การวางตัวต่อเพื่อนเพศเดียวกัน

1.การวางตัวแบบเพื่อน

มีลักษณะการวางตัวโดยภาพรวมเหมือนกับการวางตัวต่อเพศเดียวกันแบบเพื่อน แต่การวางตัวต่อเพศตรงข้ามจะมีความละเอียดอ่อนกว่า ผู้ชายควรจะปกป้องดูแลช่วยเหลือผู้หญิง ข้อสำคัญคืออย่าคิดไม่ดีกับเพื่อนในทางเพศ และไม่ควรล่วงเกินโดยการถูกเนื้อต้องตัวไม่ว่าจะโดยเจตนาหรือไม่เจตนาก็ตาม การพูดจาก็จะต้องระมัดระวังคำพูดที่หยาบคาย ทะลึ่ง หรือพูดสองแง่สองง่าม ส่วนผู้หญิงก็ต้องระวังเพื่อนชายบางคนที่มีนิสัยเจ้าชู้ ชอบล่วงเกินผู้หญิง แม้จะเป็นเพื่อนกันก็ไม่สมควร ในสมัยก่อนจะมีโรงเรียนระดับมัธยมศึกษาที่เป็นโรงเรียนชายล้วน หรือหญิงล้วนกันมาก อาจมีปัญหาการวางตัวต่อเพศตรงข้ามอยู่บ้าง สมัยต่อมาจนถึงปัจจุบันโรงเรียนชายล้วนก็เปิดรับผู้หญิงเข้าไปเรียน โรงเรียนหญิงล้วน ก็เปิดรับผู้ชายเข้าไปเรียน จึงทำให้มีโรงเรียนประเภทสหศึกษามากขึ้น นักเรียนในโรงเรียนประเภทสหศึกษาจะมีการวางตัวต่อเพศตรงข้ามได้ดี เนื่องจากมีความคุ้นเคยต่อการเข้าสังคมระหว่างเพศเดียวกันและเพศตรงข้าม

มีอยู่ 4 การวางตัว   

1.  การวางตัวแบบเพื่อน คือ การวางตัวโดยภาพรวมเหมือนกับการวางตัวต่อเพศเดียวกันแบบเพื่อนแต่การวางตัวต่อเพศตรงข้ามจะมีความละเอียดอ่อนกว่าผู้ชาย    

และไม่ควรล่วงเกินโดยการถูกเนื้อต้องตัวไม่ว่าจะโดยเจตนาหรือไม่เจตนาก็ตาม                    

2.  การวางตัวแบบพี่น้อง  คือ การวางตัวต่อเพศเดียวกันแบบพี่น้อง แต่การวางตัวแบบพี่น้องกับเพศตรงข้ามจะมีความละเอียดอ่อนกว่า โดยเฉพาะ ผู้ชายต้องสุภาพ

 มีความสุภาพบุรษ วางตัวเป็นพี่ที่ดี ไม่ควรล่วงเกินทางเพศกับน้องผู้หญิงก็ต้องสังเกตท่าทีของผู้ชายเหมือนกันว่าจะคบกันแบบพี่น้อง

3.  การวางตัวแบบคู่รัก คือ การวางตัวแบบเพื่อน หรือแบบพี่น้องกันมาก่อน แล้วต่อๆมาก็เปลี่ยนมาเป็นแฟนหรือคู่รัก ซึ่งการคบแบบนี้จะต้องวางตัวต่อกันอย่างเหมาะสม

อย่าคำนึงถึงเรื่องเพศให้มากนัก ไม่ควรล่วงเกินกันจนเกินเลยและและไม่ควรมีเพศสัมพันธ์กันในขณะที่ตนเองยังเรียนอยู่ การคบกันควรให้พ่อแม่ผู้ปกครองรับรู้ 

4.การวางตัวในสถานะเป็นคู่ครองกัน คือ การที่ชายและหญิงแต่งงานกันอยู่ด้วยกันเป็นการเริ่มต้นของชีวิตคู่ที่จะต้องการปรับตัวเข้าหากันและวางตัวอย่างเหมาะสมรุ้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา

และถนอมน้ำใจซึ่งกันและกันต้องซื่อสัตย์ต่อกันในทุกเรื่องแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นและช่วยกันวางแผนอนาคตของตนเองและครอบครัวและจะมีชีวิตคู่สมบูรณ์แบบ

                                    

การวางตัวต่อเพื่อนเพศเดียวกัน
               
การวางตัวต่อเพื่อนเพศเดียวกัน
                              

การวางตัวต่อเพศตรงข้าม

   การวางตัวต่อเพศตรงข้าม หมายถึง การที่ชายหรือหญิงประพฤติปฏิบัติต่อกัน เพื่อสร้างสัมพันธภาพที่ดีระหว่างกันในแบบเพื่อน แบบพี่น้อง หรือแบบคู่รักภายใต้สภาพแวดล้อมตลอดจนขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมในสังคมนั้น ๆ 

การวางตัวต่อเพศตรงข้าม อาจแบ่งออกได้เป็น 2 ฐานะ ดังนี้
1. การวางตัวต่อเพศตรงข้ามในฐานะเพื่อน 

2. การวางตัวต่อเพศตรงข้ามในฐานะคู่รัก

การวางตัวต่อเพศตรงข้ามในฐานะเพื่อน

การปฏิบัติตนของฝ่ายชาย 
1. ควรแต่งกายให้สุภาพ สะอาดเรียบร้อย ไม่ฟุ่มเฟือย และไม่นำสมัยจนเกินไป ไม่ควรแต่งกายตามสบายมากนัก 
2. ใช้วาจาที่สุภาพ ไม่แสดงอาการก้าวร้าว เสียดสีด้วยวาจา ใช้คำพูดตามมารยาทในการพูดในสังคม 
3. การแสดงกิริยาอาการต่าง ๆ ต้องสุภาพเรียบร้อย ทั้งการนั่งยืน เดิน และต้องมีความองอาจสมความเป็นชาย แสดงถึงบุคลิกภาพที่ดี ควรให้เกียรติผู้หญิง ทำตัวเป็นสุภาพบุรุษ ช่วยเหลือผู้หญิงตามสมควร                            
4. แสดงความห่วงใยในเรื่องความปลอดภัยต่าง ๆ 
5. การให้ความสนิทสนม ควรอยู่ในขอบเขตไม่คลุกคลีมากเกินไป ควรระลึกเสมอว่าต้องให้เกียรติฝ่ายหญิงทุกโอกาสแม้ว่าจะสนิทสนมกันมากเพียงใด

การปฏิบัติตนของฝ่ายหญิง 
1. แต่งกายให้สุภาพ สะอาดเรียบร้อย รัดกุม ไม่ควรแต่งตัวล่อแหลม นุ่งห่มน้อยชิ้น ถ้าพบโดยบังเอิญในขณะที่แต่งกายไม่เรียบร้อย ก็ไม่ควรหยุดพูดคุยด้วยต้องขอตัวไปเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เรียบร้อยก่อนจึงมาพูดคุยด้วยในภายหลัง 
2. ใช้วาจาที่สุภาพเหมาะสมให้สมกับเป็นกุลสตรี ไม่พูดหยาบคาย ส่งเสียงดัง แม้จะมีความสนิทสนมกับฝ่ายชายมากก็ตาม 
3. ควรแสดงกิริยาที่เหมาะสม สุภาพ ไม่สูบบุหรี่ ดื่มสุรา หรือเสพสิ่งเสพติด ต้องสำรวมตนให้ดูเรียบร้อยเป็นกุลสตรีรู้จักมารยาทสังคม การเดิน การนั่ง การยืน ต้องดูเรียบร้อยสง่างาม เหมาะสมกับกาลเทศะ 
4. ควรมีน้ำใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ รู้จักแสดงความขอบคุณอย่างจริงใจเมื่อได้รับการช่วยเหลือจากฝ่ายชาย 
5. ไม่ควรอยู่ลำพังกับฝ่ายชายสองต่อสองในที่ลับตาคน ไม่แสดงกิริยาสนิทสนมเกินขอบเขต

การวางตัวต่อเพื่อนเพศเดียวกัน

การวางตัวต่อเพศตรงข้ามในฐานะคู่รัก 

     ชายหญิงที่มีความสัมพันธ์กันในฐานะคู่รัก ทั้งคู่ควรจะได้ศึกษาอุปนิสัย ค่านิยม ความต้องการ ความพอใจซึ่งกันและกัน เพื่อให้ความสัมพันธ์พัฒนาต่อไปจนถึงการตัดสินใจที่จะสมรสและใช้ชีวิตคู่ร่วมกันควรทำความรู้จักกับญาติทั้งสองฝ่าย เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับครอบครัวและสร้างความสัมพันธ์ในระหว่างญาติก่อนแต่งงาน 
    ในขณะที่คบกันถึงแม้จะอยู่ในฐานะที่เป็นคู่รักกันก็ต้องให้เกียรติซึ่งกันและกัน และควรจะต้องเพิ่มเติมความห่วงใยเอาใจใส่ดูแลกันให้มากขึ้นควรให้ความเคารพเชื่อฟังญาติผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่าย รวมทั้งมีน้ำใจต่อญาติพี่น้องของทั้งสองฝ่ายด้วย และไม่ให้ความสนิทสนมกันเกินขอบเขตของประเพณีเพราะในช่วงของวัยรุ่นนี้โดยธรรมชาติจะมีแรงขับทางเพศที่จะผลักดันให้มีเพศสัมพันธ์กัน จึงควรมีขอบเขตจำกัดตามประเพณีและวัฒนธรรมของไทย ดังนั้นชายหญิงจึงควรหลีกเลี่ยงการอยู่ด้วยกันตามลำพัง ไม่ดื่มเหล้าหรือเสพของมึนเมาเพราะจะทำให้ควบคุมตนเองไม่ได้ควรหาทางระบายความต้องการทางเพศในทางที่เหมาะสม เช่น การเล่นกีฬา การร่วมกิจกรรมของหมู่คณะ การเล่นดนตรี การทำงานอดิเรกหรืองานศิลปะ เป็นต้น