Show
วันนี้เราหยิบลำโพงพกพางบ 7,000 บาทที่เพื่อน ๆ หลายคนต้องนำมาเปรียบเทียบกันแน่นอนตอนตัดสินใจซื้อ มาเทียบกันให้เห็นชัด ๆ ว่ารุ่นไหนเป็นยังไงบ้าง ทั้งคุณภาพเสียง สเปคต่าง ๆ ดูจบคลิปนี้ พร้อมซื้อแน่นอน! ►อ่านรีวิวเต็ม & สั่งซื้อสินค้า ◄ JBL Charge 5 ราคา 6,990 บาท → คลิกเลย!Bose Soundlink Flex ราคา 6,490 บาท → คลิกเลย! Marshall Emberton ราคา 6,990 บาท → คลิกเลย! สนใจลำโพงรุ่นอื่น ๆ → คลิกเลย ► ติดตามเราได้ที่ ◄ Subscribe Youtube: https://www.youtube.com/c/Mercular Facebook : https://www.facebook.com/mercular/ Instagram : https://www.instagram.com/mercular/ Line: @Mercular (เติม @ ด้วย) 0:00 Introduction 1:00 ราคาลำโพงทั้ง 3 รุ่น 1:19 พรีวิว Bose Soundlink Flex 2:38 พรีวิว JBL Charge 5 3:21 Bose VS JBL (spec) 3:36 พรีวิว Marshall Emberton 4:30 Bose VS JBL VS Marshall 4:54 ทดสอบเสียงลำโพง 5:48 รีวิวเสียง ตัวไหนดีกว่ากัน? 6:35 ทดสอบเสียงความดัง 100% 7:35 สรุปลำโพงงบ 7000 เลือกตัวไหนดี? 8:03 ตารางเปรียบเทียบลำโพง JBL VS Marshall VS Bose +EPOS Brand Day Update+ แจกส่วนลดสุดจึ้ง! รับ Summer
ตั้งแต่วันที่ 25 - 27 เมษายน 2565 คลิกเลย!  1. รหัสส่วนลดนี้จะถูกส่งไปยัง e-mail ที่ท่านลงทะเบียนไว้ 2. ไม่สามารถใช้รหัสส่วนลดที่ได้รับ กับ สินค้าอื่นที่ไม่ได้ร่วมรายการโปรโมชั่นนี้ได้ 3. รหัสส่วนลดจะมีอายุการใช้งานเพียง 1 ชั่วโมง ในกรณีที่ไม่ได้เปิดใช้งานเป็นส่วนลด จะถูกตัดออกจากระบบทันที ลำโพงบลูทูธ JBL มีอะไรบ้างJBL แบ่งลำโพงบลูทูธของตัวเองออกเป็น 3 กลุ่มหลักๆ ได้แก่ กลุ่มลำโพงพกพา Portable Speaker กลุ่มลำโพงปาร์ตี้ตระกูล Partybox และกลุ่มลำโพงบลูทูธอัจฉริยะตระกูล Link ซึ่งลำโพงทั้งสามกลุ่มก็จะมีลำโพงหลายขนาดให้เลือก สเปกและราคาก็จะแปรผันมากน้อยไปตามขนาด กลุ่มลำโพงพกพา Portable Speaker ของ JBL มีทั้งหมด 7 รุ่นด้วยกัน ประกอบด้วย Go รุ่นเล็กสุด, Clip, Flip, Charge, Pulse, Xtreme และ Boombox รุ่นใหญ่สุด สิ่งที่ทุกรุ่นมีเหมือนกันคือออกแบบมาให้พกพาง่าย รุ่นเล็กมีเชือกห้อย รุ่นใหญ่หน่อยมีด้ามจับ และมีคุณสมบัติกันน้ำกันฝุ่นทุกรุ่น ใช้งาน outdoor ได้สบาย ส่วนฟีเจอร์อื่นก็จะคละกันไป พวกรุ่นใหญ่ก็จะใช้งานร่วมกับแอปฯ JBL Portable ได้ รวมถึงมีฟีเจอร์จับคู่สองตัวเป็นระบบเสียงสเตอริโอ เป็นต้น พวกรุ่นเล็กก็เน้นห้อยติดตามกระเป๋าเป้ กางเกง เปิดเพลงฟังได้ทุกที่ทุกเวลา กลุ่มลำโพงปาร์ตี้ตระกูล Partybox เป็นลำโพงบลูทูธที่ออกแบบมาเพื่อการปาร์ตี้โดยเฉพาะ เริ่มตั้งแต่รูปลักษณ์ดีไซน์ภายนอกที่ต้องมีไฟเอฟเฟ็กต์ RGB วิบวับเป็นส่วนประกอบ แนวเสียงที่เน้นความกระหึ่ม หนักแน่น เบสตูมตาม อิมแพ็คแรงจัด ตามสไตล์ JBL Pro Sound เพื่อส่งมอบความสนุกและความมันส์ให้กับงานปาร์ตี้ สมาชิกในซีรีส์นี้มีทั้งหมด 5 รุ่น ประกอบด้วย Partybox Encore Essential รุ่นเล็กสุด, Partybox 110, Partybox 310, Partybox 710 และ Partybox 1000 พี่ใหญ่สุดที่มาพร้อมแป้นดีเจคอนโทรลเลอร์ จุดเด่นของลำโพงในตระกูลนี้คือการออกแบบให้เคลื่อนย้ายหรือถือพกพาได้สะดวก มีคุณสมบติกันน้ำอย่างน้อย IPX4 รองรับโหมด Partyboost เชื่อมต่อลำโพงได้พร้อมกันหลายตัว (ต่อเพียงสองตัวเป็นระบบเสียงสเตอริโอก็ได้) ต่อไมค์ร้องเพลงได้ รุ่นใหญ่ต่อกีตาร์เล่นสดได้ ควบคุมการทำงานได้ผ่านแอปฯ JBL Partybox พวกรุ่นเล็กจะมีแบตเตอรี่ในตัวส่วนรุ่นใหญ่ต้องเสียบปลั๊กไฟ เรียกว่าถ้าต้องการลำโพงปาร์ตี้ต้อง JBL Partybox เท่านั้น กลุ่มลำโพงบลูทูธอัจฉริยะตระกูล Linkอาจจะไม่ค่อยได้รับความนิยมมากนักแต่ก็มีความน่าสนใจไม่น้อยเหมือนกัน ประกอบลำโพง 4 รุ่น ได้แก่ Link 10 รุ่นเล็กสุด, Link 20, Link 300 และ Link 500 ทุกรุ่นมาพร้อมหน้าที่คล้ายกัน จุดเด่นที่มีเหมือนกันคือรองรับการสั่งงานด้วยเสียงผ่าน Google Assistant รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi รองรับ Chromecast รองรับระบบ Multi-room และเล่นเสียงความละเอียดสูง Hi-Res Audio 24 bit/96kHz ได้ จัดว่าเป็นลำโพงอัจฉริยะที่ควรมีไว้ในบ้านสมาร์ตโฮม 6 ลำโพง Bluetooth เสียงดีที่ควรมีติดตัวไว้!! เรียกได้ว่าเสียงเพลงเป็นสิ่งที่ใครต่อหลายคนขาดไม่ได้ ยิ่งฟังเพลงที่เราชอบ ศิลปินที่เรารัก ยิ่งทำให้อินไปกับบทเพลงนั้นและนี่คือ 6 ลำโพง Bluetooth ที่จะเพิ่มสุนทรียภาพในการฟังเพลงของท่านให้อินและมีความสุขกับบทเพลงมากขึ้น เราไปดูกันว่ามีตัวไหนที่ถูกใจจนอยากเป็นเจ้าของกันบ้าง Marshall Tufton Bluetooth Speaker มาในรูปทรงแบบสี่เหลี่ยมผืนผ้าตั้งสูง ภายในมีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานถึง 20+ ชั่วโมง การขับเสียงก็น่าสนใจแบบสุด ๆ เพราะใช้มาตรฐานใหม่ของทางแบรนด์ Marshall คือการขับเสียงแบบหลายทิศทางหรือที่ทางแบรนด์เรียกว่า Multi-Directional Sound ที่ในรุ่น Tufton นั้นใช้เป็น 3 ทิศทาง รวมไปถึงการทำช่องให้เสียงออกจากทางด้านหลังด้วย ทำให้ไม่ว่าจะฟังจากมุมไหนก็ได้ยินเสียงที่ทรงพลัง การเชื่อมต่อก็ใช้รุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Bluetooth 5.0
พร้อมการเชื่อมต่อของสัญญาณที่เสถียรมากยิ่งขึ้น ระยะที่ไกล และการใช้พลังงานที่น้อยลง เมื่อใช้งานร่วมกับ Device ที่รองรับก็จะทำให้ส่งสัญญาณได้ไม่ดีเลย์ วัสดุก็เป็นอีกจุดที่ต้องบอกว่าน่าสนใจมาก ๆ เพราะเลือกใช้ทั้งหนัง ซิลิโคน และโลหะ Steel ใช้งานได้ไม่กลัวน้ำด้วยมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IPX2 เชื่อมต่ออุปกรณ์ Smartphone ได้พร้อมกันถึง 2 ตัวในเวลาเดียวกัน Fender Indio Bluetooth Speaker ราคา 13,900 บาทสำหรับแบรนด์สุดคลาสสิค Fender รุ่น Indio Bluetooth Speaker มาในรูปร่างที่ถูกออกแบบมาให้ใกล้เคียงกับแอมป์กีต้าร์ของแบรนด์ ช่วยให้ดูหรูหรา คลาสสิค จุดเด่นคือเรื่องของ Control Knob แบบหมุนที่สามารถปรับระดับเสียงและควบคุมการใช้งานได้ตามต้องการ ปุ่มรูปทรงแบบคลาสสิค ควบคุมได้ทั้งปรับเสียง (EQ) ต่ำ (Bass) – สูง (Treble) และปุ่มปรับ Volume ภายในมาพร้อมไดร์เวอร์ขับเสียงถึง 4 ตัว แบ่งเป็นไดร์เวอร์ Peerless Tweeter ขนาด 16 มิลลิเมตร 2 ตัว และ Peerless Woofer ขนาด 3.5 นิ้ว 2 ตัว ด้วยแรงขับเสียงที่มากถึง 60W เชื่อมต่อได้ทั้ง iOS และ Android ใช้งานได้เพลินๆถึง 20 ชั่วโมงแบตเตอรี่ภายในตัว พร้อมช่องเชื่อมต่อสาย AUX/3.5 mm. สำหรับการเชื่อมต่อแบบมีสายและพกพาไปไหนได้ง่ายด้วยขนาด กว้าง 27.5 x สูง 216.5 x หนา 122 มิลลิเมตรเท่านั้น น้ำหนักเบามาก ๆ เพียง 6.6 กิโลกรัมเท่านั้น Bose SoundLink Revolve+ Bluetooth Speaker 12,900 บาทลำโพงไร้สาย Bose SoundLink Revolve+ เป็นลำโพงพกพา ที่มีการออกแบบเรียบหรู ตัวลำโพงมีลักษณะเป็นรูปทรงกระบอกฐานกว้าง เพื่อการตั้งที่มั่นคง มีหน้าตาแปลกไปจาก Bose SoundLink Revolve คือมีหูหิ้วอยู่ที่ด้านบน ปุ่มควบคุมการใช้งานต่าง ๆ อยู่ด้านบนของลำโพง มีตัวกันกระแทกทั้งด้านบนและด้านล่าง กันละอองน้ำ ตามมาตรฐาน IPX4 ที่สำคัญ SoundLink Revolve+ สามารถทำเป็นลำโพงสเตอริโอซ้ายขวาและสามารถใช้งานหรือตั้งค่าต่าง ๆ ผ่าน Bose Connect Application ใช้ได้ทั้ง iOS และ Android และมาพร้อมกับ In-Line Microphone แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้นานถึง 16 ชั่วโมง ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง อีกทั้งหิ้วไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวก Harman Kardon Onyx Studio 5 Bluetooth Speaker ราคา 9,900 บาทHarman Kardon Onyx Studio 5 ลำโพงพกพาไร้สาย Portable Wireless Speaker เรียกสั้น ๆ ว่า Onyx 5 กับรูปทรงที่ได้รับการออกแบบมาใหม่ทั้งหมด รูปลักษณ์เป็นทรงกลม หุ้มด้วยผ้าระดับพรีเมียมที่มีความนิ่ม สัมผัสได้ลื่นไหลและใช้วัสดุอลูมิเนียม ด้านบนออกแบบให้เป็นหูหิ้ว เพื่อง่ายต่อการพกพาไปข้างนอก ขนาดกำลังดีอยู่ที่ 284 x 291 x 128 มิลลิเมตร น้ำหนักเบาเพียง 2.9 กิโลกรัม มาพร้อมสเปคระดับสูง ไม่ว่าจะเป็นไดร์เวอร์สำหรับย่านความถี่ต่ำอย่าง Woofer ขนาดใหญ่ถึง 120 มิลลิเมตร 1 ตัว และไดร์เวอร์สำหรับย่านความถี่สูง-กลาง Tweeter ขนาด 25 เซนติเมตรอีก 1 ตัว ด้วยแรงขับสูงถึง 50W RMS Bi-amp ส่วนของการเชื่อมต่อเป็นแบบไร้สายผ่าน Bluetooth 4.2 พร้อมฟังก์ชั่นเชื่อมต่อลำโพง 2 ตัวเข้าด้วยกันสำหรับการขับเสียงที่ดัง ทรงพลังมากยิ่งขึ้น หรือจะเลือกโหมดเป็นแบบซ้าย-ขวา ก็ทำได้เช่นกัน ใช้งานได้ถึง 8 ชั่วโมงต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง Sony SRS-XB32 Bluetooth Speaker ราคา 5,490 บาทในส่วนของตัวนี้เรียกได้ว่าออพชั่นอัดแน่น เริ่มตั้งแต่ ส่วนของไดร์เวอร์เสียงที่เลือกใช้เป็น Passive Radiator ลำโพงคู่ภายในขนาด 48 มม. ถึง 2 ตัว รองรับคลื่นความถี่ที่ 20 Hz – 20,000 Hz ขนาดพกพาได้ง่ายที่ กว้าง 238 x ยาว 84 x สูง 83 มิลลิเมตร น้ำหนักเพียง 900 กรัมเท่านั้น มีฟังก์ชั่นเสียงให้เลือกไม่ว่าจะเป็นแบบ มาตรฐาน, Extra Bass ส่วนการเชื่อมต่อมาพร้อม Bluetooth 4.2 รองรับ NFC เชื่อมต่อได้ง่าย ส่วนการเชื่อมต่อแบบมีสายก็รองรับ AUX/3.5 mm. และ USB สามารถปรับตั้งค่าการแสดงผลได้ตามต้องการผ่าน App Sony | Music Center และ Fiestable รองรับทั้ง iOS และ Android ใช้งานไร้สายต่อเนื่องได้นานถึง 24 ชั่วโมง ( ปิดไฟ ) และ 14 ชั่วโมงเมื่อเปิดไฟ สามารถใช้เป็นพาวเวอร์แบงค์ชาร์จไฟให้กับ Smartphone ของคุณได้อีกด้วย JBL Flip 5 Portable Bluetooth Speaker ราคา 4,390 บาทมาถึงรุ่นสุดท้ายสำหรับ JBL Flip 5 มีขนาดที่ไม่ใหญ่ ความสูง 18 เซนติเมตรและมีน้ำหนัก 540 กรัม ปุ่มควบคุมมีทั้งหมด 6 ปุ่มเท่านั้น คือ ปุ่มเปิด/ปิด, ปุ่ม Bluetooth, ปุ่ม Play/Pause, ปุ่มเพิ่มเสียง-ลดเสียงและปุ่มใช้งานโหมด JBL Partybox ซึ่งเป็นการเชื่อมต่อเข้ากับลำโพงไร้สายของ JBL ที่รองรับการใช้งาน Partybox เมื่อใช้แล้วจะเป็นการเชื่อมลำโพงไร้สายของ JBL เข้าด้วยกันเพื่อเพิ่มพลังเสียง JBL Flip 5 เป็นลำโพงระบบเสียง 2.1 Stereo โดยไดร์เวอร์ภายในแบบ Racetrack Driver มีกำลังขับโดยรวม (RMS) ที่ 20 วัตต์ แบตเตอรี่ใช้ได้ยาวนานถึง 12 ชั่วโมง และชาร์จเพียงแค่ 2.5 ชั่วโมง ซึ่งใช้เวลาน้อยกว่า JBL Flip 4 ถึงหนึ่งชั่วโมง เพราะ JBL Flip 5 เปลี่ยนมาใช้ช่องเชื่อมต่อ USB-C แทน Micro USB สำหรับช่อง AUX 3.5mm. นั้นไม่มีมาด้วย ทำให้ไม่สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อย่างอื่นได้นอกจากเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth Total Page Visits: 2820 - Today Page Visits: 1 ซื้อลําโพงบลูทูธ ยี่ห้อไหนดี8 ลําโพงบลูทูธ ยี่ห้อไหนดี เสียงใส ไม่ผิดหวัง. ลำโพงบลูทูธ JBL Flip 5.. JBL GO3.. JBL CLIP4.. ลำโพง JBL XTREME3.. ลำโพงบลูทูธ Bose SoundLink Micro Bluetooth.. Sony รุ่น SRS-XB12/RC E.. Harman Kardon Onyx Studio 4.. LG Xboom Go PL7.. ลําโพง ตัวไหนดีTable of Contents. รวม 15 ลำโพงบลูทูธ ยี่ห้อไหนดี เบสหนัก เสียงดี ประจำปี 2022.. ลำโพง JBL Flip 5.. Sony SRS-XB13.. Bose SoundLink Revolve+ II.. Harman Kardon Aura Studio 3.. Marshall Stockwell II.. JBL Xtreme 3.. JBL Boombox.. Emberton ดีไหมเรื่องเสียงของเจ้าลำโพง Marshall Emberton ตัวนี้บอกเลยว่าเริ่ด เป็นระบบเสียงสเตอริโอไม่ว่าเพลงอะไรก็สามารถถ่ายทอดรายละเอียดของเสียงออกมาได้อย่างดี แถมมาพร้อมไดร์เวอร์ขนาด 2 นิ้ว จำนวน 2 ตัว ให้เสียงดังสูงสุดที่ 87 เดซิเบล ตอบสนองคลื่นความถี่ 60Hz – 20 kHz ทั้งยังเปิดประสบการณ์การฟังเพลงแบบ 360 องศาอีกด้วย เป็นเจ้าของ ...
ลําโพงบลูทูธ JBL มีกี่รุ่นแนะนำ 7 ลําโพงบลูทูธ jbl รุ่นไหนดี เบสหนัก เสียงดี ปี 2022. ลำโพงไร้สาย JBL PartyBox On-The-Go.. ลำโพง JBL Flip 5.. ลำโพง JBL Charge 5.. ลำโพง JBL Xtreme 3.. ลำโพง JBL Partybox 710.. ลำโพง JBL Pulse 5.. ลำโพง JBL Boombox 3.. |
ลํา โพ ง marshall กับ jbl
กระทู้ที่เกี่ยวข้อง
ลิขสิทธิ์ © 2024 th.frojeostern Inc.
