หัวชาร์จ ไอ โฟน 20w แท้ ดู ยัง ไง Pantip

วิธีเช็คสายชาร์จ Lightning แท้หรือปลอม มีวิธีง่ายๆดังนี้ 

• ตรวจสอบเครื่องหมาย MFi (Made for iPod/iPhone/iPad) ที่กล่อง 
  โดยให้คุณให้ดูที่บรรจุภัณฑ์ (กล่อง) ของสายชาร์จ Lightning และที่สายชาร์จ Lightning อย่างละเอียด สายชาร์จ Lightning ของบริษัทอื่นที่ผ่านการรับรองจะมีโลโก้ MFi บนบรรจุภัณฑ์

  MFi (Made for iPhone iPod iPad) เป็นมาตรฐานอุปกรณ์เสริมที่กำหนดโดย Apple เพื่อให้ผู้ผลิตทำสินค้าออกมาในทิศทางเดียวกัน และได้มาตรฐานสินค้าคู่ควรกับ iDevices โดยจะเป็นโลโก้ ด้วยขนาดและสีที่กำหนดปรากฎอยู่บนกล่อง เพื่อให้ลูกค้าสามารถซื้อได้อย่างสบายใจ ว่าจะใช้งานได้อย่างไม่มีปัญหา
   

• ตรวจสอบรูปแบบตัวหนังสือบนสายเคเบิล (บางรุ่นไม่มี) 
  ซึ่ง Lightning to USB Cable ของ Apple จะมีข้อความ “Designed by Apple in California”และ “Assembled in China,” “Assembled in Vietnam,” หรือ “Indústria Brasileira” บนสาย ห่างจากหัวต่อ USB ประมาณ 7 นิ้ว และมีหมายเลขประจำสินค้า 12 หลักท้ายข้อความ

  หมายเหตุ Lightning to USB Cable ของบริษัทอื่นที่ผ่านการรับรอง (MFi) มักจะมีตราผลิตภัณฑ์ของบริษัทอยู่ที่ส่วนปลายขั้วต่อ Lightning
   

• ตรวจสอบลักษณะขั้วต่อและการแกะสลักด้วยเลเซอร์ 
  Apple ได้แนะนำการสังเกตความแตกต่างของปลายขั้วต่อ Lightning และ USB ของสายชาร์จ Lighning to USB Cable ว่าของแท้แบรนด์ Apple กับของปลอมแตกต่างกันอย่างไร 

ส่วนปลายขั้วต่อ Lightning และส่วนปลายขั้วต่อ USB สามารถตรวจสอบและเปรียบเทียบกันได้ดังนี้ 
ส่วนปลายขั้วต่อ Lightning สายแท้

1.ชิ้นเดียว เรียบ หน้าสัมผัสโค้งมนและเรียบ 

2.ปลอกหุ้มของ Apple มีความกว้างและยาวตายตัว คือ 7.7 mm × 12 mm
3.แผ่นปิดช่องสีเทา หรือสีโลหะ

ส่วนปลายขั้วต่อ Lightning สายปลอม 
1.มีมากกว่า 1 ชิ้น พื้นผิวหยาบหรือไม่สม่ำเสมอ หน้าสัมผัสเป็นสีเหลี่ยมจัตุรัส มีพื้นผิวที่ไม่เรียบ
2.ความกว้าง ความยาว หรือความหนาแตกต่างกันสิ้นเชิง
3.แผนปิดช่องสีขาว หรือสีดำ

ส่วนปลายขั้วต่อ USB สายแท้ 

1.บริเวณรอยต่อบนปลอกหุ้ม USB เป็นรูปสี่เหลี่ยมคางหมู
2.บริเวณรอยต่อเว้นระยะห่างเท่าๆกัน
3.หน้าสัมผัส USB ชุบทอง
4.พื้นผิว USB เรียบ และสม่ำเสมอ พื้นผิวปลอกหุ้ม USB เรียบ
5.พื้นผิวของฉนวนสำหรับข้อต่อ USB สม่ำเสมอและเรียบ

ส่วนปลายขั้วต่อ USB สายปลอม 
1.บริเวณรอยต่อบนปลอกหุ้ม USB เป็นมุมฉาก
2.บริเวณรอยต่อเว้นระยะห่างไม่เท่ากัน
3.หน้าสัมผัส USB ชุบเงิน
4.พื้นผิว USB หยาบหรือเป็นเม็ดๆ พื้นผิวปลอกหุ้ม USB มีรอยแหว่งเป็นร่อง หรือยึดติดกัน
5.พื้นผิวของฉนวนสำหรับข้อต่อ USB มีส่วนหยัก หรือเยื้อง 

เลือกซื้อจากแหล่งจำหน่ายที่น่าเชื่อถือ 
ซื้อสายชาร์จ iPhone แท้ที่ไหน? 

• ซื้อที่ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ หรือพวก Apple Authorized Reseller เป็นวิธีที่ดีที่สุด ง่ายที่สุด เชื่อถือได้ และมีการรับประกัน แต่มักจะมีเฉพาะในห้างและหัวเมืองใหญ่ และบางร้านก็มีให้สั่งแบบออนไลน์อยู่นะครับ หรือสั่งออนไลน์จากเว็บ store.apple.com/th เลย 
• อุปกรณ์เสริมที่ได้รับการรับรอง (Certified third-party accessories) บอกตรง ๆ เลยว่า ดูยาก ดังนั้นคุณต้องมียี่ห้อในดวงใจ ที่ผมแนะนำมี POWERMAX ซื้อมาจาก Mini Big C และ BlitzWolf สั่งมาจากจีนเอง ส่วนอื่น ๆ ที่มีขายตามบ้านเราเท่าที่ซื้อมาใช้ไม่เวิร์ค ทั้งสองยี่ห้อที่บอกยังใช้งานได้อยู่เลย POWERMAX นี่ซื้อมาเกินปีแล้วนะ 
• ซื้ออุปกรณ์เสริมที่ได้รับการรับรอง จะมี MFi Logo พูดง่าย ๆ มันคือโลโก้ Made for iPod/iPhone/iPad ที่กล่องนั่นล่ะคร๊าบ แต่ว่าโลโก้นี้ ใคร ๆ ก็ก็อปปี้ได้ เอาให้ชัวร์คือ ดูตามวิธีด้านล่างนี้ดีกว่า 
• ส่วนรุ่นไหนที่ไม่ได้รับรอง ก็ลองเลือกซื้อจากร้านที่เขามีรับประกันและมีใบเสร็จที่เก็บไว้ยืนยันได้ครับ

สิ่งแรกที่สำคัญที่สุดคือ ผู้ใช้งานจำเป็นที่จะต้องทราบว่าไอโฟนของเรานั้น สามารถรองรับการชาร์จแบตเตอรี่ด้วยกระแสไฟฟ้าสูงสุดกี่วัตต์ เพราะว่าไอโฟนแต่ละรุ่นนั้น รองรับกระแสไฟฟ้าสูงสุด ในการชาร์จแบตเตอรี่ไม่เท่ากัน เหตุผลที่เราต้องเลือกซื้อหัวชาร์จไอโฟน จากจำนวนวัตต์ที่เหมาะสม นั่นก็เป็นเพราะว่า หากเราทำการซื้อหัวชาร์จไอโฟนรุ่นเก่า ที่สามารถจ่ายกระแสไฟได้สูงสุดเพียงแค่ 10W มาใช้งาน แต่ iPhone 13 Pro Max ของเรานั้นมีสเปคที่สามารถรองรับการชาร์จเร็วเทคโนโลยี Power Delivery ด้วยกำลังไฟฟ้าสูงสุด 27W นั่นทำให้กำลังไฟฟ้าหายไปถึง 17 วัตต์เลยทีเดียว การชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มจึงใช้เวลาในการชาร์จนานเมื่อเทียบกับการใช้หัวชาร์จไอโฟน ที่สามารถจ่ายไฟได้สูงกว่าหรือเท่ากับ 27W นั่นเอง ทีนี้เพื่อนๆ อาจจะสงสัยกันแล้วใช่มั้ยครับ ว่า ไอโฟน iPhone 11 ชาร์จ 20W ได้ไหม หรือรุ่นต่างๆ ที่ใช้นั้นรองรับกระแสไฟฟ้าสูงสุดเท่าไหร่กัน เพื่อที่จะได้ใช้งานร่วมกับหัวชาร์จไอโฟนของเรา ซึ่งเราได้รวบรวมข้อมูลมาให้ทราบแล้วครับ

• iPhone 13 Pro Max, 13 Pro, 13, 13 mini รองรับกระแสไฟฟ้าสูงสุด 23W - 27W
• iPhone 11 Pro Max, 11 Pro, 11, SE (Gen 2) รองรับกระแสไฟฟ้าสูงสุด 15W
• iPhone XS Max, XS, XR, X, 8 Plus, 8 รองรับกระแสไฟฟ้าสูงสุด 15W
• iPhone 7 Plus, 7, 6S Plus, 6s, 6, SE (Gen 1) รองรับกระแสไฟฟ้าสูงสุด 10W
• iPhone 5 หรือรุ่นที่เก่ากว่า รองรับกระแสไฟฟ้าสูงสุด 5W

ส่วนการนำหัวชาร์จไอโฟน ที่สามารถจ่ายกระแสไฟได้สูงสุดมากกว่า 27W มาใช้งานให้แก่ ไอโฟน 13 เช่น หัวชาร์จไอโฟน 60W หรือมากกว่านั้น ก็สามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ได้เช่นเดียวกัน จากการทดสอบแล้ว กระแสไฟสูงสุดที่ iPhone 13 Pro Max สามารถรองรับได้ อยู่ที่ 27W ส่วน iPhone 13 Pro, iPhone 13 และ iPhone 13 mini จะรองรับที่ประมาณ 23W ซึ่งเมื่อเพื่อนๆ ทราบว่าไอโฟน รุ่นที่เราใช้งานอยู่นั้นรองรับการจ่ายกระแสไฟฟ้าสูงสุดที่กี่วัตต์ ก็จะเป็นหนึ่งในข้อมูลที่จะช่วยให้การเลือกซื้อหัวชาร์จไอโฟน หรืออะแดปเตอร์ iPhone ให้ง่ายดายยิ่งขึ้นไปอีก โดยการตรวจสอบเบื้องต้นว่าหัวชาร์จ iPhone รุ่นนั้นรองรับเทคโนโลยี Power Delivery หรือไม่ สามารถจ่ายกระแสไฟได้สูงสุดกี่วัตต์ เพียงแค่นี้ การเลือกซื้อหัวชาร์จไอโฟนของเรา ก็ง่ายขึ้นกว่าเดิมมากๆ ครับ

สายชาร์จไอโฟนแท้ดูยังไง 20W

หัวชาร์จไอโฟนของแท้กี่บาท

หัวชาร์จไอโฟน 20W ใช้กับรุ่นไหนได้บ้าง

ใช้สายชาร์จไอโฟนปลอม เป็นไรไหม