สอบถามข้อมูลการเปิด – ปิดด่านได้ที่ ตม.สังขละบุรี โทร (034) 595 335

ค่าใช้จ่าย :  เสียค่าผ่านด่านชาวไทย 25 บาท ชาวต่างชาติ 10 $ (ไม่สามารถต่อวีซ่าได้)

ไฮไลท์ PaiNaiDii ขอบอก :

~คลิกชมภาพเพิ่มเติมและอ่านรีวิว~

4. สะพานมอญ สังขละบุรี

ข้อมูล สะพานอุตตมานุสรณ์ หรือที่นิยมเรียกกันว่า สะพานมอญ หรือ สะพานไม้มอญ เป็น สะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทยมีความยาว 850 เมตร และเป็นสะพานไม้ที่ยาวเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากสะพานไม้อูเบ็ง ในประเทศพม่าเป็นสะพานที่ข้ามแม่น้ำซองกาเรีย ที่ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี เป็นสะพานไม้ที่สร้างจากแรงศรัทธาของชาวมอญพื้นถิ่น ปัจจุบันแม้สะพานจะพังลงไปแล้ว แต่ก็มีการสร้างของใหม่ขึ้นมาแทน 

ที่ตั้ง  : หมู่ที่ 2 ต.หนองลู สังขละบุรี, กาญจนบุรี 71240

การเดินทาง :จาก กรุงเทพฯ - 4 แยกแก่งเสี้ยน ระยะทางประมาณ 133 กิโลเมตร จาก กรุงเทพฯ ใช้ ถนนเพชรเกษม ( ทางหลวงหมายเลข 4 ) มุ่งหน้าสู่ จังหวัดนครปฐมจากนั้น ขับตรงไป มุ่งหน้าสู่ จังหวัดราชบุรี จาก กรุงเทพฯ ใช้ ถนนบรมราชชนนี หรือ ชื่อเก่า คือ ถนนปิ่นเกล้า - นครชัยศรี( ทางหลวงหมายเลข 338 ) มุ่งหน้าสู่ จังหวัดนครปฐม จากนั้น ขับตรงไป มุ่งหน้าสู่ จังหวัดราชบุรี ทั้งสองเส้นทางด้านบนจะต้องผ่าน หลักกิโลเมตรที่ 43 ถนนเพชรเกษม จาก 4 แยกแก่งเสี้ยนให้ท่าน เลี้ยวซ้าย ไปทาง อ.ไทรโยคจากนั้น ขับตรงไป ประมาณ 136.9 กิโลเมตร ก็จะถึง 3 แยกไฟแดง จาก 3 แยกไฟแดง ให้ท่าน เลี้ยวขวา ไป อำเภอสังขละบุรีจากนั้น ขับตรงไป ประมาณ 74 กิโลเมตรก็จะถึง สะพานมอญ อำเภอสังขละบุรี

วันเวลาเปิด-ปิด  -

ค่าใช้จ่าย : ไม่เสียค่าใช้จ่าย

ไฮไลท์ PaiNaiDii ขอบอก : เป็นสะพานที่สร้างพลังและความศรัทธาของชาวบ้าน บริเวณโดยรอบบรรยากาศดี ช่วงเช้าจะมีการตักบาตรพระบนสะพาน เป็ฯภาพที่สวยงามมาก

~คลิกชมภาพเพิ่มเติมและอ่านรีวิว~

5. อุทยานแห่งชาติเขาแหลม  สังขละบุรี

ข้อมูล อุทยานแห่งชาติเขาแหลม มีพื้นที่ครอบคลุมท้องที่อำเภอสังขละบุรีและอำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี มีสภาพป่าที่สมบูรณ์โดยรอบอ่างเก็บน้ำเขื่อนเขาแหลม ประกอบด้วยสัตว์ป่านานาชนิด สถานที่สวยงามเหมาะแก่การท่องเที่ยวศึกษาหาความรู้

ที่ตั้ง  : - ปณ.15 ปท.ทองผาภูมิ อ. ทองผาภูมิ จ. กาญจนบุรี 71180 (ที่ทำการอุทยาน)

การเดินทาง :จากกรุงเทพฯ ถึงอำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ระยะทางประมาณ 130 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที เดินทางออกจากกรุงเทพฯ โดยใช้เส้นทางถนนเพชรเกษมหรือถนนปิ่นเกล้า-นครชัยศรี ผ่านจังหวัดนครปฐม - บ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี จนถึงอำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี แล้วเริ่มเดินทางต่อสู่อำเภอทองผาภูมิ ตามทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 323 จากอำเภอทองผาภูมิ แยกขวาขึ้นสู่ตัวอำเภอสังขละบุรี บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 39 - 40 จะเป็นที่ตั้งของที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาแหลม

วันเวลาเปิด-ปิด- ไม่มีเวลาเปิดปิด

ค่าใช้จ่าย : ไม่เสียค่าใช้จ่าย

ไฮไลท์ PaiNaiDii ขอบอก : บริเวณยอดเขาแหลมมีความสวยงามมาก แต่การจะขึ้นไปได้ต้องอยู่ภายใต้การดูแลจากเจ้าหน้าที่เท่านั้น

~คลิกชมภาพเพิ่มเติมและอ่านรีวิว~

6. น้ำตกกระเต็งเจ็ง สังขละบุรี

ข้อมูล เป็นน้ำตกที่อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม อ.สังขละบุรี เป็นน้ำตกที่มีความสูงถึง 36 ชั้น นักท่องเที่ยวจะต้องปีนป่ายผ่านสายน้ำขึ้นไปตามชั้นต่างๆ จนถึงชั้นบนสุด เมื่อขึ้นไปถึงแล้วนักท่องเที่ยวสามารถเลือกเดินทางกลับได้ โดยไม่ใช้ทางเดิม แต่เปลี่ยนเป็นเส้นทางเดินป่าที่ยังคงสภาพป่าดิบอันสมบูรณ์ระหว่างทางจะผ่านดงเฟิร์นที่กว้างใหญ่ตระการตา ผ่านป่ามะไฟป่าและต้นไม้ยักษ์ที่มีขนาดใหญ่ถึง 13 คนโอบ ตลอดทางเดินจะได้ยินเสียงน้ำตกกระทบโขดหินดังก้องอยู่ในป่าตลอดเวลา จัดเป็นเส้นทางเดินป่าที่สวยงามและน่าตื่นตาตื่นใจอย่างยิ่ง

ที่ตั้ง  : อุทยานแห่งชาติเขาแหลม อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี

การเดินทาง :จากกรุงเทพฯ ถึงอำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ระยะทางประมาณ 130 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที เดินทางออกจากกรุงเทพฯ โดยใช้เส้นทางถนนเพชรเกษมหรือถนนปิ่นเกล้า-นครชัยศรี ผ่านจังหวัดนครปฐม – บ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี จนถึงอำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี แล้วเริ่มเดินทางต่อสู่อำเภอทองผาภูมิ ตามทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 323 (ทองผาภูมิ-สังขละบุรี) จากอำเภอทองผาภูมิ แยกขวาขึ้นสู่ตัวอำเภอสังขละบุรี บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 39 – 40 จะเป็นที่ตั้งของที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ซึ่งต้องเดินเท้าต่อไปยังน้ำตกอีก 4 กิโลเมตร

วันเวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน 8.00 - 17.00 น.

ค่าใช้จ่าย : ไม่เสียค่าใช้จ่าย

ไฮไลท์ PaiNaiDii ขอบอก : เส้นทางเดินชมธรรมชาติของที่นี่มีสภาพภูมิประเทศที่ดีมาก มีต้นไม้รกครึ้ม และมีฟืชหายากเหมาะกับการศึกษาทางนิเวศวิทยา

~คลิกชมภาพเพิ่มเติมและอ่านรีวิว~

7. น้ำตกเกริงกระเวีย  สังขละบุรี

ข้อมูล  เป็นน้ำตกขนาดกลาง สูงประมาณ 5 เมตร เกิดจากลำห้วยเกรงกระเวียไหลผ่านลดหลั่นกันมาตามหินปูนจนเกิดเป็นน้ำตกขึ้น ภายใต้การโอบล้อมไปด้วยธรรมชาติ ต้นไม้ปกคลุมไปทั่วบริเวณของน้ำตก และยังมีน้ำตกขนาดเล็ก ๆ อยู่กระจายกันในพื่นที่ของน้ำตกเกริงกระเวีย เหมาะแก่การเล่นน้ำ แวะพักผ่อนหย่อนใจระหว่างการเดินทางเป็นอย่างยิ่ง จึงไม่แปลกอะไรที่จะเห็นนักท่องเที่ยว หรือชาวบ้านในชุมชนแถบนั้น แวะมาปูเสื่อ ล้อมวงรับประทานอาหาร นอนเล่นพักผ่อน เล่นน้ำตกกันทั้งครอบครัว 

ที่ตั้ง  : -  ตั้งอยู่ริมทางหลวงหมายเลข 323 (ทองผาภูมิ-สังขละบุรี) กิโลเมตรที่ 32–33

การเดินทาง :จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 4 (ถนนเพชรเกษม) ผ่าน จ.นครปฐม ขับมาประมาณ 9 กม. จะพบสะพานลอยข้ามไปทาง จ.กาญจนบุรี ขับไปตามทางหลวงหมายเลข 323 ขับมาประมาณ 7 กม. ท่านจะพบสี่แยก ให้ท่านเลี้ยวขวา ( แยกซ้ายไปบ้านโป่ง ตรงไปคือถ้ำค้างคาว) เพื่อไปยัง อ.เมืองกาญจนบุรี จากนั้นมุ่งหน้าสู่สี่แยกแก่งเสี้ยน ให้ขับไปทาง อ.ทองผาภูมิ ซึ่งจะผ่านทั้งไทรโยคน้อย และไทรโยคใหญ่ ( หลักกิโลเมตรที่ 125 ทางหลวงหมายเลข 323 ) ท่านจะพบสามแยก ( ตรงไปไปอำเภอทองผาภูมิ + เขื่อนเขาแหลม ถ้าเลี้ยวขวาไปอำเภอสังขละบุรี ) ให้ท่านเลี้ยวขวามือไป สังขละบุรี ซึ่งท่านจะผ่าน ประมาณหลักกม.ที่ 32 ก่อนถึงสังขละก็จะพบน้ำตกเกริงกระเวียอยู่ริมถนนขวามือ เยื้องกับหน่วยพิทักษ์เกริงกระเวีย

วันเวลาเปิด-ปิด- ทุกวัน 8.00 - 17.00 น.

ค่าใช้จ่าย : ไม่เสียค่าใช้จ่าย 

ไฮไลท์ PaiNaiDii ขอบอก : น้ำตกขนาดเล็ก มีน้ำไหลตลอดปี ตัวน้ำตกใหญ่ประกอบไปด้วยน้ำตกขนาดเล็กมากมาย เล่นน้ำสบาย เป็นส่วนตัว

~คลิกชมภาพเพิ่มเติมและอ่านรีวิว~

8. น้ำตกไดช่องถ่อง  สังขละบุรี

ข้อมูล  ขึ้นอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ก่อนถึงอำเภอสังขละบุรี เป็นน้ำตกขนาดกลางไหลลงสู่ทะเลสาบเขื่อนแม่กลอง ในช่วงฤดูฝนสภาพป่าสมบูรณ์ร่มรื่นสวยงามมาก

ที่ตั้ง  : -  ตั้งอยู่ที่ด้านซ้ายมือบนเส้นทางกาญจนบุรี - สังขละบุรี อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม

การเดินทาง :ตั้งอยู่ริมทางหลวงหมายเลข 323 (ทองผาภูมิ-สังขละบุรี) กิโลเมตรที่ 32-33 ก่อนถึงน้ำตกเกริงกระเวียเล็กน้อยจะมีป้ายทางซ้ายมือเข้าไปประมาณ 500 เมตร จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าไปอีก 500 เมตร และต้องเดินเท้าไปอีก 600 เมต

วันเวลาเปิด-ปิด  ทุกวัน 8.00 - 17.00 น.

ค่าใช้จ่าย : ไม่เสียค่าใช้จ่าย

ไฮไลท์ PaiNaiDii ขอบอก : -

~คลิกชมภาพเพิ่มเติมและอ่านรีวิว~

9. จุดชมวิวป้อมปี่ สังขละบุรี

ขอบคุณภาพจาก p.nature

ข้อมูล  จุดชมวิวป้อมปี่ อยู่ริมอ่างเก็บน้ำเขื่อนเขาแหลม ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ประมาณ 2 กิโลเมตร  ด้านหนึ่งของ ป้อมปี่ ถูกโอบไว้ด้วยขุนเขาที่เขียวขจีไปด้วยพรรณไม้ ส่วนอีกด้าน จุมพิตกับผืนน้ำอันนิ่งสงบของอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ์ เหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจ กางเต็นท์พักแรม และทำกิจกรรมต่างๆอย่างการเล่นน้ำ ดูนก ตกปลา พายเรือแล้ว นอกจากนี้ยังพบ เห็นนกบางชนิด เช่น นกเหงือก นกกระเต็นอกขาว เขียวก้านตองปีกฟ้า ฯลฯ สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบกิจกรรมทางน้ำ สามารถเล่นน้ำ พายเรือ นั่งเรือชื่นชมความสวยงามของอ่างเก็บน้ำได้  นอกจากนี้ ป้อมปี่ยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยมาก แห่งหนึ่ง พระอาทิตย์สีแดงส้มค่อยๆคล้อยต่ำลงแล้วหายไปในเนินเขาที่อยู่ห่างไกลออกไป แล้วไม่ทันไรท้องฟ้าและเวิ้งน้ำที่เป็น สีส้มม่วงก็กลับกลายเป็นสีดำ

ที่ตั้ง  : ริมอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ประมาณ 2กิโลเมตร

การเดินทาง :มาตามถนนหมายเลข 323 กาญจนบุรี-ทองผาภูมิ -สังขละบุรี ผ่านที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ประมาณ 2กิโลเมตร บริเวณกิโลเมตรที่ 40-41 มีทางแยก เลี้ยวซ้าย มีป้ายบอกหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติป้อมปี่ เลี้ยวเข้าไปอีกประมาณ 1กิโลเมตร

วันเวลาเปิด-ปิด- ไม่มี

ค่าใช้จ่าย : ไม่เสียค่าใช้จ่าย

ไฮไลท์ PaiNaiDii ขอบอก : จุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดในภาคตะวันออก

~คลิกชมภาพเพิ่มเติมและอ่านรีวิว~

10. ถ้ำแก้วสวรรค์บันดาล  สังขละบุรี

ขอบคุณภาพจาก Hotelsguide.com

ข้อมูล  เป็นถ้ำที่อยู่ในภูเขาทั้งลูก ภายในยังแบ่งเรียกเป็นถ้ำต่างๆ อีก 4 ถ้ำ คือ ถ้ำวังบาดาล ถ้ำมรกต ถ้ำ แก้ว และถ้ำสวรรค์บันดาล แต่ละถ้ำมีความสลับซับซ้อน
สามารถเดินเชื่อมทะลุถึงกันได้หมดทุกถ้ำ ภายในมีหินย้อยรูปทรงต่างๆ งดงาม มาก  เมื่อกระทบกับแสงไฟจะสะท้อนแสงแวววาวคล้ายถูกโรยไว้ด้วยกากเพชร
การเข้าไปเที่ยวชมนักท่องเที่ยวควรแต่งกายด้วยชุดที่รัดกุม เลือกสวมรองเท้า ที่เหมาะสมและต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะบางถ้ำมีโขดหินที่สูง ชัน บางถ้ำต้องใช้ วิธีการคลานและมุดไปตามซอกของช่องหิน และบางถ้ำที่มีระดับน้ำสูงประมาณหัว เข่า หากต้องการจะเที่ยวชมให้ครบหมดทุกถ้ำ จะต้องใช้เวลาไม่น้อย กว่า 6 ชั่วโมงขึ้นไป

ที่ตั้ง  : -  ตั้งอยู่ในเขตอำเภอสังขละบุรี ห่างจากด่านเจดีย์สามองค์ ซึ่งเป็นจุดผ่านแดนระหว่างไทยกับพม่า

การเดินทาง :ใช้เส้นทางอำเภอสังขละบุรี-ด่านเจดีย์สามองค์ โดยเลี้ยว ขวาบริเวณศาลาพักร้อนริมทาง ที่อยู่ก่อนด่านเจดีย์สามองค์ ประมาณ 1 กิโลเมตร จากนั้นขับรถไปตามถนนดินอีกประมาณ 700 เมตร เลี้ยวขวาไป ตามเส้นทางอีก 200 เมตร
จะถึงบริเวณสำนักสงฆ์ที่เป็นที่ตั้งของถ้ำแก้วสวรรค์บันดาล นักท่องเที่ยว สามารถสอบถามรายละเอียดของการเข้าไปเที่ยวภายในถ้ำได้จากพระสงฆ์ ที่จำวัด อยู่ในบริเวณสำนักสงฆ์แห่งนั้น

วันเวลาเปิด-ปิด- ทุกวัน 8.00 - 17.00 น.

ค่าใช้จ่าย : ไม่เสียค่าใช้จ่าย

ไฮไลท์ PaiNaiDii ขอบอก : หินย้อยรูปทรงต่างๆ เมื่อกระทบกับแสงไฟจะสะท้อนแสงแวววาวคล้ายถูกโรยไว้ด้วยกากเพชร ทำให้ที่นี่สวยงามราวสรวงสวรรค์

~คลิกชมภาพเพิ่มเติมและอ่านรีวิว~

สะพานมอญ ไปวันไหนดี

สังขละมีที่เที่ยวอะไรบ้าง

ถนนคนเดินสังขละบุรี มีวันไหนบ้าง

ใส่บาตรสะพาน มอญ สังขละบุรี กี่โมง