ฝากครรภ์ รวมแพทย์ฉะเชิงเทรา

ทำไมต้องฝากครรภ์?

การฝากครรภ์นั้นเป็นการดูแลเพื่อให้แน่ใจว่า ลูกน้อยในครรภ์ของคุณจะไม่มีภาวะผิดปกติ ร่างกายแข็งแรงและสมบูรณ์ การฝากครรภ์จึงมีความจำเป็นอย่างมากในการติดตาม เฝ้าระวังความผิดปกติ และภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นขณะตั้งครรภ์

ดังนั้นแล้วคุณแม่มือใหม่ หรือคุณแม่ที่ผ่านการตั้งครรภ์มาแล้ว ควรให้ความสำคัญในเรื่องการฝากครรภ์ เพื่อเป็นการการดูแลสุขภาพของคุณแม่ และทารกในครรภ์ให้มีพัฒนาการที่ดี สุขภาพแข็งแรงจนกระทั่งครบกำหนดคลอดบุตร และมารดาสามารถคลอดบุตรได้อย่างปลอดภัย

สาเหตุที่เหล่าคุณแม่ควรไปฝากครรภ์ก่อนอายุครรภ์ครบ 12 สัปดาห์

จากคำแนะนำของบุคลากรทาง และสาธารณสุข ควรฝากครรภ์ก่อนอายุครรภ์ครบ 12 เดือน เพื่อลดปัญหาภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้น เพราะจำทำให้เป็นอันตรายต่อมารดา และทารก

• สามารถยืนยันอายุครรภ์ที่แน่นอน ช่วยให้แพทย์ติดตามการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ได้อย่างถูกต้อง ทำให้คำนวณกำหนดการคลอดบุตรได้ หญิงตั้งครรภ์ที่มีประจำเดือนไม่ปกติ หรือเข้าใจผิดว่า อาการแท้งคุกคามคือ ประจำเดือน จะไม่สามารถคำนวณอายุครรภ์ที่แน่นอนได้
  
• แพทย์จะตรวจหาความเสี่ยงในการตั้งครรภ์ เช่น โรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ ธาลัสซีเมีย ภาวะซีด โรคติดเชื้อต่างๆ เช่น HIV โรคไวรัสตับอักเสบบี หรือความเสี่ยงที่ทารกจะมีความผิดปกติ เช่น เป็นโรคดาวน์ซินโดรม
  
• สามารถรักษาความผิดปกติได้เร็ว เช่น ท้องลม ครรภ์ไข่ปลาอุก ท้องนอกมดลูก หรือภาวะแท้งคุกคาม ทำให้ตั้งครรภ์ได้ครบกำหนด และคลอดบุตรของคุณออกมาอย่างปลอดภัย
  
• แพทย์สามารถควบคุมสารอาหาร และวิตามินที่เหมาะสมกับอายุครรภ์ได้ โดยมักให้เสริมธาตุเหล็ก กรดโฟลิก และไอโอดีน
  
• หญิงตั้งครรภ์จะได้รับความรู้ที่ถูกต้องก่อนการคลอดบุตร เกี่ยวกับการปฏิบัติตัวเมื่อเกิดอาการผิดปกติต่างๆ เช่น ภาวะน้ำตาลในเลือดสูง อาหารที่ควรรับประทาน การออกกำลังกายที่เหมาะสมกับบุคคล รวมถึงการเตรียมตัวเลี้ยงทารกอย่างถูกต้อง

ข้อดีของการฝากครรภ์

1. สามารถตรวจหาความเสี่ยงต่อภาวะผิดปกติ และโรคแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นขณะตั้งครรภ์ เพื่อหาสาเหตุ แนวทางการแก้ไข และป้องกันได้อย่างทันท่วงที ลดอัตราการแท้ง การคลอดก่อนกำหนด ตกเลือด และการติดเชื้อต่างๆ
2. สามารถตรวจคัดกรองโรค เช่น โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ หรือโรคทางพันธุกรรม
3. เป็นการติดตามการเจริญเติบโตและพัฒนาการของทารกในครรภ์
4. ทำให้คุณแม่ได้รับคำแนะนำการดูแลตนเองและทารกในครรภ์อย่างถูกวิธี การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงด้านร่างกาย อารมณ์ การรับประทานยา อาหาร และการออกกำลังกายที่เหมาะสม เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการคลอดบุตร ซึ่งจะทำให้คุณแม่คลอดบุตรได้อย่างปลอดภัย สุขภาพแข็งแรงทั้งแม่และลูก

เตรียมตัวอย่างไร ก่อนไปฝากครรภ์

สามารถเริ่มทำได้ทันทีตั้งแต่คุณแม่ทราบว่าตัวเองตั้งครรภ์ โดยการมาฝากครรภ์กับแพทย์ที่โรงพยาบาล หรือคลินิก ยิ่งคุณแม่ฝากครรภ์เร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งเป็นผลดีกับเด็กในท้องมากเท่านั้น เพราะทำให้คุณหมอสามารถให้คำแนะนำในการดูแลตัวเองได้อย่างตรงจุดและสามารถนำไปสู่การคลอดที่ประสบความสำเร็จได้ หรือหากพบความผิดปกติเกิดขึ้นในภายหลังแพทย์ก็จะแนะนำการดูแลตัวเองเพื่อเตรียมตัวสำหรับผ่าคลอดให้กับคุณแม่ได้อย่างใกล้ชิด

ซื้อแพ็กเกจฝากครรภ์และคลอดธรรมชาติได้ที่ HDmall

เพราะการฝากครรภ์นำไปสู่ความสำเร็จในการคลอด ด้วยเหตุผลนี้เองทางHDmall จึงได้นำแพ็กเกจการฝากครรภ์ดีๆ มาให้คุณแม่ได้มีตัวเลือกในการตัดสินใจฝากครรภ์กับโรงพยาบาล หรือคลินิกชั้นนำ เพื่อสุขภาพที่ดีของลูกน้อยที่จะเติบโตและออกมาดูโลก หากคุณแม่สนใจสามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ HDmall ได้เลย

ฝากครรภ์ ราคาเท่าไหร่?

ฝากครรภ์กับคลินิกและโรงพยาบาลเอกชน อาจมีราคาอยู่ระหว่าง 2,300-20,000 บาท ขึ้นอยู่กับรายการตรวจของแต่ละที่ ทั้งนี้คุณสามารถเช็กราคาแพ็กเกจฝากครรภ์ และค่าคลอดได้ที่นี่ HDmall.co.th

ฝากครรภ์ครั้งแรกที่ไหนดี?

การฝากครรภ์อาจต้องเดินทางไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลหรือคลินิกหลายครั้ง คุณอาจเลือกสถานที่ที่เดินทางสะดวก พร้อมมีรายการตรวจครบถ้วน โดยสามารถเช็กราคาได้ที่นี่ HDmall.co.th

ฝากครรภ์ใช้อะไรบ้าง?

สิ่งที่ต้องเตรียมตัวก่อนการฝากครรภ์คือ บัตรประชาชนของคุณแม่และคุณพ่อ ประวัติการเจ็บป่วย การแพ้ยา การคลอดลูก โรคประจำตัว ความเสี่ยงต่อโรคทางพันธุกรรม และการรับวัคซีน (ถ้ามี) ข้อมูลการมีประจำเดือนครั้งสุดท้าย (นับจากวันแรกของการมีประจำเดิอนวันสุดท้าย)

คลอดธรรมชาติ ใช้เวลานานไหม?

โดยปกติการคลอดธรรมชาติ คุณแม่จะรู้สึกเจ็บท้องคลอดต่อเนื่องกันประมาณ 8-12 ชั่วโมง โดยจะเริ่มเจ็บไม่มาก แล้วเริ่มเจ็บมากขึ้นและถี่ขึ้นเรื่อยๆ ส่วนระยะเวลาเบ่งคลอดจะใช้เวลาประมาณ 30-60 นาที

คลอดธรรมชาติ หรือผ่าคลอดดีกว่ากัน?

การคลอดธรรมชาติ มีข้อดี เช่น ค่าใช้จ่ายถูกกว่า ฟื้นตัวได้เร็วกว่า ไม่มีแผลเป็นที่หน้าท้อง ทารกได้รับภูมิต้านทานเชื้อโรคต่างๆ จากแม่ ขณะที่การผ่าคลอด คุณแม่ไม่ต้องทนเจ็บท้องนาน สามารถกำหนดวัน เวลาคลอดได้แม่นยำ ทารกมีภาวะแทรกซ้อนน้อยกว่า เช่น หัวใจเต้นช้า เป็นต้น การเลือกวิธีคลอดแบบใด ควรขึ้นอยู่กับความพร้อม สุขภาพของแม่และทารกเป็นหลัก