สิ่งที่ต้องรู้
Show
บทความนี้จะสอนวิธีใช้โหมดไมโครโฟนแยกเสียงใน iOS 15 (iPhone XR, XS และ XS Max หรือ iPhone 11 ขึ้นไป) และอธิบายว่าโหมดนี้ทำงานอย่างไรและอาจมีข้อจำกัดใดๆ คุณทำการแยกเสียงบน FaceTime ได้อย่างไร?โหมดการแยกเสียงเป็นคุณสมบัติที่มีคุณค่าใน iOS 15 เพื่อป้องกันเสียงรบกวนรอบข้างเมื่อรับสายแบบ FaceTimeมีเพียงไม่กี่ขั้นตอนในการดำเนินการนี่คือวิธีการทำ
การแยกเสียงทำอะไร?การแยกเสียงเป็นโหมดใหม่ใน iOS 15 ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อแยกเสียงของคุณออกจากเสียงพื้นหลังใดๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างการโทรแบบ
FaceTimeช่วยให้เสียงของคุณอยู่ในโฟกัสตลอดการโทร โดยปิดเสียงรอบข้างรอบตัวคุณ โดยผ่านการเรียนรู้ของเครื่องขั้นสูง ดังนั้น iPhone ของคุณสามารถแยกแยะเสียงและเสียงพื้นหลังของคุณได้ โฟกัสอยู่ที่เสียงของคุณ ไม่ใช่สิ่งรอบตัว ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในที่ที่มีเสียงดังเป็นรูปแบบของการตัดเสียงรบกวนส่วนบุคคลสำหรับผู้รับสายของคุณอย่างมีประสิทธิภาพ ทำไมคุณถึงใช้โหมดแยกเสียง?โหมดแยกเสียงมีประโยชน์ในสถานการณ์ต่างๆ
ในชีวิตประจำวันของคุณนี่คือตัวอย่างที่ดีที่สุดบางส่วน
การแยกเสียงทำงานร่วมกับแอปอื่นๆ ได้หรือไม่เทคโนโลยีนี้มีไว้เพื่อให้ Voice Isolation ทำงานร่วมกับแอพของบริษัทอื่นได้ ดังนั้นจึงไม่ใช่เฉพาะสำหรับ FaceTimeนักพัฒนาแอปจำเป็นต้องเปิดใช้งาน ดังนั้นคาดว่าจะเห็นในแอปเสียงอื่นๆ ในเร็วๆ นี้ การแยกเสียงใช้งานได้กับ iPhone รุ่นเก่าหรือไม่การแยกเสียงต้องใช้ชิป A12 Bionic หรือใหม่กว่า จึงไม่สามารถใช้งานได้ใน iPhone X
หรืออุปกรณ์รุ่นเก่า Wide Spectrum บน iOS 15: มันคืออะไรและจะใช้งานอย่างไร คำถามที่พบบ่อย
iOS 15 เปิดตัววิธีใหม่ๆ ที่จะช่วยให้ต่อติดกับทุกเรื่อง พร้อมด้วยการอัปเดตอันทรงพลังที่จะช่วยผู้ใช้โฟกัสและสำรวจ รวมถึงคุณสมบัติอันชาญฉลาดที่จะช่วยให้ทำสิ่งต่างๆ ได้มากขึ้นด้วย iPhone นอกจากนี้ยังมีการอัปเดต FaceTime เพื่อวิดีโอคอลที่เป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น, “โฟกัส” ที่จะช่วยลดการรบกวน, คุณสมบัติใหม่อย่าง “ข้อความในรูปภาพ” หรือ Live Text ซึ่งใช้ระบบอัจฉริยะบนอุปกรณ์เพื่อดึงข้อมูลที่เป็นประโยชน์ออกมาแสดง, การอัปเกรดแอปแผนที่เพื่อเพิ่มวิธีใหม่ๆ ในการท่องโลก และอีกมากมาย iOS 15 พร้อมให้ใช้งานแล้ววันนี้ในรูปแบบของการอัปเดตซอฟต์แวร์ฟรี ยกระดับการโทร FaceTime ให้เป็นธรรมชาติยิ่งขึ้นFaceTime มีความสำคัญมากยิ่งกว่าที่เคย เพราะช่วยให้ผู้ใช้ติดต่อกับคนสำคัญได้ง่าย จึงมีการอัปเดตระบบเสียงและวิดีโอของ FaceTime ครั้งใหญ่เพื่อให้การโทรรู้สึกเป็นธรรมชาติและสมจริงยิ่งขึ้น โดยมีการใช้ระบบเสียงตามตำแหน่งเพื่อให้เสียงพูดขณะโทร FaceTime แบบกลุ่มฟังเหมือนกับว่าทิศทางของเสียงมาจากตำแหน่งที่ผู้พูดอยู่บนหน้าจอจริงๆ1 และยังมีโหมดแยกเสียง ซึ่งเป็นโหมดใหม่ของไมโครโฟน ที่ใช้การเรียนรู้ของระบบเพื่อขจัดเสียงรบกวนรอบข้างและเน้นเสียงของผู้ใช้เป็นหลัก ในขณะที่โหมดสเปกตรัมกว้างจะปล่อยให้ทุกเสียงรอบข้างผ่านเข้ามาได้ และยังมีโหมดภาพถ่ายบุคคลใน FaceTime ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากภาพถ่ายบุคคลสวยๆ ที่ถ่ายด้วย iPhone โดยที่โหมดนี้จะเบลอฉากหลังและโฟกัสที่ผู้ใช้2 นอกจากนี้ยังสามารถใช้โหมดแยกเสียง สเปกตรัมกว้าง และภาพถ่ายบุคคลกับแอปของบริษัทอื่นอย่าง Webex, Zoom และ WhatsApp ได้ด้วย ส่วนการโทร FaceTime แบบกลุ่มก็มีตัวเลือกใหม่สำหรับแสดงผู้เข้าร่วมเป็นช่องสี่เหลี่ยมขนาดเท่ากันในแบบตาราง ใน iOS 15 นั้น การโทร FaceTime แบบกลุ่มจะแสดงผู้เข้าร่วมเป็นช่องสี่เหลี่ยมขนาดเท่ากันในแบบตารางการโทร FaceTime ไม่ได้จำกัดแค่อุปกรณ์ Apple อีกต่อไป แต่ยังรวมไปถึงผู้ใช้อุปกรณ์ Android หรือ Windows ที่สามารถเข้าร่วมจากเว็บเบราว์เซอร์ของตัวเองได้แล้ว และที่สำคัญคือการโทร FaceTime บนเว็บยังคงได้รับการเข้ารหัสตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทางเช่นเดิม จึงมั่นใจได้ในเรื่องความเป็นส่วนตัว หากต้องการเริ่มการโทรก็ทำได้ง่ายๆ โดยให้ผู้ใช้ iPhone, iPad และ Mac สร้างลิงก์ FaceTime แล้วแชร์ผ่านแอปข้อความ ปฏิทิน เมล หรือแอปของบริษัทอื่น เพียงเท่านี้การติดต่อกับเพื่อนๆ และครอบครัวก็ง่ายยิ่งกว่าที่เคย SharePlay ซึ่งจะพร้อมใช้งานภายในปีนี้ คือวิธีใหม่ที่จะช่วยให้ผู้ใช้แชร์ประสบการณ์ร่วมกับเพื่อนๆ และครอบครัวขณะโทร FaceTime ได้ อย่างการฟังเพลงด้วยกัน ดูรายการทีวีหรือภาพยนตร์ด้วยกัน ออกกำลังกายด้วยกัน หรือแชร์หน้าจอเพื่อดูแอปต่างๆ โดยที่ SharePlay จะใช้งานได้กับแอปอย่าง Apple Music, Apple TV+ และ Apple Fitness+ รวมถึง Disney+, ESPN+, HBO Max, Hulu, MasterClass, Paramount+, Pluto TV, SoundCloud, TikTok, Twitch และอีกหลายแอป SharePlay สามารถใช้งานผ่าน iPhone, iPad และ Mac อีกทั้งยังมีปุ่มควบคุมการเล่นแบบแชร์ที่ให้ใครก็ได้ในเซสชั่น SharePlay นั้นกดเล่น หยุด หรือข้ามไปข้างหน้าได้ ยิ่งกว่านั้น SharePlay ยังใช้งานบน Apple TV ได้ด้วย ผู้ใช้จึงสามารถดูรายการทีวีหรือภาพยนตร์บนจอใหญ่ได้ อีกหลายวิธีในการต่อติดกับทุกเรื่องด้วยแอปข้อความ“แชร์กับคุณ” ซึ่งเป็นส่วนใหม่ที่จะปรากฏในแอปรูปภาพ, Safari, Apple News, เพลง, Apple Podcasts และ Apple TV จะแสดงรูปภาพ บทความ และคอนเทนต์อื่นๆ ที่เพื่อนและครอบครัวแชร์มาทางแอปข้อความ โดยที่ “แชร์กับคุณ” จะแสดงรูปภาพที่แชร์มาในแอปรูปภาพ, แสดงบทความใหม่ๆ ใน Apple News และแสดงคอนเทนต์อื่นๆ ในแอปสำหรับคอนเทนต์นั้นโดยอัตโนมัติ และ “แชร์กับคุณ” ยังแสดงด้วยว่าใครเป็นผู้ส่งคอนเทนต์นั้น ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้เปิดดูข้อความที่เกี่ยวข้องแล้วกลับไปคุยเรื่องเดิมต่อได้ง่าย Memoji ใน iOS 15 ให้ผู้ใช้บ่งบอกความเป็นตัวเองในรูปแบบใหม่ๆ ด้วยอุปกรณ์สวมศีรษะหลากสีสัน แว่นตาที่มีให้เลือกเพิ่มหลายแบบ และตัวเลือกใหม่สำหรับการช่วยการเข้าถึง อย่างประสาทหูเทียม สายออกซิเจน และหมวกนิรภัยแบบบุนุ่ม อีกทั้งยังสามารถปรับแต่งสติกเกอร์ Memoji ด้วยเครื่องแต่งกายมากกว่า 40 แบบ และมีสติกเกอร์ท่าทางใหม่ๆ อีก 9 แบบ อย่างการชูนิ้วหัวแม่มือและนิ้วก้อย โบกมือ และจังหวะปิ๊งไอเดีย เครื่องมืออันทรงพลังที่จะช่วยโฟกัสความสนใจiOS 15 มาพร้อมคุณสมบัติ “โฟกัส” ซึ่งเป็นวิธีใหม่ที่จะช่วยลดการรบกวนโดยรองการแจ้งเตือนตามสิ่งที่ผู้ใช้ต้องการโฟกัสในขณะนั้น เช่น ผู้ใช้สามารถตั้งโฟกัส “เวลางาน” ในช่วงเวลางานเพื่อรับการแจ้งเตือนเฉพาะที่มาจากเพื่อนร่วมงานและแอปที่ใช้สำหรับการทำงานเท่านั้น แล้วตั้งโฟกัส “เวลาส่วนบุคคล” ในช่วงที่อยากพักและใช้เวลากับเพื่อนๆ หรือครอบครัว หรือตั้งโฟกัส “เวลาเล่นฟิตเนส” เพื่อช่วยให้ผู้ใช้จดจ่ออยู่กับการออกกำลังกายจนเสร็จ โดยที่ผู้ใช้สามารถสร้างโฟกัสของตัวเอง หรือเลือกจากโฟกัสที่มีให้ ซึ่งใช้ระบบอัจฉริยะบนอุปกรณ์เพื่อแนะนำว่าควรอนุญาตการแจ้งเตือนจากใครและจากแอปใดบ้าง และถ้าอยากโฟกัสยิ่งกว่าเดิม ก็สามารถทำได้โดยการสร้างหน้าจอโฮมแบบเฉพาะที่มีเพียงแอปและวิดเจ็ตที่เกี่ยวข้องกับโฟกัสนั้นนอกจากนี้ในขณะใช้งานโฟกัสก็จะมีการแสดงสถานะให้ผู้ติดต่อเห็นโดยอัตโนมัติในแอปข้อความและแอปสื่อสารของบริษัทอื่นที่รองรับอย่าง Slack เพื่อให้คนอื่นรู้ว่าไม่ควรรบกวน เท่านั้นยังไม่พอ เพราะผู้ใช้จะได้รับคำแนะนำให้เปิดโฟกัสตามปัจจัยต่างๆ อย่างช่วงเวลาของวันหรือสถานที่ และเมื่อตั้งค่าโฟกัสในอุปกรณ์ Apple เครื่องหนึ่งแล้ว ก็จะมีผลกับอุปกรณ์ Apple อื่นๆ ของผู้ใช้โดยอัตโนมัติ คุณสมบัติ “โฟกัส” ช่วยให้ผู้ใช้สามารถกรองการแจ้งเตือนเพื่อลดสิ่งรบกวนสมาธิ โดยจะใช้โฟกัสที่กำหนดเอง หรือโฟกัสที่แนะนำก็ได้ เช่น “เวลาทำงาน” หรือ “เวลาเล่นฟิตเนส”การแจ้งเตือนโฉมใหม่การแจ้งเตือนได้รับการออกแบบใหม่โดยการเพิ่มรูปของผู้ติดต่อในกรณีที่มาจากบุคคลและมีไอคอนที่ใหญ่ขึ้นในกรณีที่มาจากแอป ซึ่งทั้งหมดนี้ช่วยให้ผู้ใช้ระบุได้ง่ายขึ้นว่าเป็นการแจ้งเตือนอะไร และมีสรุปการแจ้งเตือน ซึ่งจะรวมการแจ้งเตือนเป็นคอลเลกชั่นที่มีประโยชน์แล้วส่งให้ทุกวันตามเวลาที่ผู้ใช้กำหนดไว้ โดยที่สรุปการแจ้งเตือนจะใช้ระบบอัจฉริยะบนอุปกรณ์เพื่อจัดเรียงการแจ้งเตือนตามลำดับความสำคัญ และแสดงการแจ้งเตือนที่ผู้ใช้น่าจะสนใจที่สุดไว้บนสุด อ้างอิงตามการโต้ตอบระหว่างผู้ใช้กับแอปต่างๆ ส่วนการแจ้งเตือน ข้อความ และสายเรียกเข้าที่สำคัญต่อเวลาจะแสดงในทันที เพื่อให้ผู้ใช้ไม่พลาดการแจ้งเตือนที่ควรได้รับในเวลานั้น และถ้าอยากปิดเสียงแอปหรือประเด็นการสนทนาใดเป็นการชั่วคราว ไม่ว่าจะเพียงหนึ่งชั่วโมงหรือตลอดวัน ก็ทำได้ง่ายๆ iOS 15 มาพร้อมสรุปการแจ้งเตือน ซึ่งจะรวมการแจ้งเตือนเป็นคอลเลกชั่นที่มีประโยชน์แล้วส่งให้ทุกวันตามเวลาที่ผู้ใช้กำหนดไว้ระบบอัจฉริยะบนอุปกรณ์คือขุมพลังเบื้องหลังคุณสมบัติ “ข้อความในรูปภาพ”, การค้นหาขั้นสูงด้วย Spotlight และ “ความทรงจำ”คุณสมบัติ “ข้อความในรูปภาพ” ช่วยให้ผู้ใช้โต้ตอบกับข้อความในรูปภาพได้ คุณสมบัติ “ข้อความในรูปภาพ” หรือ Live Text ใช้ระบบอัจฉริยะบนอุปกรณ์เพื่ออ่านข้อความในรูปภาพทั่วทั้งระบบ รวมถึงบนเว็บ และช่วยให้ผู้ใช้ทำสิ่งต่างๆ อย่างการคัดลอกและวาง ค้นข้อมูล หรือแปลได้ โดยที่ผู้ใช้สามารถแตะภาพหมายเลขโทรศัพท์เพื่อโทรติดต่อ หรือแตะภาพของที่อยู่เว็บเพื่อเปิดใน Safari ได้ ยิ่งกว่านั้นยังมี Neural Engine อันทรงพลังที่ทำให้แอปกล้องสามารถตรวจหาและคัดลอกข้อความได้อย่างรวดเร็วขณะใช้งานอยู่ เช่น รหัสผ่าน Wi-Fi ที่แสดงอยู่ในร้านกาแฟ และยังมีคุณสมบัติ “ค้นดูจากภาพ” ที่ให้ผู้ใช้ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับงานศิลปะยอดนิยม สถานที่สำคัญ หนังสือ พืชและดอกไม้ที่พบตามธรรมชาติ และพันธุ์ของสัตว์เลี้ยงได้ Spotlight ให้คุณค้นหาได้ทุกอย่างบน iPhone โดยที่ตอนนี้สามารถเรียกใช้ได้โดยตรงจากหน้าจอล็อค และยังสามารถค้นหารูปภาพตามสถานที่ ผู้คน สภาพแวดล้อม หรือวัตถุได้ด้วย และ Spotlight ก็สามารถหาข้อความและลายมือในรูปภาพได้เช่นกันโดยใช้คุณสมบัติ “ข้อความในรูปภาพ”iOS 15 มาพร้อมการอัปเดตครั้งใหญ่ที่สุดสำหรับคุณสมบัติ “ความทรงจำ” ทั้งหน้าตาที่สดใหม่ อินเทอร์เฟซแบบอินเทอร์แอ็คทีฟ และการทำงานร่วมกับ Apple Music ซึ่งใช้ระบบอัจฉริยะบนอุปกรณ์เพื่อแนะนำเพลง รวมถึงความทรงจำใหม่ในแบบภาพยนตร์ที่ช่วยให้ย้อนดูช่วงเวลาประทับใจหรือช่วงเวลาที่อาจลืมไปแล้วได้ง่ายขึ้น ประสบการณ์ใหม่ในการท่องเว็บด้วย SafariSafari พร้อมมอบประสบการณ์การท่องเว็บที่ออกแบบขึ้นใหม่เพื่อให้ผู้ใช้เอื้อมถึงส่วนควบคุมต่างๆ ได้ง่ายขึ้น เริ่มจากรายการแถบแบบใหม่ที่จะแสดงอยู่ด้านล่างของหน้าจอเป็นค่าเริ่มต้น เพื่อให้ผู้ใช้สามารถสลับไปมาระหว่างแต่ละแถบได้ง่ายด้วยมือเดียว และยังมี “กลุ่มแถบ” หรือ Tab Groups ที่ให้ผู้ใช้จัดระเบียบแถบต่างๆ และเข้าถึงได้ง่ายทุกเมื่อไม่ว่าจะอยู่บน iPhone, iPad หรือ Mac พร้อมด้วยหน้าเริ่มต้นที่ปรับแต่งได้ และส่วนขยายบน iOS ที่ทำให้ Safari ทรงพลังและตอบโจทย์ของผู้ใช้ได้ดียิ่งขึ้น Safari โฉมใหม่มาพร้อมรายการแถบเว็บไซต์และ “กลุ่มแถบ” ที่จะช่วยยกระดับประสบการณ์การท่องเว็บนำทางและสำรวจโลกด้วย Apple Mapsแอปแผนที่ใน iOS 15 มาพร้อมวิธีใหม่เอี่ยมในการสำรวจโลก อย่างแผนที่ที่สวยงามน่าทึ่ง ซึ่งจะแสดงรายละเอียดในระดับที่ไม่เคยเห็นมาก่อนสำหรับย่านต่างๆ ย่านการค้า อาคาร รวมถึงสถานที่สำคัญที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ รวมถึงโหมดกลางคืนใหม่ที่มีแสงจันทร์ส่องสว่าง ส่วนการนำทางนั้นมีมุมมองใหม่ขณะขับขี่แบบ 3 มิติ พร้อมด้วยรายละเอียดบนถนนที่จะช่วยให้ผู้ใช้สังเกตเห็นเลนเลี้ยว เกาะกลาง ทางม้าลาย และทางเท้าได้ง่ายขึ้น แผนที่ที่ปรับปรุงใหม่นี้จะมีให้ใช้งานในลอสแอนเจลิส นิวยอร์ก และซานฟรานซิสโก และจะมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งยังมีลูกโลกอินเทอร์แอ็คทีฟที่ออกแบบมาอย่างสวยงามให้แสดงรายละเอียดได้อย่างสมจริง ทั้งเทือกเขา ทะเลทราย ป่าดงดิบ และผืนน้ำ ผู้ใช้ระบบขนส่งสามารถแตะครั้งเดียวเพื่อดูรถที่กำลังจะออกจากสถานีหรือป้ายใกล้ๆ ทั้งหมด พร้อมกับปักหมุดสายที่ใช้บริการบ่อยได้ นอกจากนี้แอปแผนที่จะติดตามผู้ใช้ไปด้วยโดยอัตโนมัติตลอดเส้นทางขนส่งสาธารณะที่เลือกไว้ พร้อมกับแจ้งเตือนผู้ใช้เมื่อใกล้ถีงเวลาที่ต้องลงจากรถ และผู้ใช้ยังสามารถติดตามดูบน Apple Watch ได้อีกด้วย และเพียงแค่หยิบ iPhone ขึ้นมาถือไว้ ผู้ใช้ก็สามารถดูเส้นทางการเดินอย่างละเอียดในรูปแบบความจริงเสริมได้ แอปกระเป๋าสตางค์ของ Apple รองรับกุญแจใหม่ๆ และบัตรประจำตัวของรัฐใน iOS 15 ผู้ใช้สามารถเข้าสถานที่ต่างๆ ได้มากยิ่งขึ้นโดยการแตะ iPhone เพียงครั้งเดียว เพราะมีทั้งกุญแจสำหรับบ้าน ห้องโรงแรม สำนักงาน และรถ ซึ่งทั้งหมดรวมอยู่ในแอปกระเป๋าสตางค์ ส่วนกุญแจรถดิจิทัลก็ดียิ่งกว่าเดิมด้วยการรองรับเทคโนโลยีอัลตร้าไวด์แบนด์ ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถล็อค เปิดล็อค และสตาร์ทรถรุ่นที่รองรับได้อย่างปลอดภัยโดยไม่ต้องหยิบ iPhone ออกจากกระเป๋าเลย3 อีกทั้งยังสามารถใช้ iPhone เพื่อเปิดล็อคประตูบ้าน ที่ทำงาน หรือแม้แต่ห้องโรงแรมของผู้ใช้ได้อีกด้วยโดยใช้เพียงกุญแจที่เก็บไว้ในแอปกระเป๋าสตางค์4 นอกจากนี้ผู้ใช้ยังสามารถเพิ่มบัตรประจำตัวและใบขับขี่ของรัฐที่เข้าร่วมไว้ในแอปกระเป๋าสตางค์บน iPhone ได้เมื่อรัฐที่ผู้ใช้อาศัยอยู่รองรับตัวเลือกนี้ในอนาคต5 สัมผัสประสบการณ์ใหม่กับแอปสภาพอากาศแอปสภาพอากาศมาพร้อมดีไซน์ใหม่เอี่ยมที่มีทั้งแผนที่แบบเต็มหน้าจอ การแสดงข้อมูลสภาพอากาศแบบกราฟิก และเลย์เอาท์ที่จะปรับเปลี่ยนไปตามสภาพอากาศ ส่วนแอนิเมชั่นที่สวยงามในฉากหลังก็จะแสดงสอดคล้องกับตำแหน่งของดวงอาทิตย์ ลักษณะเมฆ และปริมาณฝนตกอย่างแม่นยำยิ่งขึ้น และยังมีการแจ้งเตือนด้วยเมื่อฝนหรือหิมะกำลังจะตกหรือหยุดตก แอปสภาพอากาศได้รับการออกแบบใหม่ให้มีแผนที่แบบเต็มหน้าจอ และเลย์เอาท์ที่จะปรับเปลี่ยนไปตามสภาพอากาศจัดระเบียบและทำงานร่วมกันในแอปโน้ตแอปโน้ตเพิ่มแท็กที่ผู้ใช้สร้างเองได้ ซึ่งจะช่วยให้จัดประเภทโน้ตได้ง่ายและรวดเร็ว และสมาชิกของโน้ตที่แชร์ไว้สามารถใช้การพูดถึงเพื่อแจ้งให้อีกคนทราบเกี่ยวกับการอัปเดตที่สำคัญได้ และยังมีมุมมอง “กิจกรรม” แบบใหม่หมดที่จะแสดงประวัติการแก้ไขล่าสุดของโน้ตที่แชร์อยู่ รวมถึง “ไฮไลท์” ที่จะแสดงรายละเอียดว่าใครแก้ไขอะไรบ้าง นอกจากนี้ผู้ใช้ยังสามารถเปิดดูและแก้ไขโน้ตด่วนที่สร้างบน Mac และ iPad ในแอปโน้ตได้ด้วย แอปโน้ตเพิ่มแท็กที่ผู้ใช้สร้างเองได้เพื่อให้สามารถจัดประเภทโน้ตตามลักษณะเนื้อหาได้ง่ายๆ อย่างรวดเร็วควบคุมความเป็นส่วนตัวได้ดียิ่งขึ้นคุณสมบัติใหม่ๆ ด้านความเป็นส่วนตัวช่วยเพิ่มความโปร่งใสและสามารถควบคุมข้อมูลที่ผู้ใช้ให้กับแอปต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น และยังมีคุณสมบัติ “การปกป้องความเป็นส่วนตัวของเมล” ที่ช่วยป้องกันไม่ให้ผู้ส่งทราบว่าอีเมลนั้นถูกเปิดอ่านแล้วหรือไม่ พร้อมกับซ่อนที่อยู่ IP เพื่อไม่ให้ผู้ส่งรู้ตำแหน่งของผู้ใช้ หรือใช้ที่อยู่ IP นั้นเพื่อสร้างโปรไฟล์เกี่ยวกับตัวผู้ใช้ ส่วน Siri ก็ช่วยปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ได้ดียิ่งขึ้นด้วยการรู้จำเสียงพูดบนอุปกรณ์ โดยที่เสียงคำขอทั้งหมดจะได้รับการประมวลผลบนอุปกรณ์เป็นค่าเริ่มต้น ซึ่งทั้งหมดนี้ช่วยให้ปรับแต่งการทำงานให้เหมาะกับผู้ใช้ได้มากขึ้น รวมถึงสามารถส่งคำขอแบบออฟไลน์ และยังทำงานเร็วขึ้นด้วย6 อีกหลายคุณสมบัติที่น่าสนใจ
ผู้ใช้ทั่วไปสามารถอัปเดตได้แล้ว ส่วนวิธีการอัปเดต iOS 15 ก็ง่าย ๆ เข้าไปที่การตั้งค่า > ทั่วไป > รายการอัปเดตซอฟต์แวร์ จากนั้นก็กดดาวน์โหลดและติดตั้งได้เลย |