จากเหตุการณ์น้ำท่วมในประเทศ ส่งผลให้สถาบันการเงินต่างออกมาตรการช่วยลูกค้า ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่การพักชำระเงินต้น การยกเว้นดอกเบี้ย ไปจนถึงการให้สินเชื่อใหม่ ฯลฯ TODAY Bizview รวบรวมข้อมูลธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ (SFIs) ได้ทั้งสิ้น 10 ธนาคาร ดังนี้ 1. ธนาคารไทยพาณิชย์: ออกมาตรการช่วยลูกค้า SMEs ที่อยู่ในพื้นที่ประสบอุทกภัยจากพายุโซนร้อนโนรู ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 ต.ค. 2565 ในกรณีที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม
แต่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ประสบอุทกภัยจากพายุโซนร้อนโนรู ก็สามารถติดต่อไปยังธนาคารเพื่อพิจารณาได้เช่นกัน 2. ธนาคารกรุงศรีอยุธยา: ออกมาตรการช่วยลูกค้าบุคคลและลูกค้าธุรกิจรายย่อย ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 พ.ย. 2565 – พักชำระเงินต้น สูงสุดนาน 6 เดือน – ลดค่างวดผ่อนชำระต่อเดือนสูงสุด 85%
และผ่อนชำระได้สูงสุด 12 เดือน – พักชำระหนี้ ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย สูงสุดนาน 3 เดือน – ลดค่างวดและขยายเวลาการผ่อนชำระ นอกจากนี้ ลูกค้าสินเชื่อบ้านและสินเชื่อธุรกิจกรุงศรีที่ถือครองกรมธรรม์ ดังต่อไปนี้ 1) ประกันอัคคีภัยสินเชื่อสำหรับบ้านอยู่อาศัยและธุรกิจ 2) ประกันกรุงศรี โฮม พร้อม และ 3) ประกันทรัพย์สิน อุ่นใจ สามารถติดต่อแจ้งเคลมค่าสินไหมประกันภัยทรัพย์สินกรณีฉุกเฉินจากสถานการณ์น้ำท่วม ได้ที่สายด่วน AAGI 1292 ตลอด 24 ชั่วโมง 3. ธนาคารทหารไทยธนชาต: ออกมาตรการช่วยลูกค้าสินเชื่อรายย่อยและสินเชื่อรถยนต์ ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 ก.ย. 2566 สำหรับลูกค้าสินเชื่อรายย่อย
– ลดยอดผ่อนชำระเหลือ 70% นาน 3 เดือน หรือ – ชำระเฉพาะดอกเบี้ย นาน 3 เดือน หรือ – ชำระขั้นต่ำ 20% ของค่างวดผ่อน นาน 3 เดือน
– บัตรเครดิต ลดดอกเบี้ยเหลือ 12% พร้อมผ่อนชำระยอดค้างได้สูงสุด 84 เดือน – บัตรกดเงินสด (Flash Card) ลดดอกเบี้ยเหลือ 22% พร้อมผ่อนชำระยอดค้างได้สูงสุด 84 เดือน และสำหรับลูกค้าที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ธนาคารมีมาตรการรองรับเพิ่มเติม คือ พักชำระค่างวดทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย นาน 3 เดือน สำหรับลูกค้าสินเชื่อรถยนต์ ทีทีบีไดรฟ์
– พักชำระค่างวดสูงสุด 2 เดือน (รวมงวดค้างชำระหากมี) หรือ – ลดค่างวด หรือ ขยายระยะเวลาการผ่อนชำระ หรือมาตรการอื่น ๆ ตามความเหมาะสม – กรณีลูกค้าค้างชำระต้องไม่เกิน 60 วัน ณ วันที่ยื่นคำร้องโปรแกรมการให้ความช่วยเหลือ
– พักชำระค่างวดสูงสุด 2 เดือน – อัตราดอกเบี้ยสูงสุดไม่เกิน 22% และลดค่างวดผ่อนชำระสูงสุด 70% ระยะเวลาไม่เกิน 3 เดือน – กรณีลูกค้าค้างชำระต้องไม่เกิน 30 วัน ณ วันที่ยื่นคำร้องโปรแกรมการให้ความช่วยเหลือ 4. ธนาคารออมสิน:
5. ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.): ออกมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรตั้งแต่วันนี้ถึง 31 ธ.ค. 2565
– การปรับปรุงโครงสร้างหนี้อย่างยั่งยืน ธนาคารจะพิจารณาขยายระยะเวลาการชำระหนี้พร้อมกำหนดชำระหนี้ใหม่ตามศักยภาพที่แท้จริง แต่ไม่เกิน 20 ปี – จ่ายดอก ตัดต้น เมื่อลูกค้าส่งชำระหนี้ ธนาคารจะแบ่งภาระการตัดชำระหนี้ตามสัดส่วนต้นเงินและดอกเบี้ยของจำนวนเงินที่ลูกค้าส่งชำระ – ชำระดีมีคืน กรณีลูกค้ามาชำระหนี้ถึงกำหนด จะได้รับการคืนดอกเบี้ย 20% ของดอกเบี้ยที่ชำระจริงไม่เกิน 2,000 บาทต่อราย เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาภาระทางการเงินแก่ลูกค้า
– จ่ายน้อย ผ่อนคลาย ได้ลดดอกเบี้ย โดยลูกค้าชำระหนี้อย่างน้อย 1% ของต้นเงิน ธนาคารจะพิจารณาปรับปรุงโครงสร้างหนี้ พร้อมกำหนดชำระหนี้ตามศักยภาพ แต่ไม่เกิน 20 ปี ในอัตราดอกเบี้ย MRR (ปัจจุบัน MRR เท่ากับ 6.50) – ทางด่วนลดหนี้ สำหรับลูกค้าที่เป็นหนี้ NPL ณ 31 มี.ค. 2565 เมื่อชำระหนี้เสร็จสิ้นเป็นรายสัญญา ธนาคารจะพิจารณาลดดอกเบี้ยค้างชำระตามสัดส่วน สำหรับลูกค้าที่มีหนี้ NPL ที่มีการโอนเพิ่มในปีบัญชี 2565 และมีสถานะ NPL ณ 31 ส.ค. 2565 เมื่อชำระหนี้เสร็จสิ้นเป็นรายสัญญา ธนาคารจะพิจารณาลดดอกเบี้ยค้างชำระตามสัดส่วน
– โครงการสินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันและค่าใช้จ่ายจำเป็นฉุกเฉิน เพื่อเสริมสภาพคล่องเกษตรกร เช่น ค่าอุปโภคและบริโภคที่จำเป็น อัตราดอกเบี้ย 0% 6 เดือนแรก เดือนที่ 7 คิดอัตราดอกเบี้ย MRR วงเงินรายละไม่เกิน 50,000 บาท – โครงการสินเชื่อฟื้นฟูและพัฒนาคุณภาพชีวิต เพื่อเป็นค่าซ่อมแซมบ้านเรือนและทรัพย์สิน ค่าซ่อมเครื่องมือและอุปกรณ์การเกษตรที่ได้รับความเสียหาย ค่าใช้จ่ายในการทำการเกษตรรอบใหม่ วงเงินรายละไม่เกิน 500,000 บาท อัตราดอกเบี้ย MRR-2 6. ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.): ออก ‘มาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติปี 2565’ ตั้งแต่วันนี้ถึง ธ.ค. 2565
7. ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME Bank): ออก ‘มาตรการช่วยเหลือเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติ’ ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 ธ.ค. 2565
เบื้องต้นธนาคารกำหนดพื้นที่ช่วยเหลือมาตรการพักชำระหนี้ฯ สำหรับผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติ ใน 49 จังหวัด ส่วนมาตรการเติมทุนฯ ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ 8. ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (iBank): ออกมาตรการช่วยลูกค้าที่ได้รับผลกระทบตั้งแต่วันนี้ถึง 31 ธ.ค. 2565
9. ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM Bank): ออกมาตรการ ‘2 เพิ่ม 3 ช่วย’ สำหรับลูกค้าที่ถูกผลกระทบน้ำท่วม
ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ย Prime Rate ปัจจุบันเท่ากับ 5.75% ต่อปี 10. บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.): ออกมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ใน 25 จังหวัด ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 พ.ย. 2565
ทั้งนี้ จากการสอบถามไปยังอีกหลายธนาคาร พบว่าอยู่ระหว่างเตรียมการออกมาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในครั้งนี้ จึงแนะนำผู้ประสบภัยทั้งทางตรงและทางอ้อมติดตามข้อมูลจากธนาคารที่ใช้บริการเพิ่มเติม ที่มา
|