ข้อมูลเพื่อผู้บริโภครู้ไว้ได้ประโยชน์ การฟ้องคดีผู้บริโภคเขียนโดย ศูนย์ข่าวผู้บริโภค. จำนวนผู้ชม: 44983 คดีผู้บริโภคคือ??? ความแตกต่าง การยื่นฟ้องคดีผู้บริโภค ให้เจ้าพนักงานคดี ช่วยเหลือในการจัดทำคำฟ้องตามสมควรแก่กรณี รวมทั้งให้ตรวจสอบสถานการณ์เป็นนิติบุคคล/ภูมิลำเนาของคู่ความ (ให้ระบุสถานที่ที่สามารถติดต่อได้โดยสะดวกและหมายเลขโทรศัพท์ของคู่ความไว้ด้วย) แต่ทั้งนี้ต้องไม่มีลักษณะเป็นการกำหนดรูปคดีทำนองเดียวกับการปฏิบัติหน้าที่ของทนายความ (ตั้งสำนวนปกสีฟ้าขนาด A4) ในกรณีที่โจทก์ยื่นคำฟ้องเป็นหนังสือ คำฟ้องไม่ถูกต้องขาดสาระสำคัญในบางเรื่อง
เจ้าพนักงานคดี อาจให้คำแนะนำโจทก์ เพื่อจัดทำคำฟ้องให้ถูกต้องครบถ้วน และศาลก็อาจให้แก้ไขคำฟ้องให้ถูกต้อง/ชัดเจนขึ้นก็ได้(มาตรา 19-21,26,ข้อกำหนดฯ ข้อ 6-8) - ผู้บริโภค/ผู้มีอำนาจฟ้องคดีแทนผู้บริโภค สามารถฟ้องคดีโดยได้รับการยกเว้นค่าฤชาธรรมเนียมทั้งปวง (รวมทั้งค่านำส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้อง) แต่ถ้าผู้บริโภคฯ นำคดีมาฟ้องโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร เรียกค่าเสียหายเกินสมควร ประพฤติตนไม่เรียบร้อยฯ ศาลสั่งให้ชำระค่าฤชาธรรมเนียมที่ได้รับการยกเว้นทั้งหมดแต่บางส่วนภายในเวลาที่กำหนดก็ได้ หากไม่ปฏิบัติตามศาลมีอำนาจสั่งจำหน่ายคดี (มาตรา 18) การนัดพิจารณา - การส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้อง ศาลอาจสั่งให้ส่งทาง ป.ณ.ลงทะเบียนตอบรับ/ทางเจ้าพนักงานศาลโดยสั่งให้ปิดหมายและย่นระยะเวลาให้มีผลบังคับใช้ได้ทันที/ภายในระยะเวลาที่กำหนด (ก่อนครบ 15 วันตาม ป.วิ.พ. มาตรา 79) ก็ได้ ทั้งนี้ให้ส่งคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีปฏิบัติและผลแห่งการที่ไม่มาศาลในวันนัดพิจารณาให้จำเลยทราบด้วย (มาตรา 24, ข้อกำหนดฯ ข้อ 9-11) กรณีคู่ความไม่มาศาลในวันนัดพิจารณา ในวันนัดพิจารณาเมื่อคู่ความมาพร้อมกันให้เจ้าพนักงานคดี/ผู้ประนีประนอมประจำศาล (หรือบุคคลที่คู่ความตกลงกัน) ทำการไกล่เกลี่ยช่วยเหลือให้คู่ความได้เจรจาบรรลุถึงข้อตกลงร่วมกัน, ถ้ายังไม่สามารถตกลงกันได้ และเห็นควรเลื่อนการนัดพิจารณา ก็ให้ทำรายงานเสนอต่อศาลเพื่อขออนุญาตเลื่อนการนัดพิจารณาได้ไม่เกิน 3 ครั้ง ครั้งละไม่เกิน 7 วัน เพื่อประโยชน์ในการกำหนดประเด็นข้อพิพาทและสืบพยานศาลให้เจ้าพนักงานคดี สอบถามข้อเท็จจริงเบื้องต้นจากคู่ความ แล้วจัดทำรายงานสรุปข้อเท็จจริงและประเด็นข้อพิพาทเสนอต่อศาลโดยเร็ว (มาตรา 25,ข้อกำหนดฯ ข้อ 14-18 ,ตั้งสำนวนปกสีชมพู) ผู้ประกอบธุรกิจมี “ภารการพิสูจน์” ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการผลิต การประกอบ การออกแบบ ส่วนผสม การให้บริการที่อยู่ในความรู้เห็นโดยเฉพาะของฝ่ายผู้ประกอบธุรกิจ (มาตรา 29) ผู้ประกอบธุรกิจมี “ ภาระการพิสูจน์” ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการผลิต การประกอบ การออกแบบ ส่วนผสมการให้บริการ ที่อยู่ในความรู้เห็นโดยเฉพาะของฝ่ายผู้ประกอบธุรกิจ (มาตรา 29) การสืบพยานหลักฐาน ให้ศาลเป็นผู้ซักถามพยาน
(อาจใช้ข้อมูลจากรายงานของเจ้าพนักงานคดีเป็นแนวทางในการซักถามพยาน) คู่ความ/ทนายจะซักถามพยานได้ต่อเมื่อได้รับอนุญาตจากศาล วิธีการชั่วคราวก่อนพิพากษา คำพิพากษา / คำสั่งชี้ขาดตัดสินคดี ศาลอาจกล่าวในคำพิพากษาหรือคำสั่งว่า สงวนไว้ซึ่งสิทธิที่จะแก้ไขคำพิพากษา ฯ ในกรณีความเสียหายเกิดขึ้นแก่ร่างกาย สุขภาพ หรืออนามัย ภายในระยะเวลาที่กำหนดแต่ไม่เกิด 10 ปี (มาตรา
40) ถ้าผู้ประกอบธุรกิจเจตนาเอาเปรียบโดยไม่เป็นธรรม จงใจประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง ทำการฝ่าฝืนต่อฐานะผู้มีอาชีพหรือธุรกิจอันย่อมเป็นที่ไว้วางใจของประชาชน ศาลมีอำนาจพิพากษาสั่งให้ผู้ประกอบธุรกิจจ่ายค่าเสียหายเพื่อการลงโทษเพิ่มขึ้น (ไม่เกิน 2 เท่า / 5 เท่า ถ้าค่าเสียหายที่แท้จริงไม่เกิด 50,000 บาท) จากจำนวนค่าเสียหายที่แท้จริง –มาตรา 42) อุทธรณ์ –
ฎีกา คู่ความอาจยื่นคำร้องต่อศาลฎีกา เพื่อขออนุญาตอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงในคดีที่มีทุนทรัพย์เกิน 200,000 บาท / ในปัญหาข้อกฎหมาย ซึ่งเกี่ยวพันกับประโยชน์สาธารณะ / เป็นปัญหาสำคัญที่ศาลฎีกาควรวินิจฉัย (มาตรา 51-55) นอกจากนี้ ผู้พิพากษามีอำนาจพิพากษาในเชิงลงโทษต่อผู้ประกอบธุรกิจได้ด้วย โดยอาจกำหนดค่าเสียหายให้มากกว่าที่โจทก์ขอหรือมากกว่าความเสียหายที่แท้จริงก็ได้ ในกรณีที่มีความชำรุดบกพร่องอันไม่อาจซ่อมแซมแก้ไข ก็อาจขอให้เปลี่ยนสินค้าให้ใหม่ได้ ดาวโหลดกฏมายคลิก https://goo.gl/KcPvRJ พิมพ์ อีเมล พลังงานไทย
ดิฉันได้อ่านบทความคอลัมน์ ชีวิตที่เลือกได้ เรื่อง กฟผ โดยคุณชัยอนันต์ สมุทวณิช ในนสพ. ผู้จัดการ เมื่... Read more สื่อและโทรคมนาคม
4 กุมภาพันธ์ 2552: กรุงเทพฯ - งานศึกษาวิจัยครั้งใหม่ที่เพิ่งเผยแพร่สู่สาธารณะในหลายประเทศยืนยันว่า... Read more |