เปิดให้จองและเตรียมวางจำหน่ายทั่วไปอาทิตย์หน้านี้แล้วสำหรับ iPhone รุ่นใหม่ทั้ง 3 รุ่นซึ่งก็คือ iPhone 11, 11 Pro และ 11 Pro Max โดยราคาเปิดตัวมาถูกกว่าตอน iPhone Xs ราว 4-5,000 บาท ทำให้ iPhone 11 กลายเป็นสมาร์ทโฟนที่หลายคนรอคอยอยู่ แต่ว่าทั้ง 3 รุ่นที่ออกมามีจุดเหมือนและจุดที่แตกต่างกันอย่างไรบ้างเราเอามาสรุปเป็นตารางเปรียบเทียบให้ได้ทราบกัน Show ตารางเปรียบเทียบสเปค
ฟีเจอร์ต่างๆ ที่เพิ่มเข้ามาทั้งสาม 3 รุ่น ที่เหมือนกันมีดังนี้คือ
ในเรื่องของสเปคความแรงและฟีเจอร์ต่างๆ ถือว่าค่อนข้างคล้ายกันเลยทีเดียว แถมใช้ชิพ A13 Bionic เหมือนกันด้วย ซึ่งทาง Apple เคลมว่าแรงที่สุดในตลาดสมาร์ทโฟนตอนนี้แล้ว แน่นอนว่าเล่นเกมได้ลื่นทุกเกมแถมประหยัดพลังงานมากขึ้น ความแตกต่างหลักๆ ของทั้งสามรุ่นคือ ชนิดและขนาดหน้าจอ, จำนวนกล้อง และวัสดุดีไซน์บอดี้ ซึ่งการใช้งานโดยรวมพื้นฐานทั่วไปแล้วบอกเลยว่าแทบไม่ต่างกันนัก สรุปความแตกต่างระหว่าง iPhone 11 รุ่นเล็ก จาก iPhone 11 Pro และ 11 Pro Max
จากที่ว่ามาทั้งหมดนี้ ดูเหมือนว่า iPhone 11 Pro และ 11 Pro Max จะไม่ได้มีจุดต่างจาก iPhone 11 ธรรมดาสักเท่าไหร่นัก ถ้างบจำกัดอยู่ iPhone 11 ก็ดูจะเป็นทางเลือกที่ดีเอาซะมาก ๆ อยู่ ถ้าพิจารณาแล้วว่าข้อแตกต่างที่เราว่าไว้ข้างต้นยอมรับได้ ก็แนะนำซื้อ iPhone 11 ได้เลยครับ แต่ถ้างบเหลือ จะหันไปซื้อรุ่น iPhone 11 Pro หรือ 11 Pro Max ด้วยก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจอยู่ ด้วยกล้องที่มีครบทุกระยะ ถ้าคุณข้ามจากรุ่นเก่าแค่ iPhone XS มาเจอ Night Mode ก็น่าจะร้องฮาเลลูย่า ถ้าเจอเลนส์ไวด์ไปอีกก็น่าจะร้องคิมูจิ๊กันเลยทีเดียว และจะกรีดร้องมากขึ้นเมื่อได้เจอที่ชาร์จไวกับแบตที่อึดขึ้นกว่าเดิมแบบมีนัยยะ ลดการพก PowerBank ได้พอสมควรเลย และสายถ่ายวิดีโอหรือ Vlog กำเงินไปซื้อ iPhone 11 Pro ไปเลยก็น่าสนใจเหมือนกัน ด้วยความสามารถถ่ายวิดีโอที่ดีมากๆๆๆๆๆๆๆ ถ้าเล่าสาธยายอีกยาวว่าดียังไงอาจจะยาวเกินไปสำหรับ blog นี้ แต่แนะนำว่าสายวิดีโอ Vlog ไม่แนะนำให้ซื้อรุ่นความจุ 64GB แต่ให้ขยับขึ้นไปอีก เพราะจากที่ใช้มา ถ้าเอามายิง 4K 60fps แค่ไม่กี่นาที 64GB อาจจะหมดไปดื้อๆ ได้ (ถ้ารวมกับการลงแอปใช้งานอื่นๆด้วย) ก็หวังว่าข้อมูลชุดนี้จะช่วยทำให้เพื่อนๆตัดสินใจซื้อ iPhone 11 ทั้งสามรุ่นได้ง่ายขึ้นนะครับ ถ้าใครต้องการเสริมส่วนไหน สามารถแจ้งได้ในคอมเมนต์เลยนะครับ |