เริ่มแล้ว เปิดลงทะเบียน “บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” รอบใหม่ (คนเก่า-คนใหม่) ถึง 19 ต.ค.65
วันที่ 5 ก.ย.2565 เป็นวันแรกที่ ก.คลัง เปิดระบบลงทะเบียน “โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 65” จนถึงวันที่ 19 ต.ค.2565 ผ่าน 7 หน่วยงานรับลงทะเบียน หรือลงทะเบียนผ่าน // บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือ //welfare.mof.go.th โดยเป็นการลงทะเบียนที่เป็นผู้ที่ถือบัตรฯ เดิม และผู้ที่ไม่เคยมีบัตรฯ "ต้องลงทะเบียนใหม่”
สำหรับสิทธิประโยชน์ของผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะได้รับ เช่น
• ค่าซื้อสินค้า 200 - 300 บาท
• ค่าเดินทางรถโดยสารสาธารณะ 500 บาท
• ส่วนลดแก๊สหุงต้ม 45 บาท (ต่อรอบ 3 เดือน) กรณีกลุ่มเปราะบางจะได้ส่วนลด 100 บาท (ต่อรอบ 3 เดือน)
• เงินช่วยค่าไฟฟ้า ไม่เกิน 315 บาทต่อครอบครัว (ตามที่จ่ายจริง)
• เงินช่วยค่าน้ำประปาไม่เกิน 100 บาทต่อครอบครัว (ตามที่จ่ายจริง)
• เงินช่วยค่าน้ำประปาไม่เกิน 100 บาทต่อครอบครัว (ตามที่จ่ายจริง)
• เงินพิเศษผู้พิการ 200 บาท
• ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่เป็นพ่อค้าแม่ค้า หาบเร่แผงลอย ร้านค้าขนาดเล็กจะได้ส่วนลดก๊าซหุงต้มพีที (ปตท.) 100 บาท ที่ร้านจำหน่ายที่ร่วมรายการ
• เงินพิเศษผู้สูงอายุ 50 ถึง 100 บาทขึ้นอยู่กับเกณฑ์รายได้
ทั้งนี้ มติ ครม. (26 ก.ค. 65) อนุมัติโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มี "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" วงเงิน 5,336.8304 ล้านบาท เพื่อให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยและผู้ต้องการความช่วยเหลือพิเศษสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ในภาวะเศรษฐกิจที่ราคาสินค้าและค่าครองชีพที่ยังคงปรับสูงขึ้น
อ่านเพิ่มเติม คลิก //www.thaigov.go.th/news/contents/details/58769
อ้างอิง -#ไทยคู่ฟ้า #ร่วมต้านโควิด19
บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เดือนพฤศจิกายน 2565 ให้อะไรบ้าง แล้วจะมีเงินเข้าวันไหน ใครมีบัตรคนจนอยู่ในมือ มาตรวจสอบข้อมูลบัตรสวัสดิการแห่งรัฐกันหน่อย
ในเดือนพฤศจิกายน 2565 ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐคนเก่าก็ยังคงได้รับเงินช่วยเหลือค่าครองชีพอยู่หลายรายการ แต่จะมีเงินส่วนไหนบ้าง และเงินเข้าบัตรคนจนวันไหน มาเปิดปฏิทินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐล่าสุดกันได้เลย
ส่วนคนที่ยังไม่มีบัตรคนจน หรือเพิ่งสมัครไปเมื่อเดือนกันยายน-ตุลาคม 2565 แนะนำให้คอยติดตามผลการตรวจสอบการลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ว่าจะได้รับสิทธิ์หรือไม่ ซึ่งจะได้ทราบผลกันภายในเดือนมกราคม 2566
ภาพจาก : Sorbis/Shutterstock.com
วงเงินซื้อสินค้าอุปโภค-บริโภค คนละ 200-300 บาท/เดือน
ผู้มีสิทธิ์รับเงิน : ทุกคนที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
- กลุ่มที่มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาท ได้รับ 300 บาท/เดือน
- กลุ่มที่มีรายได้เกิน 30,000 บาท ได้รับ 200 บาท/เดือน
ค่ารถโดยสารสาธารณะ
ผู้มีสิทธิ์รับเงิน : ทุกคนที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (ไม่สามารถกดเป็นเงินสดได้) แบ่งเป็น
- ค่าโดยสารรถเมล์ รถไฟฟ้า 500 บาท/เดือน (ใช้ชำระค่าโดยสารด้วยระบบ e-Ticket เฉพาะผู้ถือบัตรใน 7 จังหวัด คือ กทม., นนทบุรี, ปทุมธานี, พระนครศรีอยุธยา, สมุทรปราการ, สมุทรสาคร และนครปฐม)
- ค่าโดยสารรถ บขส. 500 บาท/เดือน
- ค่าโดยสารรถไฟ 500 บาท/เดือน
วงเงินซื้อก๊าซหุงต้มสำหรับผู้ถือบัตรคนจนทั่วไป 100 บาท/3 เดือน
ผู้มีสิทธิ์รับเงิน : ทุกคนที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (ไม่สามารถกดเป็นเงินสดได้)
หมายเหตุ : ครม. มีมติให้ต่ออายุมาตรการช่วยเหลือส่วนลดค่าก๊าซหุงต้ม เพิ่มเป็น 100 บาท/3 เดือน (จากเดิม 45 บาท) ตั้งแต่เดือนตุลาคม-ธันวาคม 2565 แต่ปัจจุบันกระทรวงพลังงานอยู่ระหว่างขอรับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี จึงคาดว่าผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะสามารถใช้สิทธิ์ส่วนเพิ่ม 55 บาท/3 เดือน ได้ในช่วงปลายเดือนตุลาคม 2565
วงเงินซื้อก๊าซหุงต้มสำหรับร้านค้า หาบเร่ แผงลอย 100 บาท/เดือน
ผู้มีสิทธิ์รับเงิน :ผู้ประกอบการร้านค้า หาบเร่ แผงลอยที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (ไม่สามารถกดเป็นเงินสดได้)
หมายเหตุ : ครม. มีมติให้ต่ออายุมาตรการช่วยเหลือส่วนลดค่าก๊าซหุงต้มให้แก่ร้านค้า หาบเร่ แผงลอยอาหารที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ไม่เกิน 100 บาท/ราย/เดือน ตั้งแต่เดือนตุลาคม-ธันวาคม 2565
จากเดิมมาตรการช่วยเหลือค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปาแก่ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้หมดเขตในเดือนกันยายน 2565 แต่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ต่ออายุมาตรการดังกล่าวออกไปอีก 7 เดือน คือตั้งแต่เดือนตุลาคม 2565 - เมษายน 2566 เท่ากับว่าผู้ถือบัตรคนจนจะยังได้รับความช่วยเหลือ ดังนี้
ค่าไฟฟ้า ไม่เกิน 315 บาท/เดือน/ครัวเรือน
- กรณีใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 50 หน่วย/เดือน ติดต่อกัน 3 เดือน ให้ใช้สิทธิ์ค่าไฟฟ้าฟรี ตามมาตรการที่มีอยู่ในปัจจุบัน
- กรณีใช้ไฟฟ้าเกิน 50 หน่วย/เดือน ให้ใช้สิทธิ์ตามมาตรการนี้ในวงเงิน 315 บาท/ครัวเรือน/เดือน
- กรณีที่ใช้ไฟฟ้าเกิน 50 หน่วย/เดือน ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะต้องเป็นผู้จ่ายค่าไฟฟ้าเองทั้งหมด
ผู้มีสิทธิ์รับเงิน : ครัวเรือนที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกินเกณฑ์ที่กำหนด และได้ลงทะเบียนรับสิทธิ์เรียบร้อย (ถ้าเคยลงทะเบียนแล้วสามารถใช้สิทธิ์ได้ทันที ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่)
ค่าน้ำประปา ไม่เกิน 100 บาท/เดือน/ครัวเรือน
- กรณีใช้น้ำประปา เกิน 100 บาท แต่ไม่เกิน 315 บาท จะได้รับการสนับสนุนในวงเงิน 100 บาท โดยส่วนเกินต้องชำระเอง
- กรณีใช้น้ำประปา เกิน 315 บาท ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะต้องเป็นผู้จ่ายค่าประปาเองทั้งหมด
ผู้มีสิทธิ์รับเงิน : ครัวเรือนที่ใช้น้ำประปาไม่เกินเกณฑ์ที่กำหนด และได้ลงทะเบียนรับสิทธิ์เรียบร้อย (ถ้าเคยลงทะเบียนแล้วสามารถใช้สิทธิ์ได้ทันที ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่)
หมายเหตุ : ต้องนำใบแจ้งหนี้ค่าไฟฟ้าและใบแจ้งหนี้ค่าน้ำประปาไปชำระเงินตามปกติก่อน จากนั้นหน่วยงานจะส่งรายชื่อผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ใช้ไฟฟ้าและน้ำประปาในวงเงินที่กำหนดให้กรมบัญชีกลาง สั่งจ่ายเงินคืนผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในช่อง e-Money ของเดือนถัดไป
เงินช่วยเหลือผู้พิการ 200 บาท
ผู้มีสิทธิ์รับเงิน : เป็นผู้พิการที่อายุ 18 ปีขึ้นไป มีบัตรประจำตัวผู้พิการ และมีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะได้รับเงินเบี้ยความพิการ เพิ่มอีก 200 บาท (จากเดิม 800 บาท) รวมเป็น 1,000 บาท/เดือน โดยจะแบ่งจ่ายดังนี้
800 บาท : โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารเหมือนเดิม ทุกวันที่ 10 ของเดือน
เงินเพิ่มเติมอีก 200 บาท จากกองทุนประชารัฐ : จ่ายเข้ากระเป๋าเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งเงินจะเข้าบัญชีวันที่ 22 ของทุกเดือน สามารถถอนเป็นเงินสด หรือเก็บสะสมในเดือนถัดไปได้
ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐสามารถสอบถามได้ที่ Call Center บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โทร. 0-2109-2345 ทุกวันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 08.30-17.30 น. หรือที่กรมบัญชีกลาง โทร. 0-2270-6400 ในวัน-เวลาราชการ