วิธีการเข้า Safe Mode ของ Windows 10 นั้นจะมีรูปแบบที่ค่อนข้างต่างกับวินโดว์รุ่นๆก่อนอยู่ แต่ก็เป็นวิธีที่ง่ายขึ้นกว่าเดิม มีขั้นตอนที่เป็นวิธีการที่ชัดเจน และการเข้าวินโดว์ด้วย Safe Mode นี้จะสามารถเข้าไปแก้ไขการทำงานที่มีความผิดปกติของคอมพิวเตอร์ได้ Show
เข้า Safe Mode Windows 101. กดปุ่ม Start → จากนั้นกดปุ่ม Shift ค้างไว้ → ตามด้วยกดปุ่ม Restart 2. จะมีหน้าต่างสีฟ้า Choose an option ขึ้นมา → ให้กดเลือก Troubleshoot 3. จากนั้นให้เลือกตัวเลือก Advanced Options 4. จะมีตัวเลือกมากมายให้เลือก → ให้เลือก Startup Settings 5. กดปุ่ม Restart → เพื่อให้คอมพิวเตอร์รีสตาร์ทตัวเอง 6. เมื่อคอมพิวเตอร์ Boot ขึ้นมา จะมีหน้าต่าง Startup Settings ขึ้นมา → ให้กด เลข 4 หรือ F4 (Enable Safe Mode) เพื่อเข้าสู่ Safe Mode Windows 10 7. ระบบ Boot เข้า Safe Mode Windows 10 เรียบร้อยแล้ว วิธีเข้า Safe Mode Windows 10 กรณีเข้าวินโดว์ปกติไม่ได้ในบางกรณี ผู้ใช้งานไม่อาจเข้าสู่ Safe Mode ผ่านวิธีการข้างต้นได้ จึงจำเป็นที่จะต้องใช้วิธีการทางเลือกเข้ามาช่วยดังนี้ 1. เตรียม Flash Drive ที่มีไฟล์ติดตั้ง Windows 10 Boot USB อยู่ หรือจะใช้แบบแผ่น DVD ก็ได้ 2. Boot Flash Drive หรือ DVD ที่มี Windows 10 ขึ้นมา ทั้งนี้สามารถดูปุ่ม Boot Menu/BIOS ได้จากตรงนี้ 3. จะมีหน้าต่างติดตั้ง Windows 10 ขึ้นมา → ให้กด Next 5. จะมีหน้าต่าง Choose an option ขึ้นมา → ให้เลือก Troubleshoot 6. จากนั้น → เลือก Command Prompt 7. จะมีหน้าต่าง Command สีดำขึ้นมา
8. จะกลับมาสู่หน้า Choose an option อีกครั้ง → ให้กดปุ่ม Continue เพื่อเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ 9. ระบบจะเข้าสู่ Safe Mode Windows 10 ซึ่งสามารถจัดการแก้ไขการทำงานต่างๆได้ตามต้องการ 10. เมื่อแก้ไขเสร็จแล้ว ให้ปิดการใช้งาน Safe Mode → โดยการกดปุ่ม Start → เข้าโปรแกรม Command Prompt 11. พิมพ์คำสั่ง bcdedit /deletevalue {default} safeboot ลงไป → จากนั้นกด Enter
รวมวิธีเข้า Safe Mode หรือ โหมดปลอดภัยของ Windows สำหรับใครที่ เข้า Safe Mode
ไม่ได้บ้าง หรือเข้าไม่เป็น เรามีวิธีมาแนะนำกัน (How to access Windows Safe Mode ?) สำหรับ โหมดปลอดภัย (Safe Mode) จัดว่าเป็นรูปแบบหนึ่งในการทำงานของ ระบบปฏิบัติการ Windows ที่ออกแบบมาเพื่อใช้แก้ปัญหาในเวลาที่เกิดเหตุการณ์รุนแรง ที่ (อาจจะ) ส่งผลกระทบต่อการทำงานในรูปแบบปกติของระบบปฏิบัติการ Windows ได้
โดยประโยชน์ของ Safe Mode ก็คือ มันจะสามารถช่วยให้ผู้ใช้เข้าสู่ Windows เพื่อตรวจหาสาเหตุว่าปัญหาอะไรที่ทำให้มันไม่สามารถทำงานตามปกติได้ หลังจากที่ตรวจเจอ และแก้ไขแล้ว ก็จะสามารถรีบูทเพื่อเข้าใช้งาน Windows ได้ตามปกติ การเข้า Safe Mode นั้น สามารถทำได้หลายวิธี เลือกใช้ตามที่ถนัดได้เลย จะมีวิธีไหนบ้าง เชิญอ่านต่อได้เลยครับ เนื้อหาภายในบทความ
1. เข้าผ่านแอปพลิเคชันการตั้งค่า (Settings App)
หน้าจอการตั้งค่า Startup ของระบบปฏิบัติการ Windows ภาพจาก https://support.microsoft.com/en-us/windows/start-your-pc-in-safe-mode-in-windows-92c27cff-db89-8644-1ce4-b3e5e56fe234
วิธีเข้า Safe Mode บนระบบปฏิบัติการ Windows ทุกรุ่น ภาพจาก https://answers.microsoft.com/en-us/windows/forum/all/windows-10-freezes-at-startup-settings/8ff77423-d2fd-481e-8d13-8b75ac9a593c 2. เข้าจากหน้าจอเข้าสู่ระบบ (Sign-in) ของ Windowsหากพูดถึง "หน้าจอ Windows Sign-in" จริงๆ แล้วมันก็คือ หน้าจอที่ให้เราเลือกบัญชีผู้ใช้งาน และใส่รหัสผ่านเพื่อเข้าสู่หน้าจอเดสก์ท็อป (Desktop) หากเราไม่สามารถเข้า Safe Mode จาก "แอป Settings" ได้ ก็ให้ลองเข้าจากหน้าจอนี้แทน หน้าจอเข้าสู่ระบบ (Sign-in Page) ของระบบปฏิบัติการ Windows
3. เข้าผ่าน Windows Recovery Environment (winRE)ในกรณีที่บูตคอมพิวเตอร์ไม่สำเร็จ เข้าหน้าจอ Windows ไม่ได้เลย แนะนำให้ลองใช้งานวิธีการนี้ดู
หน้าจอเลือกตัวเลือก (Choose an Option) ของ Windows Recovery Environment (winRE) บนระบบปฏิบัติการ Windows ภาพจาก https://support.microsoft.com/en-us/windows/start-your-pc-in-safe-mode-in-windows-92c27cff-db89-8644-1ce4-b3e5e56fe234
4. เข้าผ่านส่วนของ การกำหนดค่าระบบ (System Configuration)ในกรณีที่ยังสามารถบูตเข้าสู่ Windows ได้ เราสามารถเข้า Safe Mode ผ่าน MSConfig หรือชื่ออย่างเป็นทางการ คือ System Configuration ได้เช่นกัน ด้วยขั้นตอนดังนี้
หน้าจอ System Configuration บนระบบปฏิบัติการ Windows 11
หน้าจอ Safe Mode บนระบบปฏิบัติการ Windows วิธีออกจาก Safe Mode ด้วย System Configurationหากใช้วิธีที่ 1 ถึงวิธีที่ 3 แค่รีสตาร์ต เราก็จะออกจาก Safe Mode ได้แล้ว แต่หากใช้วิธีที่ 4 ที่เข้าผ่าน System Configuration ให้เราทำเหมือนเดิม แต่ตรง Boot options ให้เราคลิกเอาเครื่องหมาย "✓" ออกจาก "▢ Safe boot" เท่านั้นเอง จากนั้นก็รีสตาร์ตคอมพิวเตอร์เพื่อออกจาก Safe Mode ได้เลย หวังว่าบทความนี้ จะช่วยให้เพื่อนๆ เข้า Safe Mode กันได้แบบง่าย ๆ นะครับ สวัสดีครับ |