หนัง ปรสิต เพื่อนรักเขมือบโลก

เกี่ยวกับเบื้องหลังเรื่องราว Parasyte
การ์ตูนมังงะ เรื่อง Parasyte (ปรสิต เดรัจฉาน) เขียนโดย ฮิโตชิ อิวากิ เผยแพร่ครั้งแรกในปี คศ. 1988 – 1995 ได้รับการเผยแพร่และแปลในหลายประเทศรวมถึงประเทศไทยและอเมริกา และสิทธิ์ในการสร้างภาพยนตร์เคยตกไปอยู่ในมือฮอลลีวูด ในปี 2005 ของบริษัท New line Cinema แต่ประสบปัญหาเรื่องของการหาบทภาพยนตร์และผู้กำกับที่เหมาะสมไม่ได้จนในที่สุดบริษัท Toho ของประเทศญี่ปุ่นได้ชนะในการประมูลสิทธิกลับมาเป็นเจ้าของสิทธิในการสร้างภาพยนตร์ และได้กลายมาเป็น Parasyte ในภาพยนตร์เรื่องนี้ โดยแบ่งเป็น 2 ภาค ใน Part 1 และ Part 2

มินามิ อิชิกาว่า หัวเรือใหญ่ของ บริษัท โตโฮ ของญี่ปุ่น หลังจากได้สิทธิ์การสร้างภาพยนตร์มาเขาก็ไม่นิ่งนอนใจที่จะปล่อยให้ภาพยนตร์เรื่องนี้นิ่งเฉยไป เขาได้วางแผน และมองหาโปรดิวเซอร์ร่วมและผู้กำกับที่เหมาะสมกับภาพยนตร์เรื่องนี้ ไม่นานเขาก็หันไปพบกับเพื่อนของเขา ชิจิ อาเบะ โปรดิวเซอร์ผู้เคยกำผลงานอย่าง Always Sunset on Third Street ภาพยนตร์ที่ได้รับรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจากเวทีตุ๊กตาทองญี่ปุ่นมาแล้ว ไม่นานเมื่อทั้งสองตกลงที่จะทำงานร่วมกัน อาเบะ ยืนยันทันทีว่าผู้กำกับที่น่าจะมาทำหน้าที่นี้จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก ทาคาชิ ยามาซากิ ผู้กำกับคู่บุญจาก Always Sunset on Third Street นั่นเอง

ทาคาชิ ยามาซากิ เป็นตัวเลือกแรกในการกำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ เพราะเขาคือผู้กำกับมือทองของญี่ปุ่นในเวลานี้ ทุกคนในทีมตั้งตาคอยกับโปรเจคนี้ แต่เวลาที่เขาตกลงกำกับภาพยนตร์เรื่องนี้เขาก็ได้มีโปรเจคใหญ่อย่าง Stand by Me Doraemon เข้ามาอีกด้วย นับเป็นการดัดแปลงการ์ตูนสองแบบ สองสไตล์ ที่มีคิวฉายและถ่ายทำแทบจะพร้อมกันเลยทีเดียว

“ผมตื่นเต้นมากที่ภายใน 1 ปี ผมจะได้สร้างหนังที่มาจากการ์ตูนถึงสองเรื่อง ซึ่งความต่างของมัน คือมันมีเนื้อหาที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง ทั้งในแง่ของเนื้อหาและวิธีการ” – ทาคาชิกล่าว ทาคาชิ เป็นคนที่มีมุมมองที่ซื่อสัตย์ต่อตัวการ์ตูนเป็นอย่างมาก เขามักจะศึกษาเรื่องราวเหล่านั้นอย่างลึกซึ้งอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์เรื่อง Always ที่เขาต้องศึกษาเรื่องราวของการ์ตูนเรื่องนั้นอย่างละเอียด รวมไปถึงการเข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงความหมายของเรื่อง “เขาเป็นคนจดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งอยู่นานมาก ทั้งก่อนที่จะสร้างหนังภาคแรกที่ใช้เวลาเตรียมงานกว่าสองปี จนกระทั่งกลายมาเป็นภาพยนตร์ที่ยอดเยี่ยมละเอียดและยอดเยี่ยมมาก” –อาเบะกล่าว เมื่อทาคาชิได้มาคุมโปรเจค เรื่อง Parasyte อย่างเต็มตัว สิ่งแรกที่เขาทำคือ การกลับไปนั่งอ่านการ์ตูนมังงะสุดโปรดของเขาอีกครั้ง “นี่เป็นการ์ตูนที่ผมรักมากที่สุดเรื่องหนึ่ง มันมีทั้งแง่คิด ปรัชญา และเนื้อหาที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร จริงๆแล้วผมอยากจะทำหนังเรื่องนี้ก่อนเรื่อง Always ด้วยซ้ำ แต่ตอนนั้นสิทธิในการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ไปอยู่ที่ต่างชาติ” –ทาคาชิ กล่าว

“การ์ตูนมังงะเรื่องนี้มีส่วนผสมที่ดีในการที่เราจะเอามาสร้างหนัง” – อาเบะ กล่าว “มันมีเนื้อเรื่องที่สดใหม่ และตัวละครที่มีมิติอย่างเห็นได้ชัด การกระทำทุกอย่างของตัวละครทุกตัวล้วนมีเหตุมีผลทั้งสิ้น ผมมองหนังเรื่องว่ามันสามารถเป็นจริงได้” เราต่างจินตนาการว่ามนุษย์ต่างดาวจะเป็นตัวคนเหมือนที่หนังหลายเรื่องเคยเล่า แต่ถ้าหากมันมาอยู่ในรูปแบบปรสิตที่ต้องอาศัยร่างเพื่อดำรงชีพอยู่ มันจะน่ากลัวสักแค่ไหน เราไม่สามารถแยกใครออกได้เลยว่าใครคือมนุษย์หรือใครที่โดนปรสิตควบคุมร่างกายแล้ว

สิ่งที่ยากที่สุดสำหรับเรื่องนี้คือภาพวิชชวลเอ็ฟเฟ็กซ์ ของตัวปรสิต ทั้งในฉากของตัว “มิกิ” ปรสิตที่อาศัยอยู่ในร่างของเคนอิจิ และปรสิตที่อาศัยในร่างของคนอื่นๆ “ความคาดหวังของคนดูคือโจทย์ที่เราต้องทำให้สำเร็จ” ในการ์ตูนเราจะเห็นฉากการงับหัวของตัวเอเลี่ยน ซึ่งเราต้องพยายามทำให้มันเหมือนจริงอย่างมากที่สุด “เราใส่ใจทั้งฉากหลังและมุมกล้องของภาพในการ์ตูนให้ตรงกับภาพในภาพยนตร์” ทาคาชิกล่าว เขาตั้งใจให้ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเหมือนกับในการ์ตูนมังงะให้มากที่สุด โดยคำนึงถึงภาษาในโลกของภาพยนตร์ด้วยเช่นกัน

ทาคาชิ รับหน้าที่เป็นหัวหน้าทีมฝ่ายวิชชวลเอ็กเฟ็กซ์ด้วยเช่นกัน ความจริงแล้วก่อนที่เขาจะหันไปทำหนังดราม่าอย่าง Always เขาเคยกำกับหนังและทำหน้าที่ฝ่ายวิชชวลให้กับหนังแอคชั่นไซไฟให้กับภาพยนตร์เรื่อง Returner นำแสดงโดย ทาเคชิ คาเนชิโร่ อีกด้วย “ผมโตมากับงานวิชชวลเอ็ฟเฟ็กซ์ ผมหลงไหลในความมหัศจรรย์ของภาพ CG บนภาพยนตร์” ทาคาชิกล่าว นอกเหนือจาก Returner เขายังเคยกำกับในภาพยนตร์เรื่อง Space Battleship Yamato และนั่นคืองานพิสูจน์ความสามารถของเขาอย่างแท้จริง อาเบะกล่าวเพิ่มเติมว่า “หลังจากที่ผมเห็นความสามารถของเขาในการสร้างเรือรบบนอวกาศได้ในเรื่อง Yamato ผมมั่นใจว่าเขาคือผู้กำกับที่เก่งที่สุดของญี่ปุ่นในช่วงเวลานี้” มินามิ อิชิกาว่า มั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่านี่คือการยกระดับงานวิชชวลที่ยอดเยี่ยมให้ทัดเทียมฮอลลีวูด ผนวกกับเนื้อเรื่องอย่าง “ปรสิตเดรัจฉาน” นี้ด้วยแล้ว มันคือความสมบูรณ์แบบที่ภาพยนตร์เรื่องๆหนึ่งสามารถเกิดขึ้นได้

Parasyte เป็นหนังแนวไซไฟ-สยองขวัญที่ดัดแปลงจากการ์ตูนของ ฮิโตชิ อิวาอากิ (Hitoshi Iwaaki) ซึ่งถูกตีพิมพ์ตั้งแต่ปี 1990-1995 เล่าเรื่องราวในช่วงที่โลกถูกคุกคาม โดย Parasyte หรือ ปรสิต เดรัจฉาน เล่าเรื่องของสิ่งมีชีวิตจากต่างดาว ที่เดินทางมายังโลก โดยพวกมันสามารถยึดร่างมนุษย์ได้ด้วยการแทรกซึมเข้าไปทางรูหู หรือรูจมูกเพื่อเข้ายึดสมองควบคุมร่างกายแบบเบ็ดเสร็จ นอกจากนั้นเหล่าปรสิตต่างดาวในร่างมนุษย์ยังมีพละกำลังมหาศาล และสามารถเปลี่ยนอวัยวะให้กลายเป็นอาวุธอันแหลมคมอันตราย ในการจับมนุษย์กินเป็นอาหาร สังคมมนุษย์จึงต้องเผชิญกับการคุกคามของเหล่า ปรสิต ที่อาศัยปะปนอยู่กับผู้คนแบบแทบจะไม่สามารถแยกได้ออกเลย