Show
HOMEลงทุนแมน101ลงทุนตูนบริษัทไทยเศรษฐกิจแนวคิดการลงทุนบริษัทต่างประเทศประวัติศาสตร์ABOUTCAREERS Evan Spiegel เจ้าของ Snapchat ที่ไม่ยอมขายกิจการ ให้เฟซบุ๊กเรื่องราวของชายคนนี้ น่าสนใจอย่างไร แล้ว Snapchat เป็นแพลตฟอร์มโซเชียลแบบไหน ? ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง 17 ต.ค. 2021 สรุปเรื่องราว เพื่อนรัก หักเหลี่ยมโหด ของผู้ร่วมก่อตั้ง Twitterเส้นทางการก่อตั้ง Twitter เป็นอย่างไร ? ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง 11 ต.ค. 2021 SPONSORED Saverin อยู่กับเฟซบุ๊กปีเดียว แต่มีทรัพย์สิน 6 แสนล้านSaverin คือเพื่อนคนแรกที่ Zuckerberg ชวนมาร่วมทีมและเขาคนนี้ยังเป็นคนแรกที่ร่วมลงทุนใน Facebook แต่ผ่านไปเพียงปีเดียว กลับมีเรื่องราวที่ทำให้เขากลายเป็นผู้ร่วมก่อตั้งที่ต้องออกจากบริษัทไปเป็นคนแรกเช่นกัน 24 ส.ค. 2021 มูลค่าทรัพย์สินของมหาเศรษฐี ผู้นำแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ปี 2021มูลค่าทรัพย์สินของมหาเศรษฐี ผู้นำแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ปี 2021 25 เม.ย. 2021 หากเราเป็นเพื่อนกับบุคคลเหล่านี้ใน LINEหากเราเป็นเพื่อนกับบุคคลเหล่านี้ใน LINE 8 ส.ค. 2020 คนดังเหล่านี้ เป็นเศรษฐีตอนอายุเท่าไรคนดังเหล่านี้ เป็นเศรษฐีตอนอายุเท่าไร 15 พ.ค. 2020 ตอนนี้ เหล่าเศรษฐีของโลก กำลังโฟกัสกับอะไร?ตอนนี้ เหล่าเศรษฐีของโลก กำลังโฟกัสกับอะไร? 10 ต.ค. 2019 คนหนึ่งจะเข้าโลกเสมือน VS อีกคนหนึ่งจะไปนอกโลกคนหนึ่งจะเข้าโลกเสมือน VS อีกคนหนึ่งจะไปนอกโลก 4 ต.ค. 2019 SPONSORED คนรวยสุด สหรัฐอเมริกา vs ฝรั่งเศส เป็นเจ้าของธุรกิจอะไรคนรวยสุด สหรัฐอเมริกา vs ฝรั่งเศส เป็นเจ้าของธุรกิจอะไร 18 ส.ค. 2019 CEO ระดับโลกที่รับค่าจ้าง 1 ดอลลาร์CEO ระดับโลกที่รับค่าจ้าง 1 ดอลลาร์ 27 ก.ค. 2019 Load More DARK MODE HOME ลงทุนแมน101 ลงทุนตูน บริษัทไทย เศรษฐกิจ แนวคิดการลงทุน บริษัทต่างประเทศ ประวัติศาสตร์ เทคโนโลยี บุคคลที่น่าสนใจ อินโฟกราฟิก อื่นๆ ARCHIVES ABOUT CAREERS © 2022 Longtunman. All rights reserved. Advertisement ดูเหมือนว่าการลงทุนในเมตาเวิร์สของ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก จะยังไม่ผลิดอกออกผล เพราะโลกเสมือนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงในเร็วๆ นี้
เริ่มส่งผลกระทบต่อโลกจริงของมาร์กแล้ว ดัชนีจาก Bloomberg Billionaires Index ชี้ว่า มาร์ก สูญเสียความมั่งคั่งไปแล้วกว่า 71,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 2.5 ล้านล้านบาท โดยเป็นการสูญเสียมากที่สุดในบรรดาเศรษฐีที่เก็บข้อมูลมา ย้อนกลับไปสัก 2 ปีที่แล้ว มาร์กขึ้นแท่น Top 3 ของผู้ที่มีความมั่งคั่งมากที่สุดในโลก มีความมั่งคั่งถึงแสนล้านดอลลาร์ แพ้ก็เพียง เจฟฟ์ เบโซส และบิล เกตส์ เท่านั้น ความมั่งคั่งของมาร์กเคยเพิ่มขึ้นแตะระดับพีคที่ 142, 000 ล้านดอลลาร์ในเดือนกันยายนปีที่แล้ว
เมื่อหุ้นของบริษัทสูงถึง 382 ดอลลาร์ แต่ล่าสุดนี้ อันดับของมาร์ก ตกลงมาอยู่ที่ 20 ความมั่งคั่งของมาร์ก ที่ลดลง มีสองประเด็นใหญ่ๆ คือความเชื่อมั่นใน Meta รวมถึง Facebook ที่ถดถอยลงไป ผู้ใช้งานลดลง และหน่วยธุรกิจเมตาเวิร์สก็ยังขาดทุนอยู่ เพราะเพิ่มการลงทุนอย่างหนัก และคาดว่าจะยังขาดทุนไปเรื่อยๆ อีก 3-5 ปี ซึ่งความมั่งคั่งของมาร์ก ผูกติดกับบริษัท Meta อย่างเหนียวแน่น เพราะเขาถือหุ้นมากกว่า 350 ล้านหุ้น podcastกำลังโหลดบทความถัดไป... จากปี 2004 ที่มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก (Mark Zuckerberg) เริ่มต้นสร้างเฟซบุ๊ก (Facebook) จากหอพักในมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด และเป็นฝ่ายรับฟังคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญจำนวนมาก มาวันนี้ เราได้เห็นอีกบทบาทของเขากับการเป็นผู้ส่งต่อ “คำแนะนำ” ไปยังคนรุ่นต่อไปเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยหัวข้อล่าสุดที่เขาอยากส่งต่อไปยังคนรุ่นใหม่ก็คือ “การให้ความสำคัญกับคนที่อยู่รอบตัว” ทั้งนี้ต้องบอกว่า ประโยคอย่าง “การให้ความสำคัญกับคนที่อยู่รอบตัว” เป็นคำแนะนำที่น่าสนใจทีเดียวสำหรับเจ้าพ่อแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่ทำธุรกิจอยู่บนความสัมพันธ์ของผู้คน โดยคำกล่าวของ มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก ถูกถ่ายทอดใน Podcast ของ Lex Fridman ที่บอกว่า การเปิดตัว Facebook ได้นั้น มาจากความสัมพันธ์ส่วนตัวที่เขาสร้างขึ้นในสมัยที่อยู่ในมหาวิทยาลัย
และเพื่อนที่ มาร์ค ซักเคอร์เบิร์กเลือกคบในมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดในเวลานั้นก็คือ Eduardo Saverin, Dustin Moskovitz, Chris Hughes และ Andrew McCollum ซึ่งทั้งหมดคือผู้ร่วมก่อตั้ง Facebook หรือปัจจุบันคือ Meta บริษัทที่มีมูลค่ากิจการ 5.8 แสนล้านเหรียญสหรัฐ อย่างไรก็ดี ในแง่ความสัมพันธ์แล้ว ต้องบอกว่า ทั้ง 5 คนได้แยกย้ายจากกันไปตามเส้นทางเรียบร้อย และส่วนหนึ่งของการเลิกคบกันนั้น ก็ได้ถูกถ่ายทอดเอาไว้ในภาพยนตร์เรื่อง “The Social Network” นั่นเอง เพื่อน vs การโฟกัสเป้าหมายส่วนการโฟกัสในเป้าหมายและทำตามฝันให้สำเร็จนั้น เขาบอกว่า ก็มีความสำคัญเช่นกัน เพียงแต่คนทั่วไปอาจจะสนใจแต่เป้าหมายจนไม่ทันพิจารณาว่า คนที่ตนเองคบ – อยู่รอบข้างนั้นเป็นคนอย่างไร และมีลักษณะนิสัยที่จะพาพวกเขาให้ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายได้ด้วยหรือเปล่า ซึ่งในมุมของ มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก แม้ว่าตอนนี้จะไม่มีใครรู้ว่า ความสัมพันธ์ที่แท้จริงของเขากับเพื่อนทั้ง 4 คนในสมัยมหาวิทยาลัยเป็นอย่างไรแล้ว แต่ในการจ้างพนักงาน Meta เขาบอกว่าเขาก็ใช้มุม “ความสัมพันธ์” มาเป็นตัวช่วยในการเลือกใครสักคนมาทำงานด้วยอยู่เหมือนกัน “แทนที่จะนึกภาพตัวเองเป็นหัวหน้า เราจะนึกภาพว่า สามารถทำงานให้คน ๆ นั้นได้ไหม ถ้าทำได้ ถึงจะจ้างเขาเข้ามา” นี่คือสิ่งที่เขาอธิบายถึงมุมมองในการจ้างงาน มาร์ค ซักเคอร์เบิร์กบอกด้วยว่า วิธีคิดดังกล่าวช่วยให้สภาพแวดล้อมในการทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะคนที่เลือกมาคือคนที่เราสามารถแชร์คุณค่าในชีวิตบางอย่างร่วมกันได้ และทำให้คุณกับเขามีเป้าหมายในการทำงานร่วมกัน อย่างไรก็ดี มาร์ค ซักเคอร์เบิร์กก็หาทางลงเอาไว้ได้สวย เพราะเขาบอกด้วยว่า วิธีนี้อาจใช้ไม่ได้ผลกับการเลือกคบเพื่อนหรือเลือกคู่ชีวิต Source Source |