หลายๆคนอาจจะรู้สึกเบื่อกับการทำงานบ้านใช่ไหมคะ แค่ทำงานทั้งวันก็เหนื่อยแล้ว แถมกลับบ้านมาก็ต้องมานั่งกวาดพื้นถูพื้นอีก ปัญหากวนใจแทบทุกบ้าน ทำให้การหันมาใช้หุ่นยนต์ดูดฝุ่น หรือเครื่องดูดฝุ่นไร้สายเป็นทางออกที่แก้ปัญหาอันปวดหัวนี้ได้อย่างยอดเยี่ยม กำจัดได้ทั้งฝุ่นละออง เส้นผม ขนสัตว์ ลงทุนเพียงครั้งเดียว แต่ประหยัดเวลาได้เยอะเลย แทนที่จะเอาเวลาไปทำความสะอาดบ้าน เราก็สามารถใช้เวลาเพื่อความบันเทิงกับครอบครัว ดูหนัง ฟังเพลง ฟังดูแล้วเป็นทางออกที่ดีกว่าใช่ไหมล่ะคะ Show
วันนี้มิสซี่มีบทความมาแนะนำ รีวิวหุ่นยนต์ดูดฝุ่น ยี่ห้อไหนดี 2022 ที่คัดมาแล้วในแง่ของฟังก์ชั่นการใช้งาน คุณภาพ ราคา ความน่าเชื่อถือของแบรนด์ จะซื้อของทั้งที ต้องเลือกอันที่คุ้มค่ามากที่สุดค่ะ ไปดูกันค่ะว่าที่เลือกมา มีอะไรบ้าง
TOP 3 หุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่ดีที่สุด#1 Roborock S7 Series (แนะนำสุด)
ราคา 22,900 – 39,900 บาท #2 Xiaomi robot vacuum cleaner 2 lite ราคา 4,999-9,999 บาท #3 Dreame Bot W10 Robot Vacuum and Mop Cleaner ราคา 31,900-36,900 บาท คุณสมบัติที่สำคัญของหุ่นยนต์ดูดฝุ่น
รีวิวแนะนำ ซื้อหุ่นยนต์ดูดฝุ่น ยี่ห้อไหนดี1.หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ยี่ห้อไหนดี โดยรวมที่สุด – Roborock S7 Series (แนะนำสุด)ราคา 22,900 – 39,900 บาท ข้อดี +เก่งมาก ฉลาดมาก ดูดฝุ่นได้สะอาดและลมดูดดีมาก หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ถูพื้น อัจฉริยะ จาก Roborock S7 Series หรือ Smart Robotic Vacuum มาพร้อมกับเทคโนโลยีฟังก์ชั่นถูแบบสั่นสะเทือนที่ล้ำสมัยระดับโลกแบบใหม่ล่าสุด สูงสุด 3,000 ครั้งต่อนาที ประสิทธิภาพการทำความสะอาดดีขึ้น 4 เท่าตัวซึ่งรองรับการใช้งานกับ Roborock Auto-Empty Dock (ต้องซื้อแยกเอง )แท่นเก็บฝุ่นอัตโนมัติ ที่มีระบบการกรองฝุ่นที่ดีที่สุด ฟิลเตอร์กรองฝุ่นระดับการกรอง HEPA E11 ซึ่งสามารถกรองฝุ่นได้อย่างละเอียดรวมถึงฝุ่นPM2.5, ละอองเกสรดอกไม้, เชื้อรา ได้รับการรับรองจาก ทูฟไฮแลนด์ ว่ามีแรงดูดที่คงที่ และปราศจากสารก่อภูมิแพ้ด้วย ตัวเครื่องสามารถแสดงเส้นทางการทำงานได้อย่างละเอียด ว่าส่วนไหนดูดกวาดถูแล้ว ส่วนไหนยัง ปรับระดับแรงดูดได้ 4 ระดับ ระบบปรับความเร็วรอบหมุนของแปรงปัดข้างได้อัตโนมัติ (Dynamic-Speed Side Brush) ตามความเหมาะสมของการทำงานได้เอง แปรงปัดหลักมีอิสระขยับเคลื่อนที่ได้ 360° สามารถแนบราบเรียบไปกับพื้นได้อย่างดี มีเซนเซอร์กันตกและปีนป่าย สามารถข้ามสิ่งกีดขวางได้ถึง 2 ซม. เสียงการทำงานที่เงียบเบา ดังสุดแค่ 67 เดซิเบล กำลังไฟฟ้า :
68W 2.หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ยี่ห้อไหนดี โดยรวมที่สุด – Xiaomi robot vacuum cleaner 2 lite (ถูกลงมา)ราคา 4,999-9,999 บาท ข้อดี +มีแอปสั่งการ ข้อเสีย -เซนเซอร์อาจมีงงๆบ้าง ใครที่มองหา หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ยี่ห้อไหนดี ที่ฟังก์ชั่นล้ำๆ ราคาไม่โหดมาก ต้องของ xiaomi เลยค่ะ ตัวเครื่องมาแบบ 3in1 การทำความสะอาดไว้ในตัวเดียว ด้วยการดูด กวาด ถู ที่มีพลังในการดูด 2200Pa รองรับพลังดูดปรับได้ 4 ระดับ ระบบการกรอง 3 ชั้นช่วยป้องกันมลพิษ ตัวเครื่องหนา 82 มม. ทำความสะอาดฝุ่นใต้เตียงหรือโซฟาได้ สามารถกลับเข้าแท่นชาร์จอัตโนมัติด้วยตนเองอัจฉริยะ ตัวเครื่องมีเซ็นเซอร์ในตัว สามารถตรวจจับสิ่งกีดขวาง รองรับแอปพลิเคชั่น Mi Home ที่จะช่วยให้คุณตั้งค่าการทำงาน และสามารถสั่งงานได้ง่ายมากยิ่งขึ้น กำลังไฟฟ้า :
25W 3.หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ถูพื้นที่ดีที่สุด – Dreame Bot W10ราคา 31,900-36,900 บาท ข้อดี + ดูดฝุ่น ถูพื้น ที่สามารถซักผ้าถูแล้วอบแห้งได้เอง ข้อเสีย -ราคาแรง แต่โคตรคุ้ม ดรีมเม่ ขั้นกว่าของ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ที่สามารถกวาดพื้น ดูดฝุ่น ถูพื้น แถมยังซักผ้าถูพื้นแล้วอบแห้งด้วยตัวเองอีก! โอ้โหจะล้ำหน้าไปไหน โดยทุกอย่างสั่งงานง่ายๆ ผ่านแอพบนมือถือ ขัดถูพื้นด้วยรอบหมุน 180 RPM ไปพร้อมๆกับ แรงกด 8 นิวตัน ถูพื้นได้สะอาดหมดจดกว่าระบบการถูทั่วๆไป แถมยังมีแท๊งค์น้ำใหญ่ถึง 4,000 ml. แรงลมดูดฝุ่นแรงมาก ทรงพลังสูงสุดถึง 4,000Pa มีเทคโนโลยี LDS LiDAR Navigation แสกนพื้นที่ด้วยระบบ ด้วยความละเอียดสูง ทำให้วาดแผนที่ และวางแผนการเดินทำความสะอาดได้ละเอียด ทั่วถึง และปรับเส้นทางการทำความสะอาดให้เหมาะสมโดยอัตโนมัติ เดินทำความสะอาดทั่วถึงทุกซอก ทุกมุมภายในบ้าน นอกจากนี้ยังมีระบบ Ultrasonic Carpet Detection อัลตราโซนิกเซ็นเซอร์ ตรวจจับพื้นพรมและปรับการทำงานให้เหมาะสม กำลังไฟฟ้า : 55W 4.หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ถูพื้นที่ดีที่สุด – MITSUTA รุ่น MRC400 (ถูกลงมา)ราคา 1,290-1,990 บาท ข้อดี + กวาด ดูดพื้น ถูพื้นครบจบในตัว ข้อเสีย –
ทำความสะอาดได้ไม่เอี่ยมอ่องขนาดนั้น ใครที่มองหาหุ่นยนต์ดูดฝุ่น ราคาถูกและดี ต้องตัวนี้เลยค่ะ แรงดูดฝุ่นโอเคเลยเป็นอุปกรณ์ที่จะช่วยให้คุณทำความสะอาดบ้านได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น สามารถเข้าถึงทุกซอกทุกมุม ที่ยากต่อการทำความสะอาด เช่น พวกใต้เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ข้อควรระวังก็คือ ห้ามใช้กับบริเวณพื้นที่เปียกน้ำมากๆ รวมถึงห้ามใช้ทำความสะอาดวัตถุไวไฟ ของเหลว ทุกชนิด และที่สำคัญระวังตัวเครื่องตกจากที่สูง กำลังไฟฟ้า : 8W 5.หุ่นยนต์ดูดฝุ่นอัจฉริยะ มาพร้อมกับแท่นเก็บฝุ่นอัตโนมัติที่ดีที่สุด – Ecovacs DEEBOT T9ราคา 19,300 บาท ข้อดี + แท่นกำจัดฝุ่นอัตโนมัติดีงามมาก ไม่ต้องเทฝุ่นเองให้เลอะมือ มาต่อกันที่หุ่นยนต์ดูดฝุ่นอัจฉริยะ จากแบรนด์ อีโคแวคส์ หุ่นยนต์ทำความสะอาดแบบ 9 in 1 ครบวงจร หุ่นยนต์ดูดฝุ่นอัตโนมัติเครื่องแรก ที่หลบหลีกสิ่งกีดขวาง 3D ได้แบบโคตรฉลาด มาพร้อมการดูดฝุ่นอันทรงพลัง และฟังก์ชั่นการถูพื้นที่ปล่อยน้ำหอมปรับอากาศ ถือเป็นหุ่นยนต์รุ่นแรกที่มาพร้อมกับน้ำหอมปรับอากาศ และยังมีแท่นชาร์จเคลื่อนย้ายฝุ่นอัตโนมัติ ขจัดฝุ่นลงในถุงเก็บฝุ่นได้นานถึง 30 วันโดยไม่มีการรั่ว ระบบสามารถสร้างเส้นทางการทำความสะอาดได้ดีและมีประสิทธิภาพมากที่สุด ควบคุมและปรับแต่งการทำความสะอาดของคุณได้จากทุกที่ผ่านแอป ECOVACS Home ตัวเครื่อง DEEBOT T9 สามารถใช้งานได้ทุกพื้นผิว คราบแน่นๆ ออกหมด ดูดฝุ่นและถูพื้นพร้อมกันในเครื่องเดียว กำลังไฟฟ้า : – W 6.หุ่นยนต์ดูดฝุ่นชนะรางวัลสินค้าที่ดีที่สุด – Autobot Lazer Mark 4 Cyclone 8000 PAราคา 14,990 บาท ข้อดี + ทำความสะอาดได้กริบ แรงดูดฝุ่นสูงสุด ข้อเสีย – ซื้อแล้วจะอยากซื้ออีกเครื่อง เพราะทำงานดีมาก รีวิวหุ่นยนต์ดูดฝุ่นตัวถัดมา นั่นก็คือ Autobot Lazer Mark 4 ที่ปังมากจนได้รับรางวัล Product of the year 2020 ด้วยแรงดูด Cyclone 8000 PA มากกว่าทั่วไปถึง 4 เท่า แถมแบตเตอรี่ความจุสูงถึง 6400 mAh มทำให้รอบระยะเวลาในการทำความสะอาดนาน แถมยังมีโหมดถูพื้นแบบ Y ขจัดคราบได้เสมือนคนถูพื้น ที่พิเศษก็คือระบบจดจำและบันทึกแผนที่บ้านรวมถึง สั่งกั้นพื้นที่ที่ไม่ต้องการให้เครื่องเข้าไปทำงานได้ภายในแอป มาพร้อมกับเทคโนโลยี LiDAR Laser SLAM 2.0 มาใส่ในหุ่นยนต์ดูดฝุ่น AUTOBOT แบบระบบ Electric Hybrid Tank และ Cylone Tank พร้อมควบคุมการทำงานด้วย Wifi connected เชื่อมต่อใช้งานได้ทุกที่ทุกเวลา พร้อมแสดงหน้าจอ Real Time Mapping เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในหุ่นยนต์ทำความสะอาดที่ครบเครื่องตัวนึงเลยก็ว่าได้ กำลังไฟฟ้า : – W 7.หุ่นยนต์ดูดฝุ่นอัจฉริยะ High-End ที่ดีที่สุด – Roborock S7 MaxV Seriesราคา 26,490 บาท ข้อดี + ตัวเครื่องฉลาด สามารถรู้หมดว่าสิ่งกีดขวางคืออะไร ว่าอันนี้โซฟานะ อันนี้โต๊ะ อันนี้พรม มาต่อกันที่ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ถูพื้น กวาดพื้นอัจฉริยะ จาก Roborock ที่ได้รับการพัฒนาและออกแบบทางวิศวกรรมเพื่ออำนวยความสะดวกสบายในการทำความสะอาดพื้นบ้านให้มากที่สุด ระบบการถูพื้นจะขัดพื้นโดยอัตโนมัติสูงสุดถึง 3,000 ครั้งต่อนาที พร้อมกับแรงกดที่คงที่ของฟังก์ชั่นถู (ด้วยเทคโนโลยี Sonic Mopping) ขจัดคราบแห้งที่หุ่นยนต์บางตัวไม่สามารถทำความสะอาดได้ เช่น คราบกาแฟ หรือรอยเท้าที่เป็นโคลน ไปจนถึงระบบฟังก์ชันถูที่สามารถยกตัวเองขึ้นอัตโนมัติเมื่อตรวจพบพื้นพรม เพิ่มแปรงปัดหลักยางและจะเพิ่มแรงดูดสูงสุดเป็น 5,100 Pa HyperForce™ Stormer หุ่นยนต์จะจดจำและหลีกเลี่ยงวัตถุในเส้นทางของมันได้แม่นยำยิ่งขึ้นและทำความสะอาดรอบๆ วัตถุด้วยระบบการหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวางด้วย ระบบกล้องคู่ Dual ReactiveAI 2.0 สามารถจดจำวัตถุในเส้นทางได้แม่นยำยิ่งขึ้น สามารถปรับการเดินรอบวัตถุกีดขวางได้ง่ายขึ้นและสามารถในวิดีโอแชทหาลูกๆ ผ่านหุ่นยนต์ดูดฝุ่นตัวนี้ได้ กำลังไฟฟ้า
: 74W 8.หุ่นยนต์ถูพื้นอัตโนมัติ ที่ดีที่สุด – AUTOBOT Scrub Robot Cleaner with water tankราคา 8,900 บาท ข้อดี + ถูได้ทั้งแบบเปียกและแห้ง ข้อเสีย – ถ้าซื้อแบบที่ดูดฝุ่น ถูพื้นในตัวก็ไม่ต้องเสียเงินหลายรอบ หุ่นยนต์ถูพื้น EVERYBOT อันดับ 1 จากเกาหลี EVERYBOT ใช้ดีมาก พื้นสะอาด มีแรงกดเสมือนคนถู แถมยังได้รับรางวัล WINNER reddot design ปี 2019 สามารถ ถูได้ทั้งแบบเปียกและแห้ง โดยถูพื้นด้วยระบบ DUAL SPIN 5700 RPM ทำงานต่อเนื่องสูงสุด 100 นาที มีเซนเซอร์กั้นตกบันได/กั้นชนเฟอร์นิเจอร์ดยระบบตั้งค่าไว้ถ้าแบตหมดจะจอดในที่แจ้งเสมอ จึงไม่ต้องกังวลว่าจะหาไม่เจอ ดีงามมาก การรับประกัน : 1 ปี แบตเตอรี่ 12 เดือน 9.หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ยี่ห้อไหนดี สีชมพูน่ารักที่สุด – AUTOBOT Mini Lite สีชมพูราคา 3,190 บาท ข้อดี + ราคาถูกและดี ข้อเสีย – แรงดูดฝุ่นไม่แรง ทำความสะอาดได้ไม่เนี๊ยบเท่าไหร่ มาต่อที่รีวิว หุ่นยนต์ดูดฝุ่น AUTOBOT รุ่นจิ๋วแต่แจ๋ว ที่มาในสีชมพูน่ารักปุ๊กปิ๊ก มีสีฟ้าพาสเทลด้วยเหมือนกัน ใครที่คุมตีมห้องนอนต้องห้ามพลาดตัวนี้เด็ดขาด นอกจากตัวเครื่องจะน่ารักกระแทกใจแล้ว ราคาก็น่ารักไม่แพ้กัน เหมาะมากๆสำหรับห้องนอนเล็กๆหรือคอนโด ช่วยกวาดบ้าน ดูดฝุ่น และ ถูพื้น พร้อมกัน มาในขนาดกะทัดรัด ไม่เกะกะ สามารถเข้าไปทำความสะอาดในพื้นที่ซอกมุม ใต้โซฟาหรือใต้โต๊ะได้เป็นอย่างดี แถมตัวน้องเค้ามีเซนเซอร์ป้องกันการตกจากที่สูง จะช่วยหลีกเลี่ยงการตกจากต่างระดับที่มีความสูงกว่า 10 ซม ใครที่มองหา หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ถูกและดี ต้องห้ามพลาดรุ่นนี้เลยค่า กำลังไฟฟ้า : 19 W 10.หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ยี่ห้อไหนดี งบประหยัดสุด – Asaki Robot Vacuum Cleanerราคา 499 บาท ข้อดี +ราคาถูกและดีเว่อร์ ข้อเสีย -แรงดูดฝุ่นไม่แรง ทำความสะอาดได้ไม่กริบ หุ่นยนต์ดูดฝุ่นในงบประหยัดสุด จัดว่าเป็นหุ่นยนต์ดูดฝุ่นถูกและดี ช่วยทำความสะอาดอัตโนมัติ มีฟังก์ชั่นดูดฝุ่น ถูพื้นแบบแห้ง ใครที่อยากรู้ว่า หุ่นยนต์ดูดฝุ่น asaki ดีไหม บอกเลยว่า น้องเขาดีงามในราคาหลักร้อย ช่วยเก็บเศษตามพื้น ปัญหาผมร่วงตามพื้นให้หมดไป ใครที่ยังไม่อยากลงทุนหลักพันหลักหมื่นกับหุ่นยนต์ทำความสะอาด ลองตำตัวนี้ดูก่อนก็ได้ค่า แล้วจะไม่ผิดหวัง กำลังไฟฟ้า : – W 11.หุ่นยนต์ดูดฝุ่น sumsung ที่ดีที่สุด – Samsung VR05R5050WKราคา 7,040 บาท ข้อดี +ตั้งค่าควบคุมผ่านแอปได้ง่าย ข้อเสีย -เดินทำงานค่อนข้างช้า มาต่อกันที่ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น sumsung หุ่นยนต์ทำความสะอาด ที่มาแบบ 2 in 1 สามารถดูดฝุ่นและถูพื้นไปในตัว กำจัดสิ่งสกปรกพร้อมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ะสามารถทำความสะอาดทุกซอกทุกมุมได้เป็นพื้นที่บริเวณกว้างโดยไม่จำเป็นต้องชาร์จไฟใหม่หลายรอบ ดีไซน์ที่บางเฉียบ สามารถเข้าถึงซอกมุม ใต้เฟอร์นิเจอร์อย่างทั่วถึง ควบคุมหุ่นยนต์ดูดฝุ่นได้จากทุก ๆ ที่แม้ว่าคุณจะไม่อยู่บ้านก็ตาม ด้วยการควบคุมผ่าน Wi-Fi ในตัวและแอปสมาร์ทโฟน ตั้งตารางการทำความสะอาดหลาย ๆ เวลา, ปรับแรงดูด และควบคุมความเร็วของการถูพื้นและการไหลของน้ำได้ทั้งหมด กำลังไฟฟ้า : 10W หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ดีไหมดีมากกก เพราะว่าหุ่นยนต์ดูดฝุ่นช่วยประหยัดเวลาทำความสะอาดบ้าน ทำให้พื้นบ้านสะอาดเงากริบ เหมาะสำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลา เรียกได้ว่าเป็นไอเท็มที่ช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้น เพราะกลับบ้านมาทีไร ก็ไม่มีฝุ่น เส้นผม เศษอาหารตกหล่น ขนสัตว์ตามพื้นให้กวนใจอีกต่อไป เป็นอีกหนึ่งไอเท็มที่ควรตำอย่างยิ่งเลยค่ะ ก็จบไปแล้วนะคะสำหรับบทความรีวิว หุ่นยนต์ดูดฝุ่นยี่ห้อไหนดี รวบรวมเหล่าบรรดาเครื่องดูดฝุ่นไร้สายตัวท็อปๆ ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ Roborock Autobot หุ่นยนต์ดูดฝุ่น xiaomi หุ่นยนต์ดูดฝุ่น samsung หุ่นยนต์ดูดฝุ่น asaki หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ถูพื้นอย่างของ Dreame หรือแม้กระทั่ง หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ราคาไม่แพง ยี่ห้ออื่นๆ หวังว่าบทความรีวิวหุ่นยนต์ดูดฝุ่นทำความสะอาดที่ได้นำมาเสนอในวันนี้จะถูกใจเหล่าเจ้าของบ้านทุกคนนะคะ |